ผู้เขียน หัวข้อ: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม  (อ่าน 46361 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด

เป็นฟัรดูกิฟายะ สำหรับพวกเรา

ดาราศาสตร์ ถือเป็นวิชาหนึ่งที่เราทุกคนต้องศึกษา และในหนึ่งชุมชนต้องมีบุคคลเหล่านี้

เมื่อโลกมีเทคโนโลยีล้ำหน้า หากเราใช้เทคโนโลยี โดยไม่มีความคิดความอ่านตามเทคโนโลยี ก็คงเป็นเพียงแค่ใช้เทคโนโลยีได้ แต่ใช่ไม่เป็นเท่านั้น

ผมขอเอา คำของ คุณ Kfai ที่ muslimthai มาวางไว้นะครับ เพราะยาวมาก
อ้างจาก: Kfai
    แท้จริงแล้ว เราทั้งโลกอยู่ในวันเดียวกันทั้งนั้น   ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนใดของโลก  เพราะโลกนั้นกลม  ไม่มีจุดเริ่มต้นไม่มีจุดจบ

    เพียงแต่เมื่อมีการติดต่อกันทั้งโลกขึ้นมา ก็เลยเกิดปัญหาว่า ใครควรจะเป็นประเทศที่อยู่ก่อนอยู่หลัง  เพื่อจะได้นับกันถูกเรียกกันถูก
    เพื่อความสะดวกทางด้านติดต่อสื่อสารกันเท่านั้นไม่ใช่เพื่อเอามาตัดสินเรื่องศาสนา เพราะคนที่คิดเรื่องนี้ขึ้นมาแต่แรกคือนักวิทยาศาสตร์  ไม่ใช่นักศาสนา 

    ดังนั้นเขาจึงมีการกำหนดเส้นเขตวันกันขึ้น  เพื่อที่จะบอกว่าใครอยู่วันไหน ใครเริ่มต้น
    แต่ก็กลัวว่า ถ้าไปกำหนดเส้นเขตวันในแถบที่มีคนอยู่ ก็จะเกิดปัญหา เนื่องจาก คนที่อยู่บ้านใกล้กัน อาจจะกลายเป็นว่า อยู่คนละวัน  เดี๋ยวได้งงกันใหญ่
    เขาก็เลยไปกำหนดเส้นเขตวันในเขตที่ไม่มีคนอยู่   ให้มันไปลงในมหาสมุทรแปซิฟิก

    แต่วันของอิสลามต่างกันออกไป

     ในขณะที่วันทางสากลไม่มีจุดเริ่ม ไม่มีจุดจบ จนในที่สุดต้องแก้ปัญหาด้วยเส้นเขตวันนั้น

     สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นในอิสลาม

    และนี่คือฮิกมะห์ที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงประทานให้เรา
 
     เนื่องจากการเกิดวันของเรานั้นเป็นวันที่เกิดทางจันทรคติ  ดังนั้นมันอยู่ที่เดือนเป็นสำคัญ
     การโคจรของเดือนรอบโลกนั้นคือตัวกำหนดวันของเรา
     เราต้องรู้ก่อนว่าการเกิดกลางคืนกลางวันนั้น เกิดจากโลกหมุนรอบตัวเองเทียบกับดวงอาทิตย์   แต่ในขณะเดียวกันนั้นเดือนได้หมุนรอบโลกอยู่แต่กลับทางกับที่เราหมุน
     เมื่อตะวันตกดินวันหนึ่งเรามองเห็นเดือนอยู่ระดับหนึ่งทางทิศตะวันตก
     เมื่อตะวันตกดินวันที่สอง เราจะเห็นเดือนสูงขึ้นกว่าเดิม  และจะสูงขึ้นเรื่อยในทุกวัน นี่คือสิ่งที่เราเห็นจนชินตา

     แต่เราอาจจะไม่รู้ว่า นั่นแหละครับ คือการเคลื่อนที่ของเดือนจากตะวันตกไปตะวันออก
     มันจะหมุนไปอย่างนี้จนครบ 29-30  วันก็จะมาอยู่ที่เดิม  คือทิศตะวันตกใหม่
     เมื่อไรมันมาอยู่ทีเดิม  นั่นก็คือเดือนใหม่ครับ 
     นั่นแหละครับวิธีนับแบบจันทรคติ แบบอิสลาม โดยคร่าวๆ

   ดังนั้นเวลาที่เดือนมาอยู่แนวเดียวกันกับโลก กับดวงอาทิตย์ จึงถือว่าหมดเดือนนั้นแล้ว
   และเวลาที่เดือนเคลื่อนต่อไปอีก นั่นคือวันที่หนึ่งของเดือนใหม่

     ณ ที่ใดๆก็ตามในโลก  ที่มีเดือนใหม่เกิดขึ้นก็จะถือว่าเป็นวันใหม่แล้วครับและที่นั้นก็คือ ที่ๆจะเริ่มวันใหม่ของทั้งโลก ในทัศนะทางจันทรคติ  มันคือเส้นเขตวันของจันทรคติ

      ที่แปลกประหลาดอย่างยิ่งก็คือ ที่ๆจะเกิดวันใหม่เช่นนี้  มันจะวนเวียนกันไปในแต่ละเดือน มันจะค่อยๆเลื่อนขึ้นเรื่อยๆ  หมุนไปจนทั่วโลก
   
      นั่นก็คือ เส้นเขตวัน ที่หมุนไปทั่วโลก เวียนกันไป  สลับกันไป

      นั่นคือ ความเสมอภาค ความเท่าเทียมกัน ทั้งโลก ที่พระองค์อัลลอฮ์ ทรงประทานให้กับเรา
      ไม่มีเผ่าใหนใหญ่กว่าใคร  ไม่มีประเทศใดดีกว่าใคร
       ทุกๆที่ทุกๆคน เท่าเทียมกัน  นอกจากด้วยความเกรงกลัวอัลลอฮ์เท่านั้นเองที่ทำให้เราต่างกัน

   ดังนั้น  การที่จะบอกว่า เราตามสอูดี้ แล้วเอาวันจันทร์ อังคาร พุธ เป็นตัวกำหนดการตาม จึงเป็นการนำสิ่งที่ไม่ได้เข้ากันมาผสมกัน ครับ
 
   เพราะในอิสลามเราจะเห็นได้ว่า บางครั้งเราจะตามประเทศสอูดี้ บางครั้งเราก็จะนำ ขึ้นอยู่กับเดือนว่าจะขึ้นที่ใด

   แต่ในหลักสากล ให้เราเดินอยู่ทางเดียวคือ ให้เรานำ ให้เราเป็นประเทศตะวันออกเท่านั้น
 
   ดังนั้นเราต้องไม่เอาวันเหล่านี้มาปนกับวันของเรา

   ดังนั้นถ้าเราคิดว่าเราตามสอูดี้ เราต้องให้เส้นเขตวันนั้นอยู่ที่สอูดี้  เมื่อสอูดี้เริ่มวัน เราก็เริ่มด้วย

   แต่เราต้องรู้ด้วยว่า วันจริงๆ ที่เราจะเริ่มนั้น มันยังไม่มาถึง   เรายังไม่ได้อยู่ในวันนั้น เราอยู่ในวันก่อนของวันนั้น
   เราต้องรอ ยี่สิบชั่วโมงหลังจากนั้น วันนั้นก็จะมาถึงเรา  นั่นแหละคือวันของเราจริงๆ

   ถ้าเรารู้สึกงง  ฟังไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ไม่เป็นไร

   เพราะมีวิธีที่ง่ายๆกว่านั้นมากๆ

  นั่นคือดูเดือนเองครับ  เมื่อไรมีเดือนนั่นก็คือวันใหม่ของเราในเดือนใหม่
   แล้วเราจะพบด้วยตัวเอง เป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่งว่า มันพอดีกับที่ได้บรรยายไว้  โดยไม่ต้องใช้การคิดอะไรอีกเลย


การดูเดือนด้วยดาราศาสตร์ แบบอิสลามนั้นเป็นเช่นไร ?

อนึ่ง การนับเริ่มวันใหม่ของ โลกมีอยู่ด้วยกัน 4 แนวทาง ซึ่งเป็นความรู้ที่นักดาราศาสตร์ต้องรู้ทุกคน
1. การนับโดยเริ่มจากดวงอาทิตย์ตก
2. การนับโดยเริ่มจากดวงอาทิตย์ขึ้น
3. การนับโดยเริ่มจากดวงอาทิตย์ตรงหัว (เที่ยงวัน)
4. การนับโดยเริ่มเมื่อเที่ยงคืน

การนับเพื่อเริ่มวันนั้น ในแบบอิสลามคือแบบที่ 1 และแบบสากลคือแบบที่ 4 อันจะคิดเวลาช่วงนั้นห่างกันโดยประมาณ 5 ชม.

แนวคิดทาง จันทรคติ (ใช้ดวงจันทร์กำกับ) กับ สุริยะคติ (ใช้ดวงอาทิตย์กำกับ) การดูเดือน

ผมจะขอพูดเกี่ยวกับ จันทรคติ ซึ่งเมื่อเราได้ศึกษาจะพบว่า ประเทศไทย ก็มีการดูเดือนแบบ จันทรคติ ด้วยเช่นกัน

ดังนั้น จันทรคติแบบไทย และแบบอิสลาม นั้น มีความแตกต่างกันเช่นไร ?

แม้การใช้จันทรคติ แบบไทย จะใช้การดูดวงจันทร์ เหมือนกับของอิสลาม แต่

การกำหนดวัน ที่ขาด นั้นต่างกัน โดนวันที่ขาดของทางไทยคือเดือนที่น้อยกว่า ส่วนวันที่ขาดของอิสลามคือเดือนที่มีมากกว่า คือเดือนที่มี 30 วัน เป็นต้น

โดยในเดือนอิสลามจะมี 29 ถึง 30 วันเท่านั้น

โปรดดูรูปประกอบความเข้าใจ ในวันที่ 29 ธันวาคม และ 30 ธันวาคม ตามลำดับ



จะเห็นได้ว่า การตามเดือนของประเทศซาอุ โดยไม่มีความรู้ด้านดาราศาสตร์ อยู่เลย ทั้งๆ ที่เป็นๆฟัรดูให้ศึกษานั้น เกิดผลเช่นไร

ตัวขีดเส้นใต้สีแดง คือ บอกวันว่าเป็นเช่นไร ในแบบของอิสลามจริง

กรณี ศึกษา นาย A และ นาย B  (จากเรื่องที่เกิดขึ้นจริง)

A : สลามครับ ผมจะไปทำฮัจย์ที่ ซาอุ ผมฝากคุณทำกรุบาน ให้ด้วยนะครับ ผมเอา ตัวนึงเลย

B : สลาม เด๋วผมจัดการให้ครับ คุณไปเถอะครับ

ณ วันอีดที่ประเทศไทย ตามการดูเดือนซาอุ  นาย B โทรศัพท์ไปหานาย A

A : สลาม โทรมามีธุระอะไรครับ ตอนซุปฮฺ ผมเพิ่งละหมาดเสร็จ

B : สลาม ผมโทรมาบอกว่า กรุบาน คุณ ผมเชือดแล้ว เอาไปให้ใครครับ

A : !!!  เฮ้ ผมยังไม่ได้ละหมาดอีด เลยแล้วจะเป็นกรุบานผมได้อย่างไร ? ผมขอเงินคืนนะครับ ผมไม่ทำแล้ว

B : .................... อะครับ ขอมะอัฟด้วย..

พี่น้องมีความคิดเห็นเช่นไรบ้าง


ฝากทิ้งท้าย คำถาม อีก 1 ข้อคือ

วันอะรอฟะ และ วันวุกุฟ เหมือนกันและแตกต่างกันอย่างไร ?


วัลลอฮฺอะลัม

วัสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 04, 2007, 04:46 PM โดย al-azhary »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธ.ค. 29, 2006, 06:37 PM »
0
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

กระทู้นี้ถือว่าน่าสนใจ และผมจะร่วมเสวนาครับ  อินชาอัลเลาะฮ์  และผู้อ่านท่านอื่น ๆ โปรดร่วมเสวนาด้วนน่ะครับ  เพื่อที่จะช่วยกันชี้แนะตามความรู้ที่อัลเลาะฮ์ทรงให้มา  อินชาอัลเลาะฮ์ 

ผมต้องยอมรับว่า คุณ Goddut และคุณ Kfai คงได้เข้าชมรมดาราศาสตร์มาแล้วเป็นการเฉพาะ เพราะบอกรายละเอียดไว้ได้ดีมาก  อัลฮัมดุลิลลาห์  ส่วนผมเองนั้น   ก็ได้เรียนดาราศาสตร์(ฟะลัก) มาบ้าง ตอนที่อยู่ปอเนาะ  คือเรียนการคำนวนเดือนเข้าออกรอมะฏอน  เอกสารและตำราที่เรียนก็อยู่ที่ไคโรแหละครับ  แต่เพื่อนยืมไป  ผมเรียนแค่คำนวน แต่ไม่เน้นวิธีการดูเดือนแบบรายละเอียดอย่างนี้  จึงต้องศึกษาเพิ่มเติม  แต่ตอนที่ผมเรียนดาราศาสตร์  ก็ช่วงที่ผมเรียนมัธยมอยู่เลยครับ  เลยลืม ๆ ไปเยอะ  แต่ผมจะร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนกับพี่น้องเท่าที่สามารถนะครับ  อินชาอัลเลาะฮ์
 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธ.ค. 29, 2006, 09:22 PM »
0

พี่น้องมีความคิดเห็นเช่นไรบ้าง


ฝากทิ้งท้าย คำถาม อีก 1 ข้อคือ

วันอะรอฟะ และ วันวุกุฟ เหมือนกันและแตกต่างกันอย่างไร ?


ผมขอเสวนาชี้แจงบางส่วนของประเด็นนี้ก่อนครับ  เพื่อคุณ Goddut ได้สานต่อ 

อะรอฟะฮ์  คือ ทิวเขาที่ทอดยาวถึงมินา  ซึ่งอยู่ห่างจากมักกะฮ์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 25 กิโลเมตร   วันอะรอฟะฮ์ คือ วันที่บรรดาผู้บำเพ็ญฮัจญฺทำการวุกูฟที่อะรอฟะฮ์ของวันที่ 9 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์   ดังนั้น  เรามาดูความหมายของการ "วุกูฟ"   การวุกูฟที่ อะรอฟะฮ์  หมายถึง  การไปปรากฏตัวอยู่ที่อะรอฟะฮ์  ในช่วงเวลาหนึ่งเวลาใดซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เช้าเวลาละหมาดซุฮริของวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์  และไปสิ้นสุดการวุกูฟที่อะรอฟะฮ์เมื่อแสงอรุณขึ้นของวันอีด(วันที่ 10 ของซุลฮิจญะฮ์)  ( ดู หนังสือ อิอานะฮ์  เล่ม 2 หน้า 448 - 449)   

สิ่งที่ผมนำเสนอไปนี้  เห็นความแตกต่างหรือไม่ครับ?


أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธ.ค. 29, 2006, 09:43 PM »
0
มาอ่านครับ

 :)

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธ.ค. 29, 2006, 11:45 PM »
0
วันอะรอฟะฮ์ คือ วันที่บรรดาผู้บำเพ็ญฮัจญฺทำการวุกูฟที่อะรอฟะฮ์ของวันที่ 9 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์
ส่วน
วุกุฟ คือ การปรากฏตัวอยู่ที่อะรอฟะฮ์  ในช่วงเวลาหนึ่งเวลาใดซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เช้าเวลาละหมาดซุฮริของวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์  และไปสิ้นสุดการวุกูฟที่อะรอฟะฮ์เมื่อแสงอรุณขึ้นของวันอีด

หรืออีกนัยหนึ่งคือ การรวมตัวกันของเหล่าพี่น้อง ณ ทุ่งอะรอฟะ
ทีนี้ เราจะพอมองออกอย่างไรครับ  มองเช่นนี้ครับ
1. อะรอฟะ นั้น คือสถานที่ ที่มีอยู่ที่เดียวในโลก
2. วุกุฟ นั้น คือ การรวมตัวกัน ณ ทุ่งอะรอฟะ ที่มีอยู่ที่เดียวในโลกเช่นกัน

แต่ เรามองแค่นี้ ถือว่ายังมองไม่ครบครับ เพราะ

ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุ อลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า
?และวันอะเราะฟะฮฺคือวันที่พวกเจ้าต่างชุมนุมกัน ณ ทุ่งอะเราะฟะฮฺ?
?วันอีดอัฎฮาคือวันที่คนทำการเชือดสัตว์กุรบานกัน?

อิมามอันนะวะวีย์กล่าวว่า
?เช่นเดียวกับวันอะเราะฟะฮฺ มันคือวันที่ประจักษ์แก่มนุษย์ว่ามันคือวันอะเราะฟะฮฺ (นั่นคือวันที่บรรดาหุจญาจกำลังชุมนุมกัน ณ ทุ่งอะเราะฟะฮฺ) ไม่ว่าจะตรงกับวันที่เก้า หรือวันที่สิบ(ของเดือนซุลหิจญะฮฺ ก็ตาม)?

อิมามชาฟิอีย์ได้กล่าวว่า
?และการดูเดือนของเดือนซุลหิจญะฮฺเพื่อจะระบุเจาะจงวันอะเราะฟะฮฺ วันอีดอัฎฮา และวันต่างๆของมันนั้นเหมือนกับการดูเดือนของวันอีดฟิฏรฺ ไม่มีความแตกต่างกันเลยแม้แต่นิด?
?วันอีดอัฎฮานั้นคือวันที่ถัดจากวันอะเราะฟะฮฺ?

1. ในเมื่อวันอะรอฟะ คือ วันที่บรรดาหุจญาจ ทำการชุมนุม กันแล้ว นั้นหมายถึงอะไร ?
2. คำว่า ไม่ว่าจะตรงกับวันที่ 9 หรือ 10 ก็ตาม คืออะไร ? สำหรับอิหม่ามอันนะวะวี
3. หากวันอีดทั้งสองไม่ต่างกันเลย เราจะใช้วิธีใด ?

ประเด็นนี้ผมจะยกมาให้เราได้ขบคิดกันครับ
ในเมื่อ วันอะรอฟะ คือวันที่ บรรดาหุจญาจ ทำการชุมนุม
และ วันวุกุฟ คือวันที่ ชุมนุม ณ ทุ่งอะรอฟะ

ตรงนี้ ผมจะขอยกตัวอย่าง เป็นกรณี ศึกษา เพื่อให้เขาใจง่ายครับ
จาก กรณีศึกษา

http://www.up69.net/0/?c4df63b677061cb13f34e8cdc231772d

มีบ้านอยู่ 3 หลัง คือ บ้าน A บ้าน B และ บ้าน C
ในวันที่ 1 บ้าน A  ทำการสร้างต่อเติมบ้าน
ดังนั้น คนที่อยู่ บ้าน B และ บ้าน C  ก็จะต้องเห็นและรู้ว่า วันนี้คือ "วันสร้างต่อเติมของบ้าน A"
แต่ถ้าเราถามต่อไปว่า บ้าน B และ บ้าน C นั้น ทำการต่อเติมบ้านหรือไม่
คำตอบคือ "ไม่" เพราะบ้าน A ต่างหากที่ต่อเติมบ้าน

ดังนั้น จากกรณีนี้ เอง เราก็จะได้ว่า วันที่ บ้าน A ต่อเติมบ้านนั้น บ้าน B และ บ้าน C ก็อยู่ในวันที่บ้าน A ต่อเติม
แต่ บ้าน B และ บ้าน C นั้น จะต่อเติมบ้านหลังจาก บ้าน A ต่อเติมบ้านเสร็จแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว วันที่บ้าน A ต่อเติมบ้าน จึงเป็นวันที่ บ้าน B และ บ้าน C รู้ว่า "บ้าน A ต่อเติมบ้านด้วย" และก็เป็นวันที่บ้าน B และ C กำหนดรอต่อเติมบ้านเช่นกัน
แม้บ้าน B และ บ้าน C จะพูดเช่นนั้นตอนเวลา 8 โมงเช้า แต่บ้าน A จะทำการต่อเติมบ้าน ในเวลา เที่ยงตรง ก็ตาม

แต่หากเราถามว่า บ้านที่ถูกต่อเติมนั้นบ้านไหน คำตอบจึงเป็น บ้าน A บ้านเดียวเท่านั้นในเวลานั้น เพราะบ้านที่จะต่อเติมนั้นคือ บ้าน A
เนื่องจากว่า หากบ้าน B และ C จะต่อเติมหลังจากบ้าน A แล้วเสร็จ ก็หมายความว่าหาก บ้าน A ต่อเติมไม่เสร็จ บ้าน B และ C ก็จะไม่มีวันต่อเติมบ้านนั่นเอง

ไม่มีทางที่ซึ่งบ้านที่ต่อเติมที่ตามหลัง จะต่อเติมบ้านเสร็จก่อน บ้านหลังที่ต่อเติมจนเสร็จแล้วไปได้
ไม่มีทางที่ซึ่งบ้านที่ต่อเติมไปก่อนจนเสร็จ จะเสร็จช้ากว่าบ้านที่เพิ่งจะเริ่มต่อเติม

เราจึงได้ว่า
วันอะรอฟะ นั้นคือ วันที่พวกเราชุมนุมกันที่ทุ่งอะรอฟะ ซึ่งจากกรณีที่ผมได้ยกไปนั้น วันอะรอฟะนั้นทั่วโลกจึงรับรู้ได้ถึงการมีของวันนี้ร่วมกัน
ส่วน
วันวุกุฟ ก็คือ การชุมนุมกัน ณ ทุ่งอะรอฟะ แล้ว แน่นอนว่าการวุกุฟ ที่เป็นการรวมตัวกันที่เป็นส่วนของปฏิบัติ จึงมีที่เดียว คือที่ซาอุ


สรุป
วันอะรอฟะ และวุกุฟ นั้นจึงแตกต่างกันด้วยสถานที่
เพราะ วันอะรอฟะ นั้นมีพร้อมกันทั่วโลก
แต่ วุกุฟ นั้นมีที่เดียว
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ไม่มีวันวุกุฟ เพราะวุกุฟ นั้นมิใช่วันด้วยตัวของมันเอง และยังไม่มีฮะดีสใดให้ตามวันวุกุฟอีกด้วย


สอดคล้องกับ ฮะดีส และทรรศนะ ของอิหม่ามทั้ง 2 ท่านที่เราได้ยกมาทั้งหมด
จากฮะดีสที่ว่า "วันอีด คือวันที่เชือดกรุบานกัน" ถ้าไม่มีกรุบานมิใช่วันอีด
จากอิหม่ามอันนะวะวีย์ "ไม่ว่าจะตรงกับวันที่เก้า หรือวันที่สิบ" แสดงให้เห็นว่าวันอะรอฟะ ไม่ใช่วันที่ 9 เท่านั้นจริง
จากอิหม่ามซาฟีอี "ในการดูเดือนอีดทั้ง 2 ไม่มีความแตกต่างกันเลย"
และ "ถัดจาก" ก็ต้องย่อมหมายถึง หลังจากนั้น มันไม่มีทางที่จะก่อนจากนั้นได้เลย


เมื่อเป็นเช่นนี้แหละ การเข้าวันอะรอฟะ ของเราจึงไม่จำกัดที่เดียวในโลก  แต่วุกุฟ นั้นมีที่เดียวในโลก


เรื่องฉุกคิด !
หากเราคิดเริ่มวันแบบอิสลามแล้ว
เมื่อเราที่เป็นประเทศเห็นเดือนก่อน เราก็จะเข้าวัน อะรอฟะก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายถึงการวุกุฟ นะครับอย่าลืม !!!
ที่หากเราเข้าเดือนก่อนเขา ไฉนเลยเราต้องรอเขา เพื่อกำหนดอีดของเรา ?

หากเป็นเช่นนั้น พี่น้องในสมัยก่อน ที่ไม่มีอินเทอเนต และโทรศัพท์ จะต้องรอกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี ที่จะเข้าวันอีด ?
คนบางคนนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่มิได้เข้าใจและเรียนรู้ พัฒนาความรู้ให้ทันเทคโนโลยี
บุคคลประเภทดังกล่าวกำลังทำให้อิสลามล้าหลัง
ทั้งๆ ที่อิสลามเป็นผู้ริเริ่มเรื่องดาราศาสตร์ก่อนใคร ท่านนบี (ซ.ล.) รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี
ไฉนเลย กลับอ้างว่า สมัยก่อนไม่มีเทคโนโลยี เช่นนี้ พี่น้องสมัยก่อนจึงไม่มีความผิด เพราะไม่รู้ว่าซาอุเข้าวันไหน
เป็นเรื่องที่ไม่กินกับปัญญาที่กล่าวหาว่าพี่น้องในอดีตทำผิดพลาด(ถึงไม่รู้ก็เถอะ) และอิสลามไม่รู้ถึงเทคโนโลยีในอนาคตเหล่านี้ (เป็นการกล่าวหาว่าอิสลามไม่ทันสมัย)

พวกเขาไม่คิดบ้างหรือว่า พี่น้องที่ ออสเตเรีย ที่มีเวลาห่างกับ ซาอุ 6 ชม. จะเป็นอย่างไร หากต้องรอให้มีการวุกุฟจริง
แล้วพวกเขาไม่คิดบ้างหรือว่า พี่น้อง ที่ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีอินเตอร์เนท  จะเป็นเช่นไร พวกเขาเหล่านี้ได้บุญเพียง 1 ส่วนกระนั้นหรือเพราะความที่เขาจน เท่านั้นจริงๆ หรือ ?

สำหรับคนที่ว่าตามแบบวันสากลทั่วไป สมมุติทางซาอุเขาบอกว่าเห็นเดือนและจะวุกุฟ วันที่ 29
เราก็ทึกทักวันอีด และอะรอฟะ เป็นวันที่ 29 และ 30 เลย ทั้งๆ ที่ซาอุ ยังไม่ถึงวันอะรอฟะ
หากคิดอย่างคนทั่วไป ตามวันสากลแล้ว ดันเกิดกรณีพายุมาอย่างรุนแรง ณ เวลา ตี 5 ของซาอุ และทำให้ ไม่มีการวุกุฟ พี่น้องจะออกอีดวันที่ 30 ได้หรืออย่างไร ?
เพราะหากเราเข้าไปแล้ว อย่าลืมเวลาเราก่อนเขา 4 ชม. เราถือศีลอดวันอะรอฟะไปแล้วนั้น
แต่ซาอุ กลับประกาศยกเลิก ณ  เวลา ตี 5 ด้วยพายุที่โหมกระหน่ำแล้วไซร้ ก็จะไม่มีวุกุฟ ทันที ( เพราะไม่ได้กำหนดว่า วันอะรอฟะต้องวันที่ 9 เท่านั้น ก็เปลี่ยนวันอะรอฟะเป็น 10 แทน)
แล้วที่ว่า หลังจากนั้นคือวันอีด (หากนับต่อจากวันนั้น ณ เวลานั้น) ก็จะกลายเป็น เราออกอีด และละหมาดกัน ในวันวุกุฟ แน่นอน ครับพี่น้อง



ดังนั้น ดาราศาสตร์ จึงเป็น ฟัรดูกิฟายะ ที่ชุมชนจะต้องเรียนรู้ มิใช่ปล่อยปละละเลย.. .



วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 11, 2007, 06:18 AM โดย Goddut »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธ.ค. 30, 2006, 01:22 AM »
0
السلام عليكم وحمة الله وبركاته

คุณ Goddut  جزاك الله أحسن الخير  ครับ  สิ่งที่คุณนำเสนอมานั้น  ถูกต้องแล้วครับ   งั้นผมขอชี้แจงเสริมต่อไปน่ะ อินชาอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธ.ค. 30, 2006, 05:34 AM »
0
ไว้ผมกลับมา จะมาต่อในเรื่อง เดือนในอิสลาม หรือ ปฏิทินอิสลาม นะครับ

หากใครจะร่วมเสวนา หรือเสนอแนวคิดอย่างไร ก็เข้ามาได้นะครับ

ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในการแลกเปลี่ยนความรู้

หากผมผิดพลาดประการใด อันเกิดจากความเจตนา หรือไม่เจตนา

พี่น้อง ทั้งหลายก็ ช่วยตรวจสอบ และบอกผมให้ได้ทราบด้วยนะครับ

วัสลาม...

ออฟไลน์ muhib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธ.ค. 31, 2006, 04:29 AM »
0
อัสลามุอะลัยกุมทุกๆท่าน
ผมได้รับข้อความเชิญจากคุณGoddut  และยินดีที่ได้เข้ามาร่วมในเว็บน้องใหม่นี้
มาร่วมสนทนาในเรื่องดาราศาสตร์อิสลาม ซึ่งเป็นวิชาที่ผมให้ความสนใจมากเช่นกัน
เนื่องด้วยปัญหาที่มุสลิมจะต้องเกี่ยวพันในการกำหนดวันของอิสลามและการอิบาดะฮฺด้วย
ตั้งแต่เรายังเป็นเด็กๆก็ได้รับรู้ปัญหาการเข้าวันไหนในเราะมะฎอน  วันไหนจะอีด วันไหนจะเริ่มหัจญฺ
คาดว่าปัญหาสัก50ปีก่อนคงไม่ค่อยมีเพราะต่างคนต่างดูประเทศใครประเทศมัน อย่างดีก็ได้ฟังเสียงตักบีรทางวิทยุของมาเลเซีย เริ่มมีปัญหาก็ตอนมีโทรทัศน์ และโทรเลข  ทำให้ผู้ใหญ่ของเราควบมอเตอร์ไซท์ส่งข่าวกันตอนดึก  และเริ่มวุ่นวายเมื่อติดต่อโทรศัพท์กันง่ายสะดวกการส่งข่าวรวดเร็วด้วยระยะทาง5-6000 กม.ภายในนาทีเดียวยิ่งทำให้พลาดหนักเข้าไปอีก
การส่งข่าวก็ได้รับทั้งถูกและผิดด้วย


เมื่อสาอุดี จีน หรือลิเบียหรือปรเทศที่ห่างไกลโกหกเรื่องเห็นฮิลาลเราไม่สามารถไปตรวจสอบได้
และมาผสมกับไม่เข้าใจการเคลื่อนที่ของโลกและดวงจันทร์ทำให้มีการแจ้งผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดระยะยี่สิบปีมานี้  โดยการแจ้งว่าเห็นฮิลาลในขณะที่จันทร์ดับอย่างที่เกิดซ้อนมา ทั้งสามสี่ปีนี้ด้วย
และสดๆร้อนจากทั้งเราะมะฎอนและ ซุลหิจญะฮฺทั้ง ปี1426-1427 นี้ด้วย
มุสลิมเราต้องเข้าเราะมะฎอนผิดวันกันหลายล้านคน และเข้าวันวุกูฟ วันอีดอัฎฮาผิดอีกหลายล้านคน
ทั้งที่ทีเราสายสุนนีมีอุละมาทางดาราศาสตร์ก็มาก มีเครื่องไม้เครื่องทางวิทยาศาสตร์มากมาย
แต่เรากลับไปยอมรับการโกหกของคนที่แจ้งว่าเห็นฮิลาลในตอนนิวมูน
ความจริงน่าจะมีบทลงโทษด้วยซ้ำเพื่อป้องกันไม่ให้มีการรีบแจ้งหรือแย่งกันแจ้งเพื่อหวังเงินเพียง600ริญาล  หรือจากการที่เรารับการแจ้งและรับหลักการปฏิญาณตนเพียงเท่านั้น
มุสลิมควรมีมาตรการที่ต้องรัดกุมมากกว่านี้  อย่างมาเลเซียทราบว่าก่อนดูเดือนจะมีการอบรมกันก่อน และส่งเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมเหล่านั้นกระจายกันไปตาม จว.ต่างๆก่อนวันที่จะดู
ถ้าเจ้าหน้าที่นับร้อยๆคนบอกว่าไม่เห็นก็เป็นอันไม่รับ เมืองไทยเรา หรือสาอุดีก็น่าจะทำได้
 รับอาสาสมัคร100 คนมาอบรมก่อนสามวันเรื่องดาราศาสตร์อิสลาม แล้วกระจายคนเหล่านี้ไปตามจว.ต่างๆ 
แล้วอบรมมุสลิมในท้องถิ่นต่างๆให้ดูเดือนเป็นจริงๆ


ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธ.ค. 31, 2006, 09:01 PM »
0
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

ยินดีที่คุณ muhib เข้าร่วมให้เวปน้องไหม่ของเรา  อัลฮัมดุลิลลาห์   ทราบว่าคุณและคุณ Goddut  ศึกษาและให้ความสนใจเกี่ยวกับดาราศาสตร์เป็นพิเศษ  ซึ่งเราชาวเวปนักศึกษาอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ จากแนวทางมัซฮับทั้งสี่   ขอให้ท่าน ๆ ที่มีความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์  ทำการเสวนาชี้แจงรายละเอียด  ถามข้อสงสัย  และให้ความเข้าใจกับเราตามหลักการของดาราศาสตร์อิสลาม  อินชาอัลเลาะฮ์     
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธ.ค. 31, 2006, 09:19 PM »
0
ทั้งที่ทีเราสายสุนนีมีอุละมาทางดาราศาสตร์ก็มาก มีเครื่องไม้เครื่องทางวิทยาศาสตร์มากมาย  แต่เรากลับไปยอมรับการโกหกของคนที่แจ้งว่าเห็นฮิลาลในตอนนิวมูน ความจริงน่าจะมีบทลงโทษด้วยซ้ำเพื่อป้องกันไม่ให้มีการรีบแจ้งหรือแย่งกันแจ้งเพื่อหวังเงินเพียง600ริญาล  หรือจากการที่เรารับการแจ้งและรับหลักการปฏิญาณตนเพียงเท่านั้น  มุสลิมควรมีมาตรการที่ต้องรัดกุมมากกว่านี้  อย่างมาเลเซียทราบว่าก่อนดูเดือนจะมีการอบรมกันก่อน และส่งเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมเหล่านั้นกระจายกันไปตาม จว.ต่างๆก่อนวันที่จะดู  ถ้าเจ้าหน้าที่นับร้อยๆคนบอกว่าไม่เห็นก็เป็นอันไม่รับ เมืองไทยเรา หรือสาอุดีก็น่าจะทำได้  รับอาสาสมัคร100 คนมาอบรมก่อนสามวันเรื่องดาราศาสตร์อิสลาม แล้วกระจายคนเหล่านี้ไปตามจว.ต่างๆ   แล้วอบรมมุสลิมในท้องถิ่นต่างๆให้ดูเดือนเป็นจริงๆ

ผมเห็นด้วยกับมาตรการนี้เป็นอย่างยิ่งครับ  เนื่องจากมีผลในการรับข้อมูลข่าวสารและยืนยันการดูเดือนที่น่าเชื่อถือได้  ตามหลักการของศาสนา
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ม.ค. 01, 2007, 04:33 AM »
0
ดาราศาสตร์กับการดูเดือน

อิสลามไม่ต่อต้านวิชาความรู้และยังฝ่าฟันความยากลำบากในวิธีทางของมัน ยิ่งกว่านั้น  อิสลามกลับส่งเสริมให้มีการเรียนรู้  ใช้ความคิดและพิจารณาใคร่ครวญเกี่ยวกับจักรวาล  และคัดสรรทฤษฏีต่าง ๆ ของจักรวาลที่เป็นคุณประโยชน์แก่มวลมนุษย์

อัลเลาะฮ์ ตะอาลา  ทรงตรัสว่า

 قُلِ انظُرُواْ مَاذَا فِي السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ

"จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด)  พวกเจ้าจงพิจารณาสิ่งที่อยู่ในบรรดาฟากฟ้าและแผ่นดิน" ยูนูส 101

قُلْ سِيرُوا فِي الْأَرْضِ فَانظُرُوا كَيْفَ بَدَأَ الْخَلْقَ

"จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) จงท่องเที่ยวไปตามแผ่นดินแล้วพิจารณาดูว่าพระองค์ทรงให้บังเกิดอย่างไร" อัลอังกะบูต 12

วิชาดาราศาสตร์(ฟะลัก) เป็นสาขาวิชาหนึ่งที่อัลกุรอานได้เรียกร้องให้ทำการรู้จักและศึกษา  เพื่อทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของจักรวาลและรู้ถึงความเร้นลับต่าง ๆ ของมัน   ดังกล่าว  อัลเลาะฮ์ ตะอาลา  ทรงตรัสว่า

وَجَعَلْنَا اللَّيْلَ وَالنَّهَارَ آيَتَيْنِ فَمَحَوْنَا آيَةَ اللَّيْلِ وَجَعَلْنَا آيَةَ النَّهَارِ مُبْصِرَةً لِتَبْتَغُواْ فَضْلاً مِّن رَّبِّكُمْ وَلِتَعْلَمُواْ عَدَدَ السِّنِينَ وَالْحِسَابَ وَكُلَّ شَيْءٍ فَصَّلْنَاهُ تَفْصِيلاً

"และเราได้ทำให้กลางคืนและกลางวันเป็นสองสัญญาณ  ดังนั้น เราทำให้สัญญาณของกลางคืนมืดมน และเราได้ทำให้สัญญาณของกลางวันมีแสงสว่าง เพื่อพวกเจ้าจะได้แสวงหาความโปรดปรานจากพระเจ้าของพวกเจ้า  และเพื่อพวกเจ้าจะได้รู้จำนวนปีทั้งหลายและการคำนวณและทุกๆสิ่งเราได้แจกแจงมันอย่างละเอียดแล้ว" อัลอิสรออฺ 12
และพระองค์ทรงตรัสว่า

وَالشَّمْسُ تَجْرِي لِمُسْتَقَرٍّ لَّهَا ذَلِكَ تَقْدِيرُ الْعَزِيزِ الْعَلِيمِ

"และดวงอาทิตย์โคจรตามวิถีของมัน นั่นคือ การกำหนดของพระผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงรอบรู้"

وَالْقَمَرَ قَدَّرْنَاهُ مَنَازِلَ حَتَّى عَادَ كَالْعُرْجُونِ الْقَدِيمِ

"และดวงจันทร์นั้น เราได้กำหนดให้มันโคจรตามตำแหน่ง จนกระทั่งมันได้กลายมาเป็นเช่นกิ่งอินทผลัม"

لَا الشَّمْسُ يَنبَغِي لَهَا أَن تُدْرِكَ الْقَمَرَ وَلَا اللَّيْلُ سَابِقُ النَّهَارِ وَكُلٌّ فِي فَلَكٍ يَسْبَحُونَ

"ดวงอาทิตย์ก็ไม่สมควร (อนุมัติ) แก่มันที่จะไล่ตามใกล้ดวงจันทร์ และกลางคืนก็จะไม่ล้ำหน้ากลางวัน และทั้งหมดนั้นจะเวียนว่ายอยู่ในจักรราศี" ยาซีน 38 - 40

บรรดานักปราชญ์มุสลิมต่างรอบรู้ในวิชาดาราศาสตร์เป็นอย่างดี และมีความสามารถในการคำนวนส่วนต่าง ๆ ของหลักวิชาดาราศาสตร์  โดยนำมาปฏิบัติการเพื่อรับใช้ศาสนาอิสลามของพวกเขา  ดังนั้น  พวกเขาจึงทำการคำนวนเวลาของแสงอรุณขึ้น  ดวงอาทิตย์ขึ้น  เวลาละหมาดซุฮริ  ละหมาดอัสริ  ละหมาดมัฆริบ  และละหมาดอีชาอ์  จนกระทั่งมุอัซซินทำการอะซานด้วยการดูปฏิทินที่ระบุเวลาละหมาดโดยปฏิบัติตามการคำนวนของดาราศาสตร์  ในขณะเดียวกันบรรดามุสลิมได้ละทิ้งการชี้แนะวิธีการวัดไม้กับพื้นดินเพื่อดูเงาของมัน  และบางครั้งผู้คนต้องการเอาไม้มาวัดและดูไปที่เงาของมันในช่วงที่ไม่มีนาฬิกาและไม่รู้เวลาต่าง ๆ ของละหมาด  ดังนั้น  หลักการของศาสนา ได้นำมาซึ่งความง่ายดายและอำนวยความสะดวกแก่มัคโลคทั้งหลาย  เนื่องจากอิสลามเป็นศาสนาระดับโลกและเป็นศาสนาของพระเจ้าแห่งสากลโลก  และกรณีนี้  ก็ไม่ได้หมายความว่า  การกำหนดเวลาต่าง ๆ ของละหมาดและการถือศีลอดด้วยวิธีคำนวนตามหลักดาราศาสตร์นั้น  เป็นการขัดแย้งกับแนวทางของท่านนบี  และเป็นเรื่องน่าแปลก  ที่เราไม่พบว่ามีการขัดแย้งในกรณีของการละหมาด  แต่เราจะพบว่าการขัดแย้งได้เกิดความรุนแรงในกรณีของการถือศีลอด  ทั้งที่การละหมาดมีความสำคัญกว่าการถือศีลอด

สำหรับสิ่งที่มาเจาะจงการถือศีลอดในเดือนร่อมะฏอนนั้น  คือการเห็นจันทร์เสี้ยวด้วยตา  ซึ่งเป็นรากฐานเดิมในการยืนยันวันเริ่มต้นของเดือนอาหรับทั้งหมด  ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นคือ เดือนรอมะฏอน  เนื่องจากพระองค์ทรงตรัสว่า

فَمَن شَهِدَ مِنكُمُ الشَّهْرَ فَلْيَصُمْهُ

"ดังนั้นผู้ใดในหมูพวกเจ้าได้ประจักษ์ชัดเดือนนั้นแล้ว ก็จงถือศีลอดในเดือนนั้น"

และท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า

"พวกท่านจงถือศีลอดด้วยการเห็นเดือนเสี้ยวและจงออกร่อมะฏอนด้วยการเห็นเดือนเสี้ยว" รายงานโดย มุสลิม

นอกเหนือจากกรณีที่สามารถยืนยันการเห็นเดือนด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์โดยมติแล้ว  จึงไม่เป็นที่สงสัยว่า  เดือนเสี้ยวนั้น  เป็นปรากฏการณ์แห่งจักรวาลที่ได้รับการยืนยันแน่นอน  โดยไม่มีข้อขัดแย้งใด ๆ ว่าสามารถเห็นด้วยตาเปล่าเมื่อเงื่อนไขต่าง ๆ ของการดูด้วยตาเปล่านั้นมีครบสมบูรณ์  และดังกล่าวนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่รู้กันตามทัศนะของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ   และบรรดามุสลิมและอื่นจากพวกเขาก็ทราบดี  เพราะว่าการเกิดจันทร์เสี้ยวนั้น  เป็นข้อเท็จจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ที่มั่นใจด้วยมติของนักปราชญ์ดาราศาสตร์และการคำนวน  ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่คาดคะเน(ซ๊อนนีย์)

ท่านชัยคุลอิสลาม อัศซุบกีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์) ได้ถูกถามเกี่ยวกับผู้ที่เห็นเดือนเสี้ยวโดยมีพยานยืนยันเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น  และการคำนวน(ทางดาราศาสตร์) ได้ยืนยันความโกหกของเขา  ดังนั้น  ท่าน ชัยคุลอิสลาม อัศซุบกีย์  ตอบด้วยการอธิบายอย่างยืดยาว  ส่วนหนึ่งคือ " ประเด็นนี้  มีอีกรูปแบบหนึ่ง  คือการคำนวนที่ชี้ถึงไม่สามารถเห็นเดือนได้และสิ่งดังกล่าวสามารถรับรู้ด้วยหลักการที่เด็ดขาดและในลักษณะที่เดือนเสี้ยวก็อยู่ใกล้กับดวงทิตย์มากที่สุดด้วย(คือเมื่อจันทร์เสี้ยวอยู่ระดับใกล้ดวงทิตย์ แสงของดวงอาทิตย์จะทำให้ไม่เห็นจันทร์เสี้ยว)  เพราะฉะนั้น  ในลักษณะนี้  จึงไม่สามารถกำหนดการเห็นเดือนของเราตามนัยที่เห็นด้วยตาได้  เนื่องจากเป็นสิ่งที่เป็นไม่ได้(ที่จะเห็น)  ดังนั้น  หากมีผู้บอกเล่าคนหนึ่งหรือมากกว่านั้น  ซึ่งผู้ที่สามารถคาดการได้ว่าการบอกของเขานั้นอาจความเท็จหรือผิดพลาดก็ได้  ทำการบอกกับเราว่าเห็นเดือน  ดังนั้น  หนทางที่มีน้ำหนัก  ก็คือ ไม่รับคำบอกเล่าดังกล่าว  และให้คาดการว่าการบอกเล่านั้นอาจจะเป็นเท็จหรือผิดพลาด  และหากมีพยานยืนยันเห็นเดือนสองคน  ก็ไม่รับการยืนยันจากเขาทั้งสอง  เนื่องจากการคำนวนนั้น เด็ดขาดกว่า  และการเป็นพยานยืนยันและการบอกเล่า ย่อมเป็นเพียงการคาดคะเน (ซ๊อนนีย์)  และนอกเหนือจากการที่ความเด็ดขาดย่อมอยู่ก่อนการคาดคะเนแล้ว  การคาดคะเนก็ไม่สามารถมาคัดค้านกับความเด็ดขาดได้  และหลักชี้แจงยืนยันนั้น  เงื่อนไขของมันก็คือ  สิ่งที่ได้เป็นพยานยืนยันนั้น  สามารถรู้ได้ด้วยหลักการสัมผัส(เห็น)ได้  หลักสติปัญญา และหลักการของศาสนา  ดังนั้น  เมื่อการคำนวนได้กำหนดอย่างเด็ดขาดแล้วว่า  ไม่สามารถเห็นเดือนได้  แน่นอน  ก็ไม่สามารถรับข่าวยืนยันการเห็นเดือนได้ตามหลักศาสนา  เนื่องจากไม่สามารถเห็นเดือนได้  และศาสนาย่อมไม่นำมาซึ่งบรรดาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้"  ดู  ฟะตาวา อัศซุบกีย์  ของท่าน ชัยคุลอิสลาม ตะกียุดดีน อัศซุบกีย์ เล่ม 1 หน้า 209

ด้วยเหตุนี้  เราจะเห็นว่า  ที่ดีกว่าคือยึดหลักคำนวนทางดาราศาสตร์  โดยที่หลักคำนวนดาราศาสตร์นั้น ได้รับการทดสอบที่เด็ดขาดแล้ว จากสิ่งที่สามารถยึดหลักการนี้ได้  สามารถให้ผลที่เด็ดขาดได้  ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น   สำหรับการเห็นเดือนด้วยตาเปล่า  มีตัวบทระบุ  แต่การเห็นอาจจะเป็นการคาดคะเน  เนื่องจากอาจจะสิ่งกีดขวางต่าง ๆ มากั้นขวางการเห็นเดือนด้วยตา  ซึ่งการยึดหลักการคำนวนตามหลักดาราศาสตร์ย่อมอยู่ก่อนในขณะที่มีการค้านกัน  วัลลอฮุอะลัมวะอะลัม 

-----------------
อ้างอิงจากหนังสือ อัลบะบาน ลิมายัชฆ่อลุ อัลอัซฮาน  หน้า 297 - 299   ของท่าน มุฟตีประเทศอียิปต์  ศาสตราจารย์ ดร. อลี ญุมอะฮ์ 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ นายส้มปาก

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 11
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ม.ค. 01, 2007, 12:55 PM »
0
ครับ ผมเห็นด้วยครับ สิ่งที่คุณกอดดัรและคูณมูฮิบครับคุณอัลอัชฮารีย์   และได้ความรู้ที่ถูกต้องด้วย..ญาซากัลลออูคอยรอนทุกคนครับ อามีนยารอ็บบินอาลามีน

ออฟไลน์ muhib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ม.ค. 01, 2007, 05:13 PM »
0
อัสลามุอะลัยกุม
1  .ตรวจดูสถานที่ไม่มีอาคารตึกบังท้องฟ้าด้านตะวันตกโล่งสว่าง.
2  ตั้งเวลานาฬิกาของท่านให้ตรง 
3.บันทึกการเห็นของท่าน เวลา องศา และเวลา นมาซมัฆริบของตำบลนั้น.
 4  มีเข็มทิศที่บอกองศา และบันทึกเวลาตกและองศาที่ตก หรือดวงจันทร์ตกห่างจากจุดตกของดวงอาทิตย์หรือบอกว่าอยู่ด้านซ้ายหรือทางขวาของดวงอาทิตย์.
 5  ในฤดูร้อนดวงอาทิตย์จะตกไปทางด้านทิศเหนือ จากเข็มทิศ จะดก เกินจาก 270 องศา-285 องศา
 และฤดูหนาว  ดวงอาทิตย์จะตกทางด้านใต้จาก 245 -270 องศา โดยประมาณ
 สาเหตูเพราะการปัดเอียงของแกนโลก  เช่นเดียวกับการที่เราเห็นดวงจันทร์ตก
 บางครั้งทางขวา หรือซ้ายของดวงอาทิตย์  การเห็นฮิลาลขึ้น 1 ค่ำ อาจจะเห็นได้
หลังจากดวงอาทิตย์ตกไปแล้วประมาณ 10 นาที  และการเห็นอยู่ในระยะเวลาสั้นมาก
อาจแค่ 1นาทีถึง10 นาที และจะตกไป ส่วนค่ำต่อมา จะเห็นดวงจันทร์สูงขึ้น
 หนาขึ้น และเวลา ตกจะค่อยๆนานขึ้น บันทึกหางปรือปลายแหลมของดวงจันทร์ว่า
ปลายด้านขวา อยู่ที่เลขนาฬิกาอะไร
  และปลายด้านซ้าย อยู่ที่เลข นาฬิกา ใด   การที่ใครรับแจ้งต้องถามอย่างนี้
 เพราะจะรู้ได้ทันทีเลยว่าคนแจ้งว่าเห็นฮิลาลนั้นเห็นจริงหรือโกหก
ซึ่งเราจะเห็นว่าเวลาข้างขึ้นนั้นจะเห็นว่าลักษณะดวงจันทร์จะหงายขึ้นเหมือนเขาควายหงายขึ้น
 อาจจะเอียงซ้ายหรือขวาก็ได้ขึ้นอยู่ว่าดวงจันทรอยู่สูงกว่าดวงอาทิตย์ทางด้านขวาหรือซ้ายนั่นเอง
วิธีง่ายๆอย่างนี้เป็นการรับแจ้งและแจ้งข่าวการเห็นฮิลาลได้รัดกุม
ผมอาจเรียบเรียงไม่ดีนักเพราะพิมพ์โดยไม่ได้ทบทวน  ขอสมาชิกเรียงกันเองนะครับ

แล้วจะเขียนมาใหม่

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ม.ค. 01, 2007, 08:18 PM »
0
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

جزاك الله أحسن الخير ครับคุณ muhib  กระทู้นี้  เราเปิดให้ผู้มีความรู้ทำการชี้แจงและให้ความรู้กับเราเกี่ยวกับ ดาราศาสตร์โดยเฉพาะครับ  หากคุณ muhib มีภาพมาประกอบด้วย  ก็จะดีไม่ใช่น้อยเลย  ยังไงก็ตามสะดวกล่ะกันครับ

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ muhib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ม.ค. 02, 2007, 02:31 AM »
0
ดาราศาสตร์ไม่ใช่โหราศาสตร์
By เว็บมาสเตอร์


มีบางคนเข้าใจความหมายของหะดีษเกี่ยวกับการทำนายที่กล่าวว่า "ใครก็ตามที่แสวงหาการทำนายล่วงหน้าจากหมอดูหรือนักโหราศาสตร์ เท่ากับเขาได้ปฏิเสธสิ่งที่มุฮัมมัดนำมาเผยแผ่" ไปในลักษณะผิดๆ เราต้องจดจำใส่ใจเอาไว้ว่า โหราศาสตร์หรือการดูหมอนั้นเป็นการทำนายทายทักที่ต่างกับดาราศาสตร์ เพราะดาราศาสตร์เป็นวิชาการทางวิทยาศาสตร์ สร้างสรรค์อยู่บนความจริงที่แข็งแรง และเป็นการคำนวณที่ถูกต้องแม่นยำ

ท่านรสูล ศ็อลฯ กล่าวอย่างนั้น เพราะมุ่งหมายที่จะเตือนอุมมะฮฺของท่านให้ระวังความเชื่องมงายและการตัดสินใจอย่างสุ่มๆ ท่านต่อสู้คัดค้านเพื่อมิให้ต้องตกเป็นเหยื่อมารยาของหมอดู ซึ่งแกล้งทำเป็นว่ารู้เรื่องพระเจ้า ซึ่งมีแต่พระองค์เท่านั้นที่รู้ อัลลอฮฺ สุบหฯ ตรัสว่า "แท้จริงอัลลอฮฺ ณ พระองค์คือผู้ทรงความรู้ในเรื่องกาลอวสานของโลก และพระองค์ทรงหลั่งน้ำฝนลงมา และพระองค์ทรงรอบรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในมดลูก..... " (31:34)

"จงประกาศเถิดว่า ใครก็ตามไม่ว่าจะอยู่ในฟากฟ้าหรือในแผ่นดิน ไม่สามารถรู้สิ่งลึกลับได้ เว้นแต่พระองค์เท่านั้น และพวกเขาจะไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะถูกฟื้นขึ้นอีกเมื่อใด" (27:56)

ท่านอิมามฆ่อซาลีก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน คือวิชาดาราศาสตร์ต่างกับโหราศาสตร์อย่างสิ้นเชิง โหราศาสตร์เกี่ยวข้องกับการคาดคะเนอนาคตของมนุษย์ โดยอาศัยสังเกตการณ์จากตำแหน่งของดาวบ้าง ดวงอาทิตย์บ้างและดวงจันทร์บ้าง หรือไม่ก็พวกดาวเคราะห์ต่างๆ ในการอนุมานสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับมนุษย์ในสมัยก่อนๆ อิสลามห้ามมิให้เชื่อถือและห้ามมิให้นำมาปฏิบัติ

แต่วิชาดาราศาสตร์นั้นเกี่ยวข้องเพียงแต่การโคจรของดาวฤกษ์ ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ต่างๆ และดวงจันทร์เท่านั้น ซึ่งหลักศาสนามิได้ปฏิเสธมัน ตรงกันข้าม วิชาดาราศาสตร์เป็นเครื่องมือชี้ให้มนุษย์รู้จักการกำหนดปี เดือนและวันสำหรับการละหมาด การเข้าสู่ศีลอด ออกจากศีลอดและการประกอบพิธีฮัจย์

from
        http://www.hilalthailand.com


 

GoogleTagged