เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

อัลลอฮฺ ไม่เคยสั่งให้เราเชื่อ 'นบี' แต่สั่งให้เราเชื่อ 'รอซูล' / รอซูล และนบี นั้นต่างกันอย่างไร?

<< < (11/25) > >>

WIND:

--- อ้างจาก: wisdom ที่ มี.ค. 28, 2012, 09:12 PM ---
--- อ้างจาก: WIND ที่ มี.ค. 25, 2012, 05:35 PM ---29:68
وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّنِ افْتَرَىٰ عَلَى اللَّهِ كَذِبًا أَوْ كَذَّبَ بِالْحَقِّ لَمَّا جَاءَهُ ۚ أَلَيْسَ فِي جَهَنَّمَ مَثْوًى لِّلْكَافِرِينَ

และใครเล่าจะอธรรมยิ่งกว่าผู้กุความเท็จให้แก่อัลลอฮ์ หรือปฏิเสธสัจธรรมเมื่อมันได้มายังเขา ที่พำนักในนรกญะฮันนัมมิใช่สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาดอกหรือ ?

29:69
وَالَّذِينَ جَاهَدُوا فِينَا لَنَهْدِيَنَّهُمْ سُبُلَنَا ۚ وَإِنَّ اللَّهَ لَمَعَ الْمُحْسِنِينَ

และบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของเราแน่นอนเราจะชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่พวกเขาสู่ทางของเรา และแท้จริงอัลลอฮ์ทรงอยู่ร่วมกับผู้กระทำความดีทั้งหลาย

จากอายะห์นี้คงไม่ต้องอธิบายเพิ่ม  และเราคงไม่ปฎิเสธฮาดิษนะบีย์ที่รายงานโดย บรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของเรา นะครับ

--- End quote ---

บรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของเรา
ทางของเราน่ะ ทางของอัลลอฮฺครับ คือกุรอ่านครับ ไม่ไช่นบี

--- End quote ---

เหออ....ท่านจะบอกว่านบีไม่ได้ดิ้นรนกับแนวทางของอัลลอฮฺ กระนั้นหรือ

ผมขอจบเพียงเท่านี้และคงจะไม่วุ่นวายกับความเชื่อของท่านแล้วครับ

wisdom:

--- อ้างจาก: Al Fatoni ที่ มี.ค. 28, 2012, 09:34 PM ---
--- อ้างจาก: wisdom ที่ มี.ค. 28, 2012, 08:48 PM ---3.กุรอ่านและซุนนะห์ของท่านรสูลคนรับมาคือซอฮาบะห์หรือป่าวครับ เอามาทางเดียว ที่ทำการถ่ายทอดมายังเรา แล้วด้วยเหตอันใดท่านจึงรับเอาสิ่งหนึ่ง ??
กุรอ่าน เริ่มตั้งแต่สมัยรสูลยังมีชีวิตอยู่ หะดิษนั้นน่าจะเกิดหลังรสูลเสียชีวิตแล้ว ประมาณ 250 ปี ดันถูกตัดทิ้งไปตั้ง 90% อีก(ไม่ทราบจริงไหม หะดิษบอกไว้)

--- End quote ---

            ผมไม่แน่ใจว่าคุณ wisdom เข้าใจและรู้ความหมายของคำว่า "หะดีษ" ไหม เพราะหะดีษ หมายถึง คำพูด การกระทำ และการยอมรับของท่านนบีย์ ฉะนั้น ในทางตรรกะแล้ว เป็นไปได้หรือที่ "คำพูด การกระทำ หรือการยอมรับ" จะเกิดขึ้นภายหลัง "ผู้พูด ผู้กระทำ หรือผู้ยอมรับ" มันไม่กินกับปัญญาเลยครับคุณ wisdom


--- อ้างจาก: wisdom ที่ มี.ค. 28, 2012, 08:48 PM ---4.ผมเพิ่งทราบน่ะเนี่ยว่าท่านอีหม่ามบุคอรีเริ่มบันทึกกิจจกรรมของนาบี แล้วตำราเล่มอื่นๆก่อนหน้านั้นละครับคุณ ?? ท่านคงคิดว่าการรายงานอัลฮะดิษใครๆก็ได้ไม่มีเงื่อนไขอะไรอย่างงั้นน่ะซิ  ??
ผมไม่คิดว่าหะดิษมาจากนบี ทุกนบีมีศัตรู(ชัยฏอน)ครับ และมันชอบแต่งคำพูดให้เหมาะกับสิ่งที่เราชอบเชื่อกันอยู่ หะดิษมาจากชัยฎอนครับ


[6:112] และในทำนองนั้นแหละเราได้ให้มีศัตรูขึ้นแก่นบีทุกคน คือ บรรดาชัยฏอนมนุษย์ และญินโดยที่บางส่วนของพวกเขาจะกระซิบกระซาบแก่อีกบางส่วน ซึ่งคำพูดที่ตกแต่งเป็นการหลอกลวง และหากว่าพระเจ้าของเจ้าทรงประสงค์ แล้วพวกเขาก็มิกระทำมันขึ้นได้ เจ้าจงปล่อยพวกเขา และสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ ขึ้นเถิด

[6:113] และเพื่อที่หัวใจของบรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่อปรโลกจะได้โน้มเอียงไปสู่คำพูดที่ตกแต่งนั้น และเพื่อที่พวกเขาจะได้พึงพอใจในคำพูด นั้น และเพื่อที่พวกเขาจะได้กระทำในสิ่งที่พวกเขาเป็นผู้กระทำกันอยู่

--- End quote ---

            การบันทึกหะดีษนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยท่านนบีย์ ศ็อลฯ ยังมีชีวิตด้วยซ้ำ แต่ท่านได้สั่งห้ามชะลอไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะมีการปะปนระหว่างหะดีษกับอัลกุรฺอานเกิดขึ้น จึงทำให้บรรดาเศาะหาบะฮ์ได้แต่จดจำคำพูดของท่านไว้ในความทรงจำเท่านั้น ซึ่งหลังจากท่านนบีย์ ศ็อลฯ เสียชีวิตไป จึงเริ่มมีการบันทึกหะดีษทั้งอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ส่วนอิมามอัลบุฅอรีย์ อิมามมุสลิม และท่านอื่นๆ นั้นมาทำหน้าที่ในการ "รวบรวมหะดีษ" ที่อยู่กระจัดกระจายตามที่ต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน พร้อมกับตรวจสอบความถูกต้องถึงที่มาที่ไหของมันด้วย โดยใช้วิธีการตรวจสอบสายรายงานของแต่ละหะดีษว่าต่อเนื่องหรือไม่ รวมถึงความจำและคุณธรรมของผู้รายงานหะดีษเอง เป็นต้น ... วัลลอฮุอะอ์ลัม

--- End quote ---



--- อ้างถึง --- เพราะหะดีษ หมายถึง คำพูด การกระทำ และการยอมรับของท่านนบีย์
--- End quote ---

ผมเคยศึกษาคำว่าหะดิษจากกุรอ่านดูแล้วครับ และอยากให้ท่านศึกษาดูด้วย ลองดูว่า อัลลอฮฺใช้คำว่าหะดิษในภาษาอาหรับหมายความว่าอะไร?
[39:23]
ARاللَّهُ نَزَّلَ أَحْسَنَ الْحَدِيثِ كِتَابًا مُّتَشَابِهًا مَّثَانِيَ تَقْشَعِرُّ مِنْهُ جُلُودُ الَّذِينَ يَخْشَوْنَ رَبَّهُمْ ثُمَّ تَلِينُ جُلُودُهُمْ وَقُلُوبُهُمْ إِلَى ذِكْرِ اللَّهِ ذَلِكَ هُدَى اللَّهِ يَهْدِي بِهِ مَنْ يَشَاء وَمَن يُضْلِلْ اللَّهُ فَمَا لَهُ مِنْ هَادٍ
THอัลลอฮ์ได้ทรงประทานคำกล่าวที่ดียิ่งลงมาเป็นคัมภีร์คล้องจองกันกล่าวซ้ำกัน ผิวหนังของบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าของพวกเขาจะลุกชันขึ้น แล้วผิวหนังของพวกเขา และหัวใจของพวกเขาจะสงบลงเพื่อรำลึกถึงอัลลอฮ์ นั่นคือการชี้นำทางของอัลลอฮ์ พระองค์จะทรงชี้นำทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และผู้ใดที่อัลลอฮ์ทรงให้เขาหลงทาง ดังนั้นสำหรับเขาจะไม่มีผู้ชี้นำทาง

กุรอ่านก็เป็นหะดิษครับ

[4:87]
ARاللّهُ لا إِلَـهَ إِلاَّ هُوَ لَيَجْمَعَنَّكُمْ إِلَى يَوْمِ الْقِيَامَةِ لاَ رَيْبَ فِيهِ وَمَنْ أَصْدَقُ مِنَ اللّهِ حَدِيثًا
THอัลลอฮ์นั้นคือไม่มีผู้ที่ควรได้รับเคารพสักการะใด ๆ นอกจากพระองค์เท่านั้น แน่นอน พระองค์จะทรงรวบรวมพวกเจ้าทั้งหลายสู่วันกิยามะฮ์ ซึ่งไม่มีการสงสัยใด ๆ ในมัน และใครเล่าที่จะมีคำพูดจริงยิ่งกว่าอัลลอฮ์

ไม่มีผู้ที่ควรได้รับเคารพสักการะใด ๆ นอกจากอัลลอฮฺ และมีหะดิษไหนหรือ ที่จริงยิ่งกว่าหะดิษของอัลลอฮฺ


7:185
ARأَوَلَمْ يَنظُرُواْ فِي مَلَكُوتِ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ وَمَا خَلَقَ اللّهُ مِن شَيْءٍ وَأَنْ عَسَى أَن يَكُونَ قَدِ اقْتَرَبَ أَجَلُهُمْ فَبِأَيِّ حَدِيثٍ بَعْدَهُ يُؤْمِنُونَ
TH และพวกเขามิได้มองดูในอำนาจทั้งหลายแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน และสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงบังเกิดขึ้นดอกหรือ ? และแท้จริงอาจเป็นไปได้ว่า กำหนดเวลาแห่งความตายของพวกเขานั้นได้ใกล้มา แล้วก็ถ้อยคำใดเล่าที่พวกเขาจะศรัทธากันหลังจากอัลกุรอาน

ไม่ได้มองอำนาจของอัลลอฮฺหรือ แล้วยังจะมีมีหะดิษใดอีกที่เจ้าจะศรัทธากันหลังจากหะดิษของอัลลอฮฺ(กุรอ่าน)

52:34
ARفَلْيَأْتُوا بِحَدِيثٍ مِّثْلِهِ إِن كَانُوا صَادِقِينَ
THดังนั้น พวกเขาจงนำคำกล่าวเช่นเดียวกันนี้มา หากพวกเขาเป็นผู้สัตย์จริง



อีกมากมายหลายที่ที่กล่าวสอดคล้องกันเช่นนี้ครับ เช่น [39:23],[7:185],[45:6],[77:50],[31:6],[4:42],[68:44],[52:34]

คราวนี้ต้องถามตัวเองแล้วครับ ว่าจะเชื่อ หะดิษอื่น หลังจากหะดิษของอัลลอฮฺหรือ?

จริงๆเรื่องนี้ค่อนข้างชัด น่าตั้ง topic ใหม่เหมือนกัน เกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของคำว่า หะดิษ

wisdom:

--- อ้างถึง ---เหออ....ท่านจะบอกว่านบีไม่ได้ดิ้นรนกับแนวทางของอัลลอฮฺ กระนั้นหรือ

ผมขอจบเพียงเท่านี้และคงจะไม่วุ่นวายกับความเชื่อของท่านแล้วครับ
--- End quote ---

นบีน่ะดิ้นรนในทางของอัลลอฮฺแน่
นบีปฎิบัติตามแนวทางของรสูลครับ

ผมไม่ได้มีความเชื่ออะไรครับ
ทุกอย่างถูกค้นคว้าจากกุรอ่าน และได้ตัดความเชื่อออกไปหมดแล้ว
ไม่อย่างนั้นผมคงปฎิบัติตามความเชื่อของบรรพบุรุษต่อไป โดยที่ไม่เอะใจอะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งที่อัลลอฮฺได้บอกเอาไว้ในกุรอ่านครับ

Carrothz:
อ่านเจอมา

ن

“ยังจะมี ฮะดีษ ใดอีกเล่า หลังจากอัลกุรอานที่พวกเขาจะศรัทธากัน”


เป็นไปได้อย่างไรเล่า ที่พระองค์ได้ส่งท่านรอซูลมาสั่งสอนมนุษยชาติ แล้วก็บอกให้ปฏิเสธคำสอนของรอซูลด้วย หรือว่าผู้ที่เข้าใจเช่นนั้นจะเขลาไปเอง

ความจริงคำว่า ฮะดีษ ถูกนำมากล่าวในอัลกุรอานหลายอายะห์ แล้วก็มีความหมายแตกต่างกันออกไป ตามเนื้อเรื่อง และสำนวนของประโยค เช่น
فأعرض عنهم حتى يخوضوا فى حديث غيره

“ดังนั้นเจ้าจงผินหลังให้พวกเขา จนกว่าพวกเขาจะวิจารณ์ในเรื่องอื่น” ซูเราะห์อัลอันอาม อายะห์ที่ 68


คำว่า ฮะดีษในอายะห์ข้างต้นนี้มีความหมายว่า เรื่องอื่นๆ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถ่ายทอดมาจากนบีที่ถูกเรียกว่า ฮะดีษ

และหากเขายังยืนยันว่า ฮะดีษ ต้องหมายถึง ฮะดีษของท่านนบีเพียงอย่างเดียว ถ้าเช่นนั้นลองอ่านอัลกุรอานอีกอายะห์หนึ่ง พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า
فدرنى ومن يكدب بهدا الحديث سنستدرجهم من حيث لا يعلمون

“ดังนั้น จงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า สำหรับผู้ปฏิเสธ ฮะดีษ เราจะให้พวกเขาลง (สู่การลงโทษ) ทีละขั้น โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว” ซูเราะห์อัลกอลัม อายะห์ที่ 44


หากคำว่า ฮะดีษ ต้องหมายถึง ฮะดีษของท่านนบีเพียงอย่างเดียว แล้วอายะห์ข้างต้นนี้ จะว่าอย่างไร ในเมื่ออัลลอฮ์บอกว่า พระองค์จะจัดการลงโทษผู้ปฏิเสธฮะดีษ
ไม่ใช่ครับ...ฮะดีษในอายะห์นี้หมายถึง อัลกุรอาน

ดังนั้น ฮะดีษในโองการที่นิยมอ้างโดยพวกปฏิเสธฮะดีษนั้น ไม่น่าจะหมายถึงฮะดีษนบีนะครับ คุณเดาเอาเอง เพราะคุณไม่รู้ภาษาอาหรับใช่ไหมล่ะ เอาคำแปลคนอื่นมาโดยไม่ศึกษาเสียก่อน

wisdom:

--- อ้างถึง ---เป็นไปได้อย่างไรเล่า ที่พระองค์ได้ส่งท่านรอซูลมาสั่งสอนมนุษยชาติ แล้วก็บอกให้ปฏิเสธคำสอนของรอซูลด้วย หรือว่าผู้ที่เข้าใจเช่นนั้นจะเขลาไปเอง

--- End quote ---

อัลลอฮฺบอกไม่ให้เชื่อ หะดิษอื่นใด หลังหะดิษของอัลลอฮฺ(กุรอ่าน)
คุณก็คิดเอาเองว่า เป็นไปได้อย่างไร ไม่น่าเป็นไปได้ ไม่น่าเชื่อ
อะไรที่คุณบอกว่ามันไม่น่าเชื่อ? มันคือกุรอ่านนะครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version