ผู้เขียน หัวข้อ: มารยาทในการถาม  (อ่าน 4282 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
มารยาทในการถาม
« เมื่อ: ส.ค. 06, 2007, 07:11 AM »
0

อัสลามุอะไลกุ้ม....

พอดีว่าได้อ่านที่กระทู้...โอ้หนังสือลูกรัก....ของอิมามฆอซาลี...ผมคิดว่าน่าจะนำมาข้อคิดและนำมาเป็นมารยาทที่ดีสำหรับผู้ถามปัญหาศาสนาครับ...

والثالث: أن يكون مسترشدا ، وكل ما لا يفهم من كلام الأكابر يحمل على قصور فهمه ، وكان سؤاله للاستفادة ، لكن لكونه بليدا لا يدرك الحقائق ، فلا ينبغي الاشتغال بجوابه أيضا ، كما قال رسول الله صلى الله عليه وسلم: (نحن معاشر الأنبياء أمرنا أن نكلم الناس على قدر عقوله)

وأما المرض الذي يقبل العلاج ، فهو أن يكون مسترشدا عاقلا فهما لا يكون مغلوب الحسد والغضب وحب الشهوة والجاه والمال. ويكون طالب طريق المستقيم ، ولم يكن سؤاله واعتراضه عن حسد ، وتعنّت وامتحان ، وهذا يقبل العلاج ، فيجوز أن تشتغل بجواب سؤاله بل يجب عليك إجابته.

3. เขาต้องเป็นคนที่ขอคำชี้แนะ  และสิ่งที่เขาไม่เข้าใจจากคำพูดของปราชญ์ผู้อาวุโสนั้น  ถูกตีความว่าเขามีความเข้าใจที่บกพร่องและคำถามของเขาเพื่อให้ได้รับประโยชน์  แต่เพราะเขาเป็นคนโง่เขลา  จึงทำให้ไม่รู้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ  ดังนั้น  จึงไม่สมควรที่จะให้ความสนใจในการตอบเช่นกัน  เสมือนที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า "เราเป็นบรรดานบีที่ถูกใช้ให้พูดกับบรรดามนุษย์ตามขนาดที่สติปัญญาเขารับได้"

สำหรับการป่วยที่สามารถรับการเยียวยาได้  คือเขาต้องเป็นผู้ที่ขอคำชี้แนะ  มีสติปัญญา  มีความเข้าใจ  ที่ไม่ถูกความอิจฉาริษยา  ความโกรธ  รักกิเลส  รักเกียรติยศ  และทรัพย์สิน  มาครอบงำ  และเขาต้องเป็นผู้แสวงหาหนทางที่เที่ยงตรง  โดยที่การถามและการคัดค้านของเขานั้นไม่ใช่มาจากความอิจฉาริษยา  ดื้อดึง และลองภูมิ  ซึ่งเขาคนนี้สามารถรับการเยียวยาได้  ดังนั้นจึงอนุญาตให้เขาสนใจที่จะตอบคำถามของเขา  ยิ่งว่านั้น  จำเป็นบนท่านต้องทำการตอบให้กับเขา 

.....วัสลาม

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ส.ค. 06, 2007, 07:23 AM »
0
คำสั่งเสียของอิมามฆอซะลีตรงนี้....มีคำสอนที่ดีครับ...คือการถามของคนหนึ่งที่มีจิตใจอคิตต่อผู้ถูกถาม...มีจิตริษยา...ดื้อดึง...อยากลองภูมิ...นั้น....ก็ไม่สมควรที่จะให้ความสนใจในการตอบคำถามของเขา...

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ส.ค. 07, 2007, 09:38 AM »
0
ใช่แล้วครับน้อง kowee  เพราะมีบางคนเข้ามาตั้งคำถามแบบว่า  มีความอคติ  มีความอิจฉาริษยา  อยากลองภูมิ  และดื้อดึง ด้วยนะครับ  สังเกตุได้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย  :-X

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.ย. 01, 2007, 02:54 PM »
0
เห็นด้วยอย่างแรง
มีคนเคยบอกว่าถ้าเราอยากได้ความรู้จากคนอื่นเราต้องไม่รู้(โง่)ก่อนแล้วค่อยถาม ไม่ใช่ถามในเชิงลองภูมิ
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.ย. 01, 2007, 02:59 PM »
0
เห็นด้วยอย่างแรง
มีคนเคยบอกว่าถ้าเราอยากได้ความรู้จากคนอื่นเราต้องไม่รู้(โง่)ก่อนแล้วค่อยถาม ไม่ใช่ถามในเชิงลองภูมิ

ใช่แล้วครับน้อง บังก็เห็นด้วยเช่นนั้นอย่างแรง  ตัวอย่างมีให้เห็นชัดเจนเลยครับวันนี้   :D

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ก.ย. 02, 2007, 10:34 AM »
0
3. เขาต้องเป็นคนที่ขอคำชี้แนะ  และสิ่งที่เขาไม่เข้าใจจากคำพูดของปราชญ์ผู้อาวุโสนั้น  ถูกตีความว่าเขามีความเข้าใจที่บกพร่องและคำถามของเขาเพื่อให้ได้รับประโยชน์  แต่เพราะเขาเป็นคนโง่เขลา  จึงทำให้ไม่รู้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ  ดังนั้น  จึงไม่สมควรที่จะให้ความสนใจในการตอบเช่นกัน  เสมือนที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า "เราเป็นบรรดานบีที่ถูกใช้ให้พูดกับบรรดามนุษย์ตามขนาดที่สติปัญญาเขารับได้"

สำหรับการป่วยที่สามารถรับการเยียวยาได้  คือเขาต้องเป็นผู้ที่ขอคำชี้แนะ  มีสติปัญญา  มีความเข้าใจ  ที่ไม่ถูกความอิจฉาริษยา  ความโกรธ  รักกิเลส  รักเกียรติยศ  และทรัพย์สิน  มาครอบงำ  และเขาต้องเป็นผู้แสวงหาหนทางที่เที่ยงตรง  โดยที่การถามและการคัดค้านของเขานั้นไม่ใช่มาจากความอิจฉาริษยา  ดื้อดึง และลองภูมิ  ซึ่งเขาคนนี้สามารถรับการเยียวยาได้  ดังนั้นจึงอนุญาตให้เขาสนใจที่จะตอบคำถามของเขา  ยิ่งว่านั้น  จำเป็นบนท่านต้องทำการตอบให้กับเขา 

.....วัสลาม

กระทู้นี้ผมตั้งมันขึ้นมา...เพราเห็นใจพี่น้องที่ทำการเสวนากับอีกทัศนะหนึ่ง....ที่พี่น้องต้องทำการอดทนอดกลั้นชี้แจงตอบอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเหนื่อยใจ....เพราะคนถามอีกฝ่ายหนึ่งนั้น....อาจจะถามแบบดื้อดึงหากตอบถูกฉันก็ไม่ฟัง....ถามแบบลองภูมิไม่ใช่เพื่อรู้.....จิตใจผู้ถามมีความอคติและริษยา....

ดังนั้น.....ผมได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา....เพื่อให้พี่น้องบังๆที่เพียรพยายามตอบอย่างอดทน....ทำการหยุดพักซ่ะบ้าง...ถ้าหากผู้ถามและผู้เสวนามีคุณสมบัติดังกล่าว...จึงไม่สมควรที่จะให้ความสนใจและทำการตอบ.....

ออฟไลน์ philosophy

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 94
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ก.ย. 02, 2007, 03:29 PM »
0
السلام عليكم
 ;D ;D ;D
والسلام

ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ก.ย. 02, 2007, 08:28 PM »
0
 เนื่องจากใช้พื้นที่สอบถามปัญหาศาสนาบ่อยจึงขอร่วมวงกับพี่น้องในกระจู้นี้ด้วย
1- เห็นด้วยอย่างมากที่ต้องเป็นผู้ที่ขอคำชี้แนะ  มีสติปัญญา  มีความเข้าใจ  ที่ไม่ถูกความอิจฉาริษยา  ความโกรธ  รักกิเลส  รักเกียรติยศ  และทรัพย์สิน  มาครอบงำ

2-ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า "เราเป็นบรรดานบีที่ถูกใช้ให้พูดกับบรรดามนุษย์ตามขนาดที่สติปัญญาเขารับได้"
ท่านรอซูล(ซล.) เผยแพร่ดีนของอัลลอฮ.เป็นเวลา 23 ปี สามารถสถาปนารัฐอิสลามและนำมวลมนุษย์มาสู่ในแนวทางที่เที่ยงตรง จากยุคญาฮีลียะฮ สภาพสังคมที่ฟอนเฟะเป็นระบบสังคมที่ยอมจำนนต่ออัลลอฮ. แน่นอนสภาพ มนุษย์ก่อนอิสลามถูกประทานเป็นเช่นไร แต่ในที่สุดงานของรอซูลลุลลอฮก็สำเร็จ โลกได้พลเมืองมุสลิมที่มีคุณภาพ หลังจากที่ท่านรอซูล(ซล.)เสียชีวิต บุคคลเหล่านั้นนำอิสลามกระจายทั่วทุกมุมโลก มนุษย์ผู้มีสติปัญญารับอิสลาม ส่วนมนุษย์ที่ไม่ใช่สติปัญญาของอย่างเต็มที่ก็ยังคงวกวนกับวิถีชีวิตที่สับสน สูญเสียอุดมของชีวิต    เข้าใจตามนี้ถูกต้องมั้ย


 ( เดี่ยวต่อ  ความคิดกำลังพรั่งพรู :D

ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ก.ย. 02, 2007, 08:42 PM »
0

3- เพราะคำสั่งเสียของอิมามฆอซะลีที่ว่า สิ่งที่เขาไม่เข้าใจจากคำพูดของปราชญ์ผู้อาวุโสนั้น  ถูกตีความว่าเขามีความเข้าใจที่บกพร่องและคำถามของเขาเพื่อให้ได้รับประโยชน์  แต่เพราะเขาเป็นคนโง่เขลา  จึงทำให้ไม่รู้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ  ดังนั้น  จึงไม่สมควรที่จะให้ความสนใจในการตอบเช่นกัน
  3.1 ทำให้บรรยากาศการเรียนกีตาบของผู้สอนในภาพลักษณ์ของผู้อาวุโสบางพื้นที่ปรากฏให้เห็นดังต่อไปนี้   มีเพียงกีตาบภาษายาวีกับผู้บรรยาย  ล้อมวงด้วยผู้ฟังที่ว่านอนสอนง่าย ไม่กล้าปริปากถาม แม้ว่างุนงงสงสัย    เช่น ทำไมการซิกีรบางอย่างจะต้องถูกควบคุมด้วยผู้รู้ คือ วันนี้ทำเท่านั้นเท่านี้ทำอย่างเชื่อฟังแล้วคุณจะถึงระดับหนึ่ง ที่....บรรยายไม่ถูก  เอาเป็นว่า ไว้ผมชัดเจนในข้อมูลแล้วค่อยมาต่อ  ( คือ ผมไม่ได้ตัดสินว่า ถูกผิด แต่อย่างใดแต่อยากได้คำอธิบายที่ชัดเจนว่าทำไม )
  3.2 ทำให้บรรยากาศการบรรยายธรรมของผู้ได้เครดิตว่าผู้รู้ในแวดวงญามาอะฮตับลีฆ ส่งเสริมภรรยาให้เสียสละเพื่อการออกพักตามมัสยิดอื่นๆของสามีเพื่อเรียกร้องเชิญชวนพี่น้องร่วมเดินทางในคราวต่อไป ยกนางฮาญัรว่าเป็นตัวอย่างที่สตรีควรถือเป็นแบบอย่าง  ในสภาพสังคมที่ผู้หญิงต้องหานาฟาเกาะฮเอง (เห็นได้ทั่วไปในชุมชนของผม ขายขนม แต่ละวันตามชุมชน ในขณะที่สามีตระเวณออกขัดเกลาตนเองตามมัสยิดพื้นที่อื่นๆดังที่กล่าวมา )
พร้อมกับตำหนิบุคลที่ไม่ยอมออก  ยิ่งกว่านั้นถ้าพี่น้องบางคนมีทัศนคติแตกต่าง เขาจะถูกแยกเป็นอีกกลุ่มเพราะมีความเข้าใจที่บกพร่องและเพราะเขาเป็นคนโง่เขลา  จึงทำให้ไม่รู้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ  ดังนั้น  จึงไม่สมควรที่จะให้ความสนใจในการคบค้าสมาคมเช่นกัน[ u]โดยส่วนตัวผมไม่แอนตี้กลุ่มดังกล่าว ผมเองก็คิดว่าถ้าผมมีความเพียบพร้อมเมื่อไหร่ ทางด้านความรู้ซึ่งตอนนี้ก็พยายามศึกษาเพิ่มเติมและฐานะเศรษฐกิจ ผมก็คงออกบ้าง เพราะไม่ขัดกับหลักชารีอะฮ )เรื่องจริงมีพี่น้องเราหลายคนที่ปฏิเสธการออกดะฮวะฮในรูปแบบข้างต้นดวยเหตุผลที่ว่าเขามีภาระบางอย่าง เช่นเขาต้องทำงาน  คำตอบของอามีรดะวะฮบางคนก็คือทำไม ท่านเป็นที่ไม่มีความตะวักกัล  หมอบหมายต่ออัลลอฮ.เลยหรือ ที่สำคัญ ถ้าผมสงสัยว่าทำไมคนที่ไม่ออกดะวะฮเขาไม่มีดะวะฮในรูปแบบอื่นเลยหรือ   อย่าเชียวน่ะ เราจะไปเทียบอะไรกับผู้รู้อย่างเมาลานาซาการียา เรามันชั้นใหน  เค้าวางรูปแบบไว้แล้วเรารึจะไปเทียบระดับนั้น

ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ก.ย. 02, 2007, 08:53 PM »
0
ใช่แล้วครับน้อง kowee  เพราะมีบางคนเข้ามาตั้งคำถามแบบว่า  มีความอคติ  มีความอิจฉาริษยา  อยากลองภูมิ  และดื้อดึง ด้วยนะครับ  สังเกตุได้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย  :-X
เห็นด้วยอย่างแรง
มีคนเคยบอกว่าถ้าเราอยากได้ความรู้จากคนอื่นเราต้องไม่รู้(โง่)ก่อนแล้วค่อยถาม ไม่ใช่ถามในเชิงลองภูมิ

ใช่แล้วครับน้อง บังก็เห็นด้วยเช่นนั้นอย่างแรง  ตัวอย่างมีให้เห็นชัดเจนเลยครับวันนี้   :D
ข้อความเมื่อ: ก.ย. 01, 07, 02:09 pm ของบังนู  ตัวอย่างมีให้เห็นชัดเจนเลยครับวันนี้    วันนี้ของบังใช่ตัวดังต่อไปนี้มั้ย
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1258.0  ก.ย. 01, 07, 11:09 am
 :) :) :) :) :) :) :)  หรือตัวอย่างอันอื่นเอาให้ชัดเลย

ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ก.ย. 02, 2007, 09:04 PM »
0
กระทู้นี้ผมตั้งมันขึ้นมา...เพราเห็นใจพี่น้องที่ทำการเสวนากับอีกทัศนะหนึ่ง....ที่พี่น้องต้องทำการอดทนอดกลั้นชี้แจงตอบอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเหนื่อยใจ....เพราะคนถามอีกฝ่ายหนึ่งนั้น....อาจจะถามแบบดื้อดึงหากตอบถูกฉันก็ไม่ฟัง....ถามแบบลองภูมิไม่ใช่เพื่อรู้.....จิตใจผู้ถามมีความอคติและริษยา....

ดังนั้น.....ผมได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา....เพื่อให้พี่น้องบังๆที่เพียรพยายามตอบอย่างอดทน....ทำการหยุดพักซ่ะบ้าง...ถ้าหากผู้ถามและผู้เสวนามีคุณสมบัติดังกล่าว...จึงไม่สมควรที่จะให้ความสนใจและทำการตอบ.....อ้างจากจขกท.อีกทีหนึ่ง
ถาม จกขทน่ะครับว่าจะรู้ได้อย่างไรว่า[/u
]  1/คนคำถามนั้นๆจะถามแบบดื้อดึงหากตอบถูกฉันก็ไม่ฟัง
    2/จิตใจผู้ถามมีความอคติและริษยา....
 พี่น้องท่านอื่นก็ช่วยกันเสนอวิธีพิจารณาเพราะมีการเสนออย่างนี้
 ถ้าหากผู้ถามและผู้เสวนามีคุณสมบัติดังกล่าว...จึงไม่สมควรที่จะให้ความสนใจและทำการตอบ.....
     ในการถามที่บอร์ด ถาม-ตอบ ปัญหาศาสนาบัง al-azh aryมีวิธีพิจารณาอย่างไรว่า ผู้ถามคนใดควรตอบหรือไม่
     

ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ก.ย. 02, 2007, 09:12 PM »
0
sunnahstudents.com > เสวนาเชิงวิชาการ > ถาม - ตอบปัญหาศาสนา
 ใช้บริการตรงนี้บ่อย   คราวนี้ไม่มีการตอบ                สงสัยสงสัยๆ
 กระจู้นี้ คงไม่เกี่ยวกับเราน่ะ ; ::) เอ..ทำไมไม่ตอบสักที

                       
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1258.0
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1260.0

     ย้ำอีกที ไม่ได้เกี่ยวกะผมซะหน่อย พวกที่ถามที่มีอคติและจิตใจที่...งั้นรีบตอบน่ะบัง วัสลาม

ออฟไลน์ JuyA

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 107
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ก.ย. 03, 2007, 12:00 AM »
0
อัสลามูอาลัยกุม
             มีนิทานมาเล่าอ่ะคับ
        มีชายคนหนึ่งมาถามปัญหาศาสนากับโต๊ะอีหม่านท่านนึง
ชายผู้ถาม : ผมจะมาถามปัญหาศาสนา 2 ข้อ ได้หรือปล่าว คับ โต๊ะอีหม่าน
โต๊ะอีหม่าน :ได้ซิ ถามมา ถ้าตอบได้ก็จะตอบให้
ชายผู้ถาม : ก่อนอื่นต้องแจ้งให้โตะอีหม่านให้ทราบก่อนน่ะ ว่าท่านต้องตอบให้ได้ เพราะผมได้ถามผู้รู้      หลายๆคนแล้ว คนเหล่านั้นตอบไม่ได้ หรือถ้าตอบ  ผมก็ไม่เข้าใจในคำตอบอ่ะไม่ถูกใจด้วย  ดังนั้นถ้าท่านตอบไม่ได้ ท่านก็จงลงจากตำแหน่งของท่านซะ
โต๊ะอีหม่าน : มองหน้าชายดังกล่าว สักพักก้อลูบเครา พลางตอบว่า ได้  ตกลงข้าจะยอมลงจงตำแหน่งอีหม่าน ถ้าตอบคำถามเจ้าไม่ได้
ชายผู้ถาม : คำถามแรก คือ  กอฎอกอดัร คืออะไร
                    คำถามที่ 2 คือซัยตอนสร้างมาจากไฟแต่พอลงนรก เขาก้อไม่เจ็บซิ ทำมายอัลลอฮ ทำแบบนั้น
โต๊ะอีหม่าน : ถามเสร็จแล้วไช่ไหม
ชายผู้ถาม : อืม  (พลางนึกในใจ โต๊ะอีหม่านเสร็จตู อีกราย)
     ทันใดนั้นโตะอีหม่านก็ตบหน้าชายคนนั้น อย่างจัง
ชายผู้ถาม : โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย   เจ็บ หน้าก็แดง พลางถามว่า ท่านตบหน้าผมทำไมเนี้ย
โต๊ะอีหม่าน : นั้นแหละคือคำตอบ
                    1. คือเจ้ารู้หรือปล่าวหรือว่าเมื่อคืนเจ้าฝันหรือปล่าว ว่าวันนี้จะโดนข้าตบหน้า 
ชายผู้ถาม : ม่ายรู้จิ พลางจับที่แก้มเบาๆ
โต๊ะอีหม่าน : นั้นแหละคือกอฎอกอดัร จากอัลออฮ
ชายผู้ถาม : อืม แล้วข้อ 2 หล่ะ  อย่าบอกน่ะว่าท่านจะเตะข้าอีก
โต๊ะอีหม่าน : 2. มือของข้ากับแก้มของเจ้าก็เป็นชิ้นเนื้อเหมือนกันช่ายปล่าว  แล้วแก้มเจ้าเจ็บไหมล่ะ
ชายผู้ถาม : อืม พลางลูบเเก้มเบาๆ อีกครั้ง ก่อนจะขอตัวกลับไป


                 นิทานนี้จาเกี่ยวกับกระทู้ไหมน้ออ ;D  มาอัฟล่ะกันน่ะ   วัสลาม
อีหม่านที่ซอเเฮะห์  อามาลที่ซอและห์

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ก.ย. 03, 2007, 09:22 PM »
0
sunnahstudents.com > เสวนาเชิงวิชาการ > ถาม - ตอบปัญหาศาสนา
 ใช้บริการตรงนี้บ่อย   คราวนี้ไม่มีการตอบ                สงสัยสงสัยๆ
 กระจู้นี้ คงไม่เกี่ยวกับเราน่ะ ; ::) เอ..ทำไมไม่ตอบสักที

                       
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1258.0
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1260.0

     ย้ำอีกที ไม่ได้เกี่ยวกะผมซะหน่อย พวกที่ถามที่มีอคติและจิตใจที่...งั้นรีบตอบน่ะบัง วัสลาม

ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ เรื่อง "ถาม - ตอบปัญหาศาสนา" เลยแม้แต่น้อยครับ  อย่าคิดมากครับ  ;D  เราให้เกียรติแก่ผู้ถามปัญหาศาสนาเสมอนะครับ  ผมคิดว่าการถามตอบที่ไม่มีมารยาทนั้น คืออยู่ในรูปแบบของการเสวนาระหว่างทัศนะมากกว่านะครับ  ส่วนการตอบคำถามช้าไปบ้าง  ก็มะอัฟด้วยนะครับ  แต่ก็พยายามตอบให้เร็วที่สุดเท่าที่สามารถละครับ  อินชาอัลเลาะฮ์  :)
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: มารยาทในการถาม
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ก.ย. 03, 2007, 09:27 PM »
0
 :)

 

GoogleTagged