ผู้เขียน หัวข้อ: ประกันชีวิต  (อ่าน 1074 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ IsmaelChaliaoka

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 3
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ประกันชีวิต
« เมื่อ: มิ.ย. 26, 2013, 03:53 PM »
0

อัสสลามุอะลัยกุม วะเราะห์มะตุ้ลลอฮิ วะบะรอกาตุฮ์ พอดีอยากทราบว่า การทำประกันชีวิต หรือรวมทั้งโรคภัยต่างๆหรืออุบัติเหตุ ได้หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ ญะซากุมุลลอฮุคอยรอน.

ออฟไลน์ BasemDeen

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 260
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
Re: ประกันชีวิต
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิ.ย. 26, 2013, 03:55 PM »
0

ออฟไลน์ IsmaelChaliaoka

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 3
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ประกันชีวิต
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิ.ย. 26, 2013, 03:57 PM »
0
ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: ประกันชีวิต
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.ค. 06, 2013, 03:32 PM »
0
เคยอ่านเจอโฆษณาของประกันชีวิตในเครือหนึ่ง
แล้วทำให้ฉุกคิดขึ้นมา...
ว่าการที่เราเอาเงินส่งให้เขาอยู่ตลอดนั้น...เราหวังให้เขา
มาดูแลเรา ดูแลคนที่เรารักต่อ...

จนต้องหันมาถามตัวเองว่า...ปกติ...อัลลอฮฺคือผู้ดูแลเรา...
และการที่เราจะดูแลกันและกันนั้น...
จำเป็นด้วยหรือไม่ที่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทประกันชีวิต...
ในเมื่อหลักประกันชีวิตที่เขามอบให้เรา มันไม่สามารถประกัน
ได้เลยว่า...คนที่เรารักจะปลอดภัยหายห่วงจริงๆ...

ทุกวันนี้ ยังคงทำงานจ่ายเงินให้พ่อแม่พี่น้อง
ดูแลเขามาตลอดเท่าที่จะดูแลได้...พวกเขาเองก็ทำงาน
และช่วยดูแลเราเมื่อเราทุกข์ยากหรือลำบากหรือมีโรคภัยไข้เจ็บ
เพราะเราดูแลเขา เขาก็ดูแลเรา...และหากมีเงินพอที่จะแบ่งปัน
ให้สังคม ก็จะทำเท่าที่สามารถ...

เชื่อว่า...หลายคนมักจะกังวลว่าหากเราตายไปหรือเจ็บไข้ได้ป่วยไปแล้ว ใครจะดูแลเราดูแลคนที่เรารักต่อ...

ข้าน้อยมีคำตอบให้กับตัวเองมาตั้งแต่โดนประกันถามคำถามนี้
แล้วค่ะว่า...อัลลอฮฺคือผู้ดูแลเรา และดูแลคนที่เรารักมาตลอด
และต่อให้ไม่มีเราแล้ว หรือต่อให้อัลลอฮฺนำเรากลับไปแล้ว
พวกเขาก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปภายใต้การดูแลของอัลลอฮฺ...

อัลลอฮฺไม่เคยทอดทิ้งชีวิตใดชีวิตหนึ่ง แม้ชีวิตนั้นจะเล็กแค่ไหน
ก็ตาม...

ข้าน้อยไม่เคยขวางใคร ถ้าเขาคิดจะทำประกันชีวิต
แต่สำหรับตัวเองแล้วมีเหตุผลที่จะไม่ทำมันค่ะ...

เพราะหนึ่งในนั้นคือ ไม่มีเวลาตรวจสอบระบบของบริษัทประกันชีวิตว่าเป็นอย่างไร และก็ไม่มีความรู้มากพอจะไปวิเคราะห์หรือวิจารณ์การทำงานของบริษัทประกันนั้นๆ
ว่าเป็นไปตามหลักการอิสลามหรือไม่อย่างไร...

จึงตัดช่องโดยการไม่ทำก่อนจนกว่าจะได้รู้อย่างแจ้งชัด
เกี่ยวกับตัวระบบของบริษัทนั้นๆอย่างแท้จริงก่อน...

ส่วนเรื่องธนาคาร...เมื่อเลี่ยงที่จะฝากเงินกับธนาคาร
ที่กินดอกเบี้ยไม่ได้ ก็ต้องทำ...
แต่การทำประกันชีวิต เราเลือกได้ที่จะไม่ทำ...จึงไม่ทำน่ะค่ะ...


และขอเสริมอีกนิดนึงนะคะ แม้จะดูเป็นการนอกประเด็นไปบ้าง

ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นว่า ทางธนาคารหลายๆที่ออกโฆษณา
สร้างโปรโมชั่นต่างๆโดยการให้เรากู้ยืมเงินเพื่อซื้อรถ
ซื้อบ้าน หรือซื้อธุรกิจได้ โดยให้เราผ่อนส่งเป็นงวดๆ
ตามที่เขาระบุไว้...ข้าน้อยเคยสนใจค่ะ...
แต่เพราะเป็นคนนึงที่นั่งทำโฆษณาให้กับบริษััท
(แต่ขอย้ำนะคะว่าโฆษณาของบริษัทที่ข้าน้อยทำให้อยู่นั้น
ไม่ได้โฆษณาเกินจริง หรือเชิญชวนเกินเหตุ แต่ตัั้งอยู่บน
ความจริง)
จึงพอเข้าใจหลักการออกแบบและทำโฆษณาว่ามันต้องมี
จุดดึงดูดความสนใจ...พอได้อ่านโฆษณาตามท้องถนน
ที่รถผ่านไป...หรือระหว่างรอรถติด...ทำให้ได้คิดว่า

"นี่เราต้องตกเป็นทาสหรือขายชีวิตของเราให้ธนาคารนี้
โดยการทำงานส่งเงินให้เขาไปอีกกี่ปีกว่าจะผ่อนบ้านผ่อนรถ
ผ่อนโน่นผ่อนนี่ตามที่ต้องการหมด
หรือทั้งชีวิตเรา เราต้องตกเป็นทาสของธนาคารโดยการ
ทำงานส่งเงินให้เขาไปตลอดทั้งชีวิตหรืออย่างไร...

ไหนจะต้องส่งเงินให้บริษัททำประกันชีวิตอีก...
ไหนจะต้องส่งลูกเรียนหนังสืออีก...ส่งเงินไปให้คนนั้นคนนี้อีก
เราต้องทำงานกันขนาดไหนถึงจะมีเงินพอซื้อสิ่งนั้นสิ่งนี้...
ทำไมชีวิตเรามันถึงมากมายอะไรกันขนาดนี้นะ...
แล้วเราจะหลีกเลี่ยงจากการเป็นทาสของธนาคารได้
ด้วยวิธีใดบ้าง..."

ยิ่งบัตรเครดิตอีก...เราต้องทุกข์ใจไปอีกนานแค่ไหน
เพื่อแลกกับความสะดวกสบายในการเอาเงินคนอื่น
มาใช้จ่ายก่อนแล้วค่อยผ่อนส่งทีหลัง...

บางครั้ง...เราก็ไม่รู้ว่าเรากำลังตกเป็นทาสของอะไรอยู่...

ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังมีปลอกลากคอให้เดินไปตามทาง
ของใครบางคนอยู่...

อยากจะบอกเหลือเกินว่า แก่นแท้ของธนาคารและบริษัท
ประกันต่างๆ แม้แต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างคอนโด
จนไปถึงบริษัทที่ทำเกี่ยวกับบัตรเครดิต
ธุรกิจเหล่านี้หาได้มุ่งหวังสิ่งใดเลย นอกเสียจาก
ต้องการกำลังคนอย่างมากมายทำงานอะไรก็ได้
เพื่อส่งเงินมาให้พวกเขาเลี้ยงชีพ...โดยพวกเขาใช้เหยื่อ
คือ เงินก้อนใหญ่หรือสิ่งที่คนทำงานต้องการยื่นให้ก่อน
แล้วคนที่กินเหยื่อของพวกเขาก็จะตกเป็นทาสของเขา
ตามเงื่อนไขที่พวกเขาวางไว้...จะดิ้นก็ดิ้นไม่หลุด
และแน่นอนว่า เขาไม่ได้หวังดีอะไรมากมายกับเรา
เท่ากับการคิดว่า เขาจะได้อะไรจากสิ่งทีี่เขามี
และเขาจะได้อะไรจากเราบ้าง....

เขาเลยต้องโฆษณาโดยเอาเหยื่อมาล่อปลาอย่างเราๆ

มีประโยคนึงกินใจมากค่ะ...จำไม่ได้แล้วว่าเป็นคำพูดของใคร
แต่ประมาณว่า

"คนรวยกำหนดหลักสูตรการศึกษามาให้คนจนเรียน...
ส่วนคนจนส่งลูกเรียนหนังสือสูงๆเพื่อทำงานรับใช้คนรวย..."

ตอนได้อ่านประโยคนั้นก็หันมามองตัวเองเลยค่ะ...
...ใช่เลย...มันใช่เลย...

แล้วเมื่อรู้แล้ว...เราจะทำอย่างไรต่อ...

นี่คือ...โจทย์ชีวิต...

...เราจะเอาปลอกออกจากคอของเราได้อย่างไร...

ใครว่าคนที่เรียนสูงๆทุกคนต้องฉลาด มีความรู้
มีความสามารถ และได้งานดีๆทำกัน...

...ไม่จริงค่ะไม่จริง....

เพราะข้าน้อยคนนึงที่เรียนมาไม่น้อย
แต่ก็ยังโง่อยู่...ซ้ำยังโดนจับใส่ปลอกลากคอไปโน่นมานี่
ได้อยู่เลยค่ะ...ทุกวันนี้ยังคงทำงานรับใช้คนรวยอยู่...

เพราะความรู้ที่พร่ำเรียนมาก่อนหน้านี้
มันไม่ช่วยให้ข้าน้อยฉลาดขึ้นสัักเท่าไหร่
นอกเสียจากมันจะช่วยส่งเสริมให้ข้าน้อย
มานั่งทำงานรับใช้คนรวยอยู่อย่างนี้น่ะค่ะ...

มันจึงเป็นเหตุผลหลักที่ข้าน้อยต้องเริ่มเรียนอิสลาม
และระบบของอิสลามอย่างจริงๆจังๆ...
เพราะแน่ใจว่า...อิสลามคือ ทางรอด...
อัลลอฮฺจะต้องส่งวิธีเอาปลอกออกจากคอ
มาให้เราแล้วอย่างแน่นอน...เราต้องศึกษาต่อไป...


เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ...
หากผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม ตักเตือนกันได้ค่ะ...

วัสลามค่ะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 06, 2013, 03:55 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged