ผู้เขียน หัวข้อ: คนกาเฟรแก้บนโดยการเชือดแพะ  (อ่าน 1251 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ alkawafily

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
คนกาเฟรแก้บนโดยการเชือดแพะ
« เมื่อ: ก.ย. 14, 2013, 09:09 AM »
0

ผมมีข้อสงสัยต้องการถามผู้รู้ครับ  คือว่า มีคนกาเฟรคนหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมุสลิม แล้วเขาได้ฝันเห็นว่า มีคนมาบอกให้เชือดแพะแก้บน เพราะมาอยู่ในที่มุสลิม จากนั้นเขาก็ได้ให้เงินกับคนมุสลิมเพื่อไปซื้อแพะ และก็ให้มุสลิมนั้นแหละเป็นคนเชือด (เชือดถูกต้องตามหลักการอิสลาม) ประเด็นที่จะถามคือ แพะที่ถูกเชือดังกล่าว มุสลิมสามารถรับประทานได้หรือไม่ รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายเรื่องนี้ด้วยครับ แถวบ้านมีแบบนี้เยอะมาก

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: คนกาเฟรแก้บนโดยการเชือดแพะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.ย. 15, 2013, 12:12 AM »
0
สงสัยอยู่นิดนึงค่ะว่า...

ที่บอกว่าเขาฝันว่ามีคนบอกให้เขา "เชือดแพะแก้บน"

คำว่า "เชือดแพะแก้บน"นั้น ตัวคนฝันเขาเคยไปบนบานอะไรเอาไว้รึเปล่าคะ
ถึงต้องแก้บน...หากไม่ได้บนบานเอาไว้ ก็ให้น่าคิดว่า ทำไมต้องแก้บน
ในเมื่อยังไม่เคยทำการบนบานสิ่งใดกับใครเอาไว้...

แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ...เขาบนบานไว้กับสิ่งใด...
หากเป็นมุสลิมเรา เวลาบนบาน แน่นอนว่าเราไม่ได้ไปบนบาน
กับศาลเจ้าหรือเจ้าป่าเจ้าเขา หรือบนบานกับสิ่งที่ศาสนาอื่นเขายึดถือ...

แต่เราบนบานกับอัลลอฮฺ ประหนึ่งว่าเราได้ทำการสัญญาไว้กับ
อัลลอฮฺโดยมีสิ่งผูกมัดเอาไว้ว่า หากเราได้สิ่งหนึ่งแล้วเราจะกระทำสิ่งหนึ่ง
และเมื่อสิ่งนั้นบรรลุล่วงผลตามที่เราขอไว้
เราจึงแก้บนตามที่เราได้ผูกมัดสัญญานั้นกับอัลลอฮฺไว้...นี่จึงเป็นการแก้บนกับอัลลอฮฺ...

พออ่านข้อความข้างบนก็เลยงงๆ จับประเด็นหลักไม่ค่อยได้...
ไม่รู้ว่าจะให้มองในแง่ไหน คือให้มองในแง่ของความฝัน
หรือแง่ของการกินเนื้อซึ่งต่างศาสนิกเป็นคนนำมาให้
ซึ่งเนื้อนั้นถูกเชือดด้วยมุสลิมตามหลักการอิสลามทุกอย่าง...

หรืออีกแง่นึงก็คือ เนื้อที่ถูกเชือดด้วยมุสลิมตามหลักการอิสลามทุกอย่าง
แต่เป็นเนื้อที่ต่างศาสนิกฝันเอาว่าให้แก้บน เขาเลยแก้บน...
เราจะกินได้หรือไม่...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาแก้บนให้กับสิ่งใด...

จึงไม่รู้ว่า...คนตั้งกระทู้ถามต้องการในแง่ไหนน่ะค่ะ...

แล้วจริงๆแล้ว เรื่องความฝันนั้น เรานำมายึดถือได้แค่ไหนอีก...
และที่สำคัญของสำคัญก็คือ...เขาแก้บนให้กับสิ่งใด...

สำหรับข้าน้อยนั้น...เพื่อนต่างศาสนิกเขาก็มีการแก้บนตามประสาเขา
อยู่เป็นประจำ และแน่นอนว่า ข้าน้อยจะไม่เข้าไปยุ่งกับการแก้บนน้ันของเขา
เพราะเขาไม่ได้บนบานไว้กับอัลลอฮฺ เวลาเขาแก้บน เขาก็แก้บนให้กับ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาได้บนบานเอาไว้ตามความเชื่อของเขา...

เช่น ยกตัวอย่างนะคะ เพื่อนคนนึงเขาบนบานไว้กับบรรพบุรุษของเขา
ว่าหากเขาได้ดีกับกิจการนี้ เขาจะล้มหมูนำมาเซ่นไหว้ และจะนำอาหาร
ผลไม้อย่างดีมาเซ่นหน้าศาล...พอเขาลุล่วงดังหวัง เขาก็กระทำการดังกล่าว
เป็นการแก้บนตามที่ได้ตกลงไว้ก่อนหน้านี้...แล้วเขาได้นำผลไม้ซึ่งหากมองว่า ผลไม้นั้นอัลลอฮฺห้ามรับประทานมั้ย
ปกติ อัลลอฮฺไม่ได้สั่งห้ามเรากินผลไม้นั้น แต่ได้สั่งห้ามเรา
กินของเซ่นไหว้ กินสิ่งที่ถูกจัดขึ้นมาเพื่อสักการะสิ่งอื่น
นอกจากอัลลอฮฺ

ซึ่งการที่เพื่อนนำผลไม้ดังกล่าวมาให้ข้าน้อย
แน่นอนว่า ข้าน้อยปฏิเสธ...เพราะคิดแต่เพียงว่า
สิ่งนี้ที่เขานำมานั้น เขาได้ทำการแก้บนให้กับสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ
ข้าน้อยเกรงว่ามันจะเป็นของเซ่นไหว้ เลยไม่กินของเซ่นไหว้
ซึ่งมันจะผ่านการเซ่นไหว้มาแล้วรึไม่ไม่รู้ได้
แต่เขามีเจตนาที่จะนำมันไปเซ่นไหว้และนำมันมาเลี้ยงคนอื่น
เพื่อขอบคุณบรรพบุรุษที่ช่่วยเหลือให้กิจการงาน
ของเขาได้ดั่งสมหวัง...ข้าน้อยมองเจตนาปุ๊บก็ไม่ต้องการ
เข้าไปร่วมสานเจตนารมย์นั้นของเพื่อน
บอกเขาไปแต่เพียงว่า ข้าน้อยไม่กินของเซ่นไหว้...
และไม่กินของที่ถูกทำมาเพื่อที่จะเซ่นไหว้...

เพราะของสิ่งใดที่เขานำมาเพื่อสักการะสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺนั้น
มันย่อมผ่านพิธีกรรมผ่านความคิดผ่านเจตนาตามความเช่ือความศรัทธาของเขา
ที่ไม่ตรงกับเรา และของสิ่งนั้นย่อมไม่น่าไว้ใจสำหรับเราที่จะกินมัน...
ซึ่งสำหรับข้าน้อย คนที่รู้ไม่มากนัก ก็มักจะไม่ทำในสิ่งที่รู้สึกว่ามันคลุมเครืออยู่


อย่างไรในกรณีนี้ รอผู้รู้มาไขข้อกระจ่างอีกครั้งนะคะ

แต่อยากให้เจ้าของกระทู้บอกข้อมูลให้มากกว่านี้อีกหน่อยก็จะเป็นการดีค่ะ
เพื่อที่ผู้รู้จะได้วิเคราะห์ได้ตรงประเด็น...

วัสลามค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 15, 2013, 12:23 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: คนกาเฟรแก้บนโดยการเชือดแพะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.ย. 15, 2013, 12:53 AM »
0
แล้วประเด็นสำคัญอีกอย่างนึงที่น่าคิดก็คือ...

บุคคลที่สั่งให้เขาแก้บนในความฝันนั้นเป็นใครกัน?

แล้วเขา(คนต่างศาสนิก)นั้น ทำตามที่บุคคลในฝันสั่ง โดยมีเจตนาอย่างไร

เรามุสลิม เวลาจะไปกินงานหรือจะกินอะไรจากคนต่างศาสนิก
สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างยิ่งก็คือ...สิ่งนั้น เขานำมาจากไหน มีที่มาที่ไปอย่างไร
และเขาจัดงานดังกล่าวขึ้นด้วยจุดประสงค์ใด...
เราควรจะไปร่วมงานของเขาหรือไม่ คราวนี้ เราก็จะได้รู้ค่ะ
ว่าควรแค่ไหน...

เพราะเคยมีครั้งหนึ่ง เพื่อนยื่นส้มลูกใหญ่น่ากินมาให้
ข้าน้อยรับมา แต่ก่อนจะปอกเข้าปาก นึกบางอย่างขึ้นมาได้
เพราะเอะใจว่า ส้มงามๆเช่นนี้ ราคาแพง และคนจีนชอบนำไปเซ่นไหว้กัน
เคยเห็นประจำตามศาลที่เขาเซ่นไหว้...เลยถามเพื่อนว่า
ได้ส้มนี้มาจากไหน เพื่อนบอกว่า นายให้มา...รู้เลยทันทีแบบอัตโนมันว่ากินไม่ได้
เพราะวันนั้นนายได้ทำการสักการะเจ้าที่เจ้าทาง
เลยนำผลไม้และของคาวหวานมาเซ่นไหว้
ข้าน้อยเลยส่ายหน้า ยื่นผลไม้นั้นกลับไปให้เพื่อน บอกว่า...กินไม่ได้
เพราะมันเป็นของเซ่น...เพื่อนบอกว่า...ดีสิ...ของเซ่นน่ะเป็นของที่มีศิริมงคล
ใครได้กินจะได้รับแต่สิ่งดีๆ...ไม่รู้หรือ...

ข้าน้อยเลยบอกว่า...เพิ่งรู้ตอนนี้แหล่ะ...แต่ศาสนาฉันได้ห้ามเอาไว้
ก่อนหน้าที่ฉันจะรู้ และฉันเชื่อตามศาสนาฉันน่ะ...



ซึ่งศาสนาเราไม่ได้คิดแบบนั้น ไม่ได้มองว่า อาหารที่ผ่านการเซ่นไหว้นั้น
มีความเป็นศิริมงคล ซ้ำยังตรงกันข้ามด้วยซ้ำ...

ปล.ข้าน้อยเคยฝันว่ามีคนมาสั่งให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้...แต่พอตื่นมา
คิดให้ดีๆ ทำไมฉันต้องไปเชื่อเขาด้วย...เราไม่รู้จักกันสักหน่อย
ทำไมต้องไปทำตามด้วย...ก็ไม่ได้กลัวว่าสิ่งนั้นจะมาทำอันตรายเราในภายหลังนะคะ
เพราะที่กลัวมากกว่าบุคคลที่เจอในฝันที่มาสั่งเรานั้นก็คือ กลัวอัลลอฮฺค่ะ


หากกลัวอัลลอฮฺแล้ว เราก็ไม่กลัวอะไรค่ะ...เพราะอัลลอฮฺใหญ่สุด...

หากอัลลอฮฺปกป้องเรา สิ่งใดก็ทำอันตรายเราไม่ได้
หากเรามีความกลัวว่าจะมีสิ่งใดมาทำอันตรายเรา
เราก็จำเป็นที่จะต้องขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ...อินชาอัลลอฮฺ



ความฝันมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ค่ะ ไม่รู้ว่ามาจากไหนด้วยซ้ำ...
เกรงก็แต่เพียงว่า มันจะมาจากชัยตอน...ยิ่งฝันให้เราทำอะไรแปลกๆ
ที่เหมือนจะขัดๆกับหลักการอิสลาม แบบหมิ่นเหม่นั้น ยิ่งต้องใคร่ครวญ
ให้จงหนักค่ะ...

เพราะนอกจากท่านรอซู้ล ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
กับบรรดารอซู้ลท่านอื่นๆที่มีโอกาสได้เจอกับทูตจากอัลลอฮฺ
ทางฝันแล้ว คนธรรมดาคนอื่นๆจะมีอภิสิทธิ์
ได้เจอกับท่านทางฝันหรือไม่...ข้าน้อยไม่รู้...

แต่ข้าน้อยที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ขอกล่าวด้วยสัจจะว่า
ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยได้เจอกับทูตจากอัลลอฮฺในฝันเลยค่ะ
แม้แต่ฝันเห็นบรรพบุรุษที่ล่วงลับมาสั่งให้ทำอะไรก็ตาม
ที่ขัดกับหลักการอิสลาม ข้าน้อยก็ไม่ทำตามค่ะ
เพราะไม่แน่ใจว่าจะใช่บรรพบุรุษของเราที่อัลลอฮฺอนุญาต
ให้มาพบเจอลูกหลานจริงๆหรือเปล่า ชัยตอนมีอำนาจ
ในการจำแลงร่างได้ และมันมีความสามารถเหนือมนุษย์...
ซึ่งโดยปกติสิ่งที่มันสั่งให้เราทำนั้น จะขัดกับหลักการอิสลาม
เสียทั้งนั้น...หากเราศึกษาหลักการอิสลาม เราก็รู้ว่า
สิ่งไหนขัดหรือไม่ขัด...อะไรหมิ่นเหม่ อะไรกำกวม
เราก็ไม่ไปทำมัน...เอาที่ชัดเจนไปก่อนจนกว่าเราจะรู้แน่ชัดลงไป
ว่าได้หรือไม่ได้...

แต่ที่แน่ๆก็คือ ชัยตอนไม่มีอำนาจ ไม่มีความสามารถ
ในการจำแลงร่างเป็นท่านนบี มุฮัมหมัด
ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้...

หากใครฝันเห็นท่านก็คือฝันเห็นท่านจริงๆค่ะ...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 15, 2013, 01:09 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ alkawafily

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 6
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คนกาเฟรแก้บนโดยการเชือดแพะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.ย. 15, 2013, 10:14 AM »
0
คืออย่างนี้ครับ ที่บ้านผมมีโรงแรมอยู่มาก ที่นี้เจ้าของโรงแรมเขามีความเชื่อว่าต้องเชือดแพะเพื่อขอเจ้าที่ น่าจะเป็นการขอขมาเจ้าที่(เพราะอยู่ในพื้นที่มุสลิม) เขาก็ซื้อแพะมา แล้วให้มุสลิมนั่นแหละเป็นคนเชือด แล้วก็เชิญคนมุสลิมไปกินแพะกันที่โรงแรม ผมเลยสงสัยว่าเราจะกินแพะนั้นได้หรือไม่

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: คนกาเฟรแก้บนโดยการเชือดแพะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.ย. 15, 2013, 11:39 AM »
0
ลองเข้าไปอ่านในลิงก์ด้านล่างดูนะคะ...
อาจจะทำให้พอเข้าใจอะไรบางอย่างได้

เพราะข้าน้อยไม่กล้าสรุปหรือตัดสินในประเด็นนี้
เนื่องจากความรู้ไม่รอบด้าน

แต่ที่อยากแนะนำก็คือ อะไรที่หากเราจะทำแล้วให้รู้สึกตะขิดตะขวงใจ
ว่าอะล้าลหรือฮะรอมหรือเปล่านั้น ให้เราละมันเอาไว้ก่อน คือไม่ตัดสิน
มันออกไป แต่ให้เลี่ยงไว้ก่อนจนกว่าจะแน่แก่ใจว่าอะล้าลหรือฮะรอม...


แถวบ้านชอบทำไก่ย่างสีเหลือง ๆ ตอนทำบุญนะ
ถามรุ่นน้อง รุ่นน้องบอกว่า ถ้าไม่ทำบาป
เพราะโต๊ะในซอยเขาชอบกินกัน
หลาน ๆ ไม่ทำล่ะเคืองง   ;D ;D ;D

ข้าวเหนียวเหลือง  ไก่ย่าง  มี ดาดา  ข้าวตอก  น้ำจิ้มรสหวาน  และอื่น ๆ  แบบครบสูตรนั้น  อร่อยแบบสุด ๆ  เหมาะสำหรับทำเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญ  แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีทำกันเท่าไหร่  เพราะพิธีรีตองมันเยอะ  นานทีทำสักครั้งหนึ่งก็คงจะไ้ด้  ดังนั้น  อาหารดังกล่าว  เป็นของฮะล้าล  ใครบอกว่าฮะรอมกินไม่ได้  ถือว่าแต่งตั้งตนเองขึ้นมาบัญญัติศาสนาของอัลเลาะฮ์ 

แต่ถ้าหากทำข้าวเหนียวเหลือง  เพราะความเชื่อหนึ่ง ๆ  ทำแบบเพื่อเส้นให้ปู่ย่าตายายบรรพบุรุษให้รับประทาน  ถือว่าเป็นความลุ่มหลง  ทำให้เสี่ยงต่อหลักอะกีดะฮ์   ซึ่งปัจจุบันก็ยังหลงเหลืออยู่บ้าง   แต่ถ้าหากทำเพื่อต้อนรับแขกให้ทำการรับประทาน  ก็ไม่เป็นไร  ทำเลี้ยงแขกแบบมิได้มีความเชื่อใด ๆ ก็ถือว่าให้กระทำได้ครับ

อยากจะเล่าเรื่องส่วนตัวให้ัฟังสักนิดครับ  คือว่า  ผมเองนั้นอยากกินข้าวเหนียวเหลืองแบบครบสูตรตามที่กล่าวมาข้างต้น  คืออยากรับประทานจริง ๆ และอร่อยด้วย    ก่อนขึ้นมาไคโรผมก็บอกทางบ้านว่าก่อนขึ้นไปขอทำข้าวเหนียวเหลืองแบบครบสูตรเลี้ยงแขกได้ไหมและผมก็อยากกิน  มันอร่อย  ที่บ้านก็ตกลงจะทำให้กิน  แต่มีน้าสาวคนหนึ่งเ่อ่ยขึ้้นมาว่า  "ข้าวเหนียวเหลืองเนี่ยพูดแล้วต้องทำน่ะ!"  ผมก็บอกว่า  "หากทำเหนียวเหลือเพราะความเชื่อแบบนี้  ผมไม่ขอให้ทำและไม่กิน! เพราะที่ทำนั้นเพราะอยากกินเท่านั้นเอง มิได้ทำเพราะความเชื่อแบบนี้"  น้าก็เงียบ และบอกกับผมว่า "อืม..อิมาม(มัสิดยิดบ้าน)ก็เคยห้ามเรื่องแบบนี้ไว้เหมือนกัน"  ผมเองก็นึกอ๋อขึ้นมาเลยครับว่า  ทำไมที่หมู่บ้านผมไ่ม่มีใครทำเหนียวเหลืองกันเลย  อัลฮัมดุลิลลาฮ์ 

แ่ต่ถ้าทำก็เพราะอยากกินนิ่  มันหร้อยของฮะล้าลทั้งนั้น........^^ 

วัลลอฮุอะลัม


ส่วนหนึ่งจากลิงก์ด้านล่าง...ลองเข้าไปอ่านระหว่างรอผู้รู้มาไขข้อกระจ่างเพิ่มเติมดูนะคะ...
เพราะมันเป็นกรณีที่คล้้ายกันอยู่...

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php/topic,2109.0.html


ปล.เนื้อแพะที่เชือดด้วยมุสลิมอย่างถูกต้องตามหลักการทุกอย่างนั้น
อะล้าลอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว แต่หากว่ามันถูกกระทำมาเพื่อ
เจตนาหรือต้องการสักการะสิ่งอื่น หรือตามความเชื่อของศาสนาอื่น
มันก็ย่อมไม่อะล้าล...เพราะความเชื่อนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
และอีกอย่าง เจตนา(เหนียต)ของเจ้าของงานก็สำคัญด้วยเช่นกัน...


และคำว่า จัดงานเพื่อขอขมาเจ้าที่...
เจ้าที่ในที่นี้ของเจ้าของงาน เขาคงไม่ได้หมายถึง
เจ้าที่เจ้าทางหรอกใช่มั้ยคะ...

หากเขาหมายถึง เขาต้องการเลี้ยงคนในพื้นที่
เนื่องจากเขาเข้ามาประกอบกิจการในที่แห่งนั้น
โดยหวังจะได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคนในพื้นที่
ที่อาศัยอยู่ อันนี้...เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะคะ
เพราะเหมือนเราเวลาไปไหนต่างถิ่น เราก็จะพยายาม
ทำความสนิทสนมกับเจ้าถิ่น ซื้อโน่นซื้อนี่ไปฝาก
เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กันเอาไว้...จะได้อยู่ด้วยกัน
อย่างราบรื่นต่อไป...

แต่อีกกรณีนึงที่เห็นต่างศาสนิกทำกันมากก็คือ
ความเชื่อที่ว่า หากไปอยู่ที่ไหน ก็ต้องขอขมาเจ้าที่
หรือขออนุญาตเจ้าที่ก่อน ซึ่งเจ้าที่ในที่นี่ของเขา
ไม่ได้หมายถึงมนุษย์ที่อยู่ในพื้นที่นั้น แต่เป็นสิ่งที่พวกเขา
มองไม่เห็น ก็ไม่รู้ว่าเขามีความเชื่ออย่างไรเกี่ยวกับ
เจ้าที่ของเขาที่เขากำลังขอขมาอยู่

คือเขามีเจตนาจะสักการะเจ้าที่แห่งนั้นที่ปกปักษ์คุ้มครอง
พื้นที่แห่งนั้นอยู่ โดยให้เราผู้อยู่ในพื้นที่ได้เข้าร่วมงานนั้นด้วย

ซึ่งคล้ายกับกรณีที่เจ้านายของข้าน้อย
จะทำการขอขมาเจ้าที่เจ้าทางทุกครั้งที่เปิดสาขาใหม่...
แล้วออกคำสั่งให้พนักงานทุกคนเข้าร่วมงาน...
และรับประทานอาหารนั้นซึ่งได้นำไปถวายให้แก่เจ้าที่เสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยกันอย่างพร้อมหน้าเพื่อความเป็นศิริมงคล
ตามความเชื่อของเขา...

วันนั้น...ข้าน้อยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมพิธีค่ะ คือไปร่วมงาน
แต่ไม่ได้ร่วมพิธีกรรม ไม่ได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับความเชื่อนั้นๆ
ของพวกเขา และไม่ได้ร่วมรับประทานอาหารพวกนั้น
ด้วยกันกับพวกเขา...และข้าน้อยก็เป็นเพียงคนเดียว
ที่เป็นมุสลิม ณ ที่แห่งนั้น...

ซึ่งเราก็อธิบายไปว่าทำไม เขาก็เข้าใจ ไม่ได้ว่าหรือตำหนิอะไร
แถมยังให้คนไปซื้ออาหารเซ็ตอื่นที่ข้าน้อยกินได้มาให้กินอีก
บอกว่า มาแล้วก็ไม่อยากให้หิ้วท้องกลับบ้านไป...
อยากให้กินอาหารด้วยกัน ขอแค่บอกมาว่า อะไรกินได้
เขาจะจัดการให้...ตอนนั้นก็ซึ้งในน้ำใจของเขาที่มีให้กับเรา...



ซึ่งการไปร่วมงานนั้น เพราะตั้งใจจะไปร่วมยินดีให้กับ
สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิด แต่การจะให้เข้าร่วมพิธีกรรมทางความเชื่อ
ของเขาด้วยนั้น ข้าน้อยก็ขอเลี่ยง เพราะมันไม่ใช่
ความเชื่อของเรา เราไม่ได้เชื่อเช่นนั้น...
จะให้เราไปนั่งในห้องทำพิธีกรรมหรือกินอาหาร
ทีี่ผ่านพิธีกรรมมาด้วยคงไม่ไหว
แม้ใจจะปฏิเสธ แต่หากเรากำลังพากายของเราเข้าไปเอี่ยวด้วย
มันก็ดูไม่สวยสักเท่าไหร่ในทางปฏิบัติ...

เพราะใจกับกายต้องไปด้วยกัน ถึงจะรู้สึกดี...


ศาสนาเขาก็คือศาสนาเขา ศาสนาของเราก็คือศาสนาของเรา


บางคนเขาไม่ได้ยึดถือศาสนาอะไรเป็นพิเศษ
แต่เขาก็ยึดเอาหลักปฏิบัติของศาสนาโน้นบ้างศาสนานี้บ้าง
มาปฏิบัติตามแต่ความคิดและความเชื่อส่วนตัวของเขาจะนำพาไป


แล้วเราจะไปเดินตามหลังคนที่เขายังหาจุดยึดมั่นไม่ได้
ได้อย่างไร ในเมื่อชีวิตเรา กายของเรา ใจของเรา
ปฏิญาณเอาไว้แล้วว่า "ลาอิลาอะอิ้ลลัลลอฮฺ..."


ข้าน้อยยังรู้สึกขอบคุณอัลลอฮฺ ตะอาลาทุกครั้ง
ที่เมื่อประสบพบเจอกับเหตุการณ์หรือต้องไปอยู่ในสถานการณ์
ที่เราไม่แน่ใจว่าเราควรจะกระทำอย่างไรดี...

เพราะทุกครั้ง คำว่า "ลาอิลาอะอิ้ลลัลลอฮฺ"
จะผุดขึ้นมาเสมอ...

และเราก็รู้สึกได้ถึงพลังของคำๆนี้ว่ามันเพียงพอแล้วสำหรับเรา
เพียงพอที่เราจะยึดมั่นเอาไว้...

ดังนั้น...การเป็นคนจริง และชัดเจนต่อสิ่งที่เราศรัทธา
จะไม่ทำให้เรากลายเป็นคนที่น่าตำหนิ
แต่มันจะส่งผลให้คนอื่นเกรงเรา...ให้ความเคารพเรา
ยิ่งการกระทำ หากเราอยากให้เขาเชื่อว่าเราเป็นคนอย่างไร
เราก็ต้องปฏิบัติเช่นนั้น...

เมื่อใจกับกายตรงกันและไปด้วยกัน...ความมั่นคงบนหนทางที่เดิน
ก็จะชัดเจนขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ...
อินชาอัลลอฮฺ...

วัสลามค่ะ



"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged