ผู้เขียน หัวข้อ: 0007_ช่วยอธิบาย ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอายะฮ์เหล่านี้  (อ่าน 3228 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

อยากรู้

  • บุคคลทั่วไป

อยากทราบหลักอธิบายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอายะฮ์เหล่านี้
ومن لم يحكم بما انزل الله فاولئك هم الكافرون
และผู้ใดที่มิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแล้ว ชนเหล่านี้แหละคือผู้ปฏิเสธการศรัทธา
ومن لم يحكم بما انزل الله فاولئك هم الظا لمون
และผู้ใดมิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแล้ว ชนเหล่านี้แหละคือผู้อธรรม
ومن لم يحكم بما انزل الله فاولئك هم الفاسقون
และผู้ใดที่มิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแล้ว ชนเหล่านี้คือผู้ที่ละเมิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 31, 2011, 03:50 PM โดย Al Fatoni »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com


بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

ในปัจจุบันนั้น  บางท่านคิดว่า  การตัดสิน(ฮุกุ่ม)โดยมิใช่จากสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานมา  ถึงแม้ว่าจะในประเด็นเดียวก็ตาม  ย่อมเป็นกุฟุร  ตกมุรตัด  แต่ความจริงไม่ใช่เป็นเช่นนั้น  แต่ประเด็นดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

1. ผู้ใดที่ทำการการตัดสิน(ฮุกุ่ม)โดยมิใช่จากสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานมา  โดยเชื่อมั่น(เอี๊ยะติก๊อต) ว่า บรรดากฏหมายของมนุษย์บัญญัติขึ้นมาดีกว่าฮุกุ่มของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา หรือเท่าเทียมกับฮุกุ่มของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา  แน่นอน  เขาย่อมเป็นกาเฟรและตกมุรตัด

2.  ผู้ใดที่ทำการตัดสิน(ฮุกุ่ม)โดยมิใช่จากสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานมา  โดยเขาเชื่อมั่น(เอี๊ยะติก๊อต)ว่า ฮุกุ่มของอัลเลาะฮ์มีความประเสริฐกว่า  อีกทั้งเขารู้สึกว่า เขาเป็นผู้ฝ่าฝืน  กระทำบาปในสิ่งที่เขาได้ทำการตัดสินไป  แน่นอน  เขาย่อมเป็นคนฟาซิก(คนก่อกรรมชั่ว) เป็นผู้ฝ่าฝืน  แต่ไม่ใช่เป็นกาเฟร

ดังกล่าวนี้  เฉกเช่นกับผู้ทำการดื่มเหล้าหรือทำผิดประเวณี เป็นต้น  ดังนั้น  หากเขาเชื่อมั่นว่าดังกล่าวเป็นสิ่งที่อนุมัติและเขาทราบว่าเป็นสิ่งห้าม  แน่นอน  เขาย่อมเป็นกาเฟร   ในทางตรงกันข้าม  หากเขาเชื่อมั่นว่า  เขาได้กระทำขัดคำสั่งของอัลเลาะฮ์และทำการฝ่าฝืน  แน่นอน  เขาย่อมเป็นคนชั่ว(ฟาซิก)  ไม่ใช่เป็นคนกาเฟร

ดังนี้  เพราะตามหลักการ(กออิดะฮ์) ของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ที่ท่านอิมาม อัฏเฏาะหาวีย์ (ร.ฮ.) กล่าวไว้ว่า

ولا نكفر أحدا من أهل القبلة بذنب ، ما لم يستحله

"เราไม่กล่าวกาเฟรกับคนใดจากผู้(ที่หันไปทาง)กิบละฮ์  ด้วยบาปหนึ่ง  ตราบใดที่เขาไม่ถือว่ามันเป็นสิ่งที่อนุมัติ"

ท่านอิมามอัลกุรฏุบีย์ กล่าวอธิบายว่า

قوله تعالى‏{‏ومن لم يحكم بما أنزل الله فأولئك هم الكافرون‏}‏ و‏}‏الظالمون‏}‏ و‏}‏الفاسقون‏}‏ نزلت كلها في الكفار؛ ثبت ذلك في صحيح مسلم من حديث البراء، وقد تقدم‏.‏ وعلى هذا المعظم‏.‏ فأما المسلم فلا يكفر وإن ارتكب كبيرة‏.‏ وقيل‏:‏ فيه إضمار؛ أي ومن لم يحكم بما أنزل الله ردا للقرآن، وجحدا لقول الرسول عليه الصلاة والسلام فهو كافر؛ قال ابن عباس ومجاهد، فالآية عامة على هذا‏.‏ قال ابن مسعود والحسن‏:‏ هي عامة في كل من لم يحكم بما أنزل الله من المسلمين واليهود والكفار أي معتقدا ذلك ومستحلا له؛ فأما من فعل ذلك وهو معتقد أنه راكب محرم فهو من فساق المسلمين، وأمره إلى الله تعالى إن شاء عذبه، وإن شاء غفر له‏

"คำตรัสของพระองค์ที่ว่า "และผู้ใดที่มิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแล้ว ชนเหล่านี้แหละคือผู้ปฏิเสธการศรัทธา" และ "คือผู้อธรรม" และ "คือผู้ประพฤติชั่ว" ทั้งหมดนั้น   ถูกประทานเกี่ยวกับบรรดาคนกาเฟร  ซึ่งสิ่งดังกล่าวได้ยืนยันไว้ในซอฮิหฺมุสลิมจากหะดิษท่าน บะรออฺ  ที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว  และตามส่วนใหญ่นี้  คือ สำหรับมุสลิมนั้น  ย่อมไม่เป็นกาเฟร แม้ว่าหาเขาจะกระทำบาปใหญ่ก็ตาม  บางทัศนะกล่าวว่า  ในคำตรัสของพระองค์ มีความหมายแฝงอยู่  ซึ่งหมายถึง  ผู้ใดที่มิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงประทานลงมา  โดยทำการปฏิเสธอัลกุรอานและคัดค้านคำกล่าวของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แน่นอน เขาย่อมเป็นกาเฟร ,  ท่านอิบนุอับบาสและท่านมุญาฮิดกล่าวว่า  อายะฮ์นี้  มีความหมายครอบคลุมถึงมุสลิมนี้ด้วย   , ท่านอิบนุมัสอูดและท่านอัลหะซันกล่าวว่า  อายะฮ์นี้ครอบคลุมในทุก ๆ คนที่มิได้ทำการตัดสินด้วยสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานลงมา  ไม่ว่าจะมาจากบรรดามุสลิมีน , พวกยาฮูดี , และพวกกุฟฟาร  กล่าวคือ เขาได้เชื่อมั่นและถือว่าดังกล่าวเป็นสิ่งที่อนุมัติ  ดังนั้น  สำหรับผู้ที่ได้กระทำสิ่งดังกล่าว  โดยที่เขาเชื่อมั่นว่า  เขาได้กระทำสิ่งที่ฮะรอม  แน่นอน  เขาย่อมเป็นคนที่ชั่วคนหนึ่งจากบรรดาคนชั่วที่เป็นมุสลิมีน  และเรื่องราวของเขา  ถูกมอบหมายไปยังอัลเลาะฮ์  หากพระองค์ประสงค์จะลงโทษ  พระองค์ก็จะลงโทษเขา และหากพระองค์ประสงค์ให้อภัย  พระองค์ก็อภัยแก่เขา"  ดู ตัฟซีร อัลกุรฏุบีย์  เล่ม 6 หน้า 190

والله أعلى وأعلم
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged