ผู้เขียน หัวข้อ: การมุสามดเท็จ มีผลเสียอย่างไร  (อ่าน 892 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ الفاتنجي

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 4
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด

< การมุสามดเท็จ มีผลเสียอย่างไร >
[/color][/size]

الحمد لله والصلاة والسلام على رسول الله وعلى آله وصحبه أما بعد:
บรรดาการสรรเสริญทั้งหมดเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ขอความสันติ ความจำเริญ จงประสบแด่ท่านรอซูลุลลอฮฺ และแด่วงส์ศาคณาญาติของท่าน และแด่อัครสาวกของท่าน

อันที่จริงแล้ว อัลลอฮฺตาอาลา ได้ทรงตรัสถึงเรื่องการมุสามดเท็จใว้ในอัลกุรอานของพระองค์ประมาณสองร้อยกว่าอายัตด้วยกัน ทั้งหมดนั้น บางครั้งก็พูดถึงเรื่องของการตำหนิ
บางครั้งก็พูดถึงในเชิงของการให้ความกระจ่างเกี่ยวกับโทษของผู้ที่กระทำ(ผู้ที่มุสามดเท็จ)

การมุสามดเท็จนั้น คือ การบอกเล่าเรื่องราวอย่างหนึ่งซึ่งไม่ตรงความจริง ไม่ว่าผู้ที่มุสามดเท็จนั้น จะรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ตรงความจริงหรือเจตนาก็ตาม

และการมุสามดเท็จนั้น เป็นบาปใหญ่ซึ่งจะนำพาผู้กระทำไปสู่นรก เหมือนดั่งที่มีกล่าวไว้ในฮาดิษมุตตะฟักอาลัยฮิว่า

" إن الكذب يهدي إلى الفجور وإن الفجور يهدي إلى النار، وإن الرجل ليكذب حتى يكتب عند الله كذاباً ."
" แท้จริงแล้ว การมุสามดเท็จนั้น จะนำพาไปสู่การกระทำที่เลวทราม และการกระทำที่เลวทราม จะนำพาไปสู่นรก และแท้ที่จริง บุคลคลหนึ่งจะโกหกไปจนกระทั่งเขาถูกบันทึก ณ อัลลอฮฺว่า เป็นจอมโกหก" (บันทึกโดยบุคอรียฺและมุสลิม)

และการมุสามดเท็จยังนำพาไปสู่การถูกสาปแช่งและการไม่ได้รับความเมตตาจากอัลลอฮฺด้วยเช่นกัน พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า

( قتل الخراصون ) أي لعن الكذابون،
ความว่า "ผู้ที่กล่าวเท็จแก่ท่านนะบี จะถูกสาปแช่ง" (ซูเราะห์ซารียาต: อายัตที่10)

และยังทรงตรัสอีกว่า

(إن الله لا يهدي من هو مسرف كذاب)
ความว่า "แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ชี้นำทางแก่ผู้ที่เขาเป็นผู้ละเมิดนักโกหกตัวฉกาจ" (ซูเราะห์ฆอฟีร : อายัตที่28)

เฉกเช่นฮาดิษที่ได้รายงานใว้ในหนังสือ ซอแฮะฮฺมุลสิม ว่า

" آية المنافق ثلاث وإن صام وصلى وزعم أنه مسلم: إذا حدث كذب، وإذا وعد أخلف، وإذا اؤتمن خان ."
สัญลักษณ์ของคนมูนาฟิก(คนกลับกลอก) มีอยู่ 3 ประการคือ เมื่อเขาพูดก็มักจะโกหกพกลม เมื่อเขาให้สัญญาก็มักจะผิดสัญญา และเมื่อเขาได้รับความไว้วางใจเขาก็มักจะบิดพลิ้วไม่รับผิดชอบ" (บันทึกโดยบุคอรียฺและมุสลิม) ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ถือศีลอด ละหมาด และเขาคิดว่า แท้จริงเขานั้น คือ คนมุสลิมก็ตามที

แท้ที่จริงแล้ว การมุสามดเท็จนั้น เป็นสิ่งที่ฮาราม และการมุสานั้น แบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน

ปะเภทแรก การมุสามดเท็จกับอัลลอฮฺและรอซู้ลของพระองค์ การกระทำเช่นนี้ อัลลอฮฺเตรียมใว้แก่เขาซึ่งที่นั่งที่จองใว้แก่เขาโดยเฉพาะในนรกอย่างแน่นอน เฉกเช่นฮาดิษมุตาวาติรที่มีรายงานใว้ว่า

" من كذب علي متعمداً فليتبوأ مقعده من النار ."
"ปัจเจกบุคคลใดก็ตามที่มุสามดเท็จแก่ฉันโดยเจตนา ฉะนั้น จงเตรียมที่นั่งของเขาไว้ในนรกเถิด" (บุคอรียฺ : ฮาดิษเลขที่ 110)

ประเภทที่สอง การมุสาแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อที่จะหัวเราะหรือต้องการให้ผู้อื่นมองไปยังเขา หรืออื่นๆก็ตาม ตัวอย่างเช่น บุคคลหนึ่งได้พูดในสภาพที่เขาเป็นผู้โกหกว่า ฉันได้เห็นความฝันของฉันเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ เป็นต้น
ได้มีคำกล่าวของท่านนบี(ซ้อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม)ในเรื่องของการกระทำเช่นนี้ว่า

" من تحلم بحلم لم يره، كلف أن يعقد بين شعيرتين ولن يفعل ."
ความว่า: "ใครก็ตามที่อ้างว่าตัวได้ฝัน ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ฝัน เขาจะถูกบังคับให้นั่งระหว่างเมล็ดข้าวบาร์เล่ย์สองเมล็ด และเขาไม่สามารถที่จะทำได้โดยเด็ดขาด" (บุคอรียฺ : ฮาดิษเลขที่ 7024)

การพูดคุยสนทนาแบบมุสานั้น ไม่ได้ให้ประโยชน์อันใดเลย และการพูดคุยอย่างนั้น จะไม่การผ่อนปร่นแม้แต่นิดเดียวสำหรับผู้ที่มุสายกเว้นในสามกรณีเท่านั้น คือ การโกหกในภาวะสงครามเพื่อเป็นกลยุทธ์ในการหลอกล่อศรัตรู การโกหกเพื่อสร้างความปรองดองระหว่างคนสองคนที่ทะเลาะกัน การโกหกของสามีต่อภรรยาเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่นาง มิใช่เพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง และการโหกของภรรยาตาอสามีของนางก็เช่นกัน
และท่านอิมามมุสลิมได้รายงานเพิ่มเติมว่า
แท้จริงท่านหญิง อุมมุกุลษูมได้กล่าวว่า

"ولم أسمعه يرخص في شيء مما يقوله الناس إلا في ثلاث: تعني: الحرب والإصلاح بين الناس، وحديث الرجل امرأته وحديث المرأة زوجها."
"ฉันไม่เคยได้ยินท่านรอซู้ล(ซ้อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม)จะอนุโลมในสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากที่ผู้คนพูดจากัน นอกเสียจาก 3 สิ่ง หมายถึง สงคราม การประนีประนอมระหว่างผู้คน การพูดจาของสามีกับภรรนาของตน การพูดจาของภรรยากับสามีของตน" (มุสลิม : ฮาดษเลขที่ 2605) (ริยาฎุศศอลีฮีน 539-540)

نرجو الله تعالى أن يجعلنا وإياكم من عباده الصادقين، فإن الصدق يهدي إلى البر والبر يهدي إلى الجنة.
والله تعالى أعلم.
พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า อัลลอฮฺตาอาลา จะทำให้พวกเรา และพวกท่าน ได้เป็นส่วนหนึ่งของบรรดาบ่าวที่มีสัจจะ เพราะแท้ที่จริงแล้ว ความสัจจะนั้น จักนำพาสู่การกระทำดี และกสรกระทำดีนั้น จะนำพาสู่สรวงสรรค์
วัลลอฮุตาอาลา อะอฺลัม[/size]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 10, 2014, 08:24 AM โดย زكريا الأزهري »

 

GoogleTagged