เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

หนังเรื่อง "Innocence of Muslims" มันเกิดขึ้นที่ได้ชื่อว่า เป็นดินเเดนเเห่งเสรีภาพ (จอมปลอม)

(1/3) > >>

sklp:
Tweet
ตอนนี้เป็นข่าวใหญ่โต ไปทั้วโลก แต่ที่ต่อต้านที่ค่อนไปทางรุนแรงหน่อยก็ที่ ลิเบียและอียิปด์ แต่ประเทศมุสลิมอื่นๆ เห็นเงียบๆ เเต่เชื่อว่าคงมีการประท้วงเหมือนกันเเหละ หนังเเบบนี้ อเมริกา ให้เปิดฉายได้อย่างไร เหรอว่า นี่เป็นเสรีภาพที่พวกเขาเท่านั้นที่สามารถที่จะทำอะไรก็ได้ มันช่างน่าหดหู่เสียเหลือเกิน แต่ถ้าคิดเเบบละเอียดนิดหนึ่ง (คหสต) มันเหมือนกับว่าอเมริกา กำลังหาข้ออ้างเพื่อที่จะเข้าไปควบคุม ประเทศที่เป็นเป้าหมาย ซึ่งตอนนี้แน่นอน ลิเบีย, อียิปต์ ต่างก็ประท้วงอย่างรุนเเรง(แสดงถึงความมีอีหม่านที่เข้มแข็ง) เดี่ยวเข้าไปเเบบไม่มีข้ออ้าง จะโดนประชาคมโลกติเอา และไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีปัญหา เข้าไปได้อย่างสะดวกไม่มีใครติ โดยอ้างว่าไปช่วยเหลื่อ

ทุกครั้งที่ มุสลิมโดนรังแกโดนทำร้าย จะไม่ออกข่าว แต่ถ้า กาเฟร ออกข่าวใหญ่โตจนเว่อ กลับกัน มุสลิมปกป้อง ป้องกันตนเองกลับถูกหาว่า ก่อการร้าย โลกนี้มี สองมาตรฐาน จริงๆ ฉนั้นเราควรอย่างยิ่งที่ จะต้องอดทนเเละดุอาห์ ให้มากๆ จะดีมากๆ ถ้าคว่ำบาตร สินค้า อเมริกา,ยิว,อังกฤษ และชาติพันธมิตรของประเทศเหล่านี้

al-firdaus~*:
:salam:

หลังจากที่ภาพยนต์ล้อเลียนท่านศาสดา มูฮัมหมัด ออกมาไม่กี่วันที่ผ่านมา
ทางสมาคม Discover Islam UK ในเมือง ลอนดอน ได้ตอบโต้การกระทำอันนั้นโดยการแจกจ่ายอัลกุรอ่านฉบับแปล
และประวัติของท่านนบี มากกว่า110.000 เล่ม แก่ชาวเมือง






ที่มา...

al-firdaus~*:
ความรักท่านนบี (ศ็อลฯ) ต่อจุดยืนการดูหมิ่นท่านนบี (ศ็อลฯ)

nada-yoru:
อัสสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮ์ วะบารอกาตุ

ตอนเด็กๆ...เวลาที่เพื่อนมาล้อเลียนพ่อแม่พี่น้อง
ที่เรารักและเคารพ หรือคนที่เรานับถือ
ข้าน้อยมักตอบโต้กลับไปให้เหมือนๆกัน...
แบบเกลือจิ้มเกลือ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน...
เค้าว่าพ่อแม่เรา เราก็ว่าพ่อแม่เค้ากลับ...
เค้าว่าคนที่เรารัก เราก็ว่ากลับ...
เค้าใช้คำหยาบมา เราก็ใช้คำหยาบสะท้อนกลับเขาไป

ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า หากคนที่เรารักโดนลบหลู่
หรือโดนล้อเลียนในทางเสียๆหายๆ เราจะรู้สึกร้อนรุ่ม
ในจิตใจ ฟังไม่ไหว หูไม่อยากได้ยินสิ่งเหล่านั้น
เพราะไม่ใช่แค่ระคายหู แต่มันแสบไปถึงทรวง...
และแต่ละคนก็จะแสดงออกมาแตกต่างกัน...
บางคนก็ตอบกลับไปให้เหมือนกับที่เขาทำมา
บางคนใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว
บางคนตีหน้าเฉย แต่ใจนั้นร้อนรุ่มด้วยความโกรธ

หลายครั้ง...ที่ข้าน้อยตอกกลับคนที่ทำกับเราให้เจ็บ
ด้วยการทำอย่างที่เขาทำ...มันสอนให้ข้าน้อยรู้ว่า
เรากำลังจะกลายเป็นเขา...เราไม่ชอบที่เขาทำกับเรา
แต่เรากลับทำอย่างที่เขาทำ...

หลายครั้ง...คนที่ชอบล้อก็มักจะหาเรื่องล้อให้เราโกรธ
พอเราโกรธ เราก็จะกลายร่างเป็นมารร้าย
ที่พร้อมจะทำลายทุกอย่าง ซึ่งมันสมใจเขา
เพราะเขาอยากให้คนอื่นๆมองเราแบบนั้น
เขาอยากให้เราติดลบในสายตาคนอื่น...

การหลีกเลี่ยงมารร้ายตัวจริงไม่ให้เขาได้สมดังหวัง
ก็คือการแสดงออกอย่างที่ท่านนบีเคยแสดงออก

ถ้าเราอ่านประวัติท่าน เราจะรู้ว่าท่านรักและห่วงใย
ประชาชาติของท่านมาก...ยิ่งประชาชาติที่เกิดไม่ทัน
ได้เห็นท่าน...ความรักของท่าน ส่งผลให้ท่าน
เผยแผ่ความจริงที่ตอนนั้นมีคนปฏิเสธมากมาย
และยังวางแผนทำลายท่าน แต่ด้วยความรัก
ความห่วงใยในพวกเขาเหล่านั้น...ท่านอดทน
และต่อสู้ด้วยการเผยแผ่สัจธรรมความจริง
ให้คนที่ยังไม่ยอมเปิดใจได้ยิน ได้รับรู้...
ขนาดท่านถูกทำร้าย ท่านยังไม่ยอมท้อ...
ท่านทำสงครามด้วยการเอาความจริงไปให้ผู้คน...
เอาสัจธรรมไปให้พวกเขา...
มิได้ล่าอาณานิคม เพื่อหวังผลประโยชน์แก่ตัวท่านเองเลย

ไม่แปลกเลยที่มุสลิมเราจะรักท่าน...
และไม่แปลกเลยที่มีผู้ศรัทธาในอิสลามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ...

เพราะความจริง ไม่มีวันตาย...
และสัจธรรม ก็มีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น...

การตอบกลับที่รุนแรงกลับไป อาจจะส่งผลให้ศัตรู
ตัวจริงของเราสมหวังก็ได้ ใครจะไปรู้...
เพราะตอนนี้ ภาพมุสลิมเรานั้น ออกมาในทางที่รุนแรง
หลายคนมองเราว่าเราชอบความรุนแรง...
ซึ่งจริงๆแล้ว อิสลาม...มันแปลว่า สันติ...
สันติ จะมีได้ เราต้องมี ขันติ...

สำหรับข้าน้อย...การตอบโต้กลับไปนั้นเราทุกคน
สมควรทำ แต่ก็อยากให้มุสลิมเราตระหนัก
ถึงผลที่ตามมาหลังจากนั้นด้วย...

เรารักพ่อแม่ เราไม่ชอบให้ใครมาด่าหรือล้อเลียนพ่อแม่
ที่เรารักฉันใด คนอื่นเขาก็ไม่ชอบให้เรากระทำกับเขา
ฉันนั้น...

ปัจจุบัน ใครที่ดูถูก ดูหมิ่นพ่อแม่ข้าน้อย
ข้าน้อยจะไม่สน ไม่ใส่ใจ ไม่รัก ไม่เข้าใกล้
และจะไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆกับเขา
จนกว่าเขาจะรู้จักละลายต่อการกระทำของเขา...

เพราะข้าน้อยเชื่อว่า พ่อแม่ของเรานั้นเป็นอย่างไร
ไม่มีใครจะรู้จักพ่อแม่เรา หรือรักพ่อแม่เราได้เท่าเรา...
และไม่ว่าใครจะว่าท่านอย่างไร ท่านก็ยังคง
เป็นที่รักของเรา และสิ่งที่ข้าน้อยจะทำก็คือ
ยกย่อง เชิดชู เทิดทูนท่านต่อไปให้ใครๆเห็น...

ข้าน้อยรักอัลลอฮฺ รักท่านนบี ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
และข้าน้อยก็พร้อมจะประกาศความรักนั้นให้คนอื่นรับรู้

เขาจะลบหลู่ก็ให้เขาทำไป แต่ข้าน้อยจะประกาศ
ออกไปดังๆเช่นกัน...ว่าเรารักอัลลอฮฺ รักท่านนบีของเรา
และอะไรที่ทำให้เรารักได้ขนาดนั้น...
และเมื่อรัก เราก็พร้อมจะน้อมตาม อะไรที่ท่านเคยทำไว้
เป็นแบบอย่าง เราก็จะพยายามทำตามท่าน
อะไรที่ท่านสั่ง เราก็พยายามไม่ฝ่าฝืน ไม่ดื้อ...
สำหรับข้าน้อย...นี่คือการแสดงออกถึงความรัก
ที่มีต่ออัลลอฮฺและรอซู้ล...มันไม่ง่ายเลยสักนิด
แต่มันก็ไม่ยาก ในเมื่อเรารักท่าน...
เราก็พร้อมจะน้อมตามมิใช่หรือ...
ยิ่งรักมากก็ยิ่งน้อมตามมาก...
ยิ่งศรัทธามาก ก็ยิ่งฝ่าฝืนน้อยลง...

ข้าน้อยจึงเชื่อว่า...หลายๆคนมีการแสดงออกถึงความรัก
ที่แตกต่างกัน...
และข้าน้อยเองก็ไม่ชอบที่อเมริกาทำแบบนี้
และการที่อเมริกาทำแบบนั้นก็เท่ากับเป็นการ
อธรรมต่อตัวของพวกเขาเอง...
พวกเขาทำลายตัวของพวกเขาเอง...
เพราะอัลลอฮฺจะไม่ถูกทำลาย เพราะพระองค์
ทรงมหาบริสุทธิ์ยิ่ง...และท่านนบี ซอลลัลลอฮุอะลัย
ฮิวะซัลลัม ทรงเป็นรอซู้ลของพระองค์
ไม่มีใครหรือคนไหน จะทำลายเกียรติท่านลงได้
เพราะคนที่พยายามมุ่งทำลายเกียรติของท่าน
ก็เท่ากับเขากำลังหาเรื่องทำลายเกียรติของตัวเขาเอง

เมื่อใดที่คนทั่วไป เปิดตาเปิดใจ
สักวัน ชาวโลกก็จะรู้เองว่า...อะไรคือ สัจธรรม...
และใครที่เขาควรจะรักและน้อมตามอย่างแท้จริง...

ความรัก...คือความเมตตาหนึ่งจากอัลลอฮฺ
ที่พระองค์ได้มอบให้แก่มนุษย์และสัตว์...



วัลลอฮฺุอะลัม

วัสลามค่ะ

nada-yoru:
ขอทิ้งท้ายอีกนิด...รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว

สำหรับข้าน้อย...

"อเมริกา" เปรียบไปก็เหมือน "เด็กเกเร"
หรือ "จิ๊กโก๋หน้าปากซอย"ที่เขาทั้งกรี๊ดทั้งเซ็งกันทั้งซอย
เพราะชอบหาเรื่องชาวบ้านเค้าไปเรื่อย...
เดือดร้อนชาวบ้านทั่วไป...ชอบไถตังค์คนอื่น
ชอบก่อกวน...เมื่อไหร่ที่พี่แกเดินไปตรงไหนก็ให้รีบๆหลบไป
(อารมณ์ประมาณว่าเจอจิ๊กโก๋หน้าปากซอย)

สงสัยคงยังไม่รู้ตัว ว่าชาวโลกเริ่มเซ็งกันแล้ว...
ที่เกรงๆอยู่เพราะพี่แกขาใหญ่เท่านั้นเอง...อิอิอิ

พอไม่ได้ดังใจ ก็พาลเกเรไปทั่ว...
อยู่ไม่สุข ถ้าไม่ได้แกล้ง
หรือยุให้คนเค้าอื่นทะเลาะกันหน้าแหก

ก็ไม่รู้ว่าทำไม ใครๆถึงได้ตกหลุมรัก "เด็กเกเร"แบบนี้ได้ลง

มันน่าจะมีวิธีสั่งสอน "เด็กเกเร"ให้เลิกรังควานชาวบ้าน
เค้าสักทีเหมือนกันนะ...

กำลังรอดูอยู่ว่าเมื่อไหร่ "ไอ้ปื๊ดขาใหญ่"
จะโดนสอยลงมาสักที...ก็อยากสอยลงมาเหมือนกัน
แต่ว่ายังไม่มีปัญญา

สงสัยคราวนี้จะเจอดี ไปเบ่งไม่ดูซอย ก็เลยถูกสอย
จนคลานกลับบ้านไป...เฮะๆๆ...

ชาวโลกก็เลยรู้กันไปทั่วว่า"ไอ้ปี๊ดขาใหญ่"ของเรา
โดนดีเข้าให้แล้ว...

ปล.เด็กเกเรน่ะ จะไม่ชอบเรียนหนังสือ...
เมื่อไม่เรียน ก็ไม่มีความรู้ เมื่อไม่มีความรู้
จะพัฒนาตัวเองไปข้างหน้าได้อย่างไร

ซ้ำยังมาดูถูกความรู้และผู้ให้ความรู้ ดูถูกครูซะนี่
ไม่ไหวๆ...

เราจึงไม่ควรเดินตามหลัง "เด็กเกเร"
เพราะว่ามีแต่ถอยหลังลงคลอง...อิอิอิ...

และไม่ควรใส่ใจกับการกระทำของ "เด็กเกเร"
ที่ไม่ยอมโตสักทีให้มากนัก เอาแค่ประดับสมองก็คงจะพอ
เพราะมันมีแต่ทำให้เครียดและเสียเวลาทำอิบาดะฮฺเปล่าๆ
อ่ะเนอะ...

พอดีว่าพูดด้วยความรู้สึกหมั่นไส้นิ...หมั่นไส้จริงๆ
เหอๆๆๆ

วัสสลามค่ะ

 

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป