อัสลามุอะลัยกุ้มท่านพี่น้อง
ได้สนทนากับคุณ pareet เรื่องตับลีฆอีกแล้วขอรับ

พี่น้องกันทั้งนั้นยังไงก็คุยกันแบบสบายๆ น่ะครับ การที่คุณ pareet บอกว่าตอนนี้เหตุการณ์ดังกล่าวที่เป็นปัญหาอยู่นั้น กำลังเป็นเรื่องส่วนมาก ผมว่าไม่จริงน่ะครับ ที่คุณบอกว่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้น คือปัจจุบันดะวะฮ์ตับลีฆได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือเปล่า คุณเลยดูว่ามันมาก ดังนั้นองค์กรใดเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้น ปัญหาที่เกิดมาก็จะดูมากขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมดานะครับ เพราะผู้ร่วมงานมีคนหลายระดับ เช่นระดับล่าง(มีความรู้น้อย) ระดับกลาง(มีวิชาความรู้และให้ผู้อื่นได้) ระดับอาวุโส (มีวิชาความรู้สำหรับตนเองและให้ผู้อื่นได้อย่างกว้างขวาง) ฉะนั้นเมื่อระดับต่างกัน การปฏิบัติก็อาจจะผิดพลาดไปบ้าง จึงเป็นหน้าที่ของผู้มีความรู้ต้องให้ความเข้าใจ
ญะมาอัตหนึ่ง 10 คน ผมไม่เชื่อหรอกว่า มีตับลีฆที่ทิ้งลูกภรรยาให้ต้องลำบากถึง 6 คน จนทำให้คุณ pareet บอกว่ามันคือส่วนมากแบบเพิ่มขึ้น เพราะบางคนที่ออกตับลีฆยังไม่มีครอบครัวก็เยอะน่ะขอรับ ดังนั้นผู้ที่ต้องการจะออกตับลีฆเขาจะต้องตรวจสอบความพร้อมของตนและครอบครัว หากญาติพี่น้องของคุณ pareet และน้องชายของคุณ del_dangerous ออกตับลีฆในลักษณะที่ไม่น่าพอใจ ผมขอแนะนำวิธีแก้ไขและชี้ให้ดังนี้นะครับ คือคุณต้องตักเตือนและชี้นำเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่ด้วยความอคติและมีใจค้านดะวะฮ์อยู่ก่อนแล้ว แบบนี้เขาไม่ยอมฟังคุณหรอกครับ การตักเตือนด้วยความบริสุทธิ์ใจกับความอคตินั้น ผลออกมามันต่างกันน่ะ ดังนั้น คุณกล้าหรือเปล่าล่ะที่จะไปบอกน้องชายหรือญาติของคุณว่า "จะออกตับลีฆก็ออกเถอะน่ะ แต่ต้องตระเตรียมปัจจัยต่างๆ ที่มีความจำเป็นสำหรับครอบให้ครบถ้วน และเมื่อครบถ้วนแล้ว หากมีสิ่งใดที่ขัดข้องหลังจากนั้นก็ให้มอบหมายต่ออัลเลาะฮ์" ผมเชื่อครับว่า พี่น้องของคุณต้องรับฟัง แต่หากคุณไปพูดว่า "ออกตับลีฆทำไม ทิ้งลูกทิ้งเมียและไม่ยอมเลี้ยงดูเป็นสิ่งที่หะรอม" แบบนี้คุณพูดกี่ครั้งๆ ก็ไม่ได้ผลหรอกครับ เพราะคุณเข้าไปชี้นำด้วยความอคติต่อเรื่องดะวะฮ์
อย่างเช่นที่น้องอัลฯเขาตอบพี่น้องดะวะฮ์ไปข้างตน ในกรณีที่มีคนมาถามเขาว่าออกดะวะฮ์ 3 วันได้หรือเปล่า? หากเราให้คำตอบเขาแบบบริสุทธิ์ใจ ให้เขารู้ถึงลำดับความสำคัญ พี่น้องตับลีฆผู้นั้นเขาก็ยอมรับฟังและพร้อมที่จะนำไปปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง เขาก็จะพยายามทำงานเพื่อเป็นปัจจัยไว้ล่วงหน้าสำหรับ 3 วันที่ต้องออกไปตับลีฆ ส่วน 27 วันนั้น เขาก็อยู่บ้านทำงานเลี้ยงดูครอบครัวเหมือนเดิม
ส่วนที่คุณ pareet พูดว่าไปชวนผู้อื่นมามัสยิดตนเองดีกว่า อันนั้นก็ถูกต้องนะครับ แต่ตับลีฆเขาไม่ได้ออกไปดะวะฮ์ข้างนอกกันทั้งปีหรือตลอดชีวิตนี่ครับ เพราะช่วงเวลาส่วนมากเขาก็เชิญชวนคนใหนบ้านเหมือนกัน
คุณ pareet กล่าวว่า
1. คนมีอันจะกินออกดะวะห์ ไม่ค่อยจะมีปัญหาหรอกครับ
2. คนที่มีการศึกษาทางด้านศาสนาอย่างเพียงพอ ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ อย่างนักเรียนไคโร
ส่วนน้อยที่มีปัญหาก็นอกจาก 2 กลุ่มนี้เหละครับ
ผมขอกล่าวว่า
เป็นตรรกที่สวยงามมากครับ เอาข้อ 1 - 2 มาบวกกัน แล้วลบกับบุคคลที่เหลือ เท่ากับกลายเป็นว่า ส่วนมากมีปัญหา

แล้วคนที่ไม่มีอันจะกินที่เป็นปัญหาน่ะคับ มันมีลักษณะอย่างไรหรือครับ เป็นคนยากจน คนอนาถา หรือว่าอย่างไรครับ ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริงให้หน่อยเพราะ เผื่อว่าคุณเป็นนักสำรวจตับลีฆมาแล้วทั่วประเทศ

วัสลามพี่น้อง