ผู้เขียน หัวข้อ: จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา  (อ่าน 3806 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา
« เมื่อ: พ.ย. 07, 2009, 09:05 AM »
0

ที่มา ฟอเวิดเมลล์

สิ่งที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ คือจดหมายฉบับสุดท้ายที่ฆฺอซี อันวารฺได้เขียนส่งถึงภรรยาของเขา

 

ฆฺอซี อันวารฺคือมูญาฮิดีนที่ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งแห่งตุรกี ผู้ที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเขาในการต่อสู้กับศัตรูของอิสลาม ในบั้นปลายชีวิตของเขา เขาก็ต้องเสียชีวิตลงโดยฝ่ายรัสเซีย เพียงหนึ่งวันก่อนหน้านี้เท่านั้น เขาได้เขียนจดหมายไปยังภรรยาของเขาที่มีชื่อว่า นาญิยะฮฺ ซุลฏอนะฮฺ จดหมายฉบับนี้ได้ถูกเธอสั่งตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ตุรกี หลังจากนั้นก็ได้ตีพิมพ์อีกครั้งในหนังสือพิมพ์อินเดียฉบับวันที่ 22 เมษายน 2466

 

จดหมายฉบับบนี้ช่างกระทบต่อความรู้สึกและช่างปลุกจิตสำนึกเสียนี่กระไร มันเป็นจดหมายที่คนหนุ่มทุกคนต้องอ่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจแก่มูญาฮิดีนในยุคอุษมานียะฮฺนั่นเอง

 

จดหมายฉบับนั้นมีความว่า

 

นาญิยะฮฺ ที่รักของฉัน

 

เธอคือคู่ชีวิตของฉัน คือน้ำพุแห่งความผาสุขและความปิติยินดีของฉัน อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่นั้นคือผู้ปกป้องเธอ จดหมายฉบับสุดท้ายของเธอที่กำลังอยู่ต่อหน้าฉัน ณ ขณะนี้นั้น เชื่อเถอะว่า มันจะเป็นจดหมายที่จะอยู่ในใจฉันตลอดไป แม้ฉันไม่อาจเห็นใบหน้าของเธอได้ แต่ระหว่างบรรทัดแต่ละบรรทัดและระหว่างคำแต่ละคำของจดหมายถึงเธอนี้ ฉันสามารถมองเห็นความงดงามของมือเธอที่ครั้งหนึ่งเคยเล่นอยู่บนหัวของฉันในความมืดที่อยู่ภายในเต้นท์ บางครั้งภาพของเธอก็ปรากฏอยู่ ณ สายตาของฉัน แต่มันช่างเศร้าเสียนี่กระไร ที่เธอเคยเขียนมาบอกว่าฉันได้ลืมเธอไปแล้ว เพราะฉันไม่ดูแลความรักที่เธอมี

 

เธอบอกฉันว่า ฉันได้ทำลายหัวใจอันเป็นที่รักของเธอ และหันไปสนใจกับการยิงปืนและเลือดในพื้นที่ๆห่างไกลแทน  และเธอก็ได้บอกฉันอีกว่า ฉันช่างเป็นคนที่เมินเฉยต่อสุภาพสตรีเหลือเกิน ที่วันๆได้แต่ใช้เวลาในช่วงค่ำคืนนับดวงดาวอย่างร้อนรนใจ

 

เธอยังพูดอีกว่า ฉันหลงใหลในสงครามและดาบที่ฉันมีอยู่ แต่น้อยครั้งที่เธอจะตระหนักในขณะที่เธอเขียนคำเหล่านี้ลงไป คำที่เธอเขียนด้วยความบริสุทธิ์ใจและออกมาจากหัวใจที่ภักดีต่อฉันนั้น จะทำให้ใจฉันมีความหวัง  ฉันจะทำอย่างไรที่จะทำให้เธอเชื่อมั่นว่าไม่มีใครอีกแล้วที่ฉันจะรักมากกว่าเธอ เธอคือที่สุดของความรักและความพอใจของฉัน ฉันไม่เคยได้รักใครมาก่อน แต่เธอนั่งเองคือผู้ที่มาขโมยหัวใจของฉันไป

 

“แล้วอะไรเล่าที่แยกระหว่างฉันกับเธอ?”

 

โอ้ความปิติแห่งหัวใจของฉัน!  เธอสามารถถามคำถามนี้ได้อย่างหน้าตาเฉยเลยหรือ ฟังฉันหน่อย ฉันไม่ได้จากเธอไปเพราะปรารถนาผลประโยชน์ทางด้านวัตถุหรือความมั่งคั่งและไม่ใช่เพราะฉันหวังที่จะสถาปนาอาณาจักรหรือบัลลังค์ของตัวฉันเองอย่างที่ศัตรูของฉันได้ประกาศไม่ เหตุผลเดียวเท่านั้นที่ฉันจากเธอมา นั่นก็เพราะว่าบัญญัติของอัลลอฮฺได้มายังฉัน ณ ที่นี่[ที่สนามรบ] และไม่มีฟัรฎูใดๆจากอัลลอฮฺอีกแล้วที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการญิฮาด ฟีสะบีลิลลาฮฺ  มันคือคำสั่งใช้จากอัลลอฮฺ การมีเจตนาที่จะกระทำมันให้สมบูรณ์นั้นจะทำให้คนหนึ่งมีสิทธิ์เข้าสวนสวรรค์เชียวนะ

 

อัลฮัมดุลิลลาฮฺที่ฉันไม่ได้มีแค่เจตนาที่จะปฏิบัติตามคำสั่งนี้เท่านั้นแต่ฉันได้แบกรับมันไว้แล้วที่สนามรบแห่งนี้

 

การขาดเธอไปนั้น ก็เสมือนหนึ่งลูกธนูที่ได้ฉีกหัวใจของฉันออกเป็นชิ้นๆในทุกๆขณะ แต่อย่างไรก็ตาม ฉันก็มีความสุขกับการแยกจากกันในครั้งนี้เนื่องจากรักแท้ที่เธอมีให้พร้อมกับบททดสอบอันยิ่งใหญ่ มันเป็นแรงกระตุ้นให้กับเจตนาของฉันเดินหน้าต่อไป และมันเป็นปณิธานของฉันในการต่อสู้เพื่อหนทางอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุวะตะอาลา

 

ฉันขอชูโกรต่ออัลลอฮฺอย่างมากมายที่ทำให้ฉันได้รับชัยชนะในบททดสอบนี้และประสบความสำเร็จในการมอบความรักที่มีต่ออัลลอฮฺและพระบัญชาของพระองค์มาก่อนชีวิตของฉัน ความรักของฉัน และความปรารถนาของฉัน เธอเองก็เหมือนกัน ที่รักของฉัน เธอก็ควรขอบคุณต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา และมีความสุขที่สามีของเธอได้มีอีหม่านที่เข้มแข็งเช่นนั้น และสามารถที่จะเสียสละความรักของเธอเพื่อความรักของอัลลอฮฺได้

 

ที่รักของฉัน ถึงแม้ว่าการญิฮาดด้วยกับคมดาบจะไม่เป็นที่บังคับแก่เธอ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้รับการยกเว้นจากการญิฮาด เพราะไม่มีมุสลิมและมุสลิมะฮฺคนใดที่จะได้รับการยกเว้นจากการญิฮาด การญิฮาดของเธอก็คือการที่เธอต้องมอบความรักต่ออัลลอฮฺก่อนความรักและความปรารถนาของเธอ และการทำให้สัมพันธ์แห่งรักระหว่างสามีกับเธอให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

สิ่งหนึ่งที่อยากให้ระวังไว้ก็คือ อย่าได้ขอดุอาอฺให้สามีของเธอคนนี้กลับมาสู่อ้อมแขนของเธออย่างปลอดภัยและไม่ได้รับความเสียหายจากสนามรบเลย ดุอาอฺเช่นนี้มันเป็นดุอาอฺที่เห็นแก่ได้และอัลลอฮฺก็ไม่ทรงโปรดในดุอาอฺเช่นนี้ แต่ฉันขอให้เธอขอดุอาอฺเช่นนี้ ขอให้อัลลอฮฺทรงตอบรับการญิฮาดของสามีของเธอและนำเขากลับมาอย่างประสบความสำเร็จ หาไม่แล้วก็จงให้ริมฝีปากของเขาได้จิบรสชาติของบรรดาชะฮีดเถิด ซึ่งเธอเองก็รู้ว่าริมฝีปากนี้ไม่เคยถูกแอลกอฮอล์แตะต้องแต่อย่างใด เพราะมันยุ่งอยู่กับการอ่านอัลกุรอานและสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺอยู่ทุกขณะ

 

นาญิยะฮฺ สุดที่รักของฉันเอ๋ย มันช่างเป็นปณิธานที่น่ายินดีเสียนี่กระไร ที่ช่วงเวลาขณะนี้ได้อยู่ในหนทางของอัลลอฮฺ หัวใบนี้เองที่เธอชอบบอกว่างดงาม สักวันมันก็จะถูกแยกออกจากร่างกาย ซึ่งในสายตาของเธอมันไม่ใช่ร่างกายของทหารคนหนึ่งอีกแล้วแต่มันเป็นร่างกายของคนที่เธอรักต่างหาก

 

ความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอันวารฺก็คือการได้เป็นชะฮีดและในวันกิยามะฮฺจะถูกตัดสินให้ได้อยู่ร่วมกับคอลิด บินวะลีด (ร.ฎ.) หนึ่งประโยคที่ยังคงใช้ได้เสมอก็คือ “ความตายต้องมาถึงอย่างแน่นอน” แล้วทำไมเราต้องกลัวความตายด้วย? หากความตายเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้วล่ะก็ ทำไมเราต้องเลือกตายบนเตียงด้วยล่ะ? และการตายในหนทางของอัลลอฮฺนั้นหาใช่ความตายไม่ หากแต่เป็นชีวิตอันนิรันดร์ต่างหาก

 

นาญิญะฮฺ โปรดฟังคำสั่งเสียของฉันก่อน หากฉันได้ตายชะฮีดลง ขอให้เธอแต่งงานกับพี่น้องของฉัน นูรี ปาชาเถอะนะ เพราะรองจากเธอแล้วคนที่ฉันรักมากที่สุดก็คือเขา ฉันหวังว่าหลังจากที่ฉันไม่อยู่แล้ว เขาจะสามารถดูแลเธอในช่วงชีวิตที่เหลือของเธอได้ และฉันก็หวังอีกว่า เธอจะเล่าเรื่องราวชองฉันให้กับลูกๆของเธอทุกคนและส่งเขาทั้งหมดนั้นสู่สมรภูมิญิฮาดแห่งอิสลาม สิ่งสำคัญที่อยากให้เธอจดจำไว้ก็คือ หากเธอไม่ทำความหวังของฉันให้สมบูรณ์แล้วล่ะก็ ในสวนสวรรค์ฉันจะโกรธเธอด้วยล่ะ

 

เอาล่ะ สุดที่รักของฉัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมความรู้สึกลึกๆข้างในมันถึงได้บอกฉันว่าหลังจากจดหมายฉบับนี้แล้ว ฉันไม่มีโอกาสเขียนจดหมายถึงเธอได้อีก ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า พรุ่งนี้ฉันอาจจะตายชะฮีดแล้วก็ได้

 

จงอดทนไว้! และจงยินดีต่อการตายของฉันและอย่าได้เศร้าโศกเสียใจ เพราะการตายของฉันที่อยู่ในหนทางของอัลลอฮฺคือหนึ่งเกีรยติยศของเธอนะ นาญิยะฮฺ! ฉันคงต้องขอจากเธอแล้ว สิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้ก็คือเพียงแค่โอบกอดเธอในจินตนาการเท่านั้น

 

 

อินชาอัลลอฮฺ เราจะได้พบกับในญันนะฮฺและหลังจากนั้นเราก็จะไม่มีวันแยกจากกันอีก

 

จาก อันวารฺ

(และฆฺอซี อันสารฺ ปาชา ก็ได้ตายชะฮีดลงในวันถัดมา)

 

จาก The Unjust Media

I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พ.ย. 07, 2009, 09:13 AM »
0
ได้รับมาเหมือนกันค่ะ อ่านแล้วแบบว่า น้ำตาคลอ mycry

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พ.ย. 07, 2009, 09:42 AM »
0


หัวใจของคนอาริฟบิลละฮ์นั้น....น่าอิจฉา

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พ.ย. 07, 2009, 09:50 AM »
0
สั่งเสียให้แต่งงานกับน้องชาย
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พ.ย. 07, 2009, 10:02 AM »
0
มุอ์มินถูกทดสอบด้วยกับการเสียสละในหนทางของอัลลอฮ์ แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
ญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์นั้น เป็นสิ่งที่ประเสริฐ ที่มุอฺมินทุกคนต่างอยากเผชิญด้วยความกระหาย
ความเสียสละ ต้องจากครอบครัวอันเป็นที่รัก...ไม่ใช่อื่นใดเลย แต่เพื่อความรักต่ออัลลอฮ์ตะอาลา
เพื่อเชิดชูเกียรติของพระองค์ และเพื่ออิสลาม
ไม่แปลกใจเลย ที่พวกเขาเหล่านั้น ยอมเสียสละได้ถึงเพียงนี้

หันกลับมาดูสภาพของเรา สังคมมุสลิมของเรา
การออกเผยแผ่ศาสนา...ออกดะวะฮ์ตับลีฆ ถือเป็นการญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์เช่นกัน
ต้องจากบ้านจากครอบครัว จากภรรยาอันเป็นที่รัก เป็นเดือน เป็นปี บางคนนั้นไม่ได้กลับมาพบหน้าภรรยาอีกเลย
เชื่อว่า ในใจของคนที่มั่นคงต่ออัลลอฮ์  เขาคิดเช่นนี้เหมือนกัน



อินชาอัลลอฮฺ เราจะได้พบกับในญันนะฮฺและหลังจากนั้นเราก็จะไม่มีวันแยกจากกันอีก

 

อยากฝากถึงคนบางกลุ่มที่ชอบคิดว่า การจากภรรยาจากครอบครัวเพื่อออกดะวะฮ์ (ไม่ได้ทิ้งครอบครัวแบบไม่แยแส)
เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ที่สามีไม่ควรกระทำ
ลองอ่านข้อความจากกระทู้นี้ แล้วคุณจะรู้ว่า  การเสียสละในหนทางของอัลลอฮ์นั้น  มีหลายรูปแบบ หลายวิธีการ
แต่จุดหมายปลายทาง มิใช่อื่นใด...คิดว่าทุกคนคงซาบซื้งดีนะคะ
ญิฮาดคือสิ่งที่พวกเขากระหายที่จะเผชิญ  ทั้งนี้และทั้งนั้นอยู่ที่ความอิคลาสเป็นตัวตั้ง
เพราะอัลลอฮ์ตะอาลาจะทรงรับสิ่งนี้เท่านั้น
วัลลอฮ์อะลัมบิศซอวาต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 07, 2009, 10:25 AM โดย al-firdaus~* »

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พ.ย. 07, 2009, 10:04 AM »
0
ยิ่งบทความที่ก๊ะอัลฟิรดาวส์อ้างถึงนี่แหละค่ะ ที่ทำให้แมวน้อยถึงกับหลั่งน้ำตา คืนนั้นที่อ่าน ยังจำความรู้สึกนี้ได้ดี มันสุดจะบรรยายจริงๆค่ะ mycry

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พ.ย. 07, 2009, 10:05 AM »
0


หัวใจของคนอาริฟบิลละฮ์นั้น....น่าอิจฉา

ครับผม

ความบริสุทธิ์ใจที่มีต่ออัลลอฮนั้นมากเหลือเกิน
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ habebe143

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 125
  • เพศ: หญิง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • สนใจจะสั่งสินค้า muslimshop143@gmail.com
Re: จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เม.ย. 15, 2010, 12:34 AM »
0
เศร้า


อิจฉาภรรยาของเขาจัง
อิสลามส่งเสริมให้แต่งตัวสวย ให้สามีดู และไม่เปิดเผย ความสวยงามต่อสาธารณะชน muslim-shop

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: จากมูญาฮิดดีน ถึง ภรรยา
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พ.ย. 16, 2013, 05:58 PM »
0
เคยอ่านประวัติที่กษัตริย์ ขุนศึก นักรบ ต่างเสียสละชีวิตเพื่อชาติ
เพื่อผืนแผ่นดิน และตายในสงคราม ตอนนั้นอ่านไปซึ้งใจไปกับการเสียสละ
โดยไม่ได้รักตัวกลัวตายเลย...แม้ชีพสิ้นก็ไม่เสียดายอะไรทำนองนั้น...

ยิ่งความรู้สึกของภรรยาและลูกๆที่อยู่ข้างหลังอีกนั้นก็ยิ่งทำให้คิดว่า

...ทำไมมนุษย์เราจึงต้องต่อสู้กันให้เลือดนองแผ่นดินด้วย...
...ทำไมลูกหลานอะดัมต้องมาฆ่ากันเอง...
...เราไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรือที่ดีกว่าการหลั่งเลือดด้วยคมดาบ...


แต่เมื่อโตขึ้น เห็นอะไรมากขึ้น จึงพอจะเข้าใจว่าทำไมแผ่นดินแห่งนี้
จำต้องมีการนองเลือด และจำต้องมีผู้เสียสละชีวิตเพื่ออะไรบางอย่าง

นักรบบางคน เมื่อรบไปนานๆอยู่ในสงคราม ก็อาจจะลืมเลือนถึงปนิธานไปได้ว่า
ทำไมพวกเขาถึงต้องอยู่ในสนามรบ เขาต่อสู้เพื่อสิ่งใด...
และตอนน้ีภรรยาและลูกๆของเขาจะเป็นอย่างไร...

และทั้งหมดที่เขียนมานั้น มันเป็นการเสียสละชีวิตของนักรบ
ที่ต่อสู้เพื่อผืนแผ่นดินที่พวกตนอาศัยอยู่
เพื่อชนเผ่า เพื่อชาติและเผ่าพันธุ์ของตนเองเพียงแค่นั้นเอง

มิใช่เพื่อศาสนาของอัลลอฮฺ...ซึ่งศาสนาของพระองค์นั้นย่อมยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด
เมื่อได้อ่านบทความนี้ ก็เลยรู้สึกว่า มันเป็นการปลุกจิตวิญญาณของเราให้ตื่น

อย่างไร ไม่ว่าเราจะรักกับใครหรือมีครอบครัวไปกับใครก็ตามแต่
ท้ายที่สุดเราก็ย่อมต้องพลัดพรากจากพวกเขาเหล่านั้นอย่างที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด
บนดุนยานี้จะหลีกหนีกฎนี้ไปได้...

แต่เราจะพรากจากกันด้วยกับอะไร อันนี้ น่าคิด...


จากบทความทำให้ทราบได้ว่า ชายผู้เป็นนักรบนั้นมีความรักอันยิ่งใหญ่แค่ไหน
ให้กับภรรยาของตน เขาปวดร้าว ทรมาน ภรรยาของเขาก็ปวดร้าวทรมาน
จากการพลัดพรากและแยกห่างกัน...และไม่ว่าเขาจะรักภรรยาแค่ไหน
แต่หากมีความสำคัญและยังจำเป็นเหนือกว่าสำหรับที่เขานั้นเทิดทูนบูชาจริงใจ...

นั่นก็คือ...เขารักอัลลอฮฺและยำเกรงอัลลอฮฺเหนือสิ่งใด...

และการเขียนจดหมายบอกภรรยาให้แต่งงานกับน้องชายนั้น
ก็เป็นหนึ่งในความห่วงใยในชีวิตของภรรยาหลังจากที่เขาไม่ได้อยู่แล้ว...
ซ้ำยังห่วงใยในบุตรหลาน...เพราะด้วยคนส่วนใหญ่มักจะหวงของรัก
ไม่ยอมที่จะยกให้ใครง่ายๆ ยิ่งรักมากก็ยิ่งหวงมาก
แต่ในทางกลับกัน กับบางคนยิ่งรักมากก็ยิ่งเป็นห่วงมาก
และเพราะความเป็นห่วงนั้นเอง เขาย่อมจะกระทำสิ่งต่างๆเพื่อที่จะให้สิ่งที่เขารัก
ได้รับสิ่งที่ดีและประสบสุข...แม้จะต้องยกของรักของหวงนั้น
ให้ใครไปเขาก็ทำได้...

เพราะมนุษย์นั้น จะไม่สามารถบรรลุถึงความดีได้
หากว่าเขายังมิได้เสียสละหรือให้ในสิ่งที่รักและหวง...


ถือว่าอีหม่านเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าจะถูกประทับลงในหัวใจใครได้ง่ายๆ
เว้นแต่ผู้นั้น รักและเสียสละเพื่ออัลลอฮฺอย่างบริสุทธิ์ใจ...

เขียนไม่ดีอย่างไร ติติงกันได้นะคะ

เป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่อยากจะขุดในวันนี้....^^







"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged