ผู้เขียน หัวข้อ: ------การค้ามนุษย์--------  (อ่าน 1129 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
------การค้ามนุษย์--------
« เมื่อ: ส.ค. 29, 2014, 04:10 PM »
0

อัสสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ

วันนี้ขอหยิบยกเรื่องปัญหาสังคมในระดบสากลขึ้นมาเขียน
เนื่องจากเมื่อวานได้พบปะพูดคุยกับพี่ที่กำลังทำวิทยานิพนธ์
เรื่อง การค้ามนุษย์ในระดับสากล ซึ่งไม่ได้วิจัยเฉพาะในประเทศไทย
แต่เดินทางไปสำรวจคนไทยที่แอบแฝงไปทำงานในต่างประเทศ
ด้วยอาชีพค้าประเวณี ได้พูดคุยในเชิงลึกกันว่าอะไรคือปัจจัย
ทำให้หญิงไทยเราทำอาชีพนี้ พี่เขาบอกว่าเมื่อได้สำรวจสถิติ
เกี่ยวกับอาชีพหลักๆของหญิงไทยโดยเฉลี่ยแล้ว ก็ทำเอาถึงกับช็อก
เพราะอาชีพค้าประเวณีโดยแอบแฝงไปกับอาชีพอื่นนั้น
แทบจะเป็นอาชีพหลักของหญิงไทย เกือบแทบทุกอาชีพ
จะมีการค้าประเวณีซุกซ่อน ซึ่งไม่ได้ถูกบังคับขู่เข็ญให้ทำเหมือนเมื่อ
สมัยก่อนแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้เขามีความเต็มใจที่จะทำมัน...
โดยเฉพาะอาชีพนวดเพื่อสุขภาพนั้น เป็นอาชีพหลักที่หญิงไทยเรา
จะใช้เป็นอาชีพที่จะแฝงตัวไปทำการค้าประเวณีทั้งในไทย
และในต่างแดน เราคนไทยอาจจะไม่รู้ว่า หญิงไทยเรานั้นมีชื่อเสียง
ด้านไหนมากที่สุดสำหรับชาวโลก...

ที่อยากจะกล่าวคือ...ด้านการค้าประเวณี พลีกายนี่แหล่ะค่ะ...
ดังที่สุดสำหรับชาวต่างชาติแล้ว...

เราที่ได้ฟัง อาจจะถึงกับไม่เชื่อก็ได้ แต่ให้เชื่อเถอะค่ะ
ว่านี่คือ ความจริง!...

ข้าน้อยที่เคยไปอยู่ในต่างแดน ก็เคยถูกมองด้วยสายตาดูถูกมาแล้ว
ต่อให้เราแต่งกายเรียบร้อยแค่ไหน ถ้าเขารู้ว่าเป็นหญิงไทย
เขาก็มองเราในแง่ลบไปแล้ว โดยที่เราเองไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่เลย....

เมื่อสอบถามและสำรวจลึกลงไป...พี่เขาบอกว่า...
ผู้หญิงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)นั้นมีอัตราการทำอาชีพนี้
สูงสุด รองลงมาคือภาคกลางตอนบน...และภาคเหนือ...
ส่วนภาคใต้นั้น น้อยนิดมาก ใน100 คนจะเจอแค่ 2 คน

ก็เลยมานั่งคิดกันต่อว่า...เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
เพราะวัฒนธรรมของพื้นที่ ของเพราะค่านิยมผิดๆที่ถูกปลูกฝังกันมา
เหตุใด หญิงไทยเรา จึงไม่รู้สึกละอายที่จะประกอบอาชีพแบบนี้
ซ้ำยังรู้สึกภูมิใจเสียด้วยซ้ำไปที่สามารถยกระดับฐานะขึ้นด้วยอาชีพนี้...

นี่จึงเป็นหนึ่งในภาพลักษณ์ที่ทำให้หญิงไทยเราเสื่อมเสียไปทั่วโลก...
จนถูกวิพากวิจารณ์กันในระดับสากล...

ข้าน้อยหนึ่งในหญิงไทย...จึงมิอาจนิ่งเฉยได้...
เคยตั้งข้อสงสัยมาตลอดว่า เหตุใดรัฐบาลกี่รัฐบาลจึงไม่อาจ
แก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้เสียที...ยิ่งนานวันปัญหาก็ยิ่งลุกลาม
ไปจนถึงขั้น "รับจ้างอุ้มบุญ"

ซึ่งหญิงไทยเราก็ติดอันดับต้นๆในเรื่องนี้อีกเช่นกัน...

อะไรทำให้หญิงไทยเราในหลายๆคนหันไปประกอบอาชีพเหล่านี้กัน
มากเหลือเกิน...

คำตอบ...มันคงหาได้ไม่ยาก
เพราะจากหนึ่งในนั้นเลยก็คือ...

ผู้หญิงเราจะรักสบาย งานอะไรที่ทำง่ายๆ สบายๆ ได้เงินหนัก
ก็จะรีบคว้าไว้

แต่สิ่งหนึ่งที่อัลลอฮฺให้กับผู้หญิงมามากกว่าผู้ชายอยู่หลายเท่าตัวเลย
ก็คือ ความอาย...

แต่เมื่อความอายถูกถอดออกไปจากหัวใจของผู้หญิง
เราก็จะพบว่าผู้หญิงนั้นจะกล้าทำในสิ่งน่าอายได้
ยิ่งกว่าผู้ชายอยู่หลายเท่าตัวเช่นกัน...

ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันนั้น...
หากจะบอกว่า มันเกิดมาจาก "ความอาย"ของเพศแม่ที่ลดลงฮวบๆแล้ว
ก็คงจะไม่ผิดนัก...

"ความมั่นใจ" กับ "ความละอาย" เป็นคุณสมบัติในด้านดีค่ะ...
หากมันได้อยู่คู่กันในคนๆเดียวกัน...

แต่เมื่อใดทีี่ความมั่นใจไม่ได้อยู่คู่กับความละอาย
เราก็จะสามารถเห็นผู้สาวมั่นที่เดินอวดโฉมโดยไม่แยแสต่อสายตา
ใดๆจะจับจ้องได้ไม่ยากเย็นเลย...


วันนี้ เวลานี้ ข้าน้อยจึงสามารถประกาศออกไปได้เต็มปากเต็มคำแล้วว่า

"อัลลอฮฺส่งอิสลามและอาภรณ์ของสตรีมาเพื่อปกป้องเกียรติของสตรี
มิใช่การริดรอนสิทธิแต่อย่างใด...เราอย่าหลงเชื่อค่านิยมผิดๆ
ที่คนบางกลุ่มกำลังยัดเยียดให้โดยเด็ดขาด มิเช่นนั้น ลูกหลาน
และประชาชาติอิสลามของเราจะตกอยู่ในความเสียหาย..."

และ

"ท่านรอซุลลุ้ลลอฮฺถูกส่งลงมาเพื่อเป็นความเมตตาแก่เราโดยแท้จริง"




"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: ------การค้ามนุษย์--------
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ส.ค. 29, 2014, 05:07 PM »
0
ต่อมา...

เรื่องการค้าประเวณียังถูกพบในสถาบันการศึกษา...
เด็กสาวที่เรียนอยู่ตั้งแต่ระดับมัธยมต้น (เพิ่งแตกเนื้อสาวมาหมาดๆเอง)
เริ่มมีอัตราการค้าประเวณีแล้ว
และที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้นเลยก็คือ มีแม่แท้ๆของตัวเองเป็นแม่สื่อ หาลูกค้าให้ลูกสาว
ให้ลูกสาวค้าประเวณี แล้วเอาเงินนั้นไปซื้ออุปกรณ์การเรียน ซื้อสิ่งฟุ้งเฟ้อ
หรืออีกนัยคือ ขายตัวเพื่อการศึกษา!

อันนี้คนเขียนกล้ายืนยัน เพราะเคยลงไปสำรวจในพื้นที่มาแล้วด้วยตัวเอง

และสังคมในสถาบันการศึกษาไทยก็เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก
เด็กๆจะวุ่นวายอยู่กับการอวดข้าวของเครื่องใช้ เช่น โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าที่ใส่ไปเที่ยว
ยี่ห้อรถที่ขับ เครื่องสำอางค์ เครื่องประดับ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นหาใช่ปัจจัยสำคัญ
ต่อการศึกษาหาความรู้แม้แต่นิดเดียว แต่ผู้ใหญ่หลายๆคนกลับยินยอมควักตังค์
เพื่อสนองความต้องการลูก เพื่อไม่ให้ลูกน้อยหน้าใครในสังคม
ให้เด็กหันมาแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นกันในด้านวัตถุ...
ซึ่งนี่ก็คืออีกหนทางนึงที่จะนำพาเด็กสาวที่ยังบริสุทธิ์
ไปสู่ประตูแห่งการค้าประเวณี เพราะคงไม่มีอะไรในตัวเด็กรุ่นนั้น
ที่จะให้ราคาสูงเท่ากับ "ความสาว"

เนื่องจาก "ความรู้ความสามารถ" ยังไม่อาจเพียงพอ
ที่จะเรียกราคาสูงๆได้ในขณะนั้น...

สิ่่งเดียวที่มีราคาแพงที่เด็กวัยนั้นจะสามารถใช้เป็นสะพาน
ไปสู่ความสะดวกสบายทางลัดโดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยมากนัก
ก็คงหนีไม่พ้น "การขายบริการ"

แล้วใครกันที่ผลักให้เด็กๆของเรา ตกลงไปในหุบเหวนรกนั่น...
ถ้าไม่ใช่ผู้ใหญ่หรือพ่อแม่และคนที่โตๆกันแล้วเป็นคนทำร้ายเด็ก...

เด็กยังไม่ทันรู้เดียงสา เราเป็นผู้ใหญ่จึงไม่ควรเลยที่จะยัดเยียดค่านิยมผิดๆ
หรือสิ่งที่จะมอมเมาเขา ทำให้เขาเขวไปจากการใส่ใจเรื่องการหาความรู้...

วันนี้ ผู้ใหญ่ได้เลือกเก็บเกี่ยวความเดียงสาของเขาไปก่อนวัยอันควร
เมื่อวันเวลาผ่านไป ต่อไปข้างหน้าเขาจะกลายเป็นอะไรในสังคม
เราลองตรองดู...แล้วเมื่อนั้น เราจะมองดูสังคมเสื่อมลงด้วยรอยยิ้ม
แห่งความภาคภูมิใจได้อีกหรือ...

โลกเรากำลังจะหวนกลับไปยังจุดเสื่อมอย่างในอดีตอีกครั้ง
หากเราไม่ช่วยกันประคับประคอง ลูกหลานของเราจะแบกโลกนี้ต่อไป
ด้วยความยากลำบากยิ่งกว่าเราอีกหลายเท่าตัวนัก...

สิ่งดีงามที่เรามี ความดีงามต่่างๆที่เราเคยได้เรียนรู้มา
จงถ่ายทอดให้ลูกหลานเราต่อไปเถิดค่ะ...

จงขยันให้ยิ่งกว่าที่เคยขยัน จงต่อต้านความชั่วร้ายให้มากกว่า
ที่เคยต่อต้าน จงหลีกห่างภัยคุกคามให้มากกว่าที่เคยเป็น...
แล้วจงตักเตือนลูกหลานของเราให้มั่นคงในศาสนา
อย่าเพิกเฉยต่อสิ่งที่ควรจะกระทำเพื่อให้สังคมดีงามขึ้น...

หากความรู้ไม่ได้คู่กับความดีงาม โลกนี้จะแห้งแล้งแค่ไหน...
ลองมาจินตนาการดูค่ะ...


เด็กก็ยังคงเป็นเด็ก...เพราะเขาคือเด็ก คือผ้าขาว
ผู้ใหญ่เราจะวาดอะไรลงไป มันก็จะเป็นอย่างนั้น

อย่าขยำเขาแล้วทิ้งเหมือนผ้าขี้ริ้ว...เขามีค่ามากกว่านั้น...
เพราะเขาคือทรัพยากรสำคัญที่จะช่วยเรารักษาโลกนี้ต่อไป
ในวันที่เรากลับคืนไปหาอัลลอฮฺ...

เมื่อก่อนเด็กๆสามารถสนุกสนานได้ด้วยการเล่นวิ่งไล่จับกัน
เล่นซ่อนหากัน เล่นขายของกัน ...เล่นงูกินหาง เล่นชักเย่อ
เล่นก่อปราสาททราย...เขาสามารถสนุกกันได้
โดยที่เราไม่ต้องจ่ายเงินค่าสนุกนี้ให้เขาแม้แต่บาทเดียว
แถมเขายังมีเพื่อนฝูงมากมาย...หัวเราะสนุกและยิ้มสดใสไม่คร่ำเครียด

แล้วทำไมเดี๋ยวนี้ เราถึงยอมจ่ายเงินมากมายเพื่อให้เขาได้เล่นได้สนุก
กับสิ่งที่จะเป็นตัวการมอมเมาเขา...
เราต้องเสียเงินมากมายด้วยการพาเขาไปเที่ยวในที่ๆเขาไม่คุ้นเคย
โดยไม่มีเพื่อนเล่นด้วยแม้แต่คนเดียว...
มันไม่ต่างจากการพาเด็กคนนึงไปโยนทิ้งไว้ แล้วให้เขาหาทาง
วิ่งเล่นเอาเอง...หาเพื่อนเอาเอง...

แล้วเขาจะมีสติปัญญาพอจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนน่าคบและไม่น่าคบ
เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาควรจะวิ่งไปทางไหนดี...

อย่าทิ้งเด็กเอาไว้ให้เดินข้างหลังท่านโดยไม่ใส่ใจ
เพราะเมื่อวันที่ท่านหันหลังกลับไป
ท่านอาจจะไม่พบว่าเขาเดินตามท่านมาอีกก็ได้...

จงจูงมือเขาไว้ แล้วให้เขาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก้าวไปสู่วันใหม่ๆ
ไปพร้อมๆกับท่าน...แล้วท่านจะพบว่า...มีบางอย่างเกิดขึ้นกับท่าน
สิ่งนั้นมองไม่เห็น แต่มีพลังพอที่จะทำให้เขายื่นมือขึ้นประคองท่าน
เมื่อวันที่ท่านหมดเรี่ยวแรงที่จะประคองตัวเอง...


...เด็กๆคือความหวังที่สวยงามเสมอ...ขอเพียงเราจะเอาใจใส่เขา
อย่าให้เขาต้องมาแบกรับความเจ็บปวดจากเรา...

กี่ครอบครัวแล้ว...ที่ดื่มกินความหอมหวานจากความรักจนหมด
ก่อนจะหย่าร้างแล้วแยกย้้ายกันไปคนละทิศละทางเพื่อสร้างรังใหม่
แล้วทิ้งความขมขื่นเอาไว้ให้เด็กดื่มกินแทน...

มันคือผลงานที่แสนห่วย...โดยคนที่ซวยก็คือลูกน้อย...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 29, 2014, 05:15 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)