« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิ.ย. 13, 2012, 06:07 AM »
0
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 12 - 16คำแปล R1.12. So perchance you (Muhammad) may give up a part of what is revealed unto you, and that your breast feels straitened for it because they say, "Why has not a treasure been sent down unto him, or an angel has come with him?" But you are only a Warner. And Allah is a Wakil (Disposer of affairs, trustee, guardian, etc.) over all things.
13. Or they say, "He (Prophet Muhammad) forged it (the Qur'an). Say: "Bring you then ten forged surah (chapters) like unto it, and call whomsoever you can, other than Allah (to your help), if you speak the truth!"
14. If then they answer you not, know then that the revelation (this Qur'an) is sent down with the knowledge of Allah and that La ilaha illa Huwa: (none has the right to be worshipped but He)! Will you then be Muslims (those who submit to Islam)?
15. Whosoever desires the life of the world and its glitter; to them we shall pay in full (the wages of) their deeds therein, and they will have no diminution therein.
16. They are those for whom there is nothing in the Hereafter but fire; and vain are the deeds they did therein. And of no effect is that which they used to do.คำแปล R2.12. (พวกเขาคิดว่า) แท้จริงบางทีเจ้าอาจจะละทิ้ง(ไม่ประกาศ)บางโองการที่เจ้าได้รับการดล(มาจากองค์อภิบาล)และหัวใจของเจ้ารู้สึกคับแค้น(ที่จะประกาศ)สิ่งนั้น(ออกไป) เพียงเพราะพวก(ไร้ศรัทธา)นั้นพูดว่า “ไฉนจึงไม่มีคลังสมบัติถูกประทานแก่เขา(มุฮำมัด เพื่อเขาจะได้มั่งคั่ง) หรือมีมลาอิกะฮฺมา(ประกาศ)ร่วมกับเขาด้วย” (ตามที่กล่าวมาแล้ว เจ้าจงอย่างดการประกาศของเจ้าเป็นอันขาด) ความเป็นจริงเจ้าเป็นเพียงผู้ตักเตือน ส่วนอัลเลาะฮฺทรงเป็นผู้ถูกมอบหมายสำหรับทุก ๆ สิ่ง
13. หรือพวกเหล่านั้นจะพูดว่า “เขา(มุฮำมัด)ได้เสกสรรสิ่งนั้น(อัลกุรอาน(ขึ้นมาเอง จงประกาศเถิด “(ถ้าฉันเสกสรรขึ้นมาเองได้) ดังนั้น1 พวกท่านก็จงนำมาซิเพียงสิบบทที่เหมือนกับกุรอาน ซึ่งมันถูกเสกสรรขึ้นเอง(โดยพวกท่าน) และพวกท่านจงชักชวนผู้ที่พวกท่านมีความสามารถ(มาร่วมในการประพันธ์ด้วย) นอกเหนือจากอัลเลาะฮฺ ทั้งนี้หากพวกท่านเป็นสัตย์จริง”
14. “แต่ถ้าพวกเขา(ที่ถูกชวนมาช่วยประพันธ์) ไม่ตอบรับคำชวนของพวกท่าน พวกท่านก็จงทราบเถิดว่าอันที่จริงอัลกุรอาน ถูกประทานลงมาโดยความรอบรู้แห่งอัลเลาะฮฺเท่านั้น และแท้จริง ไม่มีพระเจ้าใด ๆ นอกจากอัลเลาะฮฺ แล้วพวกท่านจะยอมสวามิภักดิ์ไหม ?
15. ผู้ใดมุ่งหวัง(ความสุขแห่ง)ชีวิตทางโลกนี้และสิ่งประดับของมัน เราก็จะประทานความสัมฤทธิ์ผลแก่พวกเขาในผลงานของพวกเขา(ที่ปฏิบัติอยู่)ในนั้น(โลกนี้) และพวกเขามิบกพร่องในนั้นเลย
16. พวกเหล่านั้นเป็นพวกซึ่งจะไม่ได้อะไรเลยในโลกหน้า นอกจากนรก และสิ่งที่พวกเขาได้ประกอบไว้มีอันมลายหายไป และสิ่งที่พวกเขาไประพฤติไว้ ก็เป็นสิ่งโมฆะโดยสิ้นเชิงคำแปล R3.12. ดังนั้น (โอ้นบี จงระวังให้ดี เผื่อว่า)บางทีเจ้าอาจจะละเว้น (ที่จะอ่าน) บางสิ่งที่กำลังถูกวะฮีย์แก่เจ้าและจงอย่าให้หัวใจของเจ้าหดหู่ที่พวกเขากล่าวว่า “ทำไมไม่มีคลังสมบัติถูกส่งลงมายังเขาล่ะ?” หรือ “ไฉนจึงไม่มีมลักลงมากับเขา?” เจ้าเป็นแค่เพียงผู้ตักเตือนและอัลลอฮฺทรงมีทุกสิ่งในอำนาจของพระองค์
13. พวกเขากล่าวใช่ไหมว่า “เขาได้ประดิษฐ์คัมภีร์ขึ้นมาด้วยตัวเอง?” จงบอกพวกเขาว่า “ดีละ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ขอให้นำซูเราะฮฺที่คิดขึ้นมาเองสักสิบซูเราะฮฺที่เหมือนกับสิ่งนี้โดยให้พวกท่านเรียกใครก็ได้(ที่พวกท่านเคารพบูชา)มาช่วยพวกท่านยกเว้นอัลลอฮฺ ถ้าหากพวกท่านแน่จริง
14. และถ้าหากพวกเขา(สิ่งเคารพบูชาของพวกท่าน)ไม่สามารถช่วยท่านได้พวกท่านก็จงรู้ไว้เถิดว่าคัมภีร์นี้ได้ถูกประทานมาด้วยความรอบรู้ของอัลลอฮฺ และไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ ดังนั้น พวกท่านยังไม่ยอมจำนนอีกหนือ?”
15. บรรดาผู้ปรารถนาชีวิตแห่งโลกนี้ และความหรูหราของมันนั้น เราจะประทานสิ่งตอบแทนโดยครบครันสำหรับการงานที่ดีของพวกเขาที่นี่ และจะไม่มีสิ่งใดถูกลิดรอนไปจากมัน
16. แต่ไม่มีสิ่งใดนอกจากไฟสำหรับพวกเขาในโลกหน้า (ที่นั่น พวกเขาจะรู้ว่า)สิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้ในโลกนี้ไม่มีผลและอะไรที่พวกเขาได้ทำไว้นั้นไม่มีประโยชน์และไร้ค่าคำแปล R4.12. และบางทีเจ้าจะทิ้งบางส่วนที่ถูกวะฮีย์มายังเจ้า และหัวอกของเจ้าจะอึดอัดต่อสิ่งนั้นโดยที่พวกเขากล่าวกันว่า ทำไมเล่าขุมทรัพย์จึงไม่ถูกส่งลงมา หรือทำไมมะลัก จึงไม่ถูกส่งลงมาพร้อมกับเขา ? แท้จริงเจ้าเป็นเพียงผู้ตักเตือนเท่านั้น และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงคุ้มครองรักษาทุกสิ่ง
13. หรือพวกเขากล่าวว่า เขา(มุฮัมมัด) ได้ปลอมแปลงอัลกุรอานขึ้นมา (มุฮัมมัด) จงกล่าวเถิด ดังนั้น พวกท่านจงนำมาสักสิบซูเราะฮ์ที่ถูกปลอมแปลงขึ้นให้ได้อย่างอัลกรุอาน และพวกท่านจงเรียกผู้ที่มีความสามารถในหมู่พวกท่านอื่นจากอัลลอฮฺ(ให้มาช่วย) ถ้าพวกท่านเป็นพวกสัตย์จริง
14. หากพวกเขาไม่ตอบสนองการเรียกร้องของพวกท่าน ก็จงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลกุรอานถูกประทานลงมาด้วยวะฮีย์ของอัลลอฮฺ และนั่นคือไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ แล้วพวกเจ้า (มุชริกีน) ยังมินอบน้อมอีกหรือ ?
15. ผู้ใดปรารถนาการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และความเพริศแพร้วของมันเราก็จะตอบแทนให้พวกเขาอย่างครบถ้วน ซึ่งการงานของพวกเขาในโลกนี้เท่านั้น และพวกเขาจะไม่ถูกริดรอนในการงานนั้นแต่อย่างใด
16. ชนเหล่านั้น พวกเขาจะไม่ได้รับการตอบแทนอันใดในโลกอาคิเราะฮฺ นอกจากไฟนรกและสิ่งที่พวกเขาได้ปฏิบัติไว้ในโลกดุนยาก็จะไร้ผลและสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้ก็จะสูญเสียไปคำแปล R5.๑๒. โอ้มุฮำมัด ไม่น่าที่เจ้าจะงดเว้นซึ่งบางส่วนแห่งโองการตำหนิเรื่องเทวรูปที่ถูกดลมายังเจ้าให้นำไปบอกพวกมุชริก เพราะกลัวจะถูกพวกมุชริกเหล่านั้นเหยียดหยามและด้วยเหตุแห่งโองการดังกล่าวนี้ เจ้าก็ไม่น่าจะหนักใจอะไรเลยสำหรับมุชริกเหล่านั้น ควรที่เจ้าจะอ่านโองการนั้นให้พวกมุชริกฟังโดยมิต้องเศร้าสลดเพราะพวกนั้น และมิต้องสนใจกับข้อเรียกร้องที่พวกมุชริกนั้นจะกล่าวขึ้นว่า จงให้มีพระคลังลงมายังเขา(มุฮำมัด) สักแห่งหนึ่งหรือจะให้มีมลาอิกะห์มาร่วมกับเขา(มุฮำมัด)เพื่อยืนยันความสัจจริงของมุฮำมัดก็ได้ เจ้านั้นมีหน้าที่เพียงแต่เป็นผู้ นำโองการดังกล่าวไปตักเตือนพวกมุชริกเท่านั้น หาได้มีหน้าที่สนองตอบตามข้อเรียกร้องของพวกนั้นไม่ ฝ่ายอัลเลาะห์ทรงเป็นองค์อารักษ์ยิ่งในทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วพระองค์จะทรงตอบสนองแก่พวกเหล่านั้นเอง
๑๓. แต่พวกมุชริกเหล่านั้นจะกล่าวว่า เขา(มุฮำมัด) ได้ปลอมมัน(อัล-กุรอาน) ขึ้นมา โอ้มุฮำมัด จงกล่าวแก่พวกมุชริกเถิดว่า พวกท่านจงปลอมขึ้นมาเหมือนอย่างนั้น(อัล-กุรอาน) สักสิบบท(ซูเราะห์)หรือแม้แต่บทเดียวก็เอาเถอะโดยให้มีถ้อยตำฉะฉานและเนื้อความสอดคล้องกัน เพราะพวกท่านก็เป็นชาวอาหรับพูดจาได้ฉะฉานเหมือนกับฉัน กล่าวคือพระศาสดามุฮำมัดได้ท้าชาวอาหรับประกวดแต่งพระคัมภีร์อัล-กุรอานแค่สิบบทในตอนแรก แล้วในตอนหลังท้าเพียงบทเดียว ผลที่สุดพวกอาหรับก็ไม่สามารถกระทำได้เลย แล้วพวกท่านจงเรียกหาผู้อื่นจากอัลเลาะห์ เช่น เหล่ามลาอิกะห์ มนุษย์ ยิน และปวงเทวรูป ตามที่พวกท่านจะสามารถเรียกหาได้เพื่อช่วยกันรจนาอัล-กุรอานปลอม ๆ ขึ้นสักสิบบท(ซูเราะห์) หรือเพียงบทเดียวหากว่าพวกท่านเป็นผู้สัจจริงในถ้อยคำที่อ้างว่าพระคัมภีร์อัล-กุรอานเป็นของปลอม
๑๔. แม้นว่าพวกเหล่านั้น ทั้งมวลมลาอิกะห์ มนุษย์ ยิน และเหล่าเทวรูปไม่สนองตอบพวกท่าน ทั้งนี้เนื่องจากพวกเหล่าน้หย่อนความสามารถ และพวกนี้ก็รู้ตัวอยู่ว่า ตัวเองไม่สามารถที่จะรจนาบทตัมภีร์ขึ้นมาหักล้างพระคัมภีร์อัล-กุรอานได้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วไซร้ โอ้พวกมุชริกทั้งหลาย พวกท่านจงรู้ไว้เถิดว่า พระคัมภีร์อัล-กุรอานนั้นถูกประทานมาประกอบด้วยความรู้จากอัลเลาะห์เท่านั้น มิใช่มีมาโดยอ้างเท็จว่ามาจากอัลเลาะห์ และพวกท่านจงรู้ไว้เถิดว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดควรแก่การเคารพบูชาโดยแท้จริงในภาคพภนี้นอกจากอัลเลาะห์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้นพวกท่านจงเป็นมุสลิมเถิดหลังจากมีหลักฐานอันเด็ดขาดประกอบด้วยความรู้จากพระองค์ถูกประทานลงมาแล้ว
๑๕. ผู้ใดมุ่งเอาความเป็นอยู่ในภพนี้ อันได้แก่ความสุข ความมั่นคงในทรัพย์ การบริโภค ตลอดจนการเป็นใหญ่ในหมู่ชน เป็นต้น และมุ่งหวังเอาความฉาบฉวยของมัน แต่เขาผู้นั้นมิยอมน้อมสู่ศาสนาอิสลาม และกลับมั่นอยู่ในศาสนาที่นอกศรัทธา (กุฟร์) แล้วไซร้ เรา(อัลเลาะห์) ก็จะให้กิจทั้งปวงของพวกเขาที่กระทำขึ้นเป็นการดีงาม เช่น การทำงาน การเชื่อมไมตรีในหมู่ญาติ ได้ผลบริบูรณ์ในภพนี้ โดยจะเอื้ออำนวยให้พวกเขาได้รับทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภคอันกว้างขวางโดยมิถูกริดรอนเลยแม้สักนิดเดียว
๑๖. พวกเหล่านั้นแหละ ในวันปรภพจะไม่ได้รับอันใดตอบแทนนอกจากขุมนรก ตลอดทั้งกรรมดีที่พวกเขาได้ปฏิบัติไว้ในพิภพนี้ย่อมสูญสลาย มิได้รับบุญกุศลตอบแทนและกิจที่พวกเขาทำกันไว้ก็ต้องสูญเสียพร้อมกับบุญกุศลต้องสูญเสียไปด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 19, 2012, 08:19 AM โดย Bangmud »