ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 11 สูเราะฮฺ ฮูด  (อ่าน 6603 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 53 - 57


คำแปล R1.
53. They said: "O Hud! No evidence have you brought us, and we shall not leave our gods for your (mere) saying! And we are not believers in you.
54. "All that we say is that some of our gods (false deities) have seized you with evil (madness)." He said: "I call Allah to witness and bear you witness that I am free from that which you ascribe as partners in worship, -
55. With Him (Allah). So plot against me, all of you, and give me no respite.
56. "I put my trust in Allah, my Lord and your Lord! There is not a moving (living) creature but He has grasp of its forelock. Verily, my Lord is on the Straight Path (the truth).
57. "So if you turn away, still I have conveyed the message with which I was sent to you. My Lord will make another people succeed you, and you will not harm Him in the least. Surely, my Lord is guardian over all things."


คำแปล R2.
53. พวกเขากล่าว(โต้นบีฮู๊ด)ว่า “โอ้ ฮู๊ด! ท่านมิได้นำสัญลักษณ์อันเด่นชัดมาให้ปรากฏแก่เราเลย (แล้วเราจะเชื่อท่านได้อย่างไร ?) และเราจักไม่ทิ้งบรรดาพระเจ้าของเรา เพียงเพราะคำพูดของพวกท่านหรอก และเรามิใช่พวกมีศรัทธากับท่านเป็นแน่
54. เราจะไม่พูด(เกี่ยวข้องกับท่าน) นอกจาก (ขอพูดว่าที่ท่านออกประกาศเช่นนี้เป็นเพราะ) “พระเจ้าบางองค์ของเราได้สิงความชั่วร้าย(ความวิกลจริต)แก่ท่านอย่างแน่นอน” เขากล่าวว่า “แท้จริงฉันขออ้างอัลเลาะฮฺเป็นพยาน และพวกท่านก็จงเป็นพยานด้วยว่า แท้จริงตัวฉันนี้พ้นมลทิน(ไม่เกี่ยวข้อง)ใด ๆ ทั้งสิ้น จากที่พวกท่านได้ตั้งภาคีไว้
55. “นอกเหนือจากพระองค์ ดังนั้นพวกท่านจงวางแผน(ทำร้าย)แก่ฉันโดยพร้อมกันเถิด แล้วพวกท่านอย่าประวิงฉันไว้เลย”
56. “แท้จริงฉันได้มอบหมายต่ออัลเลาะฮฺองค์อภิบาลของฉันและองค์อภิบาลของพวกท่าน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ตัวใดก็ตาม นอกจากพระองค์จะทรงจับกระหม่อมมันไว้ (ให้มันอยู่ภายใต้อำนาจเบ็ดเสร็จของพระองค์) แท้จริงองค์อภิบาลของฉันทรงอยู่บนหนทางอันเที่ยงตรง”
57. ดังนั้น หากพวกท่านหันออก(ไม่ยอมศรัทธา) แน่นอนที่สุด ฉันก็ได้นำมาถึงพวกท่านแล้วซึ่งสิ่งที่ฉันถูกส่งให้นำมันมายังพวกท่าน(สิ่งนั้นคือสารธรรมจากองค์อัลเลาะฮฺ) และองค์อภิบาลของฉันจะทรงสืบทอดการปกครองให้แก่กลุ่มชนอื่นจากพวกท่าน และพวกท่านไม่(สามารถ)ทำอันตรายแก่พระองค์สักกรณีเดียวก็ตาม แท้จริงองค์อภิบาลของฉันทรงเป็นผู้พิทักษ์เหนือทุก ๆ สิ่ง”


คำแปล R3.
53. พวกเขากล่าวว่า “ฮูดเอ๋ย ท่านยังมิได้นำหลักฐานอันชัดแจ้งใด ไ มาให้แก่เรา และเราก็จะไม่ละทิ้งบรรดาเทวรูปบูชาของเราตามที่ท่านบอก และเราก็จะไม่ศรัทธาในท่าน
54. เราอยากจะบอกว่า ความจริงแล้วเทวรูปของเราบางองค์ได้สิงความชั่วบางอย่างไว้ในตัวท่าน” ฮูดได้ตอบว่าฉันขออัลลอฮฺให้ทรงเป็นพยาน และพวกท่านก็ยังเป็นพยานด้วยว่า ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบรรดาเทวรูปบูชาอื่น ๆ ทั้งหลายที่พวกท่านตั้งขึ้นมาเป็นภาคีร่วมกับอัลลอฮฺในความเป็นพระเจ้าของพระองค์
55. ดังนั้นพวกท่านทั้งหมดจะทำอะไรต่อฉันก็ได้และไม่ต้องผ่อนปรนให้แก่ฉัน
56. แท้จริงฉันไว้วางใจในอัลลอฮฺผู้ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของฉันและพระผู้อภิบาลของพวกท่านด้วย ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่พระองค์ไม่ได้ทรงยึดผมที่หน้าผากของมันไว้ แท้จริงแล้ว ความเที่ยงตรงคือหนทางแห่งพระผู้อภิบาลของฉัน
57. พวกท่านจะหันหลังให้ก็ได้ถ้าหากพวกท่านปรารถนา ตอนนี้ฉันได้นำสาส์นมายังพวกท่านตามวัตถุประสงค์ที่ฉันได้ถูกส่งมาแล้ว พระผู้อภิบาลของฉันจะยกหมู่ชนอื่นขึ้นมาแทนพวกท่านและพวกท่านจะไม่สามารถสร้างความเสียหายใด ๆ ให้แก่พระองค์ได้ แท้จริงพระผู้อภิบาลของฉันทรงดูแลรักษาทุกสรรพสิ่ง”


คำแปล R4.
53. พวกเขากล่าวว่า โอ้ฮูดเอ๋ย ท่านมิได้นำหลักฐานอันชัดแจ้งมาให้แก่เรา และพวกเราก็จะไม่ละทิ้งพระเจ้าทั้งหลายของเราเพราะคำกล่าวของท่าน และพวกเราก็จะไม่ศรัทธาในตัวท่าน
54. เราจะไม่กล่าวอย่างใด เว้นแต่พระเจ้าบางองค์ของเราได้นำความชั่วเข้าไปสิงในตัวท่าน เขา (ฮูด) กล่าวว่า แท้จริงฉันให้อัลลอฮฺทรงเป็นพยาน แล้วพวกท่านจงเป็นพยานด้วยว่าแท้จริงฉันปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกท่านตั้งภาคี
55. อื่นจากพระองค์ ดังนั้นพวกท่านทั้งหมดจงวางแผนทำร้ายฉันเถิด แล้วพวกท่านอย่าได้ให้ฉันต้องรอคอยเลย
56. แท้จริงฉันมอบหมายต่ออัลลอฮฺ พระเจ้าของฉันและพระเจ้าของพวกท่าน ไม่มีสัตว์เลื้อยคลานใด ๆ เว้นแต่พระองค์ทรงกำขมับมัน แท้จริงพระเจ้าของฉันอยู่บนทางที่เที่ยงตรง
57. หากพวกท่านผินหลังให้แล้วไซร้ แน่นอนฉันได้แจ้งข่าวแก่พวกท่านแล้ว ตามที่ฉันได้ถูกส่งมายังพวกท่านเพื่อมัน และพระเจ้าของฉันจะทรงแต่งตั้งกลุ่มชนอื่นจากพวกท่านเป็นตัวแทน และพวกท่านจะไม่อันตรายต่อพระองค์แต่อย่างใด แท้จริงพระเจ้าของฉันเป็นผู้ทรงพิทักษ์ทุกสิ่ง


คำแปล R5.
๕๓. พวกเหล่านั้นที่เป็นเผ่าอ๊าดกล่าวว่า โอ้ฮู๊ด ท่านนั้นหาได้มายังพวกเราพร้อมด้วยหลักฐานที่ยืนยันในถ้อยคำของท่านไม่ พวกเรายังจะละทิ้งเทวรูปของเราเพราะถ้อยคำของท่านไม่ได้ พวกเรามิได้เชื่อท่านเลย
๕๔. พวกเราจะไม่กล่าวเกี่ยวข้องกับท่านว่ากระไร จะมีก็แต่เทวรูปของเราบางองค์เท่านั้น ที่จะให้ท่านต้องประสบกับชั่วเลว อาทิ กระทำให้ท่านเสื่อมสติปัญญาเพราะเหตุที่ท่านด่าเทวรูปของพวกเรา ท่านนั้นพูดจาหาสาระมิได้ เขา(ฮู๊ด) กล่าวว่า ฉันขออ้างอัลเลาะห์เป็นองค์สักขีแก่ฉันด้วย แล้วพวกท่านก็จงเป็นพยานแก่ฉันอีกเถิดว่า แท้จริงฉันปลีกตัวพ้นแล้วจากเหล่าเทวรูปที่พวกท่านอ้างเป็นภาคีเทียบเท่าพระองค์
๕๕. โดยมิยึดถือพระองค์ ฉะนั้นพวกท่านและเทวรูปของพวกท่านทั้งปวงจงล่อหลอกทำร้ายตัวฉันเถิด พวกท่านไม่ต้องมัวรอดูให้เสียกาลในการทำร้ายฉันหรอก
๕๖. อันที่จริง ฉันได้มอบหมายอยู่กับอัลเลาะห์ องค์พระผู้อภิบาลแห่งแห่งฉัน และองค์พระผู้อภิบาลแห่งพวกท่าน หามีศัตว์ใดยืนชีพ เคลื่อนไหวไปมาได้ ณ หน้าแผ่นดินไม่ นอกจากมีพระองค์ทรงเป็นผู้กำกับควบคุมมันอยู่ แท้จริงองค์พระผู้อภิบาลแห่งฉันนั้น ทรงอยู่เหนือหนทางอันเที่ยงตรง ทรงความยุติธรรมยิ่ง
๕๗. ถ้าแม้นพวกท่านผินออกจากความเชื่อเสียแล้วไซร้ แน่นอนฉันนี้ย่อมนำมายังพวกท่านซึ่งข้อใช้และข้อห้ามที่ฉันถูกบัญชาให้นำมาสู่พวกท่าน แต่พวกท่านกลับหาว่าเป็นโกหกเสียอีกแล้วองค์พระผู้อภิบาลแห่งฉันจะทรงให้มีกลุ่มอื่นจากพวกท่านมาอยู่ ปกครองหมู่บ้านและทรัพย์สมบัติของพวกท่านแทนตัวพวกท่าน เพราะการถือภาคี พวกท่านจะให้พระองค์ได้รับความเดือดร้อนสักนิดย่อมมิได้ แท้จริงองค์พระผู้อภิบาลของฉัน ทรงเป็นองค์คุ้มรักษาซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งบรรดากิจของพวกท่านจะซ่อนเร้นพ้นจากพระองค์ก็หามิได้ ฝ่ายพระองค์นั้นเล่า หาได้ละเลยในการตอบสนองผลกรรมแก่พวกท่านไม่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 19, 2012, 08:17 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 58 - 60


คำแปล R1.
58. And when our Commandment came, We saved Hud and those who believed with him by a Mercy from us, and We saved them from a severe torment.
59. Such were 'Ad (people). They rejected the Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.) of their Lord and disobeyed his Messengers, and followed the command of every proud obstinate (oppressor of the truth, from their leaders).
60. And they were pursued by a curse in this world and (so they will be) on the Day of Resurrection. No doubt! Verily, 'Ad disbelieved in their Lord. So away with 'Ad, the people of Hud.


คำแปล R2.
58. และเมื่อบัญชา(การลงโทษ)ของเราได้มา(ประสบแก่ชาวอ๊าด โดยเป็นลมพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง) เราได้ยังความปลอดภัยแก่ฮู๊ด และบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายพร้อมกับเขา โดยความเมตตาจากเราและเราได้ดลพวกเขาให้รอดพ้นไปจากการลงโทษอันมหันต์(ในโลกหน้าด้วย)
59. และเหล่านั้นคือพวกอ๊าด! พวกเขาได้คัดค้านบรรดาสัญลักษณ์แห่งองค์อภิบาลของพวกเขา และพวกเขาได้ฝ่าฝืนบรรดาศาสนทูตของพระองค์ และพวกเขาดำเนินตามคำสั่งของ(หัวหน้า)ผู้หยิ่งผยองอีกทั้งดื้อรั้นทุกคน
60. และพวกเขาถูกตามติดด้วยคำสาปแช่ง(อย่างไม่หยุดหย่อนจากมวลมนุษย์)ในโลกนี้และโลกหน้า พึงสังวร! แท้จริงพวกอ๊าดนั้น ได้อกตัญญูต่อองค์อภิบาลของพวกเขาเอง พึงสังวร! ความหายนะ ย่อมเป็นของพวกอ๊าดผู้เป็นกลุ่มชนของฮู๊ด


คำแปล R3.
58. และเมื่อคำบัญชาของเราได้มาถึงเราได้ช่วยฮูดและบรรดาผู้ศรัทธาที่อยู่กับเขาให้ปลอดภัยด้วยความเมตตาของเรา และเราได้ช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากการลงโทษอันโหดร้าย
59. เหล่านี้คือชาวอ๊าด พวกเขาปฏิเสธอายะฮฺทั้งหลายของพระผู้อภิบาลของพวกเขาและไม่เชื่อฟังบรรดารอซูลของพวกเขา และปฏิบัติตามทุกศัตรูผู้ผยองและอธรรม
60. ดังนั้นพวกเขาจึงได้ถูกสาปแช่งให้ได้รับเคราะห์กรรมในโลกนี้และในวันแห่งการฟื้นคืนชีพด้วย จงฟังไว้ พวกอ๊าดได้ปฏิเสธพระผู้อภิบาลของพวกเขา จงฟังไว้ พวกอ๊าดหมู่ชนของฮูด จงถอยห่างออกไปให้ไกลเถิด


คำแปล R4.
58. และเมื่อบัญชาของเราได้มาถึง เราได้ช่วยฮูดและบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขาให้รอดพ้น ด้วยความเมตตาจากเรา และเราได้ช่วยให้พวกเขาพ้นจากการลงโทษอันโหดร้าย
59. และนั่นคือกลุ่มชนอ๊าด พวกเขาปฏิเสธโองการทั้งหลายของพระเจ้าของพวกเขา และฝ่าฝืนต่อบรรดารอซูล ของพระองค์ และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้หยิ่งผยองผู้ขัดขืนทุกคน
60. และพวกเขาถูกติดตามด้วยการสาปแช่งในโลกดุนยานี้และวันกิยามะฮฺ พึงทราบเถิด! แท้จริงกลุ่มชนอ๊าดปฏิเสธศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกเขา พึงทราบเถิด จงห่างไกลจากความเมตตาเถิดอ๊าดกลุ่มชนของฮูด


คำแปล R5.
๕๘. และเมื่อบัญชาการลงโทษจากเรามีมาในภาคพิภพนี้โดยมีลมพายุพัดทำลายพวกเหล่านั้นในตอนเช้าของวันพุธที่แปดแห่งเดือนเชาวาลเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน กระแสลมพัดเข้าทางจมูกไปออกทางทวารหนักของชายผู้หนึ่ง กระทำให้ชายผู้นั้นลอยขึ้นสู่อากาศ แล้วตกกลับลงมายังพื้นดินจนอวัยวะแตกหักเป็นจุณ เรา(อัลเลาะห์) ก็ให้ฮู๊ดและบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขา(ฮู๊ด)จำนวนสี่พันคนพ้นภัยแห่งการลงโทษ นับเป็นความปรานีจากเรา และเรา(อัลเลาะห์) ยังให้พวกเหล่านั้นปลอดพ้นจากโทษทัณฑ์ร้ายกาจในภาคปรภพอีกด้วย
๕๙. นั่นคือร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ของพวกอ๊าด มีสุสานและหมู่บ้านของพวกอ๊าด เป็นต้น โอ้ปวงประชากรของมุฮำมัด พวกเจ้าจงท่องเที่ยวไปตามพื้นพิภพ และจงพินิจพิเคราะห์ดูในแผ่นดินนั้นเพื่อเป็นคติ แท้จริงพวกเหล่านั้น ทั้งฝ่ายที่เป็นหัวหน้าและผู้ตาม มิเชื่อในบรรดาสัญญาณแห่งองค์พระผู้อภิบาลของพวกเขา กับยังได้ทรยศต่อฮู๊ด พระศาสนทูตของพระองค์ ทั้งพวกต่ำทรามเหล่านั้นก็ดำเนินการตามบัญชาการของพวกหัวหน้าผู้ดื้อรั้น ขัดกับความจริงอีกด้วย
๖๐. พวกต่ำทรามเหล่านั้นถูกมวลมนุษย์ติดตามสาปแช่งให้พวกเขาออกห่างไกลจากความปรานีของพระองค์ในภาคภพนี้และในวันกิยามะห์ก็จะรู้กันโดยทั่วไปว่า พวกเหล่านี้ถูกสาปแช่งอีกด้วย ระวังนะ พวกอ๊าดนั้น หาได้ศรัทธาต่อองค์อภิบาลของพวกเขาไม่ ระวังนะ วิบัติคือการถูกผลักให้ออกห่างจากความโปรดปรานีของพระองค์ย่อมมีขึ้นแก่พวกอ๊าด ปวงชนของฮู๊ด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 19, 2012, 08:17 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 61 - 64


คำแปล R1.
61. And to Thamud (people, we sent) their brother Salih (Saleh). He said: "O my people! Worship Allah, you have no other Ilah (God) but Him. He brought you forth from the earth and settled you therein, then asks forgiveness of him and turn to him in repentance. Certainly, my Lord is near (to all by his knowledge), responsive."
62. They said: "O Salih (Saleh)! You have been among us as a figure of good hope (and we wished for you to be our chief), till this [new thing which you have brought; that we leave our gods and worship your God (Allah) alone]! Do you (now) forbid us the worship of what Our fathers have worshipped? But we are really in grave doubt as to that which you invite us to (monotheism)."
63. He said: "O ny people! Tell Me, if I have a clear proof from my Lord, and there has come to me a Mercy (Prophethood, etc.) from him, who then can help Me against Allah, if I were to disobey him? Then you increase me not but In loss.
64. "And O My people! This she-camel of Allah is a sign to you, leave her to feed on Allah's earth, and touch her not with evil, lest a near torment will seize you."


คำแปล R2.
61. และ(เราได้ส่ง)มายังพวกสะมู๊ดซึ่งพี่น้องของเขาเองคือซอลิห์ เขาประกาศว่า “โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย! ท่านทั้งหลายจงนมัสการอัลเลาะฮฺเถิด พวกท่านหามีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ไม่! พระองค์ทรงบังเกิดพวกท่านมาจากดิน และทรงให้พวกท่านสร้างความเจริญ(ด้วยการประกอบและประดิษฐ์ในด้านวิทยาการต่าง ๆ )ในมัน(แผ่นดิน) ดังนั้นท่านทั้งหลายจงขออภัยต่อพระองค์เถิดหลังจากนั้นพวกท่านก็จงสารภาพผิดต่อพระองค์ แท้จริงองค์อภิบาลของฉันทรงใกล้ชิดยิ่ง อีกทั้งทรงสนองตอบคำขอทุกอย่าง
62. พวกเขากล่าว(แย้งนบีซอลิห์)ว่า “อันที่จริงท่านอยู่ในหมู่พวกเรา (โดยเป็นที่ได้รับการมุ่งหวังว่าจะได้เป็นหัวหน้า) ก่อนหน้า(ที่ท่านจะประกาศคำประกาศ)นี้(ออกมา และเมื่อท่านประกาศพวกเราก็ไม่หวังจะให้ท่านเป็นหัวหน้าอีกแล้ว) ท่านหรือจะห้ามพวกเรา(มิให้)พวกเราทำการนมัสการสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเคยนมัสการมาก่อน! และแท้จริงพวกเรายังสงสัยเป็นยิ่งนัก ในสิ่งที่ท่านเรียกร้อง พวกเรา(ให้หันไป)สู่สิ่งนั้น (นั่นคือการศรัทธาในอัลเลาะฮฺองค์เดียว)
63. เขา(นบีซอลิห์)กล่าวว่า “โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย! พวกท่านเห็นไหมเล่า ? (จงบอกแก่ฉันเถิด)หากว่าฉันตั้งมั่นอยู่บนเครื่องหมายอันเด่นชัดจากองค์อภิบาลของฉัน(พร้อมที่จะแสดงให้ท่านทั้งหลายประจักษ์ด้วยสายตา) แล้วพระองค์ได้ทรงประทานความเมตตาจากพระองค์แก่ฉัน แล้วใครเล่าที่จะช่วยเหลือฉัน(ให้พ้น)จาก(การลงโทษของ)อัลเลาะฮฺได้ หากว่าฉันทรยศต่อพระองค์ อันที่พวกท่านไม่เพิ่มเติมแก่ฉันได้เลย นอกจากความขาดทุนแต่เพียงประการเดียว
64. “และโอ้กลุ่มชนของฉัน! (เครื่องหมายดังกล่าวนั้นคือ) นี่คืออูฐตัวเมียของอัลเลาะฮฺ เป็นเครื่องหมายสำหรับพวกท่าน(ได้ใช้พิจารณา) ดังนั้นท่านทั้งหลายจงปล่อยมันไปเถิด ให้มันหากินในแผ่นดินของอัลเลาะฮฺ และพวกท่านอย่านำความเลวร้ายมาสัมผัสกับมัน(คืออย่าทำร้ายมัน) อันจะเป็นเหตุให้ท่านได้รับโทษอันใกล้เคียงนี้


คำแปล R3.
61. และยังชาวษะมูด เราได้ส่งพี่น้องของเขาคือซอลิฮฺ เขาได้กล่าวว่า “หมู่ชนของฉันเอ๋ย จงเคารพภักดีอัลลอฮฺ พวกท่านไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกไปจากพระองค์ พระองค์คือผู้สร้างพวกเจ้ามาจากผืนแผ่นดินและได้ทำให้แผ่นดินเป็นสถานที่อยู่สำหรับพวกท่าน ดังนั้นจงขออภัยโทษต่อพระองค์ และหันหลับไปหาพระองค์ด้วยความสำนึกผิด แน่นอนที่สุด พระผู้อภิบาลของฉันทรงอยู่ใกล้และทรงตอบรับคำวิงวอนเสมอ”
62. พวกเขากล่าวว่า “ซอลิฮฺเอ๋ย ท่านเป็นคนที่ในหมู่พวกเราคาดหวังไว้มาจนกระทั่งขณะนี้ แล้วท่านมาห้ามพวกเราไม่ให้เคารพภักดีบรรดาสิ่งที่พวกบรรพบุรุษของเราเคารพภักดีมาก่อนกระนั้นหรือ ? พวกเราชักสงสัยเหลือเกินถึงสิ่งที่ท่านกำลังเรียกร้องพวกเราไป”
63. ซอลิฮฺได้กล่าวว่า “หมู่ชนของฉันเอ๋ย จงพิจารณาด้วยตัวของพวกท่านเองก็แล้วกันว่าถ้าพระผู้อภิบาลของฉันทรงส่งฉันมาพร้อมกับสัญญาณอันชัดแจ้งและได้ทรงประทานความเมตตาของพระองค์เป็นการพิเศษแก่ฉันแล้ว ใครเล่าที่จะช่วยฉันให้รอดพ้นจากอัลลอฮฺ ถ้าหากว่าหลังจากนี้ฉันฝ่าฝืนต่อพระองค์? พวกท่านไม่สามารถช่วยอะไรฉันได้ แต่อาจจะทำให้ฉันวิบัติเร็วขึ้น
64. หมู่ชนของฉันเอ๋ย จงระวังให้ดี นี่คืออูฐตัวเมียของอัลลอฮฺ เป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับพวกท่าน ดังนั้น จงปล่อยให้มันหากินตามลำพังในแผ่นดินของอัลลอฮฺ และจงอย่าแตะต้องมันด้วยเจตนาร้าย มิฉะนั้นพวกท่านจะได้รับการลงโทษในไม่ช้า”


คำแปล R4.
61. และยังษะมูด (เราได้ส่ง) พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือศอและฮฺ เขากล่าวว่า โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย พวกท่านจงเคารพอิบาดะฮฺอัลลอฮฺเถิด พวกท่านไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระองค์ทรงบังเกิดพวกท่านพำนักอยู่ในนั้น ดังนั้น พวกท่านจงขออภัยต่อพระองค์ และจงกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ แท้จริงพระเจ้าของฉันนั้นทรงอยู่ใกล้ ทรงตอบรับเสมอ
62. พวกเขากล่าวว่า โอ้ ศอและฮฺเอ๋ย แน่นอนท่านเคยเป็นความหวังในหมู่พวกเรามาก่อน บัดนี้ ท่านจะห้ามมิให้เราเคารพอิบาดะฮฺสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเคารพอิบาดะฮฺอยู่กระนั้นหรือ? และแท้จริงพวกเราอยู่ในการสงสัยต่อสิ่งที่ท่านเรียกร้องเชิญชวนเรายังสิ่งนั้น
63. เขากล่าวว่า โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย พวกท่านไม่เห็นดอกหรือ หากฉันมีหลักฐานอันชัดแจ้งจากพระเจ้าของฉัน และพระองค์ทรงประทานความเมตตาจากพระองค์แก่ฉัน ดังนั้นผู้ใดเล่าจะช่วยฉันให้พ้นจากอัลลอฮ์ หากฉันฝ่าฝืนพระองค์ ดังนั้น พวกท่านจะไม่เพิ่มสิ่งใดให้แก่ฉันเลยนอกจากการขาดทุนเท่านั้น
64. และโอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย  นี่คืออูฐตัวเมียของอัลลอฮฺ เป็นสัญญาณหนึ่งแก่พวกท่านดังนั้นพวกท่านจงปล่อยมันให้หากินตามลำพังในแผ่นดินของอัลลอฮฺ และอย่าก่อความทุกข์ยากแก่มัน มิฉะนั้นแล้ว การลงโทษอันรวดเร็วจะประสบแก่พวกท่าน


คำแปล R5.
๖๑. และฝ่ายซะมู๊ดเล่า ก็มีซอลิห์ ผู้เป็นญาติพี่น้องกันถูกเราแต่งตั้งให้เป็นพระศาสนทูตมาถึง (ซอลิห์) บอกว่า โอ้ประชากรของฉัน พวกท่านจงเคารพบูชาอัลเลาะห์เพียงพระองค์เดียว หามีพระเจ้าอื่นใดสำหรับพวกท่านไม่นอกจากพระองค์ พระองค์ทรงสร้างพวกท่านจากดินและทรงให้พวกท่านก่อความเจริญรุ่งเรือง ณ ผืนแผ่นดิน เพื่อได้อยู่พักพิง ณ ที่นั้นไปชั่วอายุขัย ต่อแต่นั้นพวกท่านก็ต้องทิ้งบ้านเรือนไปให้ผู้อื่นมาครอบครองแทน ดังนั้นพวกท่านจงขอประทานอภัยต่อพระองค์ ในฐานะที่พวกท่านถือภาคียภาพ แล้วก็จงคืนกลับไปยังพระองค์ โดยการปฏิบัติตามที่ทรงใช้และงดเว้นสิ่งที่ทรงห้าม แน่แท้ความรู้ขององค์อภิบาลของฉันนั้นอยู่ใกล้ชิดกับทุกสิ่งอยู่แล้ว พระองค์ทรงเป็นองค์ยิ่งในการตอบสนองแก่บุคคลผู้เรียกร้องยังพระองค์
๖๒. พวก(อ๊าด) เหล่านั้นเอ่ยว่า โอ้ซอลิห์ ความจริงท่านนั้นเคยถูกพวกเราหมายให้เป็นหัวหน้าอยู่ท่ามกลางพวกเรามาแล้วก่อนจากท่านมีคำสั่งไว้ดังนี้ว่า “จงเคารพบูชาอัลเลาะห์และห้ามกราบไหว้เทวรูป” ด้วยเหตุว่าท่านเป็นพวกพ้องของเรา และท่านเป็นคนให้ความสงเคราะห์ผู้อ่อนแอของพวกเรา กลับทั้งยังได้ช่วยอุปการะให้สมัครพรรคพวกของเรามีฐานะมั่งคั่งขึ้น ครั้นเมื่อพวกเราได้ยินถ้อยคำจากท่านเป็นอย่างนี้แล้ว เป็นอันว่า ที่พวกเรามุ่งหวังไว้ให้เป็นหัวหน้าจึงสิ้นสุดลง ท่านจะมาห้ามเราเคารพบูชาเทวรูปของเราตามที่บรรพบุรุษของเราเคยเคารพบูชากันมาหรือ? ซึ่งไม่เป็นการอันสมควรเลย ด้วยว่าเรายังสงสัยยิ่งนัก ในเรื่องเอกภาพแห่งอัลเลาะห์ที่ท่านชักชวนเราให้ไปสู่
๖๓. เขา(ซอลิห์) กล่าวว่า โอ้ปวงประชากรของฉัน จงบอกฉันทีซิ หากฉัน(ซอลิห์) มีหลักฐานอันแจ้งชัดแล้วจากองค์พระผู้อภิบาลแห่งฉัน และฉันได้รับความปรานีจากพระองค์ให้ได้รับตำแหน่งพระศาสดาและพระศาสนทูตแล้ว ใครเล่าที่จะช่วยเหลือฉันให้รอดพ้นจากการลงโทษของอัลเลาะห์ได้? เมื่อสมมติว่าฉันทรยศต่อพระองค์แล้วไซร้ พวกท่านก็ไม่อาจจะเพิ่มเติมอันใดให้ฉันกระทำได้อีกเลย นอกจากเพิ่มความหลงงมงายเท่านั้น
๖๔. ปวงประชากรของพระศาสดาซอลิห์เคยเรียกร้องอยากจะได้อูฐตัวเมียสักตัวหนึ่งออกมาจากก้อนหินใหญ่ พวกเหล่านั้นต่างชี้ไปยังก้อนหินนั้นพลางกล่าวว่า ขอท่าน(ซอลิห์)จงให้มีอูฐตัวเมียออกมาจากหินใหญ่ก้อนนี้สักตัวหนึ่งเถิด พระศาสดาซอลิห์จึงวิงวอนขอต่ออัลเลาะห์ให้ทรงบังเกิดอูฐตัวเมียขึ้นตามที่ปวงประชากรของตนเรียกร้อง ครั้นแล้วก็ปรากฏมีอูฐตัวเมียผลุดออกมาจากก้อนหินดังกล่าวในลักษณ๕การครวญครางเพียงดังว่าผู้หญิงเจ็บครรภ์จะคลอดบุตรฉะนั้น แล้วซอลิห์ก็กล่าวว่าโอ้ประชากรของฉัน นี่ไงเล่าอูฐตัวเมียของอัลเลาะห์มีขึ้นแล้ว เป็นสัญลักษณ์เพื่อพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจงปล่อยมันไป มันจะได้หากินตามพื้นแผ่นดินของอัลเลาะห์ ทั้งพวกท่านอย่าได้กระทบกระทั่งมันด้วยของไม่ดี เช่นเอาไม้ไปตีขาสองข้างของมัน หากพวกท่านตีขาสองข้างของมันแล้ว กลัวว่าพวกท่านจะได้รับโทษในเร็ว ๆ นี้ซึ่งไม่เกิน ๓ วัน (ดูในโองการที่ ๗๓ อัลอะอ์รอฟส่วนที่ ๘)


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่65 - 68


คำแปล R1.
65. But they killed her. So he said: "Enjoy yourselves in your homes for three days. This is a promise (i.e. a threat) that will not be belied."
66. So when our Commandment came, we saved Salih (Saleh) and those who believed with him by a Mercy from us, and from the disgrace of that Day. Verily, your Lord, He is the All-Strong, the All-Mighty.
67. And As-Saihah (torment - awful cry, etc.) overtook the wrong-doers, so they lay (dead), prostrate in their homes, -
68. As if they had never lived there. No doubt! Verily, Thamud disbelieved in their Lord. So away with Thamud!


คำแปล R2.
65. แต่พวกเขากลับตัดขาฆ่ามันเสีย แล้วเขาก็ประกาศ(แก่พวกนั้น)ว่า “ท่านทั้งหลายจงมีความสุขอยู่ในบ้านของท่านเพียงสามวัน (หลังจากนั้นพวกท่านก็ต้องตาย)” นั้นเป็นสัญญาที่ไม่มดเท็จเลย
66. ครั้นเมื่อคำบัญชา (การลงโทษ)ของเราได้มาปรากฏแล้ว เราก็ยังความปลอดภัยแก่(นบี)ซอลิห์ และบรรดาผู้ที่ศรัทธาร่วมกับเขาด้วยความเมตตาจากเรา และ(ให้พ้น)จากความอัปยศในวันนั้น แท้จริงองค์อภิบาลของเจ้านั้น พระองค์ทรงพลานุภาพยิ่ง อีกทั้งทรงอำนาจยิ่งนัก
67. และเสียงกัมปนาท(จากยิบรออีล)ได้เอา(ชีวิตของ)บรรดาผู้ฉ้อฉลทั้งหลาย แล้วพวกเขาก็ฟุบลงขาดใจตายภายในบ้านเรือนของพวกเขาเอง
68. ประหนึ่งพวกเขาไม่เคยได้อยู่ในนั้นมาก่อนเลย พึงสังวร! แท้จริงพวกสะมู๊ดนั้นได้อกตัญญูต่อองค์อภิบาลของพวกเขา พึงสังวร! ความหายนะจงประสบแก่พวกสะมูด


คำแปล R3.
65. แต่พวกเขาก็ได้ฆ่ามัน ดังนั้นซอลิฮฺจึงได้เตือนพวกเขาว่า “พวกท่านมีเวลาเพียง 3 วันที่จะหาความสุขภายในบ้านของพวกท่าน นี่คือกำหนดเวลาที่ไม่ใช่เรื่องเท็จ”
66. ดังนั้น เมื่อการตัดสินของเราได้มาถึง เราได้ช่วยซอลิฮฺและบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขาด้วยความเมตตาจากเรา และได้ให้พวกเขาพ้นความอัปยศอดสูแห่งวันนั้น แท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้าเป็นผู้ทรงพลัง ผู้ทรงอำนาจ
67. ส่วนบรรดาผู้อธรรมนั้น พวกเขาต้องตกตลึงด้วยความสะพรึงกลัวและนอนคว่ำตายอยู่ภายในบ้านของพวกเขา
68. เหมือนกับว่าพวกเขาไม่เคยรุ่งเรืองอยู่ที่นั่นมาก่อนเลย จงฟังให้ดีพวกษะมูดได้ปฏิเสธพระผู้อภิบาลของพวกเขา ดังนั้นจงรู้ไว้เถิดว่าพวกเจ้าห่างไกลออกไปจากความเมตตาแล้ว พวกษะมูด


คำแปล R4.
65. ต่อมาพวกเขาได้ฆ่ามัน ดังนั้นเขา(ศอและฮฺ) กล่าวว่า พวกท่านจงสุขสำราญในบ้านของพวกท่านสามวัน นั่นคือสัญญาที่ไม่โกหก
66. ดังนั้น เมื่อพระบัญชาของเราได้มาถึง เราได้ช่วยศอและฮฺและบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขาให้รอดพ้น ด้วยความเมตตาจากเรา และจากความอดสูของวันนั้น แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้นเป็นผู้ทรงพลัง ผู้ทรงอำนาจ
67. และเสียงกัมปนาท ได้คร่าบรรดาผู้อธรรม แล้วพวกเขาได้กลายเป็นผู้นอนพังพาบตายในบ้านของพวกเขา
68. ประหนึ่งว่า พวกเขามิได้เคยอยู่ในนั้นมาก่อน พึงทราบเถิด แท้จริงษะมูดนั้นปฏิเสธศรัทธาพระเจ้าของพวกเขา พึงทราบเถิด จงห่างไกลจากความเมตตาเถิดสำหรับษะมูด


คำแปล R5.
๖๕. แต่พวกเหล่านั้นมีก็ด๊ารเป็นหัวหน้าได้ใช้บริวารของตัวตีขาทั้งสองข้างของมัน(อูฐ) ฝ่ายก็ด๊ารเองก็ผลักมันให้ล้มลงแล้วบริวารเหล่านั้นจึงฆ่ามันและต่างคนต่างเข้าชิงกันชำแหละเอาเนื้อของมัน ความจริงก็ด๊ารนั้นเป็นคนชั่วร้ายนัก เขา(ซอลิห์) บอกแก่เขาว่า พวกท่านจงมีชีวิตรื่นรมย์อยู่ในเมืองของพวกท่านได้แค่สามวัน ต่อแต่นั้นพวกท่านก็ต้องตาย พวกเหล่านั้นย้อนถามว่า “จะมีเครื่องหมายอะไรแจ้งเหตุให้รู้บ้างเล่า?” พระศาสดาซอลิห์ตอบว่า เช้าวันพุธใบหน้าของพวกท่านจะออกเหลือง พอรุ่งขึ้นวันพฤหัสบดีใบหน้าของพวกท่านจะเปลี่ยนเป็นสีแดง รุ่งขึ้นอีกวันจะเปลี่ยนเป็นสีดำ แล้วในเช้าวันเสาร์การลงโทษก็จะมาประสบกับพวกท่านนั่นแหละคือข้อสัญญาซึ่งจะไม่เท็จเลย
๖๖. ครั้นเมื่อบัญชาการลงโทษจากเรา(อัลเลาะห์) มีมาโดยการทำลายพวกเหล่านั้นให้สูญเสีย เรา(อัลเลาะห์)ก็ให้ซอลิห์และบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขา(ซอลิห์)จำนวนสี่พันคนพ้นภัยจากการถูกลงทัณฑ์นั้นนับเป็นความปรานีจากเรา และเรา(อัลเลาะห์)ยังได้ให้พวกเหล่านั้นปลอดภัยพ้นจากความตกต่ำในวันแห่งพิภพนี้ แท้จริงองค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้า(ซอลิห์) นั้น มรงเป็นองค์ยิ่งในพลัง ทรงอิทธิฤทธิ์ยิ่ง
๖๗. เสียงกัมปนาทจากยิบรออีล ซึ่งดังสนั่นประหนึ่งฟ้าผ่าพร้อมกับมีแผ่นดินไหวได้ทำลายบรรดาผู้คดโกงและผู้ชั่วช้าสารเลว พวกเหล่านั้นจึงฟุบลงขาดใจตายกันหมดภายในหมู่บ้านของพวกตนในตอนเช้าตรู่
๖๘. ประหนึ่งว่าพวกเหล่านั้นมิเคยได้อยู่อาศัยกันที่บ้านเมืองของพวกตนนั้น ระวังนะ พวกซะมู๊ดนั้นมิได้ศรัทธาต่อองค์พระผู้อภิบาลของพวกเขาเลย แน่นอน ระวังนะ วิบัติคือการถูกผลักให้ออกห่างจากความโปรดปรานีของพระองค์ ย่อมมีขึ้นแก่พวกซะมู๊ด


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 69 - 72


คำแปล R1.
69. And verily, there came our Messengers to Ibrahim (Abraham) with glad tidings. They said: Salam (greetings or peace!) He answered, Salam (greetings or peace!) and he hastened to entertain them with a roasted calf.
70. But when he saw their hands went not towards it (the meal), he felt some mistrust of them, and conceived a fear of them. They said: "Fear not, we have been sent against the people of Lout (Lot)."
71. And his wife was standing (there), and she laughed (either, because the Messengers did not eat their food or for being glad for the destruction of the people of Lout (Lot). but we gave her glad tidings of Ishaque (Isaac), and after him, of Ya'qub (Jacob).
72. She said (in astonishment): "Woe unto me! Shall I bear a child while I am an old woman, and here is my husband, an old man? Verily! This is a strange thing!"


คำแปล R2.
69. ขอยืนยัน! แท้จริงบรรดาทูตของเรา(คือมลาอิกะฮฺ) ได้นำข่าวดีมาแจ้งแก่อิบรอฮีม พวกเขากล่าวว่า “สันติสุข(จงประสบแด่ท่าน)” เขาก็กล่าวตอบว่า “สันติสุข(จงประสบแด่พวกท่านด้วยเช่นกัน) แล้วเขาก็ไม่ได้ชักช้าที่จะนำลูกวัวย่าง(ออกมาต้อนรับพวกเหล่านั้น โดยเขาหารู้ไม่ว่าเป็นมลาอิกะฮฺ)
70. ต่อมาเมื่อเขาเห็นว่ามือของพวกนั้นไม่ยอมแตะต้องลูกวัวนั้นเลย เขารู้สึกหมางเมินพวกนั้นและรู้สึกหวาดกลัวพวกเขาอย่างรุนแรง(เพราะผิดธรรมเนียมของแขกที่มาดี ต้องรับประทานอาหารที่เจ้าของบ้านยกมาต้อนรับ) พวกเขาจึงกล่าวว่า “ท่านอย่ากลัว ความจริงเราถูกส่งตัวมายังกลุ่มชนของลู๊ฏ”
71. ฝ่ายภริยาของเขา (คือนางซาเราะฮฺ) กำลังยืนอยู่ นางก็หัวเราะ (เพราะหมดสิ้นความหวาดกลัว ทันทีที่ทราบว่า คนกลุ่มนั้นเป็นมลาอิกะฮฺ) จากนั้น เราจึงแจ้งข่าวดีแก่นาง (ให้ทราบว่านางจะมีบุตรชื่อ) อิสฮ๊ากและภายหลังจากอิสฮ๊าก็คือยะกู๊บ(บุตรของอิสฮ๊าก)
72. นางถึงกับรำพึงว่า “โอ้! ประหลาดแท้! ฉันจะมีบุตรได้อย่างไรเมื่อฉันชราภาพมากแล้ว และสามีฉันผู้นี้ก็แก่เหมือนกัน ? แท้จริงนี้เป็นสิ่งน่าฉงนยิ่งนัก!”


คำแปล R3.
69. และบรรดารอซูลของเราได้มายังอิบรอฮีมพร้อมกับข่าวดี พวกเขากล่าวว่า “ขอความสันติจงมีแด่ท่าน” อิบรอฮีมได้ตอบว่า”สันติจงมีแด่ท่าน” และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้นำลูกวัวย่างออกมาสำหรับพวกเขา
70. แต่เมื่อเขาเห็นว่าพวกเขาไม่ยื่นมือมายังอาหาร เขาก็ชักไม่ไว้ใจและรู้สึกกลัวพวกเขาขึ้นมาในใจ พวกเขาจึงกล่าวว่า “อย่าได้กลัวอะไรเลย เพราะเราได้ถูกส่งมายังผู้คนของลูฏ”
71. และภรรยาของเขาได้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย พอได้ยินสิ่งนี้นางก็หัวเราะ แล้วเราได้บอกนางถึงข่าวดีเรื่องอิสฮาก และหลังจากอิสฮากก็คือยะกู๊บ
72. นางได้กล่าวว่า “โอ ยุ่งละสิ ฉันจะมีลูกไอย่างไรในเมื่อฉันก็แก่หง่อมปูนนี้แล้ว และสามีของฉันก็แก่ด้วยเช่นกัน ท เป็นเรื่องแปลกจริง”


คำแปล R4.
69. และแน่นอนบรรดาทูตของเราได้มายังอิบรอฮีมพร้อมทั้งข่าวดี พวกเขากล่าวว่า ขอความศานติจงมีแด่ท่าน เขา (อิบรอฮีม) กล่าวว่า ขอความศานติจงมีแด่พวกท่าน ดังนั้นเขามิได้รีรอที่จะนำลูกวัวย่างออกมา
70. ครั้นเมื่อเขาเห็นว่ามือของพวกเขาไม่ถึงมัน เขาไม่พอใจและรู้สึกกลัวพวกเขา พวกเขากล่าวว่า อย่ากลัวเลย แท้จริงเราถูกส่งมายังกลุ่มชนของลูฏ
71. และภริยาของเขายืนอยู่แล้ว นางก็หัวเราะเราจึงแจ้งข่าวดีแก่นางด้วย (การได้บุตรชื่อ) อิสฮาก และหลังจากอิสฮากคือยะอฺกูบ
72. นางกล่าวว่า โอ้ แปลกแท้ ฉันจะมีบุตรหรือ ขณะที่ฉันแก่แล้ว และนี่สามีของฉันก็แก่หง่อมแล้ว แท้จริงนี่เป็นเรื่องประหลาดแท้


คำแปล R5.
๖๙. ข้า(อัลเลาะห์)ให้สัจปฏิญาณว่า ความจริง บรรดาผู้สื่อสารของเราอันมียิบรออีล มีกาอีล และอิสรอฟีลได้มายังอิบรอฮีมด้วยความชื่นชมในอิสหากและยะกู๊บเขา(ผู้สื่อสาร) เล่านั้นว่า “พึงเป็นสุขสันติเถิด” เขา(อิบรอฮีม)กล่าวว่าขอพวกท่านจงเป็นสุขสันติด้วยเช่นกัน เขา(อิบรอฮีม) ก็นำเอาเนื้อโคสุกแล้วมาโดยมิชักช้าแล้วเลื่อนเข้าไปใกล้พวกเหล่านนั้น อิบรอฮีมถามขึ้นว่า พวกท่านไม่อยากกินหรือ?
๗๐. เมื่อเขา(อิบรอฮีม)แลเห็นว่าไม่มีมือพวกเหล่านั้นเอื้อมมาหยิบมัน(เนื้อโคสุก)เอาไปกินเขา(อิบรอฮีม) จึงยับยั้งไว้มิให้พวกเหล่านั้น ด้วยเหตุว่าเขายังไม่รู้ถึงสภาพจิตใจของพวกนั้นดี ทั้งยังเข้ามาหาเขาโดยมิได้รับอนุญาต และไม่ยอมรับประทานอาหารอีกด้วย เขา(อิบรอฮีม)ซ่อนความหวาดกลัวไว้มิให้พวกนั้นรู้ เท่าที่พระศาสดาอิบรอฮีมเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาก็เพราะพวกเหล่านั้นไม่ยอมรับประทานอาหาร เขาจึงเกรงพวกเหล่านั้นจะแกล้งตามวิสัยของผู้ชอบข่มเหง ซึ่งไม่ยอมกินอาหารที่พวกเขาหยิบยื่นให้ เพราะในเบื้องแรกเขามิได้รู้เลยว่าพวกเหล่านั้นเป็นมลาอิกะห์ ด้วยเหตุนี้เอง(อิบรอฮีม)จึงยื่นอาหารให้ แต่ถ้าเขารู้แต่แรกว่าเป็นมลาอิกะห์เขาย่อมจะไม่ยื่นอาหารไปให้เลย เพราะทราบว่ามลาอิกะห์ไม่กินและไม่ดื่ม ครั้นเมื่ออิบรอฮีมเกิดความหวาดกลัว พวกเหล่านั้นสังเกตเห็นริ้วรอยแห่งความหวาดกลัวได้จากใบหน้าของอิบรอฮีม ก็กล่าวในขณะภรรยาของอิบรอฮีมกำลังยืนให้การต้อนรับอยู่ว่า ท่านอย่ากลัวเลย ความจริงเรานี้ ถูกแต่งตั้งเป็นผู้สื่อสารมายังประชากรลู๊ตเพื่อเราจะได้ทำลายล้างชาติพันธุ์ของลู๊ต
๗๑. ส่วนนางซาเราะห์ภรรยาของเขา(อิบรอฮีม)นั้นกำลังยืนให้การต้อนรับผู้สื่อสารของสามของอัลเลาะห์อยู่ แล้วนางก็หัวเราะขึ้นด้วยความดีอกดีใจที่พวกของลู๊ตถูกทำลายล้างชาติพันธุ์ เรา(อัลเลาะห์) ได้ให้นางปลาบปลื้มใจต่ออิสหาก และผู้ถัดจากอิสหากคือยะกู๊บ(บุตรชายของอิสหากอีกด้วย นางซาเราะห์มีอายุยืนนานเรื่อยมาจนได้ทันเห็นยะกู๊บผู้เป็นหลานของนาง และนางก็ทันเห็นหลานของนางจริง ๆ
๗๒. นางกล่าวว่า ประหลาดจริง ฉันจะมีลูกได้หรือนี่ ทั้งที่ฉันเองก็แก่เฒ่ามีอายุตั้ง ๙๙ ปี และอิบรอฮีมสามีของฉันผู้นี้ก็แก่แล้วอายุถึง ๑๒๐ ปี นี่แหละคือสิ่งอัศจรรย์แท้ทีเดียวที่เด็กจะคลอดได้จากบิดามารดาที่ชราแล้วทั้งคู่


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 73 - 76


คำแปล R1.
73. They said: "Do you wonder at the decree of Allah? The Mercy of Allah and his Blessings be on you, O the family [of Ibrahim (Abraham)]. Surely, He (Allah) is All-Praiseworthy, All-Glorious."
74. Then when the fear had gone away from (the mind of) Ibrahim (Abraham), and the glad tidings had reached him, he began to plead with us (our Messengers) for the people of Lout (Lot).
75. Verily, Ibrahim (Abraham) was, without doubt, forbearing, used to invoke Allah with humility, and was repentant (to Allah All the time, again and again).
76. "O Ibrahim (Abraham)! Forsake this. Indeed, the Commandment of your Lord has gone forth. Verily, there will come a torment for them which cannot be turned back."


คำแปล R2.
73. พวกเขากล่าวว่า “เธออย่าฉงนไปเลยต่อการงานของอัลเลาะฮฺ! ความเมตตาและความเจริญรุ่งเรืองของพระองค์จงประสบแก่ท่านทั้งหลายเถิด โอ้ครอบครัว(ของอิบรอฮีม)!” แท้จริงพระองค์ทรงถูกสรรเสริญยิ่ง อีกทั้งทรงเกียรติคุณยิ่ง
74. ครั้นเมื่อความหวาดกลัวได้สูญสิ้นไปจากอิบรอฮีม และความปลื้มปีติได้มาประสบแก่เขาแล้ว เขาก็โต้แย้ง(บรรดาทูตทั้งสามของ)เราใน (เรื่องที่จะทำลายล้าง)กลุ่มชนของ(นบี)ลู๊ฏ (โดยนบีอิบรอฮีมแย้งว่าจะทำลายเมืองนั้นได้อย่างไรเมื่อมีนบีลู๊ฏรวมอยู่ด้วย ดังปรากฏใน 31-32 บทอังกะบู๊ต)
75. แท้จริงอิรอฮีมนั้นเป็นผู้สุขุม ในอ่อนโยน อีกทั้งมีจิตกลับคืนสู่อัลเลาะฮฺเสมอ
76. โอ้อิบรอฮีม! เจ้าจงหันออกจาก(การโต้แย้ง)นี้เถิด เพราะที่จริงแล้วงานการ(ลงโทษ)แห่งองค์อภิบาลของเจ้า จะต้องมาปรากฏอย่างแน่นอน และแท้จริงพวกเขานั้น จะมีการลงโทษอันผลักใสมิได้มาประสบแก่พวกเขา


คำแปล R3.
73. พวกเขาจึงกล่าวว่า “นางแปลกใจต่อคำบัญชาของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ? โอ้ครอบครัวของอิบรอฮีม ความเมตตาและความจำเริญของอัลลอฮฺจงมีแด่ท่าน แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ที่ควรได้รับการสรรเสริญและผู้ทรงได้รับการเทิดทูน
74. ดังนั้นเมื่อความกลัวของอิบรอฮีมได้คลายลงและหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสุข [/i](เพราะข่าวดีเรื่องบุตรชาย)[/i] เขาก็เริ่มที่จะโต้แย้งกับเราเกี่ยวกับเรื่องผู้คนของลูฏ
75. เพราะอิบรอฮีมเป็นคนที่มีหัวใจอ่อนโยน มีเมตตา และมักจะหันมายังเราเสมอ
76. (ในที่สุดมลาอิกะฮฺของเราก็ได้กล่าวกับเขาว่า) “อิบรอฮีมเอ๋ย จงห่างจากเรื่องนี้เถิด เพราะตอนนี้คำบัญชาของพระผู้อภิบาลของเจ้าได้มีมาแล้ว และการลงโทษที่ไม่อาจมีใครเปลี่ยนแปลงได้จะมายังพวกเขา


คำแปล R4.
73. พวกเขากล่าวว่า เธอแปลกใจต่อพระบัญชาของอัลลอฮฺหรือ? ความเมตตาของอัลลอฮฺและความจำเริญของพระองค์จงประสบแด่พวกท่านโอ้ครอบครัว (ของอิบรอฮีม) แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ได้รับการสรรเสริญ ผู้ทรงประเสริฐยิ่ง
74. ครั้นเมื่อความตระหนกได้คลายไปจากอิบรอฮีมแล้ว และข่าวดีได้มายังเขา เขาก็โต้เถียงเราในเรื่องของกลุ่มชนลูฏ
75. แท้จริงอิบรอฮีมนั้นเป็นผู้อดทนขันติ จิตใจอ่อนโยน หันหน้าเข้าหาอัลลอฮฺเสมอ
76. โอ้อิบรอฮีมเอ๋ย จงผินหลังจากเรื่องนี้เถิด แท้จริงพระบัญชาของพระเจ้าของเจ้าได้มาถึงแล้ว และแท้จริงเพวกเขาเหล่านั้น การลงโทษที่ไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นจะมายังพวกเขาอย่างแน่นอน


คำแปล R5.
๗๓. พวกเหล่านั้นที่เป็นผู้สื่อสารกล่าวว่า โอ้ซาเราะห์ท่านประหลาดใจในพลานุภาพของอัลเลาะห์ด้วยหรือ ?เราขออำนวยพรให้ด้วยว่า “ความโปรดปรานีจากอัลเลาะห์และความสมบูรณ์พูนผลจากพระองค์พึงมีแก่พวกท่านด้วยเถิด โอ้สมาชิกครอบครัวของอิบรอฮีม” แท้จริงพระองค์นั้นทรงเป็นองค์ยิ่งในการได้รับสรรเสริญ ทรงยิ่งในเกียรติคุณ
๗๔. ครั้นเมื่อความหวาดกลัว ได้สิ้นหายไปจากอิบรอฮีม และได้มีความปลื้มมาสู่เขา(อิบรอฮีม)ที่เขาได้บุตรชาย แล้วเขา(อิบรอฮีม) ยังมาถกเถียงกับผู้สื่อสารทั้งสามของเรา ในเรื่องการทำลายล้างชาติพันธุ์พวกของลู๊ตอีก
๗๕. แท้จริงอิบรอฮีมนั้นเป็นผู้สุขุมยิ่งในการที่จะตอบสนองผู้ให้ร้ายแก่เขา เป็นผู้มีสัมมาคารวะยิ่งเป็นผู้สำนึกตัวเองยิ่งสู่อัลเลาะห์ อิบรอฮีมถามพวกนั้นว่า พวกท่านจะทำลายล้างตำบลหนึ่ง ซึ่งมีศรัทธาชนอาศัยอยู่ ๓๐๐ คนให้พินาศลงหรือ ? พวกเหล่านั้นตอบว่า “หามิได้” เขาถามต่อไปว่า ก็แล้วถ้าในตำบลนั้นมีศรัทธาชนอยู่แค่ ๒๐๐ คน หรือ ๔๐ คน หรือ ๑๔ คน หรือเพียงคนเดียวล่ะ พวกท่านจะทำลายไหม พวกนั้นตอบว่า “ไม่” อีก และอิบรอฮีมยังถามย้ำอีก แล้วถ้าในตำบลนั้นมีลู๊ตอยู่ด้วยล่ะ ? พวกนั้นตอบว่า พวกเราย่อมรู้ดีว่าใครควรแก่การได้รับโทษ ครั้นเมื่ออิบรอฮีมโต้เถียงพวกนั้นนาน ๆ เข้า พวกนั้น(ผู้สื่อสาร)จึงกล่าวว่า
๗๖. โอ้ อิบรอฮีม ท่านจงออกห่างจากการพูดจาโต้เถียงเช่นนี้เถิด แท้จริงบัญชาการแห่งองค์พระผู้อภิบาลของท่านในการทำลายพวกนั้นมีมาแล้ว และว่าโทษอันมิได้ถูกยับยั้งจะมีมาถึงพวกนั้นอีกด้วย


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 77 - 81


คำแปล R1.
77. And when our Messengers came to Lout (Lot), he was grieved on their account and felt himself straitened for them (lest the town people should approach them to commit sodomy with them). He said: "This is a distressful Day."
78. And his people came rushing towards him, and since aforetime they used to commit crimes (sodomy, etc.), He said: "O my people! Here are my daughters (i.e. the daughters of my nation), they are purer for you (if you marry them lawfully). So fear Allah and degrade me not as regards my guests! Is there not among you a single right-minded man?"
79. They said: "Surely you know that we have neither any desire nor in need of your daughters, and indeed you know well what we want!"
80. He said: "Would that I had strength (men) to overpower you, or that I could betake myself to some powerful support (to resist you)."
81. They (Messengers) said: "O Lout (Lot)! Verily, we are the Messengers from your Lord! They shall not reach you! So travel with your family in a part of the night, and let not any of you look back, but your wife (will remain behind), verily, the punishment which will afflict them, will afflict her. Indeed, morning is their appointed time. Is not the morning near?"


คำแปล R2.
77. และเมื่อทูตของเราได้มายังลู๊ฏเขาก็รู้สึกเศร้าตรมเพราะ(การมาของ)พวกเขา และเขารู้สึกเป็นทุกข์กับพวกเขาที่จะยื่นช่วงแขน(เข้าไปปกป้องให้พ้นจากการคิดร้ายโดยกลุ่มชนของเขา เนื่องจากกลุ่มชนของเขาชอบสมสู่เพศชายด้วยกันและทูตที่มาหาก็แปลงร่างมาเป็นชายหนุ่มรูปงามทั้งหมด) และเขาได้รำพึงว่า “นี้เป็นวันอันร้ายแรงยิ่งนัก”
78. และกลุ่มชนของเขาได้รีบรุดมาหาเขา(เพื่อช่วงชิงแขกของเขาไปทำการสมสู่) และก่อนหน้านั้น พวกเหล่านั้นได้เคยประพฤติแต่ความชั่วร้าย(ในทำนองนั้นเป็นอาจิณ) เขาจึงกล่าวว่า “โอ้กลุ่มชนของฉัน! เหล่านี้คือบุตรหญิงของฉัน พวกนางเป็นความบริสุทธิ์ยิ่งสำหรับพวกท่าน(ที่พวกท่านพึงเลือกไปเป็นภริยา พวกท่านจงอย่ามายุ่งกับแขกของฉัน ซึ่งเป็นเพศชายเหมือนพวกท่านเลย) ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงยำเกรงอัลเลาะฮฺเถิด! และพวกท่านอย่าทำให้ฉันต้องอดสูท่ามกลางแขกของฉัน ในหมู่พวกท่านจะไม่มีบุรุษผู้ชาญฉลาดบ้างเชียวหรือ?”
79. พวกเขากล่าว(ตอบ)ว่า “ท่านก็รู้ดีว่า เราไม่ปรารถนาที่จะมีสิทธิใด ๆ ในบุตรหญิงของท่าน และแท้จริงท่านย่อมรู้ว่า เราปรารถนาสิ่งใด”
80. เขากล่าวว่า “หากฉันมีกำลังที่จะขัดขวางพวกท่านหรือฉันเข้าพึ่งพิงกับหลักอันมั่นคง(คือบุคคลที่มีความสามารถให้การช่วยเหลือได้ แน่นอนฉันก็ต้องจัดการลงโทษพวกท่านอย่างสาหัสเป็นแน่)”
81. (บรรดามลาอิกะฮฺ)พวกเขากล่าวว่า “โอ้ลู๊ฏ! ความจริงเราเป็นทูตแห่งองค์อภิบาลของท่านเอง พวกนั้นจะไม่(สามารถ)แตะต้องท่านได้เลย ดังนั้นท่านจงนำครอบครัวของท่านออกเดินทางในช่วงหนึ่งจากเวลากลางคืน และอย่าให้คนใดจากพวกท่านเหลียวกลับ(มามองสภาพของบ้านเมืองที่ถูกทำลายล้าง) ยกเว้นภริยาของท่าน (เพียงคนเดียวที่ไม่ต้องนำไปด้วย) เพราะแท้จริงนางต้องประสบ(การลงโทษ) เช่นเดียวกับที่ได้ประสบแก่พวกเหล่านั้น แท้จริงกำหนด(การลงโทษ)ของพวกเขาคือตอนเช้า! ก็ตอนเช้านั้นเป็นเวลาที่อยู่ใกล้นี้เองมิใช่หรือ?


คำแปล R3.
77. และเมื่อบรรดารอซูลของเราได้มายังลูฏ เขาก็ตำใจและเป็นทุกข์อย่างมากในการมาเยี่ยมของพวกเขาและเขาได้กล่าวว่า “วิบัติแล้วละสิวันนี้”
78. (ยังไม่ทันที่บรรดาผู้มาเยี่ยมจะมาถึงเขา) ผู้คนของเขาก็ได้กรูกันมายังบ้านของเขาทันที เพราะคนพวกนี้ได้หมกมุ่นอยู่กับการทำชั่วมาก่อน ลูฏได้บอกกับพวกเขาว่า “หมู่ชนของฉันเอ๋ย นี่คือบรรดาลูกสาวของฉัน พวกนางบริสุทธิ์ยิ่งสำหรับพวกท่าน ดังนั้น จงเกรงกลัวอัลลอฮฺเถิด และขออย่าได้ทำให้ฉันได้อับอายขายหน้าโดยการทำชั่วต่อบรรดาแขกของฉันเลย อะไรกัน ในหมู่พวกท่านไม่มีคนดีสักคนหนึ่งเลยกระนั้นหรือ ?”
79. พวกเขาตอบว่า “ท่านรู้ดีว่าเราไม่ต้องการลูกสาวของท่าน และท่านก็รู้ว่าเราต้องการอะไร”
80. ลูฏได้กล่าวว่า “ฉันอยากมีอำนาจที่จะจัดการกับพวกท่าน หรือหาที่อันมั่นคงไว้สำหรับหลบภัยเสียเหลือเกิน”
81. ดังนั้น บรรดามลาอิกะฮฺจึงกล่าวว่า “ลูฏเอ๋ย เราเป็นรอซูลของพระผู้อภิบาลของท่าน พวกเขาจะไม่สามารถทำร้ายใด ๆ ท่านได้ ดังนั้นจงออกไปจากที่นี่กับครอบครัวของท่านในยามสุดท้ายของกลางคืน และจงอย่าให้ผู้ใดในหมู่พวกท่านหันกลับไปมองข้างหลัง แต่ภรรยาของเจ้า(ที่จะไม่ไปกับเจ้า)จะได้พบกับความหายนะเช่นเดียวกับพวกเขา แท้จริงการลงโทษได้ถูกกำหนดไว้สำหรับพวกเขาในตอนเช้า และยามเช้าก็กำลังใกล้เข้ามาแล้วมิใช่หรือ?”


คำแปล R4.
77. และเมื่อบรรดาทูตของเรา(มะลาอิกะฮฺ) ได้มายังลูฏ เขาเป็นทุกข์ต่อพวกเขาและหนักใจในพวกเขา และกล่าวว่า นี่เป็นวันอันชั่วร้ายที่สุด
78. และกลุ่มชนของเขาได้มาหาเขา พวกเขารีบร้อนมายังเขา และก่อนหน้านั้นพวกเขาเคยทำความชั่ว เขากล่าวว่า กลุ่มชนของฉันเอ๋ย เหล่านี้คือลูกสาวของฉัน พวกนางนั้นบริสุทธิ์สำหรับพวกท่าน ดังนั้น พวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด และอย่าทำให้ฉันขายหน้าต่อแขกของฉันเลย ไม่มีคนที่มีสติสัมปชัญญะในหมู่พวกท่านบ้างหรือ
79. พวกเขากล่าวว่า โดยแน่นอน ท่านรู้ดีว่า เราไม่มีสิทธิ์ในลูกสาวของท่าน และแท้จริงท่านรู้ดีถึงสิ่งที่เราปรารถนา
80. เขากล่าวว่า หากว่าฉันมีกำลังปราบพวกท่าน หรือฉันหันไปพึ่งที่พักพิงอันแข็งแรง
81. พวกเขา(มะลาอิกะฮฺ) กล่าวว่า โอ้ลูฏเอ๋ย พวกเราเป็นทูตของพระเจ้าของท่าน พวกเหล่านั้นจะไม่ถึงท่านได้เลย ดังนั้น ท่านจงเดินทางไปในเวลากลางคืนพร้อมกับครอบครัวของท่านและคนใดในหมู่พวกท่านอย่าได้เหลียวหลังมองเว้นแต่ภริยาของท่าน แท้จริงจะประสบแก่นางเช่นเดียวกับที่ได้ประสบแก่พวกเขา แท้จริงสัญญาของพวกเขาคือเวลาเช้า เวลาเช้านั้นใกล้เข้ามาแล้วมิใช่หรือ


คำแปล R5.
๗๗. และเมื่อผู้สื่อสารของเราทั้งสาม ซึ่งเป็นมลาอิกะห์มายังลู๊ต พวกผู้สื่อสารเหล่านั้นก็เป็นเหตุให้เขา(ลู๊ต)ต้องเศร้าใจ และเขา(ลู๊ต)ยังรู้สึกอึดอัดต่อพวกนั้นที่พวกนั้นมีใบหน้างดงาม ในขณะรับประทานอาหารเลี้ยงอยู่ ลู๊ตเกรงว่าประชากรของตนจะเข้ามากลุ้มรุมทำร้ายพวกเหล่านั้น แล้วเขา(ลู๊ต)จึงเอ่ยว่า นี้แหละ คือวันแห่งความตึงเครียด
๗๘. ประชากรของเขา(ลู๊ต)มายังเขา รีบเข้าไปหาเขา เมื่อประชากรเหล่านั้นต่างทราบว่า ผู้มาหาลู๊ตทั้งสามเป็นผู้สื่อสารแห่งอัลเลาะห์โดยที่แต่เดิมก่อนจะมีผู้สื่อสารมาถึง พวก(ประชากรของลู๊ต)เหล่านั้นเคยประพฤติชั่วช้ากันมา กล่าวคือ พวกนั้นชอบรี่วมเพศระหว่างผู้ชายกันเองทางทวารหนัก เขา(ลู๊ต)กล่าวว่า โอ้ประชากรของฉัน เธอเหล่านั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ยิ่งสำหรับพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลเลาะห์เถิด อย่าได้ทำให้ฉันอัปยศขึ้รท่ามกลางแขกผู้มาร่วมรับประทานเลี้ยงของฉันเลย ในหมู่พวกท่านนั้นไม่มีผู้เฉลียวฉลาดคอยชักชวนให้กระทำดีและหักห้ามกระทำชั่วบ้างเชียวหรือ ?
๗๙. พวกเหล่านั้นที่เป็นประชากรของลู๊ตกล่าวให้สัจปฏิญาณว่า โอ้ลู๊ต ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าพวกเรานี้ไม่อยากได้บุตรสาวของท่านเลย แล้วท่านก็รู้ถึงเรื่องการร่วมเพศทางทวารหนักกับผู้ชายด้วยกันซึ่งพวกเราต้องการ
๘๐. เขา(ลู๊ต)กล่าว หากฉันมีความสามารถหรือพึ่งพาคณะอุปถัมภ์ที่เข้มแข็ง คอยช่วยเหลือคุ้มกันภัยให้พ้นจากการทำร้ายของพวกท่านได้แล้ว ฉันจะเอาโทษพวกท่านให้หนักทีเดียว
๘๑. เมื่อเหล่ามลาอิกะห์ทั้งสามซึ่งเป็นผู้สื่อสารแลเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น พวกมลาอิกะห์มลาอิกะห์เหล่านั้นกล่าวขึ้นว่า โอ้ลู๊ต พวกเหล่าเป็นผู้สื่อสารขององค์อภิบาลแห่งท่าน พวกนั้นซึ่งเป็นปวงชนของท่านจะไม่นำเอาความเลวร้ายมาสู่ท่านหรอกและท่านจงเดินทางไปกับครอบครัวของท่านในช่วงราตรี แต่อย่าให้คนใดในหมู่พวกท่านเหลียวหลังกลับมารมองเพื่อว่าจะได้ไม่แลเห็นโทษอันยิ่งใหญ่ที่ลงมายังพวกทำชั่วช้านอกจากภรรยาของเจ้าเท่านั้นที่ไม่ให้เจ้านำเดินทางไปด้วยโดยแท้จริง โทษที่ประสบกับพวกชัวช้าเหล่านั้น ย่อมต้องประสบกับนางผู้เป็นภรรยาของท่านด้วย ลู๊ตถามผู้สื่อสารทั้งสามว่า เมื่อไหร่เล่าจึงจะถึงเวลาแห่งการทำลายพวกนั้น ผู้สื่อสารตอบว่า แน่นอนสัญญาแห่งการทำลายล้างพวกเหล่านั้นมีในยามเช้าตรู่ลู๊ตกล่าวย้ำว่า ฉันอยากให้เกิดขึ้นเร็วกว่านี้ ฝ่ายผู้สื่อสารถามสวนขึ้น เวลาเช้าตรู่แล้ว ยังไม่ไกล้อีกหรือ ?


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 82- 83


คำแปล R1.
82. So when our Commandment came, we turned (the Towns of Sodom in Palestine) upside down, and rained on them stones of baked clay, piled up;
83. Marked from your Lord, and they are not ever far from the Zalimun (polytheists, evil-doers, etc.).


คำแปล R2.
82. ต่อมาเมื่อการงานของเรา(คือการลงโทษ)ได้มาปรากฏแล้ว เราก็ดลบันดาลให้ข้างบนของมัน(บ้านเมืองพลิกลงมา)เป็นข้างล่าง (โดยบันดาลให้แผ่นดินถล่มอย่างรุนแรง) และเราได้กระหน่ำหินจากดินเผาลงบนมัน(บ้านเมืองนั้น)ระลอกแล้วระลอกเล่า
83. (เหล่านั้น) ถูกทำเครื่องหมายมาแต่องค์อภิบาลของเจ้าแล้ว (ว่าเป็นหินที่กระหน่ำลงมาเพื่อทำโทษพวกเหล่านั้น) และ เมืองนั้นก็มิได้ห่างไกลไปจากมวลผู้ฉ้อฉล(พวกกาฟิรมักกะฮฺ)เลย


คำแปล R3.
82. ดังนั้น เมื่อเวลาแห่งการตัดสินมาถึงเราได้พลิกแหล่งอาศัยของผู้คนคว่ำลง และได้ทำให้หินที่ถูกเผากระหน่ำซ้ำลงมาดั่งห่าฝน
83. หินเหล่านี้แต่ละก้อนได้ถูกพระผู้อภิบาลของเจ้ากำหนดไว้ เป็นการเฉพาะ และการลงโทษเช่นนั้นไม่ไกลจากพวกที่ก่อความอธรรมไว้


คำแปล R4.
82. ดังนั้น เมื่อพระบัญชาของเราได้มาถึง เราได้ทำให้ข้างบนของมันเป็นข้างล่าง และเราได้ ให้ก้อนหินแกร่งหล่นพรูลงมา
83. ถูกตราเครื่องหมายไว้ ณ ที่พระเจ้าของท่าน และมัน ไม่ไกลไปจากบรรดาผู้อธรรม


คำแปล R5.
๘๒. เมื่อบัญชาการของเรา(อัลเลาะห์)ในการทำลายล้างพรรคพวกของลู๊ตมีมา เราก็สั่งให้พลิกคว่ำตำบลของพวกเขานั้น จากข้างบนเป็นข้างล่าง โดยให้บิบรออีลยกเอาตำบลนั้นขึ้นยังฟ้าแล้วปล่อยหกคว่ำลงมายังพื้นดินทั้งเรายังได้ประนังหินที่แผดร้อนลงมาไม่หยุดยั้งทำลายตำบลนั้นอีก ซึ่งหินนั้น
๘๓. มีชื่อของผู้ถูกทำลายแต่ละคนถูกสลักไว้ด้วยในหินแต่ละก้อน จากองค์พระผู้อภิบาลของท่าน โดยที่ตำบลนั้นก็อยู่ไม่ไกลจากกาฟิรชาวมักกะห์ผู้คดโกงขณะกำลังเดินทางผ่านไปยังประเทศซีเรียเลย


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 84 - 86


คำแปล R1.
84. And to the Madyan (Midian) people (We sent) their brother Shu'aib. He said: "O my people! Worship Allah, you have no other Ilah (God) but him, and give not short measure or weight, I see you in prosperity; and verily I fear for you the torment of a Day encompassing.
85. "And O my people! Give full measure and weight in justice and reduce not the things that are due to the people, and do not commit mischief in the land, causing corruption.
86. "That which is left by Allah for you (after giving the rights of the people) is better for you, if you are believers. And I am not set over you as a guardian.


คำแปล R2.
84. และ(เราได้ส่งมา)ยังชาวเมืองมัดยันซึ่งพี่น้องของพวกเขาเอง คือ ชุอัยบ์ (เพื่อเป็นศาสดาประกาศสัจธรรมของพระองค์) เขาประกาศว่า “โอ้ กลุ่มชนของฉัน! ท่านทั้งหลายจงนมัสการอัลเลาะฮฺเถิด พวกท่านหามีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ไม่ และพวกท่านอย่าลดการตวงและการชั่ง(ให้น้อยกว่าพิกัด) แท้จริงฉันเห็นพวกท่านมีสิ่งดีงาม( คือ ทรัพย์สมบัติอยู่มากมายแล้ว) และฉันกลัวว่า การลงโทษในวันที่แวดล้อม(พวกท่านไว้มิให้หลบเลี่ยงได้) จักประสพแก่พวกท่าน
85. โอ้กลุ่มชนของฉัน! ท่านทั้งหลายจงตวงและชั่งให้ครบตามพิกัดเถิด โดยความเที่ยงธรรม พวกท่านทั้งหลายอย่าทำความบกพร่องแก่ผู้คน ซึ่งสิ่งของต่าง ๆ ของพวกเขา และพวกท่านอย่าก่อความเดือดร้อนโดยเป็นพวกบ่อนทำลายในพื้นพิภพนี้
86. “ส่วนที่ยังคงเหลืออยู่ของอัลเลาะฮฺ(อันเป็นสิ่งบริสุทธิ์ อนุมัติหลังจากได้บริจาคบางส่วนออกไปแล้ว)นั้น ย่อมเป็นสิ่งประเสริฐสุดสำหรับพวกท่าน ทั้งนี้หากพวกท่านเป้นผู้มีศรัทธาที่แท้จริง และฉันเองหาใช่ผู้(สามารถ) พิทักษ์พวกท่าน(ให้พ้นจากการลงโทษของอัลเลาะฮฺ)ไม่

 
คำแปล R3.
84. และยังผู้คนของมัดยันเราได้ส่งพี่น้องคนหนึ่งของพวกเขามา นั่นคือชุอัยบฺ เขากล่าวว่า “หมู่ชนของฉันเอ๋ย จงเคารพภักดีอัลลอฮฺ พวกท่านไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ จงอย่าให้การตวงและการชั่งขาดตกบกพร่อง ถึงแม้ฉันจะเห็นท่านเจริญมั่งคั่งอยู่ในขณะนี้ แต่ฉันก็กลัวแทนท่านถึงการลงโทษแห่งวันที่จะสกัดล้อมพวกท่าน
85. และหมู่ชนของฉันเอ๋ย จงตวงและชั่งให้ตรงตามจำนวนโดยเที่ยงธรรม และจงอย่าหลอกลวงผู้คนในสิ่งต่าง ๆ ของพวกเขา และอย่าแพร่กระจายความเสียหายในหน้าแผ่นดิน
86. ส่วนที่อัลลอฮฺเหลือไว้ให้(หลังจากการชั่งตวงที่ครบจำนวนแล้ว)นั้นดีที่สุดสำหรับพวกท่าน ถ้าหากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา และฉันไม่ใช่เป็นผู้พิทักษ์พวกท่าน”


คำแปล R4.
84. และยังกลุ่มชนของมัดยัน เราได้ส่งพี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือชุอัยบ์ เขากล่าวว่า โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย พวกท่านจงเคารพอิบาดะฮฺอัลลอฮฺเถิด พวกท่านนั้นไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ และพวกท่านอย่าให้การตวง และการชั่งบกพร่อง แท้จริงฉันเห็นพวกท่านยังอยู่ในความดี และแท้จริงฉันกลัวแทนพวกท่านต่อการลงโทษในวันที่ถูกห้อมล้อมไว้
85. และโอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย พวกท่านจงให้ครบสมบูรณ์ไว้ซึ่งการตวงและการชั่งโดยเที่ยงธรรม และอย่าให้บกพร่องแก่มนุษย์ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ของพวกเขา และอย่าก่อกวนในแผ่นดินโดยเป็นผู้บ่อนทำลาย
86. สิ่งที่เหลืออยู่ของอัลลอฮฺนั้น ดียิ่งสำหรับพวกท่าน หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา และฉันมิใช่ผู้คุ้มกันพวกท่าน


คำแปล R5.
๘๔. และพวกมัดยันก็มีชุไอบ์ผู้เป็นญาติพี่น้องกันถูกเรา(อัลเลาะห์แต่งตั้งเป็นศาสนทูตส่งมาถึง เขา(ชุไอบ์) กล่าวว่า โอ้ประชากรของฉันพวกท่านจงถือในเอกภาพแห่งอัลเลาะห์เถิด และว่าพวกท่านนั้นหามีพระเจ้าอื่นใดที่นอกจากพระองค์ไม่ ทั้งพวกท่านอย่าได้บกพร่องซึ่งการตวงและการชั่ง ทั้งนี้ในเมื่อจะซื้อและจะขายให้แก่กันและกัน ความจริงฉันก็แลเห็นพวกท่านพรั่งพร้อมในทรัพย์สินอยู่แล้ว ซึ่งคงไม่ถึงกับทำให้พวกท่านต้องหย่อนมาตรฐานการตวงและการชั่งเลย ฉันเกรงว่าพวกท่านจะได้รับโทษซึ่งแวดล้อมพวกท่านอยู่ในวันหนึ่ง ซึ่งจะทำลายพวกท่านให้พินาศลงไปได้
๘๕. และโอ้ประชากรของฉัน พวกท่านจงตวงและชั่งให้เต็มบริบูรณ์อย่างเป็นธรรม อย่าให้เกิดบกพร่องแก่มวลมนุษย์ในสิทธิของพวกเขาแม้แต่น้อย ทั้งพวกท่านอย่าก่อวินาศกรรม ณ หน้าแผ่นดินให้เสื่อมเสีย ด้วยการประหัตประหารกันและอื่น ๆ เลย
๘๖. โภคลาภจากอัลเลาะห์ซึ่งยังเหลืออยู่กับพวกท่านหลังจากพวกท่านได้กระทำการตวงและการชั่งให้เต็มบริบูรณ์นั้นย่อมประเสริฐสำหรับพวกท่านยิ่งกว่าที่พวกท่านได้มาด้วยการทุจริตในการชั่งและการตวง หากพวกท่านเป็นผู้มีศรัทธาต่ออัลเลาะห์และต่อฉัน โดยยอมรับว่าที่ฉันนำข้อบัญญัติมาบอกพวกท่าน และบัญชาใช้บัฐชาห้ามมาสู่พวกท่านนั้นเป็นความสัจจริง แต่ใช่ว่าฉันนั้นเป็นผู้คุ้มรักษาพวกท่านก็หาไม่ ฉันจะตอบสนองผลกรรมที่พวกท่านกระทำย่อมไม่ได้ ฉันถูกส่งมาให้เป็นผู้อบรมตักเตือนพวกท่านเท่านั้น


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 87 - 90


คำแปล R1.
87. They said: "O Shu'aib! does your Salat (prayer) (i.e. the prayers which you offer has spoiled your mind, so you) command that we leave off what our fathers used to worship, or that we leave off doing what we like with our property? Verily, you are the forbearer, right-minded!" (They said this sarcastically).
88. He said: "O my people! Tell me; if I have a clear evidence from my Lord, and He has given me a good sustenance from himself (shall I corrupt it by mixing it with the unlawfully earned money). I wish not, in contradiction to you, to do that which I forbid you. I only desire reform so far as I am able, to the best of my power. And my guidance cannot come except from Allah, in Him I trust and unto Him I repent.
89. "And O my people! Let not my Shiqaq cause you to suffer the fate similar to that of the people of Nuh (Noah) or of Hud or of Salih (Saleh), and the people of Lout (Lot) are not far off from you!
90. "And ask forgiveness of your Lord and turn unto him in repentance. Verily, my Lord is Most Merciful, Most Loving."


คำแปล R2.
87. พวกเหล่านั้นได้กล่าวว่า “โอ้ ชุอัยบ์! ศาสนาของท่านนั้นบัญชาท่านให้เราละทิ้งสิ่งที่บรรพบุรุษของเราได้เคยนมัสการมาก่อนกระนั้นหรือ ? หรือให้เรากระทำกับทรัพย์สมบัติของเราตามแต่ท่านปรารถนา ความจริงท่านนั้นก็เป็นผู้รอบคอบ อีกทั้งชาญฉลาด (ไม่ใช่เล่น ที่คิดทำเช่นนั้นกับเรา และหาวิธีแสวงหาประโยชน์เข้าตัวแบบนั้น”
88. เขากล่าวว่า “โอ้กลุ่มชนของฉัน! พวกท่านสังเกตบ้างไหม ? (จงบอกฉันเถิด) หากว่าฉันตั้งมั่นบนหลักฐานอันชัดแจ้งจากองค์อภิบาลของฉัน และพระองค์ได้ประทานโชคผลอันดีงามแก่ฉัน และฉันไม่ปรารถนาที่จะกระทำความแตกต่างกับพวกท่าน (โดยกลับไป)สู่(การกระทำ)สิ่งที่ฉันห้ามปรามพวกท่านไว้ ฉันมิปรารถนา(สิ่งใดเลย) นอกจากการปรับปรุงให้ดีขึ้นเท่าที่ฉันสามารถ และไม่ใช่สัมฤทธิ์ผลของฉัน นอกจากเป็นไปโดยอัลเลาะฮฺ ฉันขอมอบหมายต่อพระองค์ และฉันขอคืนกลับไปสู่พระองค์”
89. “โอ้ กลุ่มชนของฉัน! จงอย่าให้การแตกแยกกับฉันเป็นเหตุให้พวกท่านต้องรับผล ประสบเหตุร้ายแก่พวกท่านเหมือนกับสิ่งที่เคยประสบแก่กลุ่มชนของนูห์หรือกลุ่มชนของฮูด หรือกลุ่มชนของซอลิห์และกลุ่มชนของลู๊ฏ ก็มิได้ห่างไกลจากพวกท่านเลย”
90. “และท่านทั้งหลายจงขออภัยต่อองค์อภิบาลของพวกท่านเถิด หลังจากนั้นพวกท่านจงขอสารภาพผิดต่อพระองค์ แท้จริงองค์อภิบาลของฉันนั้น เป็นผู้ทรงเมตตายิ่ง อีกทั้งทรงอาลัยยิ่ง


คำแปล R3.
87. พวกเขาตอบว่า “ชุอัยบฺเอ๋ย การสวดวิงวอนของท่านสอนเราว่าให้ละทิ้งสิ่งเคารพบูชาที่บรรพบุรุษของเราสักการะกราบไหว้กันมา หรือว่าเราไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินของเราที่จะใช้มันไปอย่างไรก็ได้ตามใจที่เราปรารถนา? ท่านน่ะเป็นเพียงคนเดียวที่มีความกรุณาโอบอ้อมและเที่ยงธรรม (ที่หลงเหลืออยู่ในแผ่นดิน)
88. ชุอัยบฺกล่าวว่า “หมู่ชนของฉันเอ๋ย พวกท่านลองพิจารณาดูกันเองเถิดว่า ถ้าหากฉันมีหลักฐานอันแจ้งชัดจากพระผู้อภิบาลของฉันและได้รับปัจจัยยังชีพที่ดีจากพระองค์แล้ว(ฉันจะเป็นฝ่ายความชั่วและการปฏิบัติที่ไมถูกต้องของพวกท่านได้อย่างไร?) และฉันไม่ต้องการที่จะทำสิ่งชั่วร้ายที่ฉันได้ห้ามพวกท่านไว้ ฉันแค่เพียงต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงพวกท่านให้ดีขึ้นเท่าที่ฉันมีความสามารถเท่านั้น และงานของฉันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความช่วยเหลือของอัลลอฮฺทั้งหมด และพระองค์เท่านั้นที่ฉันไว้วางใจและพระองค์เท่านั้นที่ฉันจะหันไปหาในทุก ๆ เรื่อง
89. หมู่ชนของฉันเอ๋ย จงอย่าให้ความดื้อรั้รของพวกท่านที่มีต่อฉันต้องนำพวกท่านไปสู่ความพินาศที่เคยเกิดขึ้นกับหมู่ชนของนูฮฺ ฮูด และซอลิฮฺเลย และหมู่ชนของลูฏก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากพวกท่าน
90. จงขออภัยโทษต่อพระผู้อภิบาลของพวกท่านและจงหันกลับไปยังพระองค์เพื่อการยกโทษ แท้จริงพระผู้อภิบาลของฉันเป็นผู้ทรงเมตตาและทรงรกและปรานีสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างมา


คำแปล R4.
87. พวกเขากล่าวว่า โอ้ชุอัยบ์เอ๋ย  การละหมาดของท่านสั่งสอนท่านว่า ให้พวกเราละทิ้งสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเคารพบูชา หรือว่าให้เรากระทำต่อทรัพย์สินของเราตามที่เราต้องการกระนั้นหรือ ? แท้จริงท่านนั้นเป็นผู้อดทนขันติ เป็นผู้มีสติปัญญา
88. เขากล่าวว่า โอ้กลุ่มชนชนของฉันเอ๋ย พวกท่านมิเห็นดอกหรือ หากฉันมีหลักฐานอันชัดแจ้งจากพระเจ้าของฉัน และพระองค์ได้ประทานริซกีแก่ฉัน ซึ่งเป็นริซกีที่ดีจากพระองค์และฉันมิปรารถนาที่จะขัดแย้งกับพวกท่าน ในสิ่งที่ฉันได้ห้ามพวกท่านให้ละเว้น ฉันมิปรารถนาสิ่งใดนอกจากการปฏิรูปให้ดีขึ้นเท่าที่ฉันสามารถ และความสำเร็จของฉันจะไม่เกิดขึ้น เว้นแต่ด้วยความช่วยเหลือของอัลลอฮฺ แด่พระองค์ฉันขอมอบหมายและยังพระองค์เท่านั้นฉันกลับไปหา
89. และโอ้กลุ่มชนของฉัน อย่าให้การแตกแยกของฉันทำให้พวกท่านกระทำผิด ซึ่งจะประสบแก่พวกท่านเช่นที่ได้ประสบแก่กลุ่มชนของนูห์หรือกลุ่มชนของฮูด หรือกลุ่มชนของศอและฮฺ และกลุ่มชนของลูฏมิได้อยู่ห่างไกลจากพวกท่าน
90. และพวกท่านจงขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกท่าน แล้วจงกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์แท้จริงพระเจ้าของฉันนั้นเป็นผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงรักใคร่


คำแปล R5.
๘๗. พวกนั้นเอ่ยถามเป็นเชิงเยาะเย้ยพระศาสดาชุไอบ์ว่า โอ้ชุไอบ์ ศาสนาของท่านบังคับท่านให้เราเลิกเคารพบูชาเหล่าเทวรูป อย่างที่บรรพบุรุษของพวกเราเคยเคารพบูชากันมาหรือให้เราเลิกปฏิบัติกิจในทรัพย์สินตามที่เรามุ่งประสงค์กระนั้นหรือ ? ก็ท่านนั้นเป็นผู้มีความสุขุม ไม่เร่งรีบจัดการกับผูมาให้ร้ายแก่ท่าน และเป็นผู้เฉลียวฉลาด
๘๘. เขา(ชุไอบ์) กล่าวว่า โอ้ประชากรของฉัน พวกท่านจงบอกฉันทีซิ หากฉัน(ชุไอบ์) มีหลักฐานแจ้งชัดแล้วจากองค์พระผู้อภิบาลแห่งฉันและพระองค์ทรงให้ฉันได้รับจากพระองค์ซึ่งลาภผลอันบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งที่เป็นบาปแล้วพวกท่านยังจะเอาสิ่งเป็นมลทินไปปะปนกับสิ่งบริสุทธิ์สะอาดอีกหรือ ? ทั้งฉันก็ไม่ต้องการจะกระทำให้ต่างไปจากพวกท่าน และไม่ต้องการกลับคืนไปกระทำในข้อที่ฉันเคยห้ามพวกท่นไว้ ตัวฉันหามีความต้องการใดไม่ นอกจากการส่งเสริมพวกท่านให้ดีขึ้นเท่าที่ฉันจะมีความสามารถเท่านั้น แต่ความสัมฤทธิ์ผลในการส่งเสริมหรืออื่น ๆ  เช่น ในการให้มีความภักดีต่อพระองค์จะมีที่ฉันก็หาไม่นอกจากที่อัลเลาะห์ ต่อัลเลาะห์เท่านั้นที่ฉันมอบหมาย และยังการสอบสวนของพระองค์เท่านั้นที่ฉันจะคืนกลับไป
๘๙. พระศาสดาชุไอบ์กล่าวว่า โอ้ประชากรของฉัน อย่าให้ความขัดแย้งของฉันต่อพวกท่านเป็นผลทำให้โทษทัณฑ์เหมือนที่เคยประสบกับประชากรของนูห์ถูกให้จมน้ำตาย หรือประชากรของฮู๊ดโดยให้ลมพายุพัดทำลายพังพินาศหรือประชากรของซอลิห์โดยให้เกิดมีเสียงกัมปนาทจากยิบรออีลมาประสบกับพวกท่านด้วย โดยที่หมู่บ้านของประชากรลู๊ตก็อยู่ห่างจากพวกท่านไม่ไกลนัก ขอให้พวกท่านลองพิจารณาดูเอาเถิด
๙๐. แล้วพวกท่านจงขอประทานอภัยต่อองค์พระผู้อภิบาลของพวกท่าน โดยมีศรัทธาต่อพระองค์ แล้วก็จงคืนกลับสู่การสอบสวนของพระองค์ โดยการประพฤติตามที่ทรงใช้และงดเว้นจากที่ทรงห้ามอีกด้วย แน่แท้องค์พระผู้อภิบาลแห่งฉันนั้น ทรงเป็นองค์ปรานียิ่งต่อเหล่าศรัทธาชน ทรงเป็นองค์รักใคร่ยิ่งต่อศรัทธาชนเหล่านั้น


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 91 - 93


คำแปล R1.
91. They said: "O Shu'aib! We do not understand much of what you say, and we see you a weak (man, it is said that he was a blind man) among us. Were it not for your family, we should certainly have stoned you and you are not powerful against us."
92. He said: "O my people! Is then my family of more weight with you than Allah? And you have cast him away behind your backs. Verily, my Lord is surrounding all that you do.
93. "And O my people! Act according to your ability and way, and I am acting (on my way). You will come to know who it is on whom descends the torment that will covering him with ignominy, and who is a liar! And watch you! Verily, I too am watching with you."


คำแปล R2.
91. พวกเขากล่าวว่า “โอ้ชุอัยบ์ ! เราไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านพูดเป็นส่วนมาก และแท้จริง (ถึงอย่างไร)เราก็ยังเห็นว่าท่านเป็นผู้อ่อนแอคนหนึ่งในหมู่พวกเราเท่านั้นเอง และหากมิใช่เพราะ(เห็นแก่)วงส์ญาติของท่าน (ที่นับถือศาสนาเดียวกันกับเรา)แล้วไซร้ แน่นอนที่สุด เราย่อมขว้างท่าน (ด้วยหินให้ตาย) เป็นแน่ และท่านหาใช่ผู้ทรงเกียรติสำหรับพวกเราไม่”
92. เขากล่าวว่า “โอ้กล่มชนของฉัน”!” วงศ์ญาติของฉันทรงเกียรติสำหรับพวกท่านยิ่งไปกว่าอัลเลาะฮฺอีกหรือ ? และพวกท่านได้เอาพระองค์ไว้ข้างหลังของพวกท่านอย่างละเลย แท้จริงองค์อภิบาลของฉันทรง(ความรู้)ห้อมล้อมในสิ่งที่พวกท่านประพฤติไว้
93. “และโอ้กลุ่มชนของฉัน! พวกท่านจงปฏิบัติงานไปตามฐานานุรูปของพวกท่านเถิด ส่วนฉันก็เป็นผู้ปฏิบัติงาน(ตามฐานานุรูปของฉัน)ต่อไป พวกท่านจะได้รู้ว่า ผู้ใดบ้างที่การลงโทษอันยังความอัปยศจะมาประสบเขา และผู้ใดบ้างที่มุสา และท่านทั้งหลายจงคอยสังเกตเถิด แท้จริงฉันเองก็คอยสังเกตอยู่พร้อมกับพวกท่านด้วยเหมือนกัน


คำแปล R3.
91. พวกเขาตอบว่า “ชุอัยบฺเอ๋ย เราไม่เข้าใจเหลือเกินในสิ่งที่ท่านพูด แท้จริงแล้วเราก็เห็นว่าท่านไม่มีอำนาจอะไรในหมู่พวกเรา ถ้ามิใช่เพราะครอบครัวของท่าน พวกเราก็อาจจะขว้างท่านด้วยหินจนตายไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะท่านก็ไม่ได้แข็งแรงพอที่จะทำอะไรเราได้”
92. ชุอัยบฺกล่าวว่า “หมู่ชนของฉันเอ๋ย พวกท่านถือว่าครอบครัวของฉันมีอำนาจมากกว่าอัลลอฮฺกระนั้นหรือ (ถึงได้ทำให้ท่านเกรงกลัวครอบครัวฉัน) และไม่ได้คำนึงถึงอัลลอฮฺเลย ? จงรู้ไว้เถิดว่า สิ่งใดที่พวกท่านกำลังทำอยู่นั้น อัลลอฮฺทรงรอบรู้ทั้งสิ้น
93. หมู่ชนของฉันเอ๋ย พวกท่านจะทำอะไรก็ทำไปตามทางของท่าน และฉันก็จะปฏิบัติตามทางของฉัน แล้วพวกท่านจะรู้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ใครที่จะได้รับการลงโทษอย่างอัปยศอดสูและใครเป็นผู้โกหก คอยดูก็แล้วกันถ้าพวกท่านต้องการ และฉันก็จะคอยดูอยู่ด้วยเช่นกัน”


คำแปล R4.
91. พวกเขากล่าวว่า โอ้ ชุอัยบ์เอ๋ย เราไม่เข้าใจส่วนมากที่ท่านกล่าว และแท้จริงเราเห็นว่าท่านเป็นคนอ่อนแอในหมู่พวกเรา ถ้ามิใช่เพราะครอบครัวของท่านแล้ว เราจะเอาหินขว้างท่าน และท่านก็มิได้เป็นผู้มีเกียรติเหนือพวกเรา
92. เขากล่าวว่า โอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย ครอบครัวของฉันเป็นที่นับถือแก่พวกท่านมากยิ่งกว่าอัลลอฮฺกระนั้นหรือ และพวกท่านได้เอาพระองค์ไว้เบื้องหลังพวกท่าน แท้จริงพระเจ้าของฉันทรงรอบรู้สิ่งที่พวกท่านกระทำ
93. และโอ้กลุ่มชนของฉันเอ๋ย พวกท่านจงกระทำตามแนวทางของพวกท่าน ฉันก็จะกระทำ(ตามแนวทางของฉัน) แล้วพวกท่านก็จะรู้ว่าผู้ใดที่การลงโทษจะประสบแก่เขา จะทำให้เขาอดสูและผู้ใดที่เขาเป็นคนโกหก และพวกท่านจงคอยเฝ้าดูเถิด แท้จริงฉันก็ร่วมกับพวกท่านคอยเฝ้าดูอยู่ด้วย


คำแปล R5.
๙๑. พวกเหล่านั้นที่เป็นประชากรของชุไอบ์กล่าวอย่างไม่ใยดีต่อคำสอนของชุไอบ์ว่า โอ้ ชุไอบ์ เราไม่เข้าใจเกือบทั้งสิ้นในถ้อยคำที่ท่านพูดอยู่ กับทั้งเราเห็นแล้วว่าท่านนั้นเป็นผู้ต่ำต้อยในหมู่เราจริง ๆ หากว่าท่านมีตัวคนเดียวปราศจากพวกพ้องแล้วไซร้ เราจะขว้างท่านด้วยก้อนหินอย่างแน่นอน ท่านเองก็มิได้มีเกียรติยิ่งใหญ่ไปกว่าเรา พอที่จะทำให้ท่านพ้นจากการถูกขว้างเลย
๙๒. เขา(ชุไอบ์) ถามว่า โอ้ประชากรของฉัน พวกพ้องของฉันนั้นจะมีเกียรติสำหรับพวกท่านยิ่งกว่าอัลเลาะห์หรือ ? ถึงกับทำให้พวกท่านยอมงดฆ่าตัวฉันเพื่อเห็นแก่พวกพ้องของฉัน และพวกท่านมิได้อารักขาตัวฉันไว้เพื่ออัลเลาะห์เลยหรือ ? แล้วพวกท่านก็ปัดพระองค์ไปไว้ข้างหลังพวกท่านเองอย่างไม่ใยดี แน่แท้ความรอบรู้ขององค์พระผู้อภิบาลของฉันทรงแวดล้อมพฤติการณ์นี้อันพวกท่านกระทำขึ้นอยู่แล้ว พระองค์จะตอบสนองผลแห่งพฤติการณ์นั้นแก่พวกท่าน
๙๓. และพระศาสดาชุไอบ์ก็กล่าวขึ้นว่า โอ้ประชากรของฉัน พวกท่านจงปฏิบัติการของพวกท่านไปเถิดตามประสาพวกท่าน ส่วนฉันก็จะปฏิบัติไปตามประสาของฉัน อีกไม่ช้าหรอกพวกท่านจะรู้ว่าผู้ใดจะได้รับโทษให้เลวลง และผู้ใดเป็นผู้พูดเท็จแล้วจงคอยจับจ้องดูเสียด้วยถึงผลในขั้นสุดท้ายที่พวกท่านจะได้รับ ฝ่ายฉันนั้นเล่าจะคอยจับจ้องดูผลสุดท้ายของพวกท่านร่วมกับพวกท่านด้วย


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 94 - 95


คำแปล R1.
94. And when our Commandment came, we saved Shu'aib and those who believed with him by a Mercy from us. And As-Saihah (torment - awful cry, etc.) seized the wrong-doers, and they lay (dead) prostrate in their homes.
95. As if they had never lived there! So away with Madyan (Midian)! As away with Thamud! (All these nations were destroyed).


คำแปล R2.
94. และเมื่อการงาน(ลงโทษ)ของเราได้มาปรากฏ(แก่พวกเขา) เราก็ให้ความปลอดภัยแก่ชุอัยบ์ และบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขา(ทั้งหมด) โดยความเมตตาจากเรา และสัยงกัมปนาทได้เอา(ชีวิตของ)บรรดาพวกฉ้อฉลทั้งหลาย ดังนั้นพวกเขาจึงฟุบลงสิ้นใจในบ้านเรือนของพวกเขาเอง
95. ประหนึ่งพวกเขามิได้อยู่ในนั้นมาก่อนเลย พึงสังวร! ความหายนะได้ประสบแก่ชาวมัดยันแล้ว เหมือนเช่นที่ได้ประสบแก่ชาวสะมู๊ด


คำแปล R3.
94. และเมื่อคำบัญชาของเราได้มาถึงเราได้ช่วยชุอัยบฺและบรรดาผู้ศรัทธาที่อยู่กับเขาให้รอดพ้นด้วยความเมตตาจากเรา ส่วนบรรดาผู้อธรรมนั้น พวกเขาต้องตกตะลึงด้วยเสียงกัมปนาทที่ทำลายพวกเขา และพวกเขาต้องนอนคว่ำหน้าตายอยู่ภายในบ้านของพวกเขา
95. ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยเจริญรุ่งเรืองอยู่ที่นี่มาก่อน จงฟังไว้หมู่ชนมัดยันได้ถูกขจัดสิ้นไปเหมือนดังกับพวกษะมูด


คำแปล R4.
94. และเมื่อพระบัญชาของเราได้มาถึง เราได้ช่วยชุอัยบ์และบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขาให้รอดพ้น ด้วยความเมตตาจากเรา และเสียงกัมปนาทได้คร่าบรรดาผู้อธรรม แล้วพวกเขาได้กลายเป็นผู้นอนพังพาบตายในบ้านของพวกเขา
95. ประหนึ่งว่าพวกเขามิได้เคยอยู่ในนั้นมาก่อน พึงทราบเถิด! จงห่างไกลจากความเมตตาเถิดสำหรับมัดยัน เช่นเดียวกับที่ษะมูดได้ห่างไกลมาแล้ว


คำแปล R5.
๙๔. และเมื่อพระบัญชาการลงโทษจากเรา(อัลเลาะห์)ให้เกิดความหายนะแก่ชนชาวมัดยันมีมา เรา(อัลเลาะห์) ก็ให้ชุไอบ์และบรรดาผู้ศรัทธาร่วมกับเขา(ชุไอบ์) พ้นภัยจากการถูกลงทัณฑ์นั้น นับเป็นความปรานีจากเรา แล้วมีเสียงกัมปนาทจากยิบรออีลแผดเสียงตวาดลงมาทำลายบรรดา(ชาวมัดยัน) ผู้คดโกงในยามเช้าตรู่ พวกเหล่านั้นจึงฟุบลงขาดใจตายกันหมดสิ้นภายในหมู่บ้านของพวกตน
๙๕. ประหนึ่งพวกเหล่านั้นมิเคยได้อยู่อาศัยกันที่บ้านเมืองของพวกนั้น ระวัง วิบัติคือความตาย ย่อมมีขึ้นแก่ชาวมัดยันเหมือนดั่งพวกซะมู๊ดเคยได้วิบัติมาแล้ว


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 96 - 100


คำแปล R1.
96. And indeed we sent Musa (Moses) with our Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.) and a manifest authority;
97. To Fir'aun (Pharaoh) and his chiefs, but they followed the command of Fir'aun (Pharaoh), and the command of Fir'aun (Pharaoh) was no Right guide.
98. He will go ahead of his people on the Day of Resurrection, and will lead them into the Fire, and evil indeed is the place to which they are led.
99. They were pursued by a curse in this (deceiving life of this world) and (so they will be pursued by a curse) on the Day of Resurrection. How bad is the curse (in this world) pursued by another curse (in the Hereafter).
100. These are some of the news of the (population of) Towns which we relate unto you (O Muhammad); of them, some are standing, and some have been (already) reaped.


คำแปล R2.
96. ขอยืนยัน! แท้จริงเราได้ส่งมูซา(มาโดยให้นำพร้อม)ด้วยบรรดาสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของเรา และหลักฐานอันแจ้งชัด
97. สู่ฟิรเอาน์,และชนชั้นผู้นำของเขา แต่แล้วพวกเขาก็ตามคำสั่งของฟิรเอาน์ ทั้ง ๆ ที่คำสั่งของฟิรเอาน์นั้นหาชอบธรรมไม่
98. เขาจะนำหน้าพวกพ้องของเขาในวันชาติหน้า แล้วเขาก็นำพวกนั้นเข้านรก และมัน (นรก) เป็นที่เข้าอันแสนเลวยิ่งนัก
99. และพวกเขาถูกตามติดไปด้วยคำสาปแช่ง ทั้งในโลกนี้และในวันชาติหน้า มัน(คำสาปแช่ง)เป็นสิ่งมอบให้ที่แสนเลวยิ่งนัก
100. (ประวัติของบรรดาศาสดาทั้งหมด)นั้น เป็นเพียงบางส่วนของเรื่องราวแห่งบรรดาเมืองต่าง ๆ ที่เราแถลงแก่เจ้า (มุฮำมัด) บางแห่งของมันก็ยังคงปรากฏ (ซาก)ยืนอยู่ และ(บางแห่งก็สาบสูญเหมือน)นาที่ถูกเก็บเกี่ยว


คำแปล R3.
96. และรได้ส่งมูซาพร้อมกับสัญญาณต่าง ๆ ของเราและอำนาจอันชัดเจนของการแต่งตั้ง
97. ไปยังฟิรฺเอาน์และบรรดาขุนนางแห่งอาณาจักรของเขา แต่พวกเขาปฏิบัติตามคำบัญชาของฟิรฺเอาน์ และคำบัญชาของฟิรฺเอาน์นั้นมิชอบธรรม
98. ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ เขาจะนำหน้าผู้คนของเขาและนำพวกเขาไปสู่นรก ช่างเป็นจุดหมายที่ชั่วช้ายิ่งสำหรับผู้ไปถึงที่นั่น
99. การสาปแช่งจะมีขึ้นแก่พวกเขาทั้งในโลกนี้และในวันแห่งการฟื้นคืนชีพด้วย ช่างเป็นสิ่งตอบแทนที่ชั่วร้ายเหลือเกินสำหรับผู้ที่ได้รับ
100. นี่เป็นเรื่องราวของบางเมืองที่เราได้บอกแก่เจ้า บางเมืองก็ยังคงมีอยู่ ในขณะที่บางเมืองก็ผุพังเสื่อมโทรมจนแทบจะไม่เห็นซากแล้ว


คำแปล R4.
96. และโดยแน่นอนเราได้ส่งมูซา พร้อมด้วยสัญญาณต่าง ๆ ของเราและหลักฐานอันชัดแจ้ง
97. ยังฟิรเอาน์ และบรรดาบุคคลชั้นนำของเขา พวกเขาได้ปฏิบัติตามคำสั่งของฟิรเอาน์ และคำสั่งของฟิรเอาน์ นั้นไม่เหมาะสม
98. เขาจะนำหน้ากลุ่มชนของเขาในวันกิยามะฮฺ และนำพวกเขาลงในไฟนรก และมันเป็นทางลงที่ชั่วช้าที่พวกเขาได้ลงไป
99. และพวกเขาถูกติดตามด้วยการถูกสาปแช่งในโลกนี้และวันกิยามะฮฺ มันเป็นความช่วยเหลือที่ชั่วช้าที่พวกเขาได้รับความช่วยเหลือ
100. นั่นคือส่วนหนึ่งจากเรื่องราวของเมืองต่างๆ เราได้บอกเล่ามันแกเจ้า ส่วนหนึ่งของมันยังคงอยู่ และส่วนหนึ่งก็เสื่อมโทรมไปแล้ว


คำแปล R5.
๙๖. และเรา (อัลเลาะห์) ให้สัจปฏิญาณว่า ความจริงเราก็แต่งตั้งมูซาเป็นพระศาสนทูตพร้อมมีสัญญาณจากเรา(อัลเลาะห์)เก้าอย่าง (แปดอย่างมีกล่าวอยูในบทอัลอะอ์ร๊อฟ อีกอย่างหนึ่งอยู่ในบทยูนุส) และพร้อมมีหลักฐานแจ้งชัดไปแล้ว
๙๗. ยังฟิรเอาน์และคณะผู้เป็นขุนนางของมัน แล้วพวกขุนนางเหล่านั้นที่จงรักภักดี ก็เจริญตามการบัญชาการของฟิรเอาน์ แต่บัญชาการของฟิรเอาน์ผิดทำนองคลองธรรม
๙๘. ในวันกิยามะห์ มัน(ฟิรเอาน์) จะนำหน้าปวงชนของมันไป และพวกเหล่านั้นก็ติดตามฟิรเอาน์เหมือนกับที่เคยได้เจริญตามกันมาแล้วในภาคภพดุนยา แล้วมันก็ได้พาพวกปวงชนเหล่านั้นไปเข้านรก มันเป็นขุมนรกที่เลวแสนเลวจริง ๆ
๙๙. ทั้งในภาคภพนี้และในวันกิยามะห์ พวกมัดยันเหล่านั้นถูกเหล่ามลาอิกะห์ตามสาปแช่ง มันเป็นการแช่งซ้ำซ้อนที่เลวยิ่งนัก
๑๐๐. ประวัติที่กล่าวผ่านมาในบทนี้ (ฮู๊ด) เป็นประวัติของนูห์ ฮู๊ด ซอลิห์ อิบรอฮีม ลู๊ต ชุไอบ์ และมูซา ทั้ง ๗ ท่านนี้เป็นส่วนหนึ่งแห่งเรื่องราวของแคว้นต่าง ๆ ซี่งเรา(อัลเลาะห์) เล่าให้เจ้าฟัง โอ้มุฮำมัด แว่นแคว้นเหล่านั้น บางแห่งยังมีซากปรักหักพังเหลืออยู่ก็มี และบางแห่งที่สาบสูญไปแล้ว เหมือนพืชที่ถูกเก็บเกี่ยวจนเกลี้ยงราบแผ่นดิน ก็มี


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 101 - 103


คำแปล R1.
101. We wronged them not, but they wronged themselves. So their Aliha (gods), other than Allah, whom they invoked, profited them naught when there came the command of your Lord, nor did they add aught (to their lot) but destruction.
102. Such is the seizure of your Lord when He seizes the (population of) towns while they are doing wrong. Verily, his seizure is painful, and severe .
103. Indeed in that (there) is a sure lesson for those who fear the torment of the Hereafter. That is a Day whereon mankind will be gathered together, and that is a Day when all (the dwellers of the heavens and the earth) will be present.


คำแปล R2.
101. และเรามิได้อธรรมต่อพวกเขา และแต่ทว่าพวกเขาได้อธรรมแก่ตัวของพวกเขาเอง แล้วบรรดาพระเจ้าของพวกเขาซึ่งพวกเขาวอนขออยู่นอกเหนือจากอัลเลาะฮฺก็ไม่อาจป้องกันพวกเขาได้เลยสักแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม เมื่อการงาน(ลงโทษ)ขององค์อภิบาลของเจ้าได้มาปรากฏและพวก(พระเจ้าจอมปลอม)เหล่านั้นก็หาได้เพิ่มพูนสิ่งใดไม่นอกจากความพินาศเท่านั้น
102. และเช่นนั้น! คือการลงโทษขององค์อภิบาลแห่งเจ้า เมื่อพระองค์ทรงลงโทษบรรดา(ชาว)เมืองต่าง ๆ เพราะชาวเมืองนั้นเป็นผู้ฉ้อฉล แท้จริงการลงโทษของพระองค์นั้นย่อมสาหัสอีกทั้งรุนแรงยิ่งนัก
103. แท้จริงในนั้นเป็นสัญลักษณ์(เตือนใจ)แก่บุคคลที่หวั่นกลัวการลงโทษในโลกหน้า วันนั้นเป็นวันที่มนุษย์ถูกรวมและวันนั้นเป็นวันที่ถูกเป็นพยาน(โดยทุก ๆ คนที่ปรากฏตัวรวมกัน)


คำแปล R3.
101. เรามิได้อธรรมต่อพวกเขา แต่พวกเขาต่างหากที่อธรรมต่อตัวของพวกเขากันเอง และเมื่อการตัดสินของพระผู้อภิบาลของเจ้าได้มาถึง บรรดาเทวรูปของพวกเขาที่พวกเขาเคารพบูชาแทนอัลลอฮฺนั้นก็ไม่อาจจะช่วยอะไรพวกเขาได้ พวกมันมีแต่จะเร่งความหายนะให้เร็วและหนักขึ้นเท่านั้น
102. และเมื่อพระผู้อภิบาลของเจ้าจะเอาโทษบ้านเมืองของคนบาป พระองค์จะทำเช่นนี้ แท้จริงการเอาโทษของพระองค์นั้นน่ากลัวและเจ็บปวดมาก
103. ความจริงแล้วในนั้นมีสัญญาณสำหรับผู้กลัวการลงโทษในวันโลกหน้า นั่นคือวันที่มนุษย์จะถูกรวมเข้าด้วยกันและจะเป็นพยานต่อทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่นั่น


คำแปล R4.
101. และเรามิได้อธรรมต่อพวกเขา แต่ว่าพวกเขาอธรรมต่อตัวของพวกเขาเอง และบรรดาพระเจ้าของพวกเขาที่พวกเขาวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮฺนั้น จะไม่อำนวยประโยชน์อันใดให้แก่พวกเขาเลย เมื่อพระบัญชาของพระเจ้าของท่านได้มาถึงและพระเจ้าเหล่านั้นมิได้เพิ่มอันใดแก่พวกเขา นอกจากความพินาศ
102. และเช่นนี้แหละคือการลงโทษของพระเจ้า เมื่อพระองค์ทรงลงโทษหมู่บ้านซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อธรรม แท้จริงการลงโทษของพระองค์นั้นเจ็บแสบสาหัส
103. แท้จริง ในการนั้นเป็นสัญญาณสำหรับผู้ที่กลัวการลงโทษในวันอาคิเราะฮฺ นั่นคือวันแห่งการรวบรวมปวงมนุษย์สำหรับพระองค์ และนั่นคือวันแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมพรรค


คำแปล R5.
๑๐๑. ด้วยเหตุที่ชาวชนแห่งแว่นแคว้นนั้นต้องถูกทำลายล้างให้สูญสิ้นไปเพราะการถือภาคีนี้ ใช่ว่าเรา(อัลเลาะห์) จะอยุติธรรมต่อพวกเหล่านั้นก็หาไม่ พวกเหล่านั้นต่างหากที่ไร้ยุติธรรมแก่ตนเองที่ไปถือภาคี แล้วในเมื่อบัญชาการลงโทษจากองค์พระผู้อภิบาลของเจ้ามีมา เหล่าเทวรูปที่พวกนั้นบูชาแทนที่จะเคารพบูชาอัลเลาะห์ จะคุ้มครองพวกตนให้พ้นจากการลงโทษทัณฑ์ของพระองค์ได้แม้สักนิดก็หาไม่ และมัน(เทวรูป) เหล่านี้ก็หาได้ทับทวีอันใดให้แก่พวกเหล่านั้นที่กราบเคารพมันได้ไม่ นอกจากความขาดทุนเท่านั้นเอง
๑๐๒. โทษทัณฑ์อย่างนั้นแหละ ที่องค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้าจะลงโทษ เมื่อพระองค์จะทรงลงโทษชาวชนในแว่นแคว้นใด โดยที่ชาวแว่นแคว้นนั้นก่อกรรมทำเข็ญขึ้น ก็ไม่มีสิ่งใดจะสามารถระงับโทษนั้นให้พ้นจากพวกนั้นได้ แท้จริงการเอาโทษจากพระองค์นั้นเจ็บปวดยิ่งนัก
๑๐๓. แท้จริงในการเล่าประวัติพระศาสดาทั้งเจ็ดที่กล่าวข้างต้นนั้นย่อมเป็นอุดมคติสำหรับผู้ที่เกรงกลัวโทษทัณฑ์แห่งวันปรภพ นั่นคือวันที่มวลมนุษย์ถูกเรียกรวมและนั่นคือวันที่เหล่ามนุษย์ตลอดทั้งชาวฟ้าและชาวแผ่นดินต่างเป็นพยานกัน


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ฮูด อายะฮฺที่ 104 - 107


คำแปล R1.
104. And we delay it only for a term (already) fixed.
105. On the Day when it comes, no person shall speak except by his (Allah's) Leave. Some among them will be wretched and (others) blessed.
106. As for those who are wretched, they will be In the Fire, sighing in a high and low tone.
107. They will dwell therein for all the time that the heavens and the earth endure, except as your Lord wills. Verily, your Lord is the doer of what He wills.


คำแปล R2.
104. และเราจะไม่ประวิงมัน(วะนกิยามะฮฺ)ไว้ นอกจากเพื่อ(รอ)วาระที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
105. เป็นวันที่จะอุบัติขึ้น ชีวิตต่าง ๆ จะพูดไม่ได้ นอกจากโดยอนุมัติของพระองค์ ซึ่งบางคนจากพวกเขาเป็นผู้ไร้วาสนาและ(บางคนก็)เป็นผู้มีวาสนา
106. กล่าวคือบรรดาผู้ไร้วาสนาพวกเขาย่อมอยู่ในนรก ซึ่งขณะพวกเขาอยู่ในนั้นจะมีแต่เสียงครางและเสียงสะอื้น
107. พวกเขาอยู่ในนั้นโดยนิรันดร ตราบเท่าฟ้าและแผ่นดินคงอยู่ นอกจากที่องค์อภิบาลของเจ้าทรงประสงค์ แท้จริงองค์อภิบาลของเจ้านั้น ทรงกระทำไปตามที่พระองค์ทรงประสงค์เท่านั้น


คำแปล R3.
104. และเราได้ยืดเวลามันออกไปเพียงแค่ระยะเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น
105. เมื่อวันนั้นมาถึง จะไม่มีใครกล้าพูดอะไร ยกเว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงอนุญาตเท่านั้น แล้วบางคนก็จะมรทุกข์ในขณะที่บางคนจะมีความสุข
106. บรรดาผู้มีทุก๘นั้นจะอยู่ในไฟนรก ซึ่งในที่นี้พวกเขาจะหอบและถอนหายใจ
107. พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตราบนานที่ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินยังคงดำรงอยู่ เว้นเสียแต่ว่าพระองค์จะทรงประสงค์เป็นอย่างอื่น แท้จริง พระผู้อภิบาลของเจ้ามีอำนาจเต็มที่ที่จะทำในสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา

 
คำแปล R4.
104. และเรามิได้หน่วงมัน เว้นแต่เพื่อวาระที่ถูกกำหนดไว้
105. วันที่เมื่อมันมาถึงไม่มีชีวิตใดจะพูดได้เว้นแต่โดยอนุมัติของพระองค์ ดังนั้น ในหมู่พวกเขาจะมีผู้เป็นทุกข์และผู้เป็นสุข
106. ดังนั้น สำหรับบรรดาผู้ที่มีทุกข์ก็จะอยู่ในนรก สำหรับพวกเขาที่อยู่ในนั้นคือ การถอนหายใจและการสะอื้น
107. พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล ตราบเท่าที่ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินยืนยง เว้นแต่ที่พระเจ้าของเจ้าทรงประสงค์ แท้จริงพระเจ้าของเจ้าเป็นผู้กระทำโดยเด็ดขาดตามที่พระองค์ทรงประสงค์


คำแปล R5.
๑๐๔. ทั้งเรา(อัลเลาะห์) จะไม่หน่วงมัน(วันกิยามะห์) ไว้ให้ช้ากาลเลย นอกจากจะเป็นไปตามวาระอันแน่นอน ภายใต้การตัดสินแห่งอัลเลาะห์
๑๐๕. วัน(กิยามะห์) นั้นจะมีขึ้น แต่ละชีวิตไม่อาจพูดจาโต้ตอบกัน หรือร้องขอเอาคุณประโยชน์และแคล้วภัยพิบัติได้ นอกจากโดยพระอนุญาตแห่งพระองค์เท่านั้น จากหมู่ชนผู้เป็นข้าแห่งพระองค์นั้น ที่เป็นทรชนตายลงในสภาพที่เป็นกาฟิรก็มีและเป็นสาธุชนตายในสภาพเป็นมุสลิมก็มี ทั้งนี้โดยมีบันทึกมาแล้วแต่บรรพกาล
๑๐๖. อันว่าบรรดาผู้เป็นทรชน(กาฟิร) นั้นตกอยู่ในขุมนรก ที่ซึ่งในนั้นมีทั้งเสียงแผดลั่น และเสียงแผ่วเบาสำหรับพวกนั้นด้วย
๑๐๗. โดยพวกเหล่านั้นยืนยงถาวรอยู่ในแห่งนั้นชั่วฟ้าและแผ่นดิน เว้นแต่ที่พระผู้อภิบาลแห่งเจ้าทรงมุ่งประสงค์ให้นานชั่วกาลนิรันดรเท่านั้น แท้จริงองค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้า ทรงเป็นองค์ยิ่งในการปฏิบัติการตามที่ทรงมุ่งหมาย


 

GoogleTagged