salam
ไปเจอมา เลยเอามาฝากค่ะ

อิสลามเผยแผ่ศาสนาด้วยคมดาบจริงหรือ?
ดร.ซากิร ไนค์
นะญาฮฺ แปลและเรียบเรียง
คำถาม: อิสลามถูกเรียกว่าเป็นศาสนาแห่งสันติภาพได้อย่างไรกัน
ในเมื่อมันเผยแผ่ด้วยคมดาบ?
คำตอบ: ข้อกล่าวหาอย่างหนึ่งจากคนมิใช่มุสลิมก็คือ อิสลามจะไม่มีผู้นับถือ
จำนวนหลายล้านคนทั่วทุกมุมโลกเช่นนี้ หากไม่ได้ใช้การเผยแผ่ด้วยกำลังบีบบังคับ
(คือเพราะใช้กำลังบังคับถึงมีคนนับถืออิสลามจำนวนมหาศาล)
ประเด็นต่างๆที่จะกล่าวต่อจากนี้ จะทำให้กระจ่างชัดว่า
หาใช่การการเผยแผ่ด้วยคมดาบไม่ แต่มันเป็นพลังของความจริง พลังแห่งเหตุผล
พลังแห่งตรรกะ ที่มีอยู่ในธรรมชาติของมัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการขยายตัว
ของอิสลามเป็นไปอย่างรวดเร็ว
1. อิสลาม หมายถึง สันติภาพ
อิสลามมาจากรากศัพท์ของคำว่า สลาม ซึ่ง หมายถึง สันติภาพ
นอกจากนี้ยังหมายถึง การยอมจำนนต่ออัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)อีกด้วย
ดังนั้นอิสลามจึงเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ ที่ได้มาจากการยอมจำนนต่อผู้ทรงสร้าง
ที่ยิ่งใหญ่ นั่นก็คืออัลเลาะฮ์ (ซ.บ.)
2. บางครั้งการใช้กำลังถูกใช้เพื่อคงไว้ซึ่งสันติภาพ
แต่ละคนและทุกๆคนที่อยู่บนโลกนี้ ไม่ได้สนับสนุนการรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ
และความปรองดองเสมอไป มีคนจำนวนมากที่ได้ทำลายมัน
เพื่อกลุ่มผลประโยชน์ของตน
ดังนั้น ในบางครั้งการใช้กำลังจึงต้องทำเพื่อรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ
มันจึงเป็นเหตุผลอย่างชัดเจนว่า เราจำต้องมีตำรวจเพื่อใช้กำลัง
ต่อต้านอาชญากรรมและกลุ่มที่ต่อต้านสังคมทั้งหลาย
เพื่อคงไว้ซึ่งสันติภาพในบ้านเมือง
อิสลามสนับสนุนส่งเสริมให้มีความสันติภาพ ในขณะเดียวกันอิสลามอนุญาต
ให้ผู้ศรัทธาสามารถต่อสู้ในสถานการณ์ที่มีการถูกกดขี่
ซึ่งการต่อสู้เพื่อต่อต้านการถูกกดขี่ขณะนั้น เวลานั้น อาจจะต้องใช้กำลัง
โดยที่การใช้กำลังในอิสลามสามารถใช้เพียงเพื่อคงไว้ซึ่งสันติภาพ
และความยุติธรรมเท่านั้น
3. ความคิดเห็นของนักประวัติศาสตร์เด ลาซี โอ เลอรี
คำตอบที่ดีที่สุดที่ให้ไว้เพื่อแก้ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอิสลามที่ว่า
เผยแผ่ศาสนาด้วยคมดาบ โดยนักประวัติศาสตร์เด ลาซี โอ เลอรี
(De Lacy OLeary)เป็นผู้บันทึกไว้ในหนังสือ
อิสลาม ณ ทางแยกนั้น (Islam at the crossroad) (หน้า

:
อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ได้อธิบายตัวมันเองไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว
เรื่องเล่าของมุสลิมผู้บ้าคลั่งที่แผ่กำลังขยายทั่วโลก และใช้กำลัง
หรือที่พูดกันว่าใช้คมดาบเพื่อปราบปรามเอาชนะชนชาติอื่นนั้น
เป็นหนึ่งในเรื่องที่เหลวไหลที่สุด เท่าที่นักประวัติศาสตร์เคยกล่าวถึง
4. มุสลิมปกครองสเปนเป็นเวลา 800 ปี
มุสลิมได้ปกครองสเปนเป็นเวลาประมาณ 800 ปี มุสลิมในสเปนนั้น
ไม่เคยใช้กำลังความรุนแรงเพื่อให้ผู้คนเปลี่ยนการนับถือศาสนา
ต่อมา(หลังสงครามครูเสด)คริสเตียนได้เข้ามาในสเปนและเข่นฆ่าชาวมุสลิม
ซึ่งเวลานั้นไม่มีมุสลิมแม้แต่คนเดียวในสเปนจะสามารถเป็นผู้อะซาน
หรือเรียกผู้ศรัทธาสู่เวลาละหมาดได้อย่างเปิดเผย
5. ชาวอาหรับ 14 ล้านคนเป็นคริสเตียน
มุสลิมเป็นผู้นำปกครองคาบสมุทรอารเบียเป็นเวลา 1400 ปี
โดยที่อังกฤษได้ยึดครองเพียงไม่กี่ปี และฝรั่งเศสก็ยึดครองเป็นเวลาไม่กี่ปี
จากทั้งหมดจะเห็นได้ว่ามุสลิมยึดครองคาบสมุทรอารเบียถึง 1400 ปี
แต่ในวันนี้ยังมีชาวอาหรับ 14 ล้านคนที่เป็นคริสเตียน
ซึ่งเป็นคริสเตียนตั้งแต่บรรพบุรุษของพวกเขา ถ้ามุสลิมใช้กำลังในการเผยแผ่จริง
คงจะไม่มีชาวอาหรับซักคนเดียวที่ยังเป็นคริสเตียนอยู่
6. ผู้ที่มิใช่มุสลิม 80 เปอร์เซ็นในอินเดีย
มุสลิมนั้นได้ปกครองอินเดียประมาณหนึ่งพันปี ถ้าพวกเขาต้องการ
พวกเขาจะใช้อำนาจที่มีบังคับให้แต่ละคนและทุกคนที่มิใช่มุสลิม
เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม แต่วันนี้มีประชากรมากกว่า 80 เปอร์เซ็นในอินเดีย
มิใช่มุสลิม ผู้ที่มิใช่มุสลิมทั้งหมดนี้ถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็น
ในปัจจุบันว่าอิสลามนั้นไม่ได้เผยแผ่ศาสนาด้วยคมดาบ
7. อินโดนีเซียและมาเลเซีย
อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีมุสลิมมากที่สุดในโลก ผู้คนส่วนใหญ่ในมาเลเซีย
ก็เป็นมุสลิม อยากจะถามซักหนึ่งคำถามว่า
ไหนเล่าเหล่ากองทัพมุสลิมที่เดินทางเข้าไปในอินโดนีเซียและมาเลเซีย?
8. ชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกา
เช่นเดียวกัน อิสลามได้เผยแผ่อย่างรวดเร็วยังชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกา
ถ้าอิสลามเผยแผ่ด้วยคมดาบจริง อยากจะถามอีกซักหนึ่งคำถามว่า
ไหนเล่าเหล่ากองทัพมุสลิมที่เดินทางเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกา?
9. โทมัส คาร์ไลล์
นักประวัติศาสตร์ผู้มีชื่อเสียง โทมัส คาร์ไลล์(Thomas Carlyle)
ในหนังสือของเขา Heroes and Hero worship กล่าวถึง
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเผยแผ่อิสลาม ด้วยคมดาบกระนั้นหรือ,
แต่คุณจะเอาดาบไปใช้ที่ไหนกัน? ทุกๆทัศนะใหม่นั้น ตอนเริ่มต้น
จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใด มันอยู่ในหัวของคนๆหนึ่งเพียงผู้เดียวเท่านั้น
มันยังอยู่เช่นนั้น คนเพียงคนเดียวที่เชื่อในมัน มีคนเพียงคนเดียวที่แตกต่าง
จากคนทั้งหมด ถ้าเขาใช้ดาบและพยายามแผยแผ่ศาสนาด้วยดาบ
ก็จะทำให้เขาเกือบจะไม่มีอะไรเหลืออีก คุณต้องรับดาบคุณไปใช้ที่ใดกัน!
โดยพื้นฐานแล้วสิ่งหนึ่งๆจะเผยแผ่ตัวเองตามที่มันสามารถทำได้
10. ไม่มีการบังคับในการนับถือศาสนา
ด้วยคมดาบอะไรเล่าที่ใช้ในการเผยแผ่ศาสนา? ในเมื่อมุสลิมที่ถึงแม้เขาจะมีมัน
พวกเขาก็จะไม่ใช้ในการเผยแผ่ศาสนา เนื่องจากอัลกุรอานได้กล่าวไว้ดังนี้
ไม่มีการบังคับใดๆในการนับถือศาสนา ความจริงได้เป็นที่กระจ่างแจ้งแล้ว
จากความเท็จ (อัลกุรอาน 2:256)
11. คมดาบแห่งวิทยปัญญา
มันคือคมดาบแห่งวิทยปัญญา คมดาบที่ชนะใจผู้คน
โดยกุรอานได้กล่าวไว้ในซูเราะฮฺ อันนะหฺลฺ ซูเราะฮฺที่ 16 อายะฮฺที่ 125 ว่า
จงเรียกร้องสู่แนวทางของพระเจ้าของสูเจ้าด้วยวิทยปัญญาและการตักเตือนที่ดี
และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่า และแท้จริงพระองค์ทรงรู้ดียิ่ง
(อัลกุรอาน 16:125)
12. การเพิ่มขึ้นของผู้นับถือศาสนาในโลก จากปี ค.ศ. 1934 ถึง ค.ศ. 1984
ในบทความเกี่ยวกับสถิติของ วารสาร รีดเดอร์ ไดเจสท์ อัลมานิค ในปี 1986
ให้ข้อมูลทางสถิติเกี่ยวเปอร์เซ็นการเพิ่มการนับถือศาสนาหลักในโลก
ในช่วงครึ่งทศวรรษจากปี 1934 ถึง 1984 บทความนี้ได้ปรากฏอยู่ในแมกกาซีน
The Plain Truth โดยศาสนาที่มีผู้นับถือเพิ่มจำนวนมากที่สุด คือศาสนาอิสลาม
ซึ่งเพิ่มสูงถึง 235 เปอร์เซ็น และศาสนาคริสต์มีผู้นับถือเพิ่ม
จำนวนเพียง 47 เปอร์เซ็นเท่านั้น
อยากจะถามว่า ไหนเล่าสงครามที่เกิดขึ้นในศตวรรษนี้
ที่เปลี่ยนแปลงผู้คนนับล้านให้นับถืออิสลาม?
13. อิสลามเป็นศาสนาที่เจริญเร็วที่สุดในอเมริกาและยุโรป
วันนี้ศาสนาที่เจริญเร็วที่สุดในอเมริกา คือ อิสลาม
ศาสนาที่เจริญเร็วที่สุดในยุโรป คือ อิสลาม
ไหนเล่าคมดาบที่ใช้กำลังบังคับผู้คนในประเทศตะวันตก
ให้ยอมรับอิสลามเป็นจำนวนมาก?
14. ดร. โจเซฟ อาดัม เพียร์สัน
ดร. โจเซฟ อาดัม เพียร์สัน(Dr. Joseph Adam Pearson) กล่าวไว้อย่างถูกต้องว่า
ผู้คนกังวลเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ว่าวันหนึ่งจะตกอยู่ในมือของชาวอาหรับ
มันเป็นความเข้าใจที่ผิดเพราะว่า ระเบิดของอิสลามนั้น
ได้ถูกหยุดไว้แล้วนับตั้งแต่วันที่ศาสดามูฮัมหมัด(ซ.ล.) ได้ถือกำเนิด
ที่มา:
http://www.piwdee.net/kab2/yebma14.htmวัลลอฮุอะลัม
วัสลามุอะลัยกุมค่ะ
^___________^