ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 12 สูเราะฮฺ ยูสุฟ  (อ่าน 7757 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ ยูสุฟ อายะฮฺที่ 109 - 111


คำแปล R1.
109. And we sent not before you (as Messengers) any but men, whom we inspired from among the people of townships. Have they not traveled through the earth and seen what was the end of those who were before them? And verily, the home of the Hereafter is the best for those who fear Allah and obey Him (by abstaining from sins and evil deeds and by performing righteous good deeds). Do you not then understand?
110. (They were reprieved) until, when the Messengers gave up hope and thought that they were denied (by their people), then came to them our help, and whomsoever we willed were delivered. And our punishment cannot be warded off from the people who are Mujrimun (criminals, disobedient to Allah, sinners, disbelievers, polytheists).
111. Indeed in their stories, there is a lesson for men of understanding. It (the Qur'an) is not a forged statement but a confirmation of the Allah's existing Books [the Taurat (Torah), the Injeel (Gospel) and other Scriptures of Allah] and a detailed explanation of everything and a guide and a mercy for the people who believe.


คำแปล R2.
109. และเรามิได้ส่ง (ศาสนทูตคนใดเป็นการเฉพาะ) มาก่อนหน้าเจ้านอกจากมีบุรุษ (ศาสนทู๖) หลายคนจากชาวเมืองต่าง ๆ ที่เราดลจิตแก่พวกเขา (ให้รับโองการของเรา) และพวกเขามิได้จาริกไปในพื้นปฐพีนี้ดอกหรือ เพื่อพวกเขาจะได้พินิจพิเคราะห์ดูว่า อันจุดจบของบรรดามวลชนก่อนพวกเขานั้นเป็นอย่างไร ขอยืนยัน! แท้จริงนครแห่งโลกหน้านั้นย่อมเป็นสิ่งดีเยี่ยมสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง แล้วพวกเขาไม่ใช้ปัญญาตรองดอกหรือ
110. จนกระทั่งเมื่อบรรดาศาสนทูตมีความท้อแท้ และมีความมั่นใจว่าพวกเขาถูกคัดค้าน (อย่างไม่ใยดีจากมวลชน) การช่วยเหลือของเราก็จักมาประสบแก่พวกเขาทันที แล้วเราก็ยังความปลอดภัยแก่บุคคลที่เราประสงค์ และการลงโทษของเราย่อมไม่ได้รับการผลักใส (ให้พ้นไป) จากกลุ่มชนที่ทำบาป
111. อันความจริงในประวัติของพวก (ศาสนทูต) เหล่านั้น มีข้อคิดสำหรับมวลผู้มีวิจารณญาณ (ประวัติของศาสนทูตในกุรฺอาน) หาใช่เป็นเรื่องราวที่ถูกกุขึ้นมาไม่ แต่เป็นการรับรองสิ่งที่มีอยู่ก่อนหน้าคัมภีร์นี้ และเป็นการแจกแจงทุกสิ่งทุกอย่าง (ให้ประจักษ์แจ้งทั้งที่ถูกและผิด) เป็นสิ่งชี้นำ และเป็นเมตตาธรรมแก่กลุ่มชนที่มีศรัทธาทั้งมวล


คำแปล R3.
109. (โอ้มุฮัมมัด) ศาสนทูตทั้งหมดที่เราได้ส่งมาก่อนหน้าเจ้านั้นเป็นมนุษย์ และอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันและเราได้มีวะฮีย์แก่พวกเขาแล้ว คนเหล่านี้ไม่ได้เดินทางไปในแผ่นดินและดูหรือว่า ผลสุดท้ายของพวกคนที่ผ่านไปก่อนหน้าพวกเขาเป็นอย่างไร?” แน่นอน ที่พำนักในปรโลกนั้นดีกว่าสำหรับบรรดาผู้ (เชื่อในบรรดาศาสนทูตและ)ยำเกรง แล้วตอนนี้สูเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ?
110. (เรื่องเช่นนี้ก็ได้แคยเกิดขึ้นกับศาสนทูตคนก่อน พวกเขานำสาส์นมาบอกเป็นเวลานาน แต่ผู้คนก็ไม่ฟังพวกเขา) จนกระทั่งบรรดาศาสนทูตทั้งหลายท้อแท้ต่อคนพวกนี้และพวกผู้คนก็คิดว่าได้มีการนำเอาความเท็จมาเสนอให้พวกเขา แล้วการช่วยเหลือของเราก็ได้มายังบรรดาศาสนทูตในทันใด และเมื่อโอกาสนั้นมาถึง เราก็ช่วยผู้ที่เราประสงค์ให้ปลอดภัย แต่การลงโทษของเราไม่อาจหันเหไปจากบรรดาผู้ทำความผิด
111. และในเรื่องราวทั้งหลายของผู้คนก่อนหน้านี้ มีบทเรียนสำหรับบรรดาผู้มรสามัญสำนึก สิ่งที่ถูกประทานมาในอัลกุรอานนั้นมิใช่เรื่องที่กุขึ้นมา แต่(เป็นเรื่องจริงและ)มันยืนยันคัมภีร์ก่อนหน้านี้และให้รายละเอียดทุกอย่าง และเป็นทางนำและความเมตตาสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา


คำแปล R4.
109. และเรามิได้ส่งผู้ใดมาก่อนเจ้า นอกจากบรรพบุรุษจากชาวเมืองที่เราให้วะฮีแก่พวกเขา พวกเขามิได้ตระเวนไปในแผ่นดินดอกหรือ เพื่อพวกเขาจะเห็นบั้นปลายของบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเขาว่าเป็นอย่างไร และแน่นอนโลกอาคิเราะฮฺนั้นดียิ่งสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง พวกท่านมิได้ใช้สติปัญญาดอกหรือ
110. จนกระทั่งเมื่อบรรดารอซูลหมดหวัง และคิดว่าพวกเขา(มุชริกีน) ปฏิเสธศรัทธา แล้วการช่วยเหลือของเราได้มายังพวกเขา ดังนั้นผู้ที่เราประสงค์(บรรดารอซูลและบรรดามุมิน) ก็ถูกช่วยเหลือให้รอด และการลงโทษของเราจะไม่ถูกผลักออกจากหมู่ชนผู้กระทำผิด
111. โดยแน่นอนยิ่ง ในเรื่องราวของพวกเขา เป็นบทเรียนสำหรับบรรดาผู้มีสติปัญญา มิใช่เป็นเรื่องราวที่ถูกปั้นแต่งขึ้น แต่ว่าเป็นการยืนยันความจริงที่อยู่ต่อหน้าเขา และเป็นการแจกแจงทุกสิ่งทุกอย่าง และเป็นการชี้ทางที่ถูกต้อง และเป็นการเมตตาแก่หมู่ชนผู้ศรัทธา


คำแปล R5.
๑๐๙. ก่อนจากเจ้า เรา(อัลเลาะห์) ก็หาได้แต่งตั้งใครมาเป็นพระศาสนทูตไม่ นอกจากผู้ชายชาวเมืองต่าง ๆ มิใช่พวกเร่ร่อน ณ ทุ่งทะเลทราย และมิใช่มลาอิกะห์ ซึ่งเรา (อัลเลาะห์) ได้ดลกระแสโองการมายังพวกเขา พวก (นครมักกะห์) เหล่านั้นมิได้เที่ยวไปในแผ่นดินเพื่อพิเคราะห์ดูบรรดาผู้ที่อยู่ในยุคก่อนจากพวก(มักกะห์) นั้นดอกหรือว่า ในที่สุดชนที่อยู่ในยุคก่อนที่หาว่าพระศาสนทูตของพวกเขาเป็นผู้เท็จได้รับความสูญเสียเป็นอย่างไร? อันสรวงสวรรค์สถานแห่งภาคปรภพนั้นย่อมเลิศยิ่งสำหรับชนผู้มีความยำเกรงต่ออัลเลาะห์ โอ้ชนชาวนครมักกะห์พวกเจ้าไม่ตรึกตรองดอกหรือ? ว่าสวรรค์นั้นดีเลิศกว่าภาคภพนี้ แล้วพวกเจ้าก็จะได้มีศรัทธาว่าสวรรค์ย่อมดีกว่า
๑๑๐. ประชากรของแต่ละพระศาสนทูตที่เรา(อัลเลาะห์)แต่งตั้งขึ้นจากปวงชายชาวเมืองนั้น เราก็มิได้เอาโทษอันใดแก่พวกเขาเลย จนกระทั่งเมื่อใดเหล่าพระศาสนทูตจะสิ้นหวังและแน่วแน่แล้วว่าพวก(ประชากร) เหล่านั้นต่างกล่าวหาพวกตนนี้ว่าเป็นผู้เท็จ ความช่วยเหลือจากเรา(อัลเลาะห์) จึงมาถึงพวก(พระศาสนทูต) นั้น ทั้งเรา(อัลเลาะห์) ยังได้ให้ผู้ที่เรามุ่งประสงค์ ได้ปลอดภัยพ้นจากการลงทัณฑ์จากเรา แต่โทษจากเราจะไม่ถูกถอนออกจากกลุ่มชนมุชริกเลย
๑๑๑. ขอให้สัจปฏิญาณว่า แน่แท้ในประวัติของพวกศาสนทูตนั้น ย่อมมีคติอยู่ด้วยสำหรับผู้ทรงปัญญา พระคัมภีร์อัล-กุรอานนี้ หาได้เป็นถ้อยคำที่อ้างขึ้นลอย ๆ ปราศไร้ความเป็นจริงไม่ แต่เป็นพระคัมภีร์ที่ยืนยันพระคัมภีร์อีก ๑๐๓ เล่มซึ่งมีมาก่อนว่าเป็นจริง เป็นพระคัมภีร์ที่แจกแจงทุกสิ่งอันโดยถูกต้องตามหลักศาสนา เป็นพระคัมภีร์ที่ชี้แนวธรรมมิให้หลงงมงาย และเป็นความปรานีสำหรับปวงชนผู้มีศรัทธา


--------------------------------------------------------
 
ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่เป็นจริงเสมอ (صدق الله العظيم)
จบตอนที่ 12 สูเราะฮฺ ยูสุฟ
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته

 

GoogleTagged