ผู้เขียน หัวข้อ: สี่มัซฮับหรือสี่อีหม่ามเท่านั้นหรือที่ถูกต้อง  (อ่าน 8290 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ abdmal

  • كن دائما مع الله
  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 11
  • เพศ: ชาย
  • احفظ الله يحفظك
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • www.facebook.com
อ่อ ลืมบอกไปว่ามีอีกมัซฮับหนึ่ง คือ มัซฮับซอฮีรี่
حياتنا عبادة بالذكر وبورد القران وإخلاص العمل
يومنا نشيط بقوة البدنية وبسرعة التنفيذ
وفكرتنا إسلامية ودراستنا متفوقة ومثقفة

ออฟไลน์ sufriyan

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 526
  • เพศ: ชาย
  • 0000
  • Respect: +16
    • ดูรายละเอียด
:salam: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่ผมคิดว่า ไม่จำเป็นต้องหาหนังสือถึงขั้นนั้น ผมคิดว่า เอาแค่ฟิกกุนสุนนะฮ์ ที่เอากุรอานและฮาดิสเป็นแล้วตามด้วยทัศนะของแต่ละมัสฮับก็คงจะเพียงพอ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำ
วัซซาลาม

ตกลงอยากตักลีดทางโน้นใช่ไหมครับ

ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
ถ้ามั่นใจว่าเข้าใจกุรอาน ฮะดีษ และประวัติศาสตร์ต่างๆ มากกว่า อิหม่ามมัซฮับทั้ง 4 ก็เป็นสิทธิของท่านล่ะครับ

พอดีผมกับอีกหลายคน ไม่ได้เรียนศาสนาโดยตรง เลยไม่วิเคราะห์ฮะดีษเองได้

ออฟไลน์ Myusuf

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 4
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
เฉพาะมัซฮับอีมามชาฟีอี ในขณะที่ท่านเองยังมีชีวิตอยู่ ยังมีทัศนะ 2 ครั้งที่ไม่ตรงกัน ซึ่งทัศนะในฉบับหลังท่าน
ยืนยันว่าถูกต้องกว่า แต่ปรากฎว่าลูกศิษย์ของท่านยังถกเถียงกันต่อว่าจะยึดฉบับไหนดี จนดูหนังสือที่อธิบายทัศนะ
ต่างๆ ของในมัซฮับ ก็ยังมีความเห็นหลายส่วนขัดแย้งกัน เช่นการอ่านกุรอานให้คนตาย
ในเมืองไทยน่าจะยึดหนังสืออิอานะห์มาอธิบายเป็นหลัก ซึ่งก็ขัดแย้งกับหนังสือเล่มอื่นๆ ที่อธิบายแนวทางของ
มัซฮับอีมามชาฟีอีเช่นกัน

ถ้าผมต้องการจะสังกัดมัซฮับอีมามชาฟีอี ช่วยแนะนำแนวทางการตักลีดที่ถูกต้องตามซุนนะห์ด้วยครับ

ออฟไลน์ WIND

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 220
  • เพศ: ชาย
  • MKM
  • Respect: +30
    • ดูรายละเอียด
พอดีผมกับอีกหลายคน ไม่ได้เรียนศาสนาโดยตรง เลยไม่วิเคราะห์ฮะดีษเองได้

like like
Dua.....The weapon of believer

ออฟไลน์ abubuk

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 20
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
  :salam:

อ้างถึง
เฉพาะมัซฮับอีมามชาฟีอี ในขณะที่ท่านเองยังมีชีวิตอยู่ ยังมีทัศนะ 2 ครั้งที่ไม่ตรงกัน ซึ่งทัศนะในฉบับหลังท่าน
ยืนยันว่าถูกต้องกว่า แต่ปรากฎว่าลูกศิษย์ของท่านยังถกเถียงกันต่อว่าจะยึดฉบับไหนดี จนดูหนังสือที่อธิบายทัศนะ
ต่างๆ ของในมัซฮับ ก็ยังมีความเห็นหลายส่วนขัดแย้งกัน เช่นการอ่านกุรอานให้คนตาย
ในเมืองไทยน่าจะยึดหนังสืออิอานะห์มาอธิบายเป็นหลัก ซึ่งก็ขัดแย้งกับหนังสือเล่มอื่นๆ ที่อธิบายแนวทางของ
มัซฮับอีมามชาฟีอีเช่นกัน

ถ้าผมต้องการจะสังกัดมัซฮับอีมามชาฟีอี ช่วยแนะนำแนวทางการตักลีดที่ถูกต้องตามซุนนะห์ด้วยครับ

 mycool:ในหนังสือ อัลอุม หน้า 1/282

ท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ได้กล่าวว่า

  وَأُحِبُّ لَوْ قُرِئَ عِنْدَ الْقَبْرِ، وَدُعِيَ لِلْمَيِّتِ وَلَيْسَ فِي ذَلِكَ دُعَاءٌ مُؤَقَّتٌ

"ฉันรัก หากมีการอ่านอัลกุรอานที่กุบูร และมีการขอดุอาอ์ให้แก่มัยยิด(ผู้ตาย)  และในสิ่งดังกล่าวนั้น  ไม่มีการขอดุอาอ์(แก่มัยยิด)ได้ถูกกำหนดเวลาเอาไว้ตายตัว(คือขอดุอาให้ผู้ ตายได้ทุกเวลา)" 
ท่านอิมาม อันนะวาวีย์  ได้กล่าวอธิบายไว้ในหนังสือ  อัล-มัจญฺมั๊วะ  ของท่านว่า

يُسْتَحَبُّ لِزَائِرِ القُبُوْرِ أَنْ يَقْرَأَ مَا تَيَسَّرَ مِنَ القُرْآنِ وَيَدْعُوْ لَهُمْ عَقِبَهَا نَصَّ عَلَيْهِ الشَّافِعِيُّ وَاتَّفَقَ عَلَيْهِ الأَصْحَابُ وَزَادَ فِيْ مَوْضِعٍ آخَرَ: وَإِنْ خَتَمُوْا القُرْآنَ عَلَى القَبْرِ كَانَ أَفْضَلَ

"และสุนัตให้ผู้ไปเยี่ยมกุ บูร ทำการอ่านสิ่งที่ง่าย ๆ จากอัลกุรอานและทำการขอดุอาอ์ให้แก่เขาหลังจากเสร็จสิ้นการอ่าน  ซึ่งอิมามอัช-ชาฟิอีย์ได้ระบุมันไว้(ในหนังสืออุมมฺ)  และบรรดาสานุศิษย์ก็มีความเห็นพร้องกันต้องกันและอิมามอัชชาฟิอีย์ได้กล่าว เพิ่มในตำราเล่มอื่นอีกว่า หากพวกเขาได้อ่านจบหนึ่งจบที่กุบูร ก็จะเป็นการดียิ่ง"  ดู เล่ม 5 หน้า 276


 myGreat:นี่คือทัศนะที่แข็งแรงที่สุดและบรรดาปราชญ์ในทัศนะที่สังกัดอีม่ามชาฟีอีส่วนมากยึดถือ ฟัตวานี้เป็นส่วนใหญ่ครับ
และในขณะเดียวกันปวงปราชญ์ทั้งสี่มัสหับ ก็ถือว่าการอัลกรุอ่านฮีดายะให้มัยยัตินั้นถึงแก่ผู้ตาย

สมารถดูจากลงค์นี้ได้ครับ
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php/topic,2356.msg16094.html#msg16094

ออฟไลน์ moorid

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 14
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
พอมายุคสลัฟตาบีอีนและตาบีอิตฯก็พบว่า หนังสือตำราที่เขียนกันมาที่เราใช้อ้างอิงบางเล่าเขาเหล่านั้นก็มีมัสหับ

เช่น อีม่ามบุคอรี อีม่ามมุสลิม อีม่ามนาวาวีฯลฯ  ก็เลยแปลกใจว่าเราจะตามใครดี กลุมที่เราตามกีตาบุลล๊อฮ์และหะดิสบอกว่า มัสหับสมัยท่านบีไม่เคยปรากฎ  ถ้ามีมัสหับก็แสดงว่าเรากำลังทำบิดอะ เพราะบิดอะคือทุกๆสิ่งที่เกิดใหม่และไม่มีในสมัยท่านนบี..
แต่ในเวป...สติวเด้นนี้กลับบอกว่า แม้กระทั่ง ศอฮาบะยังมีเลย 

ที่บอกว่านบีรับรอง4มัสหับนั้นฟังแล้วก็ตลก  แต่พอมาดูคนรู้บางคนที่อ้างจากตำราอุลามะบอกว่า หมายถึง ยุคผู้คนที่มีความรู้ทึีประเสริฐ ที่นบียอมรับความรู้คนเหล่านั้นคือ ยุคแรกคือ ยุคศอฮาบะ(1 ถึง100ปี)ยุคที่สองหรือยุคต่อมาคือ ยุคคนตาบีอีน(101ถึง 200 ปี)และยุคถัดมาหรือยุคที่สามคือคนในยุคตาบีอิตฯ(201ถึง300ปี)

และก็มีอีม่ามทั้ง4 นี้ที่เป็นเจ้าของมัสหับ แต่ละคนก็เป็นอาจารย์และศิษย์ตามกันมา...ก็เลยแปลกใจมากว่า

   สิ่งเหล่านี้เราไม่เคยรับรู้เลยว่า ในเวปที่เราตั้งฉายาว่า  เวปบอดอะนั้น มีอะไรแปลกๆมากมายที่ไม่เคยรู้


 แต่ตอนนี้บอกตรงว่า เรางงมากๆแต่จะแอบอ่านสิ่งที่ข้องใจเงียบๆอย่างตรวจสอบเพราะเราเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆอยู่แล้ว hiๆๆๆ  ขอจากอัลล๊อฮ์ว่าช่วยชี้ทางนำอย่าให้เราหลงทางเลีย อามีนยารอบ

อ้างถึง
คุณไม่ละอายใจบ้างหรือหนังสือฮะดิสที่คุณคิดว่ามันเพียงพอแล้วสำหรับคุณนั้น  ไม่ว่า ซอเหียะ บุคอรี มุสลิม  สุนันอบูดาวุด อัตตัซมีซีย์ อิบนุมาญะ อบูดาวูด       เขาเหล่าต่างมีหรือยึดตามมัซหับทั้งนั้น

 :salam:
ครับจากข้อความของผมบวกกับคำพูดคมๆของบัง ทำให้ผมต้องกลับไปทบทวนหลายคืนทีเดียว

ผมคิดไปคิดมาพลางขอดุอาเพราะใจเริ่มสับสนกระวนกระวาย และคิดไปว่าก็เราเป็นแค่คนตักลีดและตามเขามาอีกทีตอนแรกๆอยู่คณะใหม่ก็ตักลีดของกลุ่มที่ตามกีตาบุลล๊อฮ์และซุนนะ(คณะใหม่)    ตัวเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากเพราะเข้าศึกษาแต่เวปชาวซุนนะและตามการชักชวนของเพื่อนๆของพวกเราด้านเดียวและก็ดูแต่ทีวีของชาวซุนนะด้านเดียว

แต่วันดีคืนดีเข้าเวปนี้ เลยสงสัยเหมือนกันว่า เวปนี้ก็ตามกีตาบุลล๊อฮ์และซุนนะแต่ตามความเข้าใจของชาวสลัฟยุคก่อน300ปี คือท่านอีม่ามทั้ง4 นั้นเองเลยแปลกใจสนใจและเข้ามาแอบอ่าน เลยได้ความรู้ที่ไม่เคยรู้มากครับ

 mycry mycryวันนี้ เลยคิดว่าจะสรุปตัวเองซะทีว่าจะอยู่ทางไหนกันแน่   และข้อความที่ผมนำมาอ้างข้างบนนั้นมันทำให้ผมสะกิดใจมาก  เพราะคนที่เราฉายาว่าชาวซุนนะ(หรือสลาฟี)ตามและยอมรับในความรู้ของเขาส่วนมากไม่ว่าตำราหรือคำพูดที่ในการโต้แย้งนั้น เขาก็มีมัสหับเป็นกาส่วนตัวกันทุกคน    แล้วเราเป็นใคร....


   ....ผมคิดว่า การมีมัสหับหรือยึดตามมัสหับน่าจะปลอดภัยกว่า  เพราะ อย่างน้อยชนรุ่นก่อนเขาก็มีมัสหับกันทั้งนั้น....วัสลาม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เม.ย. 25, 2012, 09:28 AM โดย moorid »

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
จงจำเอาไว้นะครับว่า .. เราจะไม่มีทางเข้าใจอัล- กุรอานและอัล-หะดีษของท่านรสูล(ซ.ล.) ได้อย่างชัดแจ้ง ถ้าไม่มีการอธิบายเพิ่มเติมจากปวงปราชญ์  และเราจะไม่มีทางเอาหุก่มออกมาจากอัล-กุรอานและจากอัล-หะดีษได้เลย หากปวงปราชญ์ไม่ทำการวินิจฉัยออกมาให้ หากแต่ละคนคิดวิเคราะห์หุก่มกันเอาเองหมดทุกคน ป่านนี้ศาสนาของอัลลอฮฺก็คงยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด .. ดังนั้น การที่ปวงปราชญ์พยามยามวินิจฉัยหุก่มต่างๆ ออกมาให้เรานั้น นั่นแหละ เค้าเรียกว่า "มัซฮับ(แนวทางการวินิจฉัย)" ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่ยึดตามมัซฮับของปวงปราชญ์ที่โลกอิสลามให้การรองรับ คือ ยึดตามแนวทางของมัซฮับทั้งสี่ ดังนั้น คนกลุ่มนี้จะไม่มีวันหลงทางเป็นอันขาด 

ส่วนผู้ที่อ้างตนเองว่าไม่ตามมัซฮับนั้น ชีวิตของพวกเขาจะพบแต่ความยุ่งเหยิง และการหุก่มของเขาจะสับสนและถูกโต้แย้ง ดังที่เราจะเห็นได้จากคนบางกลุ่มในปัจจุบัน ที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ทำให้แนวทางของพวกเขาสับสนและยุ่งเหยิง และแนวทางของคนพวกนี้ก็ล้วนแล้วแต่ถูกโต้แย้งจากปราชญ์อิสลามผู้ทรงธรรมทั้งในอดีตและปัจจุบัน

คนบางกลุ่มในเมืองไทยกล่าวว่า ไม่ต้องตามมัซฮับ เพราะนบีไม่เคยใช้ให้ตาม  แต่พอเอาเข้าจริง เขาเองก็ตามมัซฮับนั่นแหละ และมัซฮับที่เขาตามก็คือ มัซฮับของปราชญ์วะฮาบีย์นั่นเอง เพราะทุกคำพูด ทุกคำวินิจฉัย พวกเขาก็เอามาจากความคิดของปราชญ์วะฮาบีย์ทั้งนั้น .. แล้วไฉนเลยถึงได้เที่ยวมาพูดโพทนาตัวเองว่า เราไม่ตามมัซฮับ !!!!

คนพวกนี้ พอมีคนอื่นมายึดตามแนวทางของตนเอง กลับไม่เคยพูดว่าอย่ายึดมัซฮับ(แนวทางการวินิจฉัย) ของเรานะ เพราะนบีไม่เคยใช้ แต่ทว่าคนพวกนี้กลับนิ่งเงียบ ... ความจริงถ้าจะพูดให้ถูก คนพวกนี้ต้องพูดว่า "เราไม่ต้องตามมัซฮับทั้งสี่ เรามาตามแนวทางวะฮาบีย์กันเถอะ !!" แบบนี้ น่าจะตรงเป้าหมายมากกว่า !!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 02, 2012, 11:54 PM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ moorid

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 14
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ครับบังMufftee ผมจะคำนี้ไว้ ที่ผ่านมาอัสเตาฟีรึ้ลลอฮ์ฯ เพราะตอนนั้นผมยังริยะและหลงไปนานพอสมควร

จงจำเอาไว้นะครับว่า .. เราจะไม่มีทางเข้าใจอัล- กุรอานและอัล-หะดีษของท่านรสูล(ซ.ล.) ได้อย่างชัดแจ้ง ถ้าไม่มีการอธิบายเพิ่มเติมจากปวงปราชญ์  และเราจะไม่มีทางเอาหุก่มออกมาจากอัล-กุรอานและจากอัล-หะดีษได้เลย หากปวงปราชญ์ไม่ทำการวินิจฉัยออกมาให้ หากแต่ละคนคิดวิเคราะห์หุก่มกันเอาเองหมดทุกคน ป่านนี้ศาสนาของอัลลอฮฺก็คงยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด .. ดังนั้น การที่ปวงปราชญ์พยามยามวินิจฉัยหุก่มต่างๆ ออกมาให้เรานั้น นั่นแหละ เค้าเรียกว่า "มัซฮับ(แนวทางการวินิจฉัย)" ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่ยึดตามมัซฮับของปวงปราชญ์ที่โลกอิสลามให้การรองรับ อาทิเช่น ยึดตามมัซฮับทั้งสี่ เป็นต้น

 yippy:บังmuffteeเรียนอยุ่แถวไนอะคับ  ...ผมจะได้ขอความรู้บ้าง...

ออฟไลน์ sunny

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 59
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ครับบังMufftee ผมจะคำนี้ไว้ ที่ผ่านมาอัสเตาฟีรึ้ลลอฮ์ฯ เพราะตอนนั้นผมยังริยะและหลงไปนานพอสมควร

จงจำเอาไว้นะครับว่า .. เราจะไม่มีทางเข้าใจอัล- กุรอานและอัล-หะดีษของท่านรสูล(ซ.ล.) ได้อย่างชัดแจ้ง ถ้าไม่มีการอธิบายเพิ่มเติมจากปวงปราชญ์  และเราจะไม่มีทางเอาหุก่มออกมาจากอัล-กุรอานและจากอัล-หะดีษได้เลย หากปวงปราชญ์ไม่ทำการวินิจฉัยออกมาให้ หากแต่ละคนคิดวิเคราะห์หุก่มกันเอาเองหมดทุกคน ป่านนี้ศาสนาของอัลลอฮฺก็คงยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด .. ดังนั้น การที่ปวงปราชญ์พยามยามวินิจฉัยหุก่มต่างๆ ออกมาให้เรานั้น นั่นแหละ เค้าเรียกว่า "มัซฮับ(แนวทางการวินิจฉัย)" ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่ยึดตามมัซฮับของปวงปราชญ์ที่โลกอิสลามให้การรองรับ อาทิเช่น ยึดตามมัซฮับทั้งสี่ เป็นต้น

 yippy:บังmuffteeเรียนอยุ่แถวไนอะคับ  ...ผมจะได้ขอความรู้บ้าง...


ไม่ใช่เพียงแต่ปวงปราชญ์แห่งโลกอิสลามเท่านั้นที่ให้การยอมรับ
แต่หากท่านทั้งหลายที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องมีมัซฮับ " เราตามเฉพาะกีตาบบลเลาะฮ์และซุนนะฮ์เท่านั้น"  ลองอ่านหลักฐานเหล่านี้
และพิจารณาใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วน

http://www.sunnahstudents.com/main/content/141/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88

อินชาอัลเลาะฮ์ท่านจะพบคำตอบ

อีหม่ามทั้งสี่คือผู้ที่เจริญตามรอยของท่านนบีมูฮัมหมัดอย่างแท้จริง

อันนี้เป็นความคิดเป็นส่วนตัวนะครับ

บ่อยครั้งที่ผมดูช่องทีวีดาวเทียมหลายๆช่อง ได้ยินประโยคที่พูดกันติดปากของวิทยากรรายการหลายๆท่านว่า "เราตามอัลกุรอ่านและซุนนะฮ์เท่านั้น"

เชื่อว่าหลายคนก็คงได้ยยินกันบ่อยเหมือนผม

แต่ผมกลับมาคิดว่า อะไรล่ะคือหลักฐานที่บ่งบอกว่าเขาเหล่านั้นตามอัลกุรอ่านและซุนนะฮ์อย่างแท้จริง ?  คำพูดของวิทยากรเหล่านั้นหรือ การแต่งกายของ

คนเหล่านั้นหรือ  ร่องรอยของการตามกุรอ่านและซุนนะฮ์คืออะไร

หลักฐานของการตามกุรอ่านและซุนนะฮ์ก็คือ "นูรบนใบหน้า" นี่คือหลักฐานอันดับแรกที่เราสามารถจะสังเกตุได้  คนเราสามารถพูดได้ว่าตามซุนนะฮ์ แต่หลักฐานของการตามซุนนะฮ์ทำไมไม่ปรากฎบนใบหน้าของเขาเหล่านั้น ?  นี่คือเรื่องที่ต้องคิด

ผิดถูกช่วยชี้แนะด้วยครับ








ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
คำกล่าวของพวกเขาที่ว่า "เราตามอัลกุรอานและสุนนะฮฺ เราไม่ตามโต๊ะครู" เป็นแค่คำอ้างของผู้ที่อวดรู้เท่านั้นครับ .. หากตามเฉพาะอัลกุรอานกับหะดีษละก้อ แน่นอนว่า หนังสือปราชญ์ท่านอื่นๆ ก็ไม่ต้องนำมาศึกษาแล้ว เผาทิ้งไปเลย หนังสือที่วะฮาบีย์เขียนขึ้นในเมืองไทยก็คงไม่ต้องเอามาอ่าน เพราะไม่ใช่อัลกุรอาน ไม่ใช่สุนนะฮฺ ... หนังสือนะหู ,หนังสือความรู้ศาสนาอื่นๆ ก็ไม่ต้องผลิตแล้ว .. หนังสือเศาะเฮี๊ยะบุคอรีย์ มุสลิม ที่รวมสิ่งที่ถ่ายทอดมาจากนบีก็คงต้องใช้ไม่ได้เช่นกัน เพราะท่านอิมามบุคอรีย์ มุสลิม ใช้วิชาวิเคราะห์หะดีษมาเป็นเกณฑ์ในการรวบรวมหะดีษ ... ซึ่งวิชานี้ ไม่มีในอัลกุรอานและในสุนนะฮฺ ของท่านรสูล(ซ.ล.)

ดังนั้น จะให้ถูกต้อง ต้องกล่าวว่า เราต้องศึกษาอัลกุรอานและอัลหะดีษ โดยผ่านความเข้าใจของปวงปราชญ์ โดยเฉพาะปราชญืในมัซฮับทั้งสี่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 06, 2012, 08:00 PM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

 

GoogleTagged