ญะซากัลลอฮุคอยรอนเจ้าของกระทู้ค่ะที่นำสาระความรู้เรื่องความงาม
มาฝากกัน...
ซึ่งตรงสรรพคุณของน้ำมันกุหลาบนั้น ทำให้ลดอาการตึงเครียดของสมองและระบบประสาท
ลดอาการปวดศีรษะ แต่อยากเตือนว่า...น้ำหอมกลิ่นกุหลาบนั้นสูดเข้าไปคราวใด
ไมเกรนขึ้นสูงเต็มพิกัดเลยล่ะค่ะ...ซึ่งตรงกันข้ามกับตัวของน้ำมันกุหลาบเลย
ดังนั้น...อยากเสริมว่า...ใครที่แพ้กลิ่นน้ำหอม คือ ดมแล้วรู้สึกปวดหัว
วิงเวียนศีรษะ หรือรู้สึกคลื่นไส้นั้น อย่าเพิ่งสงสัยว่าตัวเองตั้งครรภ์นะคะ
เพราะอาจเป็นอาการร่วมของการเป็นไมเกรนได้...เฮะๆ
ปล.สำหรับคนที่อยากมีผิวสวยๆ ราคาของน้ำมันกุหลาบอาจจะค่อนข้างแพงไปนิ๊ดนึง...
หากใครงบน้อยจะหันมาใช้ขมิ้นชัน(ที่อยู่คู่ครัวเรา)ถูผิวแบบคนไทยสมัยโบราณดูได้ค่ะ
รับรองว่าผิวนุ่ม ลื่น สวยไม่แพ้กันเลยทีเดียวค่ะ...
ยิ่งคนที่เป็นสิว จะยิ่งช่วยได้มากเลย หรือถ้าใครรู้สึกว่าผิวที่ได้มามันค่อนข้างเข้ม
อยากขาวใสเพิ่มอีกนิด อย่าไปใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีผิวหรือฉาบผิวให้ดูขาวเลยค่ะ
เพียงแค่ให้เพิ่มดินสอพองผสมกับผงขมิ้นแล้วถูให้ทั่วตัวและใบหน้าก่อนจะล้างออกดูได้ค่ะ
หากใครกลัวแพ้ จะลองถูเฉพาะลำตัวดูก่อนก็ได้ค่ะ แล้วค่อยลองที่ใบหน้า
วิธีนี้อาจไม่เห็นผลทันตาทันใจ แต่ยิ่งทำยิ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบยั่งยืน
แต่อาจมีอาการแสบๆบ้างในช่วงแรกๆค่ะ...อันนี้ลองเองใช้เองมาแล้วค่ะ...
ซึ่งข้อเสียของขมิ้นชันก็คือ กลิ่นไม่หอมเท่าน้ำมันกุหลาบเท่านั้นเอง...เฮะๆ
ไม่อยากให้ผู้หญิงเราวิ่งตามกระแสของแฟชั่นเรื่องเครื่องสำอางค์ตัวนั้นตัวนี้
ที่นำเข้ามาจากเกาหลีบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง ฝรั่งเศสบ้าง จนลืมสิ่งดีๆที่อยู่ใกล้ตัวไปค่ะ
เพราะนอกจากเราจะไม่ต้องเสียค่่าใช้จ่ายมากเกินจำเป็นแล้ว
ประสิทธิภาพของสิ่งดีๆที่อยู่ใกล้ตัวเรายังดีไม่น้อยหน้าครีมนำเข้าเลยค่ะ...
มันอาจจะดูเชยๆ...แต่เชื่อเถิดค่ะว่า...ผิวสวยแท้แน่นอน...
เพียงแค่ต้องอาศัยความขยันในการขัดเท่านั้นเอง...
ซึ่งภูมิปัญญาของคนโบราณเขาทำเอาไว้อย่างดีแล้ว...
ขอแวะมาเสริมความรู้เรื่องผิวพรรณด้วยอีกคนนะคะ...
^^