ผู้เขียน หัวข้อ: Stephen Hawking ฟันธง "พระเจ้าไม่ได้สร้างสรรพสิ่ง" !!!  (อ่าน 5378 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio



ผู้อ่าน Jusci น่าจะรู้จัก Stephen Hawking ศาสตราจารย์ชาวอังกฤษชื่อดัง เจ้าของหนังสือ "ประวัติย่อของกาลเวลา" (A Brief History of Time) กันหมดนะครับ

Hawking นั้นเป็นเหมือนนักฟิสิกส์ส่วนใหญ่ คือไม่เชื่อในทฤษฎีพระเจ้าสร้างโลก (หรือจักรวาล) เขาเคยพูดไว้ว่า "พระเจ้าเข้ากันไม่ได้กับวิทยาศาสตร์" แต่ล่าสุด Hawking ออกหนังสือเล่มใหม่ชื่อ The Grand Design และในหนังสือเล่มนี้ เขาฟันธงตรงๆ ว่าพระเจ้าไม่ได้สร้างจักรวาล การเกิดบิ๊กแบงนั้นเป็นผลมาจากกฎทางฟิสิกส์ล้วนๆ

Hawking ให้เหตุผลว่าการค้นพบดาวเคราะห์ในระบบสุริยจักรวาลอื่นๆ ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของโลกนั้นลดลงไป ซึ่งอาจมองได้ว่าโลกไม่ได้ "ถูกสร้าง" ขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์อาศัย ทุกอย่างเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และจักรวาลเกิดขึ้นมาจากกฎทางฟิสิกส์ เช่น แรงโน้มถ่วง

หนังสือเล่มนี้จะวางขายวันที่ 9 กันยายน โดย Hawking เขียนร่วมกับนักฟิสิกส์อีกคนชื่อ Leonard Mlodinow อีกสักพักคงมีเวอร์ชันแปลไทยออกมาให้เราอ่านกัน

ที่มา - BBC

เขียนโดย MK ก๊อปมาแปะจาก http://jusci.net/node/1222


เอาไงดี กลัวว่ามีพี่น้องเราหลงเชื่อ  sad: อยากให้พี่น้องช่วยชี้แจงกันชี้แจงว่าจุดยืนของมุสลิมเกี่ยวกับเรื่องนี้

ออฟไลน์ taufik

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 252
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
0
เคสเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ที่แย้งว่า   'โมเสสแยกทะเลแดง' เป็นกฎธรรมชาที่ติ

นักวิทย์ระบุ ความเชื่อในไบเบิ้ล เรื่องอิทธิฤทธิ์โมเสสแยกทะเลแดง อาจเป็นแค่กฎธรรมชาติ หลังพิสูจน์ด้วยการจำลองสถานการณ์

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ประจำศูนย์แห่งชาติวิจัยด้านบรรยากาศ และมหาวิทยาลัยโคโลราโด ของสหรัฐ ชี้ว่า โมเสส ผู้นำชาวยิวยุคโบราณ อาจไม่ได้ใช้อิทธิฤทธิ์ใช้ไม้เท้าสั่งแยกทะเลแดงออกให้เปิดกว้างเป็นทางเดินสำหรับชาวยิวเพื่ออพยพหนีกองทัพอียิปต์แต่ปราฎการณ์
ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากพายุ ซึ่งสามารถทำให้ทะเลแยกเป็นสองส่วนได้

จากการทำการสำรวจด้วยการใช้คอมพิวเตอร์เลียนแบบสถานการณ์ดังกล่าว พบว่า พายุสามารถแยกทะเลเปิดกว้างเป็น 2 ส่วน เหมือนปรากฎการณ์ที่คัมภีร์ระบุไว้ เรื่องอิทธิฤทธิ์ของโมเสส และยังพบว่าหากมีพายุเกิดขึ้นบริเวณแม่น้ำไนล์ ด้วยความเร็ว 63 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยพัดเหนือแม่น้ำดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 12 ชั่วโมง จะทำให้น้ำทะเลไหลย้อนกลับได้ ในระดับความลึก 2 เมตร โดยจะเกิดเป็นพื้นที่ตรงกลางเหมือนสะพานข้าม มีความยาว 2 กิโลเมตร กว้าง 5 กิโลเมตร โดยปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเวลานาน 4 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ตามคัมภีร์ไบเบิล ระบุว่า เมื่อเดินทางมาริมทะเลแดง กองทัพอียิปต์ได้ติดตามชาวยิวที่อพยพหนีตามโมเสส เพื่อตามคนเหล่านี้กลับไปเป็นทาสดังเดิม และพระเจ้าได้ทรงให้โมเสสชูไม้เท้าขึ้นเหนือน้ำ ทำให้ทะเลแดงแหวกออก เป็นทางเดินให้อิสราเอลเดินข้ามไป แต่เมื่อกองทัพอียิปต์จะข้ามตามทะเลก็กลับคืนดังเดิมและท่วมกองทัพอียิปต์ตายเสียสิ้น

นายคาร์ล ดรูว์ แห่งศูนย์วิจัยบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า ผู้คนมักจะตื่นเต้นกับเรื่องราวการอพยพหมู่ของชาวยิวหนีกองทัพอียิปต์ตามเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิล แต่จากการสำรวจชี้ว่า การแหวกออกของทะเลเป็นเรื่องของกฎธรรมชาติ

Source : matichon/creation-church.com(Image)
22 กันยายน 2553 เวลา 14:24 น.
View 168 : comment 0

http://www.voicetv.co.th/content/21715/นักวิทย์แย้งไบเบิ้ลโมเสสแยกทะเลแดงเป็นกฎธรรมชาติ

นี้แหละคือแนวคิดของพวกที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า Atheism
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 28, 2010, 12:00 PM โดย hiddenmin »

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
0
แต่นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเมาะญีซะื ขนาดจะสร้างโลกอันนึงก็ไม่ได้กล่าวกุนฟายากูน แต่สร้า่งอย่างมีระบบระเบียบอย่างที่วิทยาศาสตร์ดาราศาสตร์เขาเล่ามา คือแบบว่า อัลลอฮสร้างทุกอย่างมีเหตุผล แต่ละคนที่ตายก็มีสาเหตุ อยู่ที่ว่าจะพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ได้หรือเปล่าแค่นั้นเอง(มั้ง)
والله أعلم
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
0
Alhamdulillah ที่มีกระทู้นี้ขึ้น

เท่าที่ผมรู้มา เดิมที การเกิด Big Bang นั้นยังมีข้อสงสัยอยู่ข้อนึงที่เป็นตรรกะ คือ
ทำไมการระเบิดถึงทำให้สสารต่างๆเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบในเอกภพ

ข้อสงสัยนั้น ผมคิดว่ากลุ่มที่ไม่เข้าใจพระเจ้า แต่เชื่อในพระเจ้าบอกว่า มันคือการแทรกแทรงของพระเจ้า
แต่คาดว่า Stephen Hawking ได้ค้นพบแล้วว่า มันเกิดขึ้นจากทฤษฎีต่างๆที่สามารถคำณวนได้ และไม่ใช่การแทรกแทรงของพระเจ้าแต่อย่างใด
ก็เลยทำให้เกิดกระแสความคิดขึ้นมาใหม่ว่า พระเจ้า ไม่ได้สร้างเอกภพ ..!

ความจริง Stephen ควรจะรู้จักพระเจ้ามากกว่านี้นะ จะได้ไม่ต้องมาติดแหงกอยู่แค่ตรรกะนี้ ผมคิด

นี่คือบางส่วนจากคำพูดของ Stephen Hawking

เราเคยคิดว่าทฤษฎีกำเนิดเอกภพสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ กฎฟิสิกส์ต่างๆ
เช่น สมการแมกซ์เวลล์และสัมพัทธภาพทั่วไปที่กำหนดวิวัฒนาการเอกภพกำหนดสภาวะให้ทุกอณูเอกภพชั่วขณะพร้อมกัน
และส่วนที่สองที่เลี่ยงไม่ได้เลยก็คือสภาวะแรกเริ่มของเอกภพ
เราก้าวหน้าไปได้ดีในส่วนแรก เราเข้าใจกฎวิวัฒนาการในทุกสภาพการณ์ เว้นก็แต่ที่สุดโต่งที่สุด
แต่สำหรับสภาวะแรกเริ่มของเอกภพนั้น เราเคยเข้าใจมันน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม การแบ่งทฤษฎีออกเป็นสองส่วนคือ กฎวิวัฒนาการ และ สภาวะตั้งต้นนั้น ถือว่าเวลาและอวกาศเป็นคนละสิ่งที่แยกขาดกัน
แต่ในภาวะสุดโต่งนั้น อิทธิพลของสัมพัทธภาพทั่วไปร่วมกับทฤษฎีควอนตัม ส่งผลให้เวลาเสมือนเป็นมิติหนึ่งของอวกาศ
แปลว่าเวลาและอวกาศมิใช่สิ่งที่แยกขาดจากกันอีกต่อไป ทำให้กฎวิวัฒนาการสามารถระบุสภาวะแรกเริ่มของเอกภพได้
หมายความว่า เอกภพสามารถสร้างตัวขึ้นมาเองได้โดยไม่ต้องมีอะไรอยู่ก่อน
เรายังคำนวณความน่าจะเป็นได้ว่าเมื่อแรกกำเนิดนั้น เอกภพมีสภาพต่างจากนี้
ซึ่งผลคำนวณนี้สอดคล้องเป็นอย่างดี กับผลสังเกตการณ์จากดาวเทียม WMAP ในการตรวจวัดรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาล
ซึ่งเป็นภาพประทับของเอกภพช่วงแรกกำเนิด เราเชื่อว่าเราไขปริศนากำเนิดสรรพสิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


คัดมาจาก Asking Big Questions about the universe: Stephen Hawking on TED.com
Link : http://blog.ted.com/2008/04/04/stephen_hawking/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 28, 2010, 11:37 PM โดย beechern »
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
0
ฟังรู้เรื่องด้วย  myGreat: myGreat:

อยากจะอัดเสียงตอนอาจารย์สอนกระแดะไทยคำอังกฤษคำแถมยังสลับ ร ล r l จะฟังทั้งทีต้องมีสมาธิสูงหน่อย

บังน่าจะช่วยถอดความได้  ::)

ออฟไลน์ Beechern

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1228
  • เพศ: ชาย
  • What is the Perfect method to save our Akhirah?
  • Respect: +28
    • ดูรายละเอียด
0
ฟังรู้เรื่องด้วย  myGreat: myGreat:

อยากจะอัดเสียงตอนอาจารย์สอนกระแดะไทยคำอังกฤษคำแถมยังสลับ ร ล r l จะฟังทั้งทีต้องมีสมาธิสูงหน่อย

บังน่าจะช่วยถอดความได้  ::)

ดูด้านล่างของ Video มี View Subtitle ให้เลือกเป็น Thai ครับ ^^ ผมก็คัดลอกมาจากนี่แหละ
hidayah seeker . . .

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
0
โคตรฟังรู้เรืองเลย 5555
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ taufik

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 252
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
0
Alhamdulillah ที่มีกระทู้นี้ขึ้น

เท่าที่ผมรู้มา เดิมที การเกิด Big Bang นั้นยังมีข้อสงสัยอยู่ข้อนึงที่เป็นตรรกะ คือ
ทำไมการระเบิดถึงทำให้สสารต่างๆเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบในเอกภพ


กฎของบิกแบงมีความขัดแย้งในทฤษฤีทางวิทยาศาสตร์

2nd LAW OF THERMODYNAMICS the law, which states that heat and natural
processes in a system tend to go toward less useful energy and greater discord.
In that sentence, a basic law of science refutes the whole big bang theory. Heat and
natural processes in a system tend to end in greater discord. In other words, it ends a
bigger mess than it started! If so, then how could a primeval atom, which is a
compacted mess of materials, then how could it end up in a beautiful world? Even
even the simplest laws of general science are so far defying the Big Bang theory!
In a car crash, the explosion of a car does not create a better car. It creates disaster!
The pieces of the car do not reconstruct to make it better, but end up being hauled
away as trash.
          กฎที่สองของอุณหพลศาสตร์กล่าวว่า ระบบกระบวนการความร้อนกับธรรมชาติมักจะโน้มเอียงไปอย่างไม่มีประโยชน์และเกิดการขัดแย้งขนาดใหญ่.ฉะนั้นอะตอมเมื่อมีการระเบิดขึ้น(บิกแบง)แล้วจะกลายมาเป็นในรูปแบบของสวยงามได้อย่างไร(โลก)
แม้กระทั้งกฏที่ง่ายที่สุดทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถที่รับทฤษฤีของ บิกแบงได้
ตัวอย่าง กรณีรถชน เมื่อรถมีการชนระหว่างกันมันจะไม่ทำให้รถนั้นมีสภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม มันจะสร้างการพัง และกลายเป็นเศษขยะ
ฉะนั้นเมื่อมีการระเบิดแตกกระจายเกิดขึ้นมันจะกลายเป็นดี สวยงามได้อย่างไร
มันจะคล้ายๆกับทฤษฤีของชาลดารวินมั่งที่ฟังดูแล้วมันไม่โลจิก มนุยษเกิดจากลิง(logically)

     SCIENCE a branch of study dedicated to the accumulation and classification of
observable facts in order to formulate general laws about the natural world.
(Exploring Creation With Natural Science PG 1)
วิทยาศาสตร์คือศาสตร์แขนงหนึ่งที่ใช้กระบวนการเก็บรวมและแยกแยะข้อเท็จจริงที่สังเกตได้เพื่อกำหนดกฏที่เกี่ยวกับธรรมชาติของโลก

Now, notice that in the definition of the word science, it says that it must be
observable facts. There are no written observations of the Big Bang, because for
one, no one was alive at that point
and also, it never happened. Creation, on the
other hand, has a written account from the Creator himself. It doesn t get any clearer
than that. I would also like to show the meaning of a general scientific law

เราจะสังเกตได้ว่าความหมายของคำว่าวิทยาศาสตร์นั้น มันจะต้องสามารถสังเกตได้ ไม่มีการจดบันทึกใดๆต่ิอการสังเกตแห่งบิกแบง เพราะว่า ไม่มีใครมีชิวีต ณ เวลานั้น(วันที่อะสะสารระเบิด) ฉะนั้นมันจะไม่สอดคล้องกับคำนิยามของศาสตร์วิทยาศาสตร์

    Refuting The Big Bang Theory
By: Victoria Kasten
9th Grade
pdf, file

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
0
...อย่าว่าแต่เข้าใจพระเจ้าเลยค่ะ...

...แค่เข้าใจตัวเองให้ได้ ก็ว่ายากสุดๆแล้ว...อิอิ

ทำไมเราต้องคิดให้เยอะแยะมากมาย
ทำไมเราต้องพยายามหาเหตุผลมากมาย
กับการจะเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง...

ข้าน้อยว่าแค่เรามองเข้าไปในหัวใจตัวเอง
แล้วถามว่า...ใครสร้างมันมา...เรารึ พ่อเรารึ...
บรรพบุรุษเรารึ...

แล้วถ้าบอกว่ามันเป็น"กฏของธรรมชาติ"

แล้วกฏของธรรมชาตินั้นใครสร้าง...

ก็เห็นกฏทุกกฏมีคนสร้างขึ้นมาทั้งนั้น...

หรือกฏธรรมชาติจะไร้ผู้สร้าง...


ถ้ามีโอกาสได้ขึ้นฟังคำปราศรัยจากนักวิทยาศาสตร์
ก้องโลกผู้นี้...ก็แค่อยากจะถามว่า...

...กฏธรรมชาติคืออะไร...แล้วมันมีซีฟัตอะไรบ้าง...

...ทำไมคนเราตายกันทุกคน...

...บ้านเรือนที่ท่านเห็น...มันเกิดขึ้นจากการที่พายุพัด
เอาอิฐ หิน ดินทรายมารวมตัวกันได้อย่างสวยงาม
ด้วยความบังเอิญ หรือด้วยเพราะกฏของธรรมชาติหรือ

...แล้วปากกาล่ะ...ใครออกแบบมันมา...
กฏธรรมชาติเป็นผู้ออกแบบหรือ...

ทำไมกฏธรรมชาติช่างเก่งจัง...ชักอยากรู้จัก...

แล้วลมพายุล่ะ...มันมารวมตัวกันได้จังหวะเหมาะเหม็ง
ตอนที่โมเสสกำลังจะฝ่าทะเลแดงไปเชียวหรือ
กฏของธรรมชาติดูจะมีชีวิตและน่าสนใจขึ้นมาทันที...
มันช่างเป็นเหตุบังเอิญจัง...

เราแน่ใจได้หรือว่า...ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา
และทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา เป็นเพราะความบังเอิญ
บังเอิญที่ฉันเกิดมา และบังเอิญที่ฉันต้องตาย...

เหตุผลของกฏธรรมชาติ ที่ใช้หลักการและทฤษฎีทางฟิสิกส์
มาอ้างอิงนั้น...มันไม่ฟังดูบังเอิญไปหน่อยหรือคะ...

จักรวาลหรือเอกภพถูกสร้างมาอย่างเป็นระบบ
หากไม่มีผู้บริหารมัน มันจะเป็นระบบได้ด้วยอะไร
ด้วยกฏของธรรมชาติหรือ...

ข้าน้อยเลยรู้สึกว่า...

การจะทำความรู้จักกับ"กฏธรรมชาติ"นั้น
ดูจะยากเย็นกว่าการทำความรู้จัก"พระเจ้า"น่ะค่ะ...

เรียนวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก ก็ยังไม่เข้าใจสักทีว่า
"กฏธรรมชาติ"ที่เขาว่าๆกัน มันเป็นยังไงกันแน่...

แต่พอเรียนอัลกุรอ่าน ทำไมหัวใจมันสว่างกระจ่างชัด...
ซีฟัตของอัลลอฮฺ ทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่พระองค์
ต้องการให้เราเข้าใจ...เราอาจไม่จำเป็นต้องเข้าใจพระองค์
แค่เรารู้ว่าพระองค์สร้างเรามาเพื่ออะไร
ข้าน้อยก็ว่า...มันมีเหตุผลมากพอให้เชื่อหมดใจว่า
พระองค์นี่แหล่ะ...คือผู้สร้างทุกสิ่งอย่างแท้จริง...

...ใครไม่เชื่อ ก็รอดูวันที่ตะวันขึ้นทางทิศตะวันตก...

เพราะข้าน้อยเชื่อว่า...วันนั้น ทุกๆทฤษฎีจะไร้ความหมาย
ฟิสิกส์อาจจะไม่ช่วยอะไรเราได้เลย...
แม้แต่"กฏธรรมชาติ"ก็ตาม...

ด้วยความสงสัย...ผู้ที่ไม่เชื่อใจพระเจ้านั้น
เวลาเขาทุกข์ทรมานกายและใจ เขาหันไปหาสิ่งใดกัน...

ในเมื่อเขาไม่เคยคิดถึงพระเจ้า...แล้วอัลลอฮฺจะคิดถึงเขาไหม
หรือพระองค์จะอยู่ไกลจากเขา จนเขาไม่อาจสัมผัส
ถึงความเมตตาและความรักจากพระองค์ได้...
ถึงได้ปฏิเสธถึงการมีอยู่ของพระองค์ขนาดนั้น...

...บางทีข้าน้อยก็แอบคิดว่า...


บางครั้ง...สติปัญญาก็ไม่นำพาให้มนุษย์(บางคน)
ได้รู้จักพระเจ้า...

ทางนำหรือฮิดายะฮฺเป็นของอัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว
โดยแท้จริง...

วัสลามค่ะ...

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ BasemDeen

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 260
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
0
บังเอิญที่ เอกภพ ประกอบด้วย กาแล็กซี่ มากมาย อยู่กันอย่างเป็นระบบ
บังเอิญที่ กาแล็กซี่ ประกอบด้วยดวงดาวต่างๆ ซึ่งเคลื่อนที่เป็นวงรีรอบๆดวงอาทิตย์ อย่างเป็นระบบ
บังเอิญที่ โลกของเราอยู่ห่างดวงอาทิตย์ในระยะที่พอดี ทำให้ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป
บังเอิญที่ โลกของเรามีดวงจันทร์เป็นดาวบริวาน ที่เคลื่อนที่รอบโลกของเรา อย่างมีระบบ ซึงทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลง
บังเอิญที่ โลกเราหมุนรอบตัวเองไปพร้อมๆกับการโคจรรอบดวงอาทิต์ ทำให้เกิดกลางวันกลางคืน และฤดูการต่างๆ
บังเอิญที่ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายถือกำเนิดมาบนโลก และต่างพึ่งพาอาศัยกันอย่างเป็นระบบ
บังเอิญที่ มนุษย์กำเนิดมา และมีอวัยวะต่างๆ ซึ่งทำงานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ
บังเอิญที่ อวัยวะต่างๆเกิดมาจากการรวมตัวกันของ ของเข็งและของเหลว แล้วทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ
บังเอิญที่ ของแข็งและของเหลวต่างๆ ซึ่งทั้งสอง ต่างเกิดมาจากการรวมตัวของสสารต่างๆ อย่างมีระบบ
บังเอิญที่ สสารต่างๆ เกิดจากการรวมตัวกันของโมเลกุลต่างๆที่มีแรงยึดเหนี่ยวต่อกัน อย่างมีระบบ
บังเอิญที่ โมเลกุลต่างๆ เกิดจากการรวมตัวกันของธาตุต่าง ด้วยพันธะชนิดต่างๆ อย่างมีระบบ
บังเอิญที่ ธาตุต่าง เกิดจากการรวมตวกันของ นิวตรอน โปรตอน และอิเล็กตรอน โดยที่นิวตรอนกับโปรตอนรวมตัวอยู่ตรงกลาง ส่วนอิเล็กตรอน เคลื่อนที่ เป็นวงรี เป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีพลังงานไม่เท่ากัน อย่างเป็นระบบ
ช่างบังเอิญซะเหลือเกินนะ boulay:

 

GoogleTagged