ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)  (อ่าน 48102 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #165 เมื่อ: พ.ค. 25, 2010, 01:55 PM »
0
ขอตบท้ายอีกเรื่องก่อนไปนอน เย้ย ก่อนไปกินข้าวค่ะ...





นิทานเรื่อง จีนกับใบมะขาม [/color]

สมุดบันทึกนิทานมูลนิธิเด็ก 2547 เล่าใหม่โดย วินทร์ เลียววาริณ



โกย้งกับโกผงเป็นชาวจีนสองคนเพื่อนตายที่หาเช้ากินค่ำในเมืองจีน
ชีวิตในหมู่บ้านของพวกเขาแร้นแค้นมาก ทั้งสองมักอด ๆ อยาก ๆ
วันหนึ่งโกย้งบอกโกผงว่า "เราทั้งสองจงเดินทางไปเมืองไทยเถิด
ได้ยินคำร่ำลือว่า แผ่นดินนั้นอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
อุดมด้วยเรือกสวน พืชผักผลไม้บริบูรณ์"

โกผงถามว่า "เราสองคนจะทำอะไรกิน"

โกย้งตอบว่า "เรามีสองมือสองเท้า จะทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่เราขยันขันแข็ง
มีหรือจะอดตายในแผ่นดินอุดมสมบูรณ์เช่นนั้น"

ทั้งสองใช้เงินก้อนสุดท้ายเป็นค่าเดินทาง เรือสำเภาดั้นด้นฝ่าคลื่นลมจากเมืองจีนมาถึงจุดหมาย
และขึ้นฝั่งทางภาคใต้ของไทย

โกย้งมองไปรอบตัว ยิ้มบอกว่า "เราไม่อดตายแล้ว ที่นี่เป็นสวรรค์โดยแท้"

โกย้งกับโกผงตัดสินใจแยกทางกันไปทำมาหากิน
เพราะเห็นว่าการแยกกันไปทำงานคนละอย่างจะเพิ่มโอกาสในการสร้างตัว

ทั้งสองสัญญากันว่า หากใครประสพความสำเร็จก่อน จะช่วยเหลืออีกคน
นัดหมายกันว่าอีกสองปีมาเจอกันที่ท่าเรือ

เมื่อแยกทางกันแล้ว โกผงก็ทำงานจิปาถะตามสบาย เนื่องจากเมื่อไม่มีกิน
ชาวบ้านก็มักเอื้อเฟื้อมอบอาหารให้ ผลหมากรากไม้ก็หาง่าย
อีกทั้งอากาศทางภาคใต้ก็เย็นสบาย ฝนตกปรอยชุ่มชื้นเสมอ
โกผงจึงใช้ชีวิตตามสบาย เมื่อได้เงินมาก็หยุดทำงานนอนเล่นไปวัน ๆ
ใช้เงินหมดเมื่อใดค่อยตะเกียกตะกายไปหางานทำ

เวลาผ่านไปสองปี โกผงก็ยังมีสภาพยากจนเช่นเมื่อสองปีก่อน
โกผงเดินทางไปที่จุดนัดพบ เขาเห็นโกย้งในสภาพที่ไม่เหมือนเดิม
โกย้งกลายเป็นเศรษฐี นั่งรถม้า มีคนขับรถ คนรับใช้หลายคนคอยปรนนิบัติ

โกย้งเล่าว่า เมื่อแยกทางมา เขาก็ทำงานทุกอย่างโดยไม่เกี่ยงงอน
เก็บหอมรอมริบอย่างอดทนจนได้เงินก้อนหนึ่ง
นำไปลงทุนซื้อสวนใหญ่ปลูกมะขามและผลไม้อื่น ๆ กิจการดีขึ้นตามลำดับ

เมื่อรู้ว่าเพื่อนของตนไม่มีงานทำ โกย้งก็บอกให้โกผงไปทำงานกับตน

โกผงทำงานที่ใหม่ นอกจากไม่ได้เปลี่ยนนิสัยทำงานวันหยุดสองวันแล้ว
ยังแย่กว่าเดิม หยุดงานนานครั้งละหลาย ๆ วัน

เมื่อโกย้งถามว่าทำไมเขาไม่ทำงาน โกผงตอบว่า
"แกรวยแล้ว ทำไมต้องทำงานหนักอีก ไม่จำเป็นต้องทำงานก็อยู่สบายไปตลอดชีวิตได้"

โกย้งสังเกตเห็นเพื่อนของตนเปลี่ยนไปเช่นนั้น ก็มิได้ว่ากล่าวแต่ประการใด
บอกเพื่อนว่า

"ถ้าเช่นนั้น ฉันจะให้แกไปทำงานง่าย ๆ "

โกผงถามว่า "งานอะไร"

"รูดใบมะขามออกจากต้น เริ่มจากต้นเล็กก่อน"

โกผงรับปากด้วยความยินดีที่ได้ทำงานเบาสบายกว่าเดิม
โกผงรูดใบมะขามออกหมดต้นในสองสามวัน ไม่นานต้นมะขามนั้นก็เฉาตาย

โกผง รูดใบไม้จากต้นใหม่ต่อไป ครั้งนี้ใช้เวลารูดนานขึ้นเป็นอาทิตย์
เพราะเป็นต้นขนาดกลาง มะขามต้นนั้นไม่ตาย แต่ก็ใช้เวลาฟื้นตัวนานหลายอาทิตย์

เมื่อรูดใบหมดต้น โกผงก็ไปรูดใบจากต้นมะขามใหญ่

ครั้งนี้กินเวลานานเป็นเดือนก็ไม่หมดสักที เพราะเมื่อรูดใบหมดไปส่วนหนึ่ง
ต้นมะขามก็ผลิใบใหม่ออกมา โกผงรู้สึกเหนื่อยจึงนั่งพักที่โคนต้นมะขาม
สายตามองดูใบไม้ที่ถูกรูดร่วงโรยรายบนพื้น

เขานั่งคิดว่า ทำไมจึงไม่สามารถรูดใบไม้ทั้งหมดลงมาได้
ทั้ง ๆ ที่สองต้นแรกใช้เวลาเพียงไม่นาน เขานึกถึงตัวเองที่ทำงานวันเว้นวัน
เงินหมดอย่างรวดเร็ว

คนที่ทำงานหนักได้เงินทองมาสะสมมากมาย ก็เหมือนมะขามใหญ่
รูดใบไม้ออกไปเท่าใดก็ไม่มีวันหมด ส่วนคนที่ขี้เกียจทำงานเช่นเขา
มีเงินทองเล็กน้อย รูดใบไม้ไม่กี่วันก็หมดเกลี้ยง ไม่นานก็เฉาตายไป
 เขารู้แล้วว่าโกย้งมอบงานนี้ให้เขาทำเพื่อให้เขารู้จักคิด เขารู้สึกละอายใจ



โกผงกลับไปหาโกย้ง ขอทำงานที่ยากขึ้น คราวนี้เขาทำงานทุกวัน
และไม่นานก็มีฐานะที่ร่ำรวย ยืนหยัดได้เหมือนมะขามใหญ่ต้นนั้น


นิทานเรื่อง จีนกับใบมะขาม นิทานสอนใจดีๆมีข้อคิดถ้าเราอ่านแล้วใส่ใจ

ปล.หลับฝันดีนะจ๊ะโคลงเคลง ราตรีสวัสดิ์ เย้ย  ทิวาสวัสดิ์ค่ะ ;D


ป.ลิงอีกที ลุงอัดนานเอาตำนานคานทองมาระบายความในใจของลุงใช่มั้ยค่ะเจ้า
ลงมาเมื่อไหร่ หลังไมค์มาบอกกันบ้างน่า อยากเห็นๆ วันนั้น 55555555555555555


เอามั้งแหละ ลองอ่านดูนิ
 hihi:
กาลครั้งหนึ่ง... นานมาแล้ว
มีกระต่ายตัวหนึ่งเดินไปเจอควายกำลังเล่นโคลน
ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา "เจ้าควายเอ๊ย แกโชคร้ายจริงๆต้องนอนอยู่ในโคลนทั้งวัน"
แล้วมันก็โดดลงรูไป พอดีนกบินอยู่มองเห็นกระต่ายโดดลงรูพอดี ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา "เจ้ากระต่ายเอ๊ย แกโชคร้ายจริงๆต้องนอนอยู่ในรูแคบๆ"
 แล้วนกก็บินไปที่รัง ใต้รังนกมีบ่อน้ำ ปลามองเห็นนกอยู่ที่รัง ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา "เจ้านกเอ๊ย แกโชคร้ายจริงๆต้องนอนแขวนอยู่บนกิ่งไม้จะตกมิตกแหล่"
 เจ้าควายที่เล่นโคลนจนหิวน้ำ จึงเดินมากินที่บ่อ พอเห็นปลาก็รู้สึกสงสารขึ้นมา "เจ้าปลาเอ๊ย แกโชคร้ายจริงๆต้องอยู่แต่ในบ่อไปตลอดชีวิตไม่เคยได้เห็นโลกกว้าง"

           ::)นิทานเรื่องนี้สะท้อนถึงพี่น้องมุสลิมที่ทะเลาะกันอยู่ตามเวปต่างๆในขณะนี้...ตามนั้นเรยยยยย boulay:




นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  "ไก่เห็นนมงู งูเห็นนมไก่"  wink:

วัสสลามค่ะ


 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #166 เมื่อ: ก.ค. 30, 2010, 04:07 PM »
0
 


 salam

"หอยนางรมกับปู"

“หอยนางรมตัวหนึ่งตกหลุมรักพระจันทร์ มันอ้าปากหวอดูพระจันทร์เป็นชั่วโมงๆ
ส่วนปูก็รักหอยนางรม แต่เพื่อจะกินมัน

ปูตัวหนึ่งสังเกตว่า หอยนางรมอ้าปากหวอดีมากเมื่อพระจันทร์เต็มดวง
มันจึงโยนก้อนหินเข้าไปในเปลือกหอยที่เปิดอ้าอยู่อย่างแม่นยำ
ช่างร้ายเสียจริง ! หอยนางรมพยายามหุบเปลือกแต่ไร้ผล เจ้าปูจึงได้ลิ้มรสของมันสมใจอยาก”





“หมัดกับขนแกะ”

หมัดตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนตัวหมาขนเกรียน วันหนึ่งมันได้กลิ่นขนแกะก็ฝันถึงที่นอนอันอบอุ่น
มิหนำซ้ำไม่ต้องคอยหลบหลีกกรงเล็บหมาที่คอยแต่จะเกามันอยู่เรื่อย
คิดเช่นนั้นแล้วมันจึงกระโดดจากหนังหมาไปหาขนแกะหนานุ่ม
แต่แล้วมันก็ติดอยู่ระหว่างขนแกะที่หนาทึบ ไม่สามารถไต่ลงไปถึงหนังแกะเพื่อดูดเลือดกินได้ มันจึงอดตาย

นิทานอีกส่วนหนึ่งจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับสัตว์หรือพืชที่ตกเป็นเบี้ยล่าง ไร้อำนาจ ไร้ปัญญา
แล้วต้องตกเป็นเหยื่อของคนพาลหรือคนเอาแต่ได้ในที่สุด
คล้าย ๆ จะบอกว่า อยากโง่ให้เขาหลอกนักก็สมควรตาย





“หนู พังพอน แมว”

หนูตัวหนึ่งออกจากรังไม่ได้เพราะมีพังพอนเฝ้ารอกินมันอยู่หน้ารัง
พอดีแมวเดินผ่านมาก็จับพังพอนกินเสีย หนูเห็นเช่นนั้นก็นำเครื่องบรรณาการไปถวายแมว
แมวก็กินทั้งเครื่องบรรณาการและหนูนั้นเสีย



“หมึกกับกระดาษ”

 

“กระดาษแผ่นหนึ่งมีตัวหนังสือดำพืด วางอยู่บนโต๊ะข้าง ๆ กระดาษขาวแผ่นอื่นๆ
มันโกรธมากที่เห็นตนเองเปื้อนสีดำเลอะเทอะ และคิดว่าหมึกเป็นตัวการทำให้เปื้อน
 จึงหาเรื่องกับหมึกซึ่งแห้งแล้วว่า

‘ทำไมถึงได้ทำกับข้าอย่างน่าละอายเช่นนี้ ข้าได้สูญเสียความขาวของข้าไป
และไม่อาจเอามันกลับคืนมาได้อีกแล้ว ทำไมเจ้าถึงทำข้าสกปรกล่ะ’

หมึกตอบกระดาษว่า ‘เจ้าฟังนะ เจ้าต่อว่าข้าอย่างนั้นไม่ถูกหรอก
 ถ้าไม่มีข้า เจ้าก็เป็นแค่กระดาษ แต่เมื่อข้าวางอยู่บนตัวเจ้า มันกลายเป็นคำต่าง ๆ
ซึ่งปากกาได้เขียนไว้ ตอนนี้เจ้ากลายเป็นสารที่ประกอบด้วยประโยคต่าง ๆ
ข้านี่แหละกลับทำให้เจ้ามีประโยชน์ขึ้นมา'

จริงดังว่า ครู่หนึ่งก็มีคนเดินมายังโต๊ะ แล้วอ่านกระดาษซึ่งดำไปด้วยตัวหนังสืออีกครั้ง
โดยไม่สนใจแผ่นกระดาษสีขาวทั้งหลายเลย”



ที่มา...นิทานของ  เลโอนาร์โด ดาวินชี


ปล.หวังว่านิทานดังกล่าวจะแทรกข้อคิดดีๆฝากคนอ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
คืนนี้หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ  party:


วัสสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #167 เมื่อ: มี.ค. 05, 2011, 05:27 PM »
+2
 :salam:

วันนี้เอานิทานตลกๆมาฝาก เพื่อผ่อนคลายในช่วงที่อะไรๆก็ขึ้นราคา...  cool2:



อายุยืน .....

    ไกรศักดิ์มายืนรอแฟนที่ห้างแห่งหนึ่ง เขารอแฟนนานมากจึงคิดจะไปล้างหน้า
หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็เหลือบไปเห็นเด็กวัยรุ่นกำลังนั่งกินช็อกโกแลค ทอฟฟี่ น้ำอัดลม
เขาจึงเดินเข้าไปเตือน

ไกรศักดิ์: น้อง น้องรู้ไหมว่าของพวกนี้ไม่มีประโยชน์
เด็กวัยรุ่น : รู้เพ่ ก็ผมกินประจำ
ไกรศักดิ์ : อ้าว แล้วน้องไม่เป็นไรหรือ
เด็กวัยรุ่น : ปู่ผมอายุ 100 ปี
ไกรศักดิ์ : ปู่น้องกินของพวกนี้ประจำเหมือนกันเรอะ
เด็กวัยรุ่น : ป่าว
ไกรศักดิ์ : แล้วเอาปู่มาอ้างทำไม
เด็กวัยรุ่น : ปู่ผมไม่เคยยุ่งเรื่องชาวบ้าน อายุเลยยืน
ไกรศักดิ์ : ????????

 

===================

 
มีหน้าที่ฟังๆไป


มีชายอยู่ 2 คน นั่งคุยกันที่สวนสาธารณะ
นายดำ:ข้ามีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่ะ +++อยากฟังมั๊ย
นายแดง:ฟังก็ฟังวะ
นายดำ:มีสามภรรยาคู่หนึ่ง ชอบทะเลาะกัน วันหนึ่งภรรยาให้สามีไปซื้อผงซักฟอกให้ แต่สามี ซื้อน้ำยาล้างจานมา
ภรรยาเลยถามว่า ทำไมเอ็งซื้อน้ำยาล้างจานมาวะ
สามีตอบว่า มีหน้าที่ซัก ซักไป
ต่อมา ภรรยาคิดแก้แค้น ในคืนวันที่สองเลยให้กินข้าวเปล่า ไม่มีกับ
สามีถามว่า กับข้าวล่ะ ภรรยาตอบ อย่าเรื่องมาก มีหน้าที่กิน กินไป

พอต่อมาวันที่สี่......

นายแดง:เฮ้ยวันที่ 3 ล่ะวะ ไปไหน

นายดำ:มีหน้าที่ฟังๆไป 

===============


เหตุผลที่ไม่อยากไปบ้านคนรวย

เพื่อน : นายจะดื่มอะไร น้ำผลไม้ โซดา ชา โกโก้ ช็อคโกแลตหรือกาแฟ?
ผม : ขอชาแล้วกัน
เพื่อน : เอาซีลอน หรือชาสมุนไพร หรือเอาบุช
ผสมน้ำผึ้งดีมั้ยหรือเอาชาเย็น หรือชาเขียว
ผม : เอาซีลอน
เพื่อน : เอาแบบไหนเหรอ ใส่นมหรือไม่ใส่
ผม : ใส่นมด้วยแล้วกัน
เพื่อน : เอานมแพะ นมอูฐ หรือนมวัว
ผม : นมวัวดีกว่า
เพื่อน : เอานมจากวัวฟรีซแลนด์หรือวัวแอฟริกาเน่?
ผม : เอ่อ... ไม่ต้องใส่นมก็ได้
เพื่อน : อยากได้หวานแบบไหนล่ะ ใส่น้ำตาลหรือว่าน้ำผึ้ง?
ผม : น้ำตาลดีกว่า
เพื่อน : น้ำตาลบีทหรือน้ำตาลอ้อย?
ผม : น้ำตาลอ้อย
เพื่อน : เอาแบบขาว หรือแดง หรือว่าเหลือง?
ผม : ... นายลืมเรื่องชานี่ซะเถอะ ขอน้ำสักแก้วก็พอว่ะ
เพื่อน : จะเอาน้ำแร่หรือน้ำกลั่น?
ผม : น้ำแร่
เพื่อน : เอาแต่งรสด้วยมั้ย? หรือว่าไม่?
ผม : หิวน้ำจะตายอยู่แล้วคร้าบบ !!!!!!
เพื่อน : ?……
เพื่อน: แล้วจะใส่แก้วทรงไหนดีล่ะ แก้วใส ขุ่น / ทรงยุโรปทรงไทย หรือ ทรงแขกดี
ผม: เอ่อ...ที่มัน ใส่น้ำแล้วไม่รั่วก็ได้นะจะดีมากถ้ามีน้ำแข็งด้วย
เพื่อน: อ่า เอาน้ำแข็งแบบไหนดี ทุบละเอียดหรือก้อนกลม(ยูนิค)
ผม: กลมๆละกัน
เพื่อน: เอาแบบใหญ่ๆ หรือ เล็กๆดีล่ะ
ผม: เอาว่าใส่น้ำแล้วมันเย็นอ่ะ
เพื่อน: จานรองแก้วล่ะ เอาเป็นไม้ หรือ สแตนเลสดี
ผม: สแตนเลสเนอะ
เพื่อน: กลมๆ หรือ สี่เหลี่ยม
ผม: เดี๋ยว+++ไปแดกน้ำที่บ้าน เดี๋ยวมา !!....
เพื่อน : !!!!!!




จาก FW mail


วัสสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ falaora

  • I'm just a human being
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 78
  • Respect: +155
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #168 เมื่อ: มี.ค. 05, 2011, 11:15 PM »
0
ชอบเรื่องเหตุผลที่ไม่อยากไปบ้านคนรวยจังค่ะ  ขำดี......จริงๆแล้วพวกคนรวยๆเขาก็มักจะถามกันแบบนี้ล่ะค่ะ คงลืมไปว่าคนที่หิวน้ำ ยกอะไรมาก็ได้ ไม่ต้องถามดื่มได้ทั้งนั้น ยิ่งถ้านักเรียนนอกที่จบทางฝั่งยุโรปหรือฝรั่งที่เรียกว่าตัวเองว่า "ผู้ดีอังกฤษ"  พิธีเขามากจริงๆ บางครั้งfalaora เองก็ทำตัวไม่ค่อยถูกเหมือนกัน   mycry แอบเกร็งบ่อยๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 05, 2011, 11:19 PM โดย falaora »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #169 เมื่อ: ส.ค. 06, 2011, 03:39 PM »
0
ชอบเรื่องเหตุผลที่ไม่อยากไปบ้านคนรวยจังค่ะ  ขำดี......จริงๆแล้วพวกคนรวยๆเขาก็มักจะถามกันแบบนี้ล่ะค่ะ คงลืมไปว่าคนที่หิวน้ำ ยกอะไรมาก็ได้ ไม่ต้องถามดื่มได้ทั้งนั้น ยิ่งถ้านักเรียนนอกที่จบทางฝั่งยุโรปหรือฝรั่งที่เรียกว่าตัวเองว่า "ผู้ดีอังกฤษ"  พิธีเขามากจริงๆ บางครั้งfalaora เองก็ทำตัวไม่ค่อยถูกเหมือนกัน   mycry แอบเกร็งบ่อยๆ

 :salam:

คิดถึงกระทู้นี้ขึ้นมา ก็เลยแวะเข้ามาส่องดู

ไม่รู้ว่าท่าน  falaora จะเข้ามาส่องอีกรึเปล่า  hehe

จริงๆแล้วก็ยังมีเด็กจบจากนอกที่กลับบ้านมานั่งเปิบข้าว และก็จับจอบ
ถางสวน เก็บยางพารา และกำลังหัดกรีดยางให้เป็น อยู่เหมือนกันนะคะ  hehe loveit:

ชีวิตมันขึ้นอยู่กับว่า เราจะทำให้มันยากหรือง่าย
ถ้าเราพยายามให้ยาก ที่ยากอยู่แล้วก็ยิ่งยากขึ้น
ถ้าเราพยายามทำให้ง่าย ที่ยากอยู่แล้วก็จะยากน้อยลง

อยู่อย่างง่ายๆ อะไรๆก็ไม่ยากเกินไปค่ะ อินชาอัลลอฮฺ

 loveit:

ถ้าเราพอใจ อะไรๆก็จะพอดีไปเองค่ะ  wink:


วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #170 เมื่อ: พ.ย. 12, 2012, 10:31 PM »
+1
อัสสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุค่ะพ่ีน้องทุกคน

วันนี้ข้าน้อยมีนิทานนานาชาติมาฝากกันอีกแล้วนะคะ...
หลังจากที่ห่างหายไปนาน...มีโอกาสได้เล่านิทานให้หลานๆฟัง
เลยขอนำมาฝากพี่ๆน้องในนี้บ้างน่ะค่ะ...

บางทีการจะสอนเด็กๆมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะให้เด็กฟังที่เราสอนอย่างต้ังใจ
วิธีเดียวที่สามารถใช้สอนเขาได้โดยไม่ต้องบังคับให้นั่งฟัง
ก็คือ การเล่านิทานนี่แหล่ะค่ะ...

เด็กไหนๆก็ชอบฟังนิทานกันทั้งนั้นค่ะ หลานๆของข้าน้อยจะวิ่งเข้ามาหาข้าน้อย
ในห้องแทบทุกคืนเพื่อขอให้เล่านิทานให้ฟัง แม้จะเล่าเรื่องเดิมๆซ้ำๆซาก
ก็ยังฟังได้ไม่เบื่อสักที...



งั้นมาต่อเรื่องนิทานกันค่ะ...

เรื่อง

"หมอนวิเศษ"

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในประเทศจีนมีชายชาวนาคนหนึ่ง

ชื่อ "อาเฉิน" กำลังนั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม
ก็ได้มีพ่อค้าเร่คนหนึ่งเข้ามาทักทายเขาว่า

"พ่อหนุ่ม ทำมาหากินเป็นอย่างไรบ้าง"


"ไม่ไหวเลยครับ ชีวิตของข้าอับจนสิ้นดี" อาเฉินตอบอย่างเศร้าสร้อย



"เจ้าไม่พอใจในวิถีชีวิตของตนเองดอกหรือ?" พ่อเฒ่าสอบถาม



"จะให้ข้าพอใจได้อย่างไรในเมื่อข้าต้องทำงานหนักทั้งวัน

ถ้าข้าได้เป็นเศรษฐี ข้าจึงจะพอใจ" อาเฉินกล่าว พ่อเฒ่านิ่งงันไม่พูดอะไร

ก่อนจากกันพ่อเฒ่าได้ยื่นห่อผ้าในมือให้อาเฉิน และพูดขึ้นว่า

"พ่อหนุ่ม ข้าต้องเดินทางไปหมู่บ้านข้างเคียง พรุ่งนี้เช้าจึงจะกลับ

เจ้าจะเก็บรักษาหมอนใบนี้ไว้ให้ข้าได้หรือไม่? หมอนใบนี้หนุนนอนสบายดี

เจ้าจะใช้หมอนใบนี้หนุนหัวในคืนนี้ก็ได้"

อาเฉินรับคำจะเก็บรักษาหมอนไว้ให้ ทั้งสองจึงแยกทางกัน



ในคืนนั้น อาเฉินใช้หมอนของพ่อเฒ่าหนุนนอน



เมื่ออาเฉินตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีแท่งเงิน แท่งทองเต็มไปหมด


"รวยแล้ว ในที่สุดเราก็รวยสมใจนึก" อาเฉินตะโกนสุดเสียงด้วยความดีใจ


"ข้าจะสร้างคฤหาสน์หลังงาม ข้าจะซื้อทุกอย่างที่ข้าต้องการ"




อีกไม่นานคฤหาสน์ของเขาก็สร้างเสร็จ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา


อาเฉินเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว เขาไม่ปราถนาจะลดตัวลงไปเสวนากับคนจน


ดังนั้นเขาจึงปิดคฤหาสน์อาศัยอยู่ในนั้นตามลำพัง






อยู่มาไม่นานอาเฉินก็เบื่อหน่าย

"ขาดอะไรไปสักอย่าง? อ้อรู้แล้ว สวนของข้าว่างเปล่านั่นเอง"

เขาจึงสั่งให้คนงานหาดอกไม้หลากสีสันงดงามที่สุดเท่าที่จะหาได้
และไม้ใหญ่มาปลูกไว้ในสวน และขุดสระเลี้ยงปลา




แต่แล้ว อาเฉินยังรู้สึกเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว


"จะต้องขาดอะไรไปสักอย่าง อ้อรู้แล้ว บ้านหลังนี้เงียบเกินไป"


อาเฉินจึงว่าจ้างนักดนตรี นักรำมาขับกล่อมให้ความบันเทิง





แต่แล้วต่อมาไม่นาน อาเฉินก็รู้สึกเบื่อกับการร้องรำ
เขาจึงไล่นักดนตรี นักรำออกจากบ้านไป อาเฉินรู้สึกเหงาหงอยอ้างว้าง


"อ้า...สิ่งที่ข้าต้องการคือ ภรรยาสักคน...ใช่แล้ว"



อาเฉินส่งคนรับใช้ไปป่าวประกาศกลางหมู่บ้านว่า
หญิงใดที่ยังเป็นโสดขอให้มาชุมนุมที่หน้าคฤหาสน์ของเขาในเช้าวันรุ่งขึ้น
เพื่อให้เขาเลือกเป็นภรรยา


แต่ ไม่มีหญิงใดโผล่หน้ามาให้เห็นในเช้าวันถัดมา อาเฉินรู้สึกแค้นเคืองฉุนเฉียว


"เฮอะ ชาวนาโง่เง่า ข้าไม่เห็นจะต้องการเลย อยู่คนเดียวก็ได้"






อยู่มาวันหนึ่ง อาเฉินตัดสินใจลงจากเขา อาเฉินนั่งเกี้ยวงดงาม

มีคนรับใช้สี่คนหาม มาดโอ่อ่าภูมิฐานยิ่งนัก

แต่อาเฉินก็ต้องประหลาดใจเมื่อผู้คนในหมู่บ้านไม่มีใครให้ความสนใจเขาเลย

เมื่อเขาผ่านโรงเตี๊ยมเก่าเขาได้ยินเสียงผู้คนทักทายกัน
สลับกับเสียงหัวเราะเป็นระยะ เขามองเห็นเพื่อนเก่าซดข้าวต้มร่วมกัน
แม้คนเหล่านั้นจะยากไร้ แต่ก็มีความสุขยิ่ง




อาเฉินหวนกลับมายังคฤหาสน์อ้างว้าง นั่งครุ่นคิดอยู่เป็นนาน


เขากลายเป็นมหาเศรษฐีแล้ว แต่ก็ไม่มีความสุข ชีวิตแสนสบายแต่อ้างว้าง


อาเฉินอยากจะกลับไปเป็นชาวนาสามัญเช่นเดิม แล้วเขาก็เผลอหลับไป






เมื่ออาเฉินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องเก่าซอมซ่อ



ทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิม อาเฉินเพิ่งรู้ว่าตัวเองฝันไป

เขาวิ่งออกจากกระท่อม หัวเราะร่าด้วยความยินดี

อาเฉินร้องทักทายชาวนาที่เดินผ่านบ้าน เหมือนกับเพื่อนรักที่หายหน้าไปนาน
และพอถึงตอนสายของวันชายชราเจ้าของหมอนก็ได้มาหาอาเฉิน

"เป็นอย่างไรพ่อหนุ่ม เมื่อคืนหลับฝันดีหรือไม่"



อาเฉินวิ่งกลับเข้าบ้าน หยิบเอาหมอนห่อผ้าให้เรียบร้อย
ยื่นคืนให้เจ้าของ


"ขอบพระคุณท่านผู้เฒ่าเป็นอย่างมาก ที่ให้ยืมหมอนวิเศษใบนี้

ข้าเพิ่งได้บทเรียนล้ำค่าของชีวิต...

ไม่มีสุขใดใหญ่หลวงเกินไปกว่าความพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่อีกแล้ว"




อาเฉินหยิบจอบขึ้นพาดบ่า เดินผิวปากออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังท้องนา
พ่อเฒ่าอมยิ้ม และออกเดินทางต่อไป









...มันเลยทำให้ข้าน้อยนึกถึงสำนวนอาหรับที่เคยให้แชมัดช่วยแปลให้ขึ้นมา...

ที่ว่า

 السعيدُ مَن يَكْفِي


...ผู้ที่มีความสุข...คือ...ผู้ที่พอเพียง...



ปล.เอาไว้ว่างๆจะเอานิทานมาฝากอีกค่ะ...

วัสสลามค่ะ...




"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #171 เมื่อ: พ.ย. 12, 2012, 10:39 PM »
+1
ปล.อีกที...เรื่องที่มาของนิทานนั้น...ข้าน้อยลืมไปแล้วว่าเอามาจากไหน...
แต่จำได้แน่ๆว่าเอามาจากเว็บไซต์ในอินเตอร์เนตนี่แหล่ะค่ะ...

ถ้าใครมีนิทานดีๆ น่ารักๆ ให้ข้อคิด อย่าลืมแวะมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

วัสสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #172 เมื่อ: ส.ค. 24, 2013, 11:35 PM »
0
นิทานเรื่องต่อไปนี้อาจจะไม่ใช่นิทานน่ารักๆ
แต่เป็นนิทานที่แฝงข้อเตือนใจเราตระหนักถึงบางอย่างได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียวค่ะ


เรื่อง

"ช่างทำรองเท้ากับลาดื้อ"

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีช่างทำรองเท้าคนหนึ่งอยู่ที่เมืองบาร์เซโลนาในสเปน
แม้ว่าเขาจะตั้งใจทำงาน แต่รองเท้าของเขาก็ไม่ค่อยมีคนมาซื้อ
ลูกค้าต่างก็ติว่าแบบไม่สวยบ้าง หนังไม่ดีบ้าง หรือไม่เช่นนั้นก็หาว่าฝีีมิือไม่ปราณีต

ในที่สุดเขาก็เลยตัดสินใจเดินทางไปหากินที่เมืองอื่น
โดยขนรองเท้าและข้าวของอื่นๆบรรทุกหลังลาตัวหนึ่งไป

เขาตั้งใจจะเดินไปยังมาดริด แต่เมื่อถึงทางแยก
เจ้าลาดื้อก็ไม่ยอมไปตามทางที่เขาต้องการ

ในที่สุด ช่างทำรองเท้าก็ต้องยอมให้เจ้าลาเดินไปบนหนทางที่มันอยากไป
ลาดื้อพาช่างรองเท้าข้ามภูเขาลูกแล้วลูกเล่า
ระหว่างทางช่างรองเท้าก็ต้องโยนรองเท้าที่กะว่าจะเอาไปขายที่เมืองมาดริด
ทิ้งไปเรื่อยๆเพื่อให้น้ำหนักเบาลง และลาจะได้มีแรงเดินทางต่อไป

จนในที่สุดก็เหลือรองเท้าอยู่เพียงคู่เดียว

เจ้าลาดื้อพาช่างรองเท้าไปสุดทางที่ลำธารเชี่ยวกราก
เขาพยายามที่จะให้ลาย้อนกลับไปทางเก่า
แต่มันไม่ยอมหันหลังกลับ แต่ลงลุยน้ำไป

เมื่อถึงกลางลำธาร กระแสน้ำก็พัดลาล้มลง
ช่างทำรองเท้าต้องทิ้งรองเท้าคู่สุดท้ายและเครื่องมือเพื่อช่วยลา
แต่ก็ไม่สำเร็จ

เจ้าลาจมน้ำตาย ส่วนช่างรองเท้าต้องเดินทางกลับบาร์เซโลนา
พร้อมกับคิดว่า...

หากเขาไม่ออกเดินทางมา ป่านนี้ก็คงพอจะขายรองเท้าได้บ้าง
ทั้งไม่ต้องเสียลาและเครื่องมือทำรองเท้าไป...


เชื่อว่า...นิทานเรื่องนี้คงให้แง่คิดดีๆแก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย
เนื่องจาก บางครั้ง เราก็ตกเป็นเหยี่อของอนาคตที่ไม่เคยมีใครรู้ล่วงหน้า

เมื่อเราเดินทางบนหนทางชีวิตมาได้สักระยะนึง
สิ่งหนึ่งที่เราจะมองหาก็คือ เราได้ทำอะไรหล่นหายไปบ้างในกาลเวลา
ที่เราข้ามผ่านมา และวันนี้ เราเหลืออะไรบ้าง...

คนบางคน มีกระเป๋าสะพายที่ไม่่มีใครมองเห็น
มีแค่เรากับอัลลอฮฺเท่านั้นที่รู้ว่า ในกระเป๋าสะพายดังกล่าวนัั้น...
มีอะไรบ้าง...

มันอาจจะเป็นสเบียงสำหรับโลกนี้ หรือโลกหน้า

สำหรับบางคน กระเป๋่าดังกล่าวอาจมีอะไรมากมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

หรือสำหรับบางคนมันอาจจะเป็นเพียงแค่กระเป๋าสะพายธรรมดาๆ
ที่เมื่อก่อนเคยมีอะไรมากมายอยู่ในนั้น
แต่เมื่อกาลเวลาผันผ่าน เรากลับพบว่า มันแทบไม่มีอะไรหลงเหลือ
จนไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อมมือเข้าไปในนั้นเพื่อจะพบกับความว่างเปล่า...


วัสลามค่ะ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 24, 2013, 11:37 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #173 เมื่อ: ส.ค. 25, 2013, 06:39 PM »
0
เคยมีคนนึง กล่าวว่า...

หากเรารู้อนาคตแล้วว่าเป็นอย่างไร...
วันนี้จะมีความหมายอีกหรือ...

แต่ข้าน้อยไม่คิดเช่นนั้น....

เพราะหากเรารู้ว่าพรุ่งนี้เราจะตาย
วันนี้ย่อมมีความหมายสำหรับเราอย่างหาที่สุดไม่ได้...

เหมือนกับการที่อัลลอฮฺส่งรอซู้ลมาบอกข่าวดีแก่เราว่า
โลกหน้านั้นดีกว่าโลกนี้มากนัก และโลกนี้จะต้องดับสูญในสักวัน
การได้รู้อนาคตเช่นนี้ ย่อมทำให้ทุกลมหายใจเข้าออกของเรา
มีความหมายอย่างมิต้องสงสัย...และทำให้เรารู้ว่า
เราควรจะอยู่อย่างไร...

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #174 เมื่อ: พ.ย. 21, 2013, 11:38 PM »
0
คืนนี้ นำนิทานเรื่องนึงมาฝาก เพราะรู้สึกว่า...
ความเจ็บปวดที่พาลพบมันก่อเกิดสิ่งล้ำค่าในจิตใจ...

นึกถึงเรื่องราวของ "น้ำตาหอยมุก"

ที่น้อยคนจะรู้ว่า...แท้จริงแล้ว

"ไข่มุกที่แสนสวยงาม"

เกิดจาก...

"น้ำตาแห่งความเจ็บปวดของหอยมุก"

หลายคนจึงอาจยังไม่รู้ว่า..

"ไข่มุก"

คือ

"น้ำตาหอยมุก"


มาดูนิทานเรื่อง น้ำตาของหอยมุกกันค่ะ

เพราะครั้งหนึ่งเคยนำนิทานเรื่องนี้ไปโพสต์ไว้ในอีกกระทู้นึง
วันนี้นำกลับมาไว้ ณ หัวข้อนี้...





 salam

เข้ามาขุดพร้อมกับรดน้ำ พรวนดิน และใส่ปุ๋ยด้วยค่ะ  ;D
เพราะว่าวันนี้มีเรื่องราวของหอยมุกมาฝากด้วยเช่นกันค่ะ เข้ากันกับชื่อกระทู้ดีค่ะ
มันคือนิทาน ว่าจะเอาไปไว้ที่กระทู้นิทาน ก็นึกขึ้นได้ว่า กระทู้เกี่ยวกับเรื่องเล่าจากหอยมุกมีแล้ว

งั้นมาอ่านกันเลยบดีกว่าค่ะ


คุณเคยพบกับความยากลำบากในชีวิตไหมครับ
ลำบากจนรู้สึกว่าทำไมเราต้องเจอแบบนี้ด้วย  ทำไมดูชีวิตของบางคนถึงดูสบายจัง
แล้วชีวิตที่ดีจริงๆนั้นควรเป็นอย่างไร
ความลำบากของเราจะนำมาซึ่งสิ่งที่ดีกว่าจริงหรือไม่
บางคนอาจจะท้อแท้ไปเลย แต่อย่าพึ่งท้อนะครับ
นิทานเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้คงจะทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกดีกับความยากลำบากของตัวเองขึ้นมาบ้าง



กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...

มีหอยมุกอยู่ 2 ตัวกำลังพูดคุยกันอยู่ ณ ท้องทะเลอันกว้างใหญ่

หอยมุกตัวหนึ่งกล่าวแก่หอยมุกที่อยู่ข้างๆว่า

"ฉันรู้สึกเจ็บปวดข้างในตัวฉันเหลือเกิน มันหนักๆกลมๆทำให้ฉันไม่สบายเลย"

และหอยมุกอีกตัวหนึ่งก็ตอบอย่างอิ่มใจและเย่อหยิ่งว่า

"ขอการสรรเสริญจงมีแด่ฟากฟ้าและท้องทะเล ฉันสิไม่มีความปวดร้าวอันใดภายในตัวฉันเลย

ฉันสบายดีทั้งภายนอกและภายใน"

ในขณะนั้นปูตัวหนึ่งกำลังเดินผ่านหอยมุกทั้งสองไปและได้ยินคำพูดของหอยมุกทั้ง 2 นั้น
มันจึงพูดกับหอยมุกตัวที่สบายดีทั้งภายนอกและภายในว่า

"ถูกละ เธอสบายดีอย่างสมบูรณ์แต่ความเจ็บปวดที่เพื่อนของเธอมีอยู่นี้ก็คือ ไข่มุกอันแสนจะงดงาม"



จาก เรื่อง"ไข่มุก" ในหนังสือ "ผู้เบิกทาง" ของ คาลิล  ยิบราน

ใช่ครับ ผมเชื่อว่าความเจ็บปวดที่ทุกๆคนมีอยู่มันคือ "ไข่มุกอันแสนสวยงาม" นั่นเอง

ขอให้ทุกๆคนอย่าท้อแท้นะครับ ซักวันเราจะได้เห็นไข่มุกเม็ดนั้นอย่างแน่นอนครับ

ขอให้ทุกๆคน จงมีความสุขกับชีวิตนะครับ

เปลี่ยนมุมมอง โลกเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน



ที่มา


http://www.oknation.net/blog/print.php?id=143843


ใช่ค่ะ...เพราะว่าไข่มุกสวยงามที่เราเห็นหรือดูมีคุณค่ามากมายนั้น มันเกิดจากน้ำตาของหอยมุกที่หลั่งออกมา
เคลือบเศษหิน เศษทรายที่ไร้ค่าและดูน่ารำคาญที่เข้าไปทำให้ตัวของมันระคายเคือง
นานเข้าๆจนกลายเป็นอัญมณีที่ล้ำค่า...เรามนุษย์เอง หากเปลี่ยนน้ำตาเป็นสิ่งมีค่าได้อย่างหอยมุก
น้ำตาทุกหยดที่เราหลั่งออกมา อาจเป็นความสวยงามของหรือเป็นสีสันของชีวิตดั่งเช่น ไข่มุกอันงดงาม

ใครที่ท้อแท้และสิ้นหวังหรือเจ็บปวดกับสิ่งที่อัลลอฮฺตาอาลาให้พบเจอหรือทดสอบ
หากอยากร้องไห้ก็ร้องเถอะนะคะ แต่ขอให้เชื่อว่า น้ำตาทุกหยดที่เราเสียไปนั้น
มันจะเป็นไข่มุกที่สวยงามในวันหน้า ความเจ็บปวดและยากลำบากในวันนี้จะไม่ไร้ค่า น้ำตาจะไม่เสียไปเปล่าๆ

ความเจ็บปวด บางครั้งก็นำมาซึ่งสิ่งสวยงามในชีวิต
หากชีวิตไม่เคยพบพาลกับความเจ็บปวด เราจะเห็นความสวยงามและคุณค่าของการมีชีวิตได้อย่างไร


 loveit:


วัสสลามค่ะ





"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #175 เมื่อ: พ.ย. 22, 2013, 09:48 AM »
0
เช้าวันนี้ มาต้อนรับวันใหม่กับนิทานปลาดาวกันค่ะ...





ณ ชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งทะเลแถบนั้นเป็นที่อาศัยของปลาดาวจำนวนมาก

ทุกๆ เช้า น้ำทะเลจะซัดสาดเจ้าปลาดาวน้อยใหญ่ขึ้นมาเกยตื้นบนพื้นหาด..

เมื่อเข้าสู่เวลาสาย แสงตะวันอันร้อนแรงก็จะเริ่มแผดเผาเจ้าปลาดาวจนมันค่อยๆ แห้งตายไปทีละตัว สองตัว...

แต่ถึงกระนั้น ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เขาจะออกมาที่ชายหาดในทุกๆ เช้า เพื่อจะโยนปลาดาวที่เกยตื้นลงสู่ทะเล

แม้ว่าจำนวนปลาดาวบนชายหาดจะมากมายเพียงใดก็ตาม แต่เขาก็ยังคงทำสิ่งนี้อยู่ทุกๆ วัน
จนถึงเช้าวันหนึ่ง ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังโยนปลาดาวลงทะเลเหมือนกับทุกๆ วัน
ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหา แล้วก็พูดว่า   

“เจ้าหนุ่มเอ๋ย...มันจะมีประโยชน์อะไรที่เธอจะทำแบบนี้ทุกวัน 
ในเมื่อวันต่อไป ปลาดาวก็ต้องถูกน้ำซัดขึ้นฝั่งอีกอยู่ดี  และชายหาดนี่ก็ยาวหลายกิโล
ปลาดาวที่อยู่บนฝั่งก็มากเกินกว่าที่เธอจะช่วยมันได้ทั้งหมด 

ถึงเธอจะช่วยมันได้บ้าง แต่ถ้าเทียบกับปลาดาวอีกจำนวนมากที่พัดมาเกยหาดทุกวัน 
มันก็ไม่เกิดความแตกต่างอะไรขึ้นมาหรอก”



ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ พร้อมทั้งหยิบปลาดาวตัวหนึ่งแล้วโยนอย่างสุดแรงลงไปสู่พื้นน้ำทะเล พร้อมทั้งกล่าวว่า ...



“มันต่างกันที่ตรงนี้แหละครับ”



ที่มา :http://www.oknation.net/blog/talkwithMetha/2007/04/10/entry-2


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 22, 2013, 09:50 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Auwalan

  • alif auwalan
  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 27
  • เพศ: หญิง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #176 เมื่อ: พ.ย. 22, 2013, 09:53 AM »
0
อ้างถึง
ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ พร้อมทั้งหยิบปลาดาวตัวหนึ่งแล้วโยนอย่างสุดแรงลงไปสู่พื้นน้ำทะเล พร้อมทั้งกล่าวว่า ...



“มันต่างกันที่ตรงนี้แหละครับ”

นู๋ยังไม่เกท
اتق الله حيثما كنت

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #177 เมื่อ: พ.ย. 22, 2013, 09:58 AM »
0
มันต่างกันตรงที่...เราได้ทำมันแล้ว...แล้วก็ยังกำลังทำมันอยู่...ไงล่ะจ๊ะ...

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged