ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 10 สูเราะฮฺ ยูนุส  (อ่าน 6581 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺยูนุส อายะฮฺที่ 98 - 100


คำอ่าน
98. ฟะเลาลากานัต ก็อรฺยะตุน อามะนัต ฟะนะฟะอะฮา..อีมานุฮา อิลลาก็อวมะยูนุ สลัม..มาอามะนูกะชัฟนาอันฮุม อะซาบัลคิซยิ ฟิลหะยาติดดุนยา วะมัตตะอฺนาฮุม อิลาหีน
99. วะเลชา...อะร็อบบุกะ ละอามะนะ มัน..ฟิลอัรฺฎิ กุลลุฮุมญะมีอา อะฟะอัน..ตะ ตุกริฮุน..นาสะ หัตตายะกูนูมุอ์มินีน
100. วะมากานะ ลินัฟสิน อัน..ตุอ์มินะ อิลลาบิอิซนิลลาฮิ วะยัจญอะลุรฺริจญสะ อะลัลละซีนะลายะอฺกิลูน


คำแปลR1.
98. Was there any town (community) that believed (after seeing the punishment), and its faith (at that moment) saved it (from the punishment)? (The answer is none,) - Except the people of Yunus (Jonah); when they believed, we removed from them the torment of disgrace in the life of the (present) world, and permitted them to enjoy for a while.
99. And had your Lord willed, those on earth would have believed, all of them together. So, will you (O Muhammad) then compel mankind, until they become believers?
100. It is not for any person to believe, except by the leave of Allah, and He will put the Wrath on those who are heedless.


คำแปล R2.
98. ดังนั้น (โดยประวัติของฟิรเอาน์ตามที่พรรณนาไว้นั้น)หากจะมี(ชาว)เมืองใดมีความศรัทธามัน(ก่อนที่จะประสบการลงโทษ) ศรัทธาของพวกเขาก็จะอำนวยคุณแก่พวกเขาเองอย่างแน่นอน(โดยพวกเขาจะปลอดภัยจากการลงโทษ) ยกเว้นกลุ่มชนของยูนุสเท่านั้น(ที่กระทำเช่นนั้น) เมื่อพวกเขาศรัทธา เราก็คลี่คลายจากพวกเขาซึ่งการลงโทษอันอัปยศในชีวิตทางโลกนี้ และเราได้ประทานความสนุขแก่พวกเขาเพียงชั่วขณะหนึ่ง (ตามที่เราได้กำหนดไว้)เท่านั้น
99. และหากองค์อภิบาลของเจ้าทรงประสงค์ แน่นอนผู้ที่อยู่ในพื้นพิภพนี้ทั้งหมด ก็ย่อมศรัทธาโดยพร้อมเพรียงกัน (ฉะนั้นเมื่อมนุษย์ในแผ่นดินยังไม่ศรัทธา เจ้าก็อย่าเสียใจ เพราะแสดงว่าอัลเลาะฮฺไม่พึงประสงค์เช่นนั้น แล้วเจ้านั้น (สมควร)หรือที่จะบังคับมนุษย์เพื่อให้พวกเขาเป็นผู้ศรัทธา
100. และไม่มีอำนาจสำหรับบุคคลใด ๆ ที่จะพึงศรัทธา ยกเว้นโดยการอนุมัติของอัลเลาะฮฺเท่านั้น และพระองค์ทรงดล(การลงโทษอัน)โสมมแก่บรรดาพวกที่ไม่ใช้ปัญญาไตร่ตรอง


คำแปล R3.
98. ดังนั้น มีตัวอย่างของเมืองใดบ้างไหม ที่เห็นการทรมานแล้วยอมรับความศรัทธา และความศรัทธานั้นเป็นประโยชน์ต่อมัน ? (ไม่มีตัวอย่างของเมืองนี้) ยกเว้นแต่หมู่ชนของยูนุส เมื่อพวกเขาศรัทธา เราจึงได้ปลดเปลื้องการลงโทษอันน่าอับอายอกไปจากพวกเขาในชีวิตโลกนี้ และให้พวกเขาใช้ปัจจัยทั้งหลายแห่งชีวิตชั่วเวลาหนึ่ง
99. หากพระผู้อภิบาลของเจ้าทรงประสงค์ (ที่จะให้ผู้คนทั้งหมดโลกนี้เป็นผู้ศรัทธา) พวกเขาทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ก็คงจะศรัทธาในพระองค์กันหมด แล้วเจ้าจะบังคับให้มนุษย์ทั้งหมดเป็นผู้ศรัทธากระนั้นหรือ
100. ไม่มีผู้ใดจะศรัทธาได้ หากปราศจากการอนุมัติของอัลลอฮิและเป็นวิธีของอัลลอฮฺที่จะทรงโยนความโสมมไปบนผู้ที่ไม่ใช้สามัญสำนึกของพวกเขา


คำแปล R4.
98. ทำไมถึงไม่มีหมู่บ้านสักแห่งหนึ่งศรัทธา โดยที่การศรัทธาของพวกเขาจะอำนวยประโยชน์แก่พวกเขา นอกจากกลุ่มชนของยูนุสเมื่อพวกเขาศรัทธา เราได้ปลดเปลื้องการลงโทษอันอัปยศจากพวกเขา ในการมีชีวิตในโลกนี้และเราได้ยึดเวลาระยะหนึ่ง แก่พวกเขา
99. และหากพระเจ้าของเจ้าทรงประสงค์แน่นอนผู้ที่อยู่ในแผ่นดินทั้งมวลจะศรัทธา เจ้าจะบังคับมวลชนจนกว่าพวกเขาจะเป็นผู้ศรัทธากระนั้นหรือ?
100. และมิเคยปรากฏว่าชีวิตใดจะศรัทธาเว้นแต่ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ และพระองค์จะทรงลงโทษแก่บรรดาผู้ไม่ใช้สติปัญญา


คำแปล R5.
๙๘. ขอให้ชาวตำบลหนึ่งจงมีศรัทธาก่อนจากจะมีโทษมาประสบพวกเขา ศรัทธาของพวกเขาจึงจะเป็นประโยชน์ ยกเว้นปวงชนของศาสดายูนุซเท่านั้นที่เมื่อพวกนี้ศรัทธาในขณะได้แลเห็นลางแห่งโทษแล้ว ศรัทธาของพวกนี้บังเกิดประโยชน์ และเรา(อัลเลาะห์) ก็กำจัดโทษที่ต่ำทรามให้พ้นไปจากพวกเหล่านั้นในชีวิตแห่งภพนี้ ทั้งเรา(อัลเลาะห์)ให้พวกเขานั้นได้ความรื่นรมย์ไปตลอดกาลอายุขัย ต่างกับประชากรของพระศาสนทูตในยุคก่อน ๆ เมื่อมีโทษมาประสบเข้าแล้วเพิ่งจะมีศรัทธา ดังนั้นศรัทธาของพวกเขาจึงไม่มีประโยชน์อันใด
๙๙. และโอ้มุฮำมัด ถ้าอัลเลาะห์องค์พระผู้อภิบาลของเจ้าทรงมุ่งประสงค์แล้วไซร้ แน่นอนผู้ซึ่องอยู่ ณ หน้าแผ่นดินจะต้องศรัทธาจนหมดสิ้น โอ้มุฮำมัด เจ้านั้นจะรังเกียจมวลมนุษย์ผู้ซึ่งอัลเลาะห์มิได้ทรงมุ่งประสงค์ให้เขาศรัทธาไปจนกว่าพวกเขาจะเป็นผู้ศรัทธากระนั้นหรือ ? ไม่เป็นการอันสมควรเลยที่เจ้าจะรังเกียจเขา
๑๐๐. ย่อมไม่มีชีวิตใดศรัทธาเลยเว้นแต่โดยความมุ่งประสงค์ของอัลเลาะห์เท่านั้น แล้วพระองค์จะทรงลงทัณฑ์บรรดาชนผู้ไม่ใช้สติปัญญาพินิจพิเคราะห์ในบรรดาโองการของอัลเลาะห์


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺยูนุส อายะฮฺที่ 101 - 103


คำอ่าน
101. กุลิน..ซุรูมาซาฟิสสะมาวาติวัลอัรฺฎิ วะมาตุฆนิลอายาตุ วัน..นุซุรุ อัน..ก็อวมิล ลายุอ์มินูน
102. ฟะฮัลยัน..ตะซิรูนะ อิลลามิษละอัยยามิลละซีนะ เคาะเลามิน..ก็อบลิฮิม กุลฟัน..ตะซิรู..อิน..นีมะอะกุม..มินัลมุน..ตะซิรีน
103. ษุม..มะนุนัจญีรุสุละนา วัลละซีนะอามะนูกะซาลิก หักก็อนอะลัยนา นุน..ญิลมุอ์มินีน


คำแปลR1.
101. Say: "Behold all that is in the heavens and the earth," but neither Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.) nor warners benefit those who believe not.
102. Then do they wait for (anything) save for (destruction) like the days of the men who passed away before them? Say: "Wait then, I am (too) with you among those who wait."
103. Then (in the end) we save our Messengers and those who believe! Thus it is incumbent upon us to save the believers.


คำแปล R2.
101. จงประกาศเถิด! ท่านทั้งหลายจงพิจารณาเถิด อะไรบ้างที่มีในฟากฟ้าและแผ่นดิน(ซึ่งล้วนเป็นสัญลักษณ์เตือนให้ยอมจำนนในเอกานุภาพและเดชานุภาพของอัลเลาะฮฺทั้งสิ้น) และบรรดาสัญลักษณ์ต่าง ๆ (ที่แสดงถึงเอกานุภาพและเดชานุภาพของอัลเลาะฮฺ) และบรรดา (ศาสนทูต)ผู้ตักเตือนนั้นย่อมไม่ยังประโยชน์แก่กลุ่มชนที่ไม่ศรัทธา(ในการป้องกันโทษ)
102. แล้วพวกเขามิได้รอคอย (สิ่งใดทั้งสิ้น)นอกจาก (การลงโทษของอัลเลาะฮฺ) เช่นเดียวกับกาลเวลาของบรรดาผู้ที่ล่วงลับมาก่อนหน้าพวกเขา จงประกาศเถิด! ดังนั้นท่านทั้งหลายจงเฝ้ารอเถิด แท้จริงฉันเองก็เป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้เฝ้ารอพร้อมกับพวกท่านนั่นเอง
103. หลังจากนั้นเราจึงดลความปลอดภัยแก่บรรดาศาสนทูตของเรา และบรรดาผู้มีศรัทธาทั้งหลาย เช่นนั้น! เป็นหน้าที่ของเรา เราให้ความปลอดภัยแก่บรรดาศรัทธาชนทั้งมวล


คำแปล R3.
101. จงกล่าวแก่พวกเขาว่า “จงสังเกตดูสรรพสิ่งทั้งปวงทึ่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน” และ (ความจริงก็คือ) สัญญาณและการตักเตือนทั้งหลายไม่ได้อำนวยประโยชน์อะไรให้แก่บรรดาผู้ไม่ศรัทธา
102. แล้วพวกเขาคอยอะไรอยู่นอกไปจากวันแห่งความชั่วร้ายที่มีต่อผู้คนก่อนหน้าพวกเขา ? ดังนั้น จงบอกพวกเขาเถิดว่า “ฉะนั้นจงคอยดูก็แล้วกันและฉันก็จะคอยดูอยู่กับพวกท่านด้วย
103. แล้ว (เมื่อเวลานั้นมาถึง) เราได้ช่วยบรรดารอซูลของเราและผู้ศรัทธาในพวกเขาให้รอดพ้น นี่คือแนวทางของเรา เราได้กำหนดไว้สำหรับตัวเราเองแล้วที่จะช่วยบรรดาผู้ศรัทธา


คำแปล R4.
101. จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) “พวกท่านจงดูว่ามีอะไรในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน”และสัญญาณทั้งหลาย และการตักเตือนทั้งหลาย จะไม่อำนวยผลแก่กลุ่มชนที่ไม่ศรัทธา
102. พวกเขาจะไม่คอยดูสิ่งใด ๆ นอกจากการคอยดูเยี่ยงวันทั้งหลายของบรรดาผู้ที่ล่วงลับไปก่อนพวกเขา จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) “พวกท่านจงคอยดูเถิด แท้จริงฉันจะเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้คอยดู”
103. แล้วเราจะช่วยบรรดารอซูลของเราและบรรดาผู้ศรัทธาให้รอดพ้น เช่นนั้นแหละเป็นหน้าที่เรา ที่เราจะช่วยเหลือบรรดามุอ์มินให้รอดพ้น


คำแปล R5.
๑๐๑. โอ้มุฮำมัด เจ้าจงกล่าวแก่ปวงชนชาวนครมักกะห์เถิดว่า พวกท่านจงพิเคราะห์ดูในบรรดาชั้นฟ้าทั้งเจ็ดและแผ่นดินว่ามีเครื่องหมายต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงเอกภาพของอัลเลาะห์เป็นประการใด ? แต่ทั้งบรรดาเครื่องหมายที่ชี้เช่นนั้นและเหล่าพระศาสนทูตผู้ตักเตือนก็มิได้เกิดประโยชน์แก่ปวงชนที่พระองค์ทรงรู้อยู่แต่เดิมว่าพวกนี้ไร้ศรัทธา
๑๐๒. พวกเหล่านั้นที่เป็นชนชาวมักกะห์หาได้รอคอยโทษทัณฑ์อื่นใดที่จะลงแก่พวกเขาในฐานะที่ต่างหาว่าเจ้าเป็นผู้เท็จไม่ นอกจากจะคอยมองดูการถูกภัยทำนองเดียวกับผู้ล่วงลับไปก่อนจากพวกเขาเคยได้รับกันมาแล้วเท่านั้น โอ้มุฮำมัด จงกล่าวแก่ปวงชนชาวนครมักกะห์ว่าพวกท่านจงรอคอยการเช่นนั้นเถิด แท้จริงฉัน(มุฮำมัด) กับพวกท่านต่างก็เป็นผู้รอคอยการเช่นนั้นอยู่ด้วยกัน
๑๐๓. ครั้นแล้วเรา(อัลเลาะห์) ให้เหล่าพระศาสนทูตของเราและบรรดาชนผู้มีศรัทธาได้รอดพ้นจากการถูกลงโทษ การให้ความปลอดภัยพ้นจากโทษทำนองเช่นนี้ เรายังได้ให้พระศาสนทูตมุฮำมัดและพวกศรัทธาได้พ้นภัยอีกด้วยโดยแน่นอน ในขณะที่พวกถือภาคีในเอกภาพของอัลเลาะห์กำลังถูกลงโทษอยู่


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺยูนุส อายะฮฺที่ 104 - 106


คำอ่าน
104. กุลยา..อัยยุฮัน..นาสุ อิน..กุน..ตุมฟีชักกิม..มิน..ดีนี ฟะลา..อะอฺบุดุลละซีนะตะอฺบุดูนะ มิน..ดูนิลลาฮิ วะลากินอะอฺบุดุลลอฮัลละซี ยะตะวัฟฟากุม วะอุมิรฺตุ อันอะกูนะ มินัลมุอ์มินีน
105. วะอันอะกิมวัจญฮะกะลิดดีนิหะนีฟา วะลาตะกูนัน..นะ มินัลมุชริกีน
106. วะลาตัดอุมิน..ดูนิลลาฮิ มาลายัน..ฟะอุกะ วะลายะฎุรฺรุกะ ฟะอิน..ฟะอัลตะ ฟะอิน..นะกะอิซัม..มินัซซอลิมีน


คำแปลR1.
104. Say (O Muhammad): "O you mankind! If you are in doubt as to my Religion (Islam), then (know that) I will never worship those whom you worship, besides Allah. But I worship Allah who causes you to die, I am commanded to be one of the believers.
105. "And (it is inspired to me): direct your face (O Muhammad) entirely towards the Religion Hanifa (Islamic Monotheism, i.e. to worship none but Allah Alone), and never be one of the Mushrikun (those who ascribe partners to Allah, polytheists, idolaters, disbelievers in the Oneness of Allah, and those who worship others along with Allah).
106. "And invoke not besides Allah, any that will neither profit you, nor hurt you, but if (in case) you did so, you shall certainly be one of the Zalimun (polytheists and wrong-doers). "


คำแปล R2.
104. จงประกาศเถิด! โอ้มวลมนุษย์ทั้งหลาย! หากพวกท่านยังมีความสงสัยเกี่ยวกับศาสนาของฉัน ที่จริง(ก็จงทราบเถิดว่า) ฉันจะไม่นมัสการบรรดาสิ่งที่พวกท่านนมัสการอันนอกเหนือจากอัลเลาะฮฺ แต่ทว่าฉันจะนมัสการเฉพาะอัลเลาะฮฺ พระผู้ทรงทำให้พวกท่านสิ้นชีพได้ และฉันได้รับคำบัญชามาว่า ให้ฉันเป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้มีศรัทธาทั้งหลาย
105. และ(ฉันถูกบัญชามาอีกว่า) “เจ้าจงหันใบหน้า(และเรือนร่างทั้งหมด)ของเจ้า(เพื่อสนองตอบข้อบัญญัติ)แห่งศาสนาโดยความเที่ยงตรง(ไม่เอนเอียงไปทางอื่น) และเจ้าจงอย่าเป็นผู้หนึ่งจากบรรดาพวกตั้งภาคีทั้งหลาย
106. และเจ้าอย่าได้วิงวอนนอกเหนือไปจากอัลเลาะฮฺ แก่สิ่งที่ไม่ให้คุณและโทษแก่เจ้า ดังนั้นหากเจ้ากระทำ(เช่นนั้น) แน่นอนเจ้าก็เป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ฉ้อฉลทันที


คำแปล R3.
104. (โอ้ นบี) จงกล่าวเถิดว่า “มนุษย์เอ๋ยถ้าหากพวกท่านยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับศาสนาของฉัน จงรู้ไว้เถิดว่า ฉันไม่เคารพสักการะสิ่งที่พวกท่านเคารพสักการะนอกไปจากอัลลอฮฺ แต่ฉันเคารพสักการะอัลลอฮฺผู้ทรงมีอำนาจที่จะทำให้พวกท่านตายเท่านั้น ฉันได้ถูกบัญชาว่า ฉันต้องอยู่ในหมู่ผู้ศรัทธา
105. (ฉันยังไดถูกบัญชาอีกว่า) จงอุทิศตัวของเจ้าเองอย่างจริงใจและมั่นคงต่อศาสนานี้ และจงอย่าเป็นผู้ตั้งสิ่งอื่นมาเป็นพระเจ้าเทียบเคียงอัลลอฮฺ
106. และจงอย่าวิงวอนสิ่งอื่นใดนอกไปจากอัลลอฮฺ ซึ่งไม่สามารถยังคุณและให้โทษแก่เจ้าได้ เพราะถ้าหากเจ้ากระทำเช่นนั้น เจ้าจะเป็นหนึ่งในบรรดาผู้สร้างความไม่เป็นธรรม


คำแปล R4.
104. จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “โอ้มนุษย์เอ๋ย หากพวกท่านสงสัยในศาสนาของฉัน ดังนั้นฉันจะไม่เคารพภักดีต่อบรรดาที่พวกท่านเคารพภักดีอื่นจากอัลลอฮฺ แต่ฉันจะเคารพภักดีอัลลอฮฺผู้ทรงทำให้พวกท่านตาย และฉันได้รับบัญชาให้เป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ศรัทธา
105. และว่า จงมุ่งหน้าของเจ้าเพื่อศาสนาอย่างเที่ยงตรง และอย่าอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี
106. และเจ้าอย่าวิงวอนสิ่งใดอื่นจากอัลลอฮฺที่ไม่อำนวยประโยชน์แก่เจ้า และไม่ให้โทษแก่เจ้าหากเจ้ากระทำเช่นนั้น แท้จริงเจ้าจะอยู่ในหมู่ผู้อธรรม


คำแปล R5.
๑๐๔. โอ้มุฮำมัด จงกล่าวเถิดโอ้ปวงชนชาวมักกะห์ ถ้าพวกท่านมีความเคลือบแคลงสงสัยในศาสนาของฉันทั้งที่ศาสนาของฉันก็จริงแล้วไซร้ ฉันจะไม่เคารพบูชาบรรดาเทวรูปผู้ซึ่งพวกท่านสร้างมันขึ้นมาแล้วเคารพบูชามันเลย นอกจากอัลเลาะห์ แต่ฉันจะเคารพบูชาอัลเลาะห์ผู้ทรงปลิดชีวิตพวกท่านได้ ทั้งฉัน(มุฮำมัด) ยังได้รับบัญชาให้เป็นผู้หนึ่งจากพวกที่มีศรัทธาในเอกภาพของพระองค์อีกด้วย
๑๐๕. และฉันได้รับบัญชามาว่า โอ้มุอำมัด “เจ้าจงผินหน้าของเจ้าไปสู่ศาสนา อิสลามโดยแน่วแน่” และว่า เจ้าอย่าเป็นผู้หนึ่งจากพวกถือภาคี(มุชริก)ในพระองค์เลย
๑๐๖. นอกจากอัลเลาะห์แล้ว เจ้า(มุฮำมัด) อย่าเคารพบูชาเทวรูปผู้ซึ่งให้คุณแก่เจ้ามิได้เมื่อเจ้ากราบเคารพมัน และให้โทษแก่เจ้าไม่ได้เมื่อเจ้ามิได้เคารพบูชามัน สมมติว่าหากเจ้า(มุฮำมัด) กระทำการเคารพบูชามันแล้วไซร้ แน่นอนเจ้าต้องเป็นผู้หนึ่งจากพวกที่คิดคดบัดนั้นทีเดียว


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺยูนุส อายะฮฺที่ 107 - 109


คำอ่าน
107. วะอี..ยัมสัสกัลลอฮุบิฎุรฺริน..ฟะลากาชิฟะละฮู..อิลลาฮุ วะอี..ยุริดกะ บิค็อยริน ฟะลารอ...ด ดะลิฟัฎลิฮี ยุศีบุบิฮีมัย..ยะชา...อุ มินอิบาดิฮฺ วะฮุวัลเฆาะฟูรุรฺเราะหีม
108. กุลยา..อัยยุฮัน..นาสุ ก็อดญา...อะ กุมุลหักกุ มิรฺร็อบบิกุม ฟะมะนิฮฺตะดา ฟะอิน..นะมายะฮฺตะดีลินัฟสิฮฺ วะมัน..ฎ็อลละ ฟะอิน..นะมายะฎิลลุอะลัยฮา วะมา..อะนะอะลัยกุม..บิวะกีล
109. วัตตะบิอฺมายูหา..อิลัยกะ วัศบิร.หัตตายะหฺกุมัลลอฮุ วะฮุวะค็อยรุลหากิมีน


คำแปลR1.
107. And if Allah touches you with hurt, there is none who can remove it but He; and if He intends any good for you, there is none who can repel His Favour which He causes it to reach whomsoever of his slaves He will. And He is the Oft-Forgiving, Most Merciful.
108. . Say: "O You mankind! Now Truth (i.e. the Qur'an and Prophet Muhammad ), has come to you from your Lord. So whosoever receives guidance, he does so for the good of his own self, and whosoever goes astray, he does so to his own loss, and I am not (set) over you as a Wakil (Disposer of affairs to oblige you for guidance)."
109. And (O Muhammad), follow the inspiration sent unto you, and be patient till Allah gives judgment. And He is the best of judges.


คำแปล R2.
107. และหากอัลลอฮฺทรงบันดาลเจ้าให้สัมผัสกับเภทภัยใด ๆ แน่นอน ไม่มีผู้คลี่คลายสำหรับเขาเลย นอกจากพระองค์เท่านั้น และหากพระองค์ทรงประสงค์จะประทานความดีแก่เจ้า ก็จะไม่มีผู้ใดผลักใสความโปรดปรานของพระองค์ได้ พระองค์ทรงให้สิ่งนั้นประสบแก่มวลบ่าวของพระองค์ที่พระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์ทรงให้อภัยอีกทั้งทรงเมตตายิ่ง
108. จงประกาศเถิด! โอ้มวลมนุษย์ทั้งหลาย อันที่จริงสัจธรรมจากองค์อภิบาลของพวกท่านได้มาสู่พวกท่านแล้ว ดังนั้นผู้ใดได้รับการชี้นำความจริง เขาก็รับการชี้นำนั้นเพื่อตัวเขาเอง และผู้ใดหลงผิด แน่นอนเขาก็หลงผิดแก่ตัวของเขาเอง และฉันหาใช่ผู้รับมอบหมายสำหรับพวกท่านทั้งหลายไม่
109. และเจ้า(มุฮำมัด)จงตามโองการที่ถูกดลมายังเจ้า และจงอดทนเถิด จนกว่าอัลเลาะฮฺจะทรงตัดสินและพระองค์ทรงเลิศที่สุดแห่งบรรดาผู้ตัดสินทั้งหลาย


คำแปล R3.
107. ถ้าหากอัลลอฮฺทรงให้เจ้าประสบทุกข์ภัยก็ไม่มีใครจะสามารถขจัดทุกข์ภัยนั้นได้นอกจากพระองค์ และถ้าพระองค์ทรงประสงค์ที่จะประทานความโปรดปรานให้แก่เจ้า ก็ไม่มีใครที่จะหน่วงเหนี่ยวความการุญของพระองค์ได้ พระองค์จะทรงประทานความโปรดปรานของพระองค์แก่บ่าวของพระองค์ที่พระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ”
108. (โอ้ มุฮัมมัด) จงบอกพวกเขาเถิดว่า “มนุษย์เอ๋ย สัจธรรม ได้มายังพวกท่านแล้วจากพระผู้อภิบาลของพวกท่าน ดังนั้นใครก็ตามที่ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง เขาก็ปฏิบัติตามทางนำเพื่อเป็นผลดีแก่ตัวของเขาเอง และหากผู้ใดหลงบออกไปจากทาง เขาก็หลงเป็นภัยต่อตัวเขาเอง และฉันไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์พวกท่าน”
109. และโอ้มุฮัมมัด จงปฏิบัติตามทางนำที่ถูกประทานแก่เจ้า และจงอดทนต่อไป จนกว่าอัลลอฮิจะทรงตัดสิน เพราะพระองค์ทรงเป็นเลิศที่สุดในบรรดาผู้ตัดสิน


คำแปล R4.
107. และหากอัลลอฮฺจะทรงให้ทุกข์ภัย ประสบแก่เจ้าแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดปลดเปลื้องมันได้ นอกจากพระองค์ และหากพระองค์ทรงปรารถนาความดีแก่เจ้าแล้ว ก็จะไม่มีผู้ใดกีดกันความโปรดปรานของพระองค์ได้ พระองค์จะทรงให้ประสบแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากปวงบ่าวของพระองค์ และพระองค์จะเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
108. จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) “โอ้มนุษย์เอ๋ย ! แน่นอนสัจธรรม จากพระเจ้าของพวกท่านได้มายังพวกท่านแล้ว ดังนั้นผู้ใดปฏิบัติตามแนวทางถูกต้อง แท้จริงเขาดำเนินตามแนวทางถูกต้องเพื่อตัวของเขา และผู้ใดหลงทางแท้จริงเขาก็หลงทางเพื่อตัวของเขา และฉันไม่ได้เป็นผู้คุ้มกันพวกท่าน”
109. และเจ้าจงปฏิบัติตามที่ถูกวะฮีย์แก่เจ้าและจงอดทน จนกว่าอัลลอฮฺจะทรงตัดสิน และพระองค์ทรงเป็นผู้ตัดสินที่ดียิ่ง


คำแปล R5.
๑๐๗.แล้วถ้าอัลเลาะห์ทรงให้เจ้าต้องประสบภัยอันตรายด้วยป่วยไข้และความยากจนแล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดขจัดมันให้พ้นไปจากเจ้าได้เลยนอกจากพระองค์ และถ้าพระองค์ทรงมุ่งหมายจะให้เจ้าได้รับคุณประโยชน์ เช่น ความสุขกายสบายใจและความร่ำรวยแล้วก็ไม่มีคนใดเป็นผู้ต้านการเอื้ออำนวยของพระองค์ได้ ซึ่งพระองค์จะทรงให้การเอื้ออำนวยนั้นประสบแก่บ่าวของพระองค์คนใดก็ได้ตามที่ทรงประสงค์ ด้วยว่าพระองค์คือองค์ทรงยิ่งในการอภัย ทรงโปรดปรานียิ่งต่อปวงนรชนของพระองค์
๑๐๘. โอ้มุฮำมัดจงกล่าวเถิดว่า โอ้ปวงชนชาวนครมักกะห์พระศาสดามุฮำมัดและพระคัมภีร์อัล-กุรอานจากองค์พระผู้อภิบาลของพวกท่านได้มีมายังพวกท่านแล้ว ดังนั้นผู้ใดได้รับซึ่งแนวธรรมให้ไปสู่หนทางเที่ยงแท้แล้วไซร้แนวธรรมนั้นย่อมเกิดเป็นคุณประโยชน์แก่ตัวเขาเองเพราะบุญกุศลฃแห่งการได้รับแนวธรรม ย่อมตกเป็นของผู้นั้นแต่ถ้าผู้ใดหลงงมงายมิได้รับแนวธรรม ผู้นั้นก็จะตกอยู่กับความงมงายเพราะหายนะที่ต้องหลงงมงายนั้นเป็นภัยร้ายแรงสำหรับผู้นั้น ส่วนตัวฉัน(มุฮำมัด) เล่า ก็มิใช่ผู้ได้รับมอบหมายให้ ทำหน้าที่ บังคับพวกท่านเลยฉันจึงไม่บังคับพวกท่าน
๑๐๙. และโอ้มุฮำมัด เจ้าจงเจริญตามแต่สิ่งที่ได้มีกระแสโองการมายังเจ้า และจงอดทนต่อการเรียกร้องเชิญชวนปวงชนหันสู่ศรัทธาต่อเจ้าและต่อพระคัมภีร์อัล-กุรอาน ตลอดทั้งอดทนต่อการก่อกวนของปวงชนเหล่านั้นต่อตัวเจ้าด้วยเถิดแล้วพระศาสดามุฮัมมัดก้ได้พยายามอดทนตามพระบัญชาแห่งพระองค์ จนกว่าอัลเลาะห์ทรงตัดสินให้พระศาสดามุฮำมัดทำศึกกับพวกมุชริก และให้เก็บค่ารัชชูปการจากชนพวกยะฮูดีและนัซรอนี ฝ่ายพระองค์นั้นทรงเป็นองค์เลิศยิ่งกว่าผู้ตัดสินทั้งหลายเพราะเป็นที่เชื่อได้อย่างแน่นอนว่าการตัดสินของพระองค์หาความพลั้งพลาดมิได้เลย เนื่องจากพระองค์ทรงรอบรู้ทั้งภายนอกและภายใน ส่วนบรรดาผู้ตัดสินที่นอกจากพระองค์จะมีแต่ความพลั้งพลาดอยู่เสมอ ด้วยเหตุที่พวกเหล่านั้นรู้แต่ภายนอก หาได้ล่วงรู้ถึงข้อเท็จจริงภายในไม่ พระศาสดามุฮำมัด ซล. จึงได้อดทนตามพระบัญชาของพระองค์ จนกระทั่งพระองค์ทรงตัดสินให้กาฟิรผู้ถือภาคีต้องถูกสังหาร และตัดสินให้พวกยะฮูดีและพวกนัซรอนีต้องชำระค่ารัชชูปการประจำเป็นรายปี สำหรับผู้ยากจนคนละ ๑ เหรียญทอง คนฐานะปานกลางคนละ ๒ เหรียญทอง และผู้มีฐานะร่ำรวย คนละ ๔ เหรียฐทอง


-----------------------------------------------------------
ดำรัสแห่งอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นจริงเสมอ (صدق الله العظيم)
จบตอนที่ 10 สูเราะฮฺ ยูนุส
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته


 

GoogleTagged