ผู้เขียน หัวข้อ: เยี่ยมกุบุร(สุสาน)ในวันอีด ได้หรือไม่ได้ หรืออย่างไร  (อ่าน 4874 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ lungmaprau

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 13
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

ส่วนมากมุสลิมที่สาม จว.ใต้ ในวันอีด(รายอฟิตรีและรายออัฎฮา) จะไปเยี่ยมกุโบรกัน(สุสาน ที่ไม่ใช่ในวันรายอแนน่ะครับ) วะฮะบีบอกว่า เป็นการปฏิบัติตามที่ผิดเจตนารมณ์ของวันอีด เพื่อเฉลิมฉลองยินดีปรีดากัน แต่การไปกุโบรเป็นการรำลึกความตาย เศร้าและร้องให้ ซึ่งไม่เหมาะที่จะกระทำกันในวันอีด .. ขอผุ้รู้ช่วยกระจ่างครับว่า มีฮาดิษห้ามไปเยี่ย่มกุโบรในวันอีดหรือไม่ หรือ ถูกต้องใหมครับที่เขาอ้างมาและเราควรปฏิบัติเช่นนั้น และความกระจ่างอื่นๆเพิ่มเติมด้วยครับ

ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้กันครับ

ออฟไลน์ ADB

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 235
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
    • ตับลีฆ
 :salam:

ไม่ใช่ผู้รู้แต่ขอนุญาตแสดงความคิดเห็น..

การจำกัดห้ามเยี่ยมกุโบรวันหนึ่งวันใดโดยเฉพาะเจาะจงเป็นบิดอะห์ เพราะไม่มีหลักฐานห้ามเยี่ยมโดยเจาะจง การที่บอกว่าการเยี่ยมกุโบรทำให้รำลึกนึกถึงความตายนั้นถูกต้องแล้ว แต่การเยี่ยมกุโบรไม่จำเป็นต้องร้องไห้หรือเสียใจ(อันนี้เป็นความเข้าใจผิดโดยความคิดของผู้ที่กล่าวอ้าง..ไม่มีหลักการศาสนาบอกว่าการเยี่ยมกุโบรต้องร้องไห้หรือเสียใจ) แต่การเยี่ยมกุโบรดังกล่าว เป็นการทำให้รำลึกถึงความตาย รำลึกถึงโลกหน้า เพิ่มพูนอีหม่านเพิ่มพูนความดี อีกทั้งยังเป็นการสำทับให้แสดงความรื่นเริง ความสนุกสนานอย่างสำรวมและมีสติ ซึ่งไม่ได้ขัดต่อเจตจำนงค์ของวันอีดแต่อย่างใด 

ออฟไลน์ nasir

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 24
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ไม่น่าจะมีข้อห้ามอันใดที่จะห้ามการเยี่ยมกุบุรในวันอีดหรือวันอื่น ๆ กลางวัน หรือกลางคืน บางคนไปทำมาหากินในถิ่นไกลกลับมารายอทั้งทีก็อยากไปเยี่ยมกุบุรพ่อแม่พี่่น้อง เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความกตัญญูต่อบุพการีและแสดงความปรารถนาดีต่อบรรดาอิควาน นอกจากจะทำให้เรารำลึกถึงความตายด้วยแล้ว

ออฟไลน์ charif

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 12
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บิสมิลลาฮิรเราะฮฺมานิรเราะฮีมอัลลอฮุมะซอลลิอะลามุฮัมมัด วะอะลาอาลิฮี วะเซาะฮฺบิฮี วะซัลลัมอัมมาบะอฺดฺ


     .............จิงๆแล้วเรื่องนี้มีการถามอยู่มากคน และก็มีคำตอบในเวปนี้แล้วเหมือนกัน  ผมนำหลักฐานมาพร้อมลิงค์มาให้ครับ.....

   ;Dเรื่องการดุอาที่กุโบรนั้นเป็นสิ่งที่ดี   และมีแบบอย่างจากท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

       แต่บางคนนั้นมักมองคนในแง่ลบ และเข้าใจว่าการดุอาที่กุโบรคือการไปขอกับหลุมศพ

         ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ผิด และมองมนุษย์ในแง่ร้าย

ได้มีหลักฐานจากท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิ วะอาลิฮี วะซัลลัม  ได้ทำการดุอาให้แก่คนเป็นและคนตาย เมื่อท่านนั้นได้ไปเยี่ยมหลุมศพ

และในซอฮีฮฺมุสลิม(เลขที่ ๙๗๔) และมุสนัดอะฮฺหมัด(๖/๒๒๑)

แท้จริงท่านนบีซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้สอนท่านหญิงอาอิชะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮา ให้นางกล่าวเมื่อนางไปเยี่ยมหลุมศพที่บะกีอฺ

ว่า

"(   السلام على أهل الديار من المؤمنين والمسلمين ويرحم الله المستقدمين منا والمستأخرين وإنا إن شاء الله بكم للاحقون  )

..................................................................................

ว่า" อัสลามุ อะลา อะฮฺลิดดิยาริ มินัล มุอฺมินีนะ วัล มุสลิมีน วะยัรหะมุลอฮุล มุสตักดิมีนะมินนา วัลมุสตะอฺคิรีน  วะอินนาอินชาอัลลอฮุบิกุม ละลาฮิกูน"

...ผู้ถามลองคลืิกอ่านหลักฐานจากลิงค์นี้เรยครับ ถ้าไม่เข้าใจจะนำมาแปะเพิ่มครับ  อิงชาอัลลอฮ์

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php/topic,471.msg5519.html#msg5519

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
การเยี่ยมเยียนกุโบรในวันอีดนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่อนุญาต เนื่องจากอิสลามระบุถึงการอนุญาตให้ไปเยี่ยมเยียนกุโบรไว้แบบกว้างๆ ไม่ได้เจาะจงว่า อนุญาตให้ไปเยี่ยมแค่เฉพาะวันไหน หรือว่าห้ามเยี่ยมเฉพาะในวันใดอย่างชัดเจน .. ดังนั้น ตราบใดที่การไปเยี่ยมเยียนกุโบรในวันอีดนั้น ไม่มีการร้องไห้ หรือเศร้าโศกเสียใจ ก็ถือว่า อนุญาตให้ไปเยี่ยมได้

เพราะเหตุผลที่บรรดาปราชญ์บางส่วน ไม่อนุญาตให้ไปเยี่ยมเยียนกุโบรในวันอีดนั้น ก็เนื่องจาก บรรดาชาวอาหรับโดยเฉพาะบรรดาสตรี เวลาที่พวกเขาไปเยี่ยมเยียนกุโบร พวกเขาจะชอบร้องไห้ รำพึงรำพันถึงคนตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในวันอีด

แต่ทว่าการเยี่ยมเยียนกุโบรของคนในประเทศไทยนั้น เป็นการไปอ่านอัล-กุรอานเพื่ออุทิศผลบุญให้แก่ผู้ตายในกุโบร ,และเพื่อทำเศาะดะเกาะฮฺให้แก่เด็กและผู้รู้ในหนทางศาสนา ,และเพื่อไปขอดุอาให้แก่ชาวกุโบรให้ปลอดภัยจากการลงโทษในกุโบร ก่อนที่พวกเขาจะกลับเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและลงโทษในกุโบรอีกครั้ง

ซึ่งชาวมุสลิมในประเทศไทยนั้น ไม่มีใครที่ไปกุโบรเพื่อร้องไห้หรือเศร้าโศกเสียใจเหมือนอย่างที่ชาวอาหรับเป็น ดังนั้น เหตุผลของปราชญ์ที่อ้างว่าไปแล้วโศกเศร้า ไปแล้วร้องไห้ จึงตกไปโดยปริยายครับ !!

นอกจากนั้น ผู้ที่ไปเยี่ยมกุโบร ก็ยังช่วยถากหญ้า เก็บกวาดขยะและใบไม้ให้กับกุโบรอีก ทำให้กุโบรร่มรื่นและสะอาด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามอีกด้วย ซึ่งต่างกับกุโบรของชาวอาหรับ ที่ไม่ได้มีต้นไม้หรือต้นหญ้าขึ้นเหมือนเมืองไทย  แต่กุโบรจะอยู่ในสถานที่โล่งแจ้ง และอากาศก็ร้อนมากๆ ด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 31, 2012, 07:01 PM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ hoosna2011

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อัซซ่าลามมุอ้าลัยกุ้ม ว่าเราะห์มาตุลลอฮฺฮิวะบาร่อกาตุ  :salam:ไม่ผู้รู้เช่นกันค่ะ ได้พอได้ทราบและศึกษามาบ้างว่า (ขอแสดงความคิดเห็นแล้วกันค่ะ)
ไม่สมควรทำให้วันอีดเป็นวันเยี่ยมกุโบรฺ  คำนี้ได้ฟังจากปากของ อาจารย์(ที่ข้าพเจ้าได้ศึกษากับท่าน)
เราสามารถไปเยี่ยมสุสานได้ (สุนนะห์) เผื่อรำลึกถึงความตาย ใช่ค่ะ ที่บอกว่าวันอีดก็ไปได้  แต่ต้องไม่เจาะจงว่าพอถึงวันอีดฉันต้องไปสุสานทุกครั้ง (เป็นประจำทุกๆปี) ซึ่งมันผิดค่ะ หรือแม้แต่วันอื่นๆถ้าเราไปเจาะจงว่าต้องเป็ฯวันนั้น วันนี้ อย่างนี้ก็ผิดเช่นกันค่ะ  โปรดอย่าลืมจุดประสงค์ว่าทำทำตามสุนนะห์นบีรึป่าว ไปเพื่ออะไร พี่น้องควรไตร่ตรองดูค่ะ ถ้าสมมุติว่า ปีปีหนึ่งฉันไม่ได้มีเวลามาเยี่ยมบ้านเกอดเลย พอดีทางเจ้าหยุดงานให้กลับบ้านช่วงอีดพอดี เมื่อละหมาดเสร็จแล้ว อยากจะไปเยี่ยมสุสาน เพื่อรำรึกถึงความตาย /การรำลึกถึงชีวิตหลังความตาย ที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ เมื่อเป็นเช่นก็อณุญาติให้เยี่ยมได้ แต่อย่าตั้งใจว่าเมื่อวันอีดมาถึง ฉันต้องไปเยี่ยมสุสาน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่บิดอะห์ ขอบคุณค่ะสำหรับผู้ที่แสดงความคิดเห็นทุกท่าน myGreat:

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
โดยปกติแล้ว คนไทยมุสลิมเรา ไม่ได้ไปเยี่ยมกุโบรแค่วันอีด วันเดียวอยู่แล้ว .. บางคนก็ไปวันศุกร์ด้วย บางคนก็ไปวันพฤหัสด้วย .. แต่สาเหตุที่มุสลิมชาวไทยนิยมไปกุโบรในวันอีดกันเยอะนั้น ก็เนื่องมาจาก ในวันอีดนี้ จะมีพี่น้องลูกหลาน กลับมายังบ้านหลังเก่า และมารวมตัวกันอีกครั้งในบ้านหลังเดียวกัน หลังจากที่แยกย้ายกันไปอยู่กับครอบครัวในสถานที่ต่างๆ

ดังนั้น เมื่อพี่น้องกลับกันมาครบถ้วน ซึ่งโอกาสแบบนี้ถือว่านานๆ ที มีสักครั้ง ดังนั้น จึงถือว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมที่จะไปร่วมอ่านอัล-กุรอานและดุอาให้แก่ปู่ ,ย่า ,ตา ,ยาย หรือผู้มีพระคุณของเราที่กุโบรของพวกเขาสักครั้ง พร้อมหน้าพร้อมตากัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปอีก

ดังนั้น การไปเยี่ยมกุโบรในวันอีด ไม่มีผู้ใดเลยที่กำหนดว่า ต้องไปเยี่ยมกุโบรในวันอีดเท่านั้น  แต่ที่พวกเขาไปเยี่ยมกุโบรในวันอีด  ก็เพราะพี่น้องทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน  ก็พากันไปเยี่ยมกุโบร พ่อ ,แม่ ,ปู่ ,ย่า ,ตา ,ยาย  ก็เท่านั้นเองครับ ไม่ได้มีไรมาก

และจุดประสงค์ที่สำคัญของชาวไทยมุสลิมที่ไปเยี่ยมกุโบรนั้น พวกเขาไม่ได้ไปเพื่อความโศกเศร้า หรือร้องไห้ แต่พวกเขาไปด้วยความสุข .. ซึ่งก็คือ ความสุขใจที่มาจากการได้อ่านอัล-กุรอานให้แก่ผู้ตาย หรือการได้ขอดุอาให้แก่ผู้ตายคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 31, 2012, 07:05 PM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
เอ่อ ผมคิดว่า(ความคิดส่วนตัวน่ะครับ)วันอีดอนุญาติให้ไปในวันอีดได้(ผมก้อไป)วันอีดเป็นวันรื่นเริงของอิสลามผมว่าควรเลี่ยงไปหลังวันอีดวันนึง
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ nasir

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 24
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ฉันมีความตั้งใจที่จะไปเยี่ยมกุบุร์ท่านรอซู้ลเมื่อฉันมีโอกาสได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ความตั้งใจของฉันเป็นบิดอะฮ์หรือไม่

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
ฉันมีความตั้งใจที่จะไปเยี่ยมกุบุร์ท่านรอซู้ลเมื่อฉันมีโอกาสได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ความตั้งใจของฉันเป็นบิดอะฮ์หรือไม่


ไม่บิดอะฮฺ แต่ประการใดครับ .. เพราะท่านรสูลใช้ให้มุสลิมไปเยี่ยมเยียนกุโบรได้แบบกว้างๆ ไม่ได้เจาะจงใช้หรือห้ามในวันใดวันหนึ่งเป็นพิเศษ
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ nasir

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 24
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
 อุซูลุลฟิกฮ์ "อัตตัรกุลัยสาบิฮุจญะะห์" ผู้รู้ช่วยอธิบายกันหน่อยครับ

ออฟไลน์ nasir

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 24
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
การที่เราตั้งใจที่จะทำความดีอย่างหนี่งอย่างใด กับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ แค่ตั้งใจนี้อัลลอฮตอบแทนความดีในการตั้งใจให้ไหมครับ และเมื่อถึงเวลาที่เราตั้งใจไว้แล้วเราปฎิบัติในความดีตามที่เราตั้งใจไว้อย่างนี้เป็นบิดอะฮ์ไหมครับ

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด

อุซูลุลฟิกฮ์ "อัตตัรกุลัยสาบิฮุจญะะห์" ผู้รู้ช่วยอธิบายกันหน่อยครับ


ศึกษาเพิ่มเติม : http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php/topic,2854.0.html
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
การที่เราตั้งใจที่จะทำความดีอย่างหนี่งอย่างใด กับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ แค่ตั้งใจนี้อัลลอฮตอบแทนความดีในการตั้งใจให้ไหมครับ และเมื่อถึงเวลาที่เราตั้งใจไว้แล้วเราปฎิบัติในความดีตามที่เราตั้งใจไว้อย่างนี้เป็นบิดอะฮ์ไหมครับ


การที่เราตั้งใจจะทำความดีใดๆ ก็ตาม  แต่ว่าเรากลับไม่ได้ปฏิบัติมันตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะอันเนื่องมาจากสาเหตุใดก็ตาม เพียงแค่คิดอัลลอฮฺ ตะอาลา ก็จะตอบแทนผลบุญแก่เราแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ปฏิบัติมันก็ตาม

และถ้าหากว่าเราตั้งใจจะทำความดีใดๆ ก็ตาม แล้วเราก็สามารถปฏิบัติตามเจตนารมณ์อันดีของเราที่เราตั้งใจเอาไว้ ถือว่าไม่ใช่บิดอะฮฺแต่ประการใด แต่ตรงกันข้ามมันกลับกลายเป็นบัญญัติที่อิสลามส่งเสริมให้กระทำ เนื่องจากผู้ใดที่คิดจะทำดี และเขาก็ได้ทำความดีนั้นตามที่เขาคิดวางแผนเอาไว้ ดังนั้น อัลลอฮฺ ตะอาลา ก็จะยิ่งเพิ่มทวีคูณผลบุญให้กับเราขึ้นไปอีก

และผู้ใดก็ตามที่คิดจะทำความชั่ว แต่สุดท้ายเขาก็มิได้กระทำมัน ดังนั้น อัลลอฮฺ ตะอาลา ก็จะทรงตอบแทนความดีแก่เขาเช่นกัน

ดังมีรายงานจาก ท่าน อิบนุ อับบาส(ร.ด.) เล่าวว่า .. ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า .. อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงตรัสว่า ..

إِنَّ اللَّهَ كَتَبَ الْحَسَنَاتِ وَالسَّيِّئَاتِ ثُمَّ بَيَّنَ ذَلِك فَمَنْ هَمَّ بِحَسَنَةٍ فَلَمْ يَعْمَلْهَا كَتَبَهَا اللَّهُ عِنْدَهُ حَسَنَةً كَامِلَةً وَإِنْ هَمَّ بِهَا فَعَمِلَهَا كَتَبَهَا اللَّهُ عَزَّ وَجَلَّ عِنْدَهُ عَشْرَ حَسَنَاتٍ إِلَى سَبْعِ مِائَةِ ضِعْفٍ إِلَى أَضْعَافٍ كَثِيرَةٍ وَإِنْ هَمَّ بِسَيِّئَةٍ فَلَمْ يَعْمَلْهَا كَتَبَهَا اللَّهُ عِنْدَهُ حَسَنَةً كَامِلَةً وَإِنْ هَمَّ بِهَا فَعَمِلَهَا كَتَبَهَا اللَّهُ سَيِّئَةً وَاحِدَةً

“แท้จริงอัลลอฮ์ทรงกำหนดความดีและความชั่ว และทรงแจกแจงไว้อย่างกระจ่างทั้งหมดแล้ว ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่มีเจตนาทำความดีประการหนึ่ง แม้ว่าจะยังมิได้ลงมือกระทำจริงก็ตาม อัลลอฮ์ก็จะทรงบันทึกหนึ่งความดีที่สมบูรณ์ให้แก่เขา และหากเขามีเจตนาทำดีพร้อมลงมือกระทำจริง อัลลอฮ์จะทรงบันทึกความดีให้เป็น 10 ความดี ไปจนถึง 700 เท่า และไปจนถึงหลายเท่าทวีคูณ และหากเขามีเจตนาทำชั่วอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มิได้ลงมือกระทำมัน อัลลอฮ์จะทรงบันทึกหนึ่งความดีที่สมบูรณ์ให้แก่เขา และหากเขามีเจตนาทำชั่วอย่างใดอย่างหนึ่งพร้อมลงมือกระทำด้วย อัลลอฮ์จะทรงบันทึกให้แก่เขาเพียงหนึ่งความผิด(บาป) เท่านั้น ” (บันทึกโดย บุคอรีย์และมุสลิม)


วัลลอฮุ ตะอาลา อะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 04, 2012, 05:27 PM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

 

GoogleTagged