ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 16 อันนะหฺลุ  (อ่าน 4470 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 54 - 59


คำแปล R1.
54. Then, when He has removed the harm from you, behold! Some of you associate others in worship with their Lord (Allah).
55. So (as a result of that) they deny (with ungratefulness) that (Allah's Favours) which we have bestowed on them! Then enjoy yourselves (your short stay), but you will come to know (with regrets).
56. And they assign a portion of that which we have provided them unto what they know not (false deities). By Allah, you shall certainly be questioned about (all) that you used to fabricate.
57. And they assign daughters unto Allah! Glorified (and exalted) be He above all that they associate with him! . And unto themselves what they desire;
58. And when the news of (the birth of) a female (child) is brought to any of them, his face becomes dark, and he is filled with inward grief!
59. He hides himself from the people because of the evil of that whereof he has been informed. Shall he keep her with dishonour or bury her in the earth ? Certainly, evil is their decision.


คำแปล R2.
54. หลังจากนั้นเพื่อเภทภัยนั้นได้คลี่คลายไปจากพวกเจ้าแล้ว พลันก็มีคนกลุ่มหนึ่งจากพวกเจ้า ตั้งภาคีต่อองค์อภิบาลของพวกเขา
55. เพื่อพวกเขาจะได้อกตัญญูต่อสิ่งที่เราได้มอบแก่พวกเขา ดังนั้นพวกเจ้าจงเสพสุขเถิด ในไม่ช้าพวกเจ้าจะได้รู้ (ถุงโทษทัณฑ์ที่อัลเลาะฮฺจะทรงให้อุบัติขึ้น)
56. และพวกเขาได้นำส่วนได้บางส่วนที่เราได้ให้โชคผลแก่พวกเขาไปเซ่นสังเวยต่อ (เทวรูปและเจว็ดต่าง ๆ อันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่รู้) ขอสาบานต่ออัลเลาะฮฺ! พวกเจ้าจะต้องถูกสอบสวนถึงสิ่งที่พวกเจ้าได้เคยกุความเท็จไว้เป็นแน่
57. และพวกเขาถือว่ามี (มลาอิกะฮฺเป็น) บุตรหญิงสำหรับอัลเลาะฮฺ พระองค์ทรงบริสุทธิ์ยิ่งนัก! แต่พวกเขากลับถือเอาสิ่งที่พวกเขาพิสมัย (คือมีบุตรชาย) เป็นของพวกเขาเอง
58. และเมื่อคนใดของพวกเขาได้รับข่าวด้วย(การมี)บุตรหญิง ใบหน้าของเขาก็หมองคล้ำตลอดเวลา(ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ)และเขาต้องกล้ำกลืนความโศกเศร้าไว้
59. เขาปิดเร้าต่อกลุ่มชนทั้งหลาย (ไม่อยากให้ใครรู้) เนื่องมาจากได้รับแจ้งข่าว (การได้บุตรหญิงที่เขาถือเป็นความเลว)ร้าย เขา(คิดว่า)จะเลี้ยงไว้อย่างอดสู หรือเขาจะฝังดินทั้งเป็น พึงสังวร! สิ่งที่พวกเขาตัดสินนั้นเลวทรามยิ่งนัก

 
คำแปล R3.
54. แต่เมื่อพระองค์บรรเทาความทุกข์ร้อนให้แก่สูเจ้าได้ไม่ทันไร ส่วนหนึ่งของสูเจ้าก็เริ่มเอาสิ่งอื่นมาเป็นภาคีร่วมกับพระองค์ (ในความขอบคุณต่อความโปรดปรานนี้)
55. เพื่อแสดงความเนรคุณต่อสิ่งที่เราได้ประทานแก่พวกเขา เอาเถอะ สูเจ้าจงรื่นเริงไป เพราะในไม่ช้าสูเจ้าจะได้รู้ (ผลที่จะติดตามมา)
56. คนเหล่านี้ได้เอาส่วนแบ่งจากปัจจัยที่เราได้ประทานให้แก่เขาไปให้แก่ผู้ที่พวกเขาไม่รู้อะไรเลย สาบานด้วยอัลลอฮฺได้เลยว่าสูเจ้าจะต้องถูกเรียกไปสอบสวนเกี่ยวกับความเท็จที่สูเจ้าได้กุขึ้นอย่างแน่นอน
57. พวกเขาแต่งตั้งธิดาให้อัลลอฮฺ มหาบริสุทธิ์ยิ่งคืออัลลอฮฺ สำหรับพวกเขาเองนั้น พวกเขาอยากจะมีในสิ่งที่พวกเขาต้องการ
58. เมื่อผู้ใดในหมู่พวกเขา ได้รับแจ้งข่าวถึงการได้ลูกสาว ใบหน้าของเขาก็จะหมองคล้ำและเขาต้องกล้ำกลืนความขมขื่นเอาไว้
59. เขาจะซ่อนตัวเองจากผู้คนเพราะความอัปยศเพราะข่าวนี้ และถามตัวเขาเองว่า เขาจะทนทุกข์ต่อลูกสาวของเขาด้วยความอัปยศหรือฝังลูกสาวทั้งเป็น ช่างเป็นการตัดสินอันชั่วร้ายของพวกเขาเกี่ยวกับอัลลอฮฺ


คำแปล R4.
54. แล้วเมื่อพระองค์ทรงปลดเปลื้องความทุกข์ยากออกจากพวกเจ้า ขณะนั้นกลุ่มหนึ่งจากพวกเจ้าก็จะตั้งภาคีต่อพระเจ้าของพวกเขา
55. ก็ให้พวกเขาเนรคุณต่อสิ่งที่เราได้ให้แก่พวกเขา ดังนั้นจงร่าเริงไปเถิด แล้วพวกเจ้าก็จะรู้
56. และพวกเขาตั้งสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ (ให้เป็นเจว็ด) อันเป็นส่วนได้จากสิ่งที่เราได้ให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา ขอสาบานต่ออัลลอฮฺพวกเจ้าจะถูกสอบสวนอย่างแน่นอน เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเจ้ากุขึ้น
57. และพวกเขาตั้งบุตรีให้แก่อัลลอฮฺ มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ และสำหรับพวกเขามีสิ่งที่พวกเขาใคร่จะมี(บุตรชาย)
58. และเมื่อผู้ใดในหมู่พวกเขาได้รับข่าวว่าได้ลูกผู้หญิง ใบหน้าของเขากลายเป็นหมองคล้ำและเศร้าสลด
59. เขาจะซ่อนตัวเองจากกลุ่มชน เนื่องจากความอับอายที่ได้ถูกแจ้งแก่เขา เขาจะเก็บเอาไว้ด้วยความอัปยศหรือฝังมันในดิน พึงรู้เถิด ! สิ่งที่พวกเขาตัดสินใจนั้นมันชั่วแท้ ๆ


คำแปล R5.
๕๔. ครั้นเมื่อพระองค์ทรงให้ภัยนั้นอันตรธานไปจากพวกเจ้าโดยฉับพลัน คณะหนึ่งในหมู่พวกเจ้าก็จะยึดถือเทวรูปเป็นคู่ภาคีในองค์อภิบาลแห่งพวกเขาเสียเลยในบัดนั้น
๕๕. โอ้มุฮำมัดจงกล่าวเถิดแก่ชนคณะนั้นว่า “ปล่อยให้พวกเขาเนรคุณต่อพระกรุณาธิคุณใด ๆ ที่เรา(อัลเลาะห์) ได้มอบแก่พวกเขาเถิด” พวกเจ้าจงรื่นรมย์อยู่กับการมั่วสุมกันเคารพบูชาเหล่าเทวรูป ต่อไปเถิด แล้วในกาลต่อไป พวกเจ้าย่อมจะทราบดีถึงผลในที่สุดของดารเนรคุณว่าเป็นประการใด
๕๖. พวกเขา(กาฟิรผู้ถือภาคี) ได้ถือเอาส่วนที่เรา (อัลเลาะห์) มอบให้แก่พวกเขา อาทิเช่น พืชพันธุ์ อูฐ โค แพะ และแกะ เป็นกรรมสิทธิ์ของเหล่าเทวรูปที่ไม่รู้อะไร ไม่สามารถก่อภัยอันตรายหรือก่อคุณประโยชน์ได้ ทั้งพวกเขากล่าวว่าส่วนนี้คือกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะห์ และส่วนนั้นเป็นของเหล่าเทวรูป ขอปฏิญาณโดยพระนามแห่งอัลเลาะห์ พวกเจ้าจักถูกสอบสวนถึงสิ่งที่พวกเจ้าเคยกล่าวเท็จมาแล้ว ด้วยคำอ้างที่ว่า “พระองค์ทรงให้พวกเขาแจกแจงบุญคุณอันมีต่อพวกเขาเป็นสอง คือส่วนหนึ่งเป็นบุญคุณมาแต่อัลเลาะห์ และอีกส่วนหนึ่งมาแต่เทวรูป”
๕๗. ทั้งพวกเขา(กาฟิรผู้ถือภาคี) ยังถือว่าอัลเลาะห์มี มลาอิกะห์เป็นบุตรี มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ ผู้ปราศไร้ซึ่งคุณลักษณะอันมัวหมองด้วยการมีบุตร ส่วนเพศชายที่พวกเขารักชอบ ก็ชอบจะให้เป็นลูกของพวกเขา พวกเขาเพียงจะเจาะจงเอาสิ่งที่เลิศยิ่งให้เป็นของพวกตนเท่านั้น
๕๘. และเมื่อคนใดในหมู่พวกเขาได้รับแจ้งให้ทราบด้วยการเกิดบุตรหญิงใบหน้าของผู้นั้นจะเผือดซีดเป็นดำเต็มไปด้วยความหมองเศร้า ใยเล่าพวกเขาจึงต้องถูกพาดพิงเพศหญิงไปที่อัลเลาะห์ ทั้งนี้เพราะพวกเขาต้องการเหยียดหยามพระองค์
๕๙. ผู้นั้นจะปกปิดกลุ่มชนมิให้ล่วงรู้ในความอัปมงคลแห่งเรื่องที่เขาได้รับแจ้งด้วยกลัวถูกตำหนิ เขาผู้นั้นลังเลใจว่าจะครองเอาไว้เลี้ยงดูให้ระกำใจหรือว่าจะฝังมัน(ข่าวอัปมงคลเกี่ยวกับการได้ลูกเป็นหญิง) ลงดินทั้งเป็น ๆ เสียเลย ระวังนะ เรื่องที่เขาตัดสินด้วยการกล่าวพาดพิงความเลวร้ายถึงอัลเลาะห์องค์ทรงสร้างพวกเขาเองนั้น ชั่วช้ายิ่งนัก พระองค์ทรงเป็นผู้เลิศล้นเกินกว่าจะต้องมีบุตรเป็นชายและเป็นหญิง


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 60 - 62


 คำแปล R1.
60. For those who believe not in the Hereafter is an evil description, and for Allah is the highest description. And He is the All-Mighty, the All-Wise.
61. And if Allah were to seize mankind for their wrong-doing, He would not leave on it (the earth) a single moving (living) creature, but He postpones them for an appointed term and when their term comes, neither can they delay nor can they advance it an hour (or a moment).
62. They assign to Allah that which they dislike (for themselves), and their tongues assert the falsehood that the better things will be theirs. No doubt for them is the Fire, and they will be the first to be hastened on into it, and left there neglected. (Tafsir Al-Qurtubi, Vol.10, Page 121)


คำแปล R2.
60. ย่อมได้แก่บรรดาผู้ไม่ศรัทธาในโลกหน้าลักษณธแห่งความเลวร้ายนั้น และสำหรับอัลเลาะฮฺ ย่อมทรงคุณลักษณะอันสูงส่งที่สุด และพระองค์ทรงอำนาจยิ่ง อีกทั้งทรงปรีชาญาณยิ่ง
61. และมาดแม้นอัลเลาะฮฺทรงลงโทษมวลมนุษย์เพราะความฉ้อฉลของพวกเขาแล้วไซร้ แน่นอนที่สุด พระองค์จะไม่ให้มีสัตว์เหลืออยู่สักตัวเดียวบนพื้นพิภพ แต่ทว่าพระองค์ทรงประวิงพวกเขาไว้จนถึงวาระที่ถูกกำหนดไว้ ดังนั้นเมื่อถึงวาระนั้นของพวกเขา พวกเขาก็ไม่อาจขอให้ล่าช้า(หลังกำหนด) และขอให้ล่วงหน้า (ก่อนกำหนด)สักเพียงยามเดียวก็ตาม
62. และพวกเขาอุปโลกน์สิ่งที่พวกเขารังเกียจ(คือการมีบุตรหญิง)แด่อัลเลาะฮฺ และลิ้นของพวกเขาพรรณาเท็จว่า แท้จริงพวกเขามีสิ่งที่ดีงามยิ่ง ไม่มีข้อกังขาใด ๆ ทั้งสิ้น พวกเขาต้องได้นรก (เป็นสิ่งตอบแทน) และแท้จริงพวกเขาถูกรีบรุด(ไปสู่การลงนรกนั้น)


คำแปล R3.
60. ลักษณะที่เลวนั้นควรจะนำไปให้แก่บรรดาผู้ไม่ศรัทธาในโลกหน้า ส่วนอัลลอฮฺนั้น ความประเสริฐทั้งหลายเป็นของพระองค์ เพราะพระองค์คือผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ
61. ถ้าหากอัลลอฮฺจะทรงเอาโทษมนุษย์โดยทันทีที่พวกเขาฝ่าฝืน พระองค์ก็จะไม่ทรงให้สิ่งมีชีวิตใด ๆ หลงเหลือไว้บนแผ่นดิน แต่พระองค์ได้ทรงให้เวลาพวกเขาทั้งหมดไว้ชั่วระยะที่กำหนดให้ เมื่อเวลานั้นมาถึงพวกเขาจะหน่วงเหนี่ยวหรือเร่งมันก็ไม่ได้แม้แต่ชั่วขณะเดียว
62. พวกเขาป้ายร้ายต่ออัลลอฮฺในสิ่งที่พวกเขาเองก็ไม่ชอบ และลิ้นของพวกเขาก็กล่าวคำโกหกว่าสิ่งที่พวกเขาได้รับคือสิ่งที่ดีเยี่ยม ไม่เลย สิ่งเดียวเท่านั้นที่รอคอยพวกเขาอยู่ ก็คือไฟนรกที่พวกเขาถูกเร่งโยนเข้าไป


คำแปล R4.
60. สำหรับบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อวันปรโลกเป็นตัวอย่างที่ชั่ว และสำหรับอัลลอฮฺมีตัวอย่างอันสูงส่ง และพระองค์คือผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ
61. และหากอัลลอฮฺจะทรงเอาโทษมนุษย์เนื่องจากความอธรรมของพวกเขา พระองค์จะไม่ทรงให้เหลือทิ้งไว้บนมัน (แผ่นดิน) ซึ่งสัตว์โลกใด ๆ แต่พระองค์ทรงประวิงเวลาให้แก่พวกเขาได้มาถึง พวกเขาจะประวิงเวลาให้ช้าสักชั่วโมงหนึ่งก็ไม่ได้ และพวกเขาจะเร่งให้เร็ว (สักชั่วโมงหนึ่ง) ก็ไม่ได้
62. และพวกเขาตั้งสิ่งที่พวกเขาชิงชังให้อัลลอฮฺ และลิ้นของพวกเขากล่าวเท็จขึ้นว่า สำหรับพวกเขานั้นดีเยี่ยม โดยแน่นนอ แท้จริงสำหรับพวกเขาคือไฟนรก และพวกเขาจะถูกส่งล่วงหน้าไปก่อน


คำแปล R5.
๖๐. ลักษณะอันน่าเกลียดคือการฝังลูกทั้งเป็น ๆ โดยที่ตนเองก็ยังต้องการหญิงไว้เป็นคู่ครองนั้นย่อมมีแก่บรรดาชนผู้ไร้ศรัทธาต่อวันปรภพเท่านั้น แต่คุณธรรมอันสูงสุด มีอยู่ ณ อัลเลาะห์ พระองค์ผู้ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอันได้รับความเคารพสักการะโดยเที่ยงแท้ในภาคภพนี้ นอกจากพระองค์เท่านั้น ด้วยว่าพระองค์นั้นทรงเป็นองค์อิทธิฤทธิ์ยิ่งในการปกครอง ทรงประณีตยิ่งในกิจการทั้งปวงของพระองค์
๖๑. ถ้าอัลเลาะห์ทรงเอาโทษเหล่ามนุษย์ฐานที่ทรยศแล้วไซร้ พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้มีสัตว์สักตัว ณ หน้าแผ่นดินเลย แต่พระองค์จะทรงประวิงการเอาโทษพวกมนุษย์นั้นไว้จนถึงเวลาอันกำหนดแน่นอน เมื่อกาลกำหนดแห่งพวกนั้นมีขึ้นแล้ว พวกนั้นย่อมไม่อาจขอประวิงและไม่อาจชิงกาลล่วงหน้าได้เลย
๖๒. และพวกเหล่านั้นที่เป็นชนกาฟิรจะเอาผู้ที่ตนเกลียดชังอันได้แก่ลูกผู้หญิงผู้มีความเท่าเทียมและเหล่าพระศาสนทูตให้เป็นของอัลเลาะห์ กล่าวคือชนกาฟิรเหล่านี้ต่างเกลียดชังลูกผู้หญิง ก็ยกเอาผู้หญิงไปเกี่ยวข้องกับอัลเลาะห์ เช่น กล่าวว่ามลาอิกะห์คือบุตรีของอัลเลาะห์ และเกลียดความมีผู้มาเท่าเทียมพวกตนไม่ว่าจะในด้านใด ก็เอาความเท่าเทียมไปเกี่ยวกับอัลเลาะห์ โดยการกราบสักการะเหล่าเทวรูปเป็นภาคีกับพระองค์ และยังเกลียดชังศาสนทูตทุกท่าน จึงกล่าวว่าพระศาสนทูตทุกท่านเป็นศาสนทูตของอัลเลาะห์ แล้วลิ้นของพวกกาฟิรนั้นจะพรรณนาเป็นเท็จว่าสรวงสวรรค์นั้นย่อมได้แก่พวกตน ทั้งนี้เพราะพวกตนเกลียดชังทั้งสามที่กล่าว อัลเลาะห์ตรัสว่า แน่นอนทีเดียว พวกกาฟิรนั้นได้สู่ขุมนรกและเป็นผู้ถูกขังลืมอยู่ในขุมนรกนั้นอีกด้วย


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 63 - 65



คำแปล R1.
63. By Allah, we indeed sent (Messengers) to the nations before you (O Muhammad), but Shaitan (Satan) made their deeds fair-seeming to them. So he (Satan) is their Wali (helper) today (i.e. in this world), and theirs will be a painful torment.
64. And we have not sent down the Book (the Qur'an) to you (O Muhammad), except that you may explain clearly unto them those things in which they differ, and (as) a guidance and a mercy for a folk who believe.
65. And Allah sends down water (rain) from the sky, then He revives the earth therewith after its death. Verily, in this is a sign (clear proof) for people who listen (obey Allah).


คำแปล R2.
63. ขอสาบานต่ออัลเลาะฮฺ! แท้จริงเราได้แต่งตั้งศาสนทูตมายังประชาชาติต่าง    ก่อนหน้าเจ้า แต่แล้วมารร้ายก็ทำการประดับแก่พวกเขา(ให้เห็นงามไปกับ)ความประพฤติทั้งหลายของพวกเขาเอง ดังนั้นมันจึงเป็นผู้ปกครองพวกเขาในวันนี้ และพวกเขาต้องได้รับการลงโฑทษอันสาหัสยิ่ง
64. และเรามิได้ส่งคัมภีร์(อัลกุรอาน)มายังเจ้า(เพื่อประสงค์อื่นใดทั้งสิ้น)นอกจากเพื่อเจ้าได้ชี้แจงแก่พวกเขาในสิ่งที่พวกเขาพิพาทกัน อีกทั้งเป็นสิ่งนำทาง และเป็นเมตตาธรรมแก่กลุ่มชนที่มีเมตตาทั้งหลาย
65. และอัลเลาะฮฺทรงหลั่งน้ำฝนให้ลงมาจากฟากฟ้าและพระองค์ก็ชุบชีวิตแก่แผ่นดินด้วยน้ำฝนนั้น ภายหลังจากมันได้ตาย(แห้งแล้งมาก่อน) แท้จริงในนั้น ย่อมเป็นสัญลักษณ์(เตือนใจ)แก่กลุ่มชนที่รับฟัง(คำเตือน)


คำแปล R3.
63. (โอ้ มุฮัมมัด) สาบานด้วยอัลลอฮฺเลยว่า เราได้ส่งบรรดารอซูลมายังประชาชาติต่าง ๆ ก่อนหน้าเจ้า (และมันมักจะเป็นเช่นนี้เสมอ เพื่อที่ว่า) มารร้ายได้ทำให้การงานที่ชั่วร้ายของพวกเขาดูเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขา (ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เชื่อในสัจธรรม) และวันนี้ มารร้ายอีกเช่นกันที่ได้กลายเป็นผู้คุ้มครองพวกเขา และพวยกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บปวด
64. เราได้ประทานคัมภีร์นี้ลงมาแก่เจ้า เพื่อที่เจ้าจะได้เปิดเผยความจริง ของสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกัน ยิ่งไปกว่านั้น คัมภีร์นี้ได้ถูกประทานลงมาเป็นทางนำและเป็นความเมตตาแก่บรรดาผู้ศรัทธาในมัน
65. (ในทุก ๆ ฤดูฝน สูเจ้าจะเห็นว่า) อัลลอฮฺได้ทรงประทานน้ำลงมาจากฟากฟ้า และโดยฝนนี้เองที่ทำให้แผ่นดินมีชีวิตขึ้นหลังจากที่มันได้ตายไป แท้จริงแล้ว ในนั้นมีสัญญาณสำหรับบรรดาผู้ฟัง (สาส์นแห่งสัจธรรม)


คำแปล R4.
63. ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ โดยแน่นอนเราได้ส่ง(บรรดารอซูล) ไปยังประชาชาติต่าง ๆ ก่อนเจ้า แล้วชัยฏอนได้ทำให้การงานของพวกเขาเพริศแพร้วแก่พวกเขา ดังนั้น มันเป็นผู้คุ้มครองพวกเขาในวันนี้  และสำหรับพวกเขาคือการลงโทษอันเจ็บปวด
64. และเรามิได้ให้คัมภีร์นี้ลงมาแก่เจ้า เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อให้เจ้าชี้แจง ให้แจ่มแจ้งแก่พวกเขาในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกัน และเพื่อเป็นการชี้แนวทางและเป็นความเมตตาแก่หมู่ชนผู้ศรัทธา
65. และอัลลอฮฺทรงประทานน้ำลงมาจากฟากฟ้า เพื่อให้แผ่นดินมีชีวิตด้วยมัน หลังจากการแห้งแล้งของมัน แท้จริงในการนี้ แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณแก่กลุ่มชนผู้รับฟัง (การตักเตือนเพื่อนำมาใคร่ครวญ)


คำแปล R5.
๖๓. ขอให้สัจปฏิญาณโดยพระนามแห่งอัลเลาะห์ แท้จริงในสมัยก่อนจากเจ้านั้น เรา(อัลเลาะห์) ก็ได้แต่งตั้งศาสนทูตขึ้นท่ามกลางประชากรแล้ว แต่ไชตอนก็ทำให้พวกประชากรเหล่านั้นเห็นความประพฤติอันชั่วเลวของตนงดงาม มัน(ไชตอน) เป็นผู้คุ้มครองพวกเหล่านั้น มันมีแต่กระทำให้ปวงชนต้องหลงงมงายอยู่ในภาคพิภพนี้ หามีผู้ใดเป็นผู้คุ้มกันให้รอดพ้นการลงทัณฑ์จากพระองค์ไม่ ส่วนผู้ที่นอกจากอัลเลาะห์แล้วมีแต่ผู้หย่อนความสามารถที่แม้กระทั่งจะช่วยตัวเองก็มิได้ นับประสาอะไรกับการช่วยเหลือพวกเหล่านั้นและพวกเหล่านั้นย่อมได้รับโทษอันเจ็บแสบ ในภาคภพหน้า
อัลเลาะห์ทรงปลอบโยนพระศาสดามุฮำมัดให้มีความอดทนและให้คลายความเศร้าโศกที่ได้รับอยู่และลงท้ายด้วยการแต่งตั้งมุฮำมัด ซล. ให้เป็นศาสนทูตเพียงเพื่อประกาศศาสนาไปให้ทั่วถึงและเพื่อแจ้งสัจธรรมว่า
๖๔. เรา(อัลเลาะห์) มิได้มอบพระคัมภีร์อัล-กุรอานลงมายังเจ้าเพื่ออะไรนอกจากเจ้าจะได้ชี้แจงหลักศาสนาแก่เหล่ามนุษย์ผู้ซึ่งมีความขัดแย้งกันในเรื่องศาสนาเท่านั้น เพื่อเป็นแนวธรรมและเป็นความปรานีแก่เหล่าชนผู้มีศรัทธา
๖๕. ฝ่ายอัลเลาะห์ทรงหลั่งน้ำ ฝนลงจากฟากฟ้า พระองค์ทรงให้แผ่นดินชุ่มชื้นขึ้นด้วยน้ำหลังจากมันแห้งแล้ง แน่แท้ในการที่กล่าวนี้เป็นสัญญาณแสดงถึงพลานุภาพของพระองค์ในการให้ชีวิตเกิดขึ้นใหม่จากสุสานได้แก่เหล่าชนผู้สดับฟังอย่างตรึกตรองและน้อมรับ


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 66 - 69



คำแปล R1.
66. And verily! In the cattle, there is a lesson for you. We give you to drink of that which is in their bellies, from between excretions and blood, pure milk; palatable to the drinkers.
67. And from the fruits of date-palms and grapes, you derive strong drink (this was before the order of the prohibition of the alcoholic drinks) and a goodly provision. Verily, therein is indeed a sign for people who have wisdom.
68. And your Lord inspired the bee, saying: "Take you habitations in the mountains and in the trees and in what they erect.
69. "Then, eat of all fruits, and follow the ways of your Lord made easy (for you)." there comes forth from their bellies, a drink of varying colour wherein is healing for men. Verily, in this is indeed a sign for people who think.


คำแปล R2.
66. และแท้จริง ในปศุสัตว์ทั้งหลายย่อมมีข้อเตือนสติแก่พวกเจ้าทั้งหลาย(นั่นคือ) เราให้พวกเจ้าได้ดื่มน้ำนมที่มีอยู่ในท้องของมันซึ่งกลั่นมาจากกากอาหารและเลือดเป็นนมบริสุทธิ์ที่ดื่มได้ง่ายสำหรับบรรดาผู้ดื่มทั้งหลาย
67. และบางส่วนจากผลของต้นอินทผลัมและต้นองุ่น พวกเจ้าทำน้ำเมามาจากมันและทำเป็นปัจจัยยังชีพที่ดี แท้จริงในนั้นย่อมเป็นสัญลักษณ์(เตือนใจ)สำหรับกลุ่มชนผู้ใช้ปัญญา
68. และองค์อภิบาลของเจ้าได้ดลกระแสโองการไปยังผึ้งว่า “เจ้าจงทำรังตามภูเขา, ตามต้นไม้, และตามร้าน(ต้นไม้)ที่พวกเขา(มนุษย์)ทำขึ้น
69. หลังจากนั้นเจ้าจงกินผลไม้ทุกชนิดแล้วเจ้าจงเดินไปตามทาง(ธรรมชาติขององค์อภิบาลของเจ้า)ที่ถูกอำนวยแก่เจ้า(เพื่อเสาะหาเกสรดอกไม้กลั่นเป็นอาหารผลิตเป็นน้ำผึ้งต่อไป)มี(น้ำผึ้งที่เป็น)เครื่องดื่มออกมาจากท้องของมัน สีของมันผิดแผกกัน ในนั้นมีตัวยาบำบัดสำหรับมวลมนุษย์ แท้จริงในนั้นย่อมเป็นสัญลักษณ์(เตือนใจ)สำหรับกลุ่มชนที่ตรึกตรอง


คำแปล R3.
66. และแน่นอนมีบทเรียนสำหรับสูเจ้าในปศุสัตว์ เราได้ให้สูเจ้าดื่มสิ่งที่อยู่ในท้องของมันระหว่างมูลและเลือด นั่นคือนมบริสุทธิ์ที่สดชื่อสำหรับผู้ดื่มมัน
67. (ในทำนองเดียวกัน) เราได้ให้เครื่องแก่สูเจ้าจากอินทผลัมและองุ่น ซึ่งสูเจ้าเอามาทำของมึนเมาและอาหารที่บริสุทธิ์ แท้จริงในนั้นมีสัญญาณสำหรับบรรดาผู้ใช้สติปัญญา
68. (และจงรู้ไว้ว่า) พระผู้อภิบาลของสูเจ้าได้ทรงวะฮีย์แก่ผึ้งว่า “จงสร้างรังของพวกเจ้าตามภูเขา ต้นไม้และร้านที่ก่อขึ้น
69. แล้วจงดื่มน้ำหวานจากผลไม้ทุกชนิดและปฏิบัติตามทางที่พระผู้อภิบาลของสูเจ้าได้ทำไว้ให้ราบรื่น” จากท้องของมันจะมีของเหลวหลากกลิ่นสีออกมาซึ่งในนั้นเป็นสิ่งบำบัดโรคสำหรับมนุษย์ แท้จริงแล้ว นี่เป็นสัญญาณสำหรับหมู่ชนที่ไตร่ตรอง


คำแปล R4.
66. และแท้จริงในปศุสัตว์ย่อมมีบทเรียนอย่างแน่นอนแก่พวกเจ้า เราให้พวกเจ้าดื่มจากสิ่งที่อยู่ในท้องของมัน จากระหว่างมูลและเลือดเป็นน้ำนมบริสุทธิ์ เป็นที่โอชาแก่ผู้ดื่ม
67. และจากผลของต้นอินทผลัมและองุ่นพวกเจ้าได้จากมันมาเป็นทั้งของมึนเมา และอาหารที่ดี แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณแก่กลุ่มชนผู้ใช้ปัญญา
68. และพระเจ้าของเจ้า ทรงดลใจแก่ผึ้งว่าจงทำรังตามภูเขาและตามต้นไม้ และตามที่พวกเขาทำร้านขึ้น
69. แล้วเจ้า (ผึ้ง) จงกินจากผลไม้ทั้งหลาย แล้วจงดำเนินตามทางของพระเจ้าของเจ้า โดยสะดวกสบาย มีเครื่องดื่มที่มีสีสรรต่าง ๆ ออกมาจากท้องของมัน ในนั้นมีสิ่งบำบัดแก่ปวงมนุษย์แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณแก่กลุ่มชนผู้ตรึกตรอง


คำแปล R5.
๖๖. และแน่แท้ ในเหล่าปศุสัตว์อันมีอูฐ โค แพะ และแกะนั้น ย่อมเป็นคติที่น่านึกคิด เรา(อัลเลาะห์) ให้พวกเจ้าได้นมบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในท้องของมัน อันเกิดในที่ระหว่างมูลและเลือด เพื่อให้สะดวกและคล่องแก่ผู้ดื่ม
๖๗. และจากส่วนที่เป็นผลไม้อันมีอินทผลัมและองุ่นที่พวกเจ้าจะผลิตเป็นสุราได้และเป็นอาหารได้อย่างดี เช่น อินทผลัมและองุ่นแห้ง แม้กระทั่งผลิตผลไม้ทั้งสองนั้นเป็นน้ำส้มก็ได้ แน่แท้ในประการที่กล่าวนี้เป็นสัญญาณแสดงถึงพลานุภาพของพระองค์สำหรับปวงชนผู้ใช้ปัญญา
๖๘. โอ้มุฮำมัด องค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้าทรงดลให้ผึ้งมีเชาว์ ทรงสั่งว่า ผึ้งป่าเอ๋ย เจ้าจงทำรังอยู่ ณ ภูเขาและต้นไม้เถิด ผึ้งบ้านเอ๋ย เจ้าจงทำรังอยู่ ณ ที่ซึ่งพวกเขา(มนุษย์) มีสำรองไว้ แม้นว่าพระองค์มิได้ทรงบันดาลให้เหล่าผึ้งมีเชาว์ สามารถรู้แล้วไซร้แน่นอน เหล่าผึ้งไม่อาจอยู่ที่ทั้ง ๓ แห่งดังกล่าวได้
๖๙. แล้วเจ้า(ผึ้ง) จงกินผลไม้แต่ละอย่าง แล้วจงเดินทางไปที่ ๆ กำหนดแห่งองค์พระผู้อภิบาลของเจ้าเพื่อเสาะหาแห่งอาหาร ทั้งเจ้าจักต้องดำเนินตามขั้นงานที่องค์พระผู้อภิบาลของเจ้าทรงมุ่งประสงค์ ดังนั้นแม่ผึ้งจึงได้เฉลี่ยงานกันทำตามภาระหน้าที่ ผึ้งบางส่วนจะผลิตขี้ผึ้งบางส่วนจะผลิตน้ำผึ้ง และบางส่วนจะไปนำเอาน้ำมาใส่รังและอีกบางส่วนจะเป็นฝ่ายสร้างรังจะมีน้ำผึ้งที่หลากสีกันไหลออกจากท้องของมันอันเป็นสิ่งบำบัดสำหรับมนุษย์ ได้ใช้บรรเทาโรคนานาหรือเป็นกระสายยาต่าง ๆ อีกด้วย แน่แท้ในประการที่กล่าวนี้ย่อมเป็นสัญญาณสำหรับปวงชนผู้ตรึกตรองในกิจการทั้งปวงของพระองค์ ผู้ซึ่งใช้ปัญญาตรึกตรองในเรื่องของผึ้งจะได้รับความรู้อันละเอียด สุขุม และพิสดารลึกซึ้ง อันเป็นเครื่องชี้วัดว่ากิจอันประณีตอย่างนี้ต้องมีผู้สร้างซึ่งมีพลานุภาพ สามารถบันดาลและผลักดันให้สัตว์เช่นผึ้ง ทำงานตามกระบวนการอันละเอียดรอบคอบที่สุด


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 70 - 73


คำแปล R1.
70. And Allah has created you and then He will Cause you to die, and of you there are some who are sent back to senility, so that they know nothing after having known (much). Truly! Allah is All-Knowing, All-Powerful.
71. And Allah has preferred some of you above others in wealth and properties. Then, those who are preferred will by no means hand over their wealth and properties to those (slaves) whom their right hands possess, so that they may be equal with them in respect thereof . Do they then deny the Favour of Allah?
72. And Allah has made for you wives of your own kind, and has made for you, from your wives, sons and grandsons, and has bestowed on you good provision. Do they then believe in false deities and deny the Favour of Allah (by not worshipping Allah alone).
73. And they worship others besides Allah, such as do not and cannot own any provision for them from the heavens or the earth.


คำแปล R2.
70. และอัลเลาะฮฺได้บันดาลพวกเจ้าหลังจากนั้นพระองค์ทรงให้พวกเจ้าครบอายุ(ตาย) และบางคนของพวกเจ้าเป็นผู้ที่ถูกส่งคืนไปสู่วัยที่เลวที่สุด (คือวัยชรา ซึ่งเขาเลอะเลือน) จนไม่รู้อะไรสักสิ่ง ภายหลังจากเคยรู้(มาก่อน) แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงรอบรู้ยิ่ง อีกทั้งทรงเดชานุภาพยิ่ง
71. และอัลเลาะฮฺได้โปรดให้พวกเจ้ามีความเลิศเลอแก่บางคนให้เหนือกว่าบางคนในด้านปัจจัยยังชีพ แต่แล้วบรรดาผู้ได้รับความเลิศเลอกลับไม่ยอม(ไม่แบ่งปัน)โชคผลของพวกเขาแก่ทาสที่พวกเขาปกครอง ความจริงแล้วพวก(ทาส)เหล่านั้นมีสิทธิเสมอภาคในเรื่องปัจจัยยังชีพ แล้วพวกเขาจะคัดค้านความโปรดปรานของอัลเลาะฮฺกระนั้นหรือ?
72. และอัลเลาะฮฺได้ทรงบันดาลคู่ครองพวกเจ้าแก่พวกเจ้าจากตัวของพวกเจ้าอเงและทรงบันดาลแด่พวกเจ้าจากบรรดาคู่ครองของพวกเจ้าให้มีลูกและหลาน และทรงประทานปัจจัยยังชีพที่ดีต่าง ๆ แก่พวกเจ้า แล้วพวกเขาจะศรัทธาในสิ่งโมฆะกระนั้นหรือ? และพวกเขาจะอกตัญญูต่อความโปรดปรานของอัลเลาะฮฺกระนั้นหรือ?
73. และพวกเขานมัสการสิ่งอื่นนอกจากอัลเลาะฮฺ อันเป็นสิ่งที่ไม่มีอำนาจให้โชคผลใด ๆ แก่พวกเขาเลยสักสิ่งเดียว ทั้งจากฟากฟ้าและแผ่นดิน และพวกเหล่านั้นไม่สามารถ(จะมีอำนาจนั้นได้เลย)


คำแปล R3.
70. (และจงพิจารณาสิ่งนี้ดู): อัลลอฮฺได้ทรงสร้างสูเจ้าแล้วทรงทำให้สูเจ้าตาย และบางคนในหมู่สูเจ้าได้มีชีวิตยืนยาวมาจนถึงวัยชราในสภาพที่น่าสงสาร ทั้งนี้เพื่อที่ว่าหลังจากมี่รู้อะไรมาหมดแล้ว เขาจะไม่รู้อะไรอีก แท้จริงแล้ว อัลลอฮฺเท่านั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงอานุภาพ
71. (จงพิจารณาสิ่งนี้ดู) อัลลอฮฺได้ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่บางคนเหนือกว่าอีกบางคน แต่บรรดาผู้ได้รับการโปรดปรานเหล่านี้ กลับไม่ให้ปัจจัยยังชีพแก่ทาสของพวกเขา เพื่อที่ทั้งสองฝ่ายจะได้มีความเท่าเทียมกันในด้านปัจจัยยังชีพ ถึงกระนั้นแล้วพวกเขายังปฏิเสธที่จะยอมรับความโปรดปรานของอัลลอฮฺอีกหรือ?
72. อัลลอฮฺเท่านั้นได้ทรงสร้างคู่ครองสำหรับสูเจ้าจากเผ่าพันธุ์ของสูเจ้าเองและพระองค์เท่านั้นที่ทรงประทานลูกและหลานจากภรรยาและได้ทรงประทานปัจจัยยังชีพที่ดีแก่สูเจ้า ถึงกระนั้นแล้วพวกเขายังศรัทธาในความเท็จ และปฏิเสธความโปรดปรานของอัลลอฮฺอีกกระนั้นหรือ?
73. และพวกเขาเคารพสักการะบรรดาผู้ที่ไม่ได้ให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้นได้แทนอัลลอฮฺกระนั้นหรือ?


คำแปล R4.
70. และอัลลอฮฺทรงบังเกิดพวกเจ้า แล้วทรงให้พวกเจ้าตาย และบางคนในหมู่พวกเจ้ามีผู้ถูกนำกลับไปยังวัยต่ำสุดของชีวิต เพื่อมิให้เขารู้อะไรหลังจากที่เคยมีความรู้ แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงอานุภาพ
71. และอัลลอฮฺทรงให้บางคนในหมู่พวกเจ้า ดีเด่นกว่าอีกบางคนในเรื่องปัจจัยยังชีพ แล้วทำไมบรรดาผู้ที่ได้รับความดีเด่น จึงไม่แบ่งปัจจัยยังชีพของพวกเขา แก่บรรดาผู้ที่มือขวาของพวกเขาครอบครอง เพื่อพวกเขาจะได้เท่าเทียมกัน ในเรื่องนั้น ดังนั้น ต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺพวกเขาอกตัญญูกระนั้นหรือ
72. และอัลลอฮฺทรงกำหนดคู่ครองแก่พวกเจ้าซึ่งมาจากหมู่พวกเจ้า และทรงทำให้พวกเจ้ามีลูกและหลานจากคู่ครองของพวกเจ้าและทรงประทานริซกีจากสิ่งดี ๆ แก่พวกเจ้า ดังนั้น ต่อสิ่งเท็จพวกเขาศรัทธาและต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺพวกเขาเนรคุณกระนั้นหรือ
73. และพวกเขาเคารพบูชาอื่นจากอัลลอฮฺคือสิ่งที่ไม่มีอำนาจให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินแต่อย่างใด และพวกมันก็ไม่สามารถกระทำได้


คำแปล R5.
๗๐. อัลเลาะทรงสร้งพวกเจ้าจากเมื่อแรกพวกเจ้ายังมิได้เป็นอะไรเลย ครั้นแล้วพระองค์ทรงปลิดชีพเมื่อสิ้นการอายุขัยของพวกเจ้าแล้ว แต่พวกเจ้าบางคนจะถูกยืดอายุไปจนชรา สติปัญญาก็เสื่อมคลายลง เพื่อผู้นั้นจะกลับสู่สภาพไม่รู้อะไรอีก เหมือนกับสภาพในวัยทารก ซึ่งในยามชราภาพนี้มีแต่ความหลงลืมและมีความทรงจำหย่อนลง แน่แท้อัลเลาะห์ทรงเป็นองค์รู้ยิ่งในกิจทั้งปวงของพระองค์ ทรงยิ่งในพลานุภาพในทุกสิ่งตามที่ทรงมุ่งประสงค์
๗๑. แล้วอัลเลาะห์ทรงให้พวกเจ้าบางพวกประเสริฐกว่าอีกบางพวก อาจเป็นความประเสริฐในทางโภคทรัพย์คือ มีที่ร่ำรวยและมีที่ยากจน และในทางอำนาจ คือมีที่เป็นเสรีชนและมีที่เป็นทาส เป็นต้น ฝ่ายบรรดาที่ถูกยกให้เป็นผู้ประเสริฐ อาทิผู้เป็นนายนั้นจะหยิบยื่นให้พวกทาสผู้อยู่ในปกครองตนได้มีสิทธิ มีส่วนในโภคทรัพย์และสิ่งอื่น ๆ อันเราะ (อัลเลาะห์) ได้มอบไว้เป็นกรรมสิทธิ์สำหรับผู้เป็นนายทาสก็หาไม่ ฉะนั้นพวกกาฟิรผู้ถือภาคีจึงไม่ควรเลยที่จะยกฐานะให้เหล่าเทวรูป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งแห่งข้าทาสของอัลเลาะห์ได้มีส่วนรับการเคารพสักการะ เท่าเทียมอัลเลาะห์ ก็พวกข้าทาสเหล่านั้นจะมีส่วนเสมอกันในการได้สักการะมิได้ ไม่สมควรเลยที่พวกเหล่านั้นผู้เป็นชนกาฟิรถือภาคีจะปฏิเสธในพระกรุณาธิคุณของอัลเลาะห์ โดยการถือคู่ภาคีเท่าเทียมอัลเลาะห์
๗๒. อัลเลาะห์ทรงจัดผู้ซึ่งมาแต่พวกเจ้าเป็นภริยาของพวกเจ้า กล่าวคือพระองค์ทรงสร้างนางเฮาวาอ์จากกระดูซี่โครงข้างซ้ายของอาดำ ทรงสร้างเหล่าหญิงขึ้นจากอสุจิของผู้ชายและผู้หญิง และพระองค์ทรงสร้างทั้งชายและหญิงให้เป็นบุตรหลานของพวกเจ้าจากเหล่าภริยาของพวกเจ้า ทั้งทรงอำนวยโภคลาภอันบริสุทธิ์และมีรสโอชะ ได้แก่ผลไม้ พืชพันธุ์และสัตว์อีกหลายชนิดแก่พวกเจ้าอีกด้วย ฉะนั้นพวกเขายังจะมีศรัทธาต่อเทวรูปอยู่แล้วกลับเนรคุณต่อพระกรุณาธิคุณของอัลเลาะห์ องค์ทรงบันดาลให้มีสิ่งนั้นขึ้นอีกหรือ ? ไม่สมควรเลยที่เขาจะเป็นเช่นนั้น
๗๓. และพวกเหล่านั้นซึ่งเป็นกาฟิรผู้ถือภาคีก็เคารพบูชาผู้อื่นจากอัลเลาะห์ ได้แก่เหล่าเทวรูปอันมันมิได้มีกรรมสิทธิ์ในโภคลาภจากฟากฟ้าซึ่งอำนวยลงมาในรูปน้ำฝน และจากแผ่นดินอันอำนวยในรูปของพืชพันธุ์ที่งอกเงยแต่ประการใดเลย ทั้งมันเหล่านั้น(เทวรูป) ยังไร้ความสามารถไม่ว่าสิ่งใด ๆ ทั้งนั้นอีกด้วย




สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 74 - 76
 

คำแปล R1.
74. So put not forward similitude for Allah (as there is nothing similar to him, nor He resembles anything). Truly! Allah knows and you know not.
75. Allah puts forward the example (of two men a believer and a disbeliever); a slave (disbeliever) under the possession of another, He has no power of any sort, and (the other), a man (believer) on whom we have bestowed a good provision from us, and He spends thereof secretly and openly. Can they be equal? (By no means, not). All the praises and thanks be to Allah. Nay! (But) most of them know not.
76. And Allah puts forward (another) example of two men, one of them dumb, who has no power over anything (disbeliever), and He is a burden to his master, whichever way He directs him, He brings no good. Is such a man equal to one (believer in the Islamic Monotheism) who commands justice, and is himself on a Straight Path?


คำแปล R2.
74. ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายอย่ายกข้อเปรียบเปรยต่าง ๆ แก่อัลเลาะฮฺ แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงรอบรู้แต่พวกเจ้าไม่รู้ (อะไรเลย)
75. อัลเลาะฮฺทรงยกอุทาหรณ์ถึงบ่าวคนหนึ่งที่เป็นทาสซึ่งเขาไม่มีความสามารถในสิ่งใดเลย และผู้หนึ่งซึ่งเราได้มอบโชคผลอันดีจากเราแก่เขาแล้วเขาก็บริจาคบางส่วนของมันทั้งในที่ลับและเปิดเผย ทั้งสองคนนั้นจะเท่าเทียมกันหรือ? อันการสรรเสริญเป็นของอัลเลาะฮฺ! ทว่าพวกเขาส่วนมากไม่รู้
76. และอัลเลาะฮฺได้ยกอุทาหรณ์อีกหนึ่งคือชายสองคน หนึ่งจากทั้งสองนั้นเป็นใบ้ เข่ไม่มีความสามารถในสิ่งใด ๆ และตัวเขาเองนั้นทุก ๆ สิ่งเป็นภาระของนจายทั้งสิ้น ไม่ว่านายจะหันเขาไปทางใด เขาจะไม่นำมาซึ่งความดีเลย แล้วเขาจะทัดเทียมหรือกับบุคคลที่ใช้(ผู้อื่น)ให้ทรงคุณธรรม และเขาอยู่บนแนวทางอันเที่ยงตรง


คำแปล R3.
74. ดังนั้น จงอย่าเปรียบเทียบสิ่งใดกับอัลลอฮฺ แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้ แต่สูเจ้าไม่รู้
75. อัลลอฮฺได้ทรงยกอุปมา (ของชายสองคน): คนหนึ่งเป็นทาสของอีกคนหนึ่ง และไม่มีอำนาจเหนือสิ่งใด ๆ กับอีกคนหนึ่งซึ่งเราได้ประทานปัจจัยที่ดีแก่เขา แล้วเขาได้ใช้จ่ายมันทั้งโดยลับ ๆ และโดยเปิดเผย (จงถามพวกเขาว่า): “ทั้งสองคนนี้เท่าเทียมกันไหม?” บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺ แต่ทว่าคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ (ในสิ่งง่าย ๆ นี้)
76. และอัลลอฮฺได้ทรงยกอุปมาของชายสองคน คนหนึ่งเป็นใบ้หูหนวกและไม่สามารถทำอะไรได้และกลายเป็นภาระแก่นายของเขา ไม่ว่านายจะส่งเขาไปที่ไหน เขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ แต่มีชายอีกคนหนึ่งเป็นผู้สั่งสอนในเรื่องความยุติธรรมและปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง (จงถามพวกเขา): “ทั้งสองคนนี้เหมือนกันกระนั้นหรือ?”


คำแปล R4.
74. ดังนั้น พวกเจ้าอย่ายกอุทาหรณ์ทั้งหลายกับอัลลอฮฺเลย แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงรอบรู้ และพวกเจ้าไม่รู้เท่าพระองค์
75. อัลลอฮฺทรงยกอุทาหรณ์ถึงบ่าวผู้เป็นทาสไม่มีอำนาจในสิ่งใด กับผู้ที่เราได้ให้ปัจจัยยังชีพที่ดีจากเราแก่เขา แล้วก็เขาบริจาคมันโดยทางลับและเปิดเผย พวกเขาจะเท่าเทียมกันละหรือ? บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺ แต่ทว่าส่วนมากของพวกเขาไม่รู้
76. และอัลลอฮฺทรงยกอุทาหรณ์ถึงชายสองคน หนึ่งในสองคนเป็นใบ้ เขาไม่สามารถในสิ่งใด และเขาเป็นภาระแก่นายของเขาอีกด้วยไม่ว่าแห่งใดที่นายจะส่งเขาไป เขาจะไม่นำความดีใด ๆ มาเลยเขาจะเท่าเทียมกับผู้กำชับในทางที่เที่ยงธรรม และเขาอยู่ในทางที่เที่ยงตรงกระนั้นหรือ


คำแปล R5.
๗๔. ดังนั้นพวกเจ้าอย่าได้ชักคู่เทียมขึ้นเทียบอัลเลาะห์ด้วยการแสดงความเคารพสักการะสิ่งนั้น ๆ ที่พวกเจ้ายกขึ้นเทียบอัลเลาะห์เลย ด้วยอัลเลาะห์ทราบอยู่  ว่าหามีอื่นใดเสมอด้วยพระองค์ไม่ แต่พวกเจ้านั้นซิ ไม่รู้เช่นนั้น
๗๕. อัลเลาะห์ทรงยกเป็นข้อเปรียบเทียบสำหรับข้าซึ่งถูกปกครอง ผู้ซึ่งไม่มีความสามารถในสิ่งใดเลย อันได้แก่เทวรูปกับผู้เป็นนายทาส ที่เรา (อัลเลาะห์) อำนวยโภคลาภอันดีแก่เขา แล้วเขาก็เสียสละมัน (โภคลาภ) ไปบ้างทั้งปกปิดและเปิดเผยว่าพวกเขา (ทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายเทวรูปกับฝ่ายพวกนายทาส) นั้นจะเหมือนกันจริงหรือ ? ไม่มีคำตอบเป็นอย่างอื่น นอกจากบอกได้ว่าย่อมไม่เหมือนกันได้เลย อันการสรรเสริญนั้น เป็นสิทธิ์แห่งอัลเลาะห์เพียงพระองค์เดียว ในฐานะที่ทรงแจ้งถึงข้ออันเป็นสัจจริงนำไปสู่ความสัจจริงและในฐานะเจ้าผู้ทรงพระกรุณาธิคุณ พระองค์นั้นทรงสรรเสริญแม้ในองค์แห่งพระองค์เอง ด้วยว่าพระองค์ทรงสิทธิในข้อสรรเสริญทั้งปวง พระองค์ทรงเป็นองค์อำนวยพระกรุณาธิคุณ ทรงประสิทธิ์ประสาทให้เหล่าข้าพระองค์ได้รับอย่างล้นพ้น พระองค์ทรงสร้างและทรงอำนวยซึ่งโภคลาภทั้งปวง หาใช่เหล่าเทวรูปที่ชนกาฟิรผู้ถือภาคีให้ความเคารพบูชาไม่ เนื่องด้วยเทวรูปทั้งหลายทั้งปวงหาได้ทรงสิทธิ์ในคำสรรเสริญใด ๆ ไม่ อย่าว่าแต่กับอื่นใดเลยแม้ในตัวของมันเองก็ไม่มีพละกำลังและปราศไร้แม้กระทั่งคุณความดีอันมีต่อผู้อื่น เทวรูปเหล่านั้นจึงมิได้รับคำสรรเสริญจึงเป็นอันลงความได้แน่ชัดว่ามวลการสรรเสริญนั้นเป็นเอกสิทธิ์สำหรับอัลเลาะห์เท่านั้น มิใช่ของผู้ใด และจำเป็นเหนือทุกคนจักต้องถวายคำสรรเสริญต่อพระองค์ ด้วยว่าพระองค์นั้นทรงเป็นองค์ผู้ได้รับแต่สรรเสริญและคำสดุดีอันวิจิตรงดงาม แต่ทว่าชนเหล่านั้นที่เป็นชาวนครมักกะห์ส่วนมากมิได้ทราบเลยว่าโทษทัณฑ์อันพวกตนจะต้องกลับไปประสบเข้าฐานที่แสดงความเคารพบูชาเหล่าเทวรูป หาใช่อัลเลาะห์ไม่ ทั้งที่หลักฐานยืนยันถึงเอกภาพแห่งพระองค์นั้นมีอยู่อย่างชัดแจ้งและเปิดเผย
๗๖. แล้วอัลเลาะห์ทรงยกเป็นอุปมาถึงชายสองคนว่า คนหนึ่งใบ้มาแต่แรกเกิด ไม่มีความสามารถแต่ประการใดที่จะเข้าใจคำพูดของผู้อื่น และให้ผู้อื่นเข้าใจเจตนาของตน ซึ่งเขานั้นตกเป็นภาระหนักใจอยู่กับผู้ปกครองของเขา ไม่ว่าเขาจะถูกผู้ปกครองนำไป ณ หนแห่งใด ก็มิเคยจะนำมาซึ่งความมงคลให้ได้อย่างใจปรารถนาของผู้ปกครองเลย อันคนใบ้นี้มีคุณลักษณะเปรียบได้กับชนกาฟิร จะเหมือนกันได้หรือกับอีกผู้หนึ่ง ที่พูดจาล้วนแต่เป็นประโยชน์แก่ปวงชน ด้วยการใช้ให้ทำการดี และหมั่นเพียรอยู่กับคุณความดีนั้น โดยที่เขาเองก็อยู่ในวิถีทางอันเที่ยงธรรม อันชนผู้นี้มีคุณลักษณะเปรียบได้กับมุอ์มิน ชนสองฝ่ายข้างต้นนี้คือ ฝ่ายหนึ่งกาฟิรอีกฝ่ายหนึ่งมุอ์มิน นั้นจะเสมือนกันมิได้แน่นอนทีเดียว


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 77 - 78


คำแปล R1.
77. And to Allah belongs the unseen of the heavens and the earth. And the matter of the hour is not but as a twinkling of the eye, or even nearer. Truly! Allah is Able to do all things.
78. And Allah has brought you out from the wombs of your mothers while you know nothing. And He gave you hearing, sight, and hearts that you might give thanks (to Allah).


คำแปล R2.
77. และความเร้นลับแห่งฟากฟ้าและแผ่นดินเป็นสิทธิของอัลเลาะฮฺเท่านั้น และเรื่องของกาลอวสานนั้นมิใช่อื่นใดทั้งสิ้นนอกจาก(อุบัติขึ้นอย่างรวดเร็ว)เทียบเท่ากับการกระพริบตาหรือใกล้(คือเร็ว)กว่านั้น แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงเดชานุภาพเหนือทุก ๆ สิ่ง
78. และอัลเลาะฮฺทรงบันดาลให้พวกเจ้าคลอดออกมาจากท้องมารดาของพวกเจ้าโดยพวกเจ้าไม่รู้สิ่งใดเลย และพระองค์ทรงดลบันดาลดวงตา, หู, และจิตใจแก่พวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้กตัญญู


คำแปล R3.
77. อัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงมีความรู้ในสิ่งอันพ้นญาณวิสัยของชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และเกี่ยวข้องกับเวลาของการฟื้นคืนชีพนั้น มันจะไม่ใช้เวลามากกว่าชั่วพริบตาเดียวหรือไม่ก็น้อยกว่านี้ แท้จริงแล้ว อัลลอฮฺทรงมีอำนาจเหนือสรรพสิ่ง
78. อัลลอฮฺได้ทรงนำสูเจ้าออกมาจากครรภ์ของแม่ของสูเจ้าในสภาพที่สูเจ้าไม่รู้อะไรเลย แล้วพระองค์ได้ทรงให้สูเจ้ามีหูตา และสติปัญญา ทั้งนี้เพื่อคี่สูเจ้าจะได้กตัญญู


คำแปล R4.
77. และเฉพาะอัลลอฮฺ(ทรงรู้) สิ่งพันญาณวิสัยแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และเรื่องที่เกี่ยวกับวันสิ้นโลกนั้นมิใช่อื่นใด นอกจากเพียงชั่วพริบตาเดียวหรือมันใกล้(เร็ว) ยิ่งกว่า แท้จริงอัลลอฮฺทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง
78. และอัลลอฮฺทรงให้พวกเจ้าออกจากครรภ์มารดาของพวกเจ้า โดยพวกเจ้าไม่รู้อะไรเลย และพระองค์ทรงทำให้พวกเจ้าได้ยินและเห็นและมีหัวใจ (สำหรับนึกและคิด) เพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบคุณ


คำแปล R5.
๗๗. อันความลี้ลับในบรรดาชั้นฟ้าทั้งเจ็ดและแผ่นดินนั้นย่อมอยู่ในกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะห์ซึ่งพระองค์ทรงรอบรู้และทรงอำนาจปกครองเหนือสิ่งลี้ลับทั้งปวงนั้น ส่วนกิจต่าง ๆ ของพระองค์ในกาลแห่งกิยามะห์ (วันสิ้นโลก) ไม่ว่าจะโดยทรงให้บรรดาที่ยังมีชีพอยู่ตายลงหรือให้บรรดาที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นทั้งที่เป็นปวงชนยุคโบราณหรือยุคหลังถัด ๆ มา และมิว่าจะโดยทรงแปรเปลี่ยนเรือนรูปของสรรพสิ่งบรรดามีอยู่ทั้งหมดสิ้นนั้นเล่าก็ไวเพียงดังสายตากระพริบเท่านั้น หรือ ไวยิ่งกว่านั้นอีก เนื่องด้วยพระองค์มีพลานุภาพสมบูรณ์ แน่แท้อัลเลาะห์นั้นทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งอย่าง
๗๘. และว่าอัลเลาะห์ทรงให้พวกเจ้าออกมาแต่ครรภ์มารดาของพวกเจ้า โดยที่พวกเจ้ายังมิรู้อะไรเลย แล้วพระองค์กำหนดให้พวกเจ้ามีประสาทแห่งการได้ยินและแลเห็น ตลอดทั้งมีจิตใจ เพื่อว่าพวกเจ้าจักได้ขอบคุณในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ อันมีต่อพวกเจ้าตามที่กล่าวนั้น แล้วพวกเจ้าจักต้องมีศรัทธาต่อพระองค์



สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 79 - 81
 

คำแปล R1.
79. Do they not see the birds held (flying) In the midst of the sky? None holds them but Allah [none gave them the ability to fly but Allah]. Verily, in this are clear proofs and signs for people who believe (in the Oneness of Allah).
80. And Allah has made for you in your homes an abode, and made for you out of the hides of the cattle (tents for) dwelling, which you find so light (and handy) when you travel and when you stay (in your travels), and of their wool, fur, and hair (sheep wool, camel fur, and goat hair), a furnishing and articles of convenience (e.g. carpets, blankets, etc.), a comfort for a while.
81. And Allah has made for you out of that which He has created shades, and has made for you places of refuge in the mountains, and has made for you garments to protect you from the heat (and cold), and coats of mail to protect you from your (mutual) violence. Thus does He perfect his grace unto you, that you may submit yourselves to his will (in Islam).


คำแปล R2.
79. พวกเขาไม่สังเกตดูนกดอกหรือพวกมันถูกอำนวย(โดยอัลเลาะฮฺให้มันอยู่)ใน(อากาศ)กลางท้องฟ้า ไม่(มีผู้ใด)เหนี่ยวรั้งพวกมันไว้(มิให้ตกลงมา) นอกจากอัลเลาะฮฺเท่านั้น แท้จริงในนั้นย่อมมีสัญลักษณ์(เตือนใจ)สำหรับกลุ่มชนผู้มีศรัทธาทั้งหลาย
80. และอัลเลาะฮฺได้บันดาลแด่พวกเจ้าทั้งหลายจากบ้านเรือนของพวกเจ้าให้เป็นที่อยู่อาศัยและทรงบันดาลแด่พวกเจ้าจากหนังของปศุสัตว์ให้(นำมาจัดทำ)เป็นบ้าน(คือกระโจม)ซึ่งพวกเจ้าใช้มันอย่างเบาแรง(สามารถพาไปไหนมาไหนได้โดยสะดวก)ในวาระแห่งการเดินทาง และการพักแรมของพวกเจ้า และจากขนหยาบของมัน, ปุยขนของมัน และผมของมัน(ซึ่งนำมันมาทำ)เป็นเครื่องใช้และเป็นเครื่องอำนวยสุขเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
81. และอัลเลาะฮฺทรงบันดาลแด่พวกเจ้าจากบางสิ่งที่พระองค์สร้างไว้ให้เป็นร่มเงา(ได้พักร่ม เช่นต้นไม้) และทรงดลบันดาลแด่พวดเจ้า จากภูเขาต่าง ๆ ให้เป็นที่พักพิง (จากอันตราย เช่นถ้ำ เป็นต้น) และทรงดลบันดาลแด่พวกเจ้าชุดสวมใส่ซึ่งป้องกันอันตรายแก่พวกเจ้า เช่นนั้น! พระองค์ทรงประทานความโปรดปรานอันครบครันแก่พวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้ยอมสวามิภักดิ์


คำแปล R3.
79. พวกเขาไม่สังเกตหรือว่านกมันถูกทำให้ลอยคว้างอยู่กลางอากาศของท้องฟ้าได้อย่างไร ? ไม่มีใครพยุงมันไว้นอกจากอัลลอฮฺ แท้จริงในนี้มีสัญญาณสำหรับหมู่คนผู้ศรัทธา
80. อัลลอฮฺได้ทรงทำบ้านของสูเจ้าให้เป็นสถานที่แห่งการพักผ่อนและความสงบสำหรับสูเจ้า และจากหนังของสัตว์ พระองค์ได้ทรงทำให้สูเจ้ามีบ้านที่สูเจ้ารู้สึกเบาในระหว่างเดินทางและพักแรม และจากขนและผมอันอ่อนนุ่มของมัน พระองค์ได้ทรงให้สูเจ้ามีเสื้อผ้าและสิ่งของเครื่องใช้มากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสูเจ้าในระหว่างเวลาแห่งชีวิตที่ถูกกำหนดไว้
81. อัลลอฮฺได้ทรงทำสิ่งต่าง ๆ มากมายสำหรับสูเจ้า พระองค์ได้ทรงสร้างร่มเงาจากดวงอาทิตย์ พระองค์ได้ทรงสร้างที่พักพิงให้แก่สูเจ้าในภูเขา และได้ทรงประทานเสื้อผ้าแก่สูเจ้าเพื่อปกป้องความร้อน และเสื้อผ้าที่จะปกป้องสูเจ้าในการต่อสู้ ดังนั้นพระองค์ได้ทรงประทานความโปรดปรานของพระองค์แก่สูเจ้าอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อที่สูเจ้าจะได้นอบน้อมยอมจำนนต่อพระองค์


คำแปล R4.
79. พวกเขาไม่เห็นฝูงนกดอกหรือว่า พวกมันได้รับความสะดวกในห้วงอากาศแห่งชั้นฟ้า ไม่มีผู้ใดดึงพวกมันไว้ได้นอกจากอัลลอฮ์ แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณมากหลายสำหรับกลุ่มชนผู้ศรัทธา
80. และอัลลอฮฺทรงทำให้มีที่พำนักในบ้านของพวกเจ้า และทรงทำให้พวกเจ้ามีบ้านทำจากหนังปศุสัตว์ ซึ่งทำให้พวกเจ้ารู้สึกเบาในยามเดินทางของพวกเจ้า และในยามพักของพวกเจ้า และจากขนของมันและปุยของมันและผมของมัน ทำเป็นเครื่องใช้และสิ่งมีประโยชน์ชั่วเวลาหนึ่ง
81. และอัลลอฮฺทรงทำจากสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง ให้เป็นที่ร่มแก่พวกเจ้า และพระองค์ทรงทำที่พักพิงจากภูเขาให้แก่พวกเจ้าและพระองค์ทรงทำเครื่องนุ่มห่มให้พวกเจ้า เพื่อป้องกันพวกเจ้าให้พ้นจากความร้อน และเสื้อเกราะเพื่อป้องกันพวกเจ้าให้พ้นจากอันตรายในยามสงคราม เช่นนั้นแหละ พระองค์ทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์อย่างครบถ้วนแก่พวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้นอบน้อม


คำแปล R5.
๗๙. พวกเหล่านั้นที่เป็นชาวนครมักกะห์มิได้แลไปยังนกดอกหรือ ? ที่ต่างโผบินอยู่ในน่านฟ้าที่เพียงอัลเลาะห์เท่านั้นทรงดลพลังของพระองค์ประครองคุ้มมัน(นก) เหล่านั้นไว้มิให้ตกลงยังพื้นดิน ขณะที่มันหุบและกางปีก เพราะน้ำหนักตัวของมันก็พร้อมที่จะหล่นลงพื้นดินได้อยู่ มันสามารถลอยตัวอยู่ได้ทั้งที่ไม่มีสายแขวน และไม่มีสิ่งค้ำจุนไว้เบื้องล่างเลย แน่แท้ในประการที่กล่าวนี้ ย่อมเป็นสัญญาณแสดงถึงพลานุภาพแห่งอัลเลาะห์สำหรับปวงชนเชื่อมั่นในบรรดาสัญญาณดังกล่าว
๘๐. อัลเลาะห์ทรงกำหนดให้บ้านแห่งพวกเจ้าเป็นที่อาศัยสำหรับพวกเจ้า และทรงให้พวกเจ้าใช้หนังสัตว์เป็นที่อยู่อาศัยบ้างก็มี เช่น หนังอูฐ โค แพะและแกะ อาทิในกรณีใช้หนังสัตว์เหล่านั้นมาทำเป็นกระโจม พวกเจ้าจะได้แบกมันเบา ๆ ในยามขนย้าย และในยามจะลงพัก และจากขนของมันพระองค์ก็ทรงกำหนดให้พวกเจ้าใช้เป็นประโยชน์ เช่น นำมาทำเป็นเครื่องปูและเป็นเครื่องตกแต่งได้จนตลอดอายุสลายผุเปื่อยของมัน
๘๑. และอัลเลาะห์ทรงกำหนดส่วนต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงสร้าง เช่น บ้านเรือน ต้นไม้และภูเขา ตลอดทั้งเมฆมีร่มเงาสำหรับบดบังความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทั้งนี้เพื่อพวกเจ้า ทั้งทรงให้บางส่วนแห่งภูเขาเป็นถ้ำและโพรงสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของพวกเจ้า และทรงให้มีชุดสำหรับกันหนาวและกันร้อนแก่พวกเจ้า อีกทั้งชุดสำหรับเป็นเกราะกันภัยแก่พวกเจ้า เช่นเสื้อเกราะและหมวกเหล็ก สิ่งต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงสร้าง พระองค์ยังทรงอำนวยพระกรุณาธิคุณแห่งพระองค์แก่พวกเจ้าในภาคภพนี้ เหมือนอย่างที่ทรงสร้างสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวนั้นอีกด้วย เพื่อพวกเจ้าจักได้น้อมรับในเอกภาพของพระองค์


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 82 - 86
 

คำแปล R1.
82. Then, if they turn away, your duty (O Muhammad) is only to convey (the Message) in a clear way.
83. They recognize the Grace of Allah, yet they deny it (by worshipping others besides Allah) and most of them are disbelievers (deny the Prophethood of Muhammad).
84. And (remember) the day when we shall raise up from each nation a witness (their Messenger), then, those who have disbelieved will not be given leave (to put forward excuses), nor will they be allowed (to return to the world) to repent and ask for Allah's Forgiveness (of their sins, etc.).
85. And when those who did wrong (the disbelievers) will see the torment, then it will not be lightened unto them, nor will they be given respite.
86. And when those who associated partners with Allah see their (Allah's so-called) partners, they will say: "Our Lord! These are our partners whom we used to invoke besides you." But they will throw back their word at them (and say): "Surely! You indeed are liars!"


คำแปล R2.
82. ดังนั้นหากพวกเขาหันหลังให้(คือคัดค้านในสิ่งที่เจ้าประกาศ)ที่จริงแล้วตัวเจ้าก็มีหน้าที่เพียงเผยแพร่อันชัดเจนเท่านั้น
83. พวกเขารู้จัก(ยอมรับ)ความโปรดปรานของอัลเลาะฮฺ แต่หลังจากนั้น พวกเขาก็คัดค้านสิ่งนั้น และคนส่วนมากของพวกเขาเป็นผู้ไร้ศรัทธา
84. และ(จงระลึกเถิด)ในวัน(กิยามะฮฺ)เราจักให้(ศาสนทูต)จากแต่ละประชาชาติฟื้นขึ้นมาเป็นสักขีพยาน(ในวันนั้น) หลังจากนั้น มิได้อนุญาตแก่บรรดาพวกไร้ศรัทธา(ที่จะหาหลัฐานและเหตุผลมาสนับสนุนให้ตัวเองพ้นความผิด) และพวกเขาจะไม่ถูกบังคับให้แสวงหาความพึงพระทัยแห่งอัลเลาะฮฺ (ด้วยการประพฤติความดีต่าง ๆ เพราะหมดเวลาทำอย่างนั้นแล้ว)
85. และเมื่อบรรดาพวกฉ้อฉลได้มองเห็นการลงโทษ(ว่ากำลังประสบแก่พวกเขา)แน่นอนพวกเขาจะไม่ได้รับการผ่อนผันและพวกเขามิได้ถูกประวิงเวลาให้(ในการรับโทษ)
86. และเมื่อบรรดาพวกตั้งภาคีทั้งหลายได้มองเห็นบรรดาภาคีของพวกเขา(ที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้น) พวกเขาก็กล่าวว่า “โอ้องค์อภิบาลของเรา! พวกเหล่านี้ล้วนเป็นภาคีของพวกเราซึ่งพวกเราเคยวอน(นมัสการ)นอกเหนือจากพระองค์ แต่แล้วสิ่ง(ที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้น)นั้นได้โต้ถ้อยคำของพวกเขาว่า “แท้จริงพวกเจ้านั้นเป็นพวกมุสาชัด ๆ”


คำแปล R3.
82. แต่ถ้าหากพวกเขาไม่ใส่ใจต่อเจ้า (โอ้ มุฮัมมัด จงไม่ต้องกังวล) เพราะหน้าที่เพียงอย่างเดียวของเจ้าก็คือการเผยแผ่สาส์นแห่งสัจธรรมให้เป็นที่ชัดเจนเท่านั้น
83. พวกเขาตระหนักถึงความโปรดปรานของอัลลอฮฺ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ปฏิเสธมัน เพราะส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่คิดที่จะยอมรับสัจธรรม
84. (พวกเขาตระหนักหรือเปล่าว่า) อะไรจะเกิดขึ้น ในวันที่เราจะให้มีพยานขึ้นจากทุก ๆ ชาติ? และบรรดาผู้ปฏิเสธจะไม่ได้รับโอกาสให้แก้ตัวใด ๆ และจะไม่ถูกขอให้แสดงความสำนึกผิด คิดกลับตัวใหม่
85. และเมื่อบรรดาผู้ฝ่าฝืนได้เห็นการลงโทษ การลงโทษของพวกเขาก็จะไม่ได้รับการลดหย่อนผ่อนผันอีก
86. เมื่อผู้คนที่ทำชิริกในโลกนี้เห็นสิ่งที่พวกเขานำมาตั้งภาคีกับอัลลอฮฺ พวกเขาจะกล่าวว่า “โอ้พระผู้อภิบาลของเรา นี่คือบรรดาหุ้นส่วนที่เราเคยวิงวอนขอนอกไปจากพระองค์” แต่พวกสิ่งที่พวกเขาวิงวอนจะกล่าวว่า “พวกเจ้าเป็นคนโกหก”

 
คำแปล R4.
82. ดังนั้นหากพวกเขาผินหลังกลับ แท้จริงหน้าที่ของเจ้าคือการแจ้งข่าวอย่างชัดแจ้งเท่านั้น
83. พวกเขาตระหนักดีในความโปรดปรานของอัลลอฮฺ แต่แล้วพวกเขาปฏิเสธมัน และส่วนมากของพวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา
84. และวันที่เราจะตั้งพยานขึ้นจากทุกประชาชาติ แล้วบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะไม่ถูกอนุญาต และพวกเขาจะไม่ถูกขอร้องให้รำพันถึงความผิด
85. และเมื่อบรรดาผู้อธรรมได้เห็นการลงโทษมันจะไม่ถูกลดหย่อนแก่พวกเขา และพวกเขาจะไม่ถูกพิจารณาให้ผ่อนปรน
86. และเมื่อบรรดาผู้ตั้งภาคีได้มองเห็นเจว็ดของพวกเขา พวกเขากล่าวว่า โอ้พระเจ้าของเราเหล่านี้คือเจว็ดของพวกเรา ซึ่งพวกเราได้เรียกร้อง(ให้บูชา) อื่นจากพระองค์ ดังนั้น พวกมันได้กล่าวตอบว่า แท้จริงพวกท่านนั้นเป็นผู้โกหก


คำแปล R5.
๘๒. โอ้มุฮำมัดหากว่าเหล่านั้นเบือนหนีออกจากเอกภาพแห่งอัลเลาะห์แล้วไซร้ ย่อมไม่มีข้อติเตียนใด ๆ แก่เจ้าเลย เพราะเจ้าก็เป็นเพียงผู้เผยแพร่ข้อบัญญัติใช้และบัญญัติห้ามให้ชัดแจ้งและโดยทั่วถึงเท่านั้น ฉะนั้นเจ้าจงอดกลั้นไว้ (โองการนี้ลงมาก่อนโองการว่าด้วยการศึก)
๘๓. พวกเหล่านั้นย่อมทราบและรับรองอยู่แล้วถึงพระกรุณาธิคุณแห่งอัลเลาะห์ว่ามีมาแต่การตัดสินของพระองค์ ครั้นแล้วพวกเหล่านั้นกลับปฏิเสธมัน (พระกรุณาธิคุณ) เสีย ด้วยการเป็นผู้ถือภาคี และพวกเหล่านั้นส่วนมากคือชนกาฟิร
๘๔. โอ้มุฮำมัด จงกล่าวให้เป็นอุดมคติแก่พวกเหล่านั้นเถิด ณ วันอาคิเราะฮฺ (วันอวสาน) นั้น เรา (อัลเลาะห์) จักฟื้นชีพ ศาสนทูตผู้เป็นองค์พยานจากแต่ละประชากรขึ้นอีก โดยให้บังเกิดจากสุสานมาเป็นพยานยืนยันปวงประชากรว่า พวกหนึ่งเป็นประชากรกาฟิร และอีกพวกหนึ่งเป็นประชากรมุอ์มิน ครั้นแล้วบรรดาชนกาฟิรก็มิได้รับอนุญาตให้พ้นความผิด มิให้ต้องพูดมาก มิให้กลับคืนสู่ภพดุนยา(โลกปัจจุบัน)อีก เพื่อมีโอกาสประพฤติตามบัญญัติใช้ และมิให้อ้างผู้ใดขึ้นเป็นพยาน แต่ประชุมชนทั้งหลายจะต้องนิ่งเงียบเพื่อให้เหล่าพยานเท่านั้นเป็นฝ่ายให้การ พวกกาฟิรเหล่านั้นจะไม่ถูกให้คืนไปสู่ความดีใหม่อีกในภพดุนยาเลย
๘๕. เมื่อบรรดาชนกาฟิรได้แลเห็นโทษ พวกเขาก็จักมิได้รับทุเลาโทษอีกแล้ว ทั้งพวกเขาจักไม่ถูกทอดเวลาแห่งการลงโทษออกไปให้เนิ่นนานอีกด้วย
๘๖. และเมื่อบรรดาชนกาฟิรผู้ถือภาคี ได้แลเห็นตัวภาคีของตนอันมีไชตอนบ้างและเทวรูปบ้าง ที่พวกเขาตั้งมันขึ้นเป็นคู่ภาคีกับอัลเลาะห์ ก็เอ่ยขึ้นว่า โอ้องค์พระผู้อภิบาลแห่งเหล่าข้าพระองค์(ไชตอนและเทวรูป) เหล่านั้นแหละเป็นตัวภาคีที่เหล่าข้าพระองค์เคยเคารพบูชากันมา หาใช่พระองค์ไม่ แต่ (ไชตอนและเทวรูป) มันเหล่านั้นสวนคำโต้พวกเขา (กาฟิร) ว่า พวกท่านนี้ช่างโกหกนัก เที่ยวมาอ้างว่าเคารพบูชาพวกเรา อันที่จริงพวกท่านเคารพบูชากิเลสของพวกท่านเองต่างหาก


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 87 - 89
 

คำแปล R1.
87. And they will offer (their full) submission to Allah (Alone) on that day, and their invented false deities [all that they used to invoke besides Allah, e.g. idols, saints, priests, monks, angels, jinns, Jibrael (Gabriel), Messengers, etc.] will vanish from them.
88. Those who disbelieved and hinder (men) from the Path of Allah, for them we will add torment over the torment; because they used to spread corruption [by disobeying Allah themselves, as well as ordering others (mankind) to do so].
89. And (remember) the day when we shall raise up from every nation a witness against them from amongst themselves. And we shall bring you (O Muhammad) as a witness against these. And we have sent down to you the Book (the Qur'an) as an exposition of everything, guidance, a Mercy, and glad tidings for those who have submitted themselves (to Allah as Muslims).


คำแปล R2.
87. และในวันนั้น พวกเขาทั้งหมดต่างมอบความสวามิภักดิ์ต่ออัลเลาะฮฺ และสิ่งที่พวกเขาได้อุปโลกน์ขึ้นนั้นได้หนีหายไปจากพวกเขา
88. บรรดาพวกไร้ศรัทธาและขัดขวางจากแนวทางของอัลเลาะฮฺ เราได้เพิ่มพูนพวกเขาซึ่งการลงโทษอันสาหัสเหนือการลงโทษ(ใด ๆ) เพราะสาเหตุแห่งการบ่อนทำลายของพวกเขาเอง
89. และ(จงระลึกเถิด)ในวันที่เราจะให้(ศาสนาทูต)ของแต่ละประชาชาติฟื้นขึ้นมาเป็นสักขีพยานเหนือพวกเขา ซึ่ง(ศาสนาทูตนั้น)เป็นผู้หนึ่งจากพวกเขาเอง และเราได้นำเจ้า(มุฮำมัด)มาให้เป็นสักขีพยานเหนือพวกเหล่านี้ และเราได้มอบคัมภีร์ลงมาให้เจ้า เพื่อแจ้งไขแก่ทุก ๆ สิ่ง และเป็นสิ่งชี้นำอีกทั้งเป็นเมตตาและเป็นข่าวดีแก่บรรดาผู้สวามิภักดิ์ทั้งมวล


คำแปล R3.
87. ในเวลานั้น พวกเขาทั้งหมดจะนอบน้อมยอมจำนนต่ออัลลอฮฺ และบรรดาสิ่งที่พวกเขากุขึ้นมาในโลกนี้จะหายไปจากพวกเขา
88. เราจะลงโทษเป็นสองเท่าแก่บรรดาผู้ปฏิบัติตามแนวทางแห่งการปฏิเสธและขัดขวางผู้อื่นจากแนวทางของอัลลอฮฺในเรื่องความเสียหายที่พวกเขาได้แพร่ขยายไปในโลกนี้
89. (โอ้ มุฮัมมัด จงเตือนพวกเขาถึง) วันที่เราจะเรียกพยานจากทุกประชาชาติเพื่อยืนยันต่อพวกเขาและเราจะเรียกเจ้ามาเป็นพยานยืนยันต่อคนเหล่านี้ (นั่นคือเหตุผลว่าทำไม) เราจึงได้ประทานคัมภีร์นี้แก่เจ้า ซึ่งจะทำให้ทุกสิ่งเป็นที่ง่ายดาย และเป็นทางนำ เป็นความเมตตา และเป็นข่าวดีแก่บรรดาผู้นอบน้อมยอมจำนน


คำแปล R4.
87. และในวันนั้นพวกเขาจะยอมจำนนต่ออัลลอฮฺ และสิ่งที่พวกเขาเคยกุขึ้นมาก็จะสูญหายไปจากพวกเขา
88. บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและปิดกั้นทางของอัลลอฮฺ เราได้เพิ่มการลงโทษแก่พวกเขาให้มากขึ้น เนื่องจากพวกเขาได้ก่อความเสียหาย
89. และวันที่เราจะตั้งพยานขึ้นจากทุกประชาชาติ (เพื่อเป็นพยาน) ต่อพวกเขาจากหมู่พวกเขาเอง และเราก็นำเจ้ามาเป็นพนานต่อเขาเหล่านั้นและเราได้ให้คัมภีร์แก่เจ้าเพื่อชี้แจงแก่ทุกสิ่งและเพื่อเป็นทางนำและเป็นความเมตตา และเป็นข่าวดีแก่บรรดามุสลิม


คำแปล R5.
๘๗. แล้วพวกเขา (กาฟิร) ก็ยอมตามคำตัดสินของอัลเลาะห์ในวัน(กิยามะห์) นั้น ส่วนเหล่าเทวรูปที่พวกเขาอ้างเท็จไว้ในภาคภพดุนยาว่ามันสามารถช่วยอนุเคราะห์ได้นั้น ก็หายสาบสูญไปจากพวกเขาแล้ว
๘๘. บรรดาชนผู้เป็นกาฟิรและผู้ขัดขวางปวงชนให้ออกห่างจากวิถีทางแห่งศาสนาของอัลเลาะห์นั้น เรา(อัลเลาะห์) จะเพิ่มโทษให้พวกเขาได้รับหนักขึ้นไปอีกยิ่งกว่าโทษที่พวกเขาพึงได้รับ โทษที่เพิ่มหนักขึ้นนี้คือได้รับพิษจากแมลงป่อง มีเหล็กในยาวราวกับต้นอินทผลัมที่สูง ทั้งนี้ฐานที่พวกเขาก่อความเสื่อมเสียด้วยการขัดขวางปวงชนให้หันออกห่างจากศรัทธา
๘๙. และโอ้มุฮำมัด จงกล่าวแก่ประชากรของเจ้าเพื่อเป็นอุดมคติด้วยเถิดว่า ในวันกิยามะห์นั้น เรา(อัลเลาะห์) จักฟื้นชีพเหล่าศาสนทูตผู้เป็นองค์พยานจากแต่ละประชากรขึ้น โดยให้บังเกิดจากสุสานมายืนยันในพวก(ประชากร) เหล่านั้น ทั้งในพวกที่ดีและพวกที่ชั่วร้าย ทั้งเราจะนำตัวเจ้ามาเป็นพยานยืนยันในพวกเหล่านั้นทั้งเป็นพวกที่ดีและที่ชั่วร้ายด้วย แล้วเราได้มอบพระคัมภีร์อัล-กุรอานลงมายังเจ้าเพื่อชี้แจงทุก ๆ สิ่งอันเกี่ยวกับศาสนาที่มนุษย์ต้องการ อันคำชี้แจงนั้นมาในทางอัล-กุรอานโดยตรงก็มี บางทีมาในทางอัล-หะดีส ไม่เลือกว่าจะโดยถ้อยคำ โดยการกระทำ หรือโดยการนิ่งเฉยของพระศาสดามุฮำมัด ต่อการกระทำของผู้อื่นก็มี บางทีมาในทางอาจริยมติ (อิจมาอ์) ของคณะปราชญ์ ๓ ศตวรรษแรกก็มี และบางทีมาในทางอุปมาน (อัล-กิยาส) เป็นแนวธรรมให้หลุดพ้นจากความงมงาย เป็นความปรานีมาแต่พระองค์ และเป็นที่ปีติยินดี สำหรับผู้ถือเอกภาพแห่งอัลเลาะห์


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 90 - 92


คำแปล R1.
90. Verily, Allah enjoins Al-Adl (i.e. justice and worshipping none but Allah alone - Islamic Monotheism) and Al-Ihsan [i.e. to be patient in performing your duties to Allah, totally for Allah's sake and in accordance with the Sunnah (legal ways) of the Prophet in a perfect manner], and giving (help) to kith and kin (i.e. all that Allah has ordered you to give them e.g., wealth, visiting, looking after them, or any other kind of help, etc.): and forbids Al-Fahsha' (i.e. all evil deeds, e.g. illegal sexual acts, disobedience of parents, polytheism, to tell lies, to give false witness, to kill a life without right, etc.), and Al-Munkar (i.e all that is prohibited by Islamic law: polytheism of every kind, disbelief and every kind of evil deeds, etc.), and Al-Baghy (i.e. all kinds of oppression), He admonishes you, that you may take heed.
91. And fulfill the Covenant of Allah (Bai'a: pledge for Islam) when you have covenanted, and break not the oaths after you have confirmed them, and indeed you have appointed Allah your surety. Verily! Allah knows what you do.
92. And be not like her who undoes the thread which she has spun after it has become strong, by taking your oaths a means of deception among yourselves, lest a nation may be more numerous than another nation. Allah only tests you by this [i.e. who obeys Allah and fulfills Allah's Covenant and who disobeys Allah and breaks Allah's Covenant]. And on the Day of Resurrection, He will certainly make clear to you that wherein you used to differ [i.e. a believer confesses and believes in the Oneness of Allah and in the Prophethood of Prophet Muhammad which the disbeliever denies it and that was their difference amongst them In the life of this world] .


คำแปล R2.
90. แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงบัญชาให้มีความเที่ยงธรรม,ให้มีคุณธรรมและให้เกื้อกูลแก่ญาติสนิท และพระองค์ทรงห้ามสิ่งลามก, สิ่งต้องห้าม, และความทรยศ พระองค์ทรงเตือนพวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้สำนึก
91. และพวกเจ้าจงปฏิบัติตามสัญญาให้ครบถ้วนเมื่อพวกเจ้าทำสัญญาต่อกัน และพวกเจ้าอย่าทำลาย(บิดพลิ้ว)คำสาบานภายหลังจากได้ตกลงกันไว้แล้ว ทั้ง ๆ ที่พวกเจ้าได้ยึดมั่นในอัลเลาะฮฺว่าทรงเป็นผู้อุปการะพวกเจ้า แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงรอบรู้ในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ
92. และพวกเจ้าอย่าเป็นเช่นหญิงที่แก้เกลียวด้ายของนางออกภายหลังจากได้กรอไว้แน่นหนาดีแล้ว (ซึ่งไม่มีเหตุผล เหมือนที่)พวกเจ้ายึดเอาคำสาบานของพวกเจ้ามาเป็นสิ่งแทรกระหว่างพวกเจ้า(เพื่อหลอกลวงกันเอง) เพื่อว่าประชาชาติหนึ่งจะได้มีความจำเริญยิ่งกว่าอีกประชาชาติหนึ่ง อันที่จริงอัลเลาะฮฺทรงทดสอบพวกเจ้าทั้งหลายด้วยสิ่งนั้น และเพื่อทรงแจ้งแก่พวกเจ้าในวันชาติหน้า ถึงสิ่งที่พวกเจ้าได้เคยพิพาทกัน


คำแปล R3.
90. อัลลอฮฺทรงกำชับในเรื่องความยุติธรรม การทำดีและเอื้เฟื้อเผื่อแผ่ญาติสนิท และทรงห้ามสิ่งชั่วช้าลามกและการเบียดเบียน พระองค์ทรงตักเตือนสูเจ้าเพื่อที่สูเจ้าจะได้คิด
91. จงปฏิบัติตามสัญญาของสูเจ้ากับอัลลอฮฺให้ครบถ้วนเมื่อสูเจ้าได้ทำสัญญาไว้กับพระองค์และจงอย่าทำลายคำสาบานของสูเจ้าหลังจากที่มันได้ถูกยืนยัน และสูเจ้าได้ให้อัลลอฮฺเป็นพยานของสูเจ้าแล้ว แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้ทุกสิ่งที่สูเจ้ากระทำ
92. และจงอย่าปฏิบัติตนเหมือนกับผู้หญิงที่พยายามปั่นด้ายจนแน่นแล้วก็คลายมันออกเป็นเส้น ๆ อีก สูเจ้าได้เอาการสาบานร่วมกันของสูเจ้ามาเป็นวิธีการหลอกลวงด้วยกันในกิจการของสูเจ้า เพื่อที่ว่าหมู่ชนหนึ่งจะได้เปรียบหมู่ชนหนึ่ง ในขณะที่อัลลอฮฺทดสอบสูเจ้าโดยสัญญาเหล่านี้ แน่นอน อัลลอฮฺจะทรงเปิดเผยให้สูเจ้าได้รู้ถึงความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่สูเจ้าขัดแย้งกันเกี่ยวกับเรื่องการฟื้นคืนชีพหลังความตาย


คำแปล R4.
90. แท้จริงอัลลอฮฺทรงใช้ให้รักษาความยุติธรรมและทำดี และการบริจาคแก่ญาติใกล้ชิดและให้ละเว้นจากการทำลามกและการชั่วช้า และการอธรรม พระองค์ทรงตักเตือนพวกเจ้าเพื่อพวกเจ้าจักได้รำลึก
91. และพวกเจ้าจงปฏิบัติให้ครบตามพันธะสัญญาของอัลลอฮฺ เมื่อพวกเจ้าได้ให้สัญญาไว้ และพวกเจ้าอย่าได้ทำลายคำสาบานหลังจากได้ยืนยันมัน และแน่นอน พวกเจ้าได้ตั้งอัลลอฮฺเป็นพยานแก่พวกเจ้า แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ
92. และพวกเจ้าอย่าเป็นเช่นนางที่คลายเกลียวด้ายของนาง หลังจากที่ได้ปั่นให้มันแน่นแล้ว โดยถือเอาการสาบานของพวกเจ้าเป็นการล่อลวงระหว่างพวกเจ้า เพื่อที่จะให้ชาติหนึ่งเข้มแข็งกว่าอีกชาติหนึ่ง แท้จริง อัลลอฮฺทรงทดลองพวกเจ้าด้วยการสาบาน และแน่นอน พระองค์ตะทรงชี้แจงแก่พวกเจ้าในวันกิยามะฮฺ ถึงสิ่งที่พวกเจ้าขัดแย้งกันในเรื่องนั้น


คำแปล R5.
๙๐. แน่แท้ อัลเลาะห์ทรงบัญชาใช้ไว้ในพระคัมภีร์อัล-กุรอานให้ถือเอกภาพแห่งอัลเลาะห์หรือให้ดำรงธรรม ปฏิบัติกรรมดีอันเป็นข้อบังคับให้ลุล่วงหรือเจ้าจงเคารพสักการะพระองค์ประหนึ่งเจ้าได้แลเห็นพระองค์ และให้บริจาคทานแก่วงศ์ญาติทั้งทรงห้ามการทำลามกอันได้แก่การร่วมประเวณีนอกอนุญาต(ซินา) ความชั่วช้า ความไร้ศรัทธา ตลอดทั้งความทรยศอันศาสนาไม่พึงปรารถนา และทรงห้ามการก่ออธรรม พระองค์ทรงกำชับพวกเจ้าในข้อบัญญัติใช้และห้าม เพื่อที่พวกเจ้าจักได้น้อมเคารพตามคำกำชับของพระองค์
๙๑. และพวกเจ้าจงปฏิบัติตามสัญญาแห่งอัลเลาะห์ให้ครบถ้วนเกี่ยวกับการค้าขายและการให้คำสาบานเป็นต้น ในเมื่อพวกเจ้ารับสัญญาไว้ แต่พวกเจ้าอย่าได้บิดพลิ้วซึ่งคำสาบาน หลังจากได้มีคำมั่นไว้แล้วอย่างเข้มแข็ง ทั้งที่พวกเจ้าก็ยึดถืออัลเลาะห์ทรงเป็นเสมือนองค์ประกันตัวพวกเจ้า นอกจากพวกเจ้าจะแลเห็นว่า ถ้าปฏิบัติตามที่สาบานไว้เสียประโยชน์มากกว่าหรือจะเกิดอันตรายได้แล้ว ก็ยอมให้พวกเจ้าไม่เป็นไปตามสาบานได้ แท้จริงอัลเลาะห์ทรงรู้ยิ่งถึงสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ พวกเจ้าจงหวั่นเกรงโทษจากอัลเลาะห์เถิด
๙๒. พวกเจ้าอย่าเป็นเช่นนางผู้โง่เขลาซึ่งทำให้ขนสัตว์ที่กรอไว้เป็นเส้นเขม็งดีแล้วคลายออก โดยการสาบานลวงกันระหว่างพวกเจ้าโดยการที่พวกเจ้าได้สาบานเพื่อเอาตัวรอดไว้ทีหนึ่งก่อนแก่พวกกลุ่มน้อย เพื่อพวกเจ้าจะได้สาบานใหม่กับพวกที่สองซึ่งมีจำนวนมากกว่าพวกแรก แน่แท้อัลเลาะห์เพียงทรงปฏิบัติการประหนึ่งจะทรงทดลองพวกเจ้าเท่านั้นว่า ใครบ้างจะเป็นผู้ที่ปฏิบัติเคร่งครัดตามสาบานและใครบ้างจะเป็นผู้ไม่เคร่งครัดต่อคำสาบาน และเพื่อจะทรงแจ้งให้พวกเจ้าได้ทราบ ณ วันกิยามะห์ถึงข้อสัญญาอื่น ๆ ซึ่งพวกเจ้าขัดแย้งกัน ณ ภพดุนยาว่าจะทรงเอาโทษผู้ฝ่าฝืนสัญญาและจะทรงสนองบุญกุศลแก่ผู้ปฏิบัติตามสัญญา




สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 93 - 96
 

คำแปล R1.
93. And had Allah willed, He could have made you (all) one nation, but He sends astray whom He wills and guides whom He wills. But you shall certainly be called to account for what you used to do.
94. And make not your oaths, a means of deception among yourselves, lest a foot may slip after being firmly planted, and you may have to taste the evil (punishment in this world) of having hindered (men) from the Path of Allah (i.e. belief in the Oneness of Alah and his Messenger, Muhammad), and yours will be a great torment (i.e. the Fire of Hell in the Hereafter).
95. And purchase not a small gain at the cost of Allah's Covenant. Verily! What is with Allah is better for you if you did but know.
96. Whatever is with you, will be exhausted, and whatever with Allah (of good deeds) will remain. And those who are patient, we will certainly pay them a reward in proportion to the best of what they used to do.


คำแปล R 2.
93. และมาดแม้นอัลเลาะฮฺทรงปรารถนาแล้วไซร้ แน่นอนพระองค์ย่อมดลบันดาลพวกเจ้าให้เป็นประชาชาติ(ที่นับถือศาสนา)เดียวกัน และแต่ทว่าพระองค์ทรงปล่อยให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์หลงผิด และทรงชี้นำแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และขอยืนยัน! แท้จริงพวกเจ้าจะต้องถูกสอบสวนในสิ่งที่พวกเจ้าเคยประพฤติไว้อย่างแน่นอน
94. และพวกเจ้าอย่านำเอาคำสาบานของพวกเจ้ามาแทรกระหว่างพวกเจ้า(เพื่อหลอกลวงซึ่งกันและกัน) แล้วเท้า(ของพวกเจ้า)จะต้องพลาดพลั้งหลังจากมันแน่นแฟ้นอยู่แล้ว และพวกเจ้าจะได้ลิ้มรส(การตอบแทนอัน)เลวร้าย เพราะเหตุที่พวกเจ้าได้ขัดขวางจากแนวทางของอัลเลาะฮฺ และพวกเจ้าต้องได้รับการลงโทษอันมหันต์
95. และพวกเจ้าอย่านำสัญญาแห่งอัลเลาะฮฺมาแลกเปลี่ยนกับราคาเพียงเล็กน้อย อันที่จริงที่มีอยู่ ณ อัลเลาะฮฺนั้นเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมสำหรับพวกเจ้าหากพวกเจ้ารู้
96. สิ่งที่มีอยู่ ณ พวกเจ้านั้นมันต้องหมดสูญ แต่สิ่งที่มีอยู่ ณ อัลเลาะฮฺเป็นสิ่งจีรัง ขอยืนยัน! แท้จริงเรา(อัลเลาะฮฺ)จะตอบแทนบรรดาผู้ที่มีความอดทนซึ่งรางวัลของพวกเขา เพราะความดีงามที่พวกเขาเคยประพฤติไว้


คำแปล R3.
93. ถ้าหากอัลลอฮฺทรงประสงค์ (จะไม่ให้สูเจ้าเกิดความขัดแย้งกัน) พระองค์ก็จะทรงทำให้สูเจ้าเป็นประชาชาติเดียว แต่พระองค์ทรงทำให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์หลงทางและทรงนำทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และจงแน่ใจได้เลยว่า พระองค์จะทรงให้สูเจ้ารับผิดชอบในสิ่งที่สูเจ้าได้กระทำไว้
94. และ (โอ้ มุสลิม) จงอย่าทำให้คำสาบานของสูเจ้าเป็นวิธีการหลอกลวงซึ่งกันและกัน มิเช่นนั้น เท้า(ของบางคน)จะลื่นไหลออกไปหลังจากที่มันได้ถูกยืนหยัดอบ่างมั่นคงแล้ว และสูเจ้าจะได้รับผลร้ายที่จะติดตามมาจากการขัดขวางคนอื่นจากแนวทางของอัลลอฮฺ และจะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
95. จงอย่าแลกเปลี่ยนสัญญาของอัลลอฮฺด้วยผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ แท้จริงแล้วสิ่งที่อยู่กับอัลลอฮฺนั้นดีกว่ามากมายสำหรับสูเจ้า ถ้าหากว่าสูเจ้ารู้
96. อะไรก็ตามที่อยู่กับสูเจ้านั้นก็เพียงชั่วคราว แต่สิ่งที่อยู่กับอัลลอฮฺนั้นจีรังยั่งยืนกว่า และเราจะตอบแทนพวกเขาที่อดทน ตามที่พวกเขาได้กระทำไว้อย่างดีที่สุด


คำแปล R4.
93. และหากอัลลอฮฺทรงประสงค์ แน่นอนพระองค์จะทรงทำให้พวกเจ้าเป็นประชาชาติเดียวกัน แต่พระองค์จะให้ผู้ที่พระองค์ประสงค์หลงทาง และจะทรงชี้แนะทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และแน่นอน พวกเจ้าจะถูกสอบสวนถึงสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้
94. และพวกเจ้าอย่าถือเอาการสาบานของพวกเจ้า เป็นการล่อลวงระหว่างพวกเจ้า แล้วเท้าก็จะก้าวพลาดได้หลังจากที่มันมั่นคงแล้ว และพวกเจ้าจะได้ลิ่มรสความชั่ว เพระพวกเจ้าได้ปิดกั้นทางของอัลลอฮ์ และสำหรับพวกเจ้าจะได้รับการลงโทษอย่างมหันต์
95. และพวกเจ้าอย่าแลกเปลี่ยนข้อตกลงของอัลลอฮฺกับราคาเพียงเล็กน้อย แท้จริง ณ ที่อัลลอฮฺย่อมดีกว่าสำหรับพวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้
96. สิ่งที่อยู่กับพวกเจ้าย่อมอันตรธาน และสิ่งที่อยู่กับอัลลอฮฺนั้นย่อมจีรัง และแน่นอน เราจะตอบแทนบรรดาผู้อดทนซึ่งรางวัลของพวกเขาที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้


คำแปล R5.
๙๓. ถ้าแม้นว่าอัลเลาะห์ทรงมุ่งประสงค์ไซร้พระองค์จะทรงให้พวกเจ้าเป็นประชาคมที่นับถือศาสนาเดียวกัน และจักทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงมุ่งประสงค์หลงงมงายจากทางเที่ยงธรรม และทรงชี้แนวธรรมแก่ผู้ที่พระองค์มุ่งหมาย แล้วในวันกิยามะห์ พวกเจ้าจะถูกถามถึงข้อปฏิบัติที่พวกเจ้าเคยได้กระทำกันมาโดยแน่นอนทีเดียว เพื่อพวกเจ้าจะได้รับตอบแทนโทษ ตามผลแห่งกรรมของพวกเจ้า
๙๔. ทั้งอย่าได้ให้สาบานของพวกเจ้าเป็นความหลอกลวงและความหายนะในระหว่างพวกเจ้า เท้าข้างหนึ่งของพวกเจ้าจะพลาดพลั้งจากศาสนาอิสลาม หลังจากยืนหยัดมั่นคงในแนวทางนั้นแล้ว ฉะนั้นพวกเจ้าจงหวั่นเกรงว่าเท้าของพวกเจ้าจะพลาดพลั้งทั้งสองข้าง จะเป็นเหตุให้พวกเจ้าถูกตำหนิอย่างใหญ่หลวง และเป็นเหตุให้พวกเจ้าจะได้ลิ้มรสแห่งโทษฐานที่พวกเจ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญาและได้ขัดขวางปวงชนให้เหห่างจากการปฏิบัติตามสัญญาแล้วพวกเจ้าย่อมได้รับโทษทัณฑ์อันใหญ่หลวงในภาคภพอาคิเราะห์
๙๕. และพวกเจ้าอย่าได้เอาสัญญาของอัลเลาะห์ไปแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อยเลย หากพวกเจ้าทราบดีแล้วผลบุญกุศลอันมี ณ อัลเลาะห์เท่านั้น จะดียิ่งสำหรับพวกเจ้า
๙๖.สิ่งใดในโลกพิภพนี้ที่พวกเจ้ามีอยู่และใช้ผลประโยชน์จากมันย่อมสูญเสียได้ ส่วนภาคผลบุญที่มี ณ อัลเลาะห์นั้นคงถาวร โดยแน่นอน เรา(อัลเลาะห์) ตอบสนองแก่บรรดาชนผู้อดทนต่อการปฏิบัติตามสัญญา ต่อความยากจน ต่อการถูกข่มเหงรังแกจากชนกาฟิรหรือต่อความลำบากจากข้อปฏิบัติของอัลเลาะห์ ได้ผลบุญดีเลิศกว่าปฏิบัติการอันเป็นวายิบ(จำเป็น) และเป็นซุนนะห์ (ตามการปฏิบัติของท่านนบีฯ)ที่พวกเขาปฏิบัติไว้ในภพดุนยาอีก


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 97 - 100


คำแปล R1.
97. Whoever works righteousness, whether male or female, while he (or she) is a true believer (of Islamic Monotheism) Verily, to him We will give a good life (in this world with respect, contentment and lawful provision), and We shall pay them certainly a reward in proportion to the best of what they used to do (i.e. Paradise in the Hereafter).
98. So when you want to recite the Qur'an, seek refuge with Allah from Shaitan (Satan), the outcast (the cursed one).
99. Verily! He has no power over those who believe and put their trust only in their Lord (Allah).
100. His power is only over those who obey and follow him (Satan), and those who join partners with him (Allah) [i.e. those who are Mushrikun - polytheists - see Verse 6:121].


คำแปล R2.
97. ผู้ใดประพฤติความดี ทั้งบุรุษหรือสตรีก็ตาม โดยเขาเป็นผู้ศรัทธา แน่นอนเราจะฟื้นฟูชีวิตที่ดีแก่เขา และแน่นอน เราจะตอบแทนรางวัลแก่เขา เพราะความดีงามที่พวกเขาเคยประพฤติไว้
98. ดังนั้นเมื่อเจ้าอ่านกุรอาน เจ้าก็จงขออารักขาต่ออัลเลาะฮฺ (ให้ปลอดพ้น)จากมารร้ายที่ถูกอัปเปหิ
99. แท้จริงมันนั้นไม่มีอำนาจเหนือบรรดาผู้มีศรัทธา และมีจิตมอบหมายตอองค์อภิบาลของพวกเขา
100. ความจริงแล้ว มันจะมีอำนาจก็เฉพาะแก่บรรดาผู้ที่ยอมให้มันปกครองและบรรดาพวกที่ตั้งภาคีต่อพระองค์(อัลเลาะฮฺ)เท่านั้น


คำแปล R3.
97. ใครก็ตามที่กระทำความดี ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม ถ้าหากเขาเป็นผู้ศรัทธา เราจะให้เขามีชีวิตที่บริสุทธิ์ในโลกนี้ และแน่นอน เราจะตอบแทนคนเหล่านั้น(ในโลกหน้า)ตามที่พวกเขาได้กระทำไว้อย่างดีที่สุด
98. ดังนั้นเมื่อเจ้าเริ่มต้นอ่านกุรอานจงขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺให้พ้นจากมารร้ายที่ถูกสาปแช่ง
99. เพราะมันไม่มีอำนาจใด ๆ เหนือบรรดาผู้ศรัทธาและมอบความไว้วางใจในพระผู้อภิบาลของพวกเขา
100. มันมีอำนาจเหนือก็แต่เฉพาะบรรดาผู้ผูกมิตรกับมันและทำชิริกโดยการล่อลวงของมัน

คำแปล R4.
97. ผู้ใดปฏิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้นเราจะให้เขาดำรงชีวิตที่ดี และแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาซึ่งรางวัลของพวกเขา ที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้
98. ดังนั้น เมื่อเจ้าอ่านอัลกุรอาน ก็จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺให้พ้นจากชัยฏอนที่ถูกสาปแช่ง
99. แท้จริงมันไม่มีอำนาจใด ๆ เหนือบรรดาผู้ศรัทธา โดยที่พวกเขาได้มอบหมาย (การงาน) ต่อพระเจ้าของพวกเขา
100. แท้จริงอำนาจของมันจะมีเหนือบรรดาผู้เป็นมิตรกับมัน และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้ตั้งภาคีกับพระองค์


คำแปล R5.
๙๗. ถ้าผู้ใด จะเป็นชายก็ดีหรือหญิงก็ดี ปฏิบัติการชอบโดยที่ผู้นั้นเป็นผู้มีศรัทธา(มุอ์มิน) เรา(อัลเลาะห์) จะให้ผู้นั้นมีความเป็นอยู่อย่างดียิ่ง ทั้งในภาคภพดุนยาด้วยการให้ผู้นั้นมีค่าครองชีพพอใช้พอจ่ายและไม่เป็นบาป ทั้งเรา(อัลเลาะห์) จะตอบสนองแก่พวกเขา ได้รับผลบุญดีเลิศกว่าปฏิบัติการอันเป็นภาควายิบและซุนนะห์ที่พวกเขาปฏิบัติไว้ในภพดุนยาอีก
๙๘. โอ้มุฮำมัด เมื่อเจ้าตั้งใจจะอ่านอัล-กุรอาน เจ้าจงขอคุ้มครองต่ออัลเลาะห์ให้พ้นจากความไขว้เขวเพราะการลวงล่อของไชฏอนที่ถูกเฉดหัว โดยกล่าวคำว่า “อะอูซุบิลลาฮิ มินัชไชตอนิรร่อญีม” ความหมายว่า “ฉันขอคุ้มครองต่ออัลเลาะห์ให้คลาดแคล้วจากไชตอนที่ถูกเฉดหัว”
๙๙. แน่แท้มัน(ไชตอน) ย่อมไม่มีอำนาจใด ๆ ที่จะกดขี่อยู่เหนือบรรดาชนผู้มีศรัทธาได้เลย โดยที่พวกเขาเหล่านั้นต่างก็ยึดมั่นอยู่กับองค์พระผู้อภิบาลแห่งตนเท่านั้น
๑๐๐. อำนาจกดขี่ของมัน(ไชตอน) จะมีได้ก็เฉพาะผู้ที่บรรดาผู้ตกอยู่ใต้ปกครองของมัน ยอมดำเนินตามมัน และบรรดาชนผู้ถือภาคี (มุชริก) เท่านั้น


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 101 - 103
 

คำแปล R1.
101. And when we change a Verse [of the Qur'an, i.e. cancel (abrogate) its order] in place of another, and Allah knows the best of what He sends down, they (the disbelievers) say: "You (O Muhammad) are but a Muftari! (forger, liar)." Nay, but most of them know not.
102. Say (O Muhammad) Ruh-ul-Qudus [Jibrael (Gabriel)] has brought it (the Qur'an) down from your Lord with truth, that it may make firm and strengthen (the faith of) those who believe and as a guidance and glad tidings to those who have submitted (to Allah as Muslims).
103. And indeed we know that they (polytheists and pagans) say: "It is only a human being who teaches him (Muhammad)." the tongue of the man they refer to is foreign, while this (the Qur'an) is a clear Arabic tongue.


คำแปล R2.
101. และเมื่อเราได้เปลี่ยนโองการหนึ่งมาแทนอีกโองการหนึ่ง(ที่ถูกบกเลิก) ทั้ง ๆ ที่อัลเลาะฮฺทรงรอบรู้ยิ่งนักในสิ่งที่พระองค์ทรงลงมาให้ (พวกไร้ศรัทธา)เหล่านั้นก็พูดว่า “ความจริงท่าน(มุฮำมัด)นั้น เป็นเพียงผู้เสกสรรความเท็จโดยแท้! ทว่าพวกเขาส่วนมากไม่รู้
102. จงประกาศเถิด! วิญญาณบริสุทธิ์ (ยิบรออีล) ได้นำอัลกุรอานลงมาจากองค์อภิบาลของเจ้าโดยสัจจะ ทั้งนี้เพื่อสร้างความแน่นแฟ้นแก่บรรดาศรัทธาชนและเป็นสิ่งชี้นำอีกทั้งเป็นข่าวดีแก่มวลผู้สวามิภักดิ์ (นับถืออิสลาม)
103. ขอยืนยัน! แท้จริงเรารู้ว่าเขาพูดว่า”มีบุคคลธรรมดาคนหนึ่ง(คือช่างเหล็กชาวโรม)ทำการสอนเขา(มุฮำมัด แล้วเขาก็นำมาอ้างว่าได้รับโองการมาจากพระเจ้า ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง)ภาษาของบุคคลที่พวกเขาเท้าความถึงนั้นเป็นภาษาต่างถิ่น ส่วน(อัลกุรอาน)นี้ เป็นภาษาอาหรับอันชัดเจน


คำแปล R3.
101. และเมื่อเราได้ประทานอายะฮฺหนึ่งมาอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมในอีกอายะฮฺหนึ่ง และอัลลอฮฺทรงรู้ดีที่สุดถึงสิ่งที่ถูกประทานมา พวกเขากล่าวว่า “ท่านปลอมแปลงกุรอานนี้ขึ้นมาเอง” ความจริงแล้วหาใช่เช่นนั้นไม่ แต่พวกเขาส่วนมากไม่รู้ความจริง
102. จงบอกพวกเขาว่า “วิญญาณบริสุทธิ์ได้นำมันลงมาเป็นตอน ๆ ที่ยังคงสมบูรณ์ถูกต้องจากพระผู้อภิบาลของฉัน ทั้งนี้เพื่อที่พระองค์จะทรงทำให้ความศรัทธาของบรรดาผู้ศรัทธาเกิดความมั่นคงและเพื่อแสดงทางนำที่ถูกต้อง และเพื่อแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ที่นอบน้อมยอมจำนนต่ออัลลอฮฺ
103. เรารู้ดีถึงสิ่งที่พวกเขากล่าวเกี่ยวกับเจ้าว่า: “แน่เลยว่าจะต้องมีใครบางคนสอนเขา” แต่คนที่พวกเขากล่าวถึงนั้นพูดภาษาต่างถิ่น แต่นี่(กุรอาน)เป็นภาษาอาหรับที่ชัดเจน


คำแปล R4.
101. และเมื่อเราได้เปลี่ยนโองการหนึ่งแทนอีกโองการหนึ่ง และอัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่งในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงประทานลงมา พวกเขากล่าวว่า แท้จริงท่านเป็นผู้กุขึ้น เปล่าเลย ส่วนมากของพวกเขาไม่รู้
102. จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด วิญญาณบริสุทธิ์ ได้นำมัน(โองการอัลกรุอาน) ลงมาจากพระเจ้าของเจ้าด้วยความจริง เพื่อให้บรรดาผู้ศรัทธามีความมั่นคง และเป็นทางนำ และข่าวดีแก่บรรดามุสลิม
103. และโดยแน่นอนเรารู้ที่พวกเขากล่าวว่า แท้จริงสามัญชนคนหนึ่งสอนเขา ภาษาที่พวกเขาพาดพิงไปถึงนั้นเป็นภาษาต่างถิ่นและนี่เป็นภาษาอาหรับที่ชัดแจ้ง


คำแปล R5.
๑๐๑. และเมื่อเรา (อัลเลาะห์) ได้นำโองการหนึ่งมาแทนอีกโองการหนึ่ง โดยการยกเลิกโองการหนึ่งแล้วลงอีกโองการหนึ่งมาแทน เพื่อให้เป็นคุณแก่ปวงบ่าวทั้งหลาย ทั้งที่อัลเลาะห์ก็ทรงรู้ยิ่งถึงบรรดาโองการที่พระองค์ทรงมอบลงมาเป็นโองการตัวแทน พวกกาฟิรเหล่านั้นกล่าวแก่มุฮำมัดว่า “ท่านนี้ช่างโกหกนัก” แต่ทว่าพวก กาฟิรเหล่านั้นส่วนมากมิได้รู้เลยว่า ความมุ่งหมายอันแท้จริงของอัล-กุรอานและคุณประโยชน์แห่งการยกเลิกบางโองการจากอัล-กุรอานนั้นเป็นอย่างไร
๑๐๒. โอ้มุฮำมัด จงกล่าวเถิด แก่กาฟิรชาวนครมักกะห์ ยิบรออีลผู้ทรงวิญญาณอันบริสุทธิ์ได้นำพระคัมภีร์อัล-กุรอานจากองค์พระผู้อภิบาลของเจ้าลงมาแล้วโดยเป็นสิ่งสัจจริง เพื่อ พระองค์จะทรงให้บรรดาชนผู้มีศรัทธา(มุอ์มิน)ต่อพระองค์ ได้มั่นคงอยู่กับศรัทธาของพวกเขา เพื่อเป็นแนวธรรมและเป็นความปลาบปลื้มที่ได้สดับข่าวเรื่องสวรรค์สำหรับปวงชนผู้ถือในเอกภาพของอัลเลาะห์
๑๐๓. ขอให้สัจปฏิญาณโดยแน่นอนเรา(อัลเลาะห์) ย่อมรู้ว่าพวกเหล่านั้นที่เป็นชนกาฟิรชาวนครมักกะห์พูดว่า “เพียงมนุษย์คนหนึ่งซึ่งเป็นช่างเหล็กชาวรูมเท่านั้น ที่จะสอนพระคัมภีร์อัล-กุรอานได้” อัลเลาะห์ตรัสโต้กาฟิรชาวมักกะห์ว่า “ภาษาของ ช่างเหล็กผู้ที่พวกกาฟิรเหล่านั้นคล้อยตามเขาว่าสามารถสอนอัล-กุรอานได้นั้นคือภาษาต่างด้าว แต่คัมภีร์อัลกุรอานนี้เป็นภาษาอาหรับที่ชัดแจ้ง ซึ่งไม่อยู่ในวิสัยที่ชนผู้มิใช่ชาวอาหรับ เช่น ช่างเหล็กจะสอนอัล-กุรอานได้


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 104 - 108
 

คำแปล R1.
104. Verily! Those who believe not in the Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.) of Allah, Allah will not guide them and theirs will be a painful torment.
105. It is only those who believe not In the Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.) of Allah, who fabricate falsehood, and it is they who are liars.
106. Whoever disbelieved in Allah after his belief, except him who is forced thereto and whose heart is at rest with faith but such as open their breasts to disbelief, on them is wrath from Allah, and theirs will be a great torment.
107. That is because they loved and preferred the life of this world over that of the Hereafter. And Allah guides not the people who disbelieve.
108. They are those upon whose hearts, hearing (ears) and sight (eyes) Allah has set a seal. And they are the heedless!


คำแปล R2.
104. แท้จริงบรรดาผู้ไม่ศรัทธาในโองการของอัลเลาะฮฺนั้น อัลเลาะฮฺจะไม่ชี้นำพวกเขา และพวกเขาต้องได้รับการลงโทษอันทรมานยิ่ง
105. ความจริงแล้ว ที่ทำการเสกสรรความเท็จขึ้นนั้นมีเฉพาะแต่จำพวกที่ไม่ศรัทธาในโองการของอัลเลาะฮฺเท่านั้น และพวกเหล่านั้นเป็นพวกมุสาทั้งสิ้น
106. ผู้ใดปฏิเสธ(ไม่ศรัทธา)อัลเลาะฮฺ ภายหลังจากเขาได้ศรัทธาจ่อพระองค์(แน่นอนพวกเขาต้องได้รับโทษ) ยกเว้นบุคคลที่ถูกบังคับ(ให้ปฏิเสธ) แต่หัวใจของเขายังมั่นคงในศรัทธา(ที่เขามีต่อพระองค์) และแต่ทว่า ผู้ใดที่หัวใจเปิดกว้างกับการปฏิเสธ แน่นอนพวกเข้าองได้รับความกริ้วจากอัลเลาะฮฺ และพวกเขาต้องได้รับโทษอันมหันต์
107. นั้น! เป็นเพราะพวกเขามีความหลงใหลชีวิตทางโลกนี้เหนือกว่าโลกหน้าและแท้จริงอัลเลาะฮฺไม่ทรงชี้นำแก่กลุ่มชนที่ไร้ศรัทธา
108. พวกเหล่านั้นเป็นพวกที่อัลเลาะฮฺทรงประทับ(ความมืดบอด)บนหัวใจของพวกเขาบนหูของพวกเขาและบนตาของพวกเขาและพวกเหล่านั้นเป็นผู้หลงลืม


คำแปล R3.
104. แท้จริงแล้ว อัลลอฮฺไม่ทรงนำทางบรรดาผู้ไม่ศรัทธาในอายะฮฺทั้งหลายของพระองค์ และสำหรับพวกเขาจะมีการลงโทษอันเจ็บปวด
105. (นบี ไม่ได้กุสิ่งเท็จขึ้นมา แต่) บรรดาผู้ไม่ศรัทธาในอายะฮฺทั้งหลายของอัลลอฮฺนั้นกำลังสร้างเรื่องเท็จขึ้นมา พวกเขาเหล่านี้เป็นผู้โกหก
106. ใครก็ตามที่ถูกบังคับให้ต้องปฏิเสธ หลังจากที่ได้ศรัทธาแล้ว ในขณะที่หัวใจของเขายังยึดมั่นในการศรัทธาอยู่ (เขาจะไม่ถูกเอาผิด) แต่ใครที่ยอมรับการปฏิเสธด้วยความเต็มใจ เขาจะได้รับความกริ้วจากอัลลอฮฺ และพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
107. นั้นเป็นเพราะว่าพวกเขารักชีวิตของโลกนี้มากกว่าชีวิตในโลกหน้า และอัลลอฮฺจะไม่ทรงแสดงทางนำแห่งความรอดพ้นให้แก่บรรดาผู้เนรคุณ
108. อัลลอฮฺได้ทรงปิดผนึกหัวใจ หูและตาของคนพวกนี้ไว้ และเขาได้กลายเป็นผู้เฉยเมย


คำแปล R4.
104. แท้จริง บรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของอัลลอฮฺ อัลลอฮฺจะไม่ชี้แนะทางแก่พวกเขา และสำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันเจ็บปวด
105. แท้จริงบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของอัลลอฮฺนั้น กุความเท็จขึ้น และชนเล่านั้นคือผู้กล่าวเท็จ
106. ผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺหลังจากที่เขาได้รับศรัทธาแล้ว(เขาจะได้รับความกริ้วจากอัลลอฮฺ) เว้นแต่ผู้ที่ถูกบังคับทั้ง ๆ ที่หัวใจของเขาเปี่ยมไปด้วยศรัทธา แต่ผู้ใดเปิดหัวอกของเขาด้วยการปฏิเสธศรัทธา พวกเขาก็จะได้รับความกริ้วจากอัลลอฮฺและสำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างมหันต์
107. ทั้งนี้เพราะว่าพวกเขาพอใจเลือกเอาชีวิตในโลกนี้เหนือปรโลก และแท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงชี้แนะทางแก่กลุ่มชนผู้ปฏิเสธศรัทธา
108. ชนเหล่านั้นคือผู้ที่อัลลอฮฺทรงประทับตราบนหัวใจของพวกเขา และบนหูของพวกเขาและบนตาของพวกเขา และชนเหล่านั้นคือผู้เผอเรอ


คำแปล R5.
๑๐๔. แท้จริงบรรดาผู้มิได้ศรัทธาต่อบรรดาโองการแห่งพระคัมภีร์อัล-กุรอานของอัลเลาะห์ตามที่ทรงรู้อยู่แต่บรรพกาลแล้วนั้น อัลเลาะห์จะไม่ทรงชี้แนวธรรมแก่พวกเขาเลย แล้วพวกเขาย่อมได้รับโทษอันเจ็บแสบ
๑๐๕. เฉพาะบรรดาผู้มิได้ศรัทธาต่อบรรดาโองการแห่ง อัล-กุรอานของอัลเลาะห์เท่านั้นที่จะปั้นเท็จขึ้น ด้วยคำกล่าวที่ว่า “อัล-กุรอานนี้เป็นถ้อยคำของมุฮำมัดเอง” พวกเหล่านั้นแหละคือเหล่าชนกาฟิร
๑๐๖. ผู้ใดขาดศรัทธาต่ออัลเลาะห์หลังจากที่เขาได้ศรัทธาแล้ว ผู้นั้นย่อมได้รับโทษอันใหญ่หลวง ยกเว้นผู้ถูกบีบบังคับให้กล่าวว่า “ไม่มีอัลเลาะห์” หรือถูกบังคับให้กราบเคารพเทวรูป โดยที่หัวใจของผู้นั้นยังแน่นอนอยู่ด้วยศรัทธาต่ออัลเลาะห์ แต่ถ้าผู้ใดพอใจจะไม่ศรัทธาต่ออัลเลาะห์แล้วไซร้ โทษทัณฑ์จากอัลเลาะห์ย่อมตกแก่พวกเขา แล้วพวกเขาจะได้รับโทษอันใหญ่หลวงอีกด้วย
๑๐๗. สัญญาแห่งการลงโทษพวกเขานี้แหละ เป็นเพราะพวกเขารักจะเลือกเอาแต่ชีวิตความเป็นอยู่ในภาคภพนี้ยิ่งกว่าภาคปรภพ(อาคิเราะห์) และเป็นเพราะว่าอัลเลาะห์มิได้ทรงชี้แนวธรรมแก่ปวงชนกาฟิร
๑๐๘. พวกเหล่านั้นแหละคือบรรดาชนผู้ที่อัลเลาะห์ทรงผนึกปิดตายหัวใจของพวกเขา หูของพวกเขาและตาของพวกเขาไว้มิให้ความจริงเข้าถึง ประหนึ่งทรงตอกตราประทับแน่นหนาและพวกเหล่านั้นแหละ คือชนผู้ลืมเลือนการลงทัณฑ์ที่พวกเขาถูกหมายไว้แล้ว


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 109 - 111
 

คำแปล R1.
109. No doubt, in the Hereafter, they will be the losers.
110. Then, verily! Your Lord for those who emigrated after they had been put to trials and thereafter strove hard and fought (for the Cause of Allah) and were patient, verily, your Lord afterward is, Oft-Forgiving, Most Merciful.
111. (Remember) the day when every person will come up pleading for him, and every one will be paid in full for what he did (good or evil, belief or disbelief in the life of this world) and they will not be dealt with unjustly.


คำแปล R2.
109. ไม่มีข้อกังขาอีกแล้ว พวกเขาต้องประสบความขาดทุนอย่างยิ่งในโลกหน้า
110. หลังจากนั้น! แท้จริงองค์อภิบาลของเจ้า(จะทรงช่วยเหลือ)แก่ปวงชนที่อพยพภายหลังจากพวกเขาถูกรังควาน หลังจากนั้นพวกเขาก็ต่อสู้และอดทน แท้จริงองค์อภิบาลของเจ้าภายหลังจากนั้นแล้วทรงให้อภัย อีกทั้งทรงเมตตายิ่ง
111. ในวัน(ชาติหน้า) ซึ่งทุก ๆ ชีวิตจะมาโต้เถียงเกี่ยวกับ(พฤติกรรมของ)ตัวเอง(ที่ผ่านมาในอดีต) และทุก ๆ ชีวิตจะได้รับการตอบแทนอย่างครบถ้วนในสิ่งที่พวกเขาได้ประพฤติไว้ โดยพวกเขามิถูกฉ้อฉลเลย
 

คำแปล R3.
109. ดังนั้น มันจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่พวกเขาจะต้องเป็นผู้ขาดทุนในโลกหน้า
110. (ในทางตรงกันข้าม) พระผู้อภิบาลของเจ้าทรงให้อภัยและทรงเมตตาอย่างแน่นอนที่สุดแก่บรรดาผู้ที่ถูกกดขี่ (เพราะความศรัทธาของพวกเขา) แล้วอพยพและต่อสู้อย่างถึงที่สุดในหนทางของอัลลอฮฺและอดทน
111. (สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจะถูกตัดสิน) ในวันที่ทุกชีวิตจะร้องขอเพื่อตัวเอง และทุกชีวิตจะได้รับการตอบแทนอย่างเต็มที่สำหรับการกระทำของตัวเองและจะไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมเลย แม้แต่เพียงนิดเดียว


คำแปล R4.
109. โดยแน่นอน แท้จริงพวกเขาในปรโลกจะเป็นผู้ขาดทุน
110. แต่ แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น สำหรับบรรดาผู้อพยพหลังจากถูกทดสอบแล้ว พวกเขาก็ต่อสู้ดิ้นรนและอดทน แท้จริงพระเจ้าของเจ้าหลังจากนั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ
111. วันที่ทุกชีวิตจะมาโต้แย้งแทนชีวิตของมัน และทุกชีวิตจะถูกตอบแทนจนครบถ้วนตามที่ได้กระทำไว้ และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรม


คำแปล R5.
๑๐๙.แน่นอนทีเดียวในภพอาคิเราะห์พวกเขาย่อมเป็นเหล่าชนผู้ขาดทุน เพราะเหตุที่ต้องใช้ชีวิตในแบบเสียเปล่าอันเป็นผลเพื่อนำตนไปสู่โทษทรมานอันถาวร
   มูลเหตุแห่งการลงโองการต่อไปนี้ มีลงมาเกี่ยวข้องกับบุคคลผู้มีชื่อว่า อิยาส บุตรรอบีอะห์ อบูยันดัล บุตรสะห์ลุ และคณะอีกหลายคน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ถูกพวกกาฟิรมุชริกข่มเหงและกระทำทารุณกรรม เพื่อให้ปลอดพ้นจากเหตุร้ายของชนกาฟิรมุชริก คณะมุสลิมทึ่ออกชื่อข้างต้นจึงต้องยอมเสียบางสิ่งบางอย่างให้แก่พวกกาฟิรมุชริกตามที่ต้องการ แล้วต่อจากนั้นคณะมุสลิมก็ได้อพยพไปสู่นครมะดีนะห์ และได้ทำศึกกับเหล่ากาฟิรมุชริก โองการจากอัลเลาะห์จึงมีลงมาว่า
๑๑๐. โอ้มุฮำมัด ครั้นแล้วองค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้าทรงอำนวย การอภัยอย่างยิ่งและความปรานีอย่างยิ่งแก่บรรดาชนมุสลิมผู้อพยพไปยังนครมะดีนะห์ หลังจากพวกเขาถูกกาฟิรมุชริกชาวนครมักกะห์ข่มเหงและทำให้จำต้องกล่าวถ้อยคำอันสูญเสียศรัทธาแล้วหลังจากนั้น คณะมุสลิมก็ได้ทำศึกสงครามและพยายามอดกลั้นต่อคำบัญชาใช้จากอัลเลาะห์ได้ด้วยถัดจากคณะชนมุสลิมถูกพวกกาฟิรข่มเหงแล้วนั้น องค์พระผู้อภิบาลแห่งเจ้าทรงยิ่งในการอภัย ทรงยิ่งในความปรานีโดยแน่นอน
๑๑๑. และโอ้มุฮำมัด เจ้าจงกล่าวเถิดถึงวันอวสานแห่งพิภพดุนยาให้แก่ประชาชนของเจ้าเพื่อให้ได้พิจารณาว่า ณ วันนั้น แต่ละชีวิตแห่งมนุษย์จะถกถียง เอาตัวรอดอย่างฟังไม่ขึ้นเพื่อให้ตนพ้นผิด โดยต่างอ้างขึ้นว่า “อันที่จริงพวกเรานี้มิเคยได้เคารพสักการเทวรูปเลย” แล้วแต่ละชีวิตจะได้รับตอบสนองผลแห่งกรรมดีบ้างและชั่วบ้างตามที่ตนได้กระทำไว้อย่างครบถ้วนโดยมิถูกคดโกงด้วยการถูกลดความดีและเพิ่มความชั่วเลยแม้สักนิดเดียว


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่  112 - 113
 

คำแปล R1.
112. And Allah puts forward the example of a township (Makkah), that dwelt secure and well content; its provision coming to it in abundance from every place, but it (its people) denied the Favours of Allah (with ungratefulness). So Allah made it taste the extreme of hunger (famine) and fear, because of that (evil, i.e. denying Prophet Muhammad) which they (its people) used to do.
113. And verily, there had come unto them a Messenger (Muhammad) from among themselves, but they denied him, so the torment overtook them while they were Zalimun (polytheists and wrong-doers, etc.).


คำแปล R2.
112. และอัลเลาะฮฺทรงยกอุทาหรณ์ถึงเมืองหนึ่งที่มีความปลอดภัย อีกทั้งสงบ มีโชคผลมาสู่เมืองนั้นอย่างอุดมสมบูรณ์จากทุก ๆ สถานที่ แต่แล้วชาวเมืองนั้นกลับอกตัญญูต่อความโปรดปรานต่าง ๆ ของอัลเลาะฮฺ ดังนั้นอัลเลาะฮฺจึงให้พวกนั้นได้ลิ้มรสปกคลุมแห่งความอดอยาก และความหวาดกลัว เพราะสิ่งที่พวกเขาได้เคยประพฤติไว้
113. ขอยืนยัน! แท้จริงได้มีศาสนทูตซึ่งเป็นชนชาติของพวกเขาเองได้มาสู่พวกเขา(เพื่อเผยแพร่สัจธรรม) แต่แล้วพวกเขากลับหาว่าเขามุสา ดังนั้นการลงโทษจึงอุบัติแก่พวกเขา โดยพวกเขาเป็นพวกฉ้อฉล


คำแปล R3.
112. อัลลอฮฺได้ทรงยกตัวอย่างของเมืองหนึ่งซึ่งมีความมั่นคงปลอดภัยและสงบสุข และได้รับปัจจัยยังชีพอย่างอุดมสมบูรณ์จากทุกแห่งหน แต่เมื่อมันเริ่มแสดงความเนรคุณต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺ พระองค์จะได้ทำให้ชาวเมืองนั้นได้ลิ้มรสผลกรรมที่ตามมาจากการกระทำของพวกเขาโดยทำให้พวกเขาต้องได้รับความหิวโหยและความหวาดกลัว
113. และได้มีรอซูลคนหนึ่งจากหมู่พวกเขาได้มายังพวกเขา แต่พวกเขากลับถือว่าเขาเป็นผู้โกหก ในที่สุด การลงโทษก็เกิดขึ้นแก่พวกเขาในขณะที่พวกเขาเป็นผูอธรรม


คำแปล R4.
112. และอัลลอฮฺทรงยกอุทาหรณ์ เมืองหนึ่งซึ่งปลอดภัยและสงบ ปัจจัยยังชีพของมันมีมาอย่างอุดมสมบูรณ์ทุกแห่งหน แล้วมันก็ปฏิเสธต่อความโปรดปรานของอัลลอฮ์ดังนั้น อัลลอฮฺจึงทรงให้มันลิ้มรสความรู้สึก แห่งความหิวและความกลัว ตามที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้
113. และโดยแน่นอน ได้มีรอซูลท่านหนึ่งจากหมู่พวกเขามายังพวกเขา แล้วพวกเขาปฏิเสธไม่ยอมเชื่อเขา ดังนั้น การลงโทษได้คร่าพวกเขาโดยที่พวกเขาเป็นผู้อธรรม


คำแปล R5.
๑๑๒. อัลเลาะห์ทรงชักอุทาหรณ์ถึงลักษณะของชาวชนแห่งแว่นแคว้นหนึ่ง คือนครมักกะห์ว่ามีความสงบสุขปลอดพ้นจากการถูกรุกรานของฝ่ายศัตรู มีความมั่นคง ไม่ถึงกับชาวเมืองต้องอพยพจากไปเพราะความคับแค้น หรือเพราะกลัวว่าการครองชีพจะอัตคัด อันจะมีโชคลาภจากแต่ละแห่งมาสู่ที่นครแห่งนี้อย่างเหลือล้น แต่ละชีวิตก็ยังเนรคุณในพระกรุณาธิคุณของอัลเลาะห์อยู่อีก โดยกล่าวหาว่าพระศาสดามุฮำมัดเป็นผู้เท็จดังนั้นอัลเลาะห์จึงทรงให้เขานั้นแร้นแค้นอยู่ในความหิวโหยเป็นเวลายาวนานถึงเจ็ดปีและมีความหวาดกลัวอานุภาพแห่งกองทัพของมุฮำมัดฐานที่พวกเขาได้ปฏิบัติไว้
๑๑๓. และอัลเลาะห์ตรัสยืนยันว่า แน่แท้ศาสนทูตมุฮำมัดผู้เป็นชนแห่งพวกนั้นได้มาสู่พวกนั้นแล้ว แต่พวกนั้นหาว่าเขา (มุฮำมัด) ป็นผู้เท็จ ดังนั้นโทษทัณฑ์อันได้แก่ความอดอยากยากแค้นนานถึงเจ็ดปีกับความหวาดกลัวแสนยานุภาพกองทัพของมุฮำมัด จึงตกแก่พวกนั้นโดยที่พวกนั้นคือเหล่าชนกาฟิร

 
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่  114 - 117
 

คำแปล R1.
114. So eat of the lawful and good food which Allah has provided for you. And be grateful for the graces of Allah, if it is He whom you worship.
115. He has forbidden you only Al-Maytatah (meat of a dead animal), blood, the flesh of swine, and any animal which is slaughtered as a sacrifice for others than Allah (or has been slaughtered for idols etc. or on which Allah's Name has not been mentioned while slaughtering). But if one is forced by necessity, without willful disobedience, and not transgressing, then, Allah is Oft-Forgiving, Most Merciful.
116. And Say not concerning that which your tongues put forth falsely: "This is lawful and this is forbidden," so as to invent lies against Allah. Verily, those who invent lies against Allah will never prosper.
117. A passing brief enjoyment (will be theirs), but they will have a painful torment.


คำแปล R2.
114. ดังนั้นเจ้าทั้งหลายจงบริโภคจากสิ่งที่อัลเลาะฮฺ ทรงประทานแก่พวกเจ้า เป็นสิ่งที่อนุมัติอีกทั้งดี(มีประโยชน์) และพวกเจ้าจงกตัญญูต่อความโปรดปรานของอัลเลาะฮฺเถิด หากพวกเจ้าเป้นผู้ที่ทำการนมัสการต่อพระองค์อย่างแท้จริง
115. อันที่จริงอัลเลาะฮฺได้บัญญัติห้ามแก่พวกเจ้าซึ่งซากสัตว์, เลือด, เนื้อสุกรและสิ่งที่ถูกเชือดเพื่ออื่นจากอัลเลาะฮฺ (เช่นสัตว์เชือดบูชาเทวรูป) แต่ถ้าผู้ใดประสบความคับขันโดยมิใช่ดื้อดึงและมิใช่ผู้ละเมิด(ต่อบทบัญญัติ) แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงให้อภัยยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง
116. และพวกเจ้าอย่ากล่าวเท็จต่อสิ่งที่ลิ้นของพวกเจ้าพรรณนาไว้ว่า “สิ่งนี้อนุมัติ และสิ่งนี้ต้องห้าม” เพื่อพวกเจ้ากุความเท็จขึ้นแก่อัลเลาะฮฺเท่านั้น แท้จริงบรรดาผู้กุความเท็จแก่อัลเลาะฮฺนั้น ย่อมไม่สมหวังอย่างแน่นอน
117. (ความสุขของโลกนี้)เป็นความสุขเล็กน้อย(เพียงชั่วคราว) และพวกเขาต้องได้รับการลงโทษอันทรมานยิ่ง


คำแปล R3.
114. ดังนั้น (ผู้คนทั้งหลาย) จงบริโภคปัจจัยยังชีพที่ได้รับการอนุมัติและสะอาดบริสุทธิ์ที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานแก่สูเจ้า และจงแสดงความขอบคุณต่ออัลลอฮฺสำหรับความาโปรดปรานของพระองค์ หากเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่สูเจ้าเชื่อฟังด้วยความจริงใจ
115. อัลลอฮฺทรงห้ามสูเจ้าแต่เฉพาะสิ่งเหล่านี้ คือ สัตว์ที่ตายเอง เลือด เนื้อหมูและสิ่งที่ถูกเชือดในนามอื่นนอกไปจากอัลลอฮฺ แต่ถ้าหากตกอยู่ในภาวะถูกบังคับ (ก็จงกิน)โดยมีข้อแม้ว่าเขาไม่มีเจตนาที่ทำลายกฎของพระเจ้าหรือฝ่าฝืนขอบเขตของความจำเป็น แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ
116. จงอย่ากล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺโดยการให้ลิ้นของสูเจ้ากล่าวออกมาว่า “สิ่งนี้เป็นที่อนุมัติและสิ่งนั้นเป็นที่ต้องห้าม” เพราะคนที่กล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺนั้นไม่มีวันที่จะได้รับความเจริญ
117. (พวกเขาควรจะจำไว้ว่า) ความสุขแห่งโลกนี้เป็นเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น และในท้ายที่สุดแล้วจะมีการลงโทษอันเจ็บปวดสำหรับพวกเขา


คำแปล R4.
114. พวกเจ้าจงบริโภคในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ซึ่งเป็นที่อนุมัติที่ดี และพวกเจ้าจงขอบคุณต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺ หากพวกเจ้าเคารพภักดีเฉพาะพระองค์เท่านั้น
115. แท้จริง พระองค์ทรงห้ามพวกเจ้าเพียงแต่สัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงที่มันเพื่ออื่นจากอัลลอฮ์ ดังนั้นผู้ใดที่อยู่ในสภาพคับขัน โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่เป็นผู้ละเมิดแล้ว แท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ
116. และพวกเจ้าอย่ากล่าวตามที่ลิ้นของพวกเจ้ากล่าวเท็จขึ้นว่า นี่เป็นที่อนุมัติและนี่เป็นที่ต้องห้าม เพื่อที่พวกเจ้าจะกล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺแท้จริงบรรดาผู้กล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺนั้น พวกเขาจะไม่ได้รับความสำเร็จ
117. ผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย และสำหรับพวกเขาคือการลงโทษอันเจ็บปวด


คำแปล R5.
๑๑๔. โอ้ปวงชนผู้มีศรัทธา (มุอ์มิน) พวกเจ้าจงกินเถิดจากบางส่วนอันเป็นที่อนุญาตอันโอชาที่อัลเลาะห์ทรงอำนวยแก่พวกเจ้า ทั้งพวกเจ้าจงระลึกในพระกรุณาธิคุณแห่งอัลเลาะห์ด้วยเถิด หากว่าพวกเจ้าน้อมภักดีเฉพาะต่อพระองค์โดยประพฤติปฏิบัติตามพระบัญชาใช้และออกห่างจากที่ทรงห้าม
   เมื่ออัลเลาะห์ทรงบัญชาใช้ให้พวกเหล่านั้นบริโภคแต่ส่วนที่เป็นของอนุญาตแล้วพระองค์ก็ทรงระบุจำนวนสิ่งที่ต้องห้ามให้พวกเหล่านั้นทราบ เพื่อจะได้รู้ว่า นอกเหนือจากที่ระบุว่าเป็นของต้องห้ามย่อมเป็นของอนุญาตทั้งนั้น ทั้งยังได้ทรงห้ามย้ำไว้มิให้พูดตามอารมณ์ว่า “สิ่งห้ามเป็นสิ่งอนุญาตและสิ่งอนุญาตเป็นสิ่งที่ห้าม” ตามเนื้อความแห่งโองการต่อไปนี้
๑๑๕. แน่แท้พระองค์ทรงตราห้ามพวกเจ้าไว้เกี่ยวกับการบริโภคซากสัตว์ตายเอง เลือด เนื้อสุกร และเหล่าสัตว์ที่ถูกเชือดโดยออกนามของผู้มิใช่อัลเลาะห์ เช่น นามของพวกเทวรูปและนามอื่น ๆ ฉะนั้นผู้ใดซึ่งมิใช่คนขบถในแผ่นดินและมิใช่ศัตรูต่อปวงชนโดยเป็นผู้ร้ายคอยดักสกัดกั้นตามทางสัญจรตกอยู่ในความคับขันถึงขนาดจำต้องบริโภคสิ่งอันต้องห้าม ตามกล่าวนั้นแล้วไซร้ แน่นอน อัลเลาะห์ทรงเป็นองค์อภัยยิ่งต่อเขา ทรงเป็นองค์ปรานียิ่งต่อเขา

๑๑๖. พวกเจ้าอย่าพูดถึงสิ่งใด ๆ ตามแต่ลิ้นของพวกเจ้าจะบรรยายเป็นถ้อยคำเท็จโดยไร้หลักฐานเลยว่า ซากนี้คือสิ่งอนุญาต ทั้งที่อัลเลาะห์มิได้ทรงตราว่าอนุญาต และว่าอูฐบะฮาอิรนี้คือสิ่งที่ห้ามทั้งที่มิได้ทรงตราว่าเป็นสิ่งที่ห้ามเป็นการอ้างเท็จด้วยถ้อยคำ “อนุญาตและห้าม” พาดพิงถึงอัลเลาะห์ แท้จริงบรรดาชนกาฟิรผู้ที่อ้างเท็จพาดพิงถึงอัลเลาะห์นั้นย่อมไม่มีชัยเลยทั้งในภาคภพดุนยาและในภพอาคิเราะห์
๑๑๗. ในภพนี้พวกกาฟิรเหล่านั้นจะได้รับเป็นประโยชน์อันเล็กน้อยเท่านั้นแล้วพวกเหล่านั้นจะได้รับโทษทัณฑ์อันเจ็บแสบในภาคภพหน้า


ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺ อันนะหฺลุ อายะฮฺที่  114 - 117
 

คำแปล R1.
114. So eat of the lawful and good food which Allah has provided for you. And be grateful for the graces of Allah, if it is He whom you worship.
115. He has forbidden you only Al-Maytatah (meat of a dead animal), blood, the flesh of swine, and any animal which is slaughtered as a sacrifice for others than Allah (or has been slaughtered for idols etc. or on which Allah's Name has not been mentioned while slaughtering). But if one is forced by necessity, without willful disobedience, and not transgressing, then, Allah is Oft-Forgiving, Most Merciful.
116. And Say not concerning that which your tongues put forth falsely: "This is lawful and this is forbidden," so as to invent lies against Allah. Verily, those who invent lies against Allah will never prosper.
117. A passing brief enjoyment (will be theirs), but they will have a painful torment.


คำแปล R2.
114. ดังนั้นเจ้าทั้งหลายจงบริโภคจากสิ่งที่อัลเลาะฮฺ ทรงประทานแก่พวกเจ้า เป็นสิ่งที่อนุมัติอีกทั้งดี(มีประโยชน์) และพวกเจ้าจงกตัญญูต่อความโปรดปรานของอัลเลาะฮฺเถิด หากพวกเจ้าเป้นผู้ที่ทำการนมัสการต่อพระองค์อย่างแท้จริง
115. อันที่จริงอัลเลาะฮฺได้บัญญัติห้ามแก่พวกเจ้าซึ่งซากสัตว์, เลือด, เนื้อสุกรและสิ่งที่ถูกเชือดเพื่ออื่นจากอัลเลาะฮฺ (เช่นสัตว์เชือดบูชาเทวรูป) แต่ถ้าผู้ใดประสบความคับขันโดยมิใช่ดื้อดึงและมิใช่ผู้ละเมิด(ต่อบทบัญญัติ) แท้จริงอัลเลาะฮฺทรงให้อภัยยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง
116. และพวกเจ้าอย่ากล่าวเท็จต่อสิ่งที่ลิ้นของพวกเจ้าพรรณนาไว้ว่า “สิ่งนี้อนุมัติ และสิ่งนี้ต้องห้าม” เพื่อพวกเจ้ากุความเท็จขึ้นแก่อัลเลาะฮฺเท่านั้น แท้จริงบรรดาผู้กุความเท็จแก่อัลเลาะฮฺนั้น ย่อมไม่สมหวังอย่างแน่นอน
117. (ความสุขของโลกนี้)เป็นความสุขเล็กน้อย(เพียงชั่วคราว) และพวกเขาต้องได้รับการลงโทษอันทรมานยิ่ง


คำแปล R3.
114. ดังนั้น (ผู้คนทั้งหลาย) จงบริโภคปัจจัยยังชีพที่ได้รับการอนุมัติและสะอาดบริสุทธิ์ที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานแก่สูเจ้า และจงแสดงความขอบคุณต่ออัลลอฮฺสำหรับความาโปรดปรานของพระองค์ หากเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่สูเจ้าเชื่อฟังด้วยความจริงใจ
115. อัลลอฮฺทรงห้ามสูเจ้าแต่เฉพาะสิ่งเหล่านี้ คือ สัตว์ที่ตายเอง เลือด เนื้อหมูและสิ่งที่ถูกเชือดในนามอื่นนอกไปจากอัลลอฮฺ แต่ถ้าหากตกอยู่ในภาวะถูกบังคับ (ก็จงกิน)โดยมีข้อแม้ว่าเขาไม่มีเจตนาที่ทำลายกฎของพระเจ้าหรือฝ่าฝืนขอบเขตของความจำเป็น แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ
116. จงอย่ากล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺโดยการให้ลิ้นของสูเจ้ากล่าวออกมาว่า “สิ่งนี้เป็นที่อนุมัติและสิ่งนั้นเป็นที่ต้องห้าม” เพราะคนที่กล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺนั้นไม่มีวันที่จะได้รับความเจริญ
117. (พวกเขาควรจะจำไว้ว่า) ความสุขแห่งโลกนี้เป็นเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น และในท้ายที่สุดแล้วจะมีการลงโทษอันเจ็บปวดสำหรับพวกเขา


คำแปล R4.
114. พวกเจ้าจงบริโภคในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ซึ่งเป็นที่อนุมัติที่ดี และพวกเจ้าจงขอบคุณต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺ หากพวกเจ้าเคารพภักดีเฉพาะพระองค์เท่านั้น
115. แท้จริง พระองค์ทรงห้ามพวกเจ้าเพียงแต่สัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงที่มันเพื่ออื่นจากอัลลอฮ์ ดังนั้นผู้ใดที่อยู่ในสภาพคับขัน โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่เป็นผู้ละเมิดแล้ว แท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ
116. และพวกเจ้าอย่ากล่าวตามที่ลิ้นของพวกเจ้ากล่าวเท็จขึ้นว่า นี่เป็นที่อนุมัติและนี่เป็นที่ต้องห้าม เพื่อที่พวกเจ้าจะกล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺแท้จริงบรรดาผู้กล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺนั้น พวกเขาจะไม่ได้รับความสำเร็จ
117. ผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย และสำหรับพวกเขาคือการลงโทษอันเจ็บปวด


คำแปล R5.
๑๑๔. โอ้ปวงชนผู้มีศรัทธา (มุอ์มิน) พวกเจ้าจงกินเถิดจากบางส่วนอันเป็นที่อนุญาตอันโอชาที่อัลเลาะห์ทรงอำนวยแก่พวกเจ้า ทั้งพวกเจ้าจงระลึกในพระกรุณาธิคุณแห่งอัลเลาะห์ด้วยเถิด หากว่าพวกเจ้าน้อมภักดีเฉพาะต่อพระองค์โดยประพฤติปฏิบัติตามพระบัญชาใช้และออกห่างจากที่ทรงห้าม
   เมื่ออัลเลาะห์ทรงบัญชาใช้ให้พวกเหล่านั้นบริโภคแต่ส่วนที่เป็นของอนุญาตแล้วพระองค์ก็ทรงระบุจำนวนสิ่งที่ต้องห้ามให้พวกเหล่านั้นทราบ เพื่อจะได้รู้ว่า นอกเหนือจากที่ระบุว่าเป็นของต้องห้ามย่อมเป็นของอนุญาตทั้งนั้น ทั้งยังได้ทรงห้ามย้ำไว้มิให้พูดตามอารมณ์ว่า “สิ่งห้ามเป็นสิ่งอนุญาตและสิ่งอนุญาตเป็นสิ่งที่ห้าม” ตามเนื้อความแห่งโองการต่อไปนี้
๑๑๕. แน่แท้พระองค์ทรงตราห้ามพวกเจ้าไว้เกี่ยวกับการบริโภคซากสัตว์ตายเอง เลือด เนื้อสุกร และเหล่าสัตว์ที่ถูกเชือดโดยออกนามของผู้มิใช่อัลเลาะห์ เช่น นามของพวกเทวรูปและนามอื่น ๆ ฉะนั้นผู้ใดซึ่งมิใช่คนขบถในแผ่นดินและมิใช่ศัตรูต่อปวงชนโดยเป็นผู้ร้ายคอยดักสกัดกั้นตามทางสัญจรตกอยู่ในความคับขันถึงขนาดจำต้องบริโภคสิ่งอันต้องห้าม ตามกล่าวนั้นแล้วไซร้ แน่นอน อัลเลาะห์ทรงเป็นองค์อภัยยิ่งต่อเขา ทรงเป็นองค์ปรานียิ่งต่อเขา
๑๑๖. พวกเจ้าอย่าพูดถึงสิ่งใด ๆ ตามแต่ลิ้นของพวกเจ้าจะบรรยายเป็นถ้อยคำเท็จโดยไร้หลักฐานเลยว่า ซากนี้คือสิ่งอนุญาต ทั้งที่อัลเลาะห์มิได้ทรงตราว่าอนุญาต และว่าอูฐบะฮาอิรนี้คือสิ่งที่ห้ามทั้งที่มิได้ทรงตราว่าเป็นสิ่งที่ห้ามเป็นการอ้างเท็จด้วยถ้อยคำ “อนุญาตและห้าม” พาดพิงถึงอัลเลาะห์ แท้จริงบรรดาชนกาฟิรผู้ที่อ้างเท็จพาดพิงถึงอัลเลาะห์นั้นย่อมไม่มีชัยเลยทั้งในภาคภพดุนยาและในภพอาคิเราะห์
๑๑๗. ในภพนี้พวกกาฟิรเหล่านั้นจะได้รับเป็นประโยชน์อันเล็กน้อยเท่านั้นแล้วพวกเหล่านั้นจะได้รับโทษทัณฑ์อันเจ็บแสบในภาคภพหน้า


 

GoogleTagged