بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ
ภาคผลการถือศีลอดสุนัต
การถือศีลอด มีภาคผลคุณงามความดีมากมาย ซึ่งไม่มีผู้ใดคณานับได้นอกจากอัลเลาะฮ์ ตะอาลา แต่เพียงผู้เดียว ด้วยเหตุดังกล่าว อัลเลาะฮ์ ตะอาลา ได้ทรงพาดพิงการถือศีลอดมายังพระองค์เอง ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ได้รายงานไว้ในหะดิษกุดซีย์ว่า
سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ قَالَ اللَّهُ عَزَّ وَجَلَّ كُلُّ عَمَلِ ابْنِ آدَمَ لَهُ إِلَّا الصِّيَامَ هُوَ لِي وَأَنَا أَجْزِي بِهِ
ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า อัลเลาะฮ์ - อัซซะวะญัลล่า - ทรงตรัสว่า "ทุกการปฏิบัติความดีของลูกหลานอาดำนั้น มีให้สำหรับเขา นอกจาก การถือศีลอด เพราะแท้จริงมันเป็นของเราและเราจะตอบแทนด้วยกับมัน" รายงานโดยมุสลิม (1942)
เนื่องจากการถือศีลอดนั้น ไม่สามารถแสดงออกทางภายนอกได้ ดังนั้น การถือศีลอดจึงเป็นอิบาดะฮ์ระหว่างเรากับอัลเลาะฮ์ ตะอาลา
ท่านอะบูสะอีด อัลคุฎรีย์ ได้รายงานว่า
سَمِعْتُ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ مَنْ صَامَ يَوْمًا فِي سَبِيلِ اللَّهِ بَعَّدَ اللَّهُ وَجْهَهُ عَنْ النَّارِ سَبْعِينَ خَرِيفًا
ฉันได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ผู้ใดทำการถือศีลอดในวิถีทางของอัลเลาะฮ์ อัลเลาะฮ์จะทรงให้เขาห่างไกลจากไฟนรกถึง 70 ปี" รายงานโดย บุคอรีย์(2628)
การถือศีลอดสุนัตเป็นเป็นสิ่งที่เพิ่มความใกล้ชิดระหว่างเรากับอัลเลาะฮ์ ตะอาลา เนื่องจากการทำอิบาดะฮ์ที่สุนัตนั้น จะทำให้เรามีความใกล้ชิดกับพระองค์จนกระทั้งพระองค์ทรงรักเราและเป็นความประสงค์ที่พระองค์ทรงให้เรามีความรักต่อพระองค์ยิ่งขึ้น ดังที่ได้มีระบุไว้ในหะดิษกุดซีย์ว่า
وَمَا يَزَالُ عَبْدِي يَتَقَرَّبُ إِلَيَّ بِالنَّوَافِلِ حَتَّى أُحِبَّهُ
"บ่าวของเราจะยังคงใกล้ชิดเรา ด้วยการปฏิบัติสิ่งที่เป็นสุนัตต่าง ๆ จนกระทั้งเรารักเขา" รายงานโดยบุคอรี (6021)
ท่านอัลบุคอรีย์และท่านอบูดาวูด ได้กล่าวว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
ما من أَيَّامٍ الْعَمَلُ الصَّالِحُ فيها أَحَبُّ إلى اللَّهِ من هذه الأَيَّامِ قالوا: يا رَسُولَ اللَّهِ ولا الْجِهَادُ في سَبِيلِ اللَّهِ؟ قال ولا الْجِهَادُ في سَبِيلِ اللَّهِ إلا رَجُلٌ خَرَجَ بِنَفْسِهِ وَمَالِهِ فلم يَرْجِعْ من ذلك بِشَيْءٍ
"ไม่มีวันต่าง ๆ ที่การปฏิบัติคุณงามความดี จะเป็นที่รักยิ่งยังอัลเลาะฮ์มากไปว่าบรรดาวันเหล่านี้ (คือสิบวันของซุลฮิจญะฮ์) บรรดาซอฮาบะฮ์กล่าวว่า โอ้ ร่อซูลุลเลาะฮ์ การรบในหนทางของอัลเลาะฮ์ไม่(เป็นที่รักยิ่งกว่า)หรือ? ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ตอบว่า การรบในวิถีทางของอัลเลาะฮ์ก็ไม่(ประเสริฐ)เท่า นอกจาก ชายคนหนึ่งได้ออกรบด้วย(การเสียสละ)ชีวิตและทรัพย์สินของเขา แล้วเขาก็ไม่หวนกลับมาด้วยสิ่งใดจากสิ่งดังกล่าวเลย" รายงานโดยอัลบุคอรีย์ หะดิษที่ 2438 และถ้อยคำหะดิษเป็นของท่านอบูดาวูด
การปฏิบัติคุณงามความดีในสิบวันของเดือนซุลฮิจญะฮ์นั้น เป็นที่รักยิ่งสำหรับอัลเลาะฮ์ ตะอาลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถือศีลอดในวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์ ซึ่งเป็นวันวุกูฟที่อะรอฟะฮ์
ความประเสริฐการถือศีลอดวันอะร่อฟะฮ์
ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
صِيَامُ يَوْمِ عَرَفَةَ أَحْتَسِبُ عَلَى اللَّهِ أَنْ يُكَفِّرَ السَّنَةَ الَّتِي قَبْلَهُ وَالسَّنَةَ الَّتِي بَعْدَهُ
"การถือศีลอดในวันอะร่อฟะฮ์นั้น ข้าพเจ้าหวังว่า อัลเลาะฮ์ จะทรงลบล้างความผิดในปีที่ก่อนวันอะรอฟะฮ์และในปีหลังจากวันอะร่อฟะฮ์" รายงานโดยมุสลิม
ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวเช่นกันว่า
مَا مِنْ يَوْمٍ أَكْثَرَ مِنْ أَنْ يُعْتِقَ اللَّهُ فِيهِ عَبْدًا مِنْ النَّارِ مِنْ يَوْمِ عَرَفَةَ
"ไม่มีวันใดที่อัลเลาะฮ์จะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จากไฟนรก ที่จะมากไปกว่าวันอะร่อฟะฮ์" รายงานโดยมุสลิม (1976)
การลบล้างความผิด
นักปราชญ์ได้มีความเห็นที่แตกต่างกัน
ท่านอิมามอัลญุวัยนีย์กล่าวว่า "บาปที่จะได้รับการลบล้างนั้น คือบรรดาบาปเล็ก" แต่ท่าน อิมามอิบนุ อัลมุนซิร , อิมามรอมลี , และเจ้าของหนังสือ อัซซะคออิร กล่าวว่า "การลบล้างบาปนั้น รวมถึงบาปใหญ่ด้วย เนื่องจากหะดิษนั้นมีความหมายที่ครอบคลุม(อาม) และความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์นั้นกว้างขวาง" ดู หนังสือ มุฆนีย์ อัลมั๊วะตาจญฺ เล่ม 2 หน้า 196 , ดู หะวาชีย์ อัชชัรวานีย์ วะ อิบนุ กอซิม อัลอับบาดีย์ อะลา ตั๊วะฟะฮ์ อัลมั๊วะหฺตาจญ์ เล่ม 3 หน้า 454
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า "บรรดาบาปของผู้ถือศีลอดในวันอะร่อฟะฮ์นั้น จะถูกลบล้างใน 2 ปี บรรดานักปราชญ์กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของบาปนั้นคือ บรรดาบาปเล็ก และถ้าหากว่าไม่มีบาปเล็ก หวังว่าบรรดาบาปใหญ่จะได้รับการผ่อนปรน และหากเขาไม่มีบาปเล็กและบาปใหญ่ เขาจะได้รับการยกหลายระดับขั้นให้สูงขึ้น" คัดสรุป จาก ชัรหฺ มุสลิม เล่ม 4 หน้า 308
สุนัตให้ถือศีลอดก่อนวันอะร่อฟะฮ์
ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลฮัยตะมีย์ กล่าวว่า "สุนัตให้ทำการถือศีลอดในวันที่ 8 ของซุลฮิจญะฮ์ ดังนั้นวันที่ 8 สมควรทำการถืออดในแง่ของการเผื่อป้องกันไว้ให้กับวันอะร่อฟะฮ์ (เพราะว่าบางครั้งความจริงวันที่ 8 อาจจะเป็นวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์ก็ได้) และในแง่ทีว่าวันที่ 8 นั้นก็ครอบคลุมอยู่ในการถือศีลอด 10 วันของซุลฮิจญะฮ์(อยู่แล้วถือศีลอดย่อมได้ภาคผลใน 10 วันของซุลฮิจญะฮ์) ซึ่งเฉกเช่นเดียวกันกับการถือศีลอดวันอะร่อฟะฮ์(วันที่ 9)ที่ถูกส่งเสริมให้ถือศีลอดเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของ 10 วันของเดือนซุลฮิจญะฮ์และ(วันที่ 9) ก็ยังเป็นวันอะรอฟะฮ์" ดู หะวาชีย์ อัชชัรวานีย์ วะ อิบนุ กอซิม อัลอับบาดีย์ อะลา ตั๊วะฟะฮ์ อัลมั๊วะหฺตาจญ์ เล่ม 3 หน้า 455 วัลลอฮุอะลา วะ อะลัม
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ