ผู้เขียน หัวข้อ: الكلام الفصيح (ประโยคที่ชัดเจน)  (อ่าน 1021 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ปากกาไร้หมึก

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 3
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
الكلام الفصيح (ประโยคที่ชัดเจน)
« เมื่อ: ก.ค. 17, 2014, 11:07 AM »
0

الكلام الفصيح
ประโยคที่ชัดเจน

إِذَا  سَلِم الكلامُ من :  التنَافُر في ألفاظه ، و من الضَّعْف النحويِّ ، و من التعقيدِ في اللَّفظِ أو في المعنَى فهو : كلامٌ فصيحٌ .

   เมื่อประโยคที่ปราศจากการออกเสียงยากในคำต่างๆ และปราศจากความบกพร่องทางไวยากรณ์ศาสตร์  และปราศจากคำหรือความหมายที่มีเงื่อนงำ  ดังนั้นมันคือประโยคที่ชัดเจน

อธิบายได้ว่า : 

   ได้กล่าวผ่านพ้นมาแล้วเกี่ยวกับความชัดเจนในคำโดด(الفصاحة في الكلمة الواحدة)  และในส่วนของ “ประโยคที่ชัดเจน” (الكلام الفصيح)นั้นคือ  ประโยคที่ปราศจากบรรดาคำที่ออกเสียงยาก  และคำที่ออกเสียงยาก จะเกิดขึ้นจากความใกล้ของฐานเกิดเสียงของบรรดาอักษร   เพราะการเปล่งเสียงบรรดาอักษรที่มีฐานเกิดเสียงใกล้กันนั้น  เปรียบเสมือนการเดินของผู้ที่ถูกล่าม مَشْي المُقَيَّد (ผู้ที่ถูกล่ามขาเอาไว้ เมื่อเขาเดิน ย่างก้าวของเขาก็จะใกล้ๆกันและเขาก็จะสะดุดในการเดินของเขา)

   และส่วนหนึ่งจากตัวอย่างที่ถูกกล่าวขานกัน คือ คำกล่าวของนักกวีท่านหนึ่งว่า

و قَبْـــــــــرُ حـــــــربٍ بمكان قفــــــــــرُ         وَ لَيْــــــــس قُـــــرْبَ قَبْــــــــــرِ حــــــــربٍ قَبــــــــــــر

(จะเห็นได้ว่าในบทกวีข้างต้น มีการซ้ำอักษร กอฟ และ รออฺ ในบรรดาคำต่างๆ  และการซ้ำอย่างต่อเนื่องทำให้การเรียงคำของบทกลอนนั้นเกิดการตะกุกตะกัก )

   และเช่นเดียวกัน  “ประโยคที่ชัดเจน”  คือ  ประโยคที่ปราศจากข้อบกพร่อง(الضَّعْفُ)  เป้าหมายของคำว่า บกพร่องตรงนี้คือ ความบกพร่องทางด้านการเรียบเรียงประโยค  เนื่องจากความบกพร่องทางหลักไวยากรณ์ศาสตร์  เช่น
 

ضَرَبَ غلامَه زيدٌ

   ดังนั้นแท้ที่จริงแล้ว  หลักการเดิมของประโยค คือ การย้อนกลับของสรรพนามต้องย้อนไปหาคำที่อยู่ก่อนหน้า  ไม่ใช่ไปหาคำที่อยู่ด้านหลัง  ส่วนสรรพนาม (ه) ในคำว่า غلامه (ในประโยคดังกล่าว) ย้อนกลับไปหาคำว่า زيدٌ  ซึ่งมันตกอยู่หลังจากสรรพนาม  และมันเป็นทัศนะที่อ่อนในวิชาไวยากรณ์ (النحو)

   ท่านอิบนุ มาลิก(เจ้าของหนังสือ อัลฟียะฮ์ ฟิน นะฮฺว วัซซ็อรฟฺ) ได้กล่าวไว้ว่า


وَ شَـــاعَ نَــحْــــوُ خَـــــافَ رَبَّـــــهُ عُـمَـــــرْ          وَشَــــذَّ نَـــحْــــوُ زَانَ نَــــوْرَهُ الشَّــــجَـــــرْ

ความว่า
“และเป็นที่แพร่หลาย(ในภาษาอาหรับ) เช่น خَافَ رَبَّهُ عُمَرْ และผิดปกติไป(ออกนอกกฎ)
เช่น  زَانَ نَوْرَهُ الشَّجَرْ


   
และเช่นเดียวกัน  ประโยคที่ชัดเจน คือ ประโยคที่ปราศจากคำ หรือความหมายที่มีเงื่อนงำ

   ตัวอย่างของประเภทแรก (ประโยคซึ่งมีคำที่มีเงื่อนงำปะปนอยู่) : เป็นคำกล่าวของบรรดาผู้ที่ชอบพูดเป็นปริศนาในเรื่องมรดก

رجــــلٌ مـــات  و خــــلَّى رجــــلًا         ابــــنَ عــــمِّ ابــــنِ أخــــي عَــــمِّ أبيــــهِ

ความว่า  “ชายคนหนึ่งได้เสียชีวิต และเขาปล่อยให้ชายอีกคนโดดเดี่ยวเดียวดาย   (ชายคนนั้นคือ)ลูกของน้าของลูกของพี่น้องของน้าของพ่อของเขา”

   จุดประสงค์ของ (ابنَ عمِّ ابنِ أخي عَمِّ أبيهِ) ก็คือ ابنَ عمِّه  (ลูกของน้าของเขา)  แต่เขาแค่กล่าวให้ยืดยาว  และต้องการปล่อยให้มันเป็นปริศนา  ดังนั้นประโยคดังกล่าวจึงกลายเป็นประโยคที่มีเงื่อนงำ(คลุมเครือ) 

   ตัวอย่างของประเภทที่สอง (ซึ่งเป็นประโยคที่มีเงื่อนงำในด้านความหมาย) : คำกล่าวของ อัลอับบาซ บิน อัลอะฮฺนัฟ  : 

ســــأطلــــبُ بُـــعْـــدَ الـــدَّار عــنـــكُمْ لتَـــقــــربُـــوا     و تســــكُبُ عــينــــايَ الدمـــوع لتجـــــمدَا

ความว่า “ฉันปรารถนาที่จะให้บ้านได้ห่างไกลออกไปจากพวกท่านบ้าง  เพื่อพวกท่านจะได้มาเยี่ยมเยียนฉัน   ในขณะที่สองตาของฉันมันได้หลั่งน้ำตาออกมา เพื่อมันทั้งสองจะได้เหือดแห้ง”

   ดังนั้น  แท้ที่จริงแล้วเขาตั้งใจให้คำกล่าวของเขาที่ว่า
"و تسكُبُ عينايَ الدموع لتجمدَا"
แทนจากความปิติยินดี(الكناية عن السرور)  เพราะแท้ที่จริงแล้วการแห้งของดวงตา (جمود العين) คือ การไม่ร้องไห้    (عدم البكاء)  แต่มันทำให้ความหมายตรงนี้เสียไป  ซึ่งแท้จริงแล้วเขาได้อธิบายถึงสิ่งดังกล่าว (جمود العين)  หลังจากการอธิบายถึงการหลั่งของน้ำตา   ดังนั้น แท้ที่จริงแล้วเมื่อดวงตาได้หลั่งน้ำตาออกมาจนกระทั่งมันแห้ง  ดังนั้นการแห้ง มันก็ไม่ได้เกิดมาจากความสุข  แต่มันเกิดจากความตระหนี่กับน้ำตาของดวงตา และจากความแห้งของน้ำตา (หมายถึง ดวงตาไม่ยอมหลั่งน้ำตาออกมา)   และมิใช่ว่าความต้องการของเขาคือ(การที่น้ำตานั้นเหือดแห้ง)อันเนื่องมาจากความปิติยินดี  ดังที่นักกวีได้กล่าวไว้ว่า


ألا إنَّ عَــــينًـــا لم تَجُــــدْ يَــــوْمَ واســــطٍ      عَــليـــك مجـــاري دمــــعـها لَجَــــمودُ

ความว่า  “พึงทราบเถิดแท้จริงในวัน(แห่งสมรภูมิ) ณ “เมืองวาซิต” ดวงตาไม่ยอมเปิดธารแห่งน้ำตาของมันแก่เจ้า  แท้จริงแล้ว(น้ำตาของมัน)ได้เหือดแห้งไปเสียแล้ว”

   และดังที่ได้กล่าวมานี้ คือ “ประโยคที่ชัดเจน” (الكلام الفصيح)

   ส่วน “ผู้ที่พูดชัดเจน” (المتكلِّم الفصيح)  เขาคือผู้ที่สามารถนำมาซึ่งประโยคที่ชัดเจน

   ดังนั้น ในคำพูดของใครก็ตามที่มีเงื่อนงำ(ความคลุมเครือ)  , หรือ ความบกพร่องในการเรียบเรียง ,  อ่อนด้อยในการประพันธ์สำนวน ,  การกล่าวหรือเขียนผิดหลักไวยากรณ์ในประโยค , หรือมีการออกเสียงยากในคำพูด  ดังนั้นเขาก็จะไม่ใช่ผู้ที่พูดชัดเจนตามหลักพิจารณาของนักโวหารศาสตร์ (البَلَاغيين)


(ดูหนังสือ อัลบาลาฆอตุลมุยัซซาเราะฮฺ      หน้าที่ 13-15       เขียนโดย ดร.อับดุลอะซีซ บิน อะลี อัลฮัรบีย์     พิมพ์ครั้งที่ 2/2011  สำนักพิมพ์ ดาร อิบนิ ฮัซมฺ  เบรูต-เลบานอน)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 17, 2014, 11:18 AM โดย ปากกาไร้หมึก »

 

GoogleTagged