
ว่าแต่ทริปหน้า จะไปเที่ยวที่ไหนอีกคะ
อินชาอัลลอฮฺ 3 - 10 พค. น่าจะเป็นตอนใต้ของจีน ยูนนาน คุณหมิง สิบสองปันนา
ถ้าผู้จัดหานักทัศนศึกษาได้ถึง 30 คน
แต่ถ้าไม่ถึง 30 คนก็อด
วัสสลาม
ขออัลลอฮ์ทรงมอบความสะดวกง่ายดายในการเดินทางท่องเที่ยว
บนหน้าแผ่นดินนี้ให้แชและครอบครัวนะคะ...
เมื่อปลายปีที่แล้วมีพี่ที่รู้จักกันที่ญี่ปุ่นทาบทามให้มาช่วยนักคิด
เกี่ยวกับธีมในการนำเที่ยวในญี่ปุ่น เอาแบบที่ไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน
ตอนนั้นเลยเสนอไปว่า ไปเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ แบบผจญภัย
นั่งรถไฟของญี่ปุ่นไปเที่ยวในที่ต่างๆ แล้วก็นั่งรถเมล์เอา โดยจะไม่ใช้
รถบัสนำเที่ยวอย่างที่ใครๆเขาทำกัน...ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
วิถีของคนญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น แล้วเราก็จะพาเที่ยวตามสถานที่ทางธรรมชาติ
ปีนเขาและพายเรือโบราณกัน...ซึ่งคนที่จะไปกับเรานั้นจะมีกันไม่เยอะ
คือไกด์สองคน ข้าน้อยกับพี่เค้าสามารถดูแลได้...
ตอนนั้น...คิดกันไว้อย่างดี วางแผนกันว่าจะไปเที่ยวแถบไหนบ้าง
กะว่าจะลงที่สนามบินนาริตะ แล้วเที่ยวเมืองหลวงอย่างโตเกียวและบริเวณใกล้ๆ
อย่างฮาโกเนะ...เสร็จแล้วก็นั่งชินคังเซ็น(รถไฟจรวด)ข้ามฟากไปเมืองเกียวโต
ซึ่งอยู่กันคนละฟากฝั่งกับโตเกียว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
เพราะอยากให้คนไทยเราได้สัมผัสกับความเร็วของรถไฟดูบ้าง...
ต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ข้าน้อยที่ต้องจัดการซื้อบัตรรถเมล์เหมาทั้งวัน
เพื่อเที่ยวรอบเมืองเกียวโต...กะว่าจะไปช่วงซากุระบาน...
เพราะมีรถไฟสายนึงที่นั่งตอนกลางคืนแล้วผ่านอุโมงค์ที่รอบทางมีแต่ต้นซากุระ
ล้อมเข้าหาเป็นอุโมงก์ พอรถไฟผ่านไป ภายในรถไฟเขาก็จะปิดไฟ
แล้วจะเห็นเพียงดอกซากุระสีชมพูข้างทางสวยงามมาก...
เที่ยวเกียวโตเสร็จก็ไปเที่ยวโอซาก้ากับโกเบ ไปดูมัสยิดหลังแรก
ของญี่ปุ่น...ซึ่งก็คือมัสยิดโกเบกับชุมชนมุสลิมแถบนั้น
ซึ่งมีร้านอาหารฮะล้าลของแต่ละชาติในโซนอาหรับอยู่ใช้ได้เลยค่ะ...
ตอนนั้นวางแปลนกันเอาไว้อย่างดี แต่สุดท้ายก็มีอุปสรรคทำให้ไม่สามารถเดินตามแผนได้...ป่านนี้ ซากุระคงร่วงแล้ว...เฮะๆ...
ซึ่งการได้เดินทางไปเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นนั้น
ถือว่าเป็นกำไรของชีวิต...
บางคนทีี่ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ค่อยออกเดินทางไปท่องเที่ยว
เพราะคิดว่า ค่อยไปก็ได้ยังอยู่อีกหลายปี พอคิดอย่างนั้น
ก็จะผลัดวันไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน...
แล้วก็ต้องมานั่งเสียดายตอนวันที่ต้องเก็บกระเป๋ากลับเมืองไทย
เมื่อเรียนจบแล้ว...สำหรับข้าน้อยไม่เสียดายเวลาที่อยู่บนแผ่นดินนั้นเลย
เพราะทั้งเรียน ทั้งทำงาน ทั้งเที่ยว ข้าน้อยสามารถบริหารจัดการ
มาได้ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ...
ข้าน้อยยังรู้สึกขอบคุณอัลลอฮฺอยู่เสมอที่ครั้งหนึ่งพระองค์ได้ตอบแทน
ในความตั้งใจของข้าน้อยด้วยการมอบรางวัลให้ข้าน้อยได้ไปท่องเที่ยว
แดนปลาดิบถึงห้าปีกว่า พร้อมกับได้เรียนหนังสือ เรียนรู้โลก เรียนรู้คน
เรียนรู้ธรรมชาติ และได้ทำให้เรียนรู้ว่า ไม่มีใครจะยิ่งใหญ่ได้ด้วยกำลังของตนเองหรือจะฉลาดได้ด้วยกำลังสมองของตัวเองเพียงแค่นั้น...
หากพระองค์ไม่ให้ ใครก็ให้ไม่ได้...
ดังนั้น...ของขวัญของผู้ที่อดทนรอย่อมล้ำค่าเสมอ...
ทุกวันนี้ยังแปลกใจเลยว่า ทำไมถึงทำไม่ได้อย่างแต่ก่อนแล้ว
วันๆนึงหมดไปกับงานอย่างเดียว ไม่มีโอกาสได้เงยหน้าขึ้นมามอง
สิ่งสวยๆงามบนโลกนี้สักเท่าไหร่เลย...บางทีมีเงินก็ไม่มีเวลาจ่าย
เลยต้องส่งไปให้คนอื่นช่วยจ่ายบ้าง...อิอิอิ
สุขภาพคือ สิ่งสำคัญที่อาจทำให้เราเดินทางไปไหนมาไหนไม่สะดวกอย่างที่ใจต้องการ...และอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราได้เดินทาง
ท่องเที่ยวได้อย่างใจต้องการนั่นคือ เงินกับเวลา
และก็ช่วงจัังหวะของชีวิต...
รักษาสุขภาพนะคะแช...
แล้วจะรอดูว่า ทริปหน้าแชจะนำภาพอะไรมาให้ดูกันอีกค่ะ...
อินชาอัลลอฮฺ...
วัสลามค่ะ