อยากมีญามาอะฮฺบ้างจังเลยคะ ...
รังเกียจตัวเองเช่นกันที่ละศีลอดลำพัง
รังเกียจตัวเองเช่นกันที่ละหมาดเพียงลำพัง
อินชาอัลลอฮฺ อินชาอัลลอฮฺ อินชาอัลลอฮฺ ^^
พ่ีรอมาเป็นเวลาเกือบหกปี...
คือ ต้องถือศีลอดท่ามกลางคนที่ไม่ถือศีลอดเลย
ละศีลอดเพียงลำพัง กินข้าวคนเดียวเป็นอาจิณ
ไปละหมาดออกอีดคนเดียว ได้เจอเพื่อนร่วมศาสนาที่ไม่เคยรู้จัก
ที่มัสยิดในต่างแดน แม้พูดกันไม่ค่อยเข้าใจ...แต่เราก็ยิ้มให้กันและกัน
แทนคำพูดมากมาย...แล้วก็เดินทางกลับที่พักคนเดียว...
เป็นเช่นนี้อยู่เกือบหกปี...
ทุกครั้งที่กินข้าวคนเดียว...ไปไหนมาไหนคนเดียว
ก็จะพร่ำบอกกับตัวเองว่ารังเกียจสภาพนั้น
เพียงแต่ต้องซอบัรฺ...และขอดุอาต่ออัลลอฮฺว่าอย่าให้ตัวเอง
ตกอยู่ในสภาพแบบนั้นอีก...
วันเหล่านั้น...สอนให้เข้าใจว่า...พ่อแม่พี่น้องและญาติๆมีความสำคัญ
แค่ไหนต่อชีวิตน้อยๆของเรา...
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...
ทุกวันนี้ได้กลับมากินข้าวล้อมวงกับคนอื่นตามคำขอ
แต่ขอสารภาพว่าสิ่งที่สูญเสียไปคือ เงินเดือนสูงๆ...
กับการไม่ได้ทำงานที่รักและถนัด...
พี่จึงค้นพบว่า...เงินไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
และไม่ใช่ทั้งหมดของความสุข...
ความสุขของมุมินอ์นั้นหอมหวานเมื่อได้เข้้าใกล้กับอัลลอฮฺ...
ไม่ว่าจะเข้าใกล้ด้วยอิบาดะห์ใดเราก็จะได้สัมผัสกับ
ความสุขนั้น
...ไม่ว่าจะเงินหรืองานที่รักก็ไม่อาจเทียบได้...
เลยได้ค้นพบอีกอย่างว่า...ถ้าเราไม่สูญเสียสิ่งหนึ่ง เราก็จะไม่ค้นพบอีกสิ่งหนึ่ง
ซึ่งอาจดีกว่าสิ่งที่สูญเสียไปด้วยซ้ำ...
พี่จึงไม่ฟูมฟาย ตีอกชกหัวตัวเองหรือโทษโน่นโทษนี่เมื่อต้องพบกับ
บททดสอบอย่างแต่ก่อนนัก...
เพราะว่า...นั่นทำให้เราได้เข้าใกล้ความสุขล้ำขึ้นเรื่อยๆ
ความสำเร็จของคนเราอยู่ที่ใดนั้น...เราต้องค้นหาและแสวงหาให้เจอ
เพื่อจะได้ไม่ปล่อยให้ตัวเองหลงไปโดยไม่รู้ตัว...
^^