สูเราะฮฺ ฏอฮา อายะฮฺที่ 129 - 132คำแปล R1.129. And had it not been for a word that went forth before from your Lord, and a term determined, (their punishment) must necessarily have come (in this world).
130. So bear patiently (O Muhammad) what they say, and glorify the praises of your Lord before the rising of the sun, and before its setting, and during some of the hours of the night, and at the sides of the day (an indication for the five compulsory congregational prayers), that you may become pleased with the reward which Allah shall give you.
131. And strain not your eyes in longing for the things we have given for enjoyment to various groups of them (polytheists and disbelievers In the Oneness of Allah), the splendour of the life of this world that we may test them thereby. But the provision (good reward in the Hereafter) of your Lord is better and more lasting.
132. And enjoin As-Salat (the prayer) on your family, and be patient In offering them [i.e. the Salat (prayers)]. We ask not of you a provision (i.e. to give us something: money, etc.); we provide for you. And the good end (i.e. Paradise) is for the Muttaqun (pious - see V.2:2).คำแปล R2.129. และมาดแม้นไม่มีประกาศิตจากองค์อภิบาลของเจ้าได้ล่วงพ้นมาก่อน (ว่าจะลงโทษพวกเขาในวันชาติหน้า) แน่นอนการทำลายล้างจะต้องอุบัติขึ้น(ในโลกนี้)เป็นแม่นมั่น และเป็นระยะเวลาที่ถูกกำหนดไว้อย่างแน่ชัด
130. ดังนั้นเจ้าจงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขาพูดและจงถวายสดุดีความบริสุทธิ์พร้อมกับสรรเสริญในองค์อภิบาลของเจ้าก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันตกและบางส่วนของเวลากลางคืน เจ้าก็จงถวายสดุดีความบริสุทธิ์ในเวลากลางวัน (ก็เช่นเดียวกัน)เพื่อเจ้าจะได้มีความยินดี(ในรางวัลที่จะได้รับในการปฏิบัติดังกล่าว
131. และเจ้าอย่าทอดสายตาของเจ้าไปยังสิ่งที่เราได้มอบให้เป็นความสุขแก่บางกลุ่มชนจากพวกเขา (ชาวเนรคุณ) สิ่งนั้นเปรียบดังดอกไม้แห่งชีวิตทางโลกนี้ เพื่อเราจะได้ทดสอบพวกเขาในสิ่งนั้น และโชคผลแห่งองค์อภิบาลของเจ้านั้น ย่อมประเสริฐสุดและจีรังยั่งยืนอย่างที่สุด
132. และเจ้าจงใช้ให้ครอบครัวของเจ้าทำละหมาด และจงมีความอดทนเพื่อการนั้น เราไม่ขอปัจจัยใด ๆ จากเจ้า เราต่างหากที่ให้ปัจจัยแก่เจ้าและความสุขบั้นปลายย่อมเป็นของผู้ยำเกรงคำแปล R3.129. หากพระผู้อภิบาลของเจ้ามิได้ประกาศิตไว้ก่อนและมีกำหนดเวลาผ่อนผันให้ แน่นอนการตัดสินพวกเขาจะต้องเกิดขึ้นทันทีเดี๋ยวนี้เลย
130. ดังนั้นเจ้า (มุฮัมมัด) จงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวและจงสดุดีพระผู้อภิบาลของเจ้าด้วยการสรรเสริญพระองค์ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นและก่อนดวงอาทิตย์ตก และจงสดุดีพระองค์ในบางเวลาของกลางคืนและในตอนปลายทั้งสองของวัน เพื่อที่เจ้าจะได้รู้สึกอิ่มเอิบใจ
131. และจงอย่ามองทรัพย์สินแห่งโลกนี้ที่เราได้ประทานแก่ผู้คนต่าง ๆ ด้วยสายตาที่อิจฉา เพราะเราได้ประทานสิ่งเหล่านั้นเพื่อทดสอบพวกเขา และปัจจัยที่อนุมัติของพระผู้อภิบาลของเจ้านั้นดีกว่าและยั่งยืนกว่า
132. และจงกำชับคนในครอบครัวของเจ้าในเรื่องนมาซ และเจ้าเองก็ปฏิบัติมันอย่างเคร่งครัดด้วย เราไม่ได้ขอปัจจัยใด ๆ จากเจ้า เพราะเราต่างหากที่เป็นผู้ประทานปัจจัยแก่เจ้า และความบั้นปลายนั้นมีไว้สำหรับผู้สำรวมตนจากความชั่วคำแปล R4.129. และหากมิใช่ลิขิตจากพระเจ้าของเจ้า ถูกบันทึกไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว แน่นอน การลงโทษจะเกิดขึ้นทันทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
130. ดังนั้น เจ้าจงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวร้าย และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้า ก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันลับลงไป และส่วนหนึ่งจากเวลากลางคืน ก็จงแซ่ซ้องสดุดีและปลายช่วงของเวลากลางวัน เพื่อเจ้าจะได้พออกพอใจ
131. และเจ้าจงอย่าทอดสายตาของเจ้าไปยังสิ่งที่เราได้ให้ความเพลิดเพลินแก่บุคคลประเภทต่าง ๆ ของพวกกุฟฟาร ซึ่งความสุขสำราญในโลกดุนยา เพื่อเราจะได้ทดสอบพวกเขาในการนี้ และการตอบแทนของพระเจ้านั้น ดียิ่งกว่าและจีรังยิ่งกว่า
132. และเจ้าจงใช้ครอบครัวของเจ้า ให้ทำละหมาด และจงอดทนในการปฏิบัติ เรามิได้ขอเครื่องยังชีพจากเจ้า เราต่างหากเป็นผู้ให้เครื่องยังชีพแก่เจ้า และบั้นปลายนั้นสำหรับผู้ที่มีความยำแกรงคำแปล R5.๑๒๙. และมาดแม้นประกาศิตแห่งองค์พระผู้อภิบาลของเจ้าไม่มีมาก่อนแต่เดิมแล้วไซร้ แน่นอนการทำลายต้องเกิดมีขึ้นแก่เขาในโลกนี้อย่างแน่นอน และ การทำลายพวกเขาในภพหน้าก็เป็นอายุขัยที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
๑๓๐. โอ้ มุฮำมัด ดังนั้นเจ้าจงอดทนสิ่งที่พวกเขาพูดแสดงการไม่ศรัทธาที่พวกกาฟิรมักกะห์กล่าวกับเจ้าและเจ้าจงถวายพิสุทธิคุณด้วยการทำละหมาดกราบไหว้พระผู้เป็นเจ้า พร้อมกับกล่าวสรรเสริญองค์พระผู้อภิบาลของเจ้าในเวลาก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันตกและในเวลากลางคืนเจ้าจงถวายพิสุทธิคุณด้วยการละหมาดมักริบและอีซา และในเวลากลางวันด้วยการละหมาดดุฮฺริ เพื่อเจ้าจะได้ยินดีในกุศลที่เจ้าได้รับ
๑๓๑. และเจ้าอย่าได้ทอดสายตาของเจ้าไปยังสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้ให้อภิรมย์ ชื่นชม และเป็นความสุข แก่บรรดาประเภทต่าง ๆ จากพวกสิ่งถูกสร้าง (มรรคโลก) ทั้งหลายนั้น ซึ่งพวกนั้นได้รับความมีชีวิตชีวาประดุจดังดอกไม้แห่งชีวิตในโลกนี้เพื่อเราจะทำความวุ่นวายแก่พวกเขาในสิ่งนั้น โดยพวกเขาหลงใหลในสิ่งอภิรมย์ดังกล่าวแล้ว เราจะตอบแทนด้วยการลงโทษในโลกหน้า และการให้เครื่องยังชีพของพระผู้อภิบาลของเจ้าในสวรรค์นั้นย่อมดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้รับในภพนี้และจีรังกว่าที่จะได้รับในภพนี้
๑๓๒. และโอ้มุฮำมัดเจ้าจงใช้ให้ครอบครัวของเจ้าทำละหมาด และเจ้าจงอดทนเพื่อสิ่งนั้น และเราไม่ร้องขอเจ้าในเรื่องการครองชีพของพวกเจ้า เราต่างหากที่ให้เครื่องยังชีพแก่เจ้าและอื่น ๆ และผลสุดท้าย คือสวรรค์นั้นย่อมได้แก่ผู้เกรงกลัวอัลเลาะห์-----------------------------------------------------------------------
สูเราะฮฺ ฏอฮา อายะฮฺที่ 133 - 135

คำแปล R1.133. They say: "Why does he not bring us a sign (proof) from his Lord?" Has there not come to them the proof of that which is (written) in the former papers [Scriptures, i.e. the Taurat (Torah), and the Injeel (Gospel), etc. about the coming of the Prophet Muhammad].
134. And if we had destroyed them with a torment before this (i.e. Messenger Muhammad and the Qur'an), they would surely have said: "Our Lord! If only you had sent us a messenger, we should certainly have followed Your Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.), before we were humiliated and disgraced."
135. Say (O Muhammad): "Each one (believer and disbeliever, etc.) is waiting, so wait you too, and you shall know who are they that are on the Straight and even Path (i.e. Allah's Religion of Islamic Monotheism), and who are they that have let themselves be guided (on the right Path).คำแปล R2.133. และพวกเขากล่าวว่า “”ไฉนเขา (มุฮำมัด) จึงมินำสัญลักษณ์ (ปาฏิหาริย์)หนึ่งใดจากองค์อภิบาลของเขามา(แสดงให้ปรากฏต่อพวกเรา)” และการชี้แจง(ของอัลกุรอาน)ในสิ่งที่มีปรากฏในคัมภีร์ก่อน ๆ มิได้มาสู่พวกเขาดอกหรือ
134. และมาดแม้นว่า เราได้ทำลายล้างพวกเขาด้วยการลงโทษก่อนหน้าเขา(มุฮำมัด ทำการประกาศศาสนา) แน่นอนพวกเขาก็ต้องพูดว่า “โอ้องค์อภิบาลของเรา ไฉนพระองค์ไม่แต่งตั้งศาสนทูตมายังเราเล่า เราจะได้ประพฤติตามโองการของพระองค์ (ตามคำประกาศของศาสนทูตนั้น) ก่อนที่เราจะอัปยศและอดสู(ในโลกหน้า)
135. จงประกาศเถิด “ทุกคนต่างรอคอย(ผลที่จะประสบแก่ตน) ดังนั้น พวกท่านจงรอคอยเถิด แล้วพวกท่านก็จะรู้เองว่าใครกันที่เป็นชาวหนทางอันเที่ยงตรง และผู้ใดที่ได้รับการชี้นำคำแปล R3.133. พวกเขากล่าวว่า “ทำไมเขาจึงไม่นำเอาสัญญาณหนึ่งจากพระผู้อภิบาลของเขามายังเราล่ะ?” ก็สัญญาณอันชัดแจ้งที่มีอยู่ในคัมภีร์ก่อนหน้านี้มิได้มาถึงพวกเขากระนั้นหรือ?
134. และถ้าหากเราได้ทำลายพวกเขาด้วยการลงโทษก่อนที่มันจะมาถึงพวกเขาก็จะกล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเราทำไมพระองค์ไม่ส่งรอซูลคนหนึ่งมายังเราเพื่อที่เราจะได้ปฏิบัติตามอายะฮฺทั้งหลายของพระองค์ก่อนที่เราจะต้องได้รับความอัปยศอดสู?”
135. (โอ้ มุฮัมมัด) จงบอกพวกเขาว่า “ทุกคนกำลังรอคอยผลสุดท้าย ดังนั้นพวกเจ้าก็จงคอยด้วยเช่นกัน เพราะในไม่ช้า พวกท่านจะได้รู้ว่าใครที่กำลังปฏิบัติตามทางอันเที่ยงตรงและใครที่ถูกนำทางคำแปล R4.133. และพวกเขากล่าวว่า ทำไมเขาจึงไม่นำสัญญาณหนึ่งจากพระเจ้าของเขามาให้เรา หรือว่าหลักฐานอันชัดแจ้งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ต่าง ๆ สมัยก่อนนั้น มิได้มีมายังพวกเขาดอกหรือ
134. และหากเราทำลายพวกเขาด้วยการลงโทษก่อนการให้อัลกุรอานลงมา แน่นอนพวกเขาก็กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของเราทำไมพระองค์ท่านจึงไม่ส่งรอซูลมายังพวกเรา เพื่อเราจะได้ปฏิบัติตามโองการของพระองค์ท่าน ก่อนที่เราจะได้รับความต่ำต้อยและความอัปยศ
135. จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด ทุกคนเป็นผู้คอย ดังนั้น พวกท่านจงคอยเถิด แล้วพวกท่านจะได้รู้ว่าใครคือ พวกที่อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรง และใครคือผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องคำแปล R5.๑๓๓. พวกกาฟิรมักกะห์กล่าวว่า แม้เขา (มุฮำมัด) ไม่นำสัญลักษณ์จากองค์พระผู้อภิบาลของเขามาถึงพวกเราซึ่งสัญลักษณ์นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่พวกเขาท้าวทวง ความแจ้งชัดที่มีในคัมภีร์ก่อน ๆ มิได้มาสู่พวกเจ้าดอกหรือ รวมไปถึงอัล-กุรอานด้วย ซึ่งในแต่ละคัมภีร์ก็ได้มีระบุถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของประชากรในอดีต และความหายนะของประชากรนั้นที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ แต่ข้อระบุในคัมภีร์เหล่านั้นไม่พอเพียงกับพวกนั้นหรือ ที่เป็นปาฏิหาริย์ (มัวะยิซาต) จนพวกนั้นต้องท้วงสิ่งอื่นจากนั้น
๑๓๔. และมาดแม้นเราให้ความเสียหายเกิดแก่พวกเขา (กาฟิรมักกะห์) ด้วยการลงโทษพวกนั้นก่อนหน้าเขา (มุฮำมัด) จะมาประกาศหลักธรรมแห่งอิสลามแก่พวกเขา พวกนั้นก็จะกล่าวว่า โอ้องค์พระผู้อภิบาลของเรา ทำไมพระองค์ไม่โปรดแต่งตั้งศาสดามายังพวกเราเพื่อเราปฏิบัติตาม ก่อนที่พวกเราจะเข้าสู่นรกยะฮันนัมด้วยการได้รับการเหยียดหยามและการประจาน
๑๓๕. เจ้าจงกล่าวกับพวกนี้เถิดว่า เราและพวกเจ้าทั้งสิ้นต่างรอคอยมองดูผลบั้นปลาย ดังนั้นเจ้าทั้งหลายจงรอคอยเถิด ต่อไปพวกเจ้าจะทราบว่าใครเป็นเจ้าของหนทางเที่ยงตรง และการได้รับการชี้แนวทางเที่ยงตรง เราหรือพวกเจ้า-----------------------------------------------------------------------
ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่เป็นสัจจะ (صدق الله العظيم )
จบตอนที่ 20 สูเราะฮฺ ฏอฮา
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته