เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

สอบถามเกี่ยวกับฮาดิษที่วะฮาบีย์ชอบยกครับ

(1/2) > >>

al-ashairoh:
Tweet
ขอถามผู้รู้ในนี้ทุกๆท่านเรยครับ คือว่า ผมได้ตอบโต้กลุ่มวะฮาบีย์ในฮาดิษที่เกี่ยวกับทาสหญิงที่ว่า การกระทำของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เช่นการที่ท่านชี้นิ้วขึ้นไปยังฟากฟ้าขณะที่ท่านคุฏบะฮฺกับผู้คนจำนวนมาก แร้วนบีพูดว่า อัลลอฮฺฟิซซามาอฺ ดังกล่าวนั้นคือ วันอะรอฟะฮฺ ปีหัจญ์วะดาอฺ (หัจญ์อำลา) ฮาดิษนี้นักศึกษาไทยที่มาดีนะห์สายอิหม่ามชาฟีอีย์เราซึ่งเป็นคนมีความรู้คนนึงเรยครับเขาได้บอกผมมาครับว่าเป้นฮาดิษอาฮ๊าด แต่พอผมไปบอกพวกวะฮาบีย์มันบอกว่าถึงจาอาฮ๊าดแต่มีฮาดิษของทาสหญิงที่สายรายงานมุตาวาติร รองรับอยู่ด้วย ผมก้อ งง ครับว่าจริงหรอ ตกลงมันมีสายรายงานที่มุตาวาติรจิงหรอครับ แร้วฮาดิษที่ว่าประชาชาติของฉันจะแตกเป็น 73 จำพวกอ่ะครับ ที่เป็นฮาดิษหากินของพวกวะฮาบีย์ ผมได้ยินมาว่า มันเป็นฮาดิษฎออีฟ จริงหรอครับ เรยอยากรู้สายรายงานที่ไปที่มาหน่อยอ่ะครับ ขอบคุณผู้รู้ในนี้ด้วยนะครับ

Al Fatoni:
เกี่ยวกับหะดีษจารียะฮ์นั้น เท่าที่ผมเคยอ่านบทความที่ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยอุละมาอ์ฝ่ายอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์นั้น ก็สรุปในเบื้องต้นได้ว่า

         (๑) สายรายงาน (สะนัด) ของหะดีษบทนี้อยู่ในสถานะ "เศาะหี้หฺ" (ถูกต้อง หรือเชื่อถือได้)
         (๒) ตัวบท (มะตัน) ของหะดีษบทนี้กลับถูกตัดสินให้อยู่ในประเภท "ซฺอนน์" หมายถึง เกิดจากการคาดเดาเหตุการณ์ของตัวผู้รายงานหะดีษบทนี้เอง นั่นคือ ท่านมุอาวียะฮ์ บิน อัลหะกัม
         (๓) ผู้รายงานหะดีษบทนี้ นั่นคือ ท่านมุอาวียะฮ์ บิน อัลหะกัม ณ ตอนที่ท่านรายงานหะดีษบทนี้นั้น เป็นที่ทราบว่าท่านยังไม่มีความลึกซึ้งในความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอิสลามดีพอ เนื่องจากท่านเพิ่งเข้าอิสลาม ซึ่งสังเกตได้จากการที่ท่านกล่าวรับคำจามในขณะละหมาด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์การสนทนาระหว่างท่านนบีย์ ศ็อลฯ กับทาสหญิงเล็กน้อย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นพื้นฐานที่ทุกคนจะทราบดีอยู่แล้ว แต่ท่านกลับไม่ทราบ
         (๔) หะดีษจารียะฮ์นี้ถูกรายงานมาหลายกระแส ซึ่งทุกกระแสต่างก็เศาะหี้หฺทั้งหมด จุดที่น่าสังเกตก็คือ ช่วงท้ายของหะดีษนี้ที่ได้รายงานถึงบทสนทนาระหว่างท่านนบีย์ ศ็อลฯ กับทาสหญิง (จารียะฮ์) แต่ทว่าลักษณะของการสนทนาตามที่ปรากฏในแต่ละกระแสนั้นมีความแตกต่างกัน เช่น กระแสหนึ่งระบุว่าทั้งสองสนทนากันโดยใช้คำพูด ส่วนอีกกระแสหนึ่งรายงานว่า ท่านนบีย์ ศ็อลฯ ใช้สัญญาณมือแทนการสนทนา ส่วนฝ่ายทาสหญิงกลับใช้คำพูดในการสนทนา แต่อีกกระแสหนึ่งกลับรายงานตรงกันข้ามกันนี้ กล่าวคือ ท่านนบีย์ ศ็อลฯ ใช้คำพูดในการสนทนา ในขณะที่ทาสหญิงใช้สัญญาณมือแทนคำพูด ดังกล่าวนี้ ทำให้นักวิชาการหะดีษหลายท่านมีความเห็นว่า จำเป็นที่จะต้องเอาหะดีษทุกกระแสที่รายงานแตกต่างกันนั้นมารวมกันเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งข้อสรุปที่ได้ก็คือ
         (๔.๑) ทาสหญิงดังกล่าวนั้น แท้จริงแล้วนางเป็นคนใบ้ ดังนั้น การสนทนาระหว่างท่านนบีย์ ศ็อลฯ กับนางนั้นจะเป็นไปในลักษณะของการใช้สัญญาณมือระหว่างกัน
         (๔.๒) ส่วนสำนวนคำพูดที่พาดพิงต่อท่านนบีย์ ศ็อลฯ และทาสหญิงตามที่ปรากฏในแต่ละกระแสนั้น ไม่ใช่คำพูดที่มาจากทั้งสอง แต่เป็นคำพูดของตัวผู้รายงานหะดีษนี้เอง นั่นคือ ท่านมุอาวียะฮ์ บิน อัลหะกัม ซึ่งเกิดจากการคาดเดาลักษณะการสนทนาระหว่างทั้งสอง จึงเข้าใจไปเองว่า ความหมายของการใช้สัญญาณมือระหว่างทั้งสองนั้นน่าจะหมายถึงอย่างที่ตนเข้าใจ
         (๔.๓) เมื่อเป็นเช่นนี้ หะดีษบทนี้ จึงไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานทางอะกีดะฮ์ได้เลย เพราะเรื่องอะกีดะฮ์นั้นนอกจากจะใช้หลักฐานที่เศาะหี้หฺแล้ว ตัวบทของหะดีษก็จะต้องมีสำนวนที่ชัดเจนและเด็ดขาด ต้องไม่คลุมเครือ หรืออยู่ในลักษณะคาดเดา (ซฺอนน์) เหตุการณ์เองอย่างในกรณีของหะดีษนี้

เกี่ยวกับรายละเอียดนั้น หากมีเวลาว่างพอ อินชาอัลลอฮฺ จะนำเสนอดูครับ ... วัลลอฮุอะอ์ลัม

al-ashairoh:

--- อ้างถึง ---เกี่ยวกับหะดีษจารียะฮ์นั้น เท่าที่ผมเคยอ่านบทความที่ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยอุละมาอ์ฝ่ายอะฮ์ลุสสุนนะฮ์วัลจมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์นั้น ก็สรุปในเบื้องต้นได้ว่า

         (๑) สายรายงาน (สะนัด) ของหะดีษบทนี้อยู่ในสถานะ "เศาะหี้หฺ" (ถูกต้อง หรือเชื่อถือได้)
         (๒) ตัวบท (มะตัน) ของหะดีษบทนี้กลับถูกตัดสินให้อยู่ในประเภท "ซฺอนน์" หมายถึง เกิดจากการคาดเดาเหตุการณ์ของตัวผู้รายงานหะดีษบทนี้เอง นั่นคือ ท่านมุอาวียะฮ์ บิน อัลหะกัม
         (๓) ผู้รายงานหะดีษบทนี้ นั่นคือ ท่านมุอาวียะฮ์ บิน อัลหะกัม ณ ตอนที่ท่านรายงานหะดีษบทนี้นั้น เป็นที่ทราบว่าท่านยังไม่มีความลึกซึ้งในความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอิสลามดีพอ เนื่องจากท่านเพิ่งเข้าอิสลาม ซึ่งสังเกตได้จากการที่ท่านกล่าวรับคำจามในขณะละหมาด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์การสนทนาระหว่างท่านนบีย์ ศ็อลฯ กับทาสหญิงเล็กน้อย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นพื้นฐานที่ทุกคนจะทราบดีอยู่แล้ว แต่ท่านกลับไม่ทราบ
         (๔) หะดีษจารียะฮ์นี้ถูกรายงานมาหลายกระแส ซึ่งทุกกระแสต่างก็เศาะหี้หฺทั้งหมด จุดที่น่าสังเกตก็คือ ช่วงท้ายของหะดีษนี้ที่ได้รายงานถึงบทสนทนาระหว่างท่านนบีย์ ศ็อลฯ กับทาสหญิง (จารียะฮ์) แต่ทว่าลักษณะของการสนทนาตามที่ปรากฏในแต่ละกระแสนั้นมีความแตกต่างกัน เช่น กระแสหนึ่งระบุว่าทั้งสองสนทนากันโดยใช้คำพูด ส่วนอีกกระแสหนึ่งรายงานว่า ท่านนบีย์ ศ็อลฯ ใช้สัญญาณมือแทนการสนทนา ส่วนฝ่ายทาสหญิงกลับใช้คำพูดในการสนทนา แต่อีกกระแสหนึ่งกลับรายงานตรงกันข้ามกันนี้ กล่าวคือ ท่านนบีย์ ศ็อลฯ ใช้คำพูดในการสนทนา ในขณะที่ทาสหญิงใช้สัญญาณมือแทนคำพูด ดังกล่าวนี้ ทำให้นักวิชาการหะดีษหลายท่านมีความเห็นว่า จำเป็นที่จะต้องเอาหะดีษทุกกระแสที่รายงานแตกต่างกันนั้นมารวมกันเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งข้อสรุปที่ได้ก็คือ
         (๔.๑) ทาสหญิงดังกล่าวนั้น แท้จริงแล้วนางเป็นคนใบ้ ดังนั้น การสนทนาระหว่างท่านนบีย์ ศ็อลฯ กับนางนั้นจะเป็นไปในลักษณะของการใช้สัญญาณมือระหว่างกัน
         (๔.๒) ส่วนสำนวนคำพูดที่พาดพิงต่อท่านนบีย์ ศ็อลฯ และทาสหญิงตามที่ปรากฏในแต่ละกระแสนั้น ไม่ใช่คำพูดที่มาจากทั้งสอง แต่เป็นคำพูดของตัวผู้รายงานหะดีษนี้เอง นั่นคือ ท่านมุอาวียะฮ์ บิน อัลหะกัม ซึ่งเกิดจากการคาดเดาลักษณะการสนทนาระหว่างทั้งสอง จึงเข้าใจไปเองว่า ความหมายของการใช้สัญญาณมือระหว่างทั้งสองนั้นน่าจะหมายถึงอย่างที่ตนเข้าใจ
         (๔.๓) เมื่อเป็นเช่นนี้ หะดีษบทนี้ จึงไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานทางอะกีดะฮ์ได้เลย เพราะเรื่องอะกีดะฮ์นั้นนอกจากจะใช้หลักฐานที่เศาะหี้หฺแล้ว ตัวบทของหะดีษก็จะต้องมีสำนวนที่ชัดเจนและเด็ดขาด ต้องไม่คลุมเครือ หรืออยู่ในลักษณะคาดเดา (ซฺอนน์) เหตุการณ์เองอย่างในกรณีของหะดีษนี้

เกี่ยวกับรายละเอียดนั้น หากมีเวลาว่างพอ อินชาอัลลอฮฺ จะนำเสนอดูครับ ... วัลลอฮุอะอ์ลัม
--- End quote ---

อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺครับ ญาซากัลลอฮฺมากครับ ผมจะรอนะครับสำหรับรายอะเอียด อยากศึกษาให้ละเอียดอ่ะครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะจะได้บอกต่อคนที่มีความรู้น้อยเหมือนกับผมด้วยอ่ะครับ  ญาซากัลลอฮฺมากนะครับ ส่วนฮาดิษที่ว่า ประชาชาติของฉันจะแตกออกเป็น 73 จำพวกนี่ตกลงฎออีฟเหมือนกานไหมครับ เพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กลุ่มต่างๆน่าจะแตกออกมากกว่านี้นะครับ ขอความรู้อีกทีนะครับ

Al Fatoni:
ไม่ทราบว่าเข้าใจภาษามลายู หรือภาษาอาหรับได้ไหม โดยเฉพาะภาษามลายูนั้นผมมีเว็บที่นำเสนอบทความเกี่ยวกับหะดีษจารียะฮ์ พร้อมข้อโต้แย้งทุกแง่มุมอยู่ คลิกเข้าตามลิ้งนี้เลยครับ Penjelasan Mengenai Hadith Jariyah มีทั้งหมด ๑๒ ตอนครับ ไว้ว่างๆ จะมานำเสนอในภาคภาษาไทยดูครับ อินชาอัลลอฮฺ

al-ashairoh:

--- อ้างถึง ---ไม่ทราบว่าเข้าใจภาษามลายู หรือภาษาอาหรับได้ไหม โดยเฉพาะภาษามลายูนั้นผมมีเว็บที่นำเสนอบทความเกี่ยวกับหะดีษจารียะฮ์ พร้อมข้อโต้แย้งทุกแง่มุมอยู่ คลิกเข้าตามลิ้งนี้เลยครับ Penjelasan Mengenai Hadith Jariyah มีทั้งหมด ๑๒ ตอนครับ ไว้ว่างๆ จะมานำเสนอในภาคภาษาไทยดูครับ อินชาอัลลอฮฺ
--- End quote ---

ญาซากัลลอฮฺครับ แต่มลายูผมไม่เข้าใจเรยครับ ภาษาอาหรับพอได้ครับ เพราะเรียนสายปอเนาะอยู่ครับ ผมขอรอภาษาไทยแร้วกันครับ รอได้ครับ ญาซากัลลอฮฺบังมากครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version