عَنْ عَطَاءٍ، قَالَ: دَخَلْتُ أَنَا وَعُبَيْدُ بْنُ عُمَيْرٍ، عَلَى عَائِشَةَ، فَقَالَتْ لِعُبَيْدِ بْنِ عُمَيْرٍ: قَدْ آنَ لَكَ أَنْ تَزُورَنَا؟، فقَالَ: أَقُولُ يَا أُمَّهْ كَمَا قَالَ الْأَوَّلُ: زُرْ غِبًّا تَزْدَدْ حُبًّا، قَالَ: فَقَالَتْ: دَعُونَا مِنْ رَطَانَتِكُمْ هَذِهِ، قَالَ ابْنُ عُمَيْرٍ: أَخْبِرِينَا بِأَعْجَبِ شَيْءٍ رَأَيْتِهِ مِنْ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، قَالَ: فَسَكَتَتْ ثُمَّ قَالَتْ: لَمَّا كَانَ لَيْلَةٌ مِنَ اللَّيَالِي، قَالَ: «يَا عَائِشَةُ ذَرِينِي أَتَعَبَّدُ اللَّيْلَةَ لِرَبِّي» قُلْتُ: وَاللَّهِ إِنِّي لَأُحِبُّ قُرْبَكَ، وَأُحِبُّ مَا سَرَّكَ، قَالَتْ: فَقَامَ فَتَطَهَّرَ، ثُمَّ قَامَ يُصَلِّي، قَالَتْ: فَلَمْ يَزَلْ يَبْكِي حَتَّى بَلَّ حِجْرَهُ، قَالَتْ: ثُمَّ بَكَى فَلَمْ يَزَلْ يَبْكِي حَتَّى بَلَّ لِحْيَتَهُ، قَالَتْ: ثُمَّ بَكَى فَلَمْ يَزَلْ يَبْكِي حَتَّى بَلَّ الْأَرْضَ، فَجَاءَ بِلَالٌ يُؤْذِنُهُ بِالصَّلَاةِ، فَلَمَّا رَآهُ يَبْكِي، قَالَ: يَا رَسُولَ اللَّهِ، لِمَ تَبْكِي وَقَدْ غَفَرَ اللَّهُ لَكَ مَا تَقَدَّمَ وَمَا تَأَخَّرَ؟، قَالَ: «أَفَلَا أَكُونُ عَبْدًا شَكُورًا، لَقَدْ نَزَلَتْ عَلَيَّ اللَّيْلَةَ آيَةٌ، وَيْلٌ لِمَنْ قَرَأَهَا وَلَمْ يَتَفَكَّرْ فِيهَا ﴿إِنَّ فِي خَلْقِ السَّمَوَاتِ وَالْأَرْضِ ... ﴾ الْآيَةَ كُلَّهَا».
[رواه ابن حبان في صحيحه (620)، والمنذري، وحسنه الألباني في صحيح الترغيب 1468 ، السلسلة الصحيحة 68]
จากอะฎออฺ กล่าวว่า ฉันและอุบัยดฺ บิน อุมัยรฺ ได้เข้าไปพบท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา นางได้กล่าว(ประหนึ่งประชด)แก่อุบัยดฺว่า นี่ถึงเวลาที่เจ้ามาเยี่ยมเราแล้วใช่ไหม? อุบัยดฺก็ตอบนางว่า โอ้ท่านผู้เป็นมารดา ฉันขอกล่าวเหมือนที่คนก่อนๆ เขาพูดกันว่า เยี่ยมวันสลับวันจะได้มีความรักความผูกพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น นางกล่าวต่อไปว่า อย่าได้เล่นสำบัดสำนวนของเจ้าเช่นนี้กับเราเลย จากนั้นอุบัยดฺ บิน อุมัยรฺ ก็ได้กล่าวถามว่า โปรดบอกแก่เราถึงสิ่งที่น่าประทับใจ ที่ท่านได้เห็นจากบางส่วนของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยเถิด ท่านหญิงอาอิชะฮฺเงียบไปครู่หนึ่ง(บางรายงานระบุ นางร้องไห้สะอึกสะอื้น) แล้วนางก็ได้เล่าว่า คืนหนึ่ง ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ลุกขึ้นมาแล้วท่านก็กล่าวว่า “โอ้ อาอิชะฮฺ ปล่อยฉันให้อิบาดะฮฺต่อผู้เป็นเจ้าของฉันเถิด” นางกล่าวว่า วัลลอฮฺ ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ ฉันรักที่จะอยู่ใกล้ท่านและรักสิ่งที่จะทำให้ท่านมีความสุข แล้วท่านได้ลุกขึ้นชำระล้างร่างกาย จากนั้นก็ยืนขึ้นละหมาด แล้วท่านก็ร้องไห้จนตักชุ่มไปด้วยน้ำตา แล้วท่านก็ร้องไห้จนเคราของท่านเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา แล้วท่านร้องไห้ต่อไปอีกจนพื้นเปียก จนกระทั่งบิลาลได้อะซานสู่การละหมาด(ศุบหฺ) เมื่อบิลาลเห็นท่านร้องไห้ ก็ถามว่า โอ้ เราะสูลของอัลลอฮฺ ท่านร้องไห้ ทั้งๆ ที่อัลลอฮฺได้ให้อภัยกับท่านแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความผิดที่มาก่อนหรือที่มาภายหลัง(หมายถึงความผิดทั้งหมด)กระนั้นหรือ? ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “จะไม่ให้ฉันเป็นบ่าวที่ขอบคุณดอกหรือ? ในคืนนี้ได้มีโองการอัลกุรอานที่ประทานลงมา ซึ่ง ความวิบัติจะมีแก่คนที่อ่านมันแต่ไม่ใคร่ครวญมัน นั่นคืออายะฮฺที่ว่า
﴿ إِنَّ فِي خَلۡقِ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضِ وَٱخۡتِلَٰفِ ٱلَّيۡلِ وَٱلنَّهَارِ لَأٓيَٰتٖ لِّأُوْلِي ٱلۡأَلۡبَٰبِ ١٩٠ ٱلَّذِينَ يَذۡكُرُونَ ٱللَّهَ قِيَٰمٗا وَقُعُودٗا وَعَلَىٰ جُنُوبِهِمۡ وَيَتَفَكَّرُونَ فِي خَلۡقِ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضِ رَبَّنَا مَا خَلَقۡتَ هَٰذَا بَٰطِلٗا سُبۡحَٰنَكَ فَقِنَا عَذَابَ ٱلنَّارِ ١٩١ ﴾ [آل عمران: ١٩٠- ١٩١]
ความว่า “แท้จริงในการสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และการที่กลางวันและกลางคืนตามหลังกันนั้น แน่นอนมีหลายสัญญาณสำหรับผู้มีปัญญา คือบรรดาผู้ที่รำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืน และนั่ง และในสภาพที่นอนตะแคง และพวกเขาพินิจพิจารณากันในการสร้างบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน (โดยกล่าวว่า) โอ้พระเจ้าของพวกข้าพระองค์ พระองค์มิได้ทรงสร้างสิ่งนี้มาโดยไร้สาระ มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน โปรดทรงคุ้มครองพวกข้าพระองค์ให้พ้นจากการลงโทษในนรกด้วยเถิด”
(อัลกุรอานจากสูเราะฮฺ อาล อิมรอน 190-191, หะดีษรายงานโดย อิบนุ หิบบาน 620 และอัล-มุนซีรีย์ ซึ่งอัล-อัลบานีย์ให้ทัศนะว่าเป็นหะดีษหะสัน ดู เศาะฮีหฺ อัต-ตัรฆีบ 1468, อัส-สิลสิละฮฺ อัศ-เศาะฮีหะฮฺ 68