คือ ดิฉันตอนเคยทำแท้งตอนอายุ15 เพราะผู้ใหญ่บังคับให้ทำ แต่ดิฉันไม่เต็มใจ และทุกวันนี้รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ค่ะ อยากจะทำบุญให้น้องเค้า
อยากทราบว่าเราจะทำบุญให้น้องเค้ายังไงดีค่ะ
อัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ
แนะนำให้ละหมาดเตาบะฮฺค่ะ...
ลองอ่านดูที่อ.มุสตอฟาท่านได้เขียนไว้ตรงด้านล่างดูนะคะ
السلام عليكم ورحمة الله تعالى وبركاته
بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين والصلاة والسلام على رسول الله صلى الله عليه وسلم وعلى آله وصحبه أجمعين
เมื่อความหมายของคำว่า الصلاة คือ การขอพร (ดุอาอ์) และความหมายของคำว่า التوبة คือ การรับสู่อัลลอฮ์ ดังนั้นความหมายของซอลาตุ้ตเตาบะห์ก็คือ การละหมาดที่มนุษย์จะนำมาปฏิบัติในขณะที่ต้องการกับคืนสู่พระผู้อภิบาลของเขาโดยการขอลุกโทษจากบาปที่เขากระทำ ด้วยความเสียใจต่อสิ่งที่กระทำไป โดยตั้งมั่นว่าจะไม่กลับไปกระทำความชั่วอีกครั้ง
นักนิติศาสตร์อิสลามสำนักคิดฮานาฟียะห์ มาลีกียะห์ ชาฟีอียะห์ และฮานาบีละห์ ได้ให้ทรรศนะว่า การละหมาดเตาบัตเป็นสุนัต เพราะได้มีบันทึกจากท่านอิหม่ามตัรมีซีในหนังสือสุนันของเขาว่า ท่านอบูบักร อัซซิดดิ๊ก (รอฎิยัลลอฮู่อันฮู่) ได้กล่าวว่า แท้จริงฉันได้ยินท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ศ็อลลัลลอฮู่อะลัยฮิว่าซัลลัม) กล่าวว่า
"ما من رجل يذنب ذنبا ثم يقوم فيتطهر ثم يصلي ثم يستغفر إلا غفر الله له ثم قرأ هذه الأية : "والذين إذا فعلوا فاحشة أو ظلموا أنفسهم ذكروا الله فاستغفروا لذنوبهم ومن يغفر الذنوب إلا الله ولم يصروا علي ما فعلوا وهم يعلمون" (آل عمران)
"ไม่มีชายใดที่กระทำบาป หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้น แล้วทำความสะอาด (อาบน้ำวูดุอ์) หลังจากนั้นเขาก็ละหมาด หลังจากนั้นก็ขอลุกโทษ นอกเสียจากอัลลอฮ์จะทรงอภัยให้แก่เขา หลังจากท่านศาสดามูฮัมหมัดก็ได้กล่าวโองการดังนี้
"บรรดาผู้ที่เมื่อพวกเขากระทำสิ่งโสมม หรืออธรรมแก่ตัวของเขาเองแล้ว พวกเขาก็รำลึกถึงออัลลอฮ์ แล้วขออภัยโทษในบรรดาความผิดของพวกเขา และใครเล่าที่จะอภัยโทษบรรดาความผิดทั้งหลายให้ได้ นอกจากอัลลอฮ์ และพวกเขามิได้ดื้อรั้นปฏิบัติในสิ่งที่เขาเคยปฏิบัติมาโดยที่พวกเขารู้กันอยู่" (อาลาอิมรอม ๑๓๕)
และนี่แหละ ได้ชี้ชัดต่อบัญญัติการละหมาดเตาบัต เพื่อเป็นสัญญามั่นต่ออัลลอฮ์ว่า เขาจะไม่หันกลับไปกระทำความชั่วนั้นอีก ซึ่งอัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวไว้ว่า
" قل يا عبادي الذين أسرفوا على أنفسهم لا تقنطوا من رحمة الله إن الله يغفر الذنوب جميعا إنه هو الغفور الرحيم"
"จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) ปวงบ่าวของข้าเอ๋ย บรรดาผู้ละเมิดต่อตัวของพวกเขาเอง พวกเขาอย่าได้หมดหวังต่อพระเมตตาของอัลลอฮ์ แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงอภัยความผิดทั้งหลายทั้งมวล แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ" (อัซซุมัร ๕๓)
โดย ดร. ซอบรี่ อับดุรรออูฟ อาจารย์ประจำวิชา อัลฟิกฮ์ อัลมุกอรอน มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร
อ้างมาจากกระทู้ด้านล่างค่ะ...
ลองกดเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมดูนะคะ
น่าอ่านมากเลยทีเดียวค่ะ...
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=3119.0ปล.ไม่มีปัญหาใดที่จะแก้ไขไม่ได้ หากว่าเรายังคงไม่หมดหวัง
ต่อความเมตตาของอัลลอฮฺ...พระองค์ทรงเมตตายิ่ง
ทรงอภัยยิ่ง...อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...
ปล.อีกที...ส่วนเรื่องทำบุญให้น้องนั้น...แม่ข้าน้อยทำบุญ
ให้กับพี่และน้องของข้าน้อยที่แท้งโดยอุบัติเหตุ
ด้วยกับการละหมาด อ่านอัลกุรอ่าน ซิกรุลลอฮฺ
และขอดุอาฮฺต่ออัลลอฮฺให้ค่ะ...
การรำลึกนึกถึงเขาและขอดุอาฮฺให้เขาอย่างสม่ำเสมอ...
แม่ของข้าน้อยทำเช่นนั้นประจำค่ะ...เพราะท่านบอกว่า
แม้ลูกของท่านจะไม่ได้เกิดมาสูดลมหายใจบนดุนยาเหมือนลูกคนอื่นๆ
แต่เขาก็ได้เกิดมาอยู่ในครรภ์ของท่าน เป็นลูกของท่านแล้ว...
สายสัมพันธ์นั้นยังอยู่...และความรักความผูกพันธ์ก็ยังมีอยู่...
เป็นสายสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาด...ยังรักและนึกถึงเสมอ...
ไม่ได้แตกต่างไปจากความรักที่มอบให้ลูกคนอื่นๆ...
ต่างกันตรงที่ลูกคนอื่นๆได้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน ได้ผูกพันธ์ต่อกัน
มากกว่าเท่านั้น...
วัสลามค่ะ