ผู้เขียน หัวข้อ: อัลลอฮฺ ไม่เคยสั่งให้เราเชื่อ 'นบี' แต่สั่งให้เราเชื่อ 'รอซูล' / รอซูล และนบี นั้นต่างกันอย่างไร?  (อ่าน 13678 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ wisdom

  • Worship God and Messenger of God!
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 165
  • Respect: -29
    • ดูรายละเอียด
ผมบอกแต่แรกแล้วนะครับว่า ถ้าในกุรอ่าน เราจะไม่รู้ ว่า การละหมาดนั้น ในแต่ละวันมีกี่เวลา ผมถึงถามคุณไงล่ะครับ ว่า เมื่อคุณ ไม่ละหมาด 5 เวลา แล้วคุณละหมาดวันล่ะกี่เวลา?

ก็ไม่ปรากฎว่า ได้คำตอบ สรุปคือ คุณเลี่ยงบอกไม่ได้ว่าคุณละหมาดวันละกี่เวลากันแน่ นั่นเพราะคุณไม่สามารถสรุปได้นั่นเอง

ก็ตรงกับที่ผมบอกไปนั่นล่ะครับ ถ้าไม่ฮะดีษ คุณจะไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้เลย และการปฏิบัติศาสนกิจของคุณจะมั่ว และไม่ตรงกับหลักศาสนาแน่นอน


จนบัดนี้ คุณก็ยังบอกไม่ได้ว่าคุณละหมาดอย่างไร หรือไม่ได้ละหมาด แล้วละหมาดไป วิดพื้นไปได้หรือเปล่าครับ เพราะกุรอ่านไม่ได้ห้ามใช่ไหม?
ผมละหมาดได้ตลอดเวลาครับ ความหมายของละหมาดนั้นกว้างครับ คือการยำเกรง รำลึก ติดต่อ สรรเสริญ ...
ซึ่งถ้าหากมีอัลลอฮฺอยู่ในจิตใจ เราจะต้องยำเกรงตลอดเวลา เมื่อเรายำเกรงตลอดเวลา มีนจะไม่มีช่วงใหนของเรา ที่จะสามารถเข้าใกล้ความชั่วได้เลย ซึ่งการละหมาดด้วยท่าทาง ครั้งละ 5 นาที รวมกัน 5 เวลา ประมาณ 30 นาที/วัน ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ซึ่งหลายคน เอาเวลาบางส่วนที่เหลือ กว่า 23 ชั่วโมง ไปทำชั่ว ฉ้อโกง โกหก

เพราะ แท้จริงนี่คือความหมายของการละหมาดครับ

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ
[16:125] จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าแท้จริงพระเจ้าของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง

ออฟไลน์ wisdom

  • Worship God and Messenger of God!
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 165
  • Respect: -29
    • ดูรายละเอียด
มุสลิมก็มีจำนวนน้อยกว่า คริสต์ และผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่แล้วละครับ ไม่ได้มีมากกว่า มันจึงไม่แปลก แต่ที่แปลกคือ อัลลอฮฺสั่งใช้ให้ตามนบี และปฏิบัติตามนบีนะครับ นี่อคือคำสั่งของอัลลอฮฺ เพราะถ้ามีปัญหา แล้วไม่หานบี ก็จะเป็นแบบคุณ ที่จนบัดนี้ ยังตอบผมไม่ได้เลยว่าคุณละหมาดอย่างไร วันละกี่เวลา หาหลักฐานจากไหนมาปฏิบัติ

คุณก็ยังตอบไม่ได้ และที่สำคัญ การละหมาด 5 เวลานั้น เป็นการปฏิบัติ ที่ ทำตามรายละเอียดที่นบีบอกเราครับดังนี้

"ดังที่เราได้ส่งร่อ ซูลผู้หนึ่ง  จากพวกเจ้าเองมาในหมู่พวกเจ้า ซึ่งเขาจะอ่านบรรดาโองการของเราให้พวกเจ้าฟัง และจะทำให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ และจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้แก่พวกเจ้า และจะสอนพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน" (กุรอาน 2:151)

"โดยที่พระองค์ได้ทรง ส่งร่อซูลคนหนึ่งจากพวกเขาเองมาในหมู่พวกเขาโดยที่เขาจะได้อ่านบรรดาโองการ ของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะทำให้พวกเขาสะอาดและจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนาแก่พวกเขาด้วย และแท้จริงเมื่อก่อนนั้นพวกเขาเคยอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง" (กุรอาน 3:164)


คำว่า คัมภีร์ ในภาษาใช้คำว่า กิตาบ  แน่นอน มันก็คือ กุรอาน
ส่วนคำว่า ข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนา ในภาษาอาหรับของโองการนี้ ใช้คำว่า "ฮิกมะตา" หรือ ฮิกมะห์  ซึ่งหมายถึง วิทยปัญญา หรือ กฎ ระเบียบ

โองการนี้ จึงชัดเจนว่า  รอซู้ลนั้น ไม่ได้เป็นแค่ "คนส่งสาร" เท่านั้น  แต่เป็นแบบอย่าง และ แหล่งที่มาของความรู้ทางศาสนาด้วย   หรือ อีกโองการ

"โดยแน่นอน ในร่อซูลของอัลลอฮฺมีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว.."(กุรอาน 33:21)

จึงเห็นได้ว่า   รอซู้ลนั้นไม่ใช่แค่คนบอกข่าว  แต่เป็น  ผู้นำสาส์น , เป็นผู้ตักเตือน , เป็นแหล่งความรู้  และ เป็น แบบฉบับ  ในการปฏิบัติตนของบรรดามุสลิมทั้งหลาย

ดังนั้น ท่านนบี ไม่ได้สอนเรา เฉพาะ กุรอ่านแน่นอนครับ กุรอ่านบอกเราเอง ดังนั้น วิธีการละหมาด จึงหาได้จาก คำสอนของท่านนบี


การที่คุณพยายาม ปรามาศว่า อัลลอฮฺทรงลืมหรือ (อัสตัฆฟิรุลลอฮฺ สามานย์จริงๆ กับคำพูดแบบนี่้) อัลลอฮฺไม่ทรงลืมครับ อัลลอฮฺทรงตรัสแล้ว ว่านบีจะสอนวิทยปัญญา วิธีการต่างๆ แก่เรา ดังนั้น เราจะหาได้จากนบี ครับ
ผมได้ตอบคุณไว้ชัดเจนแล้ว ในอีกหัวข้อหนึ่งครับ
[16:125] จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าแท้จริงพระเจ้าของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง

ออฟไลน์ wisdom

  • Worship God and Messenger of God!
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 165
  • Respect: -29
    • ดูรายละเอียด
ผมย้ำแล้วนะครับว่า

ส่วนการอ้างว่าศึกษากุรอ่านเอง ทำความเข้าใจเอง ไม่ยากนั้น มันเป็นคำโกหก ที่ช่วช้ามาก โดยตัวอย่างของ wisdom เองยังบอกผมไม่ได้เลยว่าละหมาดอย่าไร กุรอ่านสั่งให้ละหมาดครับ และสั่งให้ตามนบี ด้วยครับ


จากการสนทนา กับผู้รู้ทำให้เราเห้นว่า wisdom ไม่รู้ภาษาอาหรับ แบบนี้ถ้าอ้างว่าจะศึกษากุรอ่านเอง นั่นแปลว่า ทำลายศาสนาครับ ไม่ต้องมาถามว่า ทำลายอย่างไร เพราะคนแบบคุณ

ถ้าเขาแปลกุรอ่านมามั่วๆ คุณก็ไม่รู้ว่าคนแปลน่ะมั่ว และในกุรอ่านนั้น ทำความเข้าใจ และแปลรูปประโยคอย่างไร คุณก็ไม่รู้ สำนวนนั้นหมายถึงอย่างไรคุณก็ไม่รู้ นั่นแปลว่า ถ้าใครโกหกใส่กุรอ่าน คนแบบ wisdom จะไม่รู้อะไรเลย

การบอกว่า ทำความเข้าใจกุรอ่านเองนั้น มันโกหกเต็มๆ ครับ ในความจริงคือมักง่าย และหลอกลวงให้คนอื่นหลงทาง

ถ้าแบบนี้ ไม่เรียนบ่อนทำลายอิสลามแล้วจะให้เรียกว่าอะไรไม่ทราบ







สรุปคือ คนแบบคุณ ไม่รู้ภาษาอาหรับ ถ้าใครแปลแบบโกหก มาคุณก็ไม่รู้ เพราะคุณไม่มีปัญญาจะอ่านภาษาอาหรับเอง สำนวนคุณก็ไม่รู้ ดังนั้น คุณไม่มีคุณสมบัติจะศึกษากุรอ่านเองอยู่แล้วล่ะครับ

อัลลอฮฺบอกว่ากุรอ่านนั้นง่าย แต่คุณบอกว่ายาก แถมยังบอกว่าผมโกหก และชั่วช้า?
[54:17] และโดยแน่นอน เราได้ทำให้อัลกุรอานนี้เป็นที่เข้าใจง่ายแก่การรำลึก แล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น


อัลลอฮฺบอกว่ากุรอ่านนั้น (ไว้ตั้งแต่ต้น) สำหรับผู้ที่ยำเกรง ไม่ไช่สำหรับผู้ที่มัความรู้ ปราชญ์ หรือ จำพวกใดจำพวกหนึ่ง?
[2:2] นี่คือคัมภีร์ (ของอัลลอฮ์) ที่ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยอยู่ในนั้น มันเป็นทางนำ สำหรับผู้ที่ยำเกรงต่อพระเจ้า


หวังว่าอายะห์ที่ยกมาข้างต้นคงแปลถูกนะครับ เพราะ อังกฤษ(4 คนแปล) และ ไทย ให้ความหมายเหมือนกัน
[16:125] จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าแท้จริงพระเจ้าของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง

ออฟไลน์ wisdom

  • Worship God and Messenger of God!
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 165
  • Respect: -29
    • ดูรายละเอียด
ผมว่า admin พิจารณา ผู้ใช้นามว่า wisdom ได้แล้วล่ะครับ เพราะตอนนี้ได้เปิดเผยความ ไม่รู้ และการบ่อนทำลายอิสลามมาโดยตรงแล้ว

ละหมาดไปออกกำลังกายไปก็ได้

ละหมาดตลอดเวลา

ละหมาดไม่ได้มี 5 เวลา

แถมยังบอกอะไรที่ขัดกับกุรอ่านอีก

เรียกได้ว่า ผิดพลาด และโกหก ใส่อิสลามเต็มๆ แล้วครับ จะทำอย่างไร? เพราะเท่าที่ไล่ต้อนมา ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาโต้แย้ง ได้แต่เลี่ยงไป หลบมาเท่านั้นเอง



ไม่เอาฮะดีษ แล้วตัวเองละหมาดยังไงก็ไม่บอก อันนี้ปิดบังอำพราง มีวาระซ่อนเร้นแหงๆ
รบกวน admin ช่วยดูด้วยครับเรื่องการ ถูถูก ด่าทอ และใส่ร้ายผู้อื่นด้วยความคิดเห็นส่วนตัว สมควรหรือไม่
[16:125] จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าแท้จริงพระเจ้าของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง

ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ คุณได้เปิดเผยตนเองออกมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว ไม่ช้าเลย เปิดเผยติดๆ กันทีเดียว

อ้างถึง
ผมละหมาดได้ตลอดเวลาครับ ความหมายของละหมาดนั้นกว้างครับ คือการยำเกรง รำลึก ติดต่อ สรรเสริญ ...
ซึ่งถ้าหากมีอัลลอฮฺอยู่ในจิตใจ เราจะต้องยำเกรงตลอดเวลา เมื่อเรายำเกรงตลอดเวลา มีนจะไม่มีช่วงใหนของเรา ที่จะสามารถเข้าใกล้ความชั่วได้เลย ซึ่งการละหมาดด้วยท่าทาง ครั้งละ 5 นาที รวมกัน 5 เวลา ประมาณ 30 นาที/วัน ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ซึ่งหลายคน เอาเวลาบางส่วนที่เหลือ กว่า 23 ชั่วโมง ไปทำชั่ว ฉ้อโกง โกหก

เพราะ แท้จริงนี่คือความหมายของการละหมาดครับ

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

โองการนี้บอกอะไรแก่เราบ้าง

4:103. ครั้นเมื่อพวกเจ้าเสร็จจากการละหมาดแล้ว(*1*) ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืนและนั่งและในสภาพนอนเอกเขนกของพวกเจ้า ครั้นเมื่อพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว ก็จงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด(*2*) แท้จริงการละหมาดนั้นเป็นบัญญัติที่ถูกกำหนดเวลา(*3*)ไว้แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย

รู้สึกว่า โองการนี้ จะกล่าวไปคนละทิศกับคุณเลยนะครับ คุณ wisdom ครับ

อย่างแรก ละหมาดนั้น มีเวลานะครับไม่ใช่ทำตลอดเวลา และบอกด้วยว่า หลังจากเสร็จละหมาดแล้ว ก็กล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ไม่ทราบว่า ความหมายกว้างไปจนถึง รำลึก แล้วเนี่ย ทำไมโองการนี้ถึงบอกว่า กล่าวรำลึก หลังจากเสร็จละหมาดล่ะครับ?

คุณ wisdom ใช้กุรอ่านเท่านั้นเป็นทางนำจริงหรือครับ เหตุใดคุณจึงกล่าวออกมาประหนึ่งว่าคุณแทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับกุรอ่านเลยล่ะครับ

ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
ยืนยันเช่นเดิม

ผมว่า admin พิจารณา ผู้ใช้นามว่า wisdom ได้แล้วล่ะครับ เพราะตอนนี้ได้เปิดเผยความ ไม่รู้ และการบ่อนทำลายอิสลามมาโดยตรงแล้ว

ละหมาดไปออกกำลังกายไปก็ได้

ละหมาดตลอดเวลา

ละหมาดไม่ได้มี 5 เวลา

แถมยังบอกอะไรที่ขัดกับกุรอ่านอีก

เรียกได้ว่า ผิดพลาด และโกหก ใส่อิสลามเต็มๆ แล้วครับ จะทำอย่างไร? เพราะเท่าที่ไล่ต้อนมา ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาโต้แย้ง ได้แต่เลี่ยงไป หลบมาเท่านั้นเอง



ไม่เอาฮะดีษ แล้วตัวเองละหมาดยังไงก็ไม่บอก อันนี้ปิดบังอำพราง มีวาระซ่อนเร้นแหงๆ

ออฟไลน์ wisdom

  • Worship God and Messenger of God!
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 165
  • Respect: -29
    • ดูรายละเอียด
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ คุณได้เปิดเผยตนเองออกมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว ไม่ช้าเลย เปิดเผยติดๆ กันทีเดียว

อ้างถึง
ผมละหมาดได้ตลอดเวลาครับ ความหมายของละหมาดนั้นกว้างครับ คือการยำเกรง รำลึก ติดต่อ สรรเสริญ ...
ซึ่งถ้าหากมีอัลลอฮฺอยู่ในจิตใจ เราจะต้องยำเกรงตลอดเวลา เมื่อเรายำเกรงตลอดเวลา มีนจะไม่มีช่วงใหนของเรา ที่จะสามารถเข้าใกล้ความชั่วได้เลย ซึ่งการละหมาดด้วยท่าทาง ครั้งละ 5 นาที รวมกัน 5 เวลา ประมาณ 30 นาที/วัน ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ซึ่งหลายคน เอาเวลาบางส่วนที่เหลือ กว่า 23 ชั่วโมง ไปทำชั่ว ฉ้อโกง โกหก

เพราะ แท้จริงนี่คือความหมายของการละหมาดครับ

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

โองการนี้บอกอะไรแก่เราบ้าง

4:103. ครั้นเมื่อพวกเจ้าเสร็จจากการละหมาดแล้ว(*1*) ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืนและนั่งและในสภาพนอนเอกเขนกของพวกเจ้า ครั้นเมื่อพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว ก็จงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด(*2*) แท้จริงการละหมาดนั้นเป็นบัญญัติที่ถูกกำหนดเวลา(*3*)ไว้แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย

รู้สึกว่า โองการนี้ จะกล่าวไปคนละทิศกับคุณเลยนะครับ คุณ wisdom ครับ

อย่างแรก ละหมาดนั้น มีเวลานะครับไม่ใช่ทำตลอดเวลา และบอกด้วยว่า หลังจากเสร็จละหมาดแล้ว ก็กล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ไม่ทราบว่า ความหมายกว้างไปจนถึง รำลึก แล้วเนี่ย ทำไมโองการนี้ถึงบอกว่า กล่าวรำลึก หลังจากเสร็จละหมาดล่ะครับ?

คุณ wisdom ใช้กุรอ่านเท่านั้นเป็นทางนำจริงหรือครับ เหตุใดคุณจึงกล่าวออกมาประหนึ่งว่าคุณแทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับกุรอ่านเลยล่ะครับ

ผมได้บอกคุณไปแล้วอย่างไรครับ ว่า ซอลาต นั้น มันเป็นได้หลายความหมาย
มันเหมือนกับการรักษาศีลน่ะครับ ไม่โกหก ไม่ด่าทอ ไม่ฉ้อโกง เอื้อเฟื้อ ตักเตือนกันในสิ่งที่ดี กล่าวสรรเสริญ

ลองดูซูเราห์นี้ครับ และทั้งหมดนี้ สอดคล้องกับ [29:45]  ซึ่งเป็นหลักของการละหมาด จริงไหมครับ?
การละหมาดด้วยท่าทาง ขะสามารถยับยั้งความชั่วได้หรือครับ?

107:1
เจ้าเห็น แล้วมิใช่ หรือ ผู้ที่ปฏิเสธการตอบแทน
107:2
นั่นก็คือผู้ที่ขับไล่เด็กกำพร้า
107:3
 และไม่สนับสนุนในการให้อาหารแก่ผู้ขัดสน
107:4
ดังนั้น ความหายนะจงมีแด่บรรดาผู้ทำละหมาด
107:5
ผู้ที่พวกเขาละเลยต่อการละหมาดของพวกเขา
107:6
ผู้ที่พวกเขาโอ้อวดกัน
107:7
 และพวกเขาหวงแหนเครื่องใช้เล็กๆ น้อย
[16:125] จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าแท้จริงพระเจ้าของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง

ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
มันไม่ช่วยอะไรหรอกครับ เพราะละหมาดนั้น ในโองการได้บอกโดยตัวอยู่แล้วว่า แยกจากการ รำลึกในโองการนั้น ผมถึงบอกไงล่ะครับ คุณไม่มีคุณสมบัติในการทำความเข้าใจกุรอ่านเอง เพราะคุณไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับกุรอ่านจริงๆ โองการที่คุณอ้าง ไม่ได้ช่วยให้ การละหมาด ทำได้ตลอดเวลาอย่างที่คุณอ้างนะครับ แม้แต่โองการที่คุณยกมานั่น ก็แสดงให้เห็น

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

การละหมาดจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว

การยังยั้งการทำลามก และความชั่วนั้น เป็นคนละอย่างกับการทำละหมาดนะครับ แต่การยังยั้งจากความชั่ว เป็นผลจากการละหมาด

ที่คุณอ้างมาว่า

อ้างถึง
ผมได้บอกคุณไปแล้วอย่างไรครับ ว่า ซอลาต นั้น มันเป็นได้หลายความหมาย
มันเหมือนกับการรักษาศีลน่ะครับ ไม่โกหก ไม่ด่าทอ ไม่ฉ้อโกง เอื้อเฟื้อ ตักเตือนกันในสิ่งที่ดี กล่าวสรรเสริญ

จึงไม่เป็นจริง คุณเดาเอาเองนะครับ ปราศจากการอ้างอิงใด เพราะการละหมาดนั้น กุรอ่านบอกชัดเจนว่า ทำเป็นเวลา และมีเวลาต่างๆ ไม่ใช่ตลอดเวลาแบบที่คุณอ้าง เป็นคุณนั่นล่ะครับ ที่ทำนอกกุรอ่าน บิดเบือน กุรอ่าน และอาจจะถึงกับต่อเติมกุรอ่านด้วยซ้ำ

อ่านใหม่อีกครั้ง คุณจะบอกได้ไหมว่า อัลลอฮฺ บอกว่า ละหมาดนั้นเป็นเวลา และมีเวลาต่างๆ ทำไมคุณถึงแย้งกับอัลลอฮฺ ถ้าคุณศึกษากุรอ่านจริง?

ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
ผมถึงบอกไงล่ะครับ จะจับโกหก คนที่พยายามบิดเบือนกุรอ่านนั้น งานนี้ไม่ยากเลย อัลลอฮฺเมตตาให้คุณเผยตัวตนไวมาก

คุณบอกละหมาดตลอดเวลา แต่ละหมาดนั้นอัลลอฮฺกำหนดในกุรอ่านให้เป็นเวลาครับ

คุณบอกว่าละหมาดนั้น เหมือรการรักษาศีล แต่การละหมาดนั้นทำให้ยับยั้งจากการทำชั่ว ไม่ใช่การยับยั้งความชั่วโดยตรงอย่างเดียว

เพราะฉะนั้น ทำละหมาดตลอดเวลานั้น ไม่มีในกุรอ่านนี่ครับ คุณกำลังบิดเบือน และต่อเติมศาสนาโดยอ้างกุรอ่านนะครับ

ออฟไลน์ wisdom

  • Worship God and Messenger of God!
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 165
  • Respect: -29
    • ดูรายละเอียด
มันไม่ช่วยอะไรหรอกครับ เพราะละหมาดนั้น ในโองการได้บอกโดยตัวอยู่แล้วว่า แยกจากการ รำลึกในโองการนั้น ผมถึงบอกไงล่ะครับ คุณไม่มีคุณสมบัติในการทำความเข้าใจกุรอ่านเอง เพราะคุณไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับกุรอ่านจริงๆ โองการที่คุณอ้าง ไม่ได้ช่วยให้ การละหมาด ทำได้ตลอดเวลาอย่างที่คุณอ้างนะครับ แม้แต่โองการที่คุณยกมานั่น ก็แสดงให้เห็น

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

การละหมาดจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว

การยังยั้งการทำลามก และความชั่วนั้น เป็นคนละอย่างกับการทำละหมาดนะครับ แต่การยังยั้งจากความชั่ว เป็นผลจากการละหมาด

ที่คุณอ้างมาว่า

อ้างถึง
ผมได้บอกคุณไปแล้วอย่างไรครับ ว่า ซอลาต นั้น มันเป็นได้หลายความหมาย
มันเหมือนกับการรักษาศีลน่ะครับ ไม่โกหก ไม่ด่าทอ ไม่ฉ้อโกง เอื้อเฟื้อ ตักเตือนกันในสิ่งที่ดี กล่าวสรรเสริญ

จึงไม่เป็นจริง คุณเดาเอาเองนะครับ ปราศจากการอ้างอิงใด เพราะการละหมาดนั้น กุรอ่านบอกชัดเจนว่า ทำเป็นเวลา และมีเวลาต่างๆ ไม่ใช่ตลอดเวลาแบบที่คุณอ้าง เป็นคุณนั่นล่ะครับ ที่ทำนอกกุรอ่าน บิดเบือน กุรอ่าน และอาจจะถึงกับต่อเติมกุรอ่านด้วยซ้ำ

อ่านใหม่อีกครั้ง คุณจะบอกได้ไหมว่า อัลลอฮฺ บอกว่า ละหมาดนั้นเป็นเวลา และมีเวลาต่างๆ ทำไมคุณถึงแย้งกับอัลลอฮฺ ถ้าคุณศึกษากุรอ่านจริง?

ใช่ครับ ละหมาด จะส่งผลให้ [29:45] สามารถยังยั้งจากความชั่ว และนี่คือความหมายที่ชัดเจนของการละหมาด(แท้จริง)
แต่ถ้าละหมาดด้วยท่าทาง หรือเป็นเวลา จะสามารถช่วยยับยั้งจากความเชื่อได้ตลอดหรือ?

และเรื่องที่ผมบอกว่าการละหมาด เปรียบเสมือนการรักษาศีล ซึ่งเราจะต้องละหมาดอยู่ตลอดเวลา เพราะเราจะต้องมีความสามารถที่จะยับยั้งความชั่วได้ตลอดเวลา
ไม่ใช่เพียงแค่วันละ 5 เวลา ต่อครั้งละประมาณ 5 นาที

และที่ผมแปลว่ารักษาศีลนั้น ศีลมีทั้งสำหรับเรา และสำหรับรสูล
ศีลของเราก็คือ ไม่พูดโกหก พูดจาดี ทำดีต่อพี่น้อง ทำดีต่อญาติมิตร และอีกมากมาย เช่นใน [107] ซึ่งค่อนข้างชัดเจน
และศีลของรสูลก็มีเช่นกัน ก็คือ การส่งสาร

ซึ่งเราก็ต้องรักษาศีลของเรา และรสูลก็ต้องรักษาศีลของรสูล

ลองดูครับ ไม่ขัดแย้งกับกุรอ่านเลย

ละหมาดนั้นเป็นสิ่งที่ดีครับ สามารถสอนเราได้หลายอย่าง ไม่ไช่เป็นการทำซึ่งด้วยท่าทางเพื่อการสักการะ
[11:85] และโอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย ! พวกท่านจงให้ครบสมบูรณ์ไว้ ซึ่งการตวง และการชั่งโดยเที่ยงธรรม และอย่าให้บกพร่องแก่มนุษย์ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ของพวกเขา และอย่าก่อกวนในแผ่นดินโดยเป็นผู้บ่อนทำลาย


[11:87] พวกเขากล่าวว่า โอ้ชุอัยบ์เอ๋ย ! การละหมาดของท่านสั่งสอนท่านว่า ให้พวกเราละทิ้งสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเคารพบูชา หรือว่าให้เรากระทำต่อทรัพย์สินของเราตามที่เราต้องการกระนั้น หรือ?แท้จริงท่านนั้นเป็นผู้อดทนขันติ เป็นผู้มีสติปัญญา

ใน [11:85] ได้พูดถึงเรื่อง การชั่งตวง...ความเที่ยงธรรม... ฯลฯ และใน [11:87]  ก็ได้ถามว่า การละหมาด[11:85] นั้นสอนอะไร
แต่การละหมาดด้วยท่าทางนั้น สอนเราเรื่องละทิ้งสิ่งที่บรรพบุรุษเคารพบูชา ไม่ได้

รวมทั้งการละหมาดยังสามารถช่วยให้เรายับยั้งจากความชั่วได้อีก อย่างที่กล่าวไปแล้วใน [29:45]
ซึ่งแน่นอนการละหมาดด้วยท่าทางไม่สามารถช่วยได้ บางคนละหมาดด้วยท่าทาง จิตใจก็ยังไปอยู่กับอย่างอีกอื่นด้วย

ไว้ค่อยมาต่อนะครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเท่าใหร่ครับ
[16:125] จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าแท้จริงพระเจ้าของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง

ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
ใช่ครับ ละหมาด จะส่งผลให้ [29:45] สามารถยังยั้งจากความชั่ว และนี่คือความหมายที่ชัดเจนของการละหมาด(แท้จริง)
แต่ถ้าละหมาดด้วยท่าทาง หรือเป็นเวลา จะสามารถช่วยยับยั้งจากความเชื่อได้ตลอดหรือ?

และเรื่องที่ผมบอกว่าการละหมาด เปรียบเสมือนการรักษาศีล ซึ่งเราจะต้องละหมาดอยู่ตลอดเวลา เพราะเราจะต้องมีความสามารถที่จะยับยั้งความชั่วได้ตลอดเวลา
ไม่ใช่เพียงแค่วันละ 5 เวลา ต่อครั้งละประมาณ 5 นาที

อันนี้ชัดเจนว่า คุณกำลังบิดเบือน และต่อเติมกุรอ่านเองนะครับ กุรอ่านบอกว่า ละหมาดนั้นเป็นเวลา มีการละหมาดเสร็จ และมีบอกเวลาละหมาดต่างๆ คุณจะปฏิเสธหรือครับว่า ละหมาดนั้น ไม่ได้เป็นเวลา ตามที่กุรอ่านบอก

นี่แสดงว่าคุณยึดถือสิ่งอื่นแทนกุรอ่านแล้วครับ เพราะคุณกล่าวสิ่งที่ขัดกับกุรอ่าน

ส่วนการละหมาด ยับยั้งความชั่วได้นั้น เป็นผลจากการละหมาดนะครับ นั่นแปลว่า ถ้ากุรอ่านบอกว่า ละหมาดเป็นเวลา ไม่ใช่ตลอดเวลา การยับยั้งความชั่วของละหมาดนั้น คือผลของการละหมาดตามเวลาอย่างถูกต้องครับ แต่ถ้าละหมาดโดยไม่ยำเกรง ละหมาดโดยไม่มีสมาธิไม่มีวิญญาณ การละหมาดย่อมไม่ช่วยเขา ดังนี้

“ดังนั้นความวิบัติจงมีแด่ผู้ละหมาด ผู้ล่าช้าในการละหมาด ผู้ที่ทำความดีเพื่อที่จะให้คนอื่นเห็นและปฏิเสธการให้ยืมสิ่งเล็กๆน้อยๆ (อัลมาอูน ๔-๗)” (อัลมาอูน  : 4-5)
นี่คือผลที่ละหมาดแล้วทำไมไม่ยับยั้งความชั่ว ทั้งที่ละหมาด แต่เขาละเลยการละหมาด

ไม่ใช่ ละหมาดตลอดเวลา เพราะกุรอ่านบอกว่า ละหมาดเป็นเวลา ไม่ใช่ตลอดเวลาครับ ย้ำนะครับว่า กุรอ่านบอกว่าละหมาด มีเวลาของมัน ไม่ใช่ละหมาดตลอดเวลา

คุณกำลังขัดกับกุรอ่านอยู่นะครับ

คำอ้างนี้ก็ผิด

อ้างถึง
แต่การละหมาดด้วยท่าทางนั้น สอนเราเรื่องละทิ้งสิ่งที่บรรพบุรุษเคารพบูชา ไม่ได้

เพราะกุรอ่านนั้น มีการอ่านโองการในนั้นด้วยครับ จึงสอนได้อยู่แล้ว

ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
ดังนั้นสรุปได้ดังนี้

1. คุณบอกว่าละหมาดไปออกกำลังกายไปด้วยได้ แต่กุรอ่านให้ยืนละหมาด ยกเว้นช่วงคับขัน ดังนั้นเมื่อผมหลอกถามว่าละหมาดไปออกกำลังกายไปได้ไหม คุณบอกว่าได้ แสดงว่าขัดกับกุรอ่าน

2. คุณบอกว่าละหมาดตลอดเวลา ได้นั้น ผิดครับ เพราะกุรอ่านบอกว่าละหมาดมีเป็นเวลา

3. คุณบอกว่าละหมาดแบบท่าทางสอนเรื่องต่างๆ ไม่ได้ แต่การละหมาดนั้นมีการอ่านโองการต่างๆ นะครับ




สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า การที่คุณเข้ามา หลอกถามเรื่องละหมาด โดยกล่าวมั่วๆ เพื่อเอาข้อมูลไปตอบในพันทิพนั้น ผมรู้ครับ เดาได้ไม่ยาก แต่มันช่วยไม่ได้หรอกครับ เพราะกุรอ่านให้เรารู้ว่า กุรอ่านเป็นเวลา แต่ไม่ได้มองว่า มีกี่เวลาชัดเจนแน่นอน ดังนั้น ต้องอาศัยฮะดีษอยู่ดี ผมไม่หา 5 เวลาให้คุณ ไปแย้งผมในพันทิพหรอกนะครับ

ออฟไลน์ wisdom

  • Worship God and Messenger of God!
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 165
  • Respect: -29
    • ดูรายละเอียด
ขอเวลาสักพักนะครับ ช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่ง ไว้จะกลับมาตอบครับ
[16:125] จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าแท้จริงพระเจ้าของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในทางที่ถูกต้อง

ออฟไลน์ moorid

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 14
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
ขอเวลาสักพักนะครับ ช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่ง ไว้จะกลับมาตอบครับ

  ;Dแนะยังไม่สำนึกอีก  ไปเถิดครับ ไปสู่ที่ชอบๆเถอะครับ คนในเวปนี้ไม่ต้องการ พวกกรุอานียีน(กอดยานี)อย่างท่านหรอกคับ แล้วไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้าอีกนะ..จำใส่กระโหลกไว้ด้วย...

จนกว่าท่านจะได้ทำการเตาบัตตัวและเข้ารับกลาเมาะ 2 ชาฮาดะใหม่แล้วให้พี่น้องเวปนี้รับทราบก่อนแล้ว  ค่อยว่ากันอีกที...เข้าใจ๊.... ;D

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php/topic,5716.msg75715.html#msg75715

มาชาอัลลอฮ์  เป็นคนๆเดียวกันจริงด้วย

วัสลาม

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
อ่านกระทู้นี้ทีไร นึกถึงใครบางคนในเว็บพันทิปขึ้นมาตะหงิดๆ
ใช่คนๆเดียวกันรึเปล่าก็ไม่รู้สิคะ...

แต่ติดตามการเสวนาระหว่าง ท่าน Carrothz กับแมทท์ในเว็บพันทิปมานานมากๆ
เกี่ยวกับหลายๆกรณี ว่าด้วยเรื่องของอิสลาม...
ก่อนจะมาเจอเว็บนี้ เนื่องจากติดตามมาจากเว็ปพันทิปนี่แหล่ะค่ะ
ถึงได้เจอเว็บแห่งนี้...คงต้องขอบคุณท่าน Carrothz และแมทท์ที่ทำให้เราได้เจอเว็บนี้

อ่านกระทู้นี้มาตั้งแต่หน้าแรกจนหน้านี้ ลุ้นๆอยู่ว่าจะมีใครยกเรื่องละหมาดขึ้นมานะ
และก็ไม่ผิดคาด มีคนยกเรื่องละหมาดมาจริงๆด้วย...

เพราะคิดว่า...หากมีใครสักคนเชื่ออัลกุรอ่านแต่ปฏิเสธอัลหะดิษหรือปฏิเสธกิจวัตร
ของท่านนบีที่ถูกรายงานมา การละหมาดจะเป็นคำตอบให้กับเขาได้
ว่าหากเขาจะละหมาดหรือไปทำฮัจย์แล้ว อย่างไรเสียเขาก็มิอาจปฏิเสธหะดิษ
หรือปฏิเสธนบีมุฮัมหมัดได้...

ใครที่นิยมตรรก ยิ่งได้รับวัฒนธรรมมาจากชาวตะวันตก
ก็มักจะเดินพลัดหลงได้โดยง่ายดาย...

และที่สำคัญ...การให้เกียรติความรู้ ต้องควบคู่ไปกับการให้เกียรติครู
เราจะศึกษาความรู้โดยไม่ให้เกียรติครูได้อย่างไร...

และเราจะบอกได้อย่างไรว่าเราไม่มีครู เราศึกษาทุกอย่างด้วยตัวเอง
ในเมื่อทุกๆตัวอักษรที่เราพิมพ์อยู่ก็มีคนคิดมาให้เรา เราถึงมีอักษรใช้
ใช่เราหรือที่ประดิษฐ์ตัวอักษรเหล่านั้นขึ้นมาได้...คนสมัยก่อนเขาทำงานหนักกันมาแค่ไหน...
เขาแบกวิชาความรู้มาเท่าไหร่ มันถึงได้ตกทอดมายังเรา...

และเราลืมไปได้อย่างไรว่า...ทุกๆคำที่เรานำมากล่าวอ้างนั้นมีผู้ร้อยเรียงมาให้เรา...

หรือเราลืมครูของเราไป...ครูที่ไม่ได้มีชีวิตขึ้นมาเพื่อบอกเราอีก...
แต่ครูที่ว่าก็ได้ทิ้งสิ่งดีงามเอาไว้ให้เรา...
แล้วใยเราถึงไม่ให้เกียรติ...


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged