"ดังที่เราได้ส่งร่อ ซูลผู้หนึ่ง จากพวกเจ้าเองมาในหมู่พวกเจ้า ซึ่งเขาจะอ่านบรรดาโองการของเราให้พวกเจ้าฟัง และจะทำให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ และจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้แก่พวกเจ้า และจะสอนพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน" (กุรอาน 2:151)
"โดย ที่พระองค์ได้ทรง ส่งร่อซูลคนหนึ่งจากพวกเขาเองมาในหมู่พวกเขาโดยที่เขาจะได้อ่านบรรดาโองการ ของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะทำให้พวกเขาสะอาดและจะสอนคัมภีร์ และความ รู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนาแก่พวกเขาด้วย และแท้จริงเมื่อก่อนนั้นพวกเขาเคยอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง" (กุรอาน 3:164)
คำว่า คัมภีร์ ในภาษาใช้คำว่า กิตาบ แน่นอน มันก็คือ กุรอาน
ส่วนคำว่า ข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนา ในภาษาอาหรับของโองการนี้ ใช้คำว่า "ฮิกมะตา" หรือ ฮิกมะห์ ซึ่งหมายถึง วิทยปัญญา หรือ กฎ ระเบียบ
โองการ นี้ จึงชัดเจนว่า รอซู้ลนั้น ไม่ได้เป็นแค่ "คนส่งสาร" เท่านั้น แต่เป็นแบบอย่าง และ แหล่งที่มาของความรู้ทางศาสนาด้วย หรือ อีกโองการ
"โดย แน่นอน ในร่อซูลของอัลลอฮฺมีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว.."(กุรอาน 33:21)
จึงเห็นได้ว่า รอซู้ลนั้นไม่ใช่แค่คนบอกข่าว แต่เป็น ผู้นำสาส์น , เป็นผู้ตักเตือน , เป็นแหล่งความรู้ และ เป็น แบบฉบับ ในการปฏิบัติตนของบรรดามุสลิมทั้งหลาย
ร่อสูล จะสอน ประชาชาติด้วยอะไรดีครับ แบบอย่างตามกุรอ่าน? แบบอย่างของตนเอง?
[3:164] แน่นอนยิ่ง อัลลอฮ์นั้นทรงมีพระคุณแก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย โดยที่พระองค์ได้ทรงส่ง
ร่อซู้ลคนหนึ่ง จากพวกเขาเองมาในหมู่พวกเขาโดยที่เขาจะได้
อ่านบรรดาโองการของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะทำให้พวกเขาสะอาด และ
จะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนาแก่พวกเขาด้วย และแท้จริงเมื่อก่อนนั้นพวกเขาเคยอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง
ชัดเจนว่า รอซู้ลนั้น ไม่ได้เป็นแค่ "คนส่งสาร" เท่านั้น แต่เป็นแบบอย่าง และ แหล่งที่มาของความรู้ทางศาสนาด้วย
ผมคิดว่าข้อความข้างต้น ท่านคิดเอาเองนะครับ
ลองดูอายะหฺด้านล่าง มีตั้งกี่ครั้งที่อัลลอฮฺ บอกถึงหน้าที่ของรสูล
และ คำว่าเท่านั้น คือ เท่านั้น สำหรับท่านหรือไม่ หรือผมเข้าใจผืด เพราะไม่รู้อาหรับ?
เพราะถ้าหากว่ากุรอ่านบอกว่า เท่านั้น แต่ท่านบอกว่า ยังมี
และ/หรือหน้าที่อื่นๆอีก
ลองคิดดูซิครับว่า มันคือการปฏิเสธกุรอ่านหรือเปล่าครับ?
[5:99]
หน้าที่ของร่อซู้ลนั้นมิใช่อะไรอื่น นอกจากการประกาศให้ทราบเท่านั้น และอัลลอฮ์ทรงรู้สิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผย และสิ่งที่พวกเจ้าปกปิด
[13:40] และหากเราจะให้เจ้าเห็นบางสิ่ง ซึ่งเราสัญญากับพวกเขา (ถึงการลงโทษ) หรือเราจะให้เจ้าตาย
แท้จริงหน้าที่ของเจ้าคือการเผยแพร่ และหน้าที่ของเราคือการชำระบัญชี
[16:35] และบรรดาผู้ตั้งภาคีดังกล่าวหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ พวกเราจะไม่เคารพบูชาผู้ใดอื่นจากพระองค์ ทั้งพวกเรา และบรรพบุรุษบองพวกเรา และพวกเราจะไม่ห้ามสิ่งใดอื่นจากที่พระองค์ (ทรงห้ามไว้ในทำนองนั้นแหละบรรดาผู้มาก่อนหน้าพวกเขาได้กระทำ ดังนั้น บรรดา
ร่อซู้ลมิได้มีหน้าที่อื่นใด นอกจากการประกาศอันชัดแจ้งเท่านั้น[16:82] ดังนั้นหากพวกเขาผินหลังกลับแท้จริง
หน้าที่ของเจ้าคือการแจ้งข่าวอย่างชัดแจ้งเท่านั้น[24:54] จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกเจ้าจงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์ และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัรรอซูล หากพวกเขาผินหลังให้ แท้จริงหน้าที่ของเขา คือสิ่งที่ได้ถูกมอบหมาย และหน้าที่ของพวกเจ้าคือสิ่งที่ได้ถูกมอบหมายเช่นกัน และหากพวกเจ้าเชื่อฟังปฏิบัติตามเขา แล้ว พวกเจ้าก็จะอยู่ในทางที่ถูกต้อง (ฮิดายะฮ์) และ
หน้าที่ของอัรรอซูลไม่มีอื่นใดนอกจากการเผยแพร่อันชัดแจ้ง[29:18] และหากพวกท่านปฏิเสธ แน่นอนประชาชาติทั้งหลายก่อนพวกท่านก็ได้ปฏิเสธมา แล้ว
หน้าที่ของร่อซู้ลนั้นมิใช่อะไรอื่น นอกจากการเผยแพร่อันชัดแจ้ง[42:48] แต่ถ้าพวกเขาผินหลังให้ (ไม่ยอมรับการเรียกร้อง) ดังนั้นเรามิได้ส่งเจ้ามายังพวกเขาเพื่อเป็นผู้คุ้มกันรักษา
หน้าที่ของเจ้ามิใช่อื่นใดนอกจากการเผยแผ่เท่านั้น และแท้จริงถ้าเราจะให้มนุษย์ลิ้มรสความเมตตาจากเรา เขาก็จะยินดีปรีดาต่อความเมตตานั้น และหากเคราะห์กรรมประสบแก่พวกเขา เนื่องจากน้ำมือของพวกเขาได้ประกอบเอาไว้ ดังนั้นแน่นอนมนุษย์นั้นเป็นผู้เนรคุณเสมอ
[64:12] และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์ และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามร่อซู้ล หากพวกเจ้าผินหลังกลับ (ไม่เชื่อฟัง) ดังนั้น
หน้าที่ของร่อซู้ลของเราก็คือการเผยแผ่อันชัดแจ้งอ่านองค์การของอัลลอฮฺ พร้อมกับใช้ ฮิกมะห์ ช่วยตัดสินครับ
มันชัดมากพอแล้วครับ สำหรับหน้าที่ เท่านั้น