เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

พระเจ้ากล่าวว่า "กุรอ่านนั้นครบถ้วนสมบูรณ์" ทำไมเราจะต้องศึกษา หะดิษ?

<< < (22/39) > >>

wisdom:

--- อ้างจาก: Carrothz ที่ มี.ค. 22, 2012, 03:01 AM ---ไม่รู้ภาษาอาหรับ แล้วจะทำความเข้าใจกุรอ่านเอง? แค่คิดก็ผิดแล้วนะครับ

ภาษานั้นไม่สามารถแปลจากภาษาหนึ่งมายังภาษาหนึ่งได้ 100% หรอกครับ ดังนั้นถ้าคุณไม่รู้ภาษาอาหรับ หรือไม่ชำนาญแล้วจะทำความเข้าใจกุรอ่านด้วยตัวเองอันนี้ผมว่า คุณกำลังทำลายศาสนานะครับ

เพราะคุณไม่รู้เนื้อหาแน่ชัดคุณย่อมเข้าใจผิดในหลายประเด็นครับ

--- End quote ---

อันนี้คือความเห็นส่วนตัวนะครับ
ลองดูผลงานครับ ว่า
ผมไม่ทราบอาหรับ แต่ผมก็ยกกุรอ่านได้ตลอด และไม่เห็นมีความขัดแย้ง

wisdom:

--- อ้างจาก: Carrothz ที่ มี.ค. 22, 2012, 03:03 AM ---"ดังที่เราได้ส่งร่อ ซูลผู้หนึ่ง  จากพวกเจ้าเองมาในหมู่พวกเจ้า ซึ่งเขาจะอ่านบรรดาโองการของเราให้พวกเจ้าฟัง และจะทำให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ และจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้แก่พวกเจ้า และจะสอนพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน" (กุรอาน 2:151)

"โดย ที่พระองค์ได้ทรง ส่งร่อซูลคนหนึ่งจากพวกเขาเองมาในหมู่พวกเขาโดยที่เขาจะได้อ่านบรรดาโองการ ของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะทำให้พวกเขาสะอาดและจะสอนคัมภีร์ และความ รู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนาแก่พวกเขาด้วย และแท้จริงเมื่อก่อนนั้นพวกเขาเคยอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง" (กุรอาน 3:164)


คำว่า คัมภีร์ ในภาษาใช้คำว่า กิตาบ  แน่นอน มันก็คือ กุรอาน
ส่วนคำว่า ข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนา ในภาษาอาหรับของโองการนี้ ใช้คำว่า "ฮิกมะตา" หรือ ฮิกมะห์  ซึ่งหมายถึง วิทยปัญญา หรือ กฎ ระเบียบ

โองการ นี้ จึงชัดเจนว่า  รอซู้ลนั้น ไม่ได้เป็นแค่ "คนส่งสาร" เท่านั้น  แต่เป็นแบบอย่าง และ แหล่งที่มาของความรู้ทางศาสนาด้วย   หรือ อีกโองการ

"โดย แน่นอน ในร่อซูลของอัลลอฮฺมีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว.."(กุรอาน 33:21)

จึงเห็นได้ว่า   รอซู้ลนั้นไม่ใช่แค่คนบอกข่าว  แต่เป็น  ผู้นำสาส์น , เป็นผู้ตักเตือน , เป็นแหล่งความรู้  และ เป็น แบบฉบับ  ในการปฏิบัติตนของบรรดามุสลิมทั้งหลาย

--- End quote ---

ร่อสูล จะสอน ประชาชาติด้วยอะไรดีครับ แบบอย่างตามกุรอ่าน? แบบอย่างของตนเอง?

[3:164] แน่นอนยิ่ง อัลลอฮ์นั้นทรงมีพระคุณแก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย โดยที่พระองค์ได้ทรงส่งร่อซู้ลคนหนึ่ง จากพวกเขาเองมาในหมู่พวกเขาโดยที่เขาจะได้อ่านบรรดาโองการของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะทำให้พวกเขาสะอาด และจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนาแก่พวกเขาด้วย และแท้จริงเมื่อก่อนนั้นพวกเขาเคยอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง


--- อ้างถึง ---ชัดเจนว่า  รอซู้ลนั้น ไม่ได้เป็นแค่ "คนส่งสาร" เท่านั้น  แต่เป็นแบบอย่าง และ แหล่งที่มาของความรู้ทางศาสนาด้วย
--- End quote ---

ผมคิดว่าข้อความข้างต้น ท่านคิดเอาเองนะครับ
ลองดูอายะหฺด้านล่าง มีตั้งกี่ครั้งที่อัลลอฮฺ บอกถึงหน้าที่ของรสูล
และ คำว่าเท่านั้น คือ เท่านั้น สำหรับท่านหรือไม่ หรือผมเข้าใจผืด เพราะไม่รู้อาหรับ?

เพราะถ้าหากว่ากุรอ่านบอกว่า เท่านั้น แต่ท่านบอกว่า ยังมี และ/หรือหน้าที่อื่นๆอีก
ลองคิดดูซิครับว่า มันคือการปฏิเสธกุรอ่านหรือเปล่าครับ?


[5:99] หน้าที่ของร่อซู้ลนั้นมิใช่อะไรอื่น นอกจากการประกาศให้ทราบเท่านั้น และอัลลอฮ์ทรงรู้สิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผย และสิ่งที่พวกเจ้าปกปิด

[13:40] และหากเราจะให้เจ้าเห็นบางสิ่ง ซึ่งเราสัญญากับพวกเขา (ถึงการลงโทษ) หรือเราจะให้เจ้าตาย แท้จริงหน้าที่ของเจ้าคือการเผยแพร่ และหน้าที่ของเราคือการชำระบัญชี

[16:35] และบรรดาผู้ตั้งภาคีดังกล่าวหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ พวกเราจะไม่เคารพบูชาผู้ใดอื่นจากพระองค์ ทั้งพวกเรา และบรรพบุรุษบองพวกเรา และพวกเราจะไม่ห้ามสิ่งใดอื่นจากที่พระองค์ (ทรงห้ามไว้ในทำนองนั้นแหละบรรดาผู้มาก่อนหน้าพวกเขาได้กระทำ ดังนั้น บรรดาร่อซู้ลมิได้มีหน้าที่อื่นใด นอกจากการประกาศอันชัดแจ้งเท่านั้น

[16:82] ดังนั้นหากพวกเขาผินหลังกลับแท้จริงหน้าที่ของเจ้าคือการแจ้งข่าวอย่างชัดแจ้งเท่านั้น

[24:54] จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกเจ้าจงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์ และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัรรอซูล หากพวกเขาผินหลังให้ แท้จริงหน้าที่ของเขา คือสิ่งที่ได้ถูกมอบหมาย และหน้าที่ของพวกเจ้าคือสิ่งที่ได้ถูกมอบหมายเช่นกัน และหากพวกเจ้าเชื่อฟังปฏิบัติตามเขา แล้ว พวกเจ้าก็จะอยู่ในทางที่ถูกต้อง (ฮิดายะฮ์) และหน้าที่ของอัรรอซูลไม่มีอื่นใดนอกจากการเผยแพร่อันชัดแจ้ง

[29:18] และหากพวกท่านปฏิเสธ แน่นอนประชาชาติทั้งหลายก่อนพวกท่านก็ได้ปฏิเสธมา แล้วหน้าที่ของร่อซู้ลนั้นมิใช่อะไรอื่น นอกจากการเผยแพร่อันชัดแจ้ง

[42:48] แต่ถ้าพวกเขาผินหลังให้ (ไม่ยอมรับการเรียกร้อง) ดังนั้นเรามิได้ส่งเจ้ามายังพวกเขาเพื่อเป็นผู้คุ้มกันรักษา หน้าที่ของเจ้ามิใช่อื่นใดนอกจากการเผยแผ่เท่านั้น และแท้จริงถ้าเราจะให้มนุษย์ลิ้มรสความเมตตาจากเรา เขาก็จะยินดีปรีดาต่อความเมตตานั้น และหากเคราะห์กรรมประสบแก่พวกเขา เนื่องจากน้ำมือของพวกเขาได้ประกอบเอาไว้ ดังนั้นแน่นอนมนุษย์นั้นเป็นผู้เนรคุณเสมอ

[64:12] และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์ และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามร่อซู้ล หากพวกเจ้าผินหลังกลับ (ไม่เชื่อฟัง) ดังนั้นหน้าที่ของร่อซู้ลของเราก็คือการเผยแผ่อันชัดแจ้ง

อ่านองค์การของอัลลอฮฺ พร้อมกับใช้ ฮิกมะห์ ช่วยตัดสินครับ
มันชัดมากพอแล้วครับ สำหรับหน้าที่ เท่านั้น

Carrothz:
อ่านให้ดีดีนะครับ ว่าที่คุณยกมาน่ะ บอกหรือเปล่าว่า

หน้าที่ของร่อซู้ลนั้นมิใช่อะไรอื่น นอกจากการประกาศให้ทราบเท่านั้น

ประกาศอะไร กุรอ่านเท่านั้นหรือ? ไม่ได้บอกนะครับว่า เฉพาะกุรอ่านเท่านั้น โดยไม่สอน ไม่ได้ให้รายละเอียด ไม่ได้ให้วิทยปัญญาอื่นเลย

หรือ โองการไหนบอกหรือว่า ท่านรอซูล สอนเฉพาะกุรอ่านเท่านั้นอย่างเดียว?

ใครกันแน่เหรอครับที่เข้าใจผิด คุณยกโองการมาคุณอ่านโองการดังกล่าวนั้นหรือเปล่า

โองการบอกชัดนะครับว่า แยกเป็นสองอย่าง ไม่ใช่อย่างเดียวกัน อันนี้สิครับชัดเจน ว่าท่านรอซูล ไม่ได้สอนเฉพาะกุรอ่านเท่านั้น เพราะถ้าสอนกุรอ่านเท่านั้น ไม่ได้สอนอย่างอื่นเลย ทำไมโองการถึงแยกสองอย่างล่ะ?

"ดังที่เราได้ส่งร่อ ซูลผู้หนึ่ง  จากพวกเจ้าเองมาในหมู่พวกเจ้า ซึ่งเขาจะอ่านบรรดาโองการของเราให้พวกเจ้าฟัง และจะทำให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ และจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้แก่พวกเจ้า และจะสอนพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน" (กุรอาน 2:151)

"โดย ที่พระองค์ได้ทรง ส่งร่อซูลคนหนึ่งจากพวกเขาเองมาในหมู่พวกเขาโดยที่เขาจะได้อ่านบรรดาโองการ ของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะทำให้พวกเขาสะอาดและจะสอนคัมภีร์ และความ รู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนาแก่พวกเขาด้วย และแท้จริงเมื่อก่อนนั้นพวกเขาเคยอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง" (กุรอาน 3:164)


คำว่า คัมภีร์ ในภาษาใช้คำว่า กิตาบ  แน่นอน มันก็คือ กุรอาน
ส่วนคำว่า ข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนา ในภาษาอาหรับของโองการนี้ ใช้คำว่า "ฮิกมะตา" หรือ ฮิกมะห์  ซึ่งหมายถึง วิทยปัญญา หรือ กฎ ระเบียบ


เห็นไหมครับ โองการที่คุณอ้างมาไม่ได้บอกเลยว่า คำว่าเท่านั้น ที่ว่า หมายถึงกุรอ่านเท่านั้น หรืออาจจะแปลว่า สอนกุรอ่าน ไม่ได้สอนอินญีลก็ได้ะครับ

multi:
 - ผมขอยืนยัน กุรอานนั้นสมบูรณ์   แต่มีสักกี่คน ที่อ่านแล้ว เข้าใจเลย  เพราะ บาง  อายะห์ ก็ไม่ได้บอกตรงๆ 
เหมือนกับการพูดคุยแบบปกติ    แล้วให้เดา เอาเอง   โดยไม่ต้องถามครู  หรือปล่าว  (ผิด ถูกไม่รู้   อัลเลาะห์บอก ให้ศึกษาอัลกุรอ่าน)

-  คนที่อ่านแล้วแปลอาหรับไม่ได้ ก็อ่าน อังกฤษ    คนอ่านอังกฤษ ไม่ได้ ก็อ่าน กุรอ่าน แปลเป็นภาษาไทย เรียบร้อย  แล้วอย่างนี้ สมัยก่อน ที่ไม่มี การแปลไทย เป็นภาษไทย เขาจะ ทำยังไง เพราะ ยังไง ก้ต้องมีการ อธิบาย อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีสัก 1หะดิษ มาเป็นครูอธิบาย
   
 - ผมสงสัยว่า ถ้างั้น    มุสลิมทั้งโลก   หรือเกือบทั้งโลกเลยก็ว่าได้   ตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน    ขัดคำสั่ง ของอัเลาะห์ หมดเลย   ปราช  สุยอดระดับโลก  ก็ไม่รอดข้อหา  เพราะเขาเหล่านั้น ล้วนศึกษากุรอาน   และ หะดิษ กันหมด   แล้วแบบนี้ ไม่ตกนรก กันระนาวเหรอ   มีแต่ เจ้าสำนัก wisdom กับพรรคพวก  เท่านั้น ที่รอด
     
       

ฮุ้นปวยเอี๊ยง:

--- อ้างจาก: wisdom ที่ มี.ค. 22, 2012, 09:46 AM ---
คุณ Innocence

อย่าเพิ่งตอบคำถาม ด้วย คำถามสิครับ
ขอเรื่อง นี่/นั้น (ذلك) ก่อนนะครับ ผมอยากทราบว่าผมเข้าใจผิดอย่างไรถ้าไม่ทราบอาหรับ?

--- End quote ---

คุณไม่เข้าใจผิดอยู่แล้วเพราะคุณไม่ได้ทำการแปลเอง เพราะคำว่า ذلك นั้น แปลว่า "นั้น" หรือ แต่ที่สำคัญคือผู้ที่ทำการอรรธถาธิบายนั้นต้องเข้าใจและดูตำราของเหล่าอุลามาอ์ เพราะคำในภาษาอาหรับนั้นความหมายไม่คงตัว บางทีคำว่านั้นแปลว่านี่ หรือ คำว่านี่แปลว่านั้น ถ้าหากแปลอย่างหนึ่งก็ต้องมีหลักฐานมา และอธิบายว่าทำไมถึงใช้คำดังกล่าว และเหตผลประกอบเรื่อง ซึ่งในเรื่องนี้นั้นในอายะห์ข้างต้นมีถึง 10 คำพูดอุลามาอ์ ในตัฟซีรอัลกุฎฎุบีย์  ในอัลกุรอ่านนั้นมีกริยาเปลี่ยนไปอีกช่องหนึงก็ได้ทั้งๆเช่นกริยาของมันเป็นอดีตแต่เปลี่ยนเป็นกริยาอื่น ซึ่งต้องอาศัยศาสตร์อย่างมากมายเข้ามาเข้าใจ เช่นในอายะห์ 2:19 เขาแปลมาว่า เอานิ้วมืออุดหู อันที่จริงความตามตัวอาหรับในอายะห์คือ เอาบรรดานิ้วอุดเข้าไปในหู ถามว่าใส่ไปได้หรือปล่าวครับ ?? จึงเข้าไปอาศัยวิชาบาลาเฆาะห์เพื่อให้ความหมายในเรื่อง การที่ถ้อยคำใช้คำว่าทั้งหมด (บรรดานิ้ว) แต่ต้องการแค่ส่วนเดียว เป็นต้น โอเคน่าจะจบ

ผมคงจะขอคำถามเดิมอีกครับเพราะผมศึกษากุรอ่านน้อย


1.แล้วทำไมท่านไม่ใช้กุรอ่านของกลุ่มชีอะห์ละครับ ?
2.ใช่ครับที่กล่าวถึงมุฮํมหมัดบินอับดุลลอฮ์มีเป็นสิบๆชื่อครับเพราะคือคนคนเดียวๆกัน
3.แล้วคนที่เป็นรสูลที่พูดอัลกุรอ่านอย่างเดียวของท่านเนี่ยมีข้อตำหนิหรือมีผู้กล่าวเตือนหรือปล่าวครับ
4.ผู้ที่ได้รับคำภีร์ของพระองค์อัลลอฮ์ก่อนหน้าอัลกุรอ่านเช่นเตารอตพวกเขาคือรสูลหรือนาบี
5.แล้วเวลาพวกคุณขัดแย้งขึ้นมาในหมู่พวกคุณ พวกท่านกลับไปหารสูลหรือจะตัดสินอะไรต้องกลับไปหาท่านหรือปล่าวครับดั่งอายะห์ 4:59'64'65
6.ก็เพราะกุรอ่านที่คุณใช้เป็นกุรอ่านของพวกตานาบีตามปราชญ์ตีความหมายทั้งเล่มครับจึงได้ความหมายออกมาแบบนั้น ในเมื่อท่านปฏิเสธเรื่องนี่อยู่
7.เมื่อวันก่อนคุณบอกว่ารสูลนั้นคือแบบอย่างที่ดี ไม่ทราบว่าแบบอย่างที่ดีนั้นมีอะไรบ้างครับ ผมอยากปฏิบัติ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version