ผู้เขียน หัวข้อ: การรู้จักอัลเลาะห์ (ตะเซาวุฟ)  (อ่าน 2194 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-kudawah

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 234
  • Respect: +48
    • ดูรายละเอียด

การรู้จักอัลเลาะห์ (ตะเซาวุฟ) !!

ท่านนบี(ซล.)ได้กล่าวกับเราไว้ในหะดีษบทหนึ่งว่า

"แรกเริ่มของศาสนานั้น คือ การรู้จักอัลเลาะห์"

การที่เราจะรู้จักอัลเลาะห์(ซบ.)นั้น ก็คือ การเพ่งพินิจพิจารณาดูสิ่งต่างๆรอบตัว โดยพิจารณาถึงการกำเกิดขึ้นของมัน ก็จะทำให้เราทราบได้โดยทั้นทีว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีขึ้นมานั้น ย่อมจะต้องมีผู้สร้าง และผู้ที่สร้างสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ นั่นก็คือ อัลเลาะห์(ซบ.) ผู้ทรงเ้ป็นเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียว

ฉนั้น การรู้จักอัลเลาะห์ นั้น ในภาคของวิชาตะเซาวุฟนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ

1.มุรตาบัต ชะรีอัต : คือ การรู้จักอัลเลาะห์(ซบ.)โดยอาศัยหลักฐานจากบรรดามัคโล๊ก(สิ่งถูกสร้างทั้งหลาย) เพื่อนำไปสู่การรู้จักองค์พระผู้สร้าง และเอาจากความรู้ในภาคของวิชาอุศูลุดดีน(หลักการศรัทธาพื้นฐาน)ที่เราเรียกว่า "อิ้ลมุ้ลยะกีน" (ยะเก่นจากความรู้) หมายถึง รู้จักอัลเลาะห์ ด้วยกับหลักฐานทั้งทางปัญญา(อักลีย์) และหลักฐานทางด้านตัวบท(นักลีย์)

โดยอาศัยวิชาความรู้เป็นหลักยึดมั่น เพื่อทำให้เขามีการศรัทธายึดมั่นอย่างถูกต้อง มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง มีอีหม่านที่แน่นแฟ้น แต่การอีหม่ามในรูปแบบที่หนึ่งนี้ มันเป็นอีหม่านที่แน่นแฟ้นอยู่แค่ปัญญา หรือ มันสมองเท่านั้น มิได้เหนียวแน่นอยู่ในจิตใจ

การอีหม่านยังอยู่ในรูปของความเข้าใจ แต่ไม่ได้ฝังอยู่ในจิตวิญญาณ และยังไม่อาจรู้จักอัลเลาะห์(ซบ.)อย่างแท้จริงและลึกซึ้ง

แต่ก็ยังดีกว่าผู้ที่รู้จักอัลเลาะห์แบบตักลึด คือ รู้จักตามที่คนอื่นบอกเกล่าว่า พระเจ้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โดยไม่มีความรู้ และโดยไม่มีหลักฐาน ซึ่งถือเป็นสิ่งต้องห้ามในด้านของหลักการศรัทธา

มุรตาบัตนี้ หากเราจะเรียบเทียบกับลูกทุเรียน ก็คือ รู้จักแต่เปลือกทุเรียนเท่านั้น โดยยังไม่ได้รับรู้ว่า รสชาตของมันเป็นเช่นไร ดังนั้น การรู้จักอัลเลาะห์ในขั้นนี้ ถือได้ว่า เป็นขั้นที่ต่ำที่สุด ซึ่งมีขึ้นได้ สำหรับคนธรรมดาทั่วไป

2.มุรตาบัต มะอ์ีัรีฟะห์ : คือ การรู้จักอัลเลาะห์(ซบ.)โดยอาศัยแนวทางแห่งความรู้สึก หมายถึง มีความรู้สึกเหมือนได้ลิ้มรสชาดความรักที่มีต่อพระองค์ในจิตวิญญาณ เนื่องจากการปฏิบัติอามั้ลอิบาดะฮ์อย่างขยันขันแข็งตามความรู้ที่ได้เรียนรู้มา เมื่อมีการปฎิบัติมันอย่างเป็นเนืองนิจ ก็จะสามารถยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น จนได้ลิ้มรสชาด "ความหอมหวานของการศรัทธา"

มุรตาบัตชนิดนี้ เราเรียกว่า "อัยนุ้ลยะกีน" (ตัวยะเก่นที่แท้จริง) หรือ มุรตาบัต มะอ์ริฟะห์

เปรียบเทียบ คือ เมื่อเราได้แกะเปลือกทุเรียนออกมาแล้ว เราก็จะได้รับรู้ถึงได้กลิ่นอายอันหอมหวลของมัน แต่หาได้เคยลิ้มลองรสชาตของมันไม่

มุรตาบัตขั้นนี้สูงกว่ามุรตาบัตแรก และมีให้สำหรับคนซูฟีย์ที่ได้ลิ้มรสชาดแห่งการรู้สึกมะอ์ริฟัตต่ออัลเลาะห์(ซบ.)แล้ว ซึ่งหมายถึง คนวลีย์ ที่ได้รับการ ตะญัลลีย์แบบญาเมี๊ยะอ์แล้ว

3.มุรตาบัต ฮะกีกัต ขั้นสูงสุด : คือ การรู้จักอัลเลาะห์(ซบ.)โดยหนทางแห่งความรู้สึก ด้วยการรู้สึกลิ้มรสชาดความหอมหวานในจิตวิญญาณ มีการ "ซุฮูด" เพ่งมองอย่างประจักษ์แจ้ง อีกทั้งมีความหวานชื่น เอร็ดอร่อย และมีความสุขอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ซึ่งเรียกว่า "ฮักกุ้ลยะกีน" (หมายถึง ยะเก่นที่แท้จริง) คือ หัวใจของเขาจะมีความเชื่อมโยงไปยังพระองค์เสมอ ไม่ว่าจะทำอะไร เขาจะมีความรู้สึกความสดชื่น เบิกบาน ในทุกๆการดำเนินชีวิต

เปรียบเทียบคือ ได้สัมผัสลิ้มรสชาดของทุเรียน คือ ได้กินทุเรียนเข้าไปแล้วนั่นเอง

การอีหม่านในขั้นนี้ เป็นการอีหม่านขั้นสูงสุด ที่คนเราจะใคว่คว้ามาครองได้ ซึ่งก็คือ ได้รับการตะญัลลีแบบฟะรอกแล้ว อันเป็นมุรตาบัตสำหรับบรรดาวลีย์ใหญ่ ชนชั้นอาริฟบิ้ลลาห์ และสูงไปกว่านั้น คือ บรรดานบีและร่อซู้ลทั้งหลาย

วัลลอฮู่อะอ์ลัม.

เรียบเรียงโดย # เป็นแค่ คนรอง #
สั่งซื้อหนังสืออัลฮิกัมโดยตรงหรือทางไปรษณีย์หรือเป็นตัวแทนจำหน่าย  ติดต่อได้ที่สถาบันอัลกุดวะฮ์ 02-9343369 หรือ 08-29613974

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: การรู้จักอัลเลาะห์ (ตะเซาวุฟ)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.พ. 16, 2014, 06:14 AM »
0
 :salam:

ผมไม่แน่ใจว่า
أول الدين معرفة الله
เป็นหะดีษท่านนะบียฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
หรือเป็นคำกล่าวของอุละมาอ์กันแน่ กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
วัสสลาม

ออฟไลน์ Ahlulhadeeth

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 27
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
Re: การรู้จักอัลเลาะห์ (ตะเซาวุฟ)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มี.ค. 11, 2014, 09:02 PM »
0
ต้องขอบคุณท่าน Bangmud เป็นอย่างสูงครับ ที่ช่วยตักเตือนกันครับ คำพูดที่ว่า

أول الدين معرفة الله

เป็นคำพูดของท่าน อ้ามีรุ้ลมุอ์มี่นีน อะลี บิน อบีตอลิบ ครับ ส่วนสำนวนของท่านนบี(ซล.)นั้น ก็คือ สำนวนนี้

يَا أَبَا ذَرٍّ : اعْبُدِ اللَّهَ كَأَنَّكَ تَرَاهُ ، فَإِنْ كُنْتَ لَا تَرَاهُ فَإِنَّهُ يَرَاكَ وَ اعْلَمْ : أَنَّ أَوَّلَ عِبَادَةِ اللَّهِ الْمَعْرِفَةُ بِهِ ، فَهُوَ الْأَوَّلُ قَبْلَ كُلِّ شَيْءٍ فَلَا شَيْءَ قَبْلَهُ


ความว่า "โอ้อบูซัรริน ท่านจงอิบาดะห์ต่ออัลเลาะห์ เสมือนว่าท่านแลเห็นพระองค์ หากแม้นว่าท่านไม่เห็นพระองค์ แต่พระองค์นั้นทรงเห็นท่าน และท่านพึงทราบเถิดว่า แท้จริงแรกเริ่มของการภัคดีต่ออัลเลาะห์นั้น คือ การรู้จักพระองค์ มันคือ สิ่งแรกก่อนทุกๆสิ่งๆ และไม่มีสิ่งใดก่อนจากมัน"

หะดีษบทนี้ มีบันทึกอยู่ในหนังสือ "ม่าการี่มุ้ลอัคล๊าก" ( مكارم الأخلاق ) ซึ่งเป็น "ว่าซอยา" (คำสั่งเสีย) ของท่านนบี(ซล.)แก่ท่าน อบูซัรริน อัลฆีฟารีย์ โดยสะนัดของ ท่าน อบุ้ลอัสวัด อัดดุอาลีย์ ( بسنده عن أَبِي الْأَسْوَدِ الدُّؤَلِيِّ ) แต่สายรายงานี้ "ด่ออีฟมาก" และอาจถึงขั้น "เมาดัวะอ์" ซึ่งผมไม่เคยพบว่ามีบันทึกอยู่ในตำราหะดีษใดๆที่เชื่อถือได้ หากใครทราบว่ามีอยู่ที่ใด รบกวนนำมาลงให้ผมทราบด้วยน่ะคับ

และก็ขอรบกวรท่าน al-kudawah ช่วยแก้ตัวบทให้ผมด้วยน่ะครับ ขอบคุณมากครับ สำหรับคำติชม และผู้ที่นำมาลงไว้ครับ ขออัลเลาะห์ตอบแทนความดีทั้งสองท่านครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 11, 2014, 09:22 PM โดย Ahlulhadeeth »

 

GoogleTagged