4. 秋(あき)อ่านว่า อากิ แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง (พี่ชอบฤดูนี้ ชอบทั้งชื่อทั้งฤดูของมันเลย)
doushite ,anata wa suki ga aki desu?
ลองแต่งประโยคเล่นๆดูคะ
ถ้าจะถามว่า ทำไมถึงชอบฤดูนี้ ถามว่าอย่างไรคะ
ถ้าพี่บอกว่า "ฉันชอบฤดูใบไม้ร่วง" พี่จะพูดว่า
わたしは秋が好きです。อ่านว่า วะตะชิ วะ อากิ กะ สุกี้ เดส
(Watashi wa aki ga suki desu)
น้องฟุยุจังถามกลับมาว่า "ทำไมถึงชอบฤดูนี้คะ"
1.กรณีที่เราสนิทกันมาก ก็จะถามโต้งๆไปเลยว่า
なんで? อ่านว่า นันเด๋ะ แปลว่า ทำไมหรือ
2.ถ้าจะถามแบบสุภาพหน่อย ก็จะถามว่า
どうしてですか? อ่านว่า โด้ชิเตะ เดสก๊ะ? แปลว่า ทำไมหรือคะ
3.ถ้าถามแบบเต็มรูปแบบเลย เอาตามหลักภาษา ไม่เน้นเวลาพูดกันจริงๆ
ก็จะถามว่า
どうしてあなたは秋が好きですか?
อ่านว่า โด้ชิเตะ อะนะตะ วะ อากิ กะ สุกี้ เดสก๊ะ?
(Doushite anata wa aki ga suki desuka?)
แปลว่า ทำไมคุณถึงได้ชอบฤดูใบไม้ร่วงคะ?
หรือ เพราะอะไรคุณถึงได้ชอบฤดูใบไม้ร่วงคะ?
4.หรือจะถามโดยไม่ใส่ชื่อฤดู แต่แทนด้วยคำสรรพบุรุษแทนเช่น
どうしてあなたはこの季節が好きですか?
อ่านว่า โด้ชิเตะ อะนะตะ วะ โกะโนะ คิเซซซึ กะ สุกี้ เดสก๊ะ?
(Doushite anata wa kono kisetsu ga suki desuka?)
แปลว่า...เพราะอะไรคุณถึงชอบฤดูกาลนี้คะ?
หมายเหตุ: การแต่งประโยคภาษาญี่ปุ่นสำหรับประโยคด้านบนนั้น
จะใช้ลักษณะนี้ค่ะ
คำถาม+ ประธาน+คำช่วย+ กรรม +คำช่วย+คำคุณศัพท์
どうして+あなた+は+秋+が+好き。。。ですか?
Doushite + anata+ wa+ aki+ ga+ suki...desuka?
suki เป็นคำคุณศัพท์ จึงใช้ตัวช่วย ga วางไว้ด้านหน้ามันค่ะ
kirei ที่แปลว่า สวย ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ ก็ใช้ตัวช่วย ga
วางไว้ข้างหน้าเช่นกันค่ะ คืออะไรที่เป็นคำคุณศัพท์
ใช้ตัวช่วย ga หมดค่ะ
ส่วนประธานของประโยคจะตามหลัง wa (は)ตลอดค่ะ
เว้นแต่ในบางกรณีเราต้องการละประธานเอาไว้
สำหรับการพูดคุยที่เราทราบถึงประธานกันดีอยู่แล้วว่าคือใคร
เราเลยไม่ใส่ประธาน แต่รูปประโยคการเรียงนั้นเหมือนเดิมค่ะ
อย่างภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส
การเรียงประโยคจะเป็นแบบ
ประธาน+ กริยา +กรรม
แต่ภาษาญี่ปุุ่นกับเกาหลีจะเรียงประโยคแบบ
ประธาน+ กรรม+ กริยา
ปล.ภาษาญี่ปุ่นดิ้นได้เหมือนภาษาไทยเลย...
เวลาพูดเวลาแต่งประโยคขึ้นอยู่กับเราและความสัมพันธ์
ระหว่างเรากับคู่สนทนาเป็นหลักเลยค่ะ
ปล.อีกที ภาพจากด้านบนนั้นแสดงว่าเป็นสื่อการสอน
ภาษาไทยให้ชาวญี่ปุ่นแน่ๆเลยใช่มั้ยคะ...
เคยสอนภาษาไทยให้สตาฟคนญี่ปุ่น สอนออกเสียงยากมากค่ะ
คนญี่ปุ่นลิ้นแข็ง...ออกสำเนียงไทยไม่ค่อยได้
เวลาฟังแล้วได้แต่ยิ้ม คงเหมือนเขาเวลาฟังเราพูดแล้วได้แต่ยิ้ม
ปีแรกๆที่พูดภาษาญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นลอบยิ้มประจำ...อิอิ
สงสัยคงนึกขำเราชัวร์ๆ ที่พูดทองแดงตกๆหล่นๆ...
ดังนั้น...เรื่องภาษา ถ้าจะเอาให้ได้ ต้องกล้าและหน้าด้านค่ะ
ถ้าอายจะไม่ได้ภาษาเขามา...ฮ่าาาาาา
สู้ๆ
がんばってね! (Gambatte ne!)