ผู้เขียน หัวข้อ: ซูเราะฮฺอัลบากอเราะฮฺ แปลว่าว่าซูเราะฮฺวัวตัวหนึ่ง หรือซูเราะฮฺวัวตัวเมีย  (อ่าน 10933 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ibnu Ubdullah

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

เคยอ่านตัฟซีรกุรอานของสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ  ระบุว่า  บากอเราะฮฺในซูเราะฮฺอัลบากอเราะฮฺ  หมายถึง  "วัวตัวเมีย"  แต่เคยได้ฟังบรรยายจากชัยคฺริฎอ  อะหมัด สมะดี  ท่านกล่าวว่า  "บากอเราะฮฺ"  มีความหมายได้สองนัย  คือ  วัวตัวเมีย  และ วัวตัวหนึ่ง  แต่  คำว่า  "บากอเราะฮฺ" ในซูเราะฮฺอัลบากอเราะฮฺนั้น  หมายถึง  "วัวตัวหนึ่ง"  ในความหมายของการตัฟซีรตามทัศนะของอุลามาอฺตัฟซีรส่วนใหญ่  แต่ความหมาย "วัวตัวเมีย" นั้นเป็นความหมายตามพจนานุกรม  สรุปแล้ว  อัลบากอเราะฮฺในซุเราะฮฺอัลบากอเราะฮฺ  แปลว่าอะไรกันแน่ครับ  ตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง 

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ซูเราะฮ์ "อัลบะกอเราะฮ์"นั้น  มีความประเสริฐ  คำว่า "อัลบะกอเราะฮ์"  แปลว่า "วัวตัวเมียหนึ่งตัว" ครับ   เพราะการที่ชี้ว่าหนึ่งตัวนั้น  เพราะคำว่า "อัลบะกอเราะฮ์" البقرة  เป็นคำนามเอกพจน์ ที่ชี้ถึงหนึ่งอยู่แล้วครับ  และอักษร ة  ที่อยู่ท้ายคำ البقرة   ย่อมชี้ถึง الوحدة (หนึ่ง) ซึ่งเขาเรียกว่า  "ตาอฺลิลวะห์ดะฮ์"  ตาอฺที่ชี้ถึงหนึ่ง 
ส่วนถ้อยคำที่ชี้ให้เห็นว่า  "อัลบะกอเราะฮ์"  ชี้ถึงวัวตัวเมียนั้น  เพราะอัลกรุอานได้ยืนยันไว้เรียบร้อยแล้วครับ  ที่ว่า

قَالُواْ ادْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّن لّنَا مَا هِيَ قَالَ إِنَّهُ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌ لاَّ فَارِضٌ وَلاَ بِكْرٌ عَوَانٌ بَيْنَ ذَلِكَ فَافْعَلُواْ مَا تُؤْمَرونَ

"พวกเขาก็กล่าว (กับนบีมูซา) ว่า "ขอท่านได้โปรดวิงวอนต่อองค์อภิบาลของท่านให้เราด้วยเถิด  เพื่อพระองค์แจ้งให้ชัดเจนว่า มัน (วัวตัวเมียนั้น) เป็นอย่างไร?" เขาจึงตอบว่า "พระองค์ทรงตรัสว่า มันเป็นวัวตัวเมียที่ยังไม่แก่และไม่อ่อนนัก (มันเป็นวัวอายุ) ปานกลางระหว่างนั้น  ดังนั้น พวกเจ้าจงปฏิบัติตามที่พวกเจ้าถูกบัญชาเถิด"

เราจะได้สังได้ว่า  อัลเลาะฮ์ทรงใช้ สรรพนาม แทนวัวดังกล่าวนั้น  ด้วยคำว่า هِيَ ซึ่งเป็นสรรพนามที่ชี้ถึงเพศหญิงหรือเพศเมีย  และคำว่า  إِنَّهَا   คำว่า هَا ก็เป็นสรรพนามที่ชี้ถึงเพศหญิงหรือเพศเมีย  ที่กลับไปหาคำว่า วัว ตัวนั้น

สรุป :  อัลบะกอเราะฮ์  หมายถึง  วัวตัวเมียหนึ่งตัว  ครับ
 
วัลลอฮุอะลั้ม

والسلام
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
แค่ชื่อซูเราะฮ์  อัลบะกอเราะฮ์  ยังทำให้คนสงสัยกันเลยครับว่า  หมายถึง วัวตัวเมีย  หรือว่า  วัวหนึ่งตัว  คือคนหนึ่งบอกว่านี่หมายถึง วัวตัวเมีย  อีกคนบอกว่าอาจจะหมายถึง วัวหนึ่งตัว  ทั้งที่ความจริงแล้ว  มันก็คือ "วัวตัวเมียหนึ่งตัว" นั่นแหละคร๊าบบบท่านพี่น้อง   ;D   

ออฟไลน์ Ibnu Ubdullah

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ยาซากัลลอฮฺครับ อาจารย์อัซฮารียฺ  ถ้าพิจารณาจากคำ  البقرة  อย่างเดียว  ก็อาจหมายถึงวัวหนึ่งตัวได้  ดังคำอธิบายของท่านอาจารย์ข้างต้น  แต่ถ้าพิจารณาในสำนวนอายะฮฺต่อๆ มาที่กล่าวถึงวัว  จะพบว่าอัลลอฮฺใช้สรรพนามที่ชี้ถึงเพศหญิงหรือเพศเมียกับวัวหนึ่งตัวตัวนั้น  จึงให้ความหมายได้ว่า"วัวตัวเมียหนึ่งตัว"  แสดงว่าท่านชัยคฺลืมดูอายะฮฺต่อมาแน่เลย

ออฟไลน์ Ibnu Ubdullah

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อ.อัซฮารีย์ ครับ  ผมได้อ่านคำตอบของอาจารย์แล้วเกี่ยวกับ อัลบากอเราะฮฺว่า หมายถึงวัวตัวเมีย  และผมก็เชื่อตามนั้น  แต่ผมก็ลองไปตรวจสอบดูในเว็บไซต์ของ ชัยคฺริฎอ อีกครั้งว่าท่านอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่  ปรากฎว่าท่านได้อธิบายเพิ่มเติมไว้  และเป็นคำอธิบายที่แตกต่างและขัดแย้งกับคำอธิบายของท่าน  และเป็นคำอธิบายเชิงวิชาการที่น่าเชื่อถือเช่นกัน  ดังนี้

ในวงนักวิชาการมีปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์ความรู้ของนักวิชาการเป็นที่น่าเชื่อถือตามบรรทัดฐานของวิชาการ นั่นคือความสามารถที่จะเข้าใจสำนวนตำราต่างๆ โดยเฉพาะตำราโบราณซึ่งนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญยอมรับว่าเป็นพื้นฐานของกระบวนการการศึกษาที่จะให้นักวิชาการนั้นมีข้อผูกพันกับตำราโบราณอย่างใกล้ชิด ฉะนั้นวิทยานิพนธ์ของปริญญาโทและปริญญาเอกส่วนมากจึงเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับตำราโบราณที่ไม่เคยพิมพ์มาก่อน โดยผู้วิจัยจะนำเสนอเนื้อหาของตำราโบราณให้ชัดเจนและตรงกับเจตนารมณ์ของผู้เขียนตำรามากที่สุด เรื่องนี้อัชชัยคฺซักกอฟ (ในหนังสืออัลฟะวาอิดุลมักกียะฮฺ) เรียกว่า มะละกะตุลอิสติหฺซอล คือความสามารถในการเข้าใจสำนวนและภาษา และอัชชัยคุลมุฮักกิก มะหฺมูด มุฮัมมัดชากิร ได้ระบุว่าเรื่องนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่านักวิชาการคนใดที่มีความคลุกคลีกับตำราของอัสสะละฟุศศอลิหฺ แต่มีนักวิชาการบางท่านที่นึกว่าเพียงภาษาและไวยกรณ์เท่านั้นที่จะทำให้ตัวเองสามารถเข้าใจสำนวนภาษาในตำราโบราณได้อย่างถูกต้อง

ผมได้อ่านและได้ยินนักวิชาการบางท่านพาดพิงถึงผมในประเด็นที่ผมวิพากษ์วิจารณ์ว่า ความหมายอัลกุรอานภาษาไทยเกือบทุกเล่มมีข้อผิดพลาด และผมหยิบยกตัวอย่างในอายะฮฺ 67 ของซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ ที่อัลลอฮฺตรัสไว้ว่า

وَإِذْ قَالَ مُوسَى لِقَوْمِهِ إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُكُمْ أَنْ تَذْبَحُوا بَقَرَةً قَالُوا أَتَتَّخِذُنَا هُزُوًا قَالَ أَعُوذُ بِاللَّهِ أَنْ أَكُونَ مِنَ الْجَاهِلِينَ (67)

ซึ่งในความหมายอัลกุรอานภาษาไทยของสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ โดย ครูดารี บินอะหมัด รอหิมะฮุลลอฮฺ ได้แปลไว้ว่า ?และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้กล่าวแก่กลุ่มชนของเขาว่า แท้จริงอัลลอฮฺบัญชาแก่พวกท่านให้เชือดวัวตัวเมียตัวหนึ่ง...? ซึ่งผมได้บอกว่าเป็นข้อผิดพลาดเพราะความหมายที่ถูกต้องคือให้เชือดวัวตัวหนึ่ง

ก็มีนักวิชาการวิจารณ์ด้วยความมั่นใจว่าคำพูดของผมต่างหากที่คลาดเคลื่อนและผิดพลาด โดยอ้างว่าคำแปลว่า วัวตัวเมีย นั้นมีอยู่ในตัฟซีรอิบนุกะษีร, อัลบะหฺรุลมุฮีฏ, อัลกุรฏุบียฺ, และอื่นๆ ซึ่งเขาอ้างว่าผมดูเพียงความหมายตามพจนานุกรมแต่มิได้ดูความหมายจากตำราตัฟซีร(คือตำราที่อธิบายความหมายอัลกุรอาน)

และเรื่องนี้ได้ขยายวงจนกระทั่งมีผู้เขียนท่านหนึ่งตามกระทู้ในอินเตอร์เน็ตเขียนว่า ในอายะฮฺต่อจากอายะฮฺที่ 67 พระองค์ตรัสว่า

قَالُوا ادْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّنْ لَنَا مَا هِيَ قَالَ إِنَّهُ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌ

คำว่า ?หิยะ? และ ?อินนะฮา? เป็นสรรพนามเพศหญิง จึงหมายรวมว่าวัวที่อัลลอฮฺสั่งให้บนูอิสรออีลเชือดนั้นเป็น วัวตัวเมีย

มีลูกศิษย์ลูกหามาถามผมในประเด็นนี้และขอให้อธิบายในเชิงวิชาการ ผมได้ตอบว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรให้มันเป็นเรื่องที่มีสาระใหญ่จึงต้องตอบโต้กัน และได้อธิบายเหตุผลของผมสั้นๆ แต่ผมได้อ่านและได้ยินคำพูดของนักวิชาการที่พาดพิงถึงผมโดยอ้างเนื้อหาทางวิชาการ อันเป็นเนื้อหาที่ทำให้นักศึกษาความหมายอัลกุรอานถูกทำให้พิศวงหรือหลงในภาพลวงของหลักฐานอ้างอิง ซึ่งการพิทักษ์รักษาความน่าเชื่อถือของวิชาการเป็นจรรยาบรรณส่วนหนึ่งของบรรดานักวิชาการที่จะมิให้สิ่งปลอมมาแอบอ้างเป็นวิชาการหรือหลอกลวงประชาชนว่านี่คือวิชาการ จึงขอชี้แจงประเด็นนี้ดังต่อไปนี้

ในตัฟซีรอัฏฏ๊อบรียฺ ท่านอิมามอัฏฏ๊อบรียฺกล่าวว่า พระองค์ได้สั่งใช้พวกเขา(คือบนูอิสรออีล)ให้เชือดวัวตัวหนึ่งจากบรรดาวัว หมายรวมว่าวัวตัวไหนก็ได้ที่พวกเขาประสงค์จะเชือด โดยที่พระองค์มิได้เจาะจงประเภทหรือชนิด ท่านอิมามอัฏฏ๊อบรียฺกล่าวว่า ?มินฆ็อยริ อันยะหฺสุเราะ ละฮุมซาลิกา อะลาเนาอิน มินฮา ดูนะเนาอิน เอา ซินฟิน ดูนะซินฟิน? คำว่า ?เนาอุน? กับ ?ซินฟุน? หมายถึง ลักษณะที่เจาะจงประเภทหรือชนิดวัว ซึ่งหมายรวมถึงเพศของสัตว์ด้วย นี่คือคำอธิบายของอิมามอัฏฏ๊อบรียฺซึ่งมีความชัดเจนในคำอธิบายอายะฮฺนี้

แต่นักวิชาการที่คัดค้านผมได้หยิบยกทัศนะของอุละมาอฺที่อธิบายลักษณะวัวในอายะฮฺ 68 ที่พระองค์ตรัสว่า ?อินนะฮาบะเกาะเราะตุน ลาฟาริดุน วะลาบิกรุน? ซึ่งมีทัศนะของซุดดียฺว่าคือวัวที่มีลูกแล้ว นักวิชาการที่คัดค้านผมได้อ่านทัศนะนี้ในตัฟซีรฏ๊อบรียฺ, กุรฏุบียฺ, และอิบนุกะษีร โดยเข้าใจว่านี่เป็นหลักฐานชัดเจนว่าวัวที่ถูกใช้ให้เชือดคือวัวตัวเมีย ซึ่งความคลาดเคลื่อนของนักวิชาการท่านนี้เกิดเนื่องจากว่าที่ผมได้กล่าวถึงคืออายะฮฺแรกที่พระองค์สั่งให้เชือดวัวโดยยังไม่ได้ระบุลักษณะต่างๆ ที่บนูอิสรออีลได้ถามนบีมูซา ทั้งนี้ทัศนะของซุดดียฺที่ว่าวัว ?อะวานุน? คือวัวที่มีลูกแล้วนั้นเป็นการตีความแต่ไม่ใช่ความหมายตายตัว เพราะทัศนะของบรรดาเศาะฮาบะฮฺและตาบิอีนส่วนมาก คำว่า ?อะวานุน บัยนะ ซาลิกะ? คือ ไม่แก่และไม่อ่อน ดังนั้นลักษณะต่างๆที่มีการตีความว่าหมายถึงวัวตัวเมียนั้นไม่ใช่เนื้อหาของสำนวนอัลกุรอาน หากเป็นทัศนะหรือการตีความของบรรดานักอธิบายความหมายอัลกุรอาน

ในการบันทึกของท่านอิมามอัฏฏ๊อบรียฺและหนังสือตัฟซีรแทบทุกเล่มได้รายงานไว้ จากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิอับบาสกล่าวว่า

لَوْ أَنَّهُمْ أَخَذُوْا أَدْنَى بَقَرَةٍ لأَجْزَأَتْهُمْ وَلَكِنَّهُمْ شَدَّدُوْا فَشَدَّدَ اللهُ عَلَيْهِم


ถ้าพวกเขา(บนูอิสรออีล)ได้เอาวัวระดับต่ำที่สุดก็เพียงพอสำหรับพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาต้องการเคร่งครัด อัลลอฮฺจึงทำให้ยิ่งเคร่งครัดสำหรับพวกเขา ท่านอิบนิอับบาสใช้คำว่า ?เลาอะเคาะซู อัดนา บะเกาะเราะติน? ซึ่งใครที่เข้าใจสำนวนภาษาอาหรับก็จะเข้าใจว่าหมายถึง ?วัวตัวหนึ่งตัวใด?

นักวิชาการที่คัดค้านผมได้อ้างถึงอัลบะหฺรุลมุฮีฏของอิมามอิบนุฮัยยาน ซึ่งท่านกล่าวว่า ?อัลบะเกาะเราะฮฺ (البَقَرَة) คือเพศหญิงของสัตว์ที่รู้จักกันและอาจใช้สำหรับตัวผู้? แต่นักวิชาการท่านนั้นไม่ได้อ่านคำพูดของอิมามอิบนุฮัยยานต่อจากนั้นซึ่งมีความหมายว่า ?ความหมายของอายะฮฺคือสิ่งที่เขาถูกใช้ให้เชือดวัวตัวหนึ่ง ซึ่งตัวใดก็ได้ถ้าพวกเขาเชือดแล้วก็ถือว่าทำหน้าที่? และอิมามอิบนุฮัยยานยังอ้างถึงหะดีษ(แต่เป็นหะดีษอ่อนหลักฐาน)ว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ?ขอสาบานด้วยพระผู้ที่วิญญาณของมุฮัมมัดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ถ้าพวกเขาได้เจอวัวตัวหนึ่งและเชือดมันแล้วก็ใช้ได้สำหรับพวกเขา...? ซึ่งคนที่อ่านตำราตัฟซีรจะเข้าใจว่าท่านอิมามอิบนุฮัยยานได้กล่าวถึง ?อัลบะเกาะเราะฮฺ? ว่าหมายถึง ตัวเมียหรืออาจหมายถึงตัวผู้ นั่นคือการระบุความหมายโดยภาษาทั่วไป อันเป็นลักษณะของผู้อรรถาธิบายความหมายอัลกุรอานเกือบทุกเล่มที่จะระบุความหมายของคำศัพท์ในพจนานุกรมทั้งหมด แต่มิได้หมายรวมว่าอันหนึ่งอันใดคือความหมายที่มีน้ำหนักมากกว่า เว้นแต่จะระบุอย่างชัดเจนในคำวินิจฉัยของผู้อธิบาย

ซึ่งผมก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า ?อัลบะเกาะเราะฮฺ? มีความหมายในภาษาอาหรับว่า วัวตัวเมีย แต่ผมได้พูดว่า ในอายะฮฺ 67 นั้นหมายถึง วัวตัวหนึ่ง เพราะคำว่า ?อัลบะเกาะเราะฮฺ - البَقَرَة  ? มี 2 นัยยะ นัยยะหนึ่งทางไวยกรณ์เรียกว่า อิสมุยินซิน (นามของประเภท) หมายถึง ชื่อสัตว์โดยไม่คำนึงว่าสัตว์นั้นเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ซึ่งอักษรตากลม(ة) ในคำว่าอัลบะเกาะเราะฮฺมิได้หมายถึงเพศหญิง คือไม่ใช่ ตาอุตตะนีส แต่ในทางไวยกรณ์อาหรับเรียกว่า ตาอุลอิฟรอด คือ ตา-เอกพจน์ กล่าวคือ วัวตัวหนึ่งนั่นเอง ซึ่งในภาษาอาหรับจะมีบางคำที่เอกพจน์กับพหูพจน์จะแยกได้ด้วยตัว ?ตากลม(ة)? นี้  เช่น ตัมรุน تَمْرٌ  (อินทผลัมพหูพจน์) และ ตัมเราะตุน تَمْرَةٌ (อินทผลัมเม็ดเดียว), นัมลุน نَمْلٌ (มดหลายตัว) และ นัมละตุน نَمْلَةٌ  (มดตัวเดียว) 

ทั้งนี้สรรพนามที่ใช้กับคำที่มี ตา-เอกพจน์ ก็จะใช้สรรพนามเพศหญิง เพราะไวยกรณ์ภาษาอาหรับบังคับให้ถือว่าเป็นเพศหญิงโดยคำพูด(การออกเสียง)เท่านั้น ทั้งๆที่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเพศหญิงก็ตามและในอัลกุรอานก็มีหลายตัวอย่าง อาทิเช่น ในซูเราะฮฺอันนัมลฺ อายะฮฺ 18 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

حَتَّى إِذَا أَتَوْا عَلَى وَادِ النَّمْلِ قَالَتْ نَمْلَةٌ يَا أَيُّهَا النَّمْلُ ادْخُلُوا مَسَاكِنَكُمْ

?จนกระทั่งเมื่อพวกเขาได้มาถึงทุ่งที่มีมดมาก มดตัวหนึ่งได้พูดว่า โอ้พวกมดเอ๋ยจงเข้าไปในรังของพวกเจ้าเถิด? ซึ่งคำว่า ?กอลัตนัมละตุน? ก็เป็นเพศเมีย ( نَمْلَةٌ  นัมละตุน) และใช้กริยาเพศหญิง( قَالَتْ  กอลัต) ทั้งๆที่คำแปลได้ระบุว่า มดตัวหนึ่ง นักวิชาการที่คัดค้านผมเรื่องวัวตัวเมียคงจะไม่แปลอายะฮฺนี้ว่า  มดตัวเมียตัวหนึ่งได้พูดว่า...  เพราะถ้าแปลเช่นนี้ก็คงจะไม่มีข้ออ้างอิงหรือเหตุผลที่น่าเชื่อถือเลย

และสิ่งที่เป็นหลักฐานบ่งชัดว่าอัลกุรอานไม่ได้กล่าวถึงวัวตัวเมียเลยคืออายะฮฺที่ 70 ของซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อัลลอฮฺตรัสว่า

قَالُوا ادْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّنْ لَنَا مَا هِيَ إِنَّ الْبَقَرَ تَشَابَهَ عَلَيْنَا

มีความหมายว่า ?พวกเขา(บนูอิสรออีล)กล่าวว่า โปรดวิงวอนต่อพระเจ้าของท่านให้แก่พวกเราเถิด พระองค์ก็จะทรงแจ้งแก่พวกเราว่า วัวนั้นเป็นอย่างไร แท้จริงวัวนั้นมันคล้ายๆกัน แก่พวกเรา?

ซึ่ง ?อินนัลบะเกาะเราะ ตะชาบะหะ? ได้ใช้พหูพจน์ของ อัลบะเกาะเราะตุ ( البَقَرَةُ ) คือ อัลบะเกาะเราะ( البَقَرَ) โดยใช้กริยาเพศชายคือ ตะชาบะหะ กล่าวคือถ้าวัวที่อัลลอฮฺสั่งให้เชือดตั้งแต่แรกคือวัวตัวเมีย แล้วบนูอิสรออีลไปหาวัวตัวเมียเท่านั้นก็น่าจะใช้พหูพจน์ของวัวตัวเมีย คือ บะเกาะรอต (بَقَرَات) ซึ่งในอัลกุรอานก็มีใช้คำนี้ อาทิเช่นในซูเราะฮฺยูซุฟ เป็นต้น และควรจะใช้กริยาเพศหญิงคือ ตะชาบะหัต อันแสดงว่าความหมายที่นักวิชาการท่านนั้นกล่าวว่าอัลบะเกาะเราะฮฺคือวัวตัวเมีย เป็นความหมายที่ขัดกับเนื้อหาของอายะฮฺอื่นๆในเรื่องเดียวกัน และเมื่อบรรดาอุละมาอฺกล่าวถึงชื่อซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ ก็ไม่มีใครเลยที่อธิบายว่าหมายถึง ซูเราะฮฺวัวตัวเมีย

บางท่านอาจติงว่าความเข้าใจแบบนี้ย่อมไม่มีน้ำหนักเช่นเดียวกัน เพราะไม่มีอุละมาอฺท่านใดบอกว่าหมายถึง วัวตัวหนึ่ง ขอตอบว่า แท้จริงไม่มีอุละมาอฺท่านใดที่อธิบาย ?อัลบะเกาะเราะฮฺ? ในอายะฮฺ 67 ว่าหมายถึงวัวตัวเมียต่างหาก มิหนำซ้ำคำพูดของอุละมาอฺทั้งหมดโดยเฉพาะบรรดาเศาะฮาบะฮฺ เช่น อับดุลลอฮฺ อิบนิอับบาส ก็มิได้เอ่ยเรื่องตัวผู้ตัวเมียแต่อย่างใด ทั้งนี้อุละมาอฺที่เชี่ยวชาญด้านตัฟซีรโดยเฉพาะคือ ท่านอิมามอิบรอฮีม อิบนุอุมัร อัลบิกออียฺ (เสียชีวิตปี ฮ.ศ.885) ได้กล่าวในตัฟซีรนัซมุดดุรอรของท่านว่า อักษรตา(ة)ของคำว่าอัลบะเกาะเราะฮฺไม่ใช่ตาเพศหญิงจริง แต่หมายถึงตัวหนึ่งในประเภท ?วัว? ซึ่งอาจหมายถึงตัวผู้หรือตัวเมียก็ได้ ซึ่งมีสำนวนภาษาอาหรับว่า ?วะตาอุฮา ลัยซัต ลิตตะนีซิลหะกีกี บัล ลิอันนะฮา วะหิดะตุน มินัลญินสิ ฟะตะเกาะอุ อะลัซซะกะริ วัลอุนซา?

แท้จริงคำอธิบายของท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิอับบาส ก็เพียงพอแล้วที่จะระบุว่าเรื่องตัวผู้ตัวเมียไม่มีกล่าวถึงในพระบัญชาของอัลลอฮฺ แต่วัตถุประสงค์ของคำสั่งให้เชือดวัวนั้นคือตัวไหนก็ได้ เพื่อนำส่วนหนึ่งจากวัวไปตีศพของผู้ที่ถูกฆ่า เพื่ออัลลอฮฺจะให้เขาฟื้นคืนชีพและชี้ตัวฆาตกร และเมื่อพิจารณาในเหตุผลที่นักอธิบายความหมายอัลกุรอานได้กล่าวถึงคำสั่งให้เชือดวัวนั้น เพราะบนูอิสรออีลเคยคลุกคลีกับชาวอียิปต์โบราณ(พวกฟะรออินะฮฺ)ซึ่งบูชาวัวตัวผู้(อัษเษารฺ) อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ตามความเชื่อของพวกเขา เมื่อบนูอิสรออีลข้ามทะเลและนบีมูซาไปรับคัมภีร์จากอัลลอฮฺ พวกเขาได้สร้างวัวเพื่อบูชาเช่นเดียวกับชาวอียิปต์ อันเป็นประเพณีของพวกมุชริกีนที่ติดมา ซึ่งอัลลอฮฺต้องการหยามความเชื่อดังกล่าว จึงสั่งใช้ให้บนูอิสรออีลเชือดวัว ถ้าเรามองถึงเหตุผลนี้ก็อาจตีความได้ว่าวัวตัวที่ถูกใช้ให้เชือดเป็นตัวผู้ก็ได้ เพราะมันตรงกับวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้อายะฮฺที่อัลลอฮฺสั่งบนูอิสรออีลให้เชือดวัวนั้น นักปราชญ์อิสลามมักจะหยิบยกมาเพื่อบ่งชี้ว่าคำสั่งของอัลลอฮฺนั้นควรรีบปฏิบัติโดยไม่ต้องเจาะถึงรายละเอียดที่พระองค์ไม่ได้กล่าวถึง และการเจาะถึงรายละเอียดเป็นกมลสันดานของบนูอิสรออีลที่มุสลิมไม่ควรกระทำ แต่ถ้าหากเราเข้าใจว่าคำสั่งให้เชือดวัวตรงนี้คือวัวตัวเมียก็จะไม่มีเหตุผลดังกล่าว

โดยนิติศาสตร์อิสลามในวาระอื่นๆ เช่น การเชือดวัวกุรบาน(อุฎหิยะฮฺ)หรือในพิธีฮัจญฺ ถ้าเชือดวัวตัวผู้หรือตัวเมียก็ถือว่าใช้ได้ และอะกีเกาะฮฺที่นบีกล่าวว่า ?อะนิลฆุลามิ ชาตาน? โดยใช้คำว่า ?ชาต? คือแพะ ซึ่งมีอักษรตาที่เป็นเพศหญิง แต่ตรงนี้ก็เช่นเดียวกัน มิได้หมายถึงเพศหญิงจริงๆ เพราะคำว่า ?ชาต? หมายรวมถึงตัวผู้และตัวเมีย

อนึ่งคำอธิบายข้างต้นเพียงเป็นกุญแจให้บรรดาผู้ค้นหาสามารถไตร่ตรองและพิจารณาข้อมูลอย่างเป็นบรรทัดฐาน ไม่ใช่หยิบจากตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยแล้วมาตีความอัลกุรอานหรือตำราของนักปราชญ์อิสลามโดยอ้างว่าตนเองเข้าใจถูกต้องแล้ว แท้จริงผมสามารถอธิบายและหยิบยกหลักฐานมากกว่านี้ แต่ดังที่ระบุข้างต้นว่าไม่อยากให้ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ต้องการให้ผู้ศึกษาความหมายอัลกุรอานและผู้วิพากษ์วิจารณ์คำพูดของคนอื่นระมัดระวังและสำรวจข้อมูลที่อ้างอิงอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อเป็นข้อมูลคุณภาพอยู่ในเครือข่ายของวิชาการ มิใช่เครือข่ายอ่านเล่นๆ และพูดง่ายๆ




ในฐานะที่ผมเป็นคนที่ไม่รู้ไวยกรณ์อาหรับและไม่ได้ศึกษาวิชาตัฟซีรกุรอาน  จึงเกิดความสับสนอีกครั้ง  และด้วยความอยากรู้ (ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์หรือไม่) จึงอยากรบกวนให้อาจารย์อัซฮารีย์ช่วยชี้แจงหรือวิจารณ์คำอธิบายของชัยคฺริฎอเกี่ยวกับประเด็นนี้อีกครั้ง  ยาซากัลลอฮฺ ครับ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
และเรื่องนี้ได้ขยายวงจนกระทั่งมีผู้เขียนท่านหนึ่งตามกระทู้ในอินเตอร์เน็ตเขียนว่า ในอายะฮฺต่อจากอายะฮฺที่ 67 พระองค์ตรัสว่า

قَالُوا ادْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّنْ لَنَا مَا هِيَ قَالَ إِنَّهُ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌ

คำว่า ?หิยะ? และ ?อินนะฮา? เป็นสรรพนามเพศหญิง จึงหมายรวมว่าวัวที่อัลลอฮฺสั่งให้บนูอิสรออีลเชือดนั้นเป็น วัวตัวเมีย

มีลูกศิษย์ลูกหามาถามผมในประเด็นนี้และขอให้อธิบายในเชิงวิชาการ ผมได้ตอบว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรให้มันเป็นเรื่องที่มีสาระใหญ่จึงต้องตอบโต้กัน และได้อธิบายเหตุผลของผมสั้นๆ แต่ผมได้อ่านและได้ยินคำพูดของนักวิชาการที่พาดพิงถึงผมโดยอ้างเนื้อหาทางวิชาการ อันเป็นเนื้อหาที่ทำให้นักศึกษาความหมายอัลกุรอานถูกทำให้พิศวงหรือหลงในภาพลวงของหลักฐานอ้างอิง ซึ่งการพิทักษ์รักษาความน่าเชื่อถือของวิชาการเป็นจรรยาบรรณส่วนหนึ่งของบรรดานักวิชาการที่จะมิให้สิ่งปลอมมาแอบอ้างเป็นวิชาการหรือหลอกลวงประชาชนว่านี่คือวิชาการ จึงขอชี้แจงประเด็นนี้ดังต่อไปนี้

เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ซิครับ  นี่ผมต้องปลีกเวลาชี้แจงเรื่องวัวหนึ่งตัวหรือวัวตัวเมียอีกแล้วหรือครับ  แล้วที่ชัยค์ริฏอบอกว่า "มีผู้เขียนท่านหนึ่งตามกระทู้นั้นในอินเตอร์เนท" นั้น  คือ ผม อัลอัซฮะรีย์ หรือเปล่าครับคุณ Ibnu Ubdullah ??  ;D

แต่ผมคิดว่าจะเป็นวัวตัวเดียวหรือวัวตัวเมียนั้น  หากอธิบายกันในเชิงวิชาการ  ก็สามารถอธิบายได้ทั้งสองทัศนะนั่นแหละ  คือแล้วแต่ฝ่ายใดจากนำหลักการมาอธิบายประกอบ  ดังนั้น ชัยค์ ริฏอ ไม่สมควรคิดว่าการอ้างอิงหลักการของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นภาพลวง  เพราะมันชี้ถึงว่า  เขามั่นใจในทัศนะของตนเองจนเกินไปจนดูฝ่ายอื่นเป็นของแปลกปลอมและแอบอ้าง  ฉะนั้น  ทำไมถึงต้องมีทัศนะคติแบบนี้ไปเสียทุกเรื่องเลยล่ะครับ

ว่าง ๆ ผมจะนำเสนอชี้แจงคำอธิบายของชัยค์ริฏอ  เพื่อให้พี่น้องทราบว่าอีกทัศนะหนึ่งนั้นไม่ใช่ภาพลวงและไม่ใช่ของแปลกปลอมเสอมไป  อินชาอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ผมได้อ่านและได้ยินนักวิชาการบางท่านพาดพิงถึงผมในประเด็นที่ผมวิพากษ์วิจารณ์ว่า ความหมายอัลกุรอานภาษาไทยเกือบทุกเล่มมีข้อผิดพลาด และผมหยิบยกตัวอย่างในอายะฮฺ 67 ของซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ ที่อัลลอฮฺตรัสไว้ว่า

وَإِذْ قَالَ مُوسَى لِقَوْمِهِ إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُكُمْ أَنْ تَذْبَحُوا بَقَرَةً قَالُوا أَتَتَّخِذُنَا هُزُوًا قَالَ أَعُوذُ بِاللَّهِ أَنْ أَكُونَ مِنَ الْجَاهِلِينَ (67)

ซึ่งในความหมายอัลกุรอานภาษาไทยของสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ โดย ครูดารี บินอะหมัด รอหิมะฮุลลอฮฺ ได้แปลไว้ว่า ?และจงรำลึกถึงขณะที่มูซาได้กล่าวแก่กลุ่มชนของเขาว่า แท้จริงอัลลอฮฺบัญชาแก่พวกท่านให้เชือดวัวตัวเมียตัวหนึ่ง...? ซึ่งผมได้บอกว่าเป็นข้อผิดพลาดเพราะความหมายที่ถูกต้องคือให้เชือดวัวตัวหนึ่ง

ก็มีนักวิชาการวิจารณ์ด้วยความมั่นใจว่าคำพูดของผมต่างหากที่คลาดเคลื่อนและผิดพลาด โดยอ้างว่าคำแปลว่า วัวตัวเมีย นั้นมีอยู่ในตัฟซีรอิบนุกะษีร, อัลบะหฺรุลมุฮีฏ, อัลกุรฏุบียฺ, และอื่นๆ ซึ่งเขาอ้างว่าผมดูเพียงความหมายตามพจนานุกรมแต่มิได้ดูความหมายจากตำราตัฟซีร(คือตำราที่อธิบายความหมายอัลกุรอาน)

ผมเองก็ไม่นึกว่ามีนักศึกษาได้นำกรณีเรื่อง วัวตัวเมีย กับ วัวตัวหนึ่งมาสอบจนเป็นประเด็นที่ขยายวงกว้างแบบไม่น่าจะเป็น  เอาเป็นเอาตายกับเรื่องวัวตัวเมียกับวัวตัวหนึ่ง  แต่สำหรับผมแล้ว  อัลบะกอเราะฮ์  คือ "วัวตัวเมียหนึ่งตัว" ครับ  คำว่า البقرة  "อัลบะกอเราะฮ์" เป็นนามที่นำมาตั้งชื่อของซูเราะฮ์  อาลีฟลาม أل  ที่คำว่า อัลบะกอเราะฮ์นั้น  เขาเรียกว่า อะลีฟมะริฟะฮ์ลิลอะฮ์ดี  อะลีฟลามที่บ่งถึงความหมายเจาะจงอันที่เป็นรู้กัน  ว่าวัวที่ว่านี้  คือวัวอะไร? มีลักษณะอย่างไร? และเป็นวัวประเภทใหนที่อัลเลาะฮ์บ่งบอกเจาะจงให้บนีอิสรออีลทำการเชือด ไม่ใช่จะมาบอกว่า "วัวตัวหนึ่ง"แบบควาหมายคลุม ๆ เพราะว่ามันไม่ใช่นามนะกิเราะฮ์ ที่ให้ความหมายครอบคลุมวัวตัวใดตัวหนึ่ง   อะลีฟลามมะริฟะอ์ลิลอะฮ์ดีนี้  ก็เหมือนกับคำว่า الكهف (อัลกะฮ์ฟี) ที่ถูกนำมาตั้งชื่อซูเราะฮ์นั่นแหละครับ  ซึ่งหมายถึง  ถ้ำ  แต่ถ้ำนี้ไม่ใช่หมายความว่า  ถ้ำหนึ่ง  แบบความหมายครอบคลุมน่ะครับ  แต่มันหมายถึงถ้ำที่บรรดาชายหนุ่มที่มีศรัทธาเข้าไปหลบภัยและนอนหลับในนั้นเป็นระยะเวลานาน  นั่นก็แสดงว่า อะลีฟลามมะริฟะฮ์ลิลอะฮ์ดีนี้  จะให้ความหมายที่ครอบคลุมไม่ได้  จะแปลว่า วัวตัวหนึ่ง ไม่ได้นะครับ  เพราะถ้อยคำมันเป็นมะริฟะฮ์ที่ใช้ความหมายเจาะจง  เราจะไปแปลว่า วัวตัวหนึ่ง ที่ให้ความแบบนะกิเราะฮ์ในความหมายแบบครอบคลุมนั้นไม่ได้

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า

وَإِذْ قَالَ مُوسَى لِقَوْمِهِ إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُكُمْ أَنْ تَذْبَحُوا بَقَرَةً قَالُوا أَتَتَّخِذُنَا هُزُوًا قَالَ أَعُوذُ بِاللَّهِ أَنْ أَكُونَ مِنَ الْجَاهِلِينَ

"เมื่อครั้งที่มูซาได้ประกาศแก่หมู่คณะของเขาว่า "แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงมีบัญชาแก่ท่านทั้งหลายให้ทำการเชือดวัวตัวหนึ่ง..." แปล โดย อ.มัรวาน สะมะอุน

ถือว่าเป็นการแปลที่ถูกต้องครับ  เพราะเริ่มแรกนั้น  อัลเลาะฮ์ทรงใช้ให้บนีอิสรออีลเชือดวัวตัวหนึ่ง  คือวัวอย่างไรก็ได้  เพราะคำว่า  บะก่อเราะฮ์  เป็นนามนะกิเราะฮ์ที่ให้ความหมายครอบคลุม   เขาเรียกว่าวัวที่ให้ความหมาย العامة  (ครอบคลุม)  แต่หลังจากนั้น  อัลเลาะฮ์ทรงอธิบาย (บะยาน) เจาะจงในประเภทและลักษณะของวัว  ซึ่งเป็น วัวตัวเมีย  เขาเรียกว่า วัวที่ถูกเจาะจง  المخصوصة  ดังนั้น ในที่สุดวัวที่อัลเลาะฮ์ทรงใช้ให้บนีอิสรีลเชือดนั้น คือ "วัวตัวเมียหนึ่งตัว" ครับ  และความหมายของวัวตัวเมียหนึ่งตัวนี่แหละ  ที่นำมาใช้ตั้งชื่อของซูเราะฮ์  ว่า  "อัลบะกอเราะฮ์"  ไม่ใช่ "บะกอเราะฮ์" (ที่แปลว่าวัวตัวหนึ่ง)

เราจะสังเกตุได้ว่า  ชัยค์เขาพยายามที่จะยึดคำว่า บะกอเราะฮ์  "วัวตัวหนึ่ง" ที่อยู่ในความหมายครอบคลุมมายืนยันทัศนะของตน  โดยไม่เอาคำว่า "อัลบะกอเราะฮ์"  "วัวตัวเมียตัวหนึ่ง" ที่ให้ความหมายเจาะจงและเป็นที่รู้กันดีตามที่อัลเลาะฮ์ทรงพรรณาคุณลักษณะเอาไว้   ดังนั้น เมื่อมีความหมายครอบคลุมกับความหมายเจาะจง  ก็ให้เอาความหมายเจาะจงมาอยู่ก่อน  ซึ่งมันคือเป้าหมายตามที่อัลเลาะฮ์ทรงเจาะจงไว้  เราจะไปบอกวัวตัวหนึ่งไม่ได้  เพราะหากจะตั้งชื่อว่า วัวตัวหนึ่ง  ก็ต้องเรียกชื่อซูเราะฮ์นี้ว่า  "ซูเราะฮ์บะกอเราะฮ์"  ไม่ใช่ซูเราะฮ์ "อัลบะกอเราะฮ์"

โปรดติดตามต่อไป....อินชาอัลเลาะฮ์ตาอาลา
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ในตัฟซีรอัฏฏ๊อบรียฺ ท่านอิมามอัฏฏ๊อบรียฺกล่าวว่า พระองค์ได้สั่งใช้พวกเขา(คือบนูอิสรออีล)ให้เชือดวัวตัวหนึ่งจากบรรดาวัว หมายรวมว่าวัวตัวไหนก็ได้ที่พวกเขาประสงค์จะเชือด โดยที่พระองค์มิได้เจาะจงประเภทหรือชนิด ท่านอิมามอัฏฏ๊อบรียฺกล่าวว่า ?มินฆ็อยริ อันยะหฺสุเราะ ละฮุมซาลิกา อะลาเนาอิน มินฮา ดูนะเนาอิน เอา ซินฟิน ดูนะซินฟิน? คำว่า ?เนาอุน? กับ ?ซินฟุน? หมายถึง ลักษณะที่เจาะจงประเภทหรือชนิดวัว ซึ่งหมายรวมถึงเพศของสัตว์ด้วย นี่คือคำอธิบายของอิมามอัฏฏ๊อบรียฺซึ่งมีความชัดเจนในคำอธิบายอายะฮฺนี้

แต่นักวิชาการที่คัดค้านผมได้หยิบยกทัศนะของอุละมาอฺที่อธิบายลักษณะวัวในอายะฮฺ 68 ที่พระองค์ตรัสว่า ?อินนะฮาบะเกาะเราะตุน ลาฟาริดุน วะลาบิกรุน? ซึ่งมีทัศนะของซุดดียฺว่าคือวัวที่มีลูกแล้ว นักวิชาการที่คัดค้านผมได้อ่านทัศนะนี้ในตัฟซีรฏ๊อบรียฺ, กุรฏุบียฺ, และอิบนุกะษีร โดยเข้าใจว่านี่เป็นหลักฐานชัดเจนว่าวัวที่ถูกใช้ให้เชือดคือวัวตัวเมีย ซึ่งความคลาดเคลื่อนของนักวิชาการท่านนี้เกิดเนื่องจากว่าที่ผมได้กล่าวถึงคืออายะฮฺแรกที่พระองค์สั่งให้เชือดวัวโดยยังไม่ได้ระบุลักษณะต่างๆ

หลักฐานที่อัลเลาะฮ์ทรงบัญญัติเจาะจงให้เชือดวัวตัวเมียนั้น  คืออายะฮ์ดังต่อไปนี้ครับ  ซึ่งเป็นอายะฮ์ที่ชัยค์นำมาอธิบายน้อยมาก ๆ  เพราะอาจจะเกรงว่ามันจะกลายเป็นวัวตัวเมีย  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า

قَالُواْ ادْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّن لّنَا مَا هِيَ قَالَ إِنَّهُ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌ لاَّ فَارِضٌ وَلاَ بِكْرٌ عَوَانٌ بَيْنَ ذَلِكَ فَافْعَلُواْ مَا تُؤْمَرونَ

"พวกเขาก็กล่าว (กับนบีมูซา) ว่า "ขอท่านได้โปรดวิงวอนต่อองค์อภิบาลของท่านให้เราด้วยเถิด เพื่อพระองค์แจ้งให้ชัดเจนว่า มัน (วัวตัวเมียนั้น) เป็นอย่างไร?" เขาจึงตอบว่า "พระองค์ทรงตรัสว่า มันเป็นวัวตัวเมียที่ยังไม่แก่และไม่อ่อนนัก (มันเป็นวัวอายุ) ปานกลางระหว่างนั้น ดังนั้น พวกเจ้าจงปฏิบัติตามที่พวกเจ้าถูกบัญชาเถิด"

วัวตัวหนึ่งที่ไม่เจาะจงนั้น  คือ  วัวที่อัลเลาะฮ์ทรงบัญชาใช้ในช่วงแรกน่ะครับ  และไม่มีผู้ใดคัดค้าน  แต่เมื่อบนีอิสรออีลถามเซ้าซี้เรื่องมากกับนบีมูซา อะลัยฮิสลาม  อัลเลาะฮ์ตาอาลา  ก็ทรงอธิบาย (บะยาน) ทำการเจาะจงคุณลักษณะและประเภทของวัว  ซึ่งเป็นวัวตัวเมีย  ดังนั้น  วัวที่อัลเลาะฮ์ทรงเจาะจงคุณลักษณะไว้  ก็คือวัวที่บนีอิสรออีลนำมาเชือด  ไม่ใช่วัวตัวหนึ่งตัวใดก็ได้  เพราะอัลเลาะฮ์ทรงเจาะจง (ตักซีซ) คุณลักษณะมันเรียบร้อยแล้ว

หากเรากลับดูตัฟซีรอัลกุรฏุบีย์  เราจะพบว่า  ท่านอัลกุรฏุบีย์  ได้อธิบายไว้อย่างน่าสนใจว่า

คำว่า "อะวาน"  عَوَانٌ วัวอายุปานกลางนั้น  คือ   

وقال مجاهد‏:‏ العوان من البقرة هي التي قد ولدت مرة بعد مرة‏

"ท่านมุญาฮิดกล่าวว่า  อัลอะวานที่มาจากวัวนั้น คือวัวตัวเมียที่คลอดลูกครั้งหนึ่งหลังจากครั้ง"

ชัดเจนครับว่า  ท่านมุญาฮิดได้ยืนยันว่า วัวที่อัลเลาะฮ์ทรงเจาะจงบัญชาใช้ให้เชือดนั้น  คือวัวตัวเมียที่คลอดลูกครั้งหนึ่งหลังจากอีกครั้งหนึ่ง  ซึ่งวัวตัวผู้ไม่มีสิทธิ์คลอดตามกฏแห่งธรรมดาทั่วไป

หากดูในตัฟซีร อัฏฏ๊อบรีย์  ท่านได้อธิบายถ่ายทอดไว้เช่นกันว่า

عن مجاهد: (عوان بين ذلك)، وسط، قد ولدت بطنا أو بطنين

"จากมุญาฮิด (คำว่าอะวานุนบัยน่าซาลิก)นั้น คือวัวตัวเมียที่คลอดได้ท้องหนึ่งหรือสองท้องแล้ว"

ชัดเจนครับว่า ท่านมุญาฮิดได้ยืนยันว่า วัวที่อัลเลาะฮ์ทรงเจาะจงบัญชาใช้ให้เชือดนั้น  คือวัวตัวเมียที่คลอดลูกครั้งหนึ่งหลังจากอีกครั้งหนึ่ง  ซึ่งวัวตัวผู้ไม่มีสิทธิ์คลอดตามกฏแห่งธรรมดาทั่วไป

อีกสายรายงานหนึ่งยืนยันว่า

 عن خصيف, عن مجاهد: (عوان)، التي تنتج شيئا بشرط أن تكون التي قد نتجت بكرة أو بكرتين

"รายงานจากคอซีฟ จากท่านมุญาฮิด ว่า "คำว่าอะวาน"นั้น คือวัวตัวเมียที่ให้กำเหนิด(คลอดลูก)สิ่งหนึ่งสิ่งใดได้  ด้วยเงื่อนไขที่ว่า วัวตัวเมียนั้นต้องคลอดลูกหนึ่งตัวหรือสองตัวแล้ว"

ชัดเจนว่า วัวตัวผู้ไม่สามารคคลอดลูกได้ นอกจากจะต้องเป็นวัวตัวเมียเท่านั้นครับที่อัลเลาะฮ์ทรงเจาะจงไว้

ท่านอัซซุดดีย์ ได้อธิบายไว้อีกว่า

عن السدي: " العوان "، النصَف التي بين ذلك, التي قد ولدت وولد ولدُها

"จากอัซซุดดีย์ ว่า อัลอะวาน นั้น คือวัวกึ่งระหว่างสิ่งดังกล่าว  ซึ่งเป็นวันที่คลอดลูกและลูกของมันก็มันได้คลอดแล้วด้วย"

มีนักปราชญ์ท่านอื่นอธิบายอีกว่า

قال أبو جعفر: " العوان " النصف التي قد ولدت بطنا بعد بطن

"อบูญะฟัร กล่าวว่า อัลอะวานนั้น คือวัวกึ่งกลางซึ่งได้คลอดลูกแล้วท้องหนึ่งหลังจากอีกท้องหนึ่ง"

ชัดเจนครับว่า  วัวที่คลอดลูกนั้น  ไม่ใช่ตัวผู้  แต่เป็นวัวตัวเมีย

ท่านอัฏฏ๊อบรีย์ได้ ตัวบทวีของ อัลอัคฏ๊อล ที่ว่า

ومــا بمكــة مـن شُـمط مُحَفِّلـة       ومــا بيـثرب مـن عُـونٍ وأبكـار   

"ที่เมืองยัษริบไม่มีบรรดาหญิงมีบุตรแล้วและบรรดาหญิงสาวบริสุทธิ์"

وجمعها " عون " يقال: " امرأة عوان من نسوة عون

"ซึ่งพหูพจของคำว่า อะวาน นั้น คือ อูน  เช่นกล่าวว่า "ผู้ที่หญิงคนหนึ่งที่อะวาน(คลอดลูกแล้ว) ซึ่งมาจาก(คำพหูพจน์ที่ว่า) บรรดาสตรีที่อูน(บรรดาหญิงที่มีลูกแล้ว)

ดังนั้น  คำว่า อะวาน ที่อัลเลาะฮ์ทรงกล่าวคุณลักษณะให้กับวัวที่ให้บนีอิสรออีลเชือดนั้น  คือ วัว ตัวเมีย ไม่ใช่ตัวผู้

และท่านอัฏฏ๊อบรีย์เอง  ก็กล่าวถ่ายทอดอธิบายว่า

فمعنى الكلام: قال: إنه يقول إنما بقرة لا مسنة هرمة، ولا صغيرة لم تلد, ولكنها بقرة نصف قد ولدت بطنا بعد بطن، بين الهرم والشباب

"ดังนั้น ความหมายของคำพูด คือ เขากล่าวว่า  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่าแท้จริงมันคือวัวที่อายุไม่แก่ และไม่เล็กที่ไม่เคยคลอดลูก  แต่มันเป็นวัวกึ่งกลางที่คลอดลูกท้องหนึ่งหลังจากอีกท้องหนึ่ง  ที่อยู่ระหว่างวัววัยแก่และวัยอ่อน"

สรุปว่า วัวตรงนี้คือวัวที่คลอดลูกแล้ว   และวัวที่คลอดลูกได้จะต้องเป็นวัวตัวเมียซิครับ

โปรดติดต่อไป...อินชาอัลลอฮุตาอาลา
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
และสิ่งที่เป็นหลักฐานบ่งชัดว่าอัลกุรอานไม่ได้กล่าวถึงวัวตัวเมียเลยคืออายะฮฺที่ 70 ของซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อัลลอฮฺตรัสว่า

قَالُوا ادْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّنْ لَنَا مَا هِيَ إِنَّ الْبَقَرَ تَشَابَهَ عَلَيْنَا

มีความหมายว่า ?พวกเขา(บนูอิสรออีล)กล่าวว่า โปรดวิงวอนต่อพระเจ้าของท่านให้แก่พวกเราเถิด พระองค์ก็จะทรงแจ้งแก่พวกเราว่า วัวนั้นเป็นอย่างไร แท้จริงวัวนั้นมันคล้ายๆกัน แก่พวกเรา?

ซึ่ง ?อินนัลบะเกาะเราะ ตะชาบะหะ? ได้ใช้พหูพจน์ของ อัลบะเกาะเราะตุ ( البَقَرَةُ ) คือ อัลบะเกาะเราะ( البَقَرَ) โดยใช้กริยาเพศชายคือ ตะชาบะหะ กล่าวคือถ้าวัวที่อัลลอฮฺสั่งให้เชือดตั้งแต่แรกคือวัวตัวเมีย แล้วบนูอิสรออีลไปหาวัวตัวเมียเท่านั้นก็น่าจะใช้พหูพจน์ของวัวตัวเมีย คือ บะเกาะรอต (بَقَرَات) ซึ่งในอัลกุรอานก็มีใช้คำนี้ อาทิเช่นในซูเราะฮฺยูซุฟ เป็นต้น และควรจะใช้กริยาเพศหญิงคือ ตะชาบะหัต อันแสดงว่าความหมายที่นักวิชาการท่านนั้นกล่าวว่าอัลบะเกาะเราะฮฺคือวัวตัวเมีย เป็นความหมายที่ขัดกับเนื้อหาของอายะฮฺอื่นๆในเรื่องเดียวกัน และเมื่อบรรดาอุละมาอฺกล่าวถึงชื่อซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ ก็ไม่มีใครเลยที่อธิบายว่าหมายถึง ซูเราะฮฺวัวตัวเมีย

กล่าวอ้างอิงอายะฮ์ที่ประเด็นครับ   คำว่า  إِنَّ الْبَقَرَ تَشَابَهَ عَلَيْنَا  นั้น  อยู่ในตำแหน่งอิลละฮ์  เหตุผลที่พวกบนีอิสรออีลได้ถามถึงวัวดังกล่าวที่อัลเลาะฮ์จักทรงเจาะจงเป็นการเฉพาะให้เชือดตามคำขอการชี้แจงของบนีอิสรออีล   คือเหมือนกับที่พวกเขากล่าว่า  "วัวนั้นมันเป็นอย่างไรหรือ? เพราะว่าวัวทั้งหลายนั้นมันคล้าย ๆ กันแก่พวกเขา"  นักตัฟซีรได้อธิบายว่า  บรรดาวัวที่คล้ายกันนั้น  หมายถึง  ส่วนหัวของวัวทั้งหลายมันคล้ายกัน  ดังนั้น  บรรดาวัวที่คล้าย ๆ กัน ที่บนีอิสรออีลได้ถามนั้น  ไม่ใช่หมายความว่า  จะเชือดวัวตัวใหนก็ได้  แต่พวกเขาถามเพื่อให้อัลเลาะฮ์ทรงเจาะจงวัวที่พระองค์ต้องการให้เชือดตามการถามเซ้าซี้ของพวกเขา  เนื่องจากส่วนหัวของวัวทั้งหลายมันคล้ายกัน
   
หากพิจารณาตามหลักวิชาไวยากรณ์อาหรับ  เราจะพบว่า นามพหูพจน์เฉกเช่นคำว่า อัลบะก๊อร  ใน ณ ที่นี้นั้น  สามารถที่จะใช้  กริยาได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง  ซึ่งนักอ่านอัลกุรอานบางส่วน ได้ใช้ กริยาเพศหญิง   ซึ่งท่านอัฏฏ๊อบรีย์ ได้ถ่ายทอดคำอธิบายไว้ว่า

وكان بعضهم يتلوه: (إن البقر تشَّابهُ علينا)، بتشديد الشين وضم الهاء, فيؤنث الفعل بمعنى تأنيث " البقر

"นักอ่านบางส่วนได้อ่านคำตรัสของอัลเลาะฮ์ว่า إن البقر تشَّابهُ علينا  คำว่า  ตัชชาบะฮุ  นั้น  ด้วยการตัชดีดตัวชัยน์และฏ๊อมมะฮ์ตัวฮา  ดังนั้น  คำกริยาจึงถูกทำให้ใช้กับเพศหญิง(หรือเพศเมีย) ด้วยความหมายถึงว่า  วัว นั้น  เป็นเพศเมีย"

อย่างไรก็แล้วแต่  คำว่า إِنَّ الْبَقَرَ تَشَابَهَ عَلَيْنَا  ที่ชาวบนีอิสรออีลได้กล่าวขึ้นนั้น  ไม่ได้บ่งชี้ว่า  อัลบะกอเราะฮ์  คือวัวตัวผู้  แต่การบ่งชี้ถึงว่า  วัวนั้น  จะเป็นตัวผู้หรือเมีย ก็คือ  วัวที่อัลเลาะฮ์ทรงพรรณาคุณลักษณะของมันไว้ต่างหาก  ที่เป็นจุดมุ่งหมายที่เราต้องให้ความสำคัญ  ซึ่งมันก็คือ "วัวตัวเมียตัวหนึ่งนั่นเอง" ครับ

โปรดติดตามต่อไป....อินชาอัลลอฮุตาอาลา
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
และเรื่องนี้ได้ขยายวงจนกระทั่งมีผู้เขียนท่านหนึ่งตามกระทู้ในอินเตอร์เน็ตเขียนว่า ในอายะฮฺต่อจากอายะฮฺที่ 67 พระองค์ตรัสว่า

قَالُوا ادْعُ لَنَا رَبَّكَ يُبَيِّنْ لَنَا مَا هِيَ قَالَ إِنَّهُ يَقُولُ إِنَّهَا بَقَرَةٌ

คำว่า ?หิยะ? และ ?อินนะฮา? เป็นสรรพนามเพศหญิง จึงหมายรวมว่าวัวที่อัลลอฮฺสั่งให้บนูอิสรออีลเชือดนั้นเป็น วัวตัวเมีย

มีลูกศิษย์ลูกหามาถามผมในประเด็นนี้และขอให้อธิบายในเชิงวิชาการ ผมได้ตอบว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรให้มันเป็นเรื่องที่มีสาระใหญ่จึงต้องตอบโต้กัน และได้อธิบายเหตุผลของผมสั้นๆ แต่ผมได้อ่านและได้ยินคำพูดของนักวิชาการที่พาดพิงถึงผมโดยอ้างเนื้อหาทางวิชาการ อันเป็นเนื้อหาที่ทำให้นักศึกษาความหมายอัลกุรอานถูกทำให้พิศวงหรือหลงในภาพลวงของหลักฐานอ้างอิง ซึ่งการพิทักษ์รักษาความน่าเชื่อถือของวิชาการเป็นจรรยาบรรณส่วนหนึ่งของบรรดานักวิชาการที่จะมิให้สิ่งปลอมมาแอบอ้างเป็นวิชาการหรือหลอกลวงประชาชนว่านี่คือวิชาการ จึงขอชี้แจงประเด็นนี้ดังต่อไปนี้

     เท่าที่ผมอ่านคำชี้แจงของนัองอัลฯ ดู คิดว่า  ช.ริดอ พลาดแล้วงานนี้ครับและรู้สึกหลักการของ ช.ริดอ จะเป็นภาพลวงประชาชนมากกว่าน่ะครับนี่  ;D

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ผมได้อ่านและได้ยินนักวิชาการบางท่านพาดพิงถึงผมในประเด็นที่ผมวิพากษ์วิจารณ์ว่า ความหมายอัลกุรอานภาษาไทยเกือบทุกเล่มมีข้อผิดพลาด
 

ช. เองนั่นแหละผิดพลาด....ยกอายะฮ์บางส่วนเท่าที่จะเอา....โดยละทิ้งอายะฮ์ส่วนอื่นๆ....เด็กมหาลัยก็เชื่อกันเต็มที่....เพราะอ่านอาหรับไม่ออก....น่าสงสารครับ...ผมเข้าใจอย่างงั้น

ออฟไลน์ Ibnu Ubdullah

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ยาซากัลลอฮฺอีกครั้งนะครับ อ.อัซฮารีย์  ช่างเป็นการตอบโต้ทางวิชาการที่เข้มข้นจริงๆ เลยครับ  การที่ผมตั้งประเด็นนี้  ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความแตกแยกใดๆ แต่ต้องการข้อมูลทางวิชาการเพื่อพิจารณาความถูกต้องด้วยความอยากรู้  หากนักวิชาการโต้ตอบกันด้วยข้อมูลทางวิชาการมากกว่าด้วยอารมณ์โดยไม่ใช้คำพูดดูถูกดูหมิ่นอันก่อให้เกิดความกริ้วโกรธระหว่างกัน  สังคมของเราก็คงจะมีบรรยากาศของการศึกษาเรียนรู้ที่สร้างสรรค์  นักเรียนนักศึกษาก็จะได้ข้อมูลความรู้อย่างครบครันจากหลากหลายนักวิชาการที่มีความเห็นทางวิชาการแตกต่างกัน  ผมเป็นนักศึกษาที่ชอบศึกษาเรียนรู้จากอุลามาอฺที่น่าเชื่อถือหลายๆ ท่าน  ซึ่งอธิบายด้วยหลักฐานและข้อมูลทางวิชาการที่ชัดเจน   โดยไม่ยึดติดกับผู้รู้ท่านใดท่านหนึ่ง  โดยเฉพาะผู้รู้ที่ชอบโจมตีผู้อื่น  หรือผู้รู้ที่ใช้อารมณ์และอคติในการนำเสนอข้อมูล  เพราะมันไม่ใช่การนำเสนอข้อมูลที่สร้างสรรค์แต่มันคือการทำลายและสร้างความเสียหายความแตกแยกให้กับสังคมอย่างมากมาย  ขอให้อาจารย์อัซฮารีย์เป็นผู้รู้ที่นำเสนอข้อมูลอย่างสร้างสรรค์เช่นนี้ต่อไปนะครับ  อย่าได้มีการนำเสนอที่ลดเกียรติหรือลดความน่าเชื่อถือต่อผู้รู้ท่านอื่นเลยนะครับ  สังคมจะได้มีความหวังสักที  วัสสลาม

 

GoogleTagged