เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

พระเจ้ากล่าวว่า "กุรอ่านนั้นครบถ้วนสมบูรณ์" ทำไมเราจะต้องศึกษา หะดิษ?

<< < (29/39) > >>

wisdom:

--- อ้างจาก: WIND ที่ เม.ย. 02, 2012, 08:29 PM ---ว่านบีปฏิบัติอะไร อย่างไร แจ้งอะไร เตือนอะไร และเชิญชวนอย่างไร

--- End quote ---
ผมไมได้อยากยก [6:114-115] บ่อยนักหรอกครับ เพราะคิดว่ายกครั้งเดียวน่าจะเพียงพอแล้ว สำหรับกุรอ่านเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามีใครพยายามปฏิเสธกุรอ่านหนิครับ คุณ WIND

ส่วนคำถามของคุณ
ตอบได้หมดเลยด้วยคำตอบเดียวครับ ว่าด้วยกุรอ่าน



ใน 45 แจ้งด้วยอะไร? ตักเตือนด้วยอะไร? ดู 46 ต่อครับ

ใน 46 ที่ท่านยกมาก็ชัดแล้ว ว่า เชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ(กุรอ่าน) ไม่ได้เชิญชวนไปสู่ตัวนบีเอง(หะดิษ) จริงไหมครับ?

hiddenmin:

--- อ้างจาก: WIND ที่ เม.ย. 02, 2012, 08:29 PM ---มาอีกแล้ว ----> แท้จริงอัลลอฮ์นั้นถูกประทานลงมาจากพระเจ้าของเจ้า ด้วยความเป็นจริง เจ้าอย่าได้อยู่ในหมู่ผู้สงสัยเป็นอันขาด

เลิกอ้างว่าข้อความนี้คือ กุรอ่าน เถอะ
รู้สึกว่าจะมีสมาชิกที่ชื่อ Alfatoni เตือนท่านแล้ว

--- End quote ---
คนที่ไม่ได้สนใจเนื้อจริงๆ ได้แต่เอามาโพสๆ มันก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ

ผมบอกหลายครั้งแล้ว ว่าไม่มีมุสลิมคนไหนปฏิเสธอัลกุรอาน



--- อ้างจาก: wisdom ที่ เม.ย. 02, 2012, 09:52 PM ---
ใน 46 ที่ท่านยกมาก็ชัดแล้ว ว่า เชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ(กุรอ่าน) ไม่ได้เชิญชวนไปสู่ตัวนบีเอง(หะดิษ) จริงไหมครับ?


--- End quote ---

ในขณะเดียวกันอัลกุรอานก็บอกให้เชื่อฟังอัลลอฮ เชื่อฟังรอซูล และเชื่อฟังผู้ำนำ....

เชื่อฟังในที่นี้มาจากคำตอบว่า ฏออัต หรือในภาษาอังกฤษคือคำว่า obey หรือเอาแบบเข้าใจง่ายๆ คือ ทำตามคำสั่ง

ไม่ต้องไปแถว่า เชื่อฟังรอซูล ในที่นี้คือการ ฟังในสิ่งที่รอซูลบอก

แต่มันคือการ เชื่อฟังทุกสิ่ง ทำตามทุกอย่าง ในสิ่งที่ไม่ขัดกับที่อัลลอฮได้กำหนดไว้

ซึ่งไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับอายะฮที่ 46 ในซูเราะฮอัลอะหซาบ

และสิ่งที่รอซูลได้ปฏิบัติ ก็ได้มีการจดบันทึกไว้ และตรวจสอบความถูกต้องอย่างเข้มข้น สิ่งนี้แหละ ที่เรียกว่าหะดีษ



และถ้าเราคิดย้อนกลับ ก็จะพบว่า ถ้าคนใดคนหนึ่ง ปฏิเสธหะดีษ ก็เท่ากับไม่เชื่อฟังรอซูล ถ้าไม่เชื่อฟังรอซูล


ก็คือการปฏิเสธอัลกุรอานนั่นเอง

WIND:

--- อ้างจาก: hiddenmin ที่ เม.ย. 02, 2012, 10:16 PM ---
และถ้าเราคิดย้อนกลับ ก็จะพบว่า ถ้าคนใดคนหนึ่ง ปฏิเสธหะดีษ ก็เท่ากับไม่เชื่อฟังรอซูล ถ้าไม่เชื่อฟังรอซูล

ก็คือการปฏิเสธอัลกุรอานนั่นเอง

--- End quote ---

ตามนั้นครับ


--- อ้างจาก: wisdom ที่ เม.ย. 02, 2012, 09:52 PM ---
ผมไมได้อยากยก [6:114-115] บ่อยนักหรอกครับ เพราะคิดว่ายกครั้งเดียวน่าจะเพียงพอแล้ว สำหรับกุรอ่านเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามีใครพยายามปฏิเสธกุรอ่านหนิครับ คุณ WIND

ส่วนคำถามของคุณ
ตอบได้หมดเลยด้วยคำตอบเดียวครับ ว่าด้วยกุรอ่าน



ใน 45 แจ้งด้วยอะไร? ตักเตือนด้วยอะไร? ดู 46 ต่อครับ

ใน 46 ที่ท่านยกมาก็ชัดแล้ว ว่า เชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ(กุรอ่าน) ไม่ได้เชิญชวนไปสู่ตัวนบีเอง(หะดิษ) จริงไหมครับ?


--- End quote ---

จากคำกล่าวท่าน  ใน 45 แจ้งด้วยอะไร? ตักเตือนด้วยอะไร? ดู 46 ต่อครับ

ท่านครับ สำนวนกุรอานใช้  وَ  ซึ่งแปลว่า และ และ และ และ ถึงสี่จุด
ไม่ได้ใช้ بِ  ที่แปลว่า โดย หรือ ด้วย  อย่างที่ท่านกล่าว

นั่นก็คือ เป็นพยาน และผู้แจ้งข่าวดี และผู้ตักเตือน และเป็นผู้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ ตามพระบัญชาของพระองค์ และเป็นดวงประทีปอันแจ่มจรัส

إِنَّا أَنزَلْنَاهُ قُرْآنًا عَرَبِيًّا لَّعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ
.
.
.
เพราะฉะนั้นอย่าเข้าใจ กุรอาน ผิด นะครับ

ดังที่ท่านอ้าง

--- อ้างจาก: wisdom ที่ มี.ค. 10, 2012, 08:14 PM ---
[44:58] ดังนั้นแท้จริงเราได้ทำให้อัลกุรอานเป็นที่ง่ายดายในภาษาของเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้ใคร่ครวญ
  -> คัมภีร์จากอัลลอฮนั้นสามารถเข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าจะแปลเป็นภาษาไหน

--- End quote ---

44:58 فَإِنَّمَا يَسَّرْنَاهُ بِلِسَانِكَ لَعَلَّهُمْ يَتَذَكَّرُونَ
ดังนั้นแท้จริงเราได้ทำให้อัลกุรอานเป็นที่ง่ายดายในภาษาของเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้ใคร่ครวญ
ซึ่ง بِلِسَانِكَ --->แปลตามตัว สำหรับลิ้นของเจ้า (กุรอานเป็นภาษาอาหรับ ก็ต้องเป็นลิ้นของคนอาหรับ
นั่นคือง่ายดายสำหรับคนอาหรับ)
-ท่านอธิบายเพิ่มว่า คัมภีร์จากอัลลอฮนั้นสามารถเข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าจะแปลเป็นภาษาไหน อัลเลาะห์ไม่ได้บอกว่าถ้าแปลเป็นภาษาอื่นแล้วจะเข้าใจง่าย กรุณาอย่าเพิ่มเติมในสิ่งที่อัลเลาะห์ไม่ได้บอก

เพราะฉะนั้นอย่าเข้าใจ กุรอาน ผิด 

ฮาดิษนบี นั้นนบีไม่ได้เชิญชวนสู่นบีครับ แต่เป็นการเชิญชวนสู่อัลเลาะห์ ฉะนั้นอย่าเข้าใจ ฮาดิษ ผิด


ขอต่อด้วย

--- อ้างจาก: wisdom ที่ มี.ค. 10, 2012, 10:04 PM ---คุณ Innocence,

เราจะ เอาผลมาตั้ง เพื่อที่จะหาเหตุ ได้หรือครับ?
ถ้าเมื่อสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ละหมาด,ซะกาต,ฮัจย์ นั้นไม่ได้อยู่ในกุรอ่าน

คุณกำลังจะบอกว่ากุรอ่านนั้นไม่ครบถ้วน/อัลลอฮฺลืมใส่รายละเอียดลงไป (ทั้งๆที่อัลลอฮฺบอกว่าครบถ้วน แจกแจงอย่างละเอียด และอัลลอฮฺนั้นไม่ลืม)

หรือ คุณควรจะบอกว่า คุณไม่มีความรู้ และได้หลงผิดตามบรรพบุรุษไป และตั้งใจขอทางนำ จะดีกว่าไหมครับ?

คุณกำลังจะปฏิเสธกุรอ่าน เพื่อที่จะเชื่อหะดิษหรือ?


--- End quote ---
ผมพยามให้ท่านอ่าน

--- อ้างจาก: WIND ที่ มี.ค. 26, 2012, 08:50 PM ---ผมดีใจที่ที่คุณ wisdom มาตั้งกระทู้นี้จริงๆซึ่งทำให้กระชากความคิดของผม วันนี้ผมสะดุดที่อายะห์นี้ครับ

24:55

وَعَدَ اللَّهُ الَّذِينَ آمَنُوا مِنكُمْ وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ لَيَسْتَخْلِفَنَّهُمْ فِي الْأَرْضِ كَمَا اسْتَخْلَفَ الَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ وَلَيُمَكِّنَنَّ لَهُمْ دِينَهُمُ الَّذِي ارْتَضَىٰ لَهُمْ وَلَيُبَدِّلَنَّهُم مِّن بَعْدِ خَوْفِهِمْ أَمْنًا ۚ يَعْبُدُونَنِي لَا يُشْرِكُونَ بِي شَيْئًا ۚ وَمَن كَفَرَ بَعْدَ ذَٰلِكَ فَأُولَٰئِكَ هُمُ الْفَاسِقُونَ

อัลลอฮ์ทรงสัญญากับบรรดาผู้ศรัทธาในหมู่พวกเจ้า และบรรดาผู้กระทำความดีทั้งหลายว่า แน่นอนพระองค์จะทรงให้พวกเขาเป็นตัวแทนสืบช่วงในแผ่นดิน  เสมือนดังที่พระองค์ทรงให้บรรดาชนก่อนพวกเขา เป็นตัวแทนสืบช่วงมาก่อนแล้ว และพระองค์จะทรงทำให้ศาสนาของพวกเขาซึ่งพระองค์ทรงโปรดปราน เป็นที่มั่นคงเป็นเกียรติแก่พวกเขา และแน่นอนพระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงให้พวกเขาได้รับความปลอดภัย หลังจากความกลัวของพวกเขา โดยที่พวกเขาจะต้องเคารพภักดีข้าไม่ตั้งภาคีอื่นใดต่อข้า และผู้ใดปฏิเสธศรัทธาหลังจากนั้น ชนเหล่านั้นพวกเขาคือผู้ฝ่าฝืน

--- End quote ---

และท่านตอบมาว่า
และบรรพชนจะปฏิบัติตามใครครับ?
ตามเขา และ เขาก็คือรสูล             ------->นี่ไงที่บรรพชนเรา ปฎิบัติตามบรรพชนที่ปฏิบัติตามรอซูล

และรสูลมีหน้าที่อะไรครับ?
มีหน้าที่เผยแพร่อันชัดแจ้ง ก็คือเผยแพร่กุรอ่าน    ---------->ถูกครับและเราเชื่อกุรอานครับ

ผมใช้ตรรกะแบบท่านคือ รอซูลมีหน้าเผยแผ่และจะพูดกุรอานเท่านั้น ส่วนนบีไม่ใช่
ยังกับ StaTus MSN มีโหมด online และ offline .....

แล้วๆๆๆๆ  ยังบอกอีกถ้าตามนบีเท่ากับปฎิเสธกุรอาน

ซึ่งๆๆๆๆๆ  ตรรกกะ คำพูดรอซูลคือกุรอาน คำพูดนบีไม่ใช่กุรอาน

จากซูเราะห์ อะห์ซาบ 45-46 
ได้บอกหน้าที่นบีที่ต่างจากรอซูล คือ เป็นพยาน และผู้แจ้งข่าวดี และผู้ตักเตือน และเป็นผู้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ ตามพระบัญชาของพระองค์ และเป็นดวงประทีปอันแจ่มจรัส

แสดงว่า นบีต้องตักเตือน ต้องเรียกร้องสู่อัลลอฮฺ
ดังนั้นเมื่อ นบีตักเตือน    คำพูดนั้นก็คือ คำพูดนบี(ไม่ใช่กุรอาน)   
และเมื่อนบี  เรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ คำพูดนั้นก็คือ คำพูดนบี(ไม่ใช่กุรอาน)

ซึ่งๆๆๆ  ความหมายทางภาษา  (อาหรับ: الحديث‎ /อัลฮะดีษ/)
1. แปลว่า ใหม่ ซึ่งตรงข้ามกับคำว่า เกาะดีม قديم ซึ่งแปลว่า เก่า
2. แปลว่า คำพูด เช่น ฮะดีษของอับดุลลอฮฺ หมายถึง คำพูดของอับดุลลอฮฺ เป็นต้น

เราตามฮาดิษนบี ถ้าแปลตามตัวคือคำพูดนบี  สอดคล้องกับกุรอานซูเราะห์ อะห์ซาบ 45-46 ครับ

ปล.ตรรกกะต้องหักล้างด้วยตรรกะ และขอให้ท่านสมาชิกที่รู้ภาษาอาหรับอย่างละเอียดช่วยชี้แนะด้วยครับ
วัลลอฮุอะลัม

ฮุ้นปวยเอี๊ยง:

--- อ้างจาก: wisdom ที่ มี.ค. 19, 2012, 03:38 PM ---
--- อ้างจาก: hiddenmin ที่ มี.ค. 19, 2012, 10:49 AM ---ขอนอกประเด็นเล็กน้อย

คุณเชื่อมั่นอย่างหมดใจใช่หรือไม่ว่า อัลลอฮเท่านั้นที่ต้องสักการะ แต่ทำไมคุณถึงประกาศว่า
Worship God and Messenger of God

มุสลิมเราไม่สักการะสิ่งอื่นใดนอกจากอัลลอฮครับ

--- End quote ---

Messenger of God = รสูล ของ อัลลอฮฺ

และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอัลลอฮฺสั่งอะไร ก็คือรู้ผ่านรสูล

เพราะฉนั้น การเชื่อสิ่งที่อัลลอฮฺสั่ง ก็คือ การเชื่อสิ่งที่รสูลกล่าว

และ หน้าที่รสูล จะพูดเฉพาะสารของอัลลอฮฺนั่น

รสูล จะพูดเฉพาะ กุรอ่านนั่นเองครับ


*ต้องแยกระหว่างคำว่า รสูล และ นบี ให้ดีนะครับ

--- End quote ---

ท่านพูดว่า "และ หน้าที่รสูลจะพูดเฉพาะสารของอัลลอฮฺ รสูลจะพูดเฉพาะกุรอ่านนั่นเองครับ"

1.มาดู"รสูล"กินอาหารและออกตลาดกันครับ หรือจะบอกว่าอายะห์นี่เขียนบอกว่า "นบี" ดั่งที่คุณบอกว่าเรื่องแบบนี่คือนาบีไม่ใช่รสูล



7. และพวกเขากล่าวว่า “อะไรกันกับร่อซูลคนนี้ ! เขากินอาหารและเดินในตลาด (คือร่อซูลคนนี้กินอาหารเหมือนเรากิน และออกเดินในตลาดเพื่อหาเลี้ยงชีพเหมือนพวกเรา ) ทำไมจึงไม่มีมะลักถูกส่งมากับเขา เพื่อจะได้เป็นผู้ตักเตือนร่วมกับเขา (เพื่อจะได้เป็นพยานแห่งความจริง ตามที่เขากล่าวอ้าง)




20. และเรามิได้ส่งคนใดจากบรรดาร่อซูลก่อนหน้าเจ้า นอกจากพวกเขาจะรับประทานอาหารอย่างสามัญชน และเดินท่องไปในตลาด(เดินท่องไปในตลาดเพื่อแสวงหาปัจจัยและการค้า และนี่คือแนวทางของบรรดาร่อซูลก่อนหน้าเจ้า ) และเราได้ทำให้บางคนในพวกเจ้าเป็นการทดสอบแก่อีกบางคน(คืออัลลอฮ์ทรงทดสอบคนรวยให้จนลง คนมีเกียรติให้ตกต่ำลง และคนมีสุขภาพดีให้เจ็บป่วย สิ่งเหล่านี้เพื่อเป็นการทดสอบความอดทนของพวกเจ้า และการอีมานของพวกเจ้า ว่าพวกเจ่าจะขอบคุณหรือเนรคุณ) เพื่อดูว่าพวกเจ้าจะอดทนไหม ? และพระเจ้าของเจ้านั้นทรงเห็นทุกอย่าง

2.และอีกหนึ่งคำถามผมอยากได้แบบอย่างที่ดีของ"รสูล"จะหาได้ที่ไหนครับผมอยากทราบอยากนำมันมาปฏิบัติ
ผมเจออายะห์ว่า



โดยแน่นอนในผู้นำสาส์นของอัลลอฮฺมีแบบอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว

อยากใคร่ให้คุณ wisdom ตอบทุกอย่างที่ผมยกมาด้วยครับ

Carrothz:
อย่ามาอ้างว่าชัดเจนสิครับ ก็เป็นอย่างที่ผมบอก คุณอ้างโองการมาสนับสนุนความคิดตัวเองไม่ได้เลย

เพราะอย่างที่ผมบอก

1. โองการที่คุณนำมาไม่มีตรงไหนกล่าวเลยว่า ท่านรอซูลจะกล่าวเฉพาะกุรอ่านเท่านั้น

2. ฮะดีษไม่ใช่การกล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺ

3. โองการกุรอ่านบอกเองว่า ท่านนบีไม่ได้สอนเฉพาะกุรอ่านเท่านั้นครับ

และที่สำคัญ ใครจะไปกล้าดูถูกพระเจ้าครับ พระองค์มิได้ลืม พระองค์ส่งผู้สอนรายละเอียดในการละหมาดแล้วนั่นคือ ท่านรอซูล

แต่คุณล่ะตอบคำถามผมได้หรือยังว่า

การละหมาด 5 เวลาครับ ผมถามหน่อยว่า กุรอ่านโองการไหนบอกว่าละหมาด มี 5 เวลาครับ? แล้วถ้าท่านนบีสอน แปลว่าท่านนบีกล่าวเท็จใส่กุรอ่านหรือครับลองตอบมาหน่อยซิ

การอาซานเช่นกัน กุรอ่านบอกไหมครับว่า การอาซาน และอาซานอย่างไร ถ้าท่านนบีสอน นี่คือกล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺไหมครับ


นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version