อัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ
เชื่อมั้ยคะว่าก้าวแรกของการตั้งใจศึกษาศาสนา
โดยปราศจากการบังคับของพ่อกับแม่
หรืออีกนัยนึงคือ อยากศึกษาหาความรู้ด้วยใจจริง
ไม่มีใครบังคับหรือยกไม้หวายขึ้นขู่ว่าถ้าไม่อ่าน
แล้วจะโดนมิใช่น้อยนั้น...
ก้าวแรกที่ว่าก็คือ...ความสงสัยใคร่รู้ค่ะ...
สงสัยในสิ่งที่เรียนรู้มาว่ามันมาจากไหน
มันมีที่มาอย่างไร ทำไมคนนั้นเขาว่าอย่างนี้
คนนี้ว่าอย่างนั้น สงสัยว่าทำไมต้องปฏิบัติอย่างนั้น
ทำอย่างนี้ แล้วทำไมบางคนไม่เห็นเขาทำเหมือนเรา
ไหนว่าเรา คือ มุสลิมเหมือนกัน แล้วทำไมถึงทำ
หรือปฏิบัติไม่เหมือนกัน...มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นหรือเปล่่า
และเมื่อความคิดดังกล่าวโผล่ขึ้นมาในหัวสมอง
มันจึงผนึกลงในหัวใจ จนอยากจะออกตามหา
ว่าอะไรคือ ความผิดพลาด หรือว่าเรานั้นพลาดอะไร
ไปหรือเปล่า...
และเมื่อได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ที่นี่
ยอมรับเลยว่า...เริ่มเห็นอะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่เคยเห็น
เริ่มเข้าใจบางอย่างที่ตัวเองไม่เคยเข้าใจหรือรู้เรื่องมาก่อน
ดังนั้น...จึงอยากบอกผู้รู้หรือผู้ที่มีความรู้ว่า
สิ่งที่คนไม่มีความรู้อยากรู้ก็คือ...ความรู้
และที่มาของความรู้...เขาอยากรู้หลักฐานที่มา
ในสิ่งที่เขาถูกสั่งใช้ให้กระทำ...
การนำเสนอหลักฐานอย่่างไม่มีปกปิดหรือหมกเม็ดเอาไว้
จึงเป็นความบริสุทธิ์ใจในการนำเสนออย่างมาก
อย่างน้อย คนที่ไม่รู้จะได้รู้กับเขาบ้างน่ะค่ะ...
เพราะหากว่าคนรู้ไม่ยอมบอกหรือยังปกปิดบางอย่างเอาไว้
จะด้วยเหตุใดนั้น วันหนึ่ง ความรู้ที่คนควรจะได้รู้
ก็จะค่อยๆหายไปทีละเล็กทีละน้อย
แล้วจะเหลืออะไรเอาไว้ให้ลูกหลานเราต่อไป...
ชอบการตอบของอาจารย์อะลี เสือสมิง
ตรงที่ท่านเป็นผู้ที่มีภาวะในการถ่อมตนในที่แจ้ง
ส่วนในที่ลับนั้นท่านจะเป็นเช่นไรข้าน้อยไม่รู้...
และการตอบปัญหาต่างๆของท่านก็เข้าใจง่าย
อาจเป็นเพราะท่านรู้ว่าควรอธิบายอะไรอย่างไร
ให้คนไม่รู้ได้เข้าใจโดยง่าย ซึ่งลักษณะเช่นนี้
ใช่ว่าผู้รู้ทุกคนจะกระทำได้...และจำเป็นต้องฝึกฝน
ข้าน้อยจึงอดยอมรับไม่ได้ว่า หลายครั้งที่อ่านบทความ
ของอาจารย์อะลี เสือสมิงแล้วชอบ เพราะอ่านเข้าใจง่าย
ไม่วกไปวนมา...ภาษาก็ใหล่ลื่น ไม่มีถ้อยคำที่ทำให้
หัวใจระคาย...หลักการใช้ภาษาของท่านก็ถือได้ว่า
ทำให้คนอ่านอย่างข้าน้อยอ่านได้ลื่นไหล
ขนาดท่านเขียนไว้ยาวสักแค่ไหน ข้าน้อยก็อ่านไป
กว่าจะรู้ตัวก็ถึงบรรทัดสุดท้ายแล้ว
จึงเชื่อว่า...อาจารย์อะลี เสือสมิง เขียนหนังสือได้ดี
และถนัดเขียนมากกว่าพูดดังที่ท่านได้ออกตัวไว้...
เพราะท่านมีพรสวรรค์ในการเขียน
เนื่องจากหัวใจของการเขียนนั้นคือ การทำให้คนอ่าน
อ่านแล้วเข้าใจง่าย อ่านได้ไม่เบื่อ หรือง่ายๆก็คืออ่านเพลิน
และที่สำคัญ การเขียนทำให้เราลดข้อบกพร่อง
หรือข้อผิดพลาดได้ด้วยค่ะ...อย่างน้อยกว่าจะตีพิมพ์ออกไป
เราก็สามารถตรวจทานความถูกต้องได้หลายรอบ...
จึงเป็นคนนึงที่ชอบการอ่าน มากกว่าการฟังบรรยาย...
เพราะเชื่อว่า...กว่าจะมาเป็นหนังสือสักเล่มนั้น
มิใช่เรื่องง่ายๆเลย...มันผ่านกระบวนการต่างๆมาเยอะมาก
สุดท้าย...สิ่งหนึ่งที่อยากให้ผู้รู้หรือผู้มีความรู้
ช่วยผู้ไม่รู้ให้หลุดพ้นจากความไม่รู้ก็คือ...
การนำเสนออย่างตรงไปตรงมา มิใช่การนำเสนอ
เพื่อเอาใจแฟนคลับ หรือเพื่อความมีชื่อเสียง
เป็นที่รู้จัก แต่เพื่อส่งต่อความรู้ไปยังรุ่นลูก รุ่นหลาน
อย่างไม่ขาดสาย...เพราะคลื่นลูกเก่าผ่านไป
คลื่นลูกใหม่ก็จะก้าวเข้ามา...
...อัลลอฮฺจะให้เกียรติแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์...
วัลลอฮุอะลัม
วัสลามค่ะ