ผู้เขียน หัวข้อ: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม  (อ่าน 45992 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ muhib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ม.ค. 02, 2007, 02:49 AM »
0
ลักษณะของจันทร์เสี้ยวที่ปรากฎในท้องฟ้าของไทย แต่ในวันที่21 ธค.49 นั้นบางมากจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเช่นเดียวกันกับที่อินเดีย บังกลาเดส ปากิสตาน ฉนั้นเขาจึงนับวันที่ 22 ธค.49เป็นวันสุดท้ายของซุลเกาะอฺดะฮฺ1427  และวันที่23 ธค49 เริ่มเป็น 1ซุลฮิจญะฮฺ นี่คือปฏิทินที่แน่นอนของพระองค์อัลลอฮฺตะอาลา
เอยู่ที่ไหนเราก็นับวันจากท้องในตำบลของเรา เป็นสุนนะฮฺของท่านนบีฯศ้อลลัลลอฮุฯ
ซึ่งท่านอยู่ที่มะดีนะฮฺไม่ปรากฏเลยว่าท่านจะสั้งให้คนส่งข่าวการเห็นเดือนจากมักกะฮฺไปให้ท่านทราบ
แถมยังสั่งเป็นบทตายตัวเลยว่า เมื่อท้องฟ้ามีเมฆมืดปกคลุมซึ่งไม่สามารถเห็นฮิลาลด้าน ก็จงนับให้ครบ สามสิบวัน


http://www.crescentmoonwatch.org/cgibin/doit.cgi?program=moonviz&d01=&d02=&d03=&d04=&d05=&d06=&d07=&d08=&d09=&d10=&d11=&d12=&d13=&placename=Bangkok&latdeg=13&latmin=44&londeg=100&lonmin=30&eastwest=E&northsouth=N&description=&timezone=%2D0700

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ม.ค. 02, 2007, 03:25 AM »
0
เข้ามากระทู้นี้  ทำให้ผมหวนนึกตอนอยู่ปอเนาะระดับมัธยม ก็เคยเรียนวิชาฟะลัก  แต่ตอนที่ผมเรียนนั้น  ไม่ได้อธิบายบทนำละเอียดอย่างนี้  เนื่องจากว่า เรายังเด็กอยู่และเน้นวิธีการคำนวนเดือนเข้าและเดือนออกของรอมะฏอนเท่านั้น  ดังนั้น กระทู้นี้  ถือว่าเป็นการจุดประกายให้เราได้กลับมาทบทวนเกี่ยวกับวิชาดาราศาสตร์(ฟะลัก) อีกครั้ง  หลังที่เรามุ่งศึกษาวิชาการสาขาอื่น ๆ จนกระทั้งละเลยวิชาฟะลัก

เราขอให้คุณ muhib และคุณ Goddut  นำเสนอเพื่อเป็นคุณประโยชน์ต่อไปครับ  เราจะติดตามและร่วมเสวนา  อินชาอัลเลาะฮ์   
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ muhib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ม.ค. 02, 2007, 05:27 PM »
0
อัสลามุอะลัยกุม
ขอแนะนำหนังสือนักดาราศาสตร์มุสลิมน่าจะมีไว้
ชื่อ: อัลฟาลัก (ดาราศาสตร์ปฏิบัติสำหรับมุสลิม)
รายละเอียด: (ปกอ่อน)
เขียน - นิแวเต๊ะ ฮะยีวามิง
สนพ.อิสลามิค อะเคเดมี่

หนังสืออัลฟาลัก ดาราศาสตร์ปฏิบัติสำหรับมุสลิม ที่ท่านถือยู่นี้ นับเป็นนิมิตใหม่ในแวดวงหนังสือ ที่ความรู้ดาราศาสตร์แนวอิสลามได้ถูกนำเสนออย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด หลังจากงานชิ้นเล็กๆออกมาอยู่ประปรายและกระจัดกระจายอยู่ในที่ต่างๆ โดยเฉพาะในแวดวงมุสลิม

ผศ.นิแวเต๊ะ หะยีวามิง ได้ใช้ความอุตสาหอย่างมากในการจัดระบบการศึกษา อัลฟาลักตามแนวทางที่นักวิทยาศาสตร์มุสลิมได้ปูทางเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นประวัติอัลฟะลักโดยสังเขป และเรื่องราวของอัลฟาลักที่ถูกกล่าวถึงในคัมภีร์อัลกุรอาน ดาราศาสตร์พื้นฐาน หลักการคำนวนจักรวาลและจุดกำเนิด ตัวเลขที่ปรากฎในวิชาดาราศาสตร์ ฯลฯ ที่สำคัญที่สุดคือทุกบทของหนังสือเล่มนี้ จะมีแบบฝึกหัดให้นักศึกษาและผู้สนใจได้ทดสอบความรู้ ความสามารถของตัวเองอย่างเป็นระบบ และหนังสือเล่มนี้อีกเช่นกันที่มุสลิมจะรู้แจ้งแทบตลอดในประเด็นเกี่ยวกับเวลาละหมาดทั้ง 5 ครั้ง ทิศกิบลัต การใช้คอมพิวเตอร์ในการคำนวน การเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ จันทร์ดับ ปฏิทิน ฮิจเราะห์ศักราชและการสังเกตจันทร์เสี้ยว

หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย 9 บท บทที่ 1-2 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับดาราศาสตร์และความรู้ของวิชาดาราศาสตร์ที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม บทที่ 3,4และ 5 เป็ฯบมพื้นฐานของการคำนวนวัตถุบนท้องฟ้า บทที่ 6 เป็นการคำนวนเวลาละหมาดทั้ง 5 เวลา บทที่ 7 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการหาทิศกิบลัตหรือทิศของมัสยิดฮารอมแห่งเมืองมักกะฮฺ บทที่ 8 เป็นเรื่องการคำนวนเวลาละหมาดและทิศกิบลัตโดยใช้คอมพิวเตอร์ การสร้างตารางละหมาดของทุกตำบลทั่วประเทศตลอดทั้งปี บทที่ 9 ว่าด้วยเรื่องของดวงจันทร์ การกำหนดวันต้นเดือนของจันทรคติ การสังเกตจันทร์เสี้ยวและการจัดทำปฏิทินฮิจเราะห์

ในภาคผนวกได้รวบรวมข้อมูลพื้นฐานที่จะเป็นสำหรับการคำนวนทางดาราศาสตร์อิสลามหรือที่เรียกว่าอัลฟาลัก เช่น ตารางแสดงค่าลองติจูดและแลตติจูดของทุกอำเภอทั่วประเทศ ตารางค่าดิคลิเนชั่น ค่าสมการของเวลาของดวงอาทิตย์ตลอดทั้งปี ค่าวัน เวลาการเกิดจันทร์ดับทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อต้องการคำนวนเวลาละหมาดและกำหนดวันต้นเดือนทางจันทรคติ
ราคา: 290.00
http://www.thaimuslimshop.com/Cart/description.php?II=300&UID=2004092609020266.249.65.80



ออฟไลน์ muhib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ม.ค. 02, 2007, 05:55 PM »
0
คำตอบของผมที่เคยเขียนในเว็บมรดกอิสลามเมื่อต้นปี 49

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางเว็บไซท์ทีม งานและ อ.ฟาริด ที่ให้ได้ใช้พื้นที่ในการแสดงทัศนะหนึ่งของผมที่ออกจะแตกต่างกับบรรดาพี่น้องสุนนะฮฺเราในเรื่องการสังเกตติดตามฮิลาล ของประเทศไทย และตะวันออกกลาง และแถบตะวันตก ซึ่งเป็นที่ถกปัญหากันนับแต่หลายสิบปีมา แทบจะกล่าวได้ว่าตั้งแต่เราเริ่มใช้โทรศัพท์ติดต่อกันได้กับสอูดีได้ ก่อนหน้านั้นย้อนหลังไป เราไม่มีปัญหา เพราะใช้ รุอฺยะฮฺ การเห็นฮิลาล จันทร์เสี้ยวโดยสายตาคนเราจริง ซึ่งไม่ว่าทางใต้ กลาง หรือภาคเหนือ ก็แทบจะไม่ทราบเลยว่าเหนือใต้จะออกเข้าพร้อมกันหรือต่างวันกัน นับเป็นความโปรดปรานของพระองค์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน ทำให้เราไม่มีปัญหาได้เข้าออกเราะมะฎอนอีดทั้งสองตามฮิลาลที่ปรากฏให้เห็นในท้องฟ้าตามพื้นที่ของเราจริงๆ

ซึ่งจะไปตรงกับการสังเกตฮิลาลของประชาชาติที่ดีเลิศ หนึ่งพันสี่ร้อยปีก่อน บรรดาท่านเหล่านั้นจะไม่ผิดพลาดวันและเดือนจริงในท้องฟ้า แล้วปัญหานี้มาเกิดขึ้นเมื่อมีคนเริ่มใช้ปฏิทินไทย ปฏิทินจีนที่คำนวณมาทักท้วง ว่าเดือนของปฏิทินเขาขึ้นสองค่ำแล้ว เราต้องผิดพลาดแน่ๆ หรือฟังวิทยุโทรทัศน์ต่างประเทศ

ที่ทางทีมงานได้ถามผมว่า อ.นคร ทนุวงษ์ ผู้ทรงความรู้ซึ่งผมนับถือท่านเช่นกันและถือว่าท่านเป็นอาจารย์อีกท่านหนึ่งด้านดาราศาสตร์ ท่านคำนวณไว้ตามที่กล่าวข้างต้น นั้นเป็นปฏิทินการคำนวน (ซึ่งเราผู้สนใจดาราศาสตร์ได้คำนวณตรงกันจะต่างกันนิดหน่อย เรื่องลิบดา วิลิบดาวินาทีก็ใช้การปัดเศษส่วน)ที่ปรากฏนิวมูนจันทร์ดับมีจันทร์ตกหลังมัฆริบ ซึ่งเรานักดาราศาสตร์คำนวณล่วงหน้าไว้หลายสิบปีได้ล่วงหน้า (ซึ่งปฏิทินของผมก็ทำล่วงหน้า ห้าสิบปี) ทุกประเทศจะมีปฏิทินดาราศาสตร์อย่างนี้ แต่สำหรับมุสลิมจะพิเศษอีกอย่างคือคำนวน ว่าจันทร์ตกหลังมัฆริบด้วย ตามที่ท่าน อ.นครท่านได้จัดทำไว้ ที่ทางชมรมดาราศาสตร์มุสลิม ก็จัดพิมพ์อย่างเดียวกันครับ ท่าน อ.นคร ทนุวงศ์ ครูอ.ฮาซาไน และ ท่านอ. ม. ฮซาไน มหานาค อ.สมชัย เรืองทอง ทุ่งครุก็จัด พิมพ์กันมานานแล้ว แม้แต่ ครูต่วน สุวรรณศาสน์ ก็ชอบที่จะทำเช่นกัน และท่านอ.อิสมาอีล ประธาน กกอิสลามนครศรี ส่วนทางสมาคมดาราศาสตร์ไทย ปฏิทิน จีน จะใช้การคำนวน การเกิดของดวงจันทร์ (นิวมูนหรือไทยเรียกจันทร์ดับ) อย่างเดียว.

การมีปฏิทิน คำนวนเรื่องจันทร์ดับ ทำให้สะดวก ในเรื่องการค้า การเดินเรือของสายการบิน การขนส่งทางอากาศ และแม้แต่ในตลาด การซื้อขายหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งผมไม่เข้าใจว่า ทำไมตลาดหุ้นต้องนับเดือน จันทร์ดับ หรือจันทร์เต็มดวงด้วย อันนี้ ต้องให้คนบ้าเล่นหุ้นมาตอบกัน

ในปฏิทินของ ไทยเราจะมี(วันเสาร์ที่31/1/49)จันทร์ดับ 10.12 น. หลังจากนั้น ตอนมัฆริบ 18.00น. และดวงจันทร์จะตก 18.12 น. เราจะเห็นว่ามีจันทร์ค้าง 12 นาที ในประเทศไทย ที่บังกลาเดส มี 13 นาที ที่อุมมาน อรับ อิมาร้อต มี14-15 นาที และ สาอุดี มี18-19 นาที ส่วน มัคริบี มอร้อคโค ก็ 24 นาที เราจะสังเกตว่า 12 นาที คือสูงกว่าดวงอาทิตย์ 3 องศา ในดูบัย ห่างดวงอาทิตย์ 4 องศา ในสาอุ ดวงจันทร์ห่างดวงอาทิตย์5 องศา และมอร้อคโค มี 6 องศา แต่ทั้งหมดนี้ ตั้งแต่ จีนญี่ปุ่น ถึงมอริตาเนีย มอรอคโค จะไม่สามารถ เห็นฮิลาลได้ เพราะแสงจ้าของดวงอาทิตย์ไปบดบัง หรือบวกกับบรรยากาศของเมฆ ของฝน ที่ปกคลุมท้องฟ้าในฤดูหนาวนี้อีก ทำให้เรายิ่งเห็นจันทร์เสี้ยวยากขึ้น เราจะเห็นว่า มีหะดีษในเรื่องนี้ ที่ท่านเราะสูล ศ้อลลัลลอฮฺกล่าวว่า อิลาฆุมมะ อะลัยกุม เมื่อถูกบดบังปกคลุม ด้วยเมฆ ด้วยฝนหรืออากาศมืดครึ้ม ท่านจึงให้เรานับเดือนเก่าให้ครบ สามสิบวัน แล้วจึงขึ้นวันใหม่ได้ ผมจึงขอยืนยันว่าเราเข้าเดือนนี้ วันที่2 มค. และเราจะอีด วันพุธที่11 มค.2549 ในเมืองไทยและเอเชียทั้งหมด ส่วนอเมริกาและอัฟริกาใต้อาจมีสิทธ์อีดวันที่10 ได้

ส่วนการเข้าออกเดือนอิสลามจะพิเศษ คือท่านนบีมุหัมมัด ศ้อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ใช้ให้เราเห็นด้วยตาคน จริง รุอฺยะฮฺไม่ใช่เครื่องมือดาราศาสตร์ไม่ใช่ปฏิทินตารางการคำนวณ ไม่ใช่ซอฟ์แวร์โปรแกรม จากคอมพิวเตอร์ ลองกรุณาสอบถามท่าน อ.นคร ฯซิครับ ว่าท่านได้เห็นฮิลาลหรือไม่ หรือพรรคพวกสุนนะฮฺเราทางฝั่งทะเลกระบี่ ภูเก็ต พังงา ว่ามีใครได้เห็นจันทร์เสี้ยวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากันบ้าง หรือจากประเทศอินเดียปากิสตาน บังกลาเดส ซึ่งประเทศดังกล่าวอยู่ใกล้สาอุดีมากกว่าไทยเสียอีกแล้วท่านไม่เอะใจกันบ้างหรือ ทำไมทุกปีมีสาอุ เท่านั้น ที่ประกาศก่อนใครๆทั้งๆที่อุมมาน กอฏอร บะหฺเรน ซูดานยะมัน รอบๆสาอุไม่เห็นฮิลาล.

ฉะนั้นตามที่ผมได้กล่าวไว้แต่ต้นว่ายากที่สาอุจะเห็นฮิลาล และไม่มีรายงานด้วยว่ามีคนจริงๆเห็นฮิลาล มีแต่คำประกาศว่าให้เริ่ม 1ซุลฮิจญะฮฺวันอาทิตย์ที่1 มค.  แต่ถ้ามีการเห็นที่สาอุจริงมอรอคโคมอริตาเนีย ก็จะชัดยิ่งขึ้น เพราะเวลาตกหลังมัฆริบมีมากกว่า (ส่วนไทยหมดสิทธิ์ครับ เพราะดวงจันทร์พ้นความโค้งของโลกไปอยู่แถบอัฟริกา  เรื่องไทยมีสิทธิ์ตามได้หรือไม่ เอาไว้เป็นประเด็นอื่นนะครับ) แต่ก็ไม่มีรายงานว่ามีใครเห็น ถ้าจะเห็นได้ก็มีแถบ อัฟริกาใต้ หรืออะเมริกา

การที่เราไม่เห็นดวงจันทร์เกิดใหม่หรือฮิลาลนี้จึงทำให้เรานับเดือน ซุลเกาะอฺดะฮฺให้ครบสามสิบวันตามที่ท่านศาสดาได้สั่งไว้ เป็นสุนนะฮฺที่เราต้องตามกันเสียบ้าง ถึงแม้ว่าเราคำนวณว่ามีจันทร์ค้างจริงตั่ง 12 นาทีก็ตาม(แต่มองไม่เห็น)  แล้วเราไม่ดีใจหรือที่เราได้ปฏิบัติตามแบบอย่างสุนนะฮฺของท่านศาสดา ของบรรดา สหายศอหาบะฮฺ ของเคาะลีฟะฮฺ อัรรอชิดีนของกลุ่มชนที่ดีเลิศ อีกอย่างหนึ่งเพิ่มขึ้น  ขอท่านผู้ดูแลเว็บไซท์และทางทีมงานกรุณาอย่าลบ ทัศนะของผมทางด้านดาราศาสตร์ที่ทัศนะแตกต่างกัน อินชาอัลลอฮฺ อาจไม่นานนักข้อเท็จ ที่ผมเสนอ คงปรากฏที่น่าจะเอามาใช้ได้
(พระองค์ทรงรู้ดียิ่ง)

ขอพระองค์ทรงโปรดฮิดายะฮฺ และอภัยโทษแด่ผมและท่านทั้งหลายด้วยเถิด ...อามีน ยา ร้อบ..
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 02, 2007, 07:03 PM โดย al-azhary »

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ม.ค. 03, 2007, 09:17 PM »
0
อัสลามุอะลัยกุ้มครับ

บอกตรง ๆ ว่า ผมเองไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ ดาราศาสตร์ สักเท่าไหร่เลยครับ  เข้ามาได้อ่านกระทู้นี้  ทำให้แจ่มแจ้งและมีความเข้าใจอันดีเกี่ยวกับ ดาราศาสตร์ได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ  ขออัลเลาะฮ์ทรงตอบแทนผู้ตั้งกระทู้และคุณ muhib ที่ให้ความรู้แก่เราเกี่ยวกับเรื่องนี้  และผมก็จะติดตามกระทู้ต่อไปครับ 

ออฟไลน์ muhib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 03:16 AM »
0
ขอนำข้อเขียนเก่าของผมในหนึ่งปีก่อน ที่ทักท้วงการเข้าวันของมุสลิมไทยเรา อาจเป็นประโยชน์บ้างแก่น้องๆ

ต้องขออภัยแด่พี่น้องอีกครั้ง ผมขอยืนยันว่าเราจะเข้าเดือนซุลหิจญะ ตามฮิลาลของพื้นที่เราในประเทศไทย คือวันเสาร์ที่31 ธค.48 เราไม่เห็นฮิลาล ฉะนั้นวันอาทิตย์ ที่ 1 มค. 49 จึงเป็นวันที่ 30 ของเดือนซุลเกาะอดะฮฺ
วันอาทิตย์ ที่1 มค. 49 เห็นฮิลาล ปรากฏ ทางด้านซ้าย ที่ดวงอาทิตย์ได้ตกไปก่อนแล้ว ฉะนั้น วัน จันทร์ที่2  มค. จึงเป็นวันที่ 1 ของเดือนซุลหิจยะฮฺ   วันที่ 9 ซุลหิจญะฮฺในเมืองไทย ตรงกับวันอังคารที่10 มค.
ส่วนวันที่10 ซุลหิจญะฮฺ จะตรงกับวันพุธที่11 มค.2549 เป็นวันอีดอัฎฮาที่ถูกต้องตามปฏิทินในท้องฟ้าของพระองค์
ผมต้องบอกพี่น้องไว้ก่อน ก่อนจะถูกสอบสวน
ถ้ามิได้ตรงกับความเข้าใจของพี่น้องหลายท่านก็ต้องขออภัยอีกครั้ง
 
ถ้าบอกว่าเพื่อเอกภาพจะตามเดือนประเทศที่ห่างไกลกันได้แม้ห่างไกลกันแค่ไหนก็ตามถ้าที่ใดเห็นที่อื่นก็ตามได้ ซึ่งจะทำให้ท่านมีปัญหาตอนท้ายเดือนเพราะว่าอัลลอฮฺสุบหานะฮุ วะตะอาลา ให้ท้ายเดือนหนึ่งมี 29 หรือ 30 วัน
จนบางปีเมื่อเราไปตามประเทศอื่นก็เคยทำให้มัสญิดอัลอตีก เคยถือศีลอดกันเพียง 28 วันเอง
 แล้วยังไปออกอีดกันในท้ายเราะมะฎอนอีก  เศร้า สองต่อครับ
เพียงประเทศไทย เรา ความกว้างจากลองกิจูด99-105ด้านตะวันออก ชายแดนไทยถึง ตะวันตก ชายแดนพม่า ก็หลายร้อยกม. ด้าน ละติจูด 8-16จากใต้ที่นราฯถึงเหนือ เชียงราย ก็เกือบสองพัน กม. ไทยเราใหญ่เพียงพอที่จะสังเกตฮิลาลกันได้แล้ว  อย่าปล่อย บะเราะกัตเราะมัต ให้ผ่านมือไปโดยง่ายดายไม่สนใจ ใยดี อะมานะฮฺคนหลายล้านคน มุสลิมอยู่ในการพูดของท่านครูโลกแบนไม่กี่คน  จงหาความปลอดภัยในทัศนะเรื่องนี้  สำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เพราะการทำให้มุสลิมพลาดวันเข้าออกเราะมะฎอน และวันอีดทั้งสองต้องผิดพลาดกันตลอดทั้งชีวิตไม่ใช่เป็นเรื่องล้อเล่น   ชัยค์บินบาซฺชัยค์อิบนุอุษัยมีน ของสาอุดี ที่ฟัตวาไว้ว่าไม่จำเป็นที่ต้องตามเดือนของสาอุดี  ให้แต่ละพื้นที่จงสังเกตดูฮิลาลของแต่ละประเทศกันเอาเอง  ขอให้ช่วยคิดพิจารณาด้วยว่า ท่านชัยค์และศอหาบะฮฺ อิบนุอับบาส มิได้ล้อเล่นกับศาสนา แล้วอย่างอิบนุอับบาส ที่บอกไว้ เราไม่มีสิทธ์เทียบเทียมได้เลย
การที่ท่านให้ท่านกุเรบ ศอหาบะอีกท่านตอนออกอีดให้มาตามฮิลาลของมะดีนะฮฺ ซึ่งก่อนนั้นกุเรบได้เห็นฮิลาลวันศุกร์ แต่มะดีนะฮฺเห็นวันเสาร์หลังชามสีเรีย

ขอพระองค์โปรดอภัยโทษในความรู้อันต้อยต่ำของเรา และได้ทรงโปรด ฮิดายะฮฺทางนำอันถูกต้องแด่เราด้วยเถิด อามีน...

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 02:58 PM »
0

ถ้าบอกว่าเพื่อเอกภาพจะตามเดือนประเทศที่ห่างไกลกันได้แม้ห่างไกลกันแค่ไหนก็ตามถ้าที่ใดเห็นที่อื่นก็ตามได้ ซึ่งจะทำให้ท่านมีปัญหาตอนท้ายเดือนเพราะว่าอัลลอฮฺสุบหานะฮุ วะตะอาลา ให้ท้ายเดือนหนึ่งมี 29 หรือ 30 วัน จนบางปีเมื่อเราไปตามประเทศอื่นก็เคยทำให้มัสญิดอัลอตีก เคยถือศีลอดกันเพียง 28 วันเอง  แล้วยังไปออกอีดกันในท้ายเราะมะฎอนอีก  เศร้า สองต่อครับ

คุณ muhib การดูเดือนในลักษณะนี้  ผมเคยเสวนาที่มุสลิมไทย  ในกระทู้  "เข้าและออกรอมะฏอนพร้อมเพรียงกัน"  ที่ว่า  ลักษณะที่อ้างเอกภาพพโดยยึดเดือนประเทศอื่นนั้น  จะทำให้รอมะฏอนมี 29 วันตลอดไป  เป็นคำพูดที่คาดเคลื่อนหรือเปล่าครับ 

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ muhib

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 03:33 PM »
0
เรียนคุณ al-azhary   ที่กล่าวว่า เข้าและออกรอมะฏอนพร้อมเพรียงกัน"  ที่ว่า  ลักษณะที่อ้างเอกภาพโดยยึดเดือนประเทศอื่นนั้น  จะทำให้รอมะฏอนมี 29 วันตลอดไป  เป็นคำพูดที่คาดเคลื่อนหรือเปล่าครับ 

ตอบ  อย่างรัซเซียมีปัญหาแน่นอน เพราะรุซเซีย ยังอยู่ในซุลเกาะอฺดะฮฺได้28วันเท่านั้น พอมีโทรทัศน์แจ้งว่ามีการเห็นเดือนในสะอูดี
หากรุซเซียบ้าจั้ไปตามเดือนที่อ้างเขาจะไม่ครบเดือนในรุซเซียทันที  ฉะนั้นจะมีปัญหา 29 วันบ้อยมากครับ และเมื่อเห็นตอนตะนทร์ดับ
ก็จะเป็น 28 วันขึ้นมาอีกครับ

ดูข้อเขียนเก่าของผมเมื่อ มค.49 เพื่อทำให้เราที่ตามเดือนในเมืองไทยเท่านั้นจะปลอดภัย....

ศอหาบะฮฺที่มีชื่อเสียงได้แก้มาแล้วเป็นตัวอย่างให้เราโดยไม่รับเมืองที่อยู่ไกลกันมากๆ
จากหนังสือหะดีษเศาะฮี้ย์มุสลิม บทที่ 13 ว่าด้วยการถือศีลอด
จากท่าน(กุเรบ)กุรอยบ.เล่าว่า อุมมุฟัฎล์บุตรสาวของอัลหาริษได้ส่งเขาไปหามุอาวิยะฮ.ที่เมืองชามซีเรีย
 เขาเล่าว่า เมื่อฉันถึงประเทศชามแล้วได้ปฏิบัตภารกิจของนางเสร็จสิ้นแล้ว
ก็พอดีเกิดจันทร์เสี้ยวเข้าเดือนเราะมะฎอนกับฉัน
ขณะนั้นฉันยังอยู่ในประเทศชาม โดยที่ฉันเห็นจันทร์เสี้ยวในคืนวันศุกร์
ครั้นเมื่อฉันเดินทางกลับมาถึงมะดีนะฮ.
ในช่วงสุดท้ายของเดินเราะมะฎอน อับดุลลอฮ.อิบนุอับบาส ได้ถามฉัน
(ในเรื่องต่างๆ)และเขาก็ได้พูดถึงเรื่อง
จันทร์เสี้ยว โดยท่านถามว่า พวกท่าน(ที่ชาม)เห็นจันทร์เสี้ยว(
เข้าเราะมะฎอน )เมื่อไร ฉันตอบว่าพวกเรา
(และชาวเมืองชาม)เห็นมัน(จันทร์เสี้ยว) ในคืนวันศุกร์ อับดุลลอฮ.
จึงกล่าวว่าท่านเห็นจันทร์เสี้ยว(ด้วยตัวของ
ท่านเอง)จริงหรือ ฉันตอบว่าใช่แล้ว และผู้อื่น(ชาวเมืองชาม)ก็เห็น
พวกเขา(ชาวชาม)ก็ถือศีลอดกันตั้งแต่วัน(ศุกร์)
นั้นรวมทั้งมุอาวิยะฮ.ด้วย อับดุลลอฮ.จึงกล่าวว่า แต่พวกเรา(ในเมืองมะดีนะฮฺ)
เห็นมันในคืนวันเสาร์ ดังนั้นพวกเราจึงยังคงถือศีลอดจนกว่า
จะครบสามสิบวัน(ที่มะดีนะฮ.)หรือจนกว่าพวกเราจะเห็นมัน(จันทร์เสี้ยวเดือนเชาวาล
ขึ้นมาเพื่อครบเพียง29วัน) ฉันจึงถามว่าก็ยังไม่พออีกหรือกับด้วยการเห็น
ของมุอาวียะฮ. และการถือศีลอดของเขา(เพื่อให้ชาวมะดีนะฮ.นับตาม) อับดุลลอฮ.กล่าวว่า
ไม่หรอกวิธีนี้แหละที่ท่านรสูลฯ สั่งใช้พวกเราให้ถือปฏิบัติตาม(แต่ละท้องถิ่น).

(ในสุบุสสลาม มีรายงานว่าท่านอิบน อับบาส สั่งให้ท่านกุเรบถือศีลอด เพิ่มเป็น 31 วัน คือ 1วันของวันศุกร์ในชาม+30วันตามเดือน
ของมะดีนะฮฺเพราะปลายเราะมะฎอนท่านกุเรบอยู่ในมะดีนะฮฺ )
และผมยังไม่พบหะดีษเลยว่า ท่านนบีถือศีลอดในมะดีนะฮฺแล้วท่านได้สั่งให้ชาวมักกะฮฺออกอีดตามท่านที่มะดีนะฮฺ
หรือใด้มีรายงานว่าเคาะลีฟะฮฺผู้นำเราทั้งสี่ท่านใด้สั่งให้มักกะฮฺ หรือหัวเมืองต่างๆเข้าออกเดือนเราะมะฎอนตาม
การเห็นของเมืองมะดีนะฮฺ

ปีที่แล้ว ก็เข้าซุลหิจญะฮฺผิดวันกันแล้ว ทำไมจะลำบากอันใดหรือที่จะดูเดือนในเมืองไทยกันไม่ได้ ท่านไม่เคยเห็นจันทร์เสี้ยวในประเทศไทยกันเลยหรืออย่างไร ตามสุนนะฮฺง่ายไม่ต้องใช้เครื่องมือดาราศาสตรไม่ต้องใช้วิทยุโทรทัศน์ ไม่ต้องใช้ โทรศัพท์ ทำตามศอหาบะฮฺ ตาบิอฺตาบีอีน ที่ ประเทศใครประเทศมันที่หัวเมืองห่างกัน ทำไมไม่ตามเขา ที่เรายกย่องว่า บรรพบุรุษท่านเหล่านั้นของเราเป็นกลุ่มชนที่ดีเลิศ
เราะห์มัตเอกภาพจะได้มีแน่นอน

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 03:54 PM »
0
เดือนในแบบจันทรคติ
มีการใช้ดวงจันรท์ในการกำหนดเดือน 2 รูปแบบ

1. synodic period (ไซโนดิค พีเรียด)   การโคจรครบ 1 รอบเมื่อเทียบกับดาวฤกษ์บนท้องฟ้า
2. sidereal period (ไซดิเรียล พีเรียด)   การโคจรครบ 1 รอบเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์

การโคจรของดวงจันทร์นั้น เมื่อนับจากการเทียบด้วยดาวฤกษ์แล้ว จะได้เฉลี่ยใน 1 ปี มีเดือนละ 27.5 วัน
แต่หากเรานับการโคจรของดวงจัทนร์กับดวงอาทิตย์ ( จากโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ )
จึงทำให้การเทียบดวงจัทนร์กับดวงอาทิตย์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงเพราะโลกไม่ได้โคจรรอบดาวฤกษ์ใดๆ หากแต่เป็นดวงอาทิตย์
ดังนั้น การเทียบดวงจันทร์กับดวงอิาทตย์จึงกินเวลาเพิ่มไปอีก ทำให้ใน 1 ปี มี เดือนเฉลี่ยเป็นเดือนละ 29.5 วัน



 New Moon  หรือ เดือนมืด  เป็นตำแหน่งที่ดวงจันทร์อยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ หรือดวงจันทร์อยู่หน้าดวงอาทิตย์นั่นเอง
 ในวันนี้ผู้สังเกตที่อยู่ด้านมืดหรือด้านกลางคืน และด้านกลางวันบนโลกจะมองไม่เห็นดวงจันทร์  เราจึงเรียกว่าคืนเดือนมืด หรือ จันทร์ดับ

 Full Moon   หรือ วันเพ็ญ (ไทย) ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ  เป็นตำแหน่งที่ดวงจันทร์อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ หรือเป็นตำแหน่ง
 ตรงข้ามกับ New Moon ซึ่งแสงจากดวงอาทิตย์จะตั้งฉากกับดวงจันทร์พอดี  ผู้สังเกตที่อยู่ด้านกลางวัน จะไม่เห็นดวง
 จันทร์บนท้องฟ้าเลย ในขณะผู้ที่อยู่ด้านมืดจะเห็นดวงจันทร์นานที่สุดคือเริ่มจับขอบฟ้าตั้งแต่เวลาประมาณ มักริบ และตกเมื่อ
 หมดเวลาซุปฮฺ  โดยที่เวลาเที่ยงคืนดวงจันทร์จะอยู่กลางศีรษะพอดี



ข้างขึ้น (Waxing)   เป็นช่วงที่เกิดขึ้นระหว่างคืนเดือนมืดจนถึงคืนวันเพ็ญ โดยใช้ด้านสว่างของดวงจันทร์เป็นตัวกำหนด
ข้างแรม (Waning)   เป็นช่วงที่เกิดขึ้นระหว่างคืนวันเพ็ญจนถึงคืนเดือนมืดอีกครั้ง โดยใช้ด้านมืดของดวงจันทร์เป็นตัวกำหนด

การนับเดือนในแบบดาราศาส์ตรอิสลาม นั้น
อย่างที่เคยกล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่า การนับเดือนขาด หรือ หรือเดือนเต็ม นั้น แตกต่างกับ จันทรคติ แบบไทยอยู่บ้าง
ระบบปฏิทินของหิจญเราะห์ศักราช เป็นระบบปฏิทินจันทรคติ นั่นคือ
จะใช้ดวงจันทร์เป็นเกณฑ์ในการคำนวณ ดังนั้นในหนึ่งปีจันทรคติจึงมี 354 วันหากเป็นปีธิกสุรทินและ 355 วันหากเป็นปีอธิกสุรทิน
ในรอบ 30 ปีจะมีธิกสุรทิน 19 ครั้ง และอธิกสุรชิน 11 ครั้ง

* ปีอธิกสุรทิน หมายถึง ปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน ซึ่ง 4 ปีจะมีปีอธิกสุรทิน 1 ครั้ง หรือคือปีที่มีเดือนขาด

ในระบบจันทรคติแบบไทยนั้น เราจะแบ่งออกได้ 3 ลักษณะ คือ
(มาส หมายถึงเดือน   วาร หมายถึงวัน) นั้นคือ ปกติทั้งเดือนและวัน กับ ไม่ปกติเดือน กับ ไม่ปกติวัน
1. ปีปกติมาส ปกติวาร  ปกติทั้งเดือนและวัน
2. ปีปกติมาส อธิกวาร  มีวันเพิ่ม
3. ปีอธิกมาส ปกติวาร  มีเดือนเพิ่ม

ในระบบจันทรคติแบบอิสลาม นั้นเราจะแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ คือ
1. ปีธิกสุรทิน
2. ปีอธิกสุรทิน

* ดวงจันทร์โคจรรอบจุดศูนย์กลางของมูลร่วม (Bary center) โดยใช้ดวงอาทิตย์เป็นหลักนั้น ใช้เวลา 29 วัน 12 ชม. 44 นาที 2.82 วินาที หรือ 354 วัน 8 ชม. 48 นาที 33.6 วินาทีในหนึ่งปี

ในแต่ละเดือนจะมี 29 วัน และ 30 วันสลับกันไป
และบางทีมี 30 วันซ้อนกัน 2 ครั้ง เนื่องจากปี 1 เดือนมี 29.5 วัน
แต่จะไม่มี 29 วัน ซ้อนกัน 2 เดือนเป็นอันขาด เพราะเนื่องจาก 1 เดือนมี 29.5 วันเช่นเดิม
ส่วนซุลหิจญะห์ของปีอธิกสุรทินนั้นจะกำหนดให้มี 30 วันเสมอ เพราะเวลาที่เกินมาจากเดือนอื่นๆ จากระบบ sidereal period

ในหนึ่งปีฮิจญเราะห์มี 12 เดือน คือ มุฮัรรอ็ม ศอฟัร รอบีอุลเอาวัล รอบีอุษษานี ญุมาดัลอูลา ญุมาดัษษานียะห์ ร่อญับ ชะอฺบาน รอมะฎอน เชาวาล ซุลกออิดะห์ ซุลฮิจญะห์

อ้างถึง
1. เดือนที่หนึ่ง 29 วัน 12 ชม. 44 นาที + เดือนที่สอง 29 วัน 12 ชม. 44 นาที = 59 วัน 1 ชม. 28 นาที หากกำหนดให้เดือนที่
    1 (มฺฮัรรอม) มี 30 วัน และเดือนที่ 2 มี (ศอฟัร) มี 29 วัน ก็ยังเหลือเศษอีก 1 ชม. 28 นาทีเศษนี้ ก็จะรวมเข้ากับเดือนที่ 3 และ
    4 เรื่อยไป จนกระทั่งเมื่อครบปี ก็จะมีเศษเหลือจาก 354 วัน = 8 ชม. 48 นาที ซึ่งไม่ถึงครึ่งวัน ปีแรกจึงเป็นปีธิกสรุทิน

2. และเมื่อเอาเศษที่เหลือจากปีแรก บวกกับเศษปีที่สอง (8 ชม. 48 นาที + 8 ชม. 48 นาที) ได้เท่ากับ 17 ชม. 36 นาที ซึ่ง
    มากกว่าครึ่งวัน ปีที่ 2 จึงกลายเป็นปีอธิกสุรทินโดยการปัดเศษนั้นขึ้นเป็น 1 วัน โดยการกำหนดให้ซุลฮิจญะหฺ มี 30 วันเศษ
    ของปีจะรวมต่อไป เมื่อถึงปีที่ 5 เศษ ของปีจะเป็น 18 ชม.ปีที่ 5 จึงเป็นปีอธิกสุรทินอีกเป็นเช่นนี้เรื่อยไปจนครบรอบ 30 ปี จึงเรียกว่า 1 รอบน้อย

3. เดือนจะมีการสลับระหว่าง 30 และ 29 วัน โดยการยึดถือเศษของแต่ละเดือน ถ้าหากว่าเดือนใดมีเศษมากกว่าครึ่งวันก็จะปัด
    ขึ้นเป็น 1 วัน ยกตัวอย่างเช่น พอสิ้น เดือนญุมาดัลอูลา ของปีที่ 2 มีเศษเหลือ 44 นาที เมื่อบวกกับเดือนต่อมา 29 วัน 12 ชม.
    44 นาที จึงมีค่า = 29 วัน 13 ชม. 28 นาที จึงบัดนี้ขึ้นเป็น 30 วัน เดือนถัดจากนั้นก็เป็น 29 วันและ 30 วันสลับกันไปอีก จน
    กว่าจะมีเศษที่ที่ปัดขึ้นเป็น 1 วันเต็มอีก

4. เดือนที่ 17 ถัดจากเดือนเริ่มต้นปฏิทินจะมี 30 วัน แล้วนับต่อไปอีก 17 เดือน ถึงเดือนใด เดือนนั้นจะมี 30 วัน แล้วนับต่อ
    ไปอีก 15 เดือนถึงเดือนใด เดือนนั้นจะมี 30 วันอีกเช่นกัน ทำเช่นนี้เรื่อยไปจนครบ 30 ปี (นับ 17 สองครั้งสลับด้วยนับ 5
    หนึ่งครั้ง) เมื่อเดือนใดมี 30 วัน ซ้อนกัน 2 เดือน ๆ ถัดมาต้องเป็น 29 วัน

5. 1 ปี จันทรคติมี 354 วัน 8 ชม. 48 นาที ในรอบ 30 ปี จึงมี 10631 วัน ด้วยเหตุนี้จึงถึงว่าเป็น 1 รอบ (น้อย) เพราะเศษ
    ของวันลงตัวพอดี (มีเศษเป็นวินาที ซึ่งไม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากนัก)

6. เนื่องจากทุก ๆ 1 รอบน้อย เริ่มต้นด้วยชื่อวันต่าง ๆ การที่จะให้เริ่มต้นครบด้วยชื่อวัน 7 วัน ย่อมต้องใช้เวลา 7 รอบน้อย
    (210 ปี) ซึ่งก็จะกลายเป็น 1 รอบใหญ่ ในการเขียนปฏิทินจะกำหนดวันดังนี้

    - รอบน้อยที่ 1 เริ่มด้วยวันพฤหัส
    - รอบน้อยที่ 2 เริ่มด้วยวันอังคาร
    - รอบน้อยที่ 3 เริ่มด้วยวันอาทิตย์
    - รอบน้อยที่ 4 เริ่มด้วยวันศุกร์
    - รอบน้อยที่ 5 เริ่มด้วยวันพุธ
    - รอบน้อยที่ 6 เริ่มด้วยวันจันทร์
    - รอบน้อยที่ 7 เริ่มด้วยวันเสาร์

    เพื่อสะดวกในการจำ  ทุก ๆ รอบจะเริ่มต้นด้วยวันที่ห้าหลังจากวันแรกของรอบที่แล้ว เช่น รอบน้อยที่ 3 เริ่มด้วยวันอาทิตย์
    ร้อยน้อยที่ 4 ก็ต้องเป็นวันศุกร์ด้วยการนับเพิ่ม 5 วัน

7. ทุก ๆ ปีจะเริ่มต้นด้วยวันที่สี่ของปีที่แล้ว ถ้าหากว่าปีที่แล้วเป็นปีปกติและจะเริ่มต้นด้วยวันทีห้าของปีที่แล้ว หากปีที่แล้วเป็นปี
     อธิกสุรทินตัวอย่างเช่น ปีที่ 7 ก็ต้องเริ่มด้วยวันอังคารด้วยการนับเพิ่ม 4 วันและเมื่อทราบว่าปีที่ 7 เป็นอธิกสุรทิน ปีที่ 8 ก็ต้อง
     เริ่มด้วยวันอาทิตย์ ด้วยการนับเพิ่ม 5 วันเป็นต้น

รูปจากผมเอง (อีกแล้ว) ประกอบความเข้าใจ ตามคำขอ
http://www.up69.net/0/?defca8a022b07a3057b88f302a45db22
http://www.up69.net/0/?cd0715ea7e8502d537f851e1d3bc3334

ต้อง download เอานะครับ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน รูปไม่ขึ้นให้...




ขอบคุณรูปจาก 2 รูปบนจาก www.darasart.com

จากที่ผมได้นำบทความจากสยามิคดอทคอม มานะครับ (ที่แปะไว้ด้านบน)
(เวปไซต์นี้ ผมคิดว่าเป็นชีอะนะครับ เราแค่นำบางส่วนมาเท่านั้น ไม่แนะนำให้เข้าไปหาความรู้เรื่องอะกีดะครับ)
จึงได้ขอสงวน URL ไว้นะครับ แต่พร้อมข้อมูลเหล่านี้นั้นล้วนเป็นจริงนะครับ
ผมจึงมีความเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องพิมใหม่นะครับ (ซุบฮานัลลอฮฺ)
ขอให้ทราบไว้โดยทั่วกัน



ปล. 1  หากคิดว่าไม่จำเป็นโปรดแจ้ง ผมจะได้ทำการเขียนขึ้นมาใหม่นะครับ

ปล. 2   เดือนในแต่ละเดือน จากการคำนวณนั้น แม้เราจะกล่าวได้ว่าไม่มี 29 วัน 2 เดือนติดกัน แต่การมองเห็นนั้นสามารถกระทำได้อันเนื่องมากจากการมองด้วยตาเปล่าหาใช้การคำนวณไม่ ดังนั้นหากการคำนวณ ที่เกิดขึ้นนั้น เป็น 29 วันติดกันนั้นถือว่าเราต้องดูเดือนกันอีกครั้งเพื่อความถูกต้อง


วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 15, 2007, 05:15 PM โดย Goddut »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 04:33 PM »
0
การดูเดือนประเทศใครประเทศมันนั้น  มันมีฮิกมะฮ์  จริง ๆ  หากเรามีความเข้าใจอย่างแท้จริง ตามที่หะดิษกุเรบได้ระบุเอาไว้

และการรวบรวมบนความต่าง ๆ ที่คุณ muhib และคุณGoddut เคยนำเสนอนั้น  เป็นสิ่งที่ดีและถือว่าเป็นการรวบรวมข้อมูลเชิงวิชาการเพื่อให้เราได้ศึกษากัน

ตอนที่ผมเรียนดาราศาสตร์  อาจารย์เขาบอกว่า  ความจริง วันหนึ่งนั้น (บางครั้ง)ไม่ถึง 24 ชั่วโมง พอดี  แต่ตอนนี้ผมจำไม่ค่อยได้แล้วว่า  มีเวลาเท่าไหร่  จดเอาไว้ แต่เพื่อนยืมตำราไป  ไงบัง คุณmuhib ช่วยชี้แจงให้เรา ๆ ได้ทราบกันด้วยครับ
 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 05:06 PM »
0
การดูเดือนประเทศใครประเทศมันนั้น  มันมีฮิกมะฮ์  จริง ๆ  หากเรามีความเข้าใจอย่างแท้จริง ตามที่หะดิษกุเรบได้ระบุเอาไว้

และการรวบรวมบนความต่าง ๆ ที่คุณ muhib และคุณGoddut เคยนำเสนอนั้น  เป็นสิ่งที่ดีและถือว่าเป็นการรวบรวมข้อมูลเชิงวิชาการเพื่อให้เราได้ศึกษากัน

ตอนที่ผมเรียนดาราศาสตร์  อาจารย์เขาบอกว่า  ความจริง วันหนึ่งนั้น (บางครั้ง)ไม่ถึง 24 ชั่วโมง พอดี  แต่ตอนนี้ผมจำไม่ค่อยได้แล้วว่า  มีเวลาเท่าไหร่  จดเอาไว้ แต่เพื่อนยืมตำราไป  ไงบัง คุณmuhib ช่วยชี้แจงให้เรา ๆ ได้ทราบกันด้วยครับ
 

โลกหมุนรอบตัวเอง 24 ช.ม. จริงหรือไม่ เราต้องรู้เช่นนี้ก่อน
1. โลก มีอัตราความเร็วในการหมุนรอบตัวเองไม่คงที่
2. โลกจะหมุนรอบตัวเอง คิดเป็น 360 องศา
3. โลกจะหมุนรอบตัวเองคิดเป็นเวลาเวลา 23.56.4.09 ชั่วโมง ตามแบบดาราคติ
4. เนื่องจาก เราอ้างอิงดวงอาทิตย์ มาใช้ในการคิดคำนวณ ช.ม. วัน ดังนั้นระยะของดวงอาทิตย์กับโลกจะต้องสัมพันธ์กัน
5. วันใดที่โลกใกล้ดวงอาทติย์ โลกจะหมุนรอบตัวเองในเวลา 23.42.30 ชั่วโมง
6. วันใดที่โลกห่างดวงอาทติย์  โลกจะหมุนรอบตัวเองในเวลา 24.13.28 ชั่วโมง

ดังนั้น เมื่อโลกมีทั้ง ใกล้ และไกล จากดวงอาทิตย์ เราจึง เฉลี่ยเป็น 1 วัน เท่ากับ 24 ช.ม. เพื่อให้ง่ายแก่การนับวันต่างๆ ครับ

http://www.up69.net/0/?f588eaa5602537824a39c880ef585612
download อีกแล้วอะครับ ไม่ทราบว่าทำไมไม่ขึ้นภาพเหมือนกัน ไว้จะแก้ให้อีกครั้งครับ ขอมะอัฟ มากๆ

จากรูป เราจะอธิบายรูป ก. ได้คือ
โลกกำลังเคลื่อนที่ออกห่างจากดวงอาทิตย์
หาก ณ เวลานั้น เป็น เวลา ใกล้สว่าง แล้วละก็
นั้นหมายถึง แสงจากดวงอาทิตย์ ก็จะมาถึงช้ากว่าเดิม
ซึ่งในกรณีนี้ จึงทำให้เกิด เวลาละหมาดซุปฮฺนั้นจะเข้าเวลาช้ากว่าเดิมด้วย



วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 11, 2007, 06:22 AM โดย Goddut »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 05:26 PM »
0
คุณ muhib และคุณGoddut ครับ  ตอนที่ผมเรียนดาราศาสตร์  อาจารย์ จะให้ทำการคำนวน โดยยึดเส้นลองติจูต 100 องศา  ซึ่งเส้นลากตรงกับแผนที่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย พอดี  ผมอยากถามรายละเอียดเพิ่มเติมแค่พี่น้องผู้อ่านน่ะครับว่า  เพราะเหตุใดเราจึงยึด  เส้นลองติจูต 100 องศา มาตั้งคำนวนการทราบถึงระยะเวลาเดือนค้างและเดือนตก 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 05:31 PM »
0
"เข้าและออกรอมะฏอนพร้อมเพรียงกัน"

อธิบายเช่นนี้ครับ

คำว่าพร้อมเพรียง นั้น มิได้หมายความว่า ณ ตอนนั้น
หากเอาคำพูด ความคิดเห็นของเขามาเอง ก็เสมือนเป็น เชือกรัดตัวเองให้ตายเท่านั้นเอง

เพราะ เขาเหล่านั้น มักอ้างว่า  การเห็นเดือน แล้วนับวันตามแบบพร้อมเพรียงนั้น คือ นับวันตาม มิใช่นับเดี๋ยวนั้น
กล่าวคือ เมื่อ ซาอุเห็นเดือน วันที่ 20 เป็นวันที่ 1 เราซึ่งไม่เห็น ก็จะเข้าเดือนวันที่ 20 ด้วย และเป็นวันที่ 1
เนื่องจากว่า แม้ซาอุจะไม่ได้เข้าวัน(ในกรณีอีด) แต่ก็ให้ถือว่าเราเข้าอีดวันเดียวกับเขาด้วยวันที่ 30 นั้น

คำกล่าวข้างต้นชี้ให้เห็นว่า มิใช่การตาม ตามวันที่พวกเขาเหล่านั้นยกอ้างอิงมาเลย
เพราะเราไม่เห็นเดือน เราจึงให้วันที่ 20 เป็นวันที่ 30 ของเดือนเก่าไป โดยวันที่ 30 จะกลายเป็นวันที่ 1 ซุลฮิจยะ
ซาอุเห็นเดือนวันที่ 29 จึงประกาศออกเป็นวันที่ 1 เราก็ยังเป็นวันที่ 30 อยู่

ดังนั้นคำว่า ตามวัน แต่มิใช่ ตามเดี๋ยวนั้น จึงหมายถึงตามเมื่อเราเข้าวันเดียวกับเขา
ซึ่งทำให้ การตามเดือนกันนั้น ไม่ได้เป็นการพร้อมเพรียงดังที่ได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด

อนึ่งการตามเขา เมื่อเขาเห็นเดือนนั้น แม้จะเป็นในเวลา ห่างกันเท่าใดก็ตาม โดยที่ไม่รู้เรื่องดาราศาสตตร์นั้น เป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลอย่างมาก

เพราะ หากเราเป็นประเทศที่เวลาห่างจาก ซาอุ มากแล้ว เมื่อเวลาที่ห่างถึง 9-12 ช.ม.
ก็จะทำให้ ประเทศนั้นๆ มีวันที่ 30 9-12 ชม. และวันที่ 1 อีก 12-15 ชม.

สรุป คำว่าพร้อมเพรียง คือ มิใช่ ณเดี๋ยวนั้น แต่คำว่าพร้อมเพรียงคือวันนั้นๆ อย่างที่เขาได้ยกตัวอย่างมา
แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่เขาไม่รู้กันว่า วันนั้นๆ คือวันไหน ..  พวกเขายังคงคิดเอาเองว่า วันเดียวกันที่ว่านั้น คือวันแบบสากล คือวันที่ 20 นั่นเอง



ปล. อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เดือน 29 วัน จะไม่มีทางติดกันได้ โปรดกลับไปค้นปฏิทินดูสิครับว่า ปฏิทิน อิสลามของพี่น้องเราเป็นเช่นไร

วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 11, 2007, 06:23 AM โดย Goddut »

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 05:54 PM »
0
คุณ muhib และคุณGoddut ครับ  ตอนที่ผมเรียนดาราศาสตร์  อาจารย์ จะให้ทำการคำนวน โดยยึดเส้นลองติจูต 100 องศา  ซึ่งเส้นลากตรงกับแผนที่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย พอดี  ผมอยากถามรายละเอียดเพิ่มเติมแค่พี่น้องผู้อ่านน่ะครับว่า  เพราะเหตุใดเราจึงยึด  เส้นลองติจูต 100 องศา มาตั้งคำนวนการทราบถึงระยะเวลาเดือนค้างและเดือนตก 

ครับก่อนอื่น ต้องเรียนอย่างนี้นะครับ

การคำนวณนั้น ประกอบด้วย  เส้น 2 เส้น คือ ละติจูด กับ ลองจิจูด (Latitude - Longitude)
ลองติจูด อันนี้ คุณ Al-azhary คงจำผิดพลาดครับ ( แต่ผมเข้าใจว่า ลองจิจูด ละกัน)

คืออย่างนี้นะครับ
ละติจูด นั้นเราเรียกกันว่า เส้นรุ้ง คือ พิกัดที่ใช้บอกตำแหน่งบนพื้นโลกโดยวัดจากเส้นศูนย์สูตร
ส่วน
ลองจิจูด นั้นเราเรียกกันว่า เส้นแวง พิกัดที่ใช้บอกตำแหน่งบนพื้นโลก โดยวัดไปทางตะวันออกหรือตะวันตกจากเส้นสมมติในแนวเหนือใต้ที่เรียกว่า เส้นไพร์มเมอริเดียน

ดังนั้น
ลองจิจูด จะต่างจาก ละติจูด ตรงที่
ละติจูดมีเส้นศูนย์สูตรเป็นเส้นอ้างอิงตามธรรมชาติ เท่านั้น
ส่วน
ลองจิจูดจึงต้องกำหนดเส้นสมมติขึ้นมาหนึ่งเส้นสำหรับอ้างอิง

ปล.  เส้นอ้างอิง จะใช้ตรงที่ใดก็ได้ครับ โดย มีกำหนดตั้งแต่ +180 องศา ถึง -180 องศา ส่วนสถานที่ก็ตามแต่องศาที่กำหนดครับ



วัลลออฺอะลัม
วัสลาม...

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
การดูเดือน...ด้วยดาราศาสตร์อิสลาม
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ม.ค. 04, 2007, 06:09 PM »
0
มะอัฟด้วยครับ ที่จำผิดพลาดและวกวน  ;D

หากมีภาพประกอบด้วย  จะดีมาก ๆ เลยครับ  ท่านผู้อ่านจะเห็นกัน  หากไม่เป็นการลำบากครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged