ผู้เขียน หัวข้อ: ละหมาดฮาดียะฮ์  (อ่าน 5708 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ amad

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 7
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ละหมาดฮาดียะฮ์
« เมื่อ: ส.ค. 06, 2007, 02:45 PM »
0

อัสลามุอ่าลัยกุม
 ละหหมาดฮาดียะฮ์ให้แก่คนตายมีรูปแบบการปฏิบัติหรือไม่ ถ้ามี วิธีการปฏิบัติเป็นอย่างไร กำหนดเวลาไหนที่จะละหมาด  เคยเห็นมีปฏิบัติกัน....วัสลาม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ละหมาดฮาดียะฮ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พ.ย. 29, 2008, 12:15 PM »
0
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛

การละหมาดฮะดียะฮ์  ไม่มีฮะดิษระบุชื่อละหมาดนี้โดยตรงซึ่งเหมือนกับละหมาดตะรอวิห์  เท่าที่ได้ศึกษาค้นคว้าเข้าใจว่า  การละหมาดฮะดียะฮ์เป็นละหมาดสุนัตธรรมดา ๆ (สุนัตมุฏลัก)  แล้วทำการฮะดียะฮ์มอบผลบุญให้แก่ผู้ตายหรือทำการขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ให้พระองค์ทรงมอบผลบุญการทำละหมาดนี้ให้แก่บิดามารดาของเราหรือบิดามารดาของทายาทผู้ที่ได้มอบหมายให้เราช่วยละหมาดให้     

ท่านอิมามอัศศ๊อนอานีย์  กล่าวว่า  "ถือว่าใช้ได้โดยการที่คนมุกัลลัฟได้กระทำแทนจากคนอื่นในเรื่องการกระทำอิบาดะฮ์ต่าง ๆ  หากแม้นว่าคนอื่นจะไม่ได้สั่งใช้หรือสั่งเสียไว้ก็ตาม  ดังนั้นจึงถือเป็นการ(เซาะห์)ใช้ได้กับการที่เขาได้ทำการมอบผลบุญการปฏิบัติอะมัลให้แก่คนอื่น  ไม่ว่าจะเป็นการละหมาดหรืออื่นจากละหมาดก็ตาม...และข้อบ่งชี้ยังสิ่งดังกล่าวนั้น  คือฮะดิษที่รายงานโดยท่านอัดดารุกุฏนีย์  จากฮะดิษของท่านญาบิร  ว่า "มีชายคนหนึ่งกล่าวว่า  โอ้  ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ฉันมีบิดามารดา  ซึ่งฉันได้ทำความดีต่อท่านทั้งสองในขณะที่มีชีวิตอยู่  ดังนั้นฉันจะทำความดีแด่ท่านทั้งสองหลังเสียชีวิตไปแล้วอย่างไรดี?  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ตอบว่า  "แท้จริงแล้ว  เป็นส่วนหนึ่งจากการปฏิบัติซึ่งความดีงามหลังจากความดีงาม  ก็คือ  การที่ท่านได้ละหมาดให้กับบิดามารดาพร้อมกับการละหมาดของท่านและให้ท่านทำการถือศีลอดให้แก่ทั้งสองพร้อมกับการถือศีลอดของท่าน" หนังสือ สุบุลุสสลาม  4/531  ตีพิมพ์ครั้งที่ 5 ดารุลหะดิษ ไคโร

ดังนั้น  การละหมาดให้แก่บิดามารดานั้น  ก็คือการละหมาดสุนัตแล้วฮะดียะฮ์มอบผลบุญให้แก่บิดามารดาที่เสียชีวิตไปแล้ว  ส่วนละหมาดฟัรดูนั้นจะทำแทนบิดามารดาหลังจากที่ทั้งสองเสียชีวิตไปแล้วไม่ได้   

ท่านอิบนุก๊อยยิม  กล่าวว่า  "สำหรับการอ้างหลักฐานจากพวกท่านด้วยคำกล่าวของท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ที่ว่า  "เมื่อบ่าวคนหนึ่งได้เสียชีวิต  อะมัลของเขาจะขาดตอน"  ถือว่าเป็นการอ้างหลักฐานที่ต้องตกไป  เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้กล่าวว่า  "การได้รับผลประโยชน์ของผู้ตายขาดตอน"  แต่ทว่าท่านร่อซูลุลลอฮ์ได้บอกว่า อะมัลของผู้ตายเองนั้นขาดตอน  เพราะอะมัลของคนอื่นนั้นก็ย่อมเป็นอะมัลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขา  ดังนั้น  หากเขาได้มอบ(ฮะดียะฮ์)มันให้แก่ผู้ตาย  ผลบุญอะมัลของเขาก็จะไปถึงคนตาย  เพราะฉะนั้น  อะมัลที่ขาดตอนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง  ส่วนอะมัล(ของผู้อื่น)ที่ถึงไปยังเขานั้น  ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง   และเช่นเกียวกับฮะดิษดังกล่าวนี้  ก็ยังมีฮะดิษอื่น ๆ อีกซึ่งท่านนบี  ได้กล่าวไว้ว่า  "แท้จริง  ส่วนหนึ่งจากสิ่งที่จะติดตามผู้ตายนั้น  ก็คือสิ่งที่มาจากบรรดาความดีงามและอะมัลของเขา"   แต่ทว่าฮะดิษนี้ไม่ได้ปฏิเสธอะมัลของคนอื่นและบรรดาความดีงามของคนอื่นที่จะ(มอบ)ติดตามเขาไป"  หนังสือ  อัรรั๊วะห์  ของท่านอิบนุก๊อยยิม  1/129

ท่านอิบนุก๊อยยิม  กล่าวเช่นกันว่า  "การถือศีลอด  คือต้องมีการเหนียตและระงับอารมณ์จากประการต่าง ๆ ที่ทำให้เสียศีลอด  แล้วอัลเลาะฮ์ก็จะทำให้ผลบุญการถือศีลอดไปถึงผู้ตาย  ดังนั้น  การอ่านอัลกุรอานนั้นผลบุญจะไม่ถึงผู้ตายได้อย่างไร  ทั้งที่การอ่านก็เป็นอะมัลหนึ่งและมีการเหนียต  ยิ่งกว่านั้น  การอ่านอัลกุรอานไม่ต้องการไปยังการเหนียติก็ได้  ฉะนั้น  กรณีการที่ผลบุญการถือศีลอดได้ถึงไปยังผู้ตายนั้น  เพื่อให้ตระหนักว่าบรรดาอะมัลอื่น ๆ ก็ถึง(ไปยังผู้ตายเช่นกัน)"  หนังสือ  อัรรั๊วะห์  ของท่านอิบนุก๊อยยิม  1/122

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์   กล่าวว่า  "บรรดาอุลามาอฺที่อ้างหลักฐานว่า  อนุญาตให้การ(ฮะดียะฮ์) มอบผลบุญอิบาดะฮ์ต่าง ๆ ในด้านทรัพย์สิน (เช่นการซอดาเกาะฮ์) และอิบาดะฮ์ทางร่างกาย(เช่นการถือศีลอดและการทำฮัจญ์) ให้แก่บรรดามุสลิมีนที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น  ก็คือมัซฮับของอิมามอะห์มัด  มัซฮับอบูหะนีฟะฮ์  มัซฮับกลุ่มหนึ่งของนักปราชญ์มัซฮับมาลิกีและชาฟิอีย์  ดังนั้น  เมื่อคนหนึ่งได้ฮะดียะฮ์(มอบ)ผลบุญการถือศีลอด  ผลบุญการละหมาด(สุนัต) ผลบุญการอ่านอัลกุรอานให้แก่ผู้ตาย  สิ่งดังกล่าวก็ย่อมเป็นที่อนุญาตให้กระทำได้"  หนังสือ มัจญ์มั๊วะอัลฟะตาวา 24/322

ท่านอิบนุก๊อยยิม  ได้กล่าวไว้เช่นกันว่า  "บรรดานักปราชญ์ได้ขัดแย้งเกี่ยวกับอิบาดะฮ์ที่กระทำด้วยร่างกาย  เช่น  การถือศีลอด  การละหมาด   การอ่านอัลกุรอาน  และการซิกรุลลอฮ์   ท่านอิมามอะห์มัดและปราชญ์สะลัฟส่วนมาก  มีทัศนะว่า  ผลบุญการถือศีลอด  การละหมาด  การอ่านอัลกุรอาน  การซิกรุลลอฮ์  จะถึงผู้ตาย  และมันยังเป็นทัศนะบางส่วนของสานุศิษย์อิมามอบูหะนีฟะฮ์  และท่านอิมามอะห์มัดได้กล่าวระบุไว้ในสายรายงานของมุฮัมมัด บิน อะห์มัด  อัลกะห์ฮาล  เขากล่าวว่า  "ได้กล่าวถามแก่ท่านอบีอับดิลลาฮ์ (คือท่านอิมามอะห์มัด) ว่า  ชายคนหนึ่งได้กระทำความดี  จากการละหมาด  การซอดาเกาะฮ์  และอื่น ๆ  แล้วมอบผลบุญครึ่งหนึ่งให้แก่บิดาหรือมารดาของเขา  ท่านอิมามอะห์มัดตอบว่า  "ฉันหวัง(ว่าผลบุญนั้นถึงผู้ตาย)"  หรือท่านอิมามอะห์มัดกล่าวว่า "ทุก ๆ สิ่งจากการซอดาเกาะฮ์และอื่น ๆ นั้น  ผลบุญจะถึงแก่ผู้ตาย"   และท่านอิมามอะห์มัดกล่าวเช่นเดียวกันว่า "ท่านจงอ่านอายะฮ์กุรซีย์ 3 ครั้ง  อ่านกุลฮุวัลลอฮุอะฮัด  และท่านจงกล่าวว่า  "โอ้ผู้อภิบาลแห่งข้าฯ  ความดีงามของอะมัลเหล่านั้น  ขอมอบแด่บรรดาชาวกุบูร"   หนังสือ  อัรรั๊วะห์  ของท่านอิบนุก๊อยยิม  1/117

ท่าน อิบนุ มุฟลิหฺ(ศิษย์ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์) กล่าวไว้เช่นกันว่า "ไม่ว่าอิบาดะฮ์ใด ที่กระทำขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการดุอา อิสติฆฟาร การละหมาด การถือศีลอด การทำฮัจญฺ การอ่านอัลกุรอาน และอื่น ๆ แล้วเอาผลบุญดังกล่าวนั้น มอบฮะดียะฮ์ให้แก่มัยยิดมุสลิม เขาย่อมได้รับผลประโยชน์จากสิ่งดังกล่าวแน่นอน ท่านอิมามอะหฺมัด กล่าวว่า ผู้ตายนั้น(ผลบุญ)ทุกๆ สิ่งที่มาจากความดีงามจะถึงไปยังเขา เพราะมีบรรดาตัวบทได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้และเพราะบรรดามุสลิมีนในทุกเมือง ได้ทำการรวมตัวกัน แล้วทำการอ่านอัลกุรอาน จากนั้นพวกเขาก็ทำการฮะดียะฮ์(มอบผลบุญของทุกๆ สิ่งจากความดีงาม) ให้แก่บรรดาผู้ตายของพวกเขา โดยไม่ได้รับการตำหนิเลย ดังนั้น สิ่งดังกล่าวย่อมเป็นมติ(อิจญฺมาอ์)แห่งปวงปราชญ์  เช่นกันกับการขอดุอา และการอิสติฆฟารนั้น หากแม้ว่าจะฮาดิยะฮ์มอบแก่ท่านร่อซูล(ซ.ล.) ก็ถือว่าอนุญาตให้กระทำได้ และผลบุญก็ถึงไปยังท่านนบี ซึ่งได้กล่าวหลักการนี้โดยท่านอัลมัจญฺ" ดู หนังสือ อัลมุบดิอ์ ชัรหฺ อัลมุกเนี๊ยะอฺ ของท่าน อิบนุ มุฟลิหฺ 2/254

บทสรุป : คือการกระทำความดีงามใดก็ตาม  เช่น  การถือศีลอด  การละหมาด  การอ่านอัลกุรอาน  การซิกรุลลอฮ์  แล้วมอบผลบุญให้แก่ผู้ตายนั้น  ถือว่าอนุญาตให้กระทำได้  และผลบุญก็ไปถึงผู้ตายอีดด้วย  อัลฮัมดุลิลลาฮ์  ดังนั้น  การละหมาดสุนัตธรรมดาสองรอกะอัต   แล้วฮะดียะฮ์ผลบุญให้แก่ผู้ตายนั้น  อนุญาตให้กระทำได้  และผลบุญถึงผู้ตายตามหลักการที่ได้กล่าวมา

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged