ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบฮุกุ่มเรื่องแอลกอฮอล์  (อ่าน 7192 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ binmamud

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

        อัสลามุอะลัยกุ้ม

   อยากทราบฮุกุ่มเรื่องแอลกอฮอล์ที่อยู่ในน้ำหอม  แอลกอฮอล์ที่ปะปนอยู่ในยา เช่นยาน้ำแก้ไอ  ยาธาตุแก้ท้องเสีย  หรือแอลกอฮอล์ที่บังเอิญเกิดขึ้นในน้ำผลไม้ที่แพ๊กในกล่อง  เป็นต้น ครับ

เรียนท่านผู้รู้โปรดไขปัญหานี้ด้วยเพราะว่ามีอีกหลายคนไม่ทราบแล้วอยากจะทราบโดยเฉพาะคนเเสวงหาความรุ้อย่างผมเป็น

ขอบคุณมากครับ ขอ อล. ทรงตอบเเทน

                                                                วัสลามครับ

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อยากทราบฮุกุ่มเรื่องแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ส.ค. 06, 2007, 09:24 AM »
0
อ่านเจอกระทู้นี้มาครับ....คิดว่าอยู่ประเด็นเดียวกัน...คือ

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=411.0

ออฟไลน์ sareedeen

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อยากทราบฮุกุ่มเรื่องแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ส.ค. 06, 2007, 11:35 AM »
0
อยากรู้เรื่องเดือนซะบาน

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อยากทราบฮุกุ่มเรื่องแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ส.ค. 09, 2007, 01:52 PM »
0
อยากรู้เรื่องเดือนซะบาน

เรื่องเดือนฃะบานนั้น...ผู้ทรงคุณวุฒิของเว๊บไซต์แห่งนี้...คงนำเสนออยู่แล้วครับ...อินชาอัลเลาะฮ์...

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อยากทราบฮุกุ่มเรื่องแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ส.ค. 09, 2007, 01:56 PM »
0
คิดว่าเป็นคำตอบ....ที่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้....น่ะครับ

بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

ก่อนอื่น  ผมใคร่จะขอกล่าวถึงประเภทของแอลกอฮอร์ดังนี้นะครับ 

แอลกอฮอร์ที่รู้จักกันดีมีสองประเภท  คือ 

1. เมธิลแอลกอฮอล์  ซึ่งได้มาจากการกลั่นสลายไม้บางชนิด เรียกว่าเป็นของเหลว ไม่มีสี ติดไฟได้ดี มีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นพิษต่อร่างกายถ้าได้สูดดมหรือรับประทาน ประโยชน์ใช้เป็นเชื้อเพลิงและเป็นตัวทำละลาย ใช้เป็นสารป้องกันการแข็งตัวของน้ำในหม้อน้ำรถยนต์

2. เอธิลแอลกอฮอล์เตรียมได้จากการหมักแป้ง และน้ำตาลหรือผลไม้ โดยมียัสต์เป็นตัวเร่ง ซึ่งเรียกว่าการหมัก เป็นของเหลว มีกลิ่นหอม ติดไฟให้ความร้อนสูงไม่มีเขม่า ละลายน้ำได้ดี เป็นตัวทำละลาย ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรค ทำสุรา

ประเภทแรกจะใช้เกี่ยวกับ  ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เกี่ยวข้องสิ่งบริโภค  เช่น  นำมาผสมกับน้ำหอม  เป็นต้น   ส่วนประเภทที่สองนั้น  จะเป็นแอลกอฮอล์ชนิดของเหล้า  จะใช้กับสิ่งที่บริโภคได้  เช่นนำมาผสมกับ น้ำยาบ้วนปาก  ยาฆ่าเชื้อ  ผสมกับยาบางชนิด  เช่นยาแก้ไอ  ยาน้ำแก้ท้องเสีย   เป็นต้น

ผมขอชี้แจงโดยแยกประเด็นดังนี้ครับ

ประเด็นที่หนึ่ง : หากน้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมจากแอลกอฮอล์ประเภท เมธิล นั้น  ถือว่าอนุญาตให้นำมาใช้ได้ เพราะไม่ใช่นายิสแต่ประการใด ตรงนี้ถือว่าไม่มีปัญหา

ประเด็นที่สอง : เอธิลแอลกอฮอล์ที่ผสมกับ ยาบางชนิดในปริมาณที่น้อยนั้น  เช่น น้ำยาฆ่าเชื้อโรค  ยาแก้ไอ  และยาน้ำแก้ท้องเสีย  เป็นต้น  ถือว่ามะอัฟ(ผ่อนปรน)ให้รับประทานนะและนำมาเช็ดแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรคครับ  เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้  จะไปหายาอื่น ๆ ที่ไม่มีส่วนผสมก็จะลำบาก  แต่ถ้าหากมียาอื่น ๆ ที่ไม่มีส่วนผสมแอลกอฮอร์  ก็ถือว่าจำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวนั้นนะครับ  ส่วนน้ำยาป้วนปากที่ผสมกับแอลกอฮอล์ชนิดเหล้านั้น  ถือว่าไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องใช้   แต่ถ้าหากอยู่ในช่วงที่ช่วงปากติดเชื้อ ก็ถือว่าอนุญาตให้นำมาใช้ได้ตามที่จำเป็นเท่านั้น  แล้วก็บ้วนน้ำยานั้นทิ้งด้วยน้ำสะอาด

ประเด็นที่สาม : ในกรณีของน้ำผลไม้บรรจุกล่อง เช่นน้ำส้ม  น้ำสัปรด  ที่สามารถเก็บไว้ได้นาน  แล้วก็เกิดปฏิกิริยาเกิดเป็นแอลกอฮอล์มานั้น  ถือว่าอนุญาตให้ดื่มได้  เพราะว่าหากเกิดแอลกอฮอล์ขึ้นจริง  ก็อยู่ในปริมาณที่น้อยมาก  ถือว่ามะอัฟ (ผ่อนปรนให้รับประทานได้) เพราะเป็นเรื่องที่ลำบากที่เราจะไปตรวจสอบ  แต่ถ้าหากเกิดแอลกอฮอร์ขึ้นมาในปริมาณที่มากหรือดื่มแล้วทำให้เหมา  ถือว่าฮะรอมอย่างเด็ดขาดครับ

ประเด็นที่สี่ : ในกรณีของน้ำหอมที่ผสมกับแอลกอฮอล์ประเภทเอธิล ที่เป็นแอลกอฮอล์ประเภทเหล้านั้น  เท่าที่ศึกษาดูแล้ว  อุลามาอ์ในปัจจุบันต่างวินิฉัยกัน  ผลออกมาก็  มี  2  ทัศนะ  คือทัศนะแรกบอกว่า  นำมาใช้ไม่ได้เพราะน้ำหอมนั้นเปื้อนนะยิส   ส่วนทัศนะที่สองบอกว่า  นำมาใช้ได้เพราะว่ามีจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น  แต่ก็ต้องผสมในปริมาณที่น้อย  เมื่อเป็นเช่นนี้   การที่บอกว่าฮะรอมหรือไม่ฮะรอมนั้น  จึงเป็นเรื่องที่คาดการณ์  คือ ไม่เด็ดขาด  ดังนั้น  ก็ผมก็ขอให้พี่น้องเลือกเอาตามสะดวกครับ  ท่านใดที่สะดวกและมีน้ำหอมแบบไม่มีแอลกอฮอล์  ก็ถือว่าอัลฮัมดุลิลลาฮ์  แต่พี่น้องท่านใดสะดวกหาซื้อน้ำหอมที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ชนิดเอธิลนี้   ก็ผ่อนปรนให้ท่านเลือกทัศนะที่อนุญาตให้นำมาใช้ได้  และการขัดแย้งในเรื่องทัศนะของอุลามาอ์ถือว่าเป็นความเมตตา(เราะฮ์มะฮ์) ก็เฉกเช่นเรื่องนี้แหละครับ

ส่วนคำถามที่ว่า ทัศนะของเชค ด๊อกเตอร์ มุฮัมสะอีด รอมะฏอน อัลบูฏีย์ นั้น สำหรับมัซฮับอะไร ? ผมขอตอบว่า  ประเด็นนี้เป็นประเด็นร่วมสมัย  มัซฮับของผู้ถาม (มุก๊อลลิด) ก็คือมัซฮับของผู้ไขปัญหา(มุฟตี)ที่เราพอใจจะถามนั่นเอง  ส่วนผมไม่ใช่มุฟตีนะครับ  ผมแค่นากิล(ผู้ถ่ายทอดทัศนะ)จากท่านอุลามาอ์อื่น ๆ มาอีกที 

والله تعالى أعلى وأعلم

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1048.msg9297;topicseen#new

ออฟไลน์ philosophy

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 94
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อยากทราบฮุกุ่มเรื่องแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ส.ค. 22, 2007, 07:03 PM »
0
اسلام عليكم
อิสลามกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลายเป็นยาพิษที่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายได้ในหลาย ๆ ประเทศ อย่างไรก็ดีอิสลามก็มีข้อห้ามเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลามากกว่า 1400 ปีมาแล้ว อิสลามห้ามดื่มเครื่องมึนเมาทุกชนิดโดยไม่คำนึงว่ามันทำมาจากอะไรหรือดื่มมากน้อยแค่ไหน เพราะอิสลามถือว่าการดื่มมากเป็นสาเหตุทำให้เมา และการห้ามดื่มแม้จำนวนเล็กน้อย ก็เพราะนักดื่มเหล้าก็มักจะเริ่มจากการดื่มที่ละน้อยก่อนและกลายเป็นทาสของมันในที่สุด

ผลของแอลกอฮอล์ต่อกระเพาะอาหาร

เป็นที่เชื่อกันว่าแอลกอฮอล์ช่วยให้เจริญอาหาร แต่ที่จริงแล้วมันช่วยให้เจริญอาหารในอาทิตย์หรือเดือนแรกที่ดื่มเท่านั้น หลังจากนั้นกระเพาะและทางเดินอาหารส่วนอื่น ๆ ก็จะอักเสบและมีแผลทำให้ผู้ดื่มอาเจียน และไม่อยากอาหาร

ผลของแอลกอฮอล์ต่อความอบอุ่นของร่างกาย

นอกจากนี้ยังเป็นที่เชื่อกันว่าแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายอบอุ่น แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้อุ่นอย่างแท้จริง ความอุ่นนี้เกิดจากการขยายตัวของเส้นเลือดที่ผิวหนัง แต่ตัวผู้ดื่มโดนอากาศเย็น เขาจะสูญเสียความอบอุ่นและพลังงานในตัวไป และอาจจะเสียชีวิตเพราะความหนาวได้ ในขณะที่คิดว่าเขากำลังได้รับความอบอุ่น บุตรหลานของผู้ดื่มแอลกอฮอล์มีแนวโน้มที่จะติดแอลกอฮอล์ด้วย เขาจะได้รับความทรมานทางจิตใจและมีโอกาสเป็นอาชญากรได้ง่าย

ผลของแอลกอฮอล์กับสมอง

แอลกอฮอล์มีผลอย่างมากต่อสมอง ไขสันหลัง และระบบประสาทโดยทั่วไป เซลล์ประสาทเหล่านี้จะควบคุมกล้ามเนื้อและระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ถ้าดื่มเหล้าขณะขับรถ จะไม่สามารถควบคุมความเร็วหรือตอบโต้ในกรณีฉุกเฉินหรือหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้ เมื่อคนดื่มเหล้ามาก ๆ เขาจะสังเกต ตัดสินใจ และตอบโต้ได้ไม่ดี ผู้ดื่มจะเสียสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ แม้จะเป็นเหล้าไวน์จำนวนเล็กน้อยก็ตาม

คนที่ดื่มไวน์เป็นประจำ ความสามารถและประสาทสัมผัสของเขาจะเสื่อมลง เช่น การเห็น การรับรส การดมกลิ่น ความสามารถในการเข้าใจและการทำงานของกล้ามเนื้อจะเสียไปด้วย ในบางประเทศมีการวิจัยว่า 50 % ของผู้เสียชีวิต มีสาเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อมมาจากการดื่มแอลกอฮอล์

นอกจากแอลกอฮอล์จะมีผลร้ายต่อสมองแล้ว ยังทำให้น้ำย่อยในกระเพาะมีความเป็นกรดเพิ่มมากขึ้น ทำให้กระเพาะอาหารอักเสบและเป็นแผลได้   ถ้าผู้ที่มีแผลในกระเพาะอยู่แล้วดื่มไวน์เข้าไปแม้แต่เพียงแก้วเดียวก็จะทำให้กระเพาะอาหารเลือดออกหรือทะลุได้

แอลกอฮอล์กับความต้องการทางเพศ

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ความต้องการทางเพศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ดื่มกระทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรมได้ เพราะสมองไม่สามารถควบคุมได้ตามปกติ ในกรณีนี้จะทำให้คุณค่าทางสังคมเสื่อมไป อย่างไรก็ตามการดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดกามตายด้านได้ อิสลามมองเห็นในสิ่งนี้จึงห้ามการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้พิษของแอลกอฮอล์จะทำให้ตาบอดและหัวใจล้มเหลวได้

แอลกอฮอล์นำไปสู่การดื่มที่มากขึ้น

อันตรายอย่างหนึ่งของการดื่มแอลกอฮอล์คือ จะทำให้มีการเสพติดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนำไปสู่โรคที่ร้ายแรง คือ พิษสุราเรื้อรัง โรคนี้เป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ

ในปัจจุบันประเทศที่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ จะได้รับผลเสียหายจากจำนวนผู้ติดสุราเรื้อรังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่น สหรัฐอเมริกา จำนวนผู้ติดสุราเพิ่มจากจำนวน 4 ล้านคน ในปี 1960 เป็น 10 ล้าน คนในปี 1970 ในอังกฤษจำนวนผู้ติดสุราเพิ่มจาก 5 แสนคนเป็น 1 ล้านคนและในยุโรปบางประเทศจำนวนผู้ติดสุรามีถึง 8 ใน 10 ของจำนวนประชากร

แอลกอฮอล์กับสุขภาพ

การดื่มแอลกอฮอล์จะทำลายการทำงานของระบบประสาทเนื่องจากพิษของมัน นอกจากนี้ยังมีผลต่อร่างกายและจิตใจด้วย เช่น ทำให้ชัก และเพ้อคลั่ง แอลกอฮอล์ยังทำให้เกิดภาวะขาดอาหาร เนื่องจากทางเดินอาหารอักเสบ เกิดอาเจียนไม่อยากอาหาร และการดูดซึมของทางเดินอาหารลดลง

แอลกอฮอล์จะทำให้เกิดความประมาท เห็นแก่ตัว ก้าวร้าวและขี้ระแวง ผู้ดื่มอาจจะเป็นโรคกามตายด้าน บุตรภรรยาจะรังเกียจเขา ทำให้เขาได้รับความทุกข์ใจ ซึ่งอาจทำให้เขาฆ่าตัวตายได้ ผู้ติดสุราอาจมีอาการประสาทหลอน คิดว่าตนเองเห็นผี ได้ยินเสียงหรือได้กลิ่น ทั้งที่ไม่มีอะไร สิ่งเหล่านี้ทำให้ศาสนาอิสลามห้ามการดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์ทำให้เซลล์ประสาทสมองและไขสันหลังเสื่อมทำให้ผู้ดื่มเป็นโรคจิตและเป็นคนขี้ลืม ในขั้นนี้ผู้ที่ติดสุราจะไม่สามารถแยกสิ่งที่จริงและไม่จริงได้ ไม่สามารถรู้วันและสถานที่และคิดคำนวนบวกลบเลขง่าย ๆ ไม่ได้ เขาไม่สามารถแม้กระทั่งจะจำเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปได้

คนที่ติดแอลกอฮอล์เวลาลุกขึ้นจะไม่สามารถควบคุมการทรงตัวได้ และเวลาเดินจะไม่ตรงทาง และจะพูดจาอ้อแอ้ไม่ชัดเจน

ผู้ที่ติดแอลกอฮอล์นิ้วมือจะบวมโต (ชายที่ติดเหล้าจะมีลักษณะเปลี่ยนไปทางหญิง และหญิงที่ติดแอลกอฮอล์จะเปลี่ยนไปทางผู้ชาย) เช่น การหยุดของประจำเดือน การสูญเสียความต้องการทางเพศ นี้เป็นเหตุผลที่อิสลามไม่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นอกจากนี้เขายังได้รับความทรมานจากการละเมอฝันร้ายจะเห็นและได้ยินที่น่ากลัว ชีวิตทั้งชีวิตเขาจะเต็มไปด้วยภาพหลอนอาจจะเป็นลมหมดสติไปเมื่อไรก็ได้

แอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายอ่อนแอ สูญเสียความต้านทานโรคจึงทำให้เกิดโรคได้ง่าย แอลกอฮอล์มีผลเสียต่อไตระดับโปรตีนหนักหนึ่ง (อัลบูมัน) ในปัสสาวะ ความเป็นกรดของเลือดซึ่งจะทำให้เกิดหัวใจวาย

ผู้ติดแอลกอฮอล์จะไม่สนใจซื้ออาหาร ถ้าเขาซื้ออาหารเขาก็ไม่มีความรู้สึกอยากรับประทาน และถ้าเขารับประทานเข้าไป เขาก็จะอาเจียนมันออกมา หรือไม่ระบบอาหารของเขาก็ไม่สามารถย่อยและดูดซึมอาหารได้ดี จึงทำให้เขาเป็นโรคขาดอาหาร ขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบี เพราะวิตามินบีจะถูกสลาย โดยการเผาผลาญแอลกอฮอล์

การขาดอาหารและขาดวิตามินบี ทำให้ผู้ติดแอลกอฮอล์ได้รับความทรมานจากการอ่อนเปลี้ยของมือเท้าและขา อาจเกิดการติดเชื้อในสมอง การเสื่อมของเซลล์ประสาทซึ่งทำให้เขาบ้าคลั่ง เส้นประสาทตาของเขาอาจจะเกิดติดเชื้อและทำให้ตาบอด แอลกอฮอล์นี่ก็คือยาพิษอย่างหนึ่งนั่นเอง ทำให้อิสลามห้ามการเสพ

การติดเหล้าไวน์อาจเป็นสาเหตุของการหมดสติ เกิดความดันในสมองการแตกหักของกระดูกและการมีเลือดออก

แอลกอฮอล์มิได้เพียงแต่สร้างปัญหาให้กับระบบประสาทเท่านั้น แต่จะทำให้เกิดปัญหากับระบบทางเดินอาหารและระบบวงโคจรโลหิตด้วย ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์และรัฐบาลต่าง ๆ พยายามที่จะแก้ปัญหาผู้ติดแอลกอฮอล์ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ในทางตรงข้าม อิสลามแก้ปัญหานี้โดยมีบทบัญญัติบทหนึ่งในคัมภีร์กุรอาน ซึ่งห้ามการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 1 ศตวรรษแล้ว เมื่อท่านศรัทธาในพระองค์อัลลอฮ์ ยอมรับในพระองค์ และคำสั่งสอนของพระองค์ ปัญหาทุกอย่างก็จะหมดไป

อิสลามห้ามการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 1400 ปีมาแล้ว โดยมิได้ขอให้มีการวิจัยค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงผลร้ายของแอลกอฮอล์ต่อร่างกายและจิตใจของมนุษย์ หลักการของอิสลาม ง่าย กระจ่าง และมีเหตุผล การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ ในอารยธรรมชาติอื่น ๆ มีการอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ และก็มีปัญหาเกิดขึ้น ดังนั้นแพทย์นักสังคมวิทยา จึงพยายามที่จะหาทางแก้ไข แต่อิสลามไม่อนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ ปัญหาจึงไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย

ลิ้นของผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ลิ้นของเขาจะปกคลุมไปด้วยสิ่งสกปรก ซึ่งทำให้เกิดเชื้อโรคเติบโตได้อย่างอิสระและมีภาวะสมบูรณ์พอที่จะทำการแบ่งตัวได้อย่างดี โดยปกติลิ้นของผู้ดื่มแอลกอฮอล์มักจะติดเชื้อและมีสีแดงผิดปกติ บางคนอาจมีจุดขาว ๆ บนลิ้น ซึ่งจุดเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งได้

ปากของผู้ดื่มแอลกอฮอล์

จะมีการติดเชื้อซึ่งจะทำให้เกิดความเจ็บปวดขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นเชื้อบางชนิดจะทำอันตรายต่อคอหอย ทำให้คอหอยอักเสบ กลืนและหายใจลำบาก

ความอยากอาหารของผู้ดื่มแอลกอฮอล์

ผู้ดื่มแอลกอฮอล์อาจเกิดแผลหรือมะเร็งที่คอหอยได้ ผู้ที่ติดมันจะอาเจียน ไม่อยากอาหาร ซึม ง่วง กระวนกระวาย เมาค้าง ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้นอกจากดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้นอีก ระหว่างที่เกิดอาเจียนและหมดสติ สิ่งที่อาเจียนออกมาอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ คือเมื่อหมดสติ สิ่งที่จะอาเจียนออกมาอาจไปที่ปอด ทำให้ปอดเป็นฝีหรืออักเสบ ซึ่งแสดงว่าแอลกอฮอล์มิใช่อะไรเลยนอกจากยาพิษที่ศาสนาอิสลามห้ามเท่านั้นเอง

ในตอนแรก แอลกอฮอล์จะกระตุ้นให้อยากอาหาร แต่ต่อมาทางเดินอาหารจะอักเสบ กรดในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น การย่อยลดลง ความอยากอาหารก็หมดไป

ในบางประเทศประชาชนดื่มไวน์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น เป็นตัวช่วยในการเจริญอาหารในระหว่างการกินอาหารเกือบทุกมื้อ แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผิดแอลกอฮอล์ช่วยให้เจริญอาหารใน 2-3 มื้อแรกเท่านั้น ต่อมามันจะเป็นตัวทำลายการเจริญอาหารและระบบการย่อยอาหารตั้งแต่ปากจนถึงทวารหนัก

กระเพาะของผู้ดื่มแอลกอฮอล์

จากกล้องส่องดูทางเดินอาหารแสดงว่าปริมาณแอลกอฮอล์แม้จำนวนเพียงเล็กน้อยก็เป็นสาเหตุของการอักเสบของพื้นผิวชั้นในของกระเพาะอาหาร บางคนคิดว่าแอลกอฮอล์ปริมาณเล็กน้อยไม่มีอันตรายอะไร แต่ในทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง นอกจากนี้คนที่ติดแอลกอฮอล์มักจะเริ่มจากการดื่มปริมาณน้อย ๆ ก่อน ในที่สุดเขาก็พบว่าเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังแล้ว คนที่ดื่มบางโอกาสอาจจะกลายเป็นคนติดสุรา โดยมีความกดดันทางจิตใจ ปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์หรือทางสังคม นี่แสดงถึงพระปรีชาของอัลลอฮ์ที่ได้ทรงให้อิสลามมีการห้ามดื่มแอลกอฮอล์ แม้ว่าปริมาณเล็กน้อยก็ตาม

การดื่มแอลกอฮอล์บ่อย ๆ จะเป็นสาเหตุให้กระเพาะอาหารอักเสบและทำให้เกิดการตายของเซลล์ในกระเพาะ ทำให้กรดในกระเพาะน้อยลงการย่อยอาหารก็น้อยลงไป ยิ่งไปกว่านั้นเชื้อโรคที่เดิมเคยถูกทำลาย โดยกรดก็สามารถผ่านเข้าสู่กระเพาะอาหารได้ การลดของกรดในกระเพาะอาหารยังทำให้วิตามินบี 12 ลดน้อยลง ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง การเกิดโรคกระเพาะทำให้มีอาการอื่นร่วมด้วย คือ ตัวซีด ชีพจรเต้นเร็วและหัวใจวาย ยิ่งไปกว่านั้นอาจเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งที่กระเพาะ สิ่งที่เป็นปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะดื่มแอลกอฮอล์ และนี่คือสาเหตุที่อิสลามห้ามดื่มเหล้า ศีรษะของผู้ดื่มสุราผู้ที่ติดสุรามักมีอาการปวดศีรษะ ทำให้เขาต้องรับประทานยาแก้ปวดจำพวกแอสไพรินมาก นอกจากนี้คนที่ติดสุรามักสูบบุหรี่ สิ่งเหล่านี้ผลักดันให้เขาอยู่ในสภาวะที่กระวนกระวาย ดังนั้นการกินแอสไพรินประกอบกับการสูบบุหรี่และการกระวนกระวายรวมทั้งพิษของแอลกอฮอล์ เป็นสาเหตุให้เกิดแผลในกระเพาะ สรุปโดยง่ายว่า แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของการอักเสบของกระเพาะ และบางทีทำให้เกิดแผลรวมทั้งมะเร็งได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอิสลามจึงห้ามดื่มสุรา

ศาสนาอิสลามไม่ได้ห้ามเฉพาะการดื่มสุราเท่านั้น แต่ยังห้ามการผลิตด้วย นอกจากนี้ยังห้ามการขนส่ง การซื้อหรือขาย ในอิสลาม ถ้าสิ่งใดถูกห้าม หมายความว่าทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมันถูกห้ามไปด้วย ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะห้ามบางสิ่ง แต่อนุญาตให้ทำมันขึ้นมา

ตับของผู้ติดสุรา

แอลกอฮอล์มีผลร้ายต่อตับด้วย ใครก็ตามที่ดื่มเหล้าเป็นเวลา 10 ปี จะมีปัญหาเกี่ยวกับตับ จากการศึกษาจากกล้องอิเลคตรอน ผู้ศึกษาสามารถตรวจพบผลของแอลกอฮอล์ต่อตับได้อย่างง่ายดายหลังจากการดื่มสุราแล้ว 24 ช.ม. ในตับแอลกอฮอล์จะทำลายนิวเคลียสของตับก่อนอื่น เมื่อนิวเคลียสถูกทำลายเซลล์ก็จะตายและการเจริญแบ่งตัวของเซลล์ก็หมดไป นอกจากนี้ตับก็จะเผาผลาญจากไขมันได้ไม่หมด ทำให้สะสมอยู่ในตับและรอบ ๆ ตับ เมื่อสะสมมากเข้าทำให้ตับตายได้

แอลกอฮอล์ทำให้ตับไม่สามารถเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมันได้ และไม่สามารถขับของเสียอออกจากร่างกายได้โดยเฉพาะแอมโมเนีย ทำให้อัตราของของเสียในกระแสเลือดสูงขึ้น สารพิษเหล่านี้จะมีผลต่อสมอง และส่งผลกระทบต่ออารมณ์ พฤติกรรม และสภาพจิตใจคนที่ติดเหล้าจะเขียนหนังสือลำบาก มือสั่น หายใจลำบาก ท้องบวม อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอิสลามจึงห้ามการดื่มเหล้า ทั้งที่โรคพิษสุราเรื้อรังก็มิใช่ปัญหาของผู้ที่เป็นมุสลิมอย่างแท้จริงรวมทั้งมิใช่ปัญหาในสังคมมุสลิมด้วย

บางคนคิดว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิดมีอันตรายน้อยกว่าอย่างอื่นที่จริงมันก็มีอันตรายเท่า ๆ กัน เพราะถ้าปริมาณแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มน้อยปริมาณแก้วที่ดื่มก็มากขึ้น นี่คือเหตุผลที่อิสลามห้ามการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด แม้จะมีส่วนผสมในปริมารณที่เล็กน้อย หรือแม้แต่หยดเดียวก็ตามเพราะปัญหามักจะเกิดขึ้นดังนี้คือ เริ่มจากแก้วเล็ก ๆ ในงานสังคมแล้วก็กลายเป็นนักดื่มและติดเหล้าในที่สุด ทำให้เขาได้รับความเจ็บปวด ทรมาน เกิดโรคสร้างปัญหาในครอบครัวภรรยาและลูก ๆ

แอลกอฮอล์ทำลายสมองอย่างมาก ขั้นแรกแอลกอฮอล์จะทำลายผลที่มีต่อการชาของสมองโดยตรง ขั้นสองสมองจำถูกทำลายเนื่องจากขาดเลือด ซึ่งเป็นผลมาจากการแข็งตัวของหลอดเลือด และหัวใจล้มเหลว ขั้นต่อมาก็คือสมองจะขาดออกซิเจนซึ่งเกิดร่วมกับโรคพิษสุราเรื้อรัง ถ้าสมองถูกทำลาย ปัญหาต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้นตามลำดับ

ดังนั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีผลทำลายระบบต่าง ๆ ทั่วร่างกาย แอลกอฮอล์ทำลายระบบประสาทระบบทางเดินอาหารระบบไหลเวียนโลหิตโดยตรง และถ้าสายระบบอื่น ๆ โดยทางอ้อมแล้วอะไรจะเหลืออยู่ ถ้าสมอง กระเพาะอาหาร หัวใจถูกทำลาย และชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรถ้าหากมีการติดเชื้อ การอักเสบ มีแผลและเกิดมะเร็งขึ้นทุกแห่งของร่างกาย ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรตัวเขาสูญเสียความทรงจำ ความอยากอาหาร เสียสุขภาพจิต และมีชีวิตอยู่อย่างเพ้อคลั่ง ประสาทหลอน

ขอบคุณพระองค์ที่ได้นำเราไปสู่หนทางที่ถูกต้องในอัลกุรอานคัมภีร์แห่งอิสลาม



มูฮัมหมัด อาลี อัล-คุลลี เขียน ... อ.วิทยา วิเศษรัตน์ แปล

ออฟไลน์ tatcha_jah ~♪

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 341
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
Re: อยากทราบฮุกุ่มเรื่องแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ต.ค. 06, 2010, 10:00 PM »
0
สลามค่ะ

อยากทราบว่าพวกยาสตรี  ว่านชักมดลูกที่ผสมแอลกอฮอร์ละค่ะฮาลาลหรือป่าว

กินเพื่อบำรุงผิวนะค่ะ

ไม่ได้รักษาโรคแต่เพื่อให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

อยากทราบว่าฮาลาลหรือป่าวค่ะ
ผู้ศรัทธาต่ออัลลอห์...ท้ายสุดจะได้ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในวันอาคิเราะห์

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: อยากทราบฮุกุ่มเรื่องแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ต.ค. 07, 2010, 02:32 AM »
0
น่าว่าได้ เพราะเป็นยา และสิ่งนั้นก้ไม่ใช่เหล้า
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

GoogleTagged