เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

พระเจ้ากล่าวว่า "กุรอ่านนั้นครบถ้วนสมบูรณ์" ทำไมเราจะต้องศึกษา หะดิษ?

(1/39) > >>

wisdom:
Tweet
พระเจ้ากล่าวว่า "กุรอ่านนั้นครบถ้วนสมบูรณ์" ทำไมเราจะต้องศึกษา หะดิษ?

ผมได้ศึกษาถ้อยคำจากอัลลอฮฺ ด้วยความละเอียด ใส่ใจและสังเกตุในทุกถ้อยคำ (ไม่ได้อ่านให้ผ่านๆไป) และหัวข้อนี้เป็นข้อหนึ่งที่เคยสงสัยมาเป็นเวลานาน บัดนี้ได้รวบรวมมาครบถ้วนแล้วครับ
ขอให้พวกเราคิดเป็นตรรกะนะครับ หากพวกเรานำกุรอ่านเป็นที่ตั้ง ลองเปิดใจ ตั้งใจให้เป็นกลาง ลองศึกษา ถ้อยคำของอัลลอฮฺ ที่กล่าวถึงคัมภีร์ของพระองค์ตามอายะห์ด้านล่างได้เลยครับ

(6:114)อื่นจากอัลลอฮ์กระนั้น หรือ ที่ฉันจะแสวงหาผู้ชี้ขาด ทั้ง ๆ ที่พระองค์เป็นผู้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาแก่พวกท่านในสภาพที่ถูกแจกแจงไว้อย่างละเอียด ? และบรรดาผุ้ที่เรา ได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขา นั้น พวกเขารู้ดีว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นถูกประทานลงมาจากพระเจ้าของเจ้า ด้วยความเป็นจริง เจ้าอย่าได้อยู่ในหมู่ผู้สงสัยเป็นอันขาด
  -> เราจะไม่ใช้อื่นจากกุรอ่าน เป็นการตัดสิน/ชี้ขาด และกุรอ่านได้มีรายละเอียดที่ถูกแจกแจงเอาไว้อยู่แล้วโดยละเอียด



[6:115] และถ้อยคำแห่งพระเจ้าของฉันนั้นครบถ้วน แล้ว ซึ่งความสัจจะ และความยุติธรรมไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงบรรดาถ้อยคำของพระองค์ได้ และพระองค์นั้นคือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
  -> ถ้อยคำจากอัลลอฮนั้นครบถ้วน (ครบถ้วนนั้น หมายความว่า ไม่ขาด/เพียงพอ/สิ้นสุด)

[11:1] อะลีฟ ลาม รอ คัมภีร์ที่โองการทั้งหลายของมันถูกทำให้รัดกุมมีระเบียบ แล้วถูกจำแนกเรื่องต่างๆ อย่างชัดแจ้ง จากพระผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้เชี่ยวชาญ
  -> ถ้อยคำจากอัลลอฮนั้นรัดกุมมีระเบียบ และถูกแจกแจงไว้แล้วอย่างชัดแจ้ง (ชัดแจ้งหมายความว่า กระจ่าง/ไม่กำกวม/ไม่ขัดแย้งกันเอง)

[12:1] อะลิฟ ลาม รอ เหล่านี้คือโองการทั้งหลายแห่งคัมภีร์ที่ชัดแจ้ง
  -> คัมภีร์จากอัลลอฮนั้นชัดแจ้ง

[44:58] ดังนั้นแท้จริงเราได้ทำให้อัลกุรอานเป็นที่ง่ายดายในภาษาของเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้ใคร่ครวญ
  -> คัมภีร์จากอัลลอฮนั้นสามารถเข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าจะแปลเป็นภาษาไหน



-------------------------------------------------------------------------


[2:2] นี่คือคัมภีร์ (ของอัลลอฮ์) ที่ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยอยู่ในนั้น มันเป็นทางนำ สำหรับผู้ที่ยำเกรงต่อพระเจ้า
 --> กุรอ่านนั้น ถูกส่งมาให้สำหรับเราทุกคน ทุกคนมีสิทธิอ่าน ทุกคนมีสิทธิเข้าใจ (ไม่ใช่ส่งมาให้เฉพาะผู้ที่ได้รับการนับถือในวงการศาสนาเอาไว้ตีความ)


ขอทางนำที่ถูกต้องจากพระองค์กันนะครับ....ยังไม่สาย หากดินยังไม่กลบหน้า.....
[ฟาติหะฮฺ 1:6] เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอนมัสการ และเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอความช่วยเหลือ
(ท่องกันอยู่ทุกวัน)

ฮุ้นปวยเอี๊ยง:
อัลลอฮ์ซุบนะฮูวะตาอาลากล่าวว่า

وَأَقِيمُوا الصَّلَاةَ وَآتُوا الزَّكَاةَ

แล้วคุณ wisdom ละหมาดยังไงหรอครับ จ่ายซะกาตยังไง ทำฮัจย์ไง ช่่วยบอกหน่อยครับ กุรอ่านบอกจำนวนรอกาอะห์ว่างั้น ??

แล้วอายะห์นี้อัลลอฮ์พูดถึงอะไรครับ ?

وَأَنزَلْنَا إِلَيْكَ الذِّكْرَ لِتُبَيِّنَ لِلنَّاسِ مَا نُزِّلَ إِلَيْهِمْ

wisdom:
คุณ Innocence,

เราจะ เอาผลมาตั้ง เพื่อที่จะหาเหตุ ได้หรือครับ?
ถ้าเมื่อสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ละหมาด,ซะกาต,ฮัจย์ นั้นไม่ได้อยู่ในกุรอ่าน

คุณกำลังจะบอกว่ากุรอ่านนั้นไม่ครบถ้วน/อัลลอฮฺลืมใส่รายละเอียดลงไป (ทั้งๆที่อัลลอฮฺบอกว่าครบถ้วน แจกแจงอย่างละเอียด และอัลลอฮฺนั้นไม่ลืม)

หรือ คุณควรจะบอกว่า คุณไม่มีความรู้ และได้หลงผิดตามบรรพบุรุษไป และตั้งใจขอทางนำ จะดีกว่าไหมครับ?

คุณกำลังจะปฏิเสธกุรอ่าน เพื่อที่จะเชื่อหะดิษหรือ?

ฮุ้นปวยเอี๊ยง:

--- อ้างจาก: wisdom ที่ มี.ค. 10, 2012, 10:04 PM ---คุณ Innocence,

เราจะ เอาผลมาตั้ง เพื่อที่จะหาเหตุ ได้หรือครับ?
ถ้าเมื่อสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ละหมาด,ซะกาต,ฮัจย์ นั้นไม่ได้อยู่ในกุรอ่าน

คุณกำลังจะบอกว่ากุรอ่านนั้นไม่ครบถ้วน/อัลลอฮฺลืมใส่รายละเอียดลงไป (ทั้งๆที่อัลลอฮฺบอกว่าครบถ้วน แจกแจงอย่างละเอียด และอัลลอฮฺนั้นไม่ลืม)

หรือ คุณควรจะบอกว่า คุณไม่มีความรู้ และได้หลงผิดตามบรรพบุรุษไป และตั้งใจขอทางนำ จะดีกว่าไหมครับ?

คุณกำลังจะปฏิเสธกุรอ่าน เพื่อที่จะเชื่อหะดิษหรือ?


--- End quote ---

ผมว่าคุณงงตั้งแต่คำว่าฮาดิษแล้ว อิอิ คุณปฏิเสธอัลลอฮ์แล้ว

ฮุ้นปวยเอี๊ยง:
ผมขอยกอายะห์อัลกุรอ่านให้คุน wisdom ตอบคำพูดของอัลลอฮ์เหล่านี้น่ะ อธิบายมา 16 อายะห์

1-  وما كان لمؤمن ولا مؤمنة إذا قضى الله ورسوله أمراً أن يكون لهم الخيرة من أمرهم، ومن يعص الله ورسوله فقد ضل ضلالاً مبيناً
2- يأيها الذين آمنوا لا تقدموا بين يدي الله ورسوله واتقوا الله إن الله سميع عليم
3- قل أطيعوا الله والرسول فإن تولوا فإن الله لا يحب الكافرين
4- وأرسلناك للناس رسولا وكفى بالله شهيداً . من يطع الرسول فقد أطاع الله ومن تولى فما أرسلناك عليهم حفيظاً
5- يأيها الذين آمنوا أطيعوا الله وأطيعوا الرسول وأولى الأمر منكم فإن تنازعتم في شيء فردوه إلى الله والرسول إن كنتم تؤمنون بالله واليوم الآخر ذلك خير وأحسن تأويلاً
6- وأطيعوا الله ورسوله ولا تنازعوا فتفشلوا وتذهب ريحكم واصبروا إن الله مع الصابرين
7- وأطيعوا الله وأطيعوا الرسول واحذروا ، فإن توليتم فاعملوا أنما على رسولنا البلاغ المبين
8- لا تجعلوا دعاء الرسول بينكم كدعاء بعضكم بعضاً ، قد يعلم الله الذين يتسللون منكم لواذاً ، فليحذر الذين يخالفون عن أمره أن تصيبهم فتنة أو يصيبهم عذاب أليم.
9- يأيها الذين آمنوا استجيبوا لله وللرسول إذا دعاكم لما يحييكم ، واعملوا أن الله يحول بين المرء وقلبه وأنه إليه تحشرون
10- ومن يطع الله ورسوله يدخله جنات تجري من تحتها الأنهار خالدين فيها وذلك الفوز العظيم.ومن يعص الله ورسوله ويتعد حدوده يدخله ناراً خالداً فيها وله عذاب مهين
11- ألم تر إلى الذين يزعمون أنهم آمنوا بما أنزل إليك وما أنزل من قبلك يريدون أن يتحاكموا إلى الطاغوت وقد أمروا أن يكفروا به ، ويريد الشيطان أن يضلهم ضلالاً بعيداً . وإذا قيل لهم تعالوا إلى ما أنزل الله وإلى الرسول رأيت المنافقين يصدون عنك صدوداً
12- إنما كان قول المؤمنين إذا دعوا إلى الله ورسوله ليحكم بينهم أن يقولوا سمعنا وأطعنا وأولئك هم المفلحون ومن يطع الله ورسوله ويخش الله ويتقه فأولئك هم الفائزون
13- وما آتاكم الرسول فخذوه وما نهاكم عنه فانتهوا ، واتقوا الله إن الله شديد العقاب
14- لقد كان لكم في رسول الله أسوة حسنة لمن كان يرجو الله واليوم الآخر وذكر الله كثيراً
15- والنجم إذا هوى . ما ضل صاحبكم وما غوى . وما ينطق عن الهوى . إن هو
إلا وحي يوحى
16- وأنزلنا إليك الذكر لتبين للناس ما نزل إليهم ولعلهم يتفكرون

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version