เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม
ท่านคิดอย่างไร เมื่อได้อ่านหัวข้อนี้มั่งครับ
nada-yoru:
ไม่มีใครที่จะดูถูกอัลอิสลามหรือทำลายอัลอิสลามได้หรอกค่ะ...หากว่าคนๆนั้นเข้าใจอิสลาม...
และอัลลอฮฺนั้นทรงปกป้องอัลกุรอ่านไว้ นั่นก็ย่อมหมายความว่า อัลลอฮฺทรงปกป้องอัลอิสลาม...
หากอัลลอฮฺคือผู้ทรงปกป้อง...ก็ย่อมไม่มีผู้ใดทำลายอิสลามได้ ที่เขาและเราทำได้ก็เพียงแค่อธรรมกับตัวของเขาและตัวของเราเองค่ะ...
เพราะสัจธรรมที่แท้จริงจะปกป้องตัวของมันเองได้...เนื่องจาก ไม่มีสิ่งใดหรือใครจะสามารถทำลายความจริงได้นั่นเองค่ะ...
ท่านรอซุลุ้ลลอฮฺจึงกำชับให้เราสมานฉันท์กัน ประกาศสัจธรรมออกไป ตักเตือนกันและกัน ชักชวนกันไปสู่หนทางที่เที่ยงตรง...
ต่อสู้อยู่บนหนทางของอัลลอฮฺ...
ซึ่งแน่นอนว่า ท่านรอซุลลุ้ลลอฮฺได้ทำหน้าที่ของท่านจนลุล่วงแล้วก่อนจะกลับคืนสู่อัลลอฮฺ...
ดังนั้น...ไม่ว่าอย่างไร เราก็ไม่ควรกระทำหรือพูดสิ่งใดอันจะทำให้ผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺหมดหวังหรือสิ้นหวัง
ที่จะต่อสู้อยู่บนหนทางของอัลลอฮฺน่ะค่ะ...
หากเราเห็นพี่น้องเรากำลังตกอยู่ท่ามกลางเหล่าไชตอนที่กำลังรุมล้อมเขาอยู่
เราเลือกจะผลักใสเขาหรือเลือกที่จะเรียกหาเขา ให้เขาหันมาทางเราแล้วเดินเข้าไปฉุดเขา
ช่วยเขาให้ออกมาจากเหล่าไชตอนที่รุมล้อมเขาอยู่...ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะช่วยเขาได้
ยากกว่าการปล่อยเขาเอาไว้ทั้งอย่างนั้นเสียอีก....เนื่องจากหากเราไม่แข็งแรงพอ
เราเองก็อาจจะถูกล้อมด้วยไชตอนด้วย...และวิธีที่จะช่วยเราและเขาให้หลุดจากวงล้อมของไชตอน
จากในส่วนหนึ่งก็คือ การขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺค่ะ...ขอให้ตัวเราและขอให้แก่เขา...
loveit:
ปล....กำลังใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆเลยทีเดียวค่ะ loveit:
เพราะการขอดุอาฮ์ให้แก่กันและกัน ก็เหมือนการส่งกำลังใจให้แก่กันและกัน...
โชคดีเหลือเกินตรงที่ การกล่าวทักทายของมุสลิมเรา คือ การขอดุอาฮฺให้แก่กันและกัน...
จึงไม่แปลก เมื่อเราได้กล่าวสลามออกไปแล้วอีกฝ่ายตอบรับ ประตูแห่งความรักและมิตรภาพก็แง้มเปิดออก...
ราวกับประโยคสั้นๆแค่นั้นได้กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ loveit:
วัสลามค่ะ
nada-yoru:
ขอเสริมท้ายอีกนิดนะคะ...
จากประสบการณ์ส่วนตัว...เมื่อก่อนเป็นคนนึงท่ีมีเพื่อนฝูงเยอะถึงเยอะมากค่ะ...มีเพื่อนหลายชนชาติ...
ไปไหนมาไหนก็มีเพื่อนฝูงรุมล้อม...ไม่เคยว่างเว้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมหรือเข้าสังคมกับผู้อื่น...
ชอบเดินเข้าไปในหมู่ชนแล้วยิ้มทักทายผู้อื่น...
เพราะตอนนั้นเลือกที่จะแคร์เพื่อน แคร์สังคมมากกว่าแคร์หรือใส่ใจต่อคำสั่งของอัลลอฮฺเท่าที่ควร...
แม้ไม่แตะของฮะรอม แต่ก็คลุกคลีอยู่กับสังคมแบบนั้น...อยู่ท่ามกลางสังคมแบบนั้นมานานหลายปี...
ยังนึกอยู่เลยว่า วันนั้น หากอัลลอฮฺไม่ปกป้องเอาไว้ เราก็คงไม่รอดและคงไม่เข้าใจในอะไรหลายๆอย่าง
ที่พระองค์ทรงพยายามสอนให้ผ่านทางบททดสอบต่างๆที่ส่งมาทดสอบเรา...ทำให้จุดดำในหัวใจค่อยๆเปลี่ยนเป็นสว่าง
อย่างสามารถสัมผัสได้...
จากที่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะร้องไห้เมื่อยามได้อ่านอัลกุรอ่านและศึกษาความหมายของอัลกุรอ่าน
แต่ก็ต้องร้องไห้ด้วยความรู้สึกหลากหลาย...
จนพยายามที่จะปรับเปลี่ยนความคิด ปรับเปลี่ยนทัศนคติ และปรับเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง...
ทุกวันนี้...เพื่อนน้อยมาก เพราะหลายๆคนค่อยๆตีตัวออกห่างไปบ้าง แต่ก็มีอีกหลายคนที่เข้าใจ
แต่ก็เหมือนจะต้องห่างกันไป เพราะสังคมที่เริ่มแตกต่างกันไปแล้ว...ไม่ใช่เพราะเพื่อนๆเปลี่ยนไป
เพียงแต่เรานั้นเองที่เปลี่ยนไป...ไม่เคยโทษเขาที่ไม่ค่อยโทรมาพูดคุยอย่างแต่ก่อนหรือชักชวนไปโน่นไปนี่อย่างแต่ก่อน
เพราะเราก็เข้าใจเขาพอๆกับเข้าใจตัวเอง...ว่าเมื่อเราเลือกจะเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าเราต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง
ท่ีเราอาจไม่คาดคิดด้วย...แต่ไม่เคยเสียใจ...
ทุกวันนี้...แม้มีเพื่อนน้อยลง แต่ก็ดีใจที่เพื่อนที่เรายังเหลืออยู่เป็นคนที่พร้อมจะเข้าใจเราและพร้อมจะเคียงข้างเรา...
จึงได้แต่ขอบคุณอัลลอฮฺ...ที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลง...จนทำให้เราได้เห็นความเปลี่นนแปลงจากคนรอบข้างด้วยเช่นกัน...
แล้วค่อนข้างพอใจกับจำนวนของเพื่อนที่ยังเหลืออยู่ค่ะ...
บางครั้ง...เราก็แคร์สิ่งหนึ่งมากเกินไป...จนเราพลาดโดยการลืมสนใจสิ่งที่มีค่าสำหรับเราอย่างแท้จริงไป...
เหมือน...เราโยนอัญมณีกับข้าวสารให้ไก่ แน่นอน ไก่ย่อมเลือกจิกข้าวสาร...เพราะไก่ไม่ได้รู้จักคุณค่าของอัญมณี...
มันจึงมิได้ใส่ใจหรือให้ความสนใจอัญมณี...
วัสลามค่ะ
loveit:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version