เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

อัลลอฮฺ ไม่เคยสั่งให้เราเชื่อ 'นบี' แต่สั่งให้เราเชื่อ 'รอซูล' / รอซูล และนบี นั้นต่างกันอย่างไร?

<< < (23/25) > >>

Carrothz:
ยืนยันเช่นเดิม

ผมว่า admin พิจารณา ผู้ใช้นามว่า wisdom ได้แล้วล่ะครับ เพราะตอนนี้ได้เปิดเผยความ ไม่รู้ และการบ่อนทำลายอิสลามมาโดยตรงแล้ว

ละหมาดไปออกกำลังกายไปก็ได้

ละหมาดตลอดเวลา

ละหมาดไม่ได้มี 5 เวลา

แถมยังบอกอะไรที่ขัดกับกุรอ่านอีก

เรียกได้ว่า ผิดพลาด และโกหก ใส่อิสลามเต็มๆ แล้วครับ จะทำอย่างไร? เพราะเท่าที่ไล่ต้อนมา ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาโต้แย้ง ได้แต่เลี่ยงไป หลบมาเท่านั้นเอง



ไม่เอาฮะดีษ แล้วตัวเองละหมาดยังไงก็ไม่บอก อันนี้ปิดบังอำพราง มีวาระซ่อนเร้นแหงๆ

wisdom:

--- อ้างจาก: Carrothz ที่ เม.ย. 23, 2012, 09:59 PM ---อัลฮัมดุลิลลาฮฺ คุณได้เปิดเผยตนเองออกมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว ไม่ช้าเลย เปิดเผยติดๆ กันทีเดียว


--- อ้างถึง ---ผมละหมาดได้ตลอดเวลาครับ ความหมายของละหมาดนั้นกว้างครับ คือการยำเกรง รำลึก ติดต่อ สรรเสริญ ...
ซึ่งถ้าหากมีอัลลอฮฺอยู่ในจิตใจ เราจะต้องยำเกรงตลอดเวลา เมื่อเรายำเกรงตลอดเวลา มีนจะไม่มีช่วงใหนของเรา ที่จะสามารถเข้าใกล้ความชั่วได้เลย ซึ่งการละหมาดด้วยท่าทาง ครั้งละ 5 นาที รวมกัน 5 เวลา ประมาณ 30 นาที/วัน ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ซึ่งหลายคน เอาเวลาบางส่วนที่เหลือ กว่า 23 ชั่วโมง ไปทำชั่ว ฉ้อโกง โกหก

เพราะ แท้จริงนี่คือความหมายของการละหมาดครับ

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ
--- End quote ---

โองการนี้บอกอะไรแก่เราบ้าง

4:103. ครั้นเมื่อพวกเจ้าเสร็จจากการละหมาดแล้ว(*1*) ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืนและนั่งและในสภาพนอนเอกเขนกของพวกเจ้า ครั้นเมื่อพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว ก็จงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด(*2*) แท้จริงการละหมาดนั้นเป็นบัญญัติที่ถูกกำหนดเวลา(*3*)ไว้แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย

รู้สึกว่า โองการนี้ จะกล่าวไปคนละทิศกับคุณเลยนะครับ คุณ wisdom ครับ

อย่างแรก ละหมาดนั้น มีเวลานะครับไม่ใช่ทำตลอดเวลา และบอกด้วยว่า หลังจากเสร็จละหมาดแล้ว ก็กล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ไม่ทราบว่า ความหมายกว้างไปจนถึง รำลึก แล้วเนี่ย ทำไมโองการนี้ถึงบอกว่า กล่าวรำลึก หลังจากเสร็จละหมาดล่ะครับ?

คุณ wisdom ใช้กุรอ่านเท่านั้นเป็นทางนำจริงหรือครับ เหตุใดคุณจึงกล่าวออกมาประหนึ่งว่าคุณแทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับกุรอ่านเลยล่ะครับ

--- End quote ---

ผมได้บอกคุณไปแล้วอย่างไรครับ ว่า ซอลาต นั้น มันเป็นได้หลายความหมาย
มันเหมือนกับการรักษาศีลน่ะครับ ไม่โกหก ไม่ด่าทอ ไม่ฉ้อโกง เอื้อเฟื้อ ตักเตือนกันในสิ่งที่ดี กล่าวสรรเสริญ

ลองดูซูเราห์นี้ครับ และทั้งหมดนี้ สอดคล้องกับ [29:45]  ซึ่งเป็นหลักของการละหมาด จริงไหมครับ?
การละหมาดด้วยท่าทาง ขะสามารถยับยั้งความชั่วได้หรือครับ?

107:1
เจ้าเห็น แล้วมิใช่ หรือ ผู้ที่ปฏิเสธการตอบแทน
107:2
นั่นก็คือผู้ที่ขับไล่เด็กกำพร้า
107:3
 และไม่สนับสนุนในการให้อาหารแก่ผู้ขัดสน
107:4
ดังนั้น ความหายนะจงมีแด่บรรดาผู้ทำละหมาด
107:5
ผู้ที่พวกเขาละเลยต่อการละหมาดของพวกเขา
107:6
ผู้ที่พวกเขาโอ้อวดกัน
107:7
 และพวกเขาหวงแหนเครื่องใช้เล็กๆ น้อย

Carrothz:
มันไม่ช่วยอะไรหรอกครับ เพราะละหมาดนั้น ในโองการได้บอกโดยตัวอยู่แล้วว่า แยกจากการ รำลึกในโองการนั้น ผมถึงบอกไงล่ะครับ คุณไม่มีคุณสมบัติในการทำความเข้าใจกุรอ่านเอง เพราะคุณไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับกุรอ่านจริงๆ โองการที่คุณอ้าง ไม่ได้ช่วยให้ การละหมาด ทำได้ตลอดเวลาอย่างที่คุณอ้างนะครับ แม้แต่โองการที่คุณยกมานั่น ก็แสดงให้เห็น

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

การละหมาดจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว

การยังยั้งการทำลามก และความชั่วนั้น เป็นคนละอย่างกับการทำละหมาดนะครับ แต่การยังยั้งจากความชั่ว เป็นผลจากการละหมาด

ที่คุณอ้างมาว่า


--- อ้างถึง ---ผมได้บอกคุณไปแล้วอย่างไรครับ ว่า ซอลาต นั้น มันเป็นได้หลายความหมาย
มันเหมือนกับการรักษาศีลน่ะครับ ไม่โกหก ไม่ด่าทอ ไม่ฉ้อโกง เอื้อเฟื้อ ตักเตือนกันในสิ่งที่ดี กล่าวสรรเสริญ
--- End quote ---

จึงไม่เป็นจริง คุณเดาเอาเองนะครับ ปราศจากการอ้างอิงใด เพราะการละหมาดนั้น กุรอ่านบอกชัดเจนว่า ทำเป็นเวลา และมีเวลาต่างๆ ไม่ใช่ตลอดเวลาแบบที่คุณอ้าง เป็นคุณนั่นล่ะครับ ที่ทำนอกกุรอ่าน บิดเบือน กุรอ่าน และอาจจะถึงกับต่อเติมกุรอ่านด้วยซ้ำ

อ่านใหม่อีกครั้ง คุณจะบอกได้ไหมว่า อัลลอฮฺ บอกว่า ละหมาดนั้นเป็นเวลา และมีเวลาต่างๆ ทำไมคุณถึงแย้งกับอัลลอฮฺ ถ้าคุณศึกษากุรอ่านจริง?

Carrothz:
ผมถึงบอกไงล่ะครับ จะจับโกหก คนที่พยายามบิดเบือนกุรอ่านนั้น งานนี้ไม่ยากเลย อัลลอฮฺเมตตาให้คุณเผยตัวตนไวมาก

คุณบอกละหมาดตลอดเวลา แต่ละหมาดนั้นอัลลอฮฺกำหนดในกุรอ่านให้เป็นเวลาครับ

คุณบอกว่าละหมาดนั้น เหมือรการรักษาศีล แต่การละหมาดนั้นทำให้ยับยั้งจากการทำชั่ว ไม่ใช่การยับยั้งความชั่วโดยตรงอย่างเดียว

เพราะฉะนั้น ทำละหมาดตลอดเวลานั้น ไม่มีในกุรอ่านนี่ครับ คุณกำลังบิดเบือน และต่อเติมศาสนาโดยอ้างกุรอ่านนะครับ

wisdom:

--- อ้างจาก: Carrothz ที่ เม.ย. 24, 2012, 09:23 AM ---มันไม่ช่วยอะไรหรอกครับ เพราะละหมาดนั้น ในโองการได้บอกโดยตัวอยู่แล้วว่า แยกจากการ รำลึกในโองการนั้น ผมถึงบอกไงล่ะครับ คุณไม่มีคุณสมบัติในการทำความเข้าใจกุรอ่านเอง เพราะคุณไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับกุรอ่านจริงๆ โองการที่คุณอ้าง ไม่ได้ช่วยให้ การละหมาด ทำได้ตลอดเวลาอย่างที่คุณอ้างนะครับ แม้แต่โองการที่คุณยกมานั่น ก็แสดงให้เห็น

[29:45]เจ้าจงอ่านสิ่งที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าจากคัมภีร์ และจงดำรงการละหมาด (เพราะ) แท้จริงการละหมาดนั้นจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว และการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

การละหมาดจะยับยั้งการทำลามก และความชั่ว

การยังยั้งการทำลามก และความชั่วนั้น เป็นคนละอย่างกับการทำละหมาดนะครับ แต่การยังยั้งจากความชั่ว เป็นผลจากการละหมาด

ที่คุณอ้างมาว่า


--- อ้างถึง ---ผมได้บอกคุณไปแล้วอย่างไรครับ ว่า ซอลาต นั้น มันเป็นได้หลายความหมาย
มันเหมือนกับการรักษาศีลน่ะครับ ไม่โกหก ไม่ด่าทอ ไม่ฉ้อโกง เอื้อเฟื้อ ตักเตือนกันในสิ่งที่ดี กล่าวสรรเสริญ
--- End quote ---

จึงไม่เป็นจริง คุณเดาเอาเองนะครับ ปราศจากการอ้างอิงใด เพราะการละหมาดนั้น กุรอ่านบอกชัดเจนว่า ทำเป็นเวลา และมีเวลาต่างๆ ไม่ใช่ตลอดเวลาแบบที่คุณอ้าง เป็นคุณนั่นล่ะครับ ที่ทำนอกกุรอ่าน บิดเบือน กุรอ่าน และอาจจะถึงกับต่อเติมกุรอ่านด้วยซ้ำ

อ่านใหม่อีกครั้ง คุณจะบอกได้ไหมว่า อัลลอฮฺ บอกว่า ละหมาดนั้นเป็นเวลา และมีเวลาต่างๆ ทำไมคุณถึงแย้งกับอัลลอฮฺ ถ้าคุณศึกษากุรอ่านจริง?

--- End quote ---

ใช่ครับ ละหมาด จะส่งผลให้ [29:45] สามารถยังยั้งจากความชั่ว และนี่คือความหมายที่ชัดเจนของการละหมาด(แท้จริง)
แต่ถ้าละหมาดด้วยท่าทาง หรือเป็นเวลา จะสามารถช่วยยับยั้งจากความเชื่อได้ตลอดหรือ?

และเรื่องที่ผมบอกว่าการละหมาด เปรียบเสมือนการรักษาศีล ซึ่งเราจะต้องละหมาดอยู่ตลอดเวลา เพราะเราจะต้องมีความสามารถที่จะยับยั้งความชั่วได้ตลอดเวลา
ไม่ใช่เพียงแค่วันละ 5 เวลา ต่อครั้งละประมาณ 5 นาที

และที่ผมแปลว่ารักษาศีลนั้น ศีลมีทั้งสำหรับเรา และสำหรับรสูล
ศีลของเราก็คือ ไม่พูดโกหก พูดจาดี ทำดีต่อพี่น้อง ทำดีต่อญาติมิตร และอีกมากมาย เช่นใน [107] ซึ่งค่อนข้างชัดเจน
และศีลของรสูลก็มีเช่นกัน ก็คือ การส่งสาร

ซึ่งเราก็ต้องรักษาศีลของเรา และรสูลก็ต้องรักษาศีลของรสูล

ลองดูครับ ไม่ขัดแย้งกับกุรอ่านเลย

ละหมาดนั้นเป็นสิ่งที่ดีครับ สามารถสอนเราได้หลายอย่าง ไม่ไช่เป็นการทำซึ่งด้วยท่าทางเพื่อการสักการะ
[11:85] และโอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย ! พวกท่านจงให้ครบสมบูรณ์ไว้ ซึ่งการตวง และการชั่งโดยเที่ยงธรรม และอย่าให้บกพร่องแก่มนุษย์ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ของพวกเขา และอย่าก่อกวนในแผ่นดินโดยเป็นผู้บ่อนทำลาย


[11:87] พวกเขากล่าวว่า โอ้ชุอัยบ์เอ๋ย ! การละหมาดของท่านสั่งสอนท่านว่า ให้พวกเราละทิ้งสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเคารพบูชา หรือว่าให้เรากระทำต่อทรัพย์สินของเราตามที่เราต้องการกระนั้น หรือ?แท้จริงท่านนั้นเป็นผู้อดทนขันติ เป็นผู้มีสติปัญญา

ใน [11:85] ได้พูดถึงเรื่อง การชั่งตวง...ความเที่ยงธรรม... ฯลฯ และใน [11:87]  ก็ได้ถามว่า การละหมาด[11:85] นั้นสอนอะไร
แต่การละหมาดด้วยท่าทางนั้น สอนเราเรื่องละทิ้งสิ่งที่บรรพบุรุษเคารพบูชา ไม่ได้

รวมทั้งการละหมาดยังสามารถช่วยให้เรายับยั้งจากความชั่วได้อีก อย่างที่กล่าวไปแล้วใน [29:45]
ซึ่งแน่นอนการละหมาดด้วยท่าทางไม่สามารถช่วยได้ บางคนละหมาดด้วยท่าทาง จิตใจก็ยังไปอยู่กับอย่างอีกอื่นด้วย

ไว้ค่อยมาต่อนะครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเท่าใหร่ครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version