มาชาอัลลอฮ์
อัลฮัมดุลิลลา ...
จากวันนั้นที่ศึกษาเรียนรู้ จนถึงวันนี้ ได้ปีกว่าๆแล้ว
หลังจากบทเรียนใหม่ๆได้รับรู้เข้ามา หลังจากบททดสอบต่างๆได้ผ่านพ้นไป
และดูเหมือนอินชาอัลลอฮ์บททดสอบใหม่ๆกำลังเข้ามาอีก
"ศูฟีย์" ยังคงเป็นเป้าหมายในจิตใจ (ที่ไปได้ยากจริงๆ) เรียกได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจและความท้าทาย
ดังนั้น คนที่ได้รับความรู้ความเข้าใจต่อฮิกมะฮ์ต่างๆจากอัลลอฮ์ตะอาลาโดยไม่ต้องถูกทดสอบนั้นช่างน่าอิจฉาเสียเหลือเกิน
ความรู้อันลึกซึ้งและแนวทางปฏิบัติของคนในอดีต ยัังคงเป็นความท้าทายของคนในยุคปัจจุบันไม่เปลี่ยนแปลง
"ปณิธานอันเแรงกล้า" ของชนรุ่นก่อนนั้น หากเปรียบเทียบกับผมในตอนนี้ ช่างแตกต่างกันอย่างลิบลับ
ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในช่วงพิสูจน์ตัวเองต่ออัลลอฮ์ตะอาลา กำลังนำความรู้ต่างๆออกมาใช้ในทางปฏิบัติให้เกิดผล
บอกตรงๆครับว่าผมก็ยังไปได้ไม่ถึงไหนสักเท่าไหร่เลย
หากมั่นใจว่าทำตามแนวทางที่ถูกต้อง ก็เรียกว่าอะฮลุ้ลซุนนะฮฺไปเลย น่าจะดีกว่าไหมครับ ....จะได้ไม่ต้องไปใช้ชื่อร่วมกับกลุ่มผู้คนที่หลงผิด?
เพราะจากที่ว่า รักษาบ้านทั้งหลัง เพราะหน้าต่างบานเดียวที่พังนั้น มันจะกลายเป็นในขณะที่บ้านแหลกไปหมดแล้ว ...
จะกลายเป็นว่า บ้านทั้งหลังของซูฟีนั้นแหลกไปแล้ว เหลือเพียงหน้าต่างบานเดียว แห่ง sunnahstudent แห่งนี้ ... ที่ยังคง "ยึดไว้มั่น" ....
หากเรามุ่งเน้นแต่ชื่อ แต่ไม่มุ่งเน้นในเนื้อที่แท้จริง เราก็อาจจะมีความสับสนเพราะไปรับฟังและรับรู้จากผู้ที่ไม่เข้าใจซูฟีย์หรือตะเซาวุฟอย่างแท้จริงก็เป็นได้นะครับ
ท่านซัยยิดี ชัยคุลอิสลาม อัลอิหม่าม อับดุลกอดิร อัลญีลานีย์ กล่าวว่า
اَلْمُتَصَوِّفُ الْمُبْتَدِيْ وَالصُّوْفِيُّ الْمُنْتَهِي، اَلْمُتَصَوِّفُ الشَّارِعُ فِيْ طَرِيْقِ الوُصْلِ وَالصُّوْفِيْ مَنْ قَطَعَ الطَّرِيْقُ وَوَصَلَ إِلَي مَنْ إِلَيْهِ الْقَطْعُ وَالوَصْلُ
“คนที่มุตะเซาวิฟ(สนใจตะเซาวุฟ) คือผู้เริ่มต้น ส่วนคนศูฟีย์ คือผู้สุดเส้นชัยแล้ว, คนมุตะเซาวิฟ คือคนที่เข้ามาในหนทาง(เฏาะรีก)แห่งการเชื่อมสัมพันธ์(ต่ออัลเลาะฮ์) ส่วนศูฟีย์นั้น คือผู้ที่ผ่านเส้นทางและเชื่อม(ผูกพัน)กับอัลเลาะฮ์แล้ว” [อัลฆุนยะฮ์ 606]
ดังนั้นปัจจุบันมีบุคคลมากมายที่ชอบตะเซาวุฟและบางทีเข้ามาอยู่ในหนทางของเฏาะรีเกาะฮ์ แต่นั่นเป็นเพียงแค่เข้ามายืนใบสมัครเพื่อเข้ามาอยู่ในเส้นทางที่จะไปสู่ความพึงพอพระทัยของอัลเลาะฮ์เท่านั้น แต่เขายังไม่สำเร็จหรอก เพราะเพียงแค่อยู่ระหว่างทาง บางคนหรือบางกลุ่มที่ชอบตะเซาวุฟหรือเข้ามาอยู่ในทาง ก็เดินแบบออกนอกลู่นอกทาง ไม่อยู่ในร่องในรอย กลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีก็ทำการโจมตี แล้วโพทนาว่า นี่คือพวกซูฟีย์ที่อุตริและหลงผิด แต่ผมขอบอกกันตรงๆ ว่า พวกเหล่านั้นไม่ใช่ซูฟีย์ แต่เป็นพวกที่สนใจอยากเป็นซูฟีย์(มุตะเซาวิฟ)เท่านั้น
ฉะนั้นคนที่อยู่ในแนวทางเฏาะรีเกาะฮ์ ไม่ใช่จะเป็น “ศูฟีย์” กันทุกคน เพราะซูฟีย์ที่แท้จริง ต้องรู้หลักชาริอะฮ์(หลักฟิกห์หรือหลักปฏิบัติอะมัล), ต้องรู้หลักอีหม่านที่เข้มแข็ง, และมีหลักเอี๊ยะห์ซาน(หลักตะเซาวุฟหรือคุณธรรม)อย่างเชี่ยวชาญ เขาก็จะมีจิตใจเชื่อมอยู่กับอัลเลาะฮ์ด้วยการรำลึกพระองค์อย่างสม่ำเสมอและไม่ลืม
ฉะนั้นซูฟีย์คือผู้ที่ตามซุนนะฮ์ของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อย่างแท้จริงและตามซุนนะฮ์นะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในระดับที่สูง ซึ่งแนวทางอื่นไม่สามารถตามซุนนะฮ์ท่านนะบีย์เหมือนกับซูฟีย์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นพวกชีอะฮ์หรือวะฮาบีย์
มีพี่น้องถามว่า “อาจารย์แนวทางใดที่อาจารย์คิดว่าตามซุนนะฮ์ของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มากที่สุด” ผมตอบว่า “หากการตามซุนนะฮ์นะบีย์ที่เผยออกมาทำลมปากนั้น ใครๆ ก็พูดและปราศัยบทเวทีกันได้ว่าพวกตนคือพวกที่ตามซุนนะฮ์นะบีย์อย่างแท้จริง แต่แนวทางที่ตามซุนนะฮ์นะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อย่างแท้จริงนั้น ก็คือแนวทางใดก็ได้ที่เราปฏิบัติอะมัลอิบาดะฮ์แล้วหล่อหลอมให้เรามีจิตใจความผูกพันและซิกิร(รำลึก)ต่ออัลเลาะฮ์มากที่สุด นั่นแหละคือแนวทางที่ตามซุนนะฮ์นะบีย์มากที่สุดและแท้จริง
เพราะอัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า
وَلَا تَكُنْ مِنَ الْغَافِلِينَ
“และเจ้าอย่าเป็นส่วนหนึ่งจากผู้ที่หลงลืม(อัลเลาะฮ์)” [ 225 อัลอะร็อฟ]
ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَذْكُرُ اللَّهَ عَلَى كُلِّ أَحْيَانِهِ
“ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทำการรำลึกถึงอัลเลาะฮ์ในทุกๆ ขณะ” รายงานโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม
นั่นคือคำสั่งของอัลเลาะฮ์และเป็นซุนนะฮ์สุงสูดของท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งเป็นซุนนะฮ์นะบีย์ที่ผมปรารถนาจะให้มีก่อนเจ็บป่วยใกล้ตายเป็นอย่างน้อย แล้วแนวทางใดบ้างที่ทำให้เราตามซุนนะฮ์นะบีย์เฉกเช่นนี้ได้อย่างแท้จริง แล้วผมศึกษาค้นคว้ามาหลายแนวทาง ซึ่งไม่มีแนวทางใดที่จะทำให้ตามซุนนะฮ์นะบีย์ระดับสูงนี้ได้นอกจากแนวทางของซูฟีย์ที่แท้จริง”
อะมัลอิบาดะฮ์ที่ปฏิบัติแล้วมีดุนยา(คือหัวใจสิ่งอื่นจากอัลเลาะฮ์) มีความโอ้อวดและลำพองตนนั้น อัลเลาะฮ์ตะอาลาจะไม่ทรงตอบรับฉันใด หัวใจที่มีดุนยา พระองค์ก็จะไม่หันมาสนใจและไม่ให้ความโปรดปราน และเมตตา เราฉันนั้น
ท่านอิหม่ามอัลฆ่อซาลีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือเอี๊ยะห์ยาอุลูมิดดีน ในความหมายที่ว่า
مَنْ لَمْ يَكُنْ لَهُ نَصِيْبٌ مِنْ هَذَا الْعِلْمِ أَخَافُ عَلَيْهِ سُوْءَ الْخَاتِمَةِ
“ผู้ใดที่ไม่มีส่วนได้รับจากวิชานี้ ฉันกลัวเหลือเกินว่าเขาจะมีวาระสุดท้ายของชีวิตที่เลวร้าย”
ขออัลลอฮ์ประทานความเมตตาและบะรอกัตกับความสำเร็จและความดีงามทั้งในโลกนี้และโลกหน้ากับอาจารย์อารีฟีนและครอบครัว
กับพี่น้องมุสลิมสมาชิกชาวซุนนะฮ์สติวเดนท์ทั้งหลาย ทั้งที่ให้ความคิดเห็นและไม่ให้ความคิดเห็น
กับพี่น้องมุสลิมทั้งหมดทั้งมวลทั้งที่อยู่ในเมืองไทยและต่างประเทศ
ทั้งกับพี่น้องมุสลิมที่ยังมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตไปอยู่
และขออัลลอฮ์มอบความอดทนและชะฮีดให้กับพี่น้องเราที่ถูกอธรรม ณ ดินแดนอันประเสริฐ อามีน
