ผู้เขียน หัวข้อ: ตอบข้อสงสัยใน "ตะเซาวุฟ"  (อ่าน 1277 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ahlulhadeeth

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 27
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
ตอบข้อสงสัยใน "ตะเซาวุฟ"
« เมื่อ: มี.ค. 11, 2014, 07:51 PM »
0

ตอบข้อสงสัยใน "ตะเซาวุฟ"

โดย รอฟีกี มูฮำหมัด

คำถาม : อยากจะสอบถามครับว่า ซูฟี คืออะไร เป็นยังไง แล้วมีกี่สาย มายังไง ? ใครสอน หรือ พอมีความรู้ ช่วยบอกหน่อยนะครับ ?

คำตอบ : ซูฟีย์ ก็คือ ผู้ที่ดำเนินตามหลักของวิชาตะเซาวุฟ / ตะเซาวุฟ ก็คือ วิชาที่สอนหรือเน้นทางด้านของมารยาท และการขัดเกลาจิตใจให้มีความสะอาด ปราศจากการตะกั๊บโบร(อวดโต) ซุมอะห์(ลำพองตน) เพราะ 2 สิ่งนี้ เป็นสิ่งที่จะมาทำลายภาคผลของความดีให้สูญสิ้น

ความจริงแล้ว ยังมีผู้คนเข้าใจผิดว่า "ตะเซาวุฟ" นั้น อย่างหนึ่ง และ "ซูฟีย์" นั้น อย่างหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้ว คำว่า "ซูฟีย์" ( الصوفى ) ใช้เรียกกับ "คนที่มีตะเซาวุฟ" ส่วนคำว่า "เตาเซาวุฟ" ( التصوف ) นั้น เป็นชื่อเรียกของวิชา ดังนั้น ผู้ใดที่ชำนาญวิชาตะเซาวุฟ เขาก็จะถูกเรียกว่า "ซูฟีย์" เช่นเดียวกับ วิชาการอื่นๆ เช่น ผู้ใดที่ชำนาญวิชาฟิกห์ เขาก็จะถูกเรียกว่า "ฟากีห์" และผู้ใดที่ชำนาญวิชาหะดิษ เขาก็จะถูกเรียกว่า "มู่ฮัดดิษ" เป็นต้น

ส่วนที่มา ก็มาจากหลักอัลเอี๊ยะห์ซานที่ท่านร่อซู้ล(ซล.)ได้นำมาสอนแก่อุมมะห์ของท่าน ดังหะดีษที่ว่า

أَنْ تَعْبُدَ اللهَ كَأَنَّكَ تَرَاهُ فَإِنْ لَمْ تَكُنْ تَرَاهُ فَإِنَّهُ يَرَاكَ


ความว่า "เอี๊ยะห์ซานก็คือ การที่ท่านทำอิบาดะห์ต่ออัลเลาะห์เสมือนกับว่าท่านแลเห็นพระองค์ และแม้ว่าท่านจะไม่เห็นพระองค์ แต่พระองค์นั้นทรงเห็นท่าน" ( รายงานโดย ท่านอีหม่ามมุสลิม หะดีษที่ 8 )

จากหะดีษบทนี้แหละที่เป็นที่มาของหลักวิชาตะเซาวุฟ ที่บรรดาอุลามาอ์ซูฟีย์ทำการประพันธ์เป็นหลักวิชาการขึ้นมา

หะดีษได้สอนเรา 2 ตำแหน่ง ในวิชาตะเซาวุฟเรียกว่า "มะกอม" ซึ่งหมายถึง ตำแหน่งที่อยู่ระหว่างบ่าวกับอัลเลาะห์(ซล.) อันได้แก่ มะกอมมู่รอก่อบะห์ และมะกอมมู่ชาฮาดะห์

1.มะกอมมู่รอก่อบะห์ หมายถึง "ความรู้สึกว่า อัลเลาะห์ทรงเห็นเรา" ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกแรกของผู้ที่เริ่มศึกษาวิชาตะเซาวุฟ ทำให้เขาคอยสำรวจตัวเองอยู่เสมอ เพราะเขามีความรู้สึกอยู่ในจิตใจเสมอว่า อัลเลาะห์ทรงมองดูเขา ทำให้เขาไม่กล้าที่จะทำความชั่ว ไม่กล้าขโมย ไม่กล้าทิ้งละหมาด หรือ หากเขาต้องการทำอะมั้ลความดี เขาก็จะกระทำด้วยความปราณีตอย่างที่สุด เพราะเขารู้ว่า อัลเลาะห์ทรงมองดูเขาอยู่

2.มะกอมมู่ชาฮาดะห์ หมายถึง "ความรู้สึกว่า เราเห็นอัลเลาะห์" ความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นหลังจากเราผ่านมะกอมมู่รอก่อบะห์มาก่อนแล้ว ด้วยเหตุที่ว่า เราหมั่นฝึกจิตใจให้กระทำอามั้ลด้วยความบริสุทธิ์ใจอยู่เสมอ ไม่ว่าทุกครั้งที่เราทำอะไร เราก็จะมีความรู้สึกประหนึ่งว่าเราเห็นพระองค์อยู่เสมอ

โดยสรุป ก็คือ วิชาที่เน้นทางด้านของจิตใจโดยเฉพาะ เนื่องด้วยเพราะคนเราทำอ้ามั้ลแล้วอาจมี "ชีริกค่อฟีย์" ซ่อนอยู่ (เป็นความต้องการที่แอบแฝงพร้อมกับการอิบาดะห์) วิชานี้ จึงถูกประพันธ์ขึ้นมาเพื่อสอนถึงวิธีขัดเกลาใจให้บริสุทธิ์โดยแท้จริง เพราะผู้ประพันธ์วิชานี้ตระหนักดีว่า หากอะมั้ลของคนหนึ่งไม่ได้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์เพื่ออัลเลาะห์(ซบ.)แล้ว แน่นอนว่า อามั้ลความดีที่เขาได้กระทำไว้นั้น ย่อมไม่เกิดผลบุญอย่างแน่นอน

สำหรับสายของตะเซาวุฟนั้นก็มีอยู่มาก เท่าที่พอจะตอบได้ เช่น สายชาซุลีย์ สายนักชะบันดีย์ สายกอดีรีย์ สายคอลวาตีย์ สายติญานีย์ สายริฟาอีย์ สายญะอ์ฟารีย์ และอื่นๆ ซึ่งสายเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผิดแปลก เพียงแต่เป็นการบอกถึงที่มาของครูผู้สอน ใครที่ศึกษามาจากครูท่านได้ ก็จะได้คำคล้ายๆละก๊อบ(ฉายา)จากครูที่เขาจบมา เช่น คนที่ศึกษาและดำเนินตาม ท่านอับดุลกอเด็ร อัลญัยลานีย์ ก็จะได้ชื่อว่า กอดีรีย์ ถ้าดำเนินตาม ท่านอบูหะซัน อัชชาซุลีย์ ก็จะได้ชื่อว่า ชาซุลีย์ เป็นต้น

พี่น้องบางท่านพอได้ยินชื่อ "ซูฟีย์" ก็มันก็จะเมินหน้าหนี และมองว่าเป็นกลุ่มชนที่งมงาย เลอะเทอะ โดยไม่แยกแยะระหว่างซูฟีย์ที่แท้จริง กับ ซูฟีย์ที่แอบอ้าง ดังนั้น เพื่อให้พี่น้องได้รับทราบว่าซูฟีย์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร เราลองมาศึกษาและทำความเข้าใจกับคำพูดของพวกเขา เพื่อที่เราจะได้เข้าใจพวกเขาและเรียนรู้หลักการของพวกเขาได้อย่างถูกต้อง

ท่านบิชร์ บิน อัลฮาริษ อุลามาอ์ชาวสลัฟ และเป็นซูฟีย์ เสียชีวิตในปีฮิจเราะห์ที่ 227 ท่านได้พูดถึงคนที่เป็นซูฟีย์ว่า

الصوفي : من صفا قلبه لله


ความว่า "ซูฟีย์ ก็คือ คนที่ชำระจิตใจของเขาให้บริสุทธิ์เพื่ออัลเลาะห์" (ดู อัตตะอัรรุฟ ลี่มัสฮับ อะห์ลิตตะเซาวุฟ หน้าที่ 13)

หมายความว่า : คนที่ทำความสะอาดหัวใจของตนเองจากการตะกั๊บโบร(โอ้อวด) จากการริยาอ์(อวดโต) จากการซุมอะห์(ลำพองตน) และคงเหลือไว้ซึ่งจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์เพื่ออัลเลาะห์ คนๆนั้นแหละ ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ซูฟีย์"

จากตรงนี้ ลองดูซิครับว่า คนที่พยายามทำให้ตัวและใจของเขาบริสุทธิ์นั้น มันเป็นเรื่องที่ผิด หรือ แปลกไป หรือไม่ ?

ฉนั้น หากเราทำใจให้เป็นธรรม เราก็จะพบอย่างแน่นอนว่า วิชาที่สอนให้คนทำอามั้ลด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์นั้น ไม่อาจจะเป็นวิชาที่ผิดหลักการอย่างได้อย่างแน่นอน ดังที่อัลเลาะห์(ซบ.)ทรงตรัสว่า

قَدْ أَفْلَحَ مَن زَكَّاهَا

ความว่า "แน่นอนผู้ขัดเกลาชีวิตย่อมได้รับความสำเร็จ" (ซูเราะห์ อัชชัมซู่ อายะห์ที่ 9)

"การขัดเกลา"
ที่ถูกกล่าวในอายะห์นี้ มีความหมายคลอบคุลมทั้งการขัดเกลาความประพฤติภายนอก และการทำความสะอาดภายในจิตใจของเขาด้วย อันเนื่องมาจากว่า "หัวใจ" นั้น ก็คือ สถานที่ที่อัลเลาะห์ทรงมองเข้ามา จึงจำเป็นต้องทำความสะอาด และขจัดลักษณะของจิตที่โสมออกไป ให้เหลือเพียงแค่ความบริสุทธิ์เท่านั้น

ท่านอีหม่าม อัชชะอ์รอนีย์(เสียชีวิตในปีที่ 973) ซึ่งท่านได้กล่าวถึงแนวทางของซูฟีย์เอาไว้ในบทนำของหนังสือ "อัตฎ่อบ่ากอตุ้ลกุบรอ" ของท่านว่า

"แท้จริงแนวทางของคนกลุ่มนี้ เป็นแนวทางที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอัลกุรอานและอัสซุนนะห์ และแท้จริงแนวทางนี้มันดำเนินอยู่บน ซู่ลูก (ความประพฤติ) จากจรรยามารยาทของบรรดานบีและอะห์ลุสซุฟฟะห์(ซอฮาบะห์กลุ่มหนึ่งในสมัยท่านร่อซู้ล) และแท้จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องที่น่าตำหนิเลย เว้นแต่ เนื้อหาของมันจะไปขัดแย้งกับความถูกต้องของอัลกุรอาน อัลหะดีษ และอัลอิจมาอ์ และเมื่อใดที่มันขัดแย้ง มันก็จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากสิ่งที่น่าตำหนิเท่านั้น...ดังนั้น ผู้ใดต้องการมัน ก็จงศึกษาและปฎิบัติเถิด และส่วนผู้ใดที่ไม่ต้องการมัน ก็จงทิ้งมันไปซะ"

นี่คือ คำพูดที่เป็นธรรมที่สุด เพราะซูฟีย์ที่แท้จริงนั้น พวกเขาดำเนินตามอัลกุรอานและอัลหะดีษ เน้นทางด้านของการซิกรุ้ลลอห์ และการฝึกใจให้เข้าใกล้พระองค์ ส่วนแนวทางของคนบางกลุ่มที่อ้างว่าเป็นซูฟีย์ แต่มีความประพฤติที่ค้านกับซุนนะห์นั้น พวกเขาย่อมมิใช่ซูฟีย์ที่แท้จริง เพราะหลักชารีอัตและหลักฮากีกัตนั้น มันคือ เนื้อเดียวกัน ชารีอัตทำให้อามั้ลถูกต้อง ส่วนฮ่ากีกัตนั้นทำให้อ้ามั้ลสวยงาม พูดง่ายๆ คือ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอ้ามั้ลภายนอกและอ้ามั้ลภายในเพียงเท่านั้น

ฉนั้น หากว่าท่านพบเห็นซูฟีย์กลุ่มใดมีความประพฤติขัดแย้งกับอัลกุรอานและอัสซุนะห์ ก็จงทิ้งมันไปเถิด เพราะแท้จริงเขาไห้หลงออกไปจากแนวทางแห่งบรรชนอันบริสุทธิ์แล้ว ... วัลลอฮู่อะอ์ลัม.

วัสสลามู่อ้าลัยกุม ว่าเราะห์ม่าตุ้ลลอฮี่ ว่าบ่ารอกาตุฮ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 13, 2014, 02:59 AM โดย Ahlulhadeeth »

 

GoogleTagged