การดะวะห์ในคุก

[del_dangerous]

ผมว่า กระทู้นี้ดีนะครับ

ทำไม  ไม่ค่อยมีคนมาร่วมแสดงความคิดเห็น

หรือเสนอแนะแนวทางที่จะช่วยคนเหล่านั้นเลย

[philosophy]

السلام عليكم
 ผมมีญาติอยู่คนหนึ่งเขาอยู่ในเรือนจำ...
ตอนที่เขาอยู่ในเรือนจำเขาเคยเป็นอิหม่ามนำละหมาดวันศุกร์...
ตอนนี้เขาออกมาแล้ว...ผมว่าน่าจะมีองค์กรของมุสลิมเราเข้าไปช่วยเหลือและให้การอบรมพวกเขา...
เพราะว่าขณะที่เขาอยู่ในนั้นโอกาสที่พวกเขาจะกลับตัวก็มีสูง...ดีไม่ดีเผลอๆได้มุสลิมใหม่ๆอีกเพียบเลยคร้าบ...
 والسلام

[นูรุ้ลอิสลาม]

ที่ได้ทราบข่าวมา  ก็มีผู้รู้และวิทยากรที่ทางการของเรือนจำจัดเข้าไปอบรมน่ะ

[nada-yoru]

 salam

คนที่อยู่ในคุกมิใช่ว่าจะเป็นคนไม่ดี น่ารังเกียจเสียทั้งหมด
เขาเป็นเพียงคนที่ทำผิดพลาดแล้วโดนจับได้...
หรือบางคร้ังก็โดนใส่ร้ายโดยไม่สามารถทำอะไรได้...
คนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่นอกคุกอันตรายกว่าคนร้ายที่เพิ่งออกจากคุกเสียอีกค่ะ...
(อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ)

ในชีวิตเห็นคนที่ออกมาจากคุกเป็นคนดีมีอีหม่านมากกว่าตอนก่อนเข้าคุกเสียอีกค่ะ...
บางครั้งเขาก็แค่ต้องการโอกาสจากคนในสังคม...

ในระหว่างที่เขาอยู่ในคุก เขาถูกลงทัณฑ์และถูกอบรมทั้งทางโลกและทางธรรม
โดยกักบริเวณไว้ไม่ให้ไปไหนได้...จนกลับตัวกลับใจได้
จึงจะถูกปล่อยตัวออกมา บางคนออกมาก่อนกำหนดเสียอีกค่ะ...

เลยคิดว่า ดะวะห์คนข้างนอกไม่ให้เข้าคุกนั้นสำคัญยิ่งยวดค่ะ...
เพราะคนทำผิดที่โดนจับได้มีน้อยกว่าคนที่ทำผิดแล้วยังลอยนวลอยู่ค่ะ...


ปล.ชอบกระทู้นี้เป็นพิเศษ เลยอยากขุดมันขึ้นมาอีกครั้งค่ะ... 

วัสลามุอะลัยกุม

[ILHAM]

ถ้าขุดเจอสมบัติก็แบ่งกันบ้างนะพี่




อุสตาสผมบอกว่า ในค่ายอิ๊งค์ฯ ทหารมันห้ามแบซูบฮในคุก มันบอกมันกลัว เสียงอะไรไม่รู้ดังป่านนั้น เวลาหลับเวลานอน

[nada-yoru]

^
^

จอบเริ่มแหว่งแล้วนิ...แต่โบว์สีชมพูยังอยู่...
(คงต้องแบกต่อปายยยยยย)


เมื่อก่อนที่หมู่บ้านพี่ มีโต๊ะครูท่่านนึงท่านจะอะซานตอนซุบฮฺ
ได้ยินทีไรขนลุกทุกทีเลยพี่...
เสียงท่านมันทำให้นึกถึงวันตาย จนนึกไปถึงวันกิยามัตยังไงๆไม่รู้นั้น...
เขาพูดว่าอย่างนั้นกันทั้งหมู่บ้าน...เป็นเสียงอะซานที่ปลุกชาวบ้านได้ดีจริงๆ...

เพื่อนพี่ที่ต่างศาสนิกบอกว่า...เสียงอะซานน่ากลัว...
พี่ก็ถามว่าน่ากลัวยังไง...เขาบอกว่่า...ชวนขนลุกแปลกๆ...

[บาชีร]

ตับลีฆส่งไปบ้างเหมือนกัน

[Bangmud]

 salam
ก่อนเราะมะฎอนปีนี้ มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมเยียนพี่น้องในเรือนจำครั้งหนึ่ง และหลังเราะมะฎอนอีกครั้งหนึ่ง
เรื่องมีอยู่ว่าอนุศาสก(ผู้คุมที่ทำหน้าที่เหมือนพระ)ได้ไปติดต่อที่มัสญิดในตอนบ่ายวันหนึ่งที่แชไปละหมาดพอดี
เขาได้แจ้งว่าราชการมีงบสำหรับเชิญผู้นำศาสนาไปอบรมพี่น้องมุสลิมในเรือนจำเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
ค่าตอบแทน 1,200 บาทไม่มีใครว่างเลย แชก็เลยอาสาไปดำเนินการให้นัดหมายกันหลังละหมาดวันศุกร์
พอถึงวันศุกร์ก่อนละหมาดก็ได้นำเรื่องปรึกษาอิมามและกรรมการมัสญิด หลายคนบอกจะไปด้วย
แต่พอละหมาดวันศุกร์เสร็จมีแต่แชกับทหารมุสลิมอีกคนหนึ่งเดินทางไปที่เรือนจำกลางจังหวัด
ก่อนจะเข้าไปก็มีการตรวจสแกนด้วยเครื่องตรวจโลหะ ให้เก็บกล้องถ่ายรูปและกระเป๋าสตางค์ตลอดจนโทรศัพท์มือถือไว้ในล็อคเกอร์
แต่แชได้ตกลงกับอนุศาสกไว้แล้วว่า ให้ช่วยถ่ายรูปให้ด้วยและขอนำอินทผลัม 20 กิโลกรัมเข้าไปเพื่อเตรียมไว้ให้พี่น้องเราละศีลอด
พี่น้องเราที่เรือนจำแห่งนั้นมีทั้งหมด 14 คน เป็นคนในจังหวัดและคนจากภาคอื่น รวมทั้งคนหนึ่งจากนราธิวาส
หลังจากทักทายสอบถามทุกข์สุขกันแล้ว ได้พูดคุยกัน โดยได้พูดเรื่องของการขอลุแก่โทษและการกลับเนื้อกลับตัว
โดยเฉพาะอัลกุรฺอานที่ว่า "อินนัลหะสะนาติยุซฮิบนัสสัยยิอาต"เปรียบเสมือนการนำน้ำดีไปเจือจางน้ำเสีย
ไม่ว่าจะเป็นความดีในดุนยาหรืออาคิเราะฮฺก็ช่วยเจือจางความชั่วได้
การที่เราทำความดีเพื่ออาคิเราะฮฺหลังจากที่เราได้ขอลุแก่โทษและกลับเนื้อกลับตัวอย่างจริงใจแล้ว
ก็เหมือนกับเราไม่มีความผิดเลย "อัตตาอิบุ มินัซซัมบิ กะมันลาซัมบะละฮฺ" การกลับเนื้อกลับตัวจากความผิดเสมือนกับคนที่ไม่มีผิดเลย
นอกจากความผิดต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น ที่ต้องไปขอหะลาลจากผู้ที่เราละเมิดก่อน
ส่วนความดีดุนยานั้น ก็ส่งผลลบล้างความไม่ดีในดุนยาได้เช่นกัน คือ  มีสิทธ์ที่จะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ
ระหว่างพูดพี่น้องเราในนั้นหลายคนน้ำตาซึม คงไม่ใช่เพราะแชพูด แต่น่าจะเป็นเพราะดีใจที่มีพี่น้องมุสลิมเข้ามาเยี่ยมเยียนมากกว่า
หลังพูดจบได้มีการขอดุอาอุ์ร่วมกัน มอบอินทผลัมและพูดคุยกันในเรื่องของการทำอิบาดะฮฺ โดยมีอนุศาสกร่วมพูดคุยด้วย
ได้ความว่า มีโอกาสได้ละหมาด แต่ขาดแคลนผ้าสะญะดะฮฺ ซึ่งคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ กรรมการมัสญิดคงจะจัดหาไปให้ได้
การละหมาดร่วมกันเป็นญะมาอะฮฺก็ทำได้(มีพี่น้องที่มาจากนราธิวาสเป็นอิมาม)
ในเรื่องการถือศีลอดนั้น ทางอนุศาสกรับปากว่าจะอำนวยความสะดวกให้ โดยให้ครัวทำอาหารสำรองไว้กินเวลาสะหูรฺ
แชได้รับเชิญเข้าคุกเป็นครั้งแรกในชีวิต ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ได้ค่าตอบแทนเท่ากับทำงาน 2 ชั่วโมง
ก็เลยนำเงินกลับมาสนับสนุนการจัดเลี้ยงละศีลอดที่มัสญิดที่ทำกันทุกวันอยู่แล้ว
ชีวิตในเรือนจำเป็นชีวิตที่ไม่น่าอภิรมย์ พี่น้องเราในนั้นไม่รู้ว่าทำผิดพลาดเรื่องอะไรไปบ้าง แต่เชื่อแน่ ๆ ว่า คงไม่มีใครออกมาแล้วอยากกลับเข้าไปอีก
ความจริงมีรูปที่อนุศาสกถ่ายไว้ให้ด้วยแต่ไม่กล้าส่งมา เพราะอาจเปิดเผยหน้าตาของพี่น้องเหล่านั้น
ถ้าเอารูปที่ไม่เห็นหน้าพวกเขา ก็จะเห็นหน้าเหลาเหย่ของแชแทน(เหลาแปลว่า แก่ ครับ)และที่สำคัญแชไม่รู้วิธีส่งรูปมาลงในบอร์ดครับ
ใครอยากดูช่วยบอกวิธีส่งรูปหลังไมค์ก็ได้
อินชาอัลลอฮฺ หลังละหมาดอิชาอุ์จะเล่าเรื่องที่เรือนจำอีกแห่งหนึ่งให้ฟัง
والسلام
แชมัด

[fathai4]

             ผมมีตัวอย่างของความสำเร็จของการพยามขัดเกลาในคุกหลายๆคน เมื่อเขาพ้นโทษแล้วเขาสละให้กับศาสนา มีอามั้ลศาสนาเหนือกว่าผม ถ้าพี่น้องท่านใดอยากเห็น

อยากรู้จัก อยากสัมผัสตัวจริงเสียงจริง มาพบปะพูดคุยกับพวกเขาได้ที่มัรกัสมีนบุรี หลายคนผ่าน 4 เดือน หลายครั้งแล้วครับ มาชาอัลลอฮฺ

[al-firdaus~*]

 salam

อีกตัวอย่างของพี่น้องบางคนที่ได้เข้าไปอยู่ในสถานที่แห่งนั้น
เขาเคยเป็นอามีร แต่ด้วยบททดสอบจากอัลลอฮ์ตะอาลา ทำให้ต้องเข้าไปอยู่ในนั้น (โทษไม่ร้ายแรงค่ะเข้าไปไม่นาน)
เขาทำงานดะวะฮ์ในคุก  มีการบายานเรื่องศาสนา  ทำทุกตัรเต็บเท่าที่สามารถ
ผลลัพธ์ที่ได้คือพี่น้องมุสลิมของเราหลายคนในคุก ได้รับฮิดายะฮ์ ปรับปรุงตัวเองในด้านศาสนากัน เรียกได้ว่ามากขึ้นอย่างน่าภูมิใจ
บางคนถึงกับบอกว่า... อัลฮัมดุลิลละฮ์ที่อัลลอฮ์ตะอาลาได้ส่งเขาเข้าไปดะวะฮ์ในคุก
เราซึ่งอยู่ข้างนอก ก็ควรให้กำลังใจพวกเขานะคะ

[nada-yoru]

salam

หลังจากทักทายสอบถามทุกข์สุขกันแล้ว ได้พูดคุยกัน
 โดยได้พูดเรื่องของการขอลุแก่โทษและการกลับเนื้อกลับตัว
โดยเฉพาะอัลกุรฺอานที่ว่า

"อินนัลหะสะนาติยุซฮิบนัสสัยยิอาต"
เปรียบเสมือนการนำน้ำดีไปเจือจางน้ำเสีย
ไม่ว่าจะเป็นความดีในดุนยาหรืออาคิเราะฮฺก็ช่วยเจือจางความชั่วได้
การที่เราทำความดีเพื่ออาคิเราะฮฺหลังจากที่เราได้ขอลุแก่โทษและกลับเนื้อกลับตัวอย่างจริงใจแล้ว
ก็เหมือนกับเราไม่มีความผิดเลย

"อัตตาอิบุ มินัซซัมบิ กะมันลาซัมบะละฮฺ"
การกลับเนื้อกลับตัวจากความผิดเสมือนกับคนที่ไม่มีผิดเลย
นอกจากความผิดต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น
ที่ต้องไปขอหะลาลจากผู้ที่เราละเมิดก่อน
ส่วนความดีดุนยานั้น ก็ส่งผลลบล้างความไม่ดีในดุนยาได้เช่นกัน
คือ  มีสิทธ์ที่จะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ

ระหว่างพูดพี่น้องเราในนั้นหลายคนน้ำตาซึม คงไม่ใช่เพราะแชพูด
แต่น่าจะเป็นเพราะดีใจที่มีพี่น้องมุสลิมเข้ามาเยี่ยมเยียนมากกว่า


แชได้รับเชิญเข้าคุกเป็นครั้งแรกในชีวิต
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ได้ค่าตอบแทนเท่ากับทำงาน 2 ชั่วโมง


ใครอยากดูช่วยบอกวิธีส่งรูปหลังไมค์ก็ได้
อินชาอัลลอฮฺ หลังละหมาดอิชาอุ์จะเล่าเรื่องที่เรือนจำอีกแห่งหนึ่งให้ฟัง
?
แชมัด

วะอะลัยกุมมุสลามค่ะ

ญะซากัลลอฮุคอยรอน


น้อยคนนักจะมีโอกาสได้รับเชิญเข้าคุกและได้เห็นสภาพคุก
ในฐานะอื่นที่ไม่ใช่นักโทษและผู้คุมขัง...

คนที่รู้จักบอกว่า ทันทีที่ประตูคุกปิดลง ผู้คุมขังบอกว่าห้ามหันหลังกลับไปมอง
เขาบอกว่าเขาเดินออกจากประตูนั้นมา
โดยไม่คิดหันหลังกลับไปมองมันอีกเลย...

รออ่านอยู่ค่ะแช...

นี่คือกระทู้สำหรับวิธีการโพสต์รูปค่ะ

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1863.15


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ


 

[ILHAM]

อ่านฟาตีฮัฮ120ครั้ง ยาเกน หลุดแน่ insya allah

[Bangmud]

 salam
มาเล่าต่อครับ
ก่อนออกบวช แชกลับบ้านที่กรุงเทพเพื่อไปถือบวชที่บ้านสัก ๒ วันได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า
ที่เรือนจำอีกแห่งหนึ่ง อนุศาสกทราบข่าวจากอนุศาสกเรือนจำกลางประจำจังหวัดต้องการให้เข้าไปช่วยพูดคุยกับพี่น้องมุสลิมบ้าง
ตอบไปว่า เหลืออีกวันเดียวก็จะสิ้นเดือนเราะมะฎอนแล้ว และแชก็ต้องอยู่ที่กรุงเทพฯเพื่อออกบวชกับพี่น้อง ขอเป็นหลังเดือนเราะมะฎอนจะเข้าไปเยี่ยม
ตกลงปีนี้ได้รับเชิญเข้าคุก ๒ ครั้ง เรือนจำกลางจังหวัดกับเรือนจำระดับอำเภอ
มีอาจารย์แพทย์มุสลิมท่านหนึ่งร่วมเดินทางไปด้วย
เรื่องที่พูดคุยกันก็คือนะศีหะฮฺเรื่องเดิมกับที่พูดครั้งก่อน แต่ครั้งนี้ได้ขอมะอัฟพี่น้องทุกคนที่ไม่รู้ข่าวว่ามีพี่น้องอยู่ในเรือนจำแห่งนี้
ที่นี้มีนักโทษมุสลิม ๑๑ คนมาจากหลายจังหวัดเช่นกัน รวมทั้งมีมุสลิมพม่าอยู่ด้วยคนหนึ่ง ทำหน้าที่อิมาม
ที่เรือนจำแห่งนี้ไม่ยอมให้เอากล้องและโทรศัพท์มือถือเข้าไป แต่ยอมให้เอากระเป๋าสตางค์เข้าไปได้
หลังนะศีหะฮฺเสร็จแล้วได้พูดคุยถามทุกข์สุขกัน
สังเกตว่า ที่เรือนจำแห่งนี้ นักโทษแต่งตัวดีกว่า นุ่งโสร่งหรือกางเกงขายาว
มีห้องที่รวมตัวกันละหมาดญะมาอะฮฺได้ สถานที่ร่มรื่น(?น่าอยู่?) ต้นไม้เยอะ บริเวณรอบเรือนจำกว้างขวาง
ถามถึงเดือนเราะมะฎอนที่เพิ่งผ่านไป ได้รับคำตอบว่า ถือศีลอดกันได้ทุกคน เพราะงานไม่หนัก
อาหารละศีลอดและอาหารสะหูรฺทางเรือนจำอำนวยความสะดวกให้
ลืมถามว่า อีดิลฟิฏริฉลองกันอย่างไร
ได้สอบถามอนุศาสกเกี่ยวกับเรื่องการเข้าไปเรียกร้องเชิญชวนในเรือนจำ
ได้รับคำตอบว่า มีงบสนับสนุนการจัดกิจกรรมก่อนเดือนบวชปีละครั้งสำหรับเรือนจำทุกแห่ง
ใครอยู่ใกล้เรือนจำไหนลองติดต่อเพื่อเข้าไปดะอฺวะฮฺ อิสลามียะฮฺได้
เรื่องงบไม่ใช่เงื่อนไขสำหรับเรา แต่การมีงบทำให้เรือนจำ วาญิบ ต้องจัดกิจกรรม เราจึงควรใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์
อินชาอัลลอฮฺ ก่อนถึงเดือนเราะมะฎอนปีหน้า ตั้งใจว่า จะเตรียมอินทผลัม ผ้าปูละหมาด และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ เพื่อเข้าไปเยี่ยมเยียนพี่น้องเรา
ได้พูดกับพี่น้องคนหนึ่งว่า อินชาอัลลอฮฺปีหน้าจะขอเข้ามาเยี่ยมเยียนอีกก่อนเดือนเราะมะฎอน แต่ไม่ต้องอยู่รอ
เขาตอบว่าไม่อยากอยู่รอหรอก แต่ถ้าเข้ามาก็คงเจอกันอีก เพราะยังอีกหลายปี
เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจและตั้งใจว่าจะสานต่อเมื่อมีโอกาส
والسلام
แชมัด

[rayes]

    เคยไปออกตับลีฆที่ยะลากับกลุ่มนักศึกษาราม ฯ  ใด้มีโอกาส ไปเยี่ยมพี่น้องของเราที่เรือนจำด้วยโดย ขอทางมัรกัสยะลาก่อน  พวกเราขอเจอ 5 คน ก็ใด้มีโอกาสพูดคุยกัน ผ่านโทรศัพท์ พี่น้องเราบอกว่า ในเรือนจำก็มีคนดะวะฮฺเข้าไปบายานตลอด มีกัซ(เดินเยี่ยมเยี่ยน)ชักชวนกันมาละหมาดเหมือนกับข้างนอก และมีการอ่านตะเล็ม(คุณค่าอาม้าล)ทุกๆวัน  พี่น้องเราบอกในคุกมีคนอะเล็มเยอะ เพราะเป็นอุสตัซบ้าง เป็นบาบอบ้าง  ส่วนมากโดนคดีความมั่นคงคับ พี่น้องเราบอกว่าหากใครสนใจจะเอาความรู้ละก็สบายเลยคับ แต่ดูดีๆอย่าให้โดนสาย วะฮาบีแล้วกัน หุหุ
 
 

[ILHAM]

สายวัฮฮาบีไม่มีที่ติดคุกหรอกเชื่อสิ