เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

อัลลอฮฺ ไม่เคยสั่งให้เราเชื่อ 'นบี' แต่สั่งให้เราเชื่อ 'รอซูล' / รอซูล และนบี นั้นต่างกันอย่างไร?

<< < (22/25) > >>

wisdom:

--- อ้างจาก: Carrothz ที่ เม.ย. 22, 2012, 08:40 AM ---ผมบอกแต่แรกแล้วนะครับว่า ถ้าในกุรอ่าน เราจะไม่รู้ ว่า การละหมาดนั้น ในแต่ละวันมีกี่เวลา ผมถึงถามคุณไงล่ะครับ ว่า เมื่อคุณ ไม่ละหมาด 5 เวลา แล้วคุณละหมาดวันล่ะกี่เวลา?

ก็ไม่ปรากฎว่า ได้คำตอบ สรุปคือ คุณเลี่ยงบอกไม่ได้ว่าคุณละหมาดวันละกี่เวลากันแน่ นั่นเพราะคุณไม่สามารถสรุปได้นั่นเอง

ก็ตรงกับที่ผมบอกไปนั่นล่ะครับ ถ้าไม่ฮะดีษ คุณจะไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้เลย และการปฏิบัติศาสนกิจของคุณจะมั่ว และไม่ตรงกับหลักศาสนาแน่นอน


จนบัดนี้ คุณก็ยังบอกไม่ได้ว่าคุณละหมาดอย่างไร หรือไม่ได้ละหมาด แล้วละหมาดไป วิดพื้นไปได้หรือเปล่าครับ เพราะกุรอ่านไม่ได้ห้ามใช่ไหม?

--- End quote ---
ผมละหมาดได้ตลอดเวลาครับ ความหมายของละหมาดนั้นกว้างครับ คือการยำเกรง รำลึก ติดต่อ สรรเสริญ ...
ซึ่งถ้าหากมีอัลลอฮฺอยู่ในจิตใจ เราจะต้องยำเกรงตลอดเวลา เมื่อเรายำเกรงตลอดเวลา มีนจะไม่มีช่วงใหนของเรา ที่จะสามารถเข้าใกล้ความชั่วได้เลย ซึ่งการละหมาดด้วยท่าทาง ครั้งละ 5 นาที รวมกัน 5 เวลา ประมาณ 30 นาที/วัน ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ซึ่งหลายคน เอาเวลาบางส่วนที่เหลือ กว่า 23 ชั่วโมง ไปทำชั่ว ฉ้อโกง โกหก

เพราะ แท้จริงนี่คือความหมายของการละหมาดครับ

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

wisdom:

--- อ้างจาก: Carrothz ที่ เม.ย. 22, 2012, 08:45 AM ---มุสลิมก็มีจำนวนน้อยกว่า คริสต์ และผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่แล้วละครับ ไม่ได้มีมากกว่า มันจึงไม่แปลก แต่ที่แปลกคือ อัลลอฮฺสั่งใช้ให้ตามนบี และปฏิบัติตามนบีนะครับ นี่อคือคำสั่งของอัลลอฮฺ เพราะถ้ามีปัญหา แล้วไม่หานบี ก็จะเป็นแบบคุณ ที่จนบัดนี้ ยังตอบผมไม่ได้เลยว่าคุณละหมาดอย่างไร วันละกี่เวลา หาหลักฐานจากไหนมาปฏิบัติ

คุณก็ยังตอบไม่ได้ และที่สำคัญ การละหมาด 5 เวลานั้น เป็นการปฏิบัติ ที่ ทำตามรายละเอียดที่นบีบอกเราครับดังนี้

"ดังที่เราได้ส่งร่อ ซูลผู้หนึ่ง  จากพวกเจ้าเองมาในหมู่พวกเจ้า ซึ่งเขาจะอ่านบรรดาโองการของเราให้พวกเจ้าฟัง และจะทำให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ และจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้แก่พวกเจ้า และจะสอนพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน" (กุรอาน 2:151)

"โดยที่พระองค์ได้ทรง ส่งร่อซูลคนหนึ่งจากพวกเขาเองมาในหมู่พวกเขาโดยที่เขาจะได้อ่านบรรดาโองการ ของพระองค์ให้พวกเขาฟัง และจะทำให้พวกเขาสะอาดและจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนาแก่พวกเขาด้วย และแท้จริงเมื่อก่อนนั้นพวกเขาเคยอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง" (กุรอาน 3:164)


คำว่า คัมภีร์ ในภาษาใช้คำว่า กิตาบ  แน่นอน มันก็คือ กุรอาน
ส่วนคำว่า ข้อปฏิบัติในบัญญัติศาสนา ในภาษาอาหรับของโองการนี้ ใช้คำว่า "ฮิกมะตา" หรือ ฮิกมะห์  ซึ่งหมายถึง วิทยปัญญา หรือ กฎ ระเบียบ

โองการนี้ จึงชัดเจนว่า  รอซู้ลนั้น ไม่ได้เป็นแค่ "คนส่งสาร" เท่านั้น  แต่เป็นแบบอย่าง และ แหล่งที่มาของความรู้ทางศาสนาด้วย   หรือ อีกโองการ

"โดยแน่นอน ในร่อซูลของอัลลอฮฺมีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว.."(กุรอาน 33:21)

จึงเห็นได้ว่า   รอซู้ลนั้นไม่ใช่แค่คนบอกข่าว  แต่เป็น  ผู้นำสาส์น , เป็นผู้ตักเตือน , เป็นแหล่งความรู้  และ เป็น แบบฉบับ  ในการปฏิบัติตนของบรรดามุสลิมทั้งหลาย

ดังนั้น ท่านนบี ไม่ได้สอนเรา เฉพาะ กุรอ่านแน่นอนครับ กุรอ่านบอกเราเอง ดังนั้น วิธีการละหมาด จึงหาได้จาก คำสอนของท่านนบี


การที่คุณพยายาม ปรามาศว่า อัลลอฮฺทรงลืมหรือ (อัสตัฆฟิรุลลอฮฺ สามานย์จริงๆ กับคำพูดแบบนี่้) อัลลอฮฺไม่ทรงลืมครับ อัลลอฮฺทรงตรัสแล้ว ว่านบีจะสอนวิทยปัญญา วิธีการต่างๆ แก่เรา ดังนั้น เราจะหาได้จากนบี ครับ

--- End quote ---
ผมได้ตอบคุณไว้ชัดเจนแล้ว ในอีกหัวข้อหนึ่งครับ

wisdom:

--- อ้างจาก: Carrothz ที่ เม.ย. 22, 2012, 08:47 AM ---ผมย้ำแล้วนะครับว่า

ส่วนการอ้างว่าศึกษากุรอ่านเอง ทำความเข้าใจเอง ไม่ยากนั้น มันเป็นคำโกหก ที่ช่วช้ามาก โดยตัวอย่างของ wisdom เองยังบอกผมไม่ได้เลยว่าละหมาดอย่าไร กุรอ่านสั่งให้ละหมาดครับ และสั่งให้ตามนบี ด้วยครับ


จากการสนทนา กับผู้รู้ทำให้เราเห้นว่า wisdom ไม่รู้ภาษาอาหรับ แบบนี้ถ้าอ้างว่าจะศึกษากุรอ่านเอง นั่นแปลว่า ทำลายศาสนาครับ ไม่ต้องมาถามว่า ทำลายอย่างไร เพราะคนแบบคุณ

ถ้าเขาแปลกุรอ่านมามั่วๆ คุณก็ไม่รู้ว่าคนแปลน่ะมั่ว และในกุรอ่านนั้น ทำความเข้าใจ และแปลรูปประโยคอย่างไร คุณก็ไม่รู้ สำนวนนั้นหมายถึงอย่างไรคุณก็ไม่รู้ นั่นแปลว่า ถ้าใครโกหกใส่กุรอ่าน คนแบบ wisdom จะไม่รู้อะไรเลย

การบอกว่า ทำความเข้าใจกุรอ่านเองนั้น มันโกหกเต็มๆ ครับ ในความจริงคือมักง่าย และหลอกลวงให้คนอื่นหลงทาง

ถ้าแบบนี้ ไม่เรียนบ่อนทำลายอิสลามแล้วจะให้เรียกว่าอะไรไม่ทราบ







สรุปคือ คนแบบคุณ ไม่รู้ภาษาอาหรับ ถ้าใครแปลแบบโกหก มาคุณก็ไม่รู้ เพราะคุณไม่มีปัญญาจะอ่านภาษาอาหรับเอง สำนวนคุณก็ไม่รู้ ดังนั้น คุณไม่มีคุณสมบัติจะศึกษากุรอ่านเองอยู่แล้วล่ะครับ

--- End quote ---

อัลลอฮฺบอกว่ากุรอ่านนั้นง่าย แต่คุณบอกว่ายาก แถมยังบอกว่าผมโกหก และชั่วช้า?
[54:17] และโดยแน่นอน เราได้ทำให้อัลกุรอานนี้เป็นที่เข้าใจง่ายแก่การรำลึก แล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น


อัลลอฮฺบอกว่ากุรอ่านนั้น (ไว้ตั้งแต่ต้น) สำหรับผู้ที่ยำเกรง ไม่ไช่สำหรับผู้ที่มัความรู้ ปราชญ์ หรือ จำพวกใดจำพวกหนึ่ง?
[2:2] นี่คือคัมภีร์ (ของอัลลอฮ์) ที่ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยอยู่ในนั้น มันเป็นทางนำ สำหรับผู้ที่ยำเกรงต่อพระเจ้า


หวังว่าอายะห์ที่ยกมาข้างต้นคงแปลถูกนะครับ เพราะ อังกฤษ(4 คนแปล) และ ไทย ให้ความหมายเหมือนกัน

wisdom:

--- อ้างจาก: Carrothz ที่ เม.ย. 22, 2012, 01:47 PM ---ผมว่า admin พิจารณา ผู้ใช้นามว่า wisdom ได้แล้วล่ะครับ เพราะตอนนี้ได้เปิดเผยความ ไม่รู้ และการบ่อนทำลายอิสลามมาโดยตรงแล้ว

ละหมาดไปออกกำลังกายไปก็ได้

ละหมาดตลอดเวลา

ละหมาดไม่ได้มี 5 เวลา

แถมยังบอกอะไรที่ขัดกับกุรอ่านอีก

เรียกได้ว่า ผิดพลาด และโกหก ใส่อิสลามเต็มๆ แล้วครับ จะทำอย่างไร? เพราะเท่าที่ไล่ต้อนมา ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาโต้แย้ง ได้แต่เลี่ยงไป หลบมาเท่านั้นเอง



ไม่เอาฮะดีษ แล้วตัวเองละหมาดยังไงก็ไม่บอก อันนี้ปิดบังอำพราง มีวาระซ่อนเร้นแหงๆ

--- End quote ---
รบกวน admin ช่วยดูด้วยครับเรื่องการ ถูถูก ด่าทอ และใส่ร้ายผู้อื่นด้วยความคิดเห็นส่วนตัว สมควรหรือไม่

Carrothz:
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ คุณได้เปิดเผยตนเองออกมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว ไม่ช้าเลย เปิดเผยติดๆ กันทีเดียว


--- อ้างถึง ---ผมละหมาดได้ตลอดเวลาครับ ความหมายของละหมาดนั้นกว้างครับ คือการยำเกรง รำลึก ติดต่อ สรรเสริญ ...
ซึ่งถ้าหากมีอัลลอฮฺอยู่ในจิตใจ เราจะต้องยำเกรงตลอดเวลา เมื่อเรายำเกรงตลอดเวลา มีนจะไม่มีช่วงใหนของเรา ที่จะสามารถเข้าใกล้ความชั่วได้เลย ซึ่งการละหมาดด้วยท่าทาง ครั้งละ 5 นาที รวมกัน 5 เวลา ประมาณ 30 นาที/วัน ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ซึ่งหลายคน เอาเวลาบางส่วนที่เหลือ กว่า 23 ชั่วโมง ไปทำชั่ว ฉ้อโกง โกหก

เพราะ แท้จริงนี่คือความหมายของการละหมาดครับ

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ
--- End quote ---

โองการนี้บอกอะไรแก่เราบ้าง

4:103. ครั้นเมื่อพวกเจ้าเสร็จจากการละหมาดแล้ว(*1*) ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืนและนั่งและในสภาพนอนเอกเขนกของพวกเจ้า ครั้นเมื่อพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว ก็จงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด(*2*) แท้จริงการละหมาดนั้นเป็นบัญญัติที่ถูกกำหนดเวลา(*3*)ไว้แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย

รู้สึกว่า โองการนี้ จะกล่าวไปคนละทิศกับคุณเลยนะครับ คุณ wisdom ครับ

อย่างแรก ละหมาดนั้น มีเวลานะครับไม่ใช่ทำตลอดเวลา และบอกด้วยว่า หลังจากเสร็จละหมาดแล้ว ก็กล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ไม่ทราบว่า ความหมายกว้างไปจนถึง รำลึก แล้วเนี่ย ทำไมโองการนี้ถึงบอกว่า กล่าวรำลึก หลังจากเสร็จละหมาดล่ะครับ?

คุณ wisdom ใช้กุรอ่านเท่านั้นเป็นทางนำจริงหรือครับ เหตุใดคุณจึงกล่าวออกมาประหนึ่งว่าคุณแทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับกุรอ่านเลยล่ะครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version