ผู้เขียน หัวข้อ: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์  (อ่าน 3058 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^



ความตาย...
จุดวัดความฉลาดของมนุษย์




 
'ความตาย' เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมิอาจหลีกหนีได้ เป็นสัจธรรมแม้แต่คนซึ่งยังไม่เคยตายก็เชื่ออย่างเด็ดขาดว่า ต้องเกิดกับตนเช่นกัน นี่เป็นสัจธรรมที่ยุติธรรมอย่างยิ่ง ไม่ว่าราชาหรือขอทานต่างก็ต้องพบกับความตาย

 
'ณ ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าปรากฏอยู่ ความตายก็ย่อมมาถึงพวกเจ้า และแม้ว่าพวกเจ้าจะอยู่ในป้อมปราการอันสูงตระหง่านก็ตาม' (อัล กุรอาน 4:78)

'เมื่อกำหนดวาระแห่งความตายของพวกเขาได้มาถึง พวกเขาไม่สามารถเลื่อนเวลาออกไปให้ช้า แม้เพียงสักชั่วโมงเดียว หรือรีบเร่งให้มาถึงก่อนก็ตาม' (อัล กุรอาน 10:49)

'ทุกชีวิตย่อมลิ้มรสความตาย' (อัล กุรอาน 21: 35)

 

            
แม้ 'ความตาย' จะเป็นสัจธรรมที่เด็ดขาดปานใดก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ไม่ชอบพูดถึงความตาย ความตายจึงไม่ใช่หัวข้อที่มนุษย์นำมาพูดคุยกัน ยิ่งกว่านั้นหากใครยกมาพูดคุยก็ถูกมองว่าทำในสิ่งที่เป็นอัปมงคล
        

 ถามว่า การไม่ยอมใคร่ครวญเรื่องความตายและชีวิตหลังความตาย มันจะช่วยให้เราไม่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ? แน่นอน ทุกคนจะต้องตอบคำถามนี้ว่า ไม่อย่างแน่นอน
        
ดังนั้นคงไม่มีใครคิดหยุดยั้งความตายด้วยการปิด'ป่าช้า'เป็นแน่

 
แต่แล้วคนจำนวนมากให้ความสนใจต่อความตายผิดประเด็นไป พวกเขาจำกัดความสนใจของตัวเองเพื่อให้ตายอย่างสบายหรือพยายามยืดเวลาการตายไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แนวโน้มเช่นนี้ปรากฏรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นธุรกิจสุขภาพที่ทำรายได้มหาศาล
        
ทำไมคนเราสนใจความตายในประเด็นแค่ตายให้สบาย ชนิดเหมือนสับสวิทช์  แต่ใครเล่าจะรู้ความจริงในแก่นแท้ของความตายว่า จริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่เรียกว่า 'ความตาย' จนถึง'ชีวิตหลังความตาย'
          
มนุษย์มีความรู้แค่ไหนกัน ถึงกับสามารถให้ความหมายต่อความตายเอาเองได้


        
ชายคนหนึ่งได้ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ว่า 'ผู้ศรัทธาคนใดฉลาดที่สุด? ' ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะ ซัลลัม ตอบว่า 'คนที่นึกถึงความตายมากที่สุด และเตรียมตัวอย่างดีที่สุดเพื่อชีวิตหลังความตาย พวกเหล่านี้แหละคือคนฉลาด'(อ้างจากเศาะฮีฮฺ  อิบนุ มาญะฮฺ 3435 โดยอัล อัลบานียฺ)
            

อุละมาอ์(ปราชญ์อิสลาม)บางท่านได้ชี้ให้เห็นถึงผลของการรำลึกถึงความตายว่า 'ใครก็ตามที่รำลึกถึงความตายบ่อยๆ จะได้ประโยชน์ 3 ประการ (1) เขาจะรีบเตาบะฮฺ(กลับเนื้อกลับตัวต่ออัลลอฮฺ) (2)หัวใจรู้สึกพอเพียง(ไม่ละโมภ) (3)ทำอิบาดะฮฺอย่างกระฉับกระเฉง ใครก็ตามที่หลงลืมความตาย เขาจะได้รับโทษ 3 ประการ (1) ล่าช้าในการเตาบะฮฺ (2)ไม่พึงพอใจและพอเพียงในสิ่งที่มีอยู่ (3)เกียจคร้านการทำอิบาดะฮฺ '  

สิ่งที่น่าเป็นห่วงในโลกยุคใหม่ก็คือ การมีชีวิตอยู่โดยห่างไกลจากความตาย สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมเพื่อทำให้ลืมความตาย ในบางแห่งเราได้พบว่า แม้ในการนำศพไปฝังก็เต็มไปด้วยบรรยากาศเฮฮา สนุกสนาน จริงอยู่อิสลามห้ามการรำพึงรำพัน แต่อิสลามก็ปฏิเสธบรรยากาศที่หลงลืมความตาย
        

 เมื่อความตายกลายเป็นสัจธรรมที่ผู้คนแกล้งพากันลืม ผู้คนก็อาศัยอยู่ในโลกนี้ด้วยการหลอกตัวเองไปวันๆหนึ่งว่า โลกนี้คือสถานที่ที่สามารถหาความสุขที่แท้จริงได้
        

แม้รู้ว่านี่เป็นความเท็จ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยินยอมที่จะอยู่ในโลกที่หลอกลวงเช่นนี้

การให้มวลชนมุสลิมสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความตาย จึงเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของสังคมที่อิสลามสร้างขึ้น เช่น การส่งเสริมให้เข้าร่วมการจัดการญะนาซะฮฺ(ศพ), การส่งเสริมให้เยี่ยมผู้ป่วยหรือคนเจ็บหนัก, หรือแม้กระทั่งการเยี่ยมกุบูร(สุสาน) เป็นต้น
        

อิสลามสร้างบรรยากาศเช่นนี้ด้วยการปฏิบัติจริง ก็เพราะต้องการขจัดภาพลวงตาของผู้คนส่วนใหญ่ที่แสร้งไม่รู้ความจริงในเรื่องความตาย เพื่อเรียกร้องให้มนุษย์กล้าเผชิญหน้ากับความจริงนี้ เพื่อมันจะได้เป็นเครื่องเตือนสติพวกเขา ดังที่ท่านฟุฎอยลฺ บิน อิยาฎ ผู้เป็นตะบีอีนที่มีชื่อเสียงกล่าวไว้ว่า 'ความตายเป็นผู้เตือนที่เพียงพอแล้ว'
          

หากความตายไม่อาจเป็นคำเตือนได้ โลกนี้จึงเต็มไปด้วยมนุษย์ที่โง่เขลา รู้จักแต่บำเรออารมณ์ปรารถนาของตนเองอย่างละโมบ ราวกับฝูงวัวควายที่ถูกต้อนไปยังโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งทั้งที่เพื่อนของพวกมันบางตัวเพิ่งจะถูกเชือดไปต่อหน้าต่อตา พวกมันกลับสาละวนอยู่กับการแย่งกันกินหญ้าข้างๆโรงฆ่าสัตว์ และบางตัวยังคงสมสู่กับตัวเมียอยู่นั่นเอง  
        

ช่างน่าสมเพชยิ่งนักสำหรับมนุษย์ที่ใช้ชีวิตไม่ต่างไปจากฝูงปศุสัตว์



อัล อัค ... เรียบเรียง

يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มี.ค. 18, 2008, 10:32 AM »
0
แม้ 'ความตาย' จะเป็นสัจธรรมที่เด็ดขาดปานใดก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ไม่ชอบพูดถึงความตาย ความตายจึงไม่ใช่หัวข้อที่มนุษย์นำมาพูดคุยกัน ยิ่งกว่านั้นหากใครยกมาพูดคุยก็ถูกมองว่าทำในสิ่งที่เป็นอัปมงคล

 salam

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง ความตายสัจธรรมที่ถูกลืม ใช่ป่ะ
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ ตอลิบุลอัสฮัร

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 22
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มี.ค. 18, 2008, 11:25 AM »
0
 การระลึกถึงความตายเท่านั้นที่จะทำให้เรามีจิตสำนึกในการทำอิบาดะมากขึ้น ...
อีหม่านของ คนหนึ่งคนใดจากพวกท่าน จะไม่สมบูรณ์
จนกระทั่งเขานั้นมีความรัก กับพี่น้องของเขา(มุสลีมีน-มุสลีมาต) สเมือนกับที่เขารักตัวของเขาเอง...

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ต.ค. 16, 2009, 10:28 AM »
0
จงรำลึกถึงความตาย

Forward mail from Khun Fareeda

โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อเราตื่นนอนขึ้นมา สิ่งแรกที่เราคิดคืออะไร
   - กี่โมงแล้ว จะละหมาดซุบฮิทันไม๊เนี่ย หรือ
   - ตายละหวา การบ้านยังไม่เสร็จเลย วันนี้ต้องส่งด้วยสิ หรือ
   - แอ๊ะ... วันนี้หมอนัดตรวจร่างกายนี่นา ต้องรีบไป หรือ
   - อ้อ วันนี้วันหยุดนี่นา นอนต่อได้อีกนาน หรือ
   - วันนี้มีนัดกับเพื่อนว่าจะออกไปซื้อของซักหน่อย หรือ
   - วันนี้ละหมาดแล้วซักผ้าต่อดีกว่า
 
 
แต่ เคยไหมที่จะคิดว่า เมื่อตื่นมาวันนี้ เอาหละ วันนี้เราต้องตายแน่นอน
หรือเอาหละ เวลานี้แน่ที่ฉันจะต้องตาย
หรือ วันนี้ฉันพร้อมแล้ว สำหรับความตาย
น้อยคนนักที่จะ หยุด และ คิด
 
เวลาที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วยังไม่ได้ละหมาดซุบฮิ แต่ขอนอนต่ออีกซัก 5 นาที
ใน 5 นาทีที่ขอดีเลย์ไป เคยคิดไหมว่า เราอาจจะตายตั้งแต่นาทีแรกที่หลับต่อ
 
เวลาที่เดินออกจากบ้านไปด้วยใจมุ่งหวังว่าจะทำอะไรซักอย่าง
เคยคิดไหมว่า เราจะตายก่อนที่จะไปถึงที่หมาย หรือก่อนที่จะได้ทำอะไร
 
ในวันแห่งความปลื้มปิติ ในเช้าแห่งความยินดี
เคยคิดไหมว่า เราอาจจะไม่ได้อยู่ชื่นชมมันถึงในยามเย็น
 
ในราตรีอันอบอุ่น ในอ้อมกอดของคนรัก
เคยคิดไหมว่า พรุ่งนี้เราอาจจะตื่นมาพร้อมกับร่างที่แข็งทื่อ
หรืออาจจะเป็นเราเองที่ไม่ตื่น
 
ไม่มีใครรับรองได้ว่า จะมีชีวิตอยู่ถึงปีหน้า เดือนหน้า สัปดาห์หน้า พรุ่งนี้ หรือแม้แต่อีกหนึ่งนาทีข้างหน้า
 
หนึ่งจากกุญแจแห่งความลับที่ไม่มีใครล่วงรู้ คือ สถานที่ที่ชีวิตนั้นจะตายและถูกฝัง
แม้แต่นักโทษประหารก็ไม่มีสิทธิ์รู้ว่าตัวเองจะตายวันไหน
เมื่อผู้คุมเดินถือกุญแจไขประตูเข้ามา ก็ยังไม่อาจรู้ว่าวันนี้ถึงวันตายของตัวเองหรือยัง
จนกระทั่งเมื่อเขาถูกเชิญตัวออกไป เมื่อความตายได้มาถึงคอหอยนั่นแหละ
จึงเพิ่งจะรู้ความลับ แห่งเวลาและสถานที่ที่เราตาย
 
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังคงอยู่อย่างมีความหวัง อย่างรื่นเริงในดุนยาต่อไปหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังคงขอประวิงเวลาละหมาดออกไปกระนั้นหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังขอว่าขอทำโน่น ทำนี่อีกซักหน่อยแล้วค่อยกลับตัวกระนั้นหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังรั้งรออะไรอีกหรือ

หรือว่า
จะรอจนบันทึกถูกเปิดตรงหน้า และ มะลาอิกะห์แห่งความตายได้มาถึงยังเรา
จึงเพิ่งจะได้ระลึกถึงความตาย...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 10:11 AM โดย oo JawhaR oo »
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 11:36 PM »
0
สิ่งที่ (คิด) ว่าไกลตัวแต่ใกล้ตัว





โหมดพึมพำ : มีบทความอยู่ก่อนตั้งเยอะแล้วนี่นา  เราไม่ทันอ่านเอง  (งานเข้าหล่ะทีนี้จะอ่านทันไหมน้อ?)

 myGreat:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: ความตาย...จุดวัดความฉลาดของมนุษย์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธ.ค. 10, 2009, 02:50 PM »
0
จงรำลึกถึงความตาย

Forward mail from Khun Fareeda
 
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังคงอยู่อย่างมีความหวัง อย่างรื่นเริงในดุนยาต่อไปหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังคงขอประวิงเวลาละหมาดออกไปกระนั้นหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังขอว่าขอทำโน่น ทำนี่อีกซักหน่อยแล้วค่อยกลับตัวกระนั้นหรือ
                 เมื่อไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่  จะยังรั้งรออะไรอีกหรือ



         wahai  adik  kakak  yang  dikasihi  sekalian

ingat  lagi  atau  lupa

เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

 

GoogleTagged