ผู้เขียน หัวข้อ: การสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้าย  (อ่าน 3158 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Saiyidah

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 7
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด

การให้แหวนเป็นของขวัญแต่งงานนั้นได้(จากหะดีษที่ท่านนบีพูดกับชายคนหนึ่งและลิงก์นี้ http://haneen1408.wordpress.com/2010/09/14/%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99/
 แต่อยากทราบว่าการสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายมีมุมมองว่าอย่างไรค่ะ
มันมีที่มาที่ไปยังไง  ในประวัติศาสตร์อิสลามมีหรือไม่ แล้วนบีสวมแหวนนิ้วไหน แล้วมันจะเป็นการเลียนแบบต่างศาสนิกหรือเปล่า(หมายถึงถ้าใส่นิ้วนางซ้าย) เพราะอ่านจากลิงก์ด้านล่างนี้แล้ว....มันยังไงกัน ผู้รู้ช่วยหน่อยค่าาา

http://www.zoneza.com/view5532.htm
http://www.weloveshopping.com/template/a34/show_article.php?shopid=197599&qid=80145
http://www.jobbkk.com/th/relax/webboard/viewtopic.php?id=14176
http://www.banviva.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99/


มะอัฟค่ะยาวไปหน่อย  boulay:



ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: การสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้าย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เม.ย. 18, 2012, 05:27 AM »
+1
 :salam:

เป็นความรู้ใหม่อีกแล้ว ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำเสนอ

ถ้าเราใส่แหวนนิ้วไหนได้พอดีก็ใส่นิ้วนั้น

ถ้าเราใส่แหวนนิ้วไหนแล้วไม่ทำให้เป็นอุปสรรคในการงานของเรา เช่น นวดโรตี เราก็ใสนิ้วนั้น

ถ้าใส่นิ้วนางซ้ายแล้วมันเข้ากับลักษณะที่บอกข้างต้นก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะเราไม่ได้เหนียตเป็นอื่น

แต่พอมาอ่านที่มาที่ไปของการสวมแหวนนิ้วนางซ้าย ใจมันก็อดคิดไม่ได้ว่าเป็นการเลียนแบบ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงเสียดีกว่า

ส่วนนบียฺสวมแหวนนิ้วไหนนั้น จำไม่ได้ครับ รอคนที่จำได้มาบอกต่อ

วัลลอฮุอะอฺลัม วัสสลาม



ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
Re: การสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้าย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เม.ย. 18, 2012, 08:12 AM »
+2
คือบางที มันเป็นความเหมาะสม หรือง่ายต่อการดำเนินชีวิต ทำให้มีการกระทำนึงออกมา แล้วก็มีคนเอาความเชื่อเสริมไป แล้วกลายเป็นเราทำสิ่งนั้นไม่ได้ไปซะ บางทีก็น่าคิดนะ

เช่น สวมแหวนนิ้วนางข้างซ้าย ผมไม่รู้ว่า ซุนนะห์เรื่องเครื่องประดับนั้นให้ใส่ด้านไหน เพราะเห็นบางคนก็ใส่นาฬิกาข้างขวา แต่ผมคิดว่าถ้าเป็นเครื่องประดับ จะใส่ทางซ้าย เพราะไม่ได้ทำอะไรมาก จะได้ไม่เกะกะ แหวนก็เหมือนกัน นิ้วนางเป็นนิ้วที่ไม่ค่อยได้ใช้ทำนั่นนี่เท่าไหร่ และไม่ได้อยู่ริมสุดแบบนิ้วก้อย การใส่แหวนนิ้วนางข้างซ้ายผมว่า ก็ถนัดดี

แต่กลายเป็นเหมือนศาสนาอื่น ก็ไม่เข้าใจว่า เลียนแบบนี่ยังไง ศาสนา หรือว่าประเพณี หรือว่าทั้งหมด

ออฟไลน์ multi

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 413
  • Respect: +7
    • ดูรายละเอียด
Re: การสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้าย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เม.ย. 18, 2012, 10:14 AM »
+2
 :salam:
               คิดว่า ถ้าเราทำอะไรสักอย่าง แล้ว บังเอิญไปตรงกับต่างศาสนา แล้วบอก ว่าเป็นการ เลียนแบบ   แบบนี้ ก็คงไม่ต้องทำอะไรกันละครับ อัลอิสลามของเรา   เพราะหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้  การดำเนิน ชีวิต ในเรื่อง ทั่วๆไป ที่ไม่เกี่ยวของ กับข้อบังคับกับศาสนาของอิสลาม กับต่างศาสนา ก็คล้ายๆกัน 
    แต่การสวมแหวนนั้น ไม่รู้ว่าทางศาสนา มีบัญญัติ ไว้อย่างไร
แต่นี่เป็นความเห็น       เช่นกัน    การสวมแหวน  มันดูที่ความสะดวก   หากเราไปสวม หัวแม่มือด้านขวา  แบบนี้ ต่างจากศาสนาอื่นแน่   แต่ คุณจะทำงานได้ถนัดสะดวกไหม   หากสวมนิ้วก้อย ข้างซ้ายก็ได้  ก็มีคนสวม  แต่นั่นแหล่ะ อาจะไปกระทบกับ บางอย่าง ซื่งไม่มีสิ่งป้องกัน อาจทำให้เสียหาย ไม่เหมือนใส่เหมือนนิ้วนาง
     ถ้าจะสวมนิ้วขวามือ ก็เป็นมือที่เราถนัด ใช้ทำทุกอย่าง ตั้งแต่ไม้จิ้มฟัน ยันเรือรบ ยกเว้น ล้างอุจจาระ ปัสสาวะ อาจเกิดความเสียหายได้ คิดว่าคงไม่เหมาะ จะสวม    แหวนราคาแพงๆ 
          คิดว่ามันอยู่ที่การเหนียด มากว่า    ใส่ไปไม่ต้องคิดไรมาก   

ออฟไลน์ Saiyidah

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 7
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: การสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้าย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เม.ย. 19, 2012, 01:29 PM »
0
ญะซากุมุ้ลลอฮฺทั้งสามท่านนะค่ะที่ช่วยแสดงความคิดเห็น yippy:   รอผู้รู้คนต่อไป.....
......
บางประเทศก็ใส่แหวนแต่งงานที่นิ้วนางขวา...อันนี้ไม่เกี่ยวแค่บอกข้อมูลที่เพิ่งรู้มา

 

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: การสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้าย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เม.ย. 20, 2012, 06:48 AM »
+1
 :salam:


เพิ่งไปค้นมาว่า ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวัสัลลัม สวมแหวนที่นิ้วก้อยมือซ้าย ไม่รู้ว่ามีรายงานอื่นอีกหรือไม่

วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ arrowd675

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้าย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พ.ย. 14, 2012, 04:58 PM »
0
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: การสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้าย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พ.ย. 15, 2012, 12:23 AM »
0
อัสสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ...

ปกติ...มักจะสวมนาฬิกามือขวา ทั้งๆที่เป็นคนถนัดขวาค่ะ
เพราะมันเป็นความเคยชินที่มักจะยกมือขวาทำโน่นทำนี่
เลยอยากสวมนาฬิกาไว้ข้างขวา ที่สำคัญ...มือซ้ายใช้ทำความสะอาดโน่นนี่...
เลยคิดเอาเองว่า มือขวาดูสะอาดดีน่ะค่ะ เลยชอบให้ของสำคัญๆอยู่ทางด้านขวาเสมอ
ยิ่งแหวน จะสวมทางด้านขวา ไม่ว่าจะนิ้วไหนก็เคยสวมมาหมดแล้ว...
แต่ที่ชอบที่สุดคือ นิ้วนางกับนิ้วก้อยข้างขวาน่ะค่ะ...มันให้ความรู้สึกที่ดีเวลาสวม...
แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง บางครั้งก็ต้องถอดแหวนมาแขวนคอเป็นจี้ก็มี
เพื่อที่มันจะได้ไม่กีดขวางระหว่างทำงานที่ต้องใช้มือ อย่างการปั้นขนม...
หรือใช้เครื่องมือบางอย่าง...

เลยคิดว่า...เรื่องแบบนี้อยู่ที่เหนียตนะคะ...หากเราไม่ได้เชื่อไม่ได้ศรัทธา
เราทำเพื่อความสะดวกของเรา คนอื่นจะแปลผลประมวณผลออกมา
เวลามองมาที่เราอย่างไร เราก็คงไปห้ามความคิดความรู้สึกของเขายาก...

ตอนนี้แหวนที่เคยสวมพอดีกับนิ้วนางข้างขวาดันเกิดหลวม ก็เลยต้องย้ายมาสวม
ที่นิ้วกลางแทน เพราะไม่มีนิ้วไหนทั้งสิบนิ้วที่มีมันจะสามารถสวมได้พอดีเท่านิ้วกลาง
ข้างขวาแล้ว...จะให้ทิ้งแหวนไป ก็ดูจะทำไม่ได้...อิอิอิ

และสมมุติว่า แหวนที่เราสวมมาตลอดอยู่ๆดันสวมนิ้วอื่นไม่ได้นอกจากนิ้วนางข้างซ้าย
ท่านจะทำอย่างไร ในเมื่อท่านเองก็ยังไม่ได้แต่งงาน และท่านก็ไม่ได้ศรัทธาอะไรอย่าง
ที่บางคนเขาเชื่อกัน...

ปัญหาก็คือ...คนเดี๋ยวนี้ มักมองที่แหวนเป็นเมนหลักว่าคนๆนั้นแต่งงานไปแล้วรึยัง
พอเห็นมีแหวนสวมอยู่ตรงนิ้วนางข้างซ้ายก็เป็นอันว่า แต่งงานหรือไม่ก็มีคู่หมั้นคู่หมายไปแล้ว
อะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ...


ปล.วันนี้มีเรื่องที่คล้ายๆกัน...มีน้องที่บริษัทถามว่า ข้าน้อยลอยกระทงมั้ย...
ข้าน้อยตอบไปว่า ไม่...น้องเขาเลยถามต่อว่า มันเป็นข้อห้ามทางศาสนาหรือ...
ข้าน้อยตอบว่า ใช่...ทีี่กล้าตอบออกไปอย่างนั้นเลยเพราะรู้ที่มาของงานลอยกระทงน่ะค่ะ
แต่พอดีว่ามีเสียงแทรกจากพี่ในบริษัทออกมาว่า...ลอยกระทงมันเป็นประเพณีไทย
เราคนไทย ก็ไม่เห็นจะแปลกที่ต้องลอยกระทง ไม่เห็นจำเป็นต้องสร้างความแตกแยก
ให้เกิดขึ้นในสังคมเลย...

บอกตามตรงว่าตอนนั้น...เริ่มหืดขึ้นคอเลยค่ะ...อารมณ์ประมาณว่า...
หายากแท้คนที่พยายามจะเข้าใจผู้อื่นบ้าง...ทั้งๆที่คนพูดก็ดูเหมือนจะเป็นคนที่
เหมือนจะเปิดใจกว้าง ยอมรับสิ่งต่างๆเข้ามาอยู่เหมือนกัน แต่แปลกที่
ไม่ยอมเข้าใจและยังหาว่าเราสร้่างความแตกแยกในสังคมอีก...
ข้าน้อยคิดว่า บางครั้งการที่คนๆนึงไม่ทำอย่างที่เราทำ ไม่กินอย่างทีี่เรากิน
ไม่เป็นอย่างที่เราเป็น มันก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะต่อต้านเราเสมอไป...
หรือเขาคือศัตรูของเราเสมอไป...การจะอยู่ร่วมกันได้ มันควรจะหัดเรียนรู้
ซึ่งกันและกัน...รู้เพื่อจะได้เข้าใจ และจะได้เข้าถึง...

ตอนนั้นข้าน้อยเลยบอกไปว่า การลอยกระทงมันเป็นประเพณีไทยก็จริง
แต่มันสืบเนื่องมาจากความศรัทธาของศาสนาพุทธ ล่วงไปถึงฮินดู
เพราะว่าต้องการขอขมาพระแม่คงคา

ซึ่งสำหรับข้าน้อย ข้าน้อยมีพระเจ้าให้ขอบคุณแล้ว และนอกเหนือจากอัลลอฮฺ
ก็ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ข้าน้อยเชื่อและศรัทธา...ดังนั้น ประเพณีอะไรก็ตามแต่
หากมีความเชื่อที่นอกเหนือไปจากความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวแล้วมีเรื่องความเชื่อ
ของศาสนาอื่นแทรกเข้ามา ข้าน้อยก็จะร่วมทำกิจกรรมเหล่านั้นไม่ได้...

เพราะทีี่ญี่ปุ่นก็มีประเพณีต่างๆมากมายไม่แพ้เมืองไทย หากข้าน้อยไม่เช็คดูดีๆ
เกี่ยวกับที่มาของพิธีนั้นๆ ข้าน้อยก็ต้องศรัทธาตามๆคนอื่นๆไปตามทุกที่ที่ตัวเองเดินทางไปแน่ๆ

ซึ่งข้าน้อยมีจุดยืนที่ชัดเจนแล้ว...เลยไม่อาจทำบางอย่างที่คนทั่วๆไปในพื้นที่นั้นๆทำได้...
อะไรที่ไม่ขัดกับหลักศาสนาเราก็สามารถร่วมทำกิจกรรมด้วยกันได้...
แต่อะไรทีี่ขัดต่อหลักศาสนา เราก็ทำไม่ได้...ซึ่งอิสลามนั้นชัดเจนแล้ว
ไม่มีอะไรให้ต้องไขว้เขวเลย...ท่านนบีทำไว้เป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว...

คำตอบแบบนั้น มันทำให้คนฟังที่กล้าต่อว่าเราก่อนหน้านี้ว่าเป็นพวกชอบสร้างความแตกแยก
ได้นิ่งเงียบไปเหมือนกันค่ะ...ข้าน้อยเองก็พยายามข่มอารมณ์อธิบายด้วยเหตุและผล
ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แม้อารมณ์จะคุกรุ่นเต็มที่แล้วก็ตามน่ะค่ะ...
เพราะเชื่อว่าเหตุผลสามารถสยบทุกความเคลื่อนไหวได้ไม่มากก็น้อย
ส่วนอารมณ์มันมีแต่ทำให้พังกับพัง...

ดังนั้น...ข้าน้อยจึงรู้สึกว่า บางที ปัญหาการอยู่ร่วมกันมันไม่ได้เกิดจากตัวของกฏศาสนาเลย
มันเกิดเพราะคนเราไม่ยอมเรียนรู้กันและกันให้มากกว่านี้...

และนั่นคือ ช่องว่างที่ไม่สามารถผ่านไปได้ง่ายๆ...

มาอย่างยาวเช่นทุกครั้งค่ะ...

วัสสลามค่ะ





"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged